“ท่าน...” นางส่ายหน้าไปมา นี่ไม่ใช่แม่ทัพกู้ตงหยางที่นางรู้จัก “ท่านถูกพิษบาดเจ็บสาหัสเป็นแน่ถึงได้พูดจาเหลวไหลวเช่นนี้ได้” “เอาล่ะๆ” ซูเม่ยโบกมือไปมา “ถ้าเจ้าหนุ่มนี้เป็นสามีเจ้า เขาก็เป็นพ่อเจ้าอ้วนน้อยสินะ ถ้าเป็นพ่อเจ้าอ้วนน้อย ข้าจะหาทางขับพิษให้ ข้าไม่อยากเห็นหลานข้าเป็นกำพร้า” “พ่อ? เจ้าอ้วนน้อย?” สองคำนี้ราวกับก้อนหินทุบศีรษะกู้ตงหยางอย่างแรง เขาจ้องหน้าภรรยาตัวเองเค้นหาคำตอบ “นี่เจ้าเป็นสามีนางจริงๆรึ! เมียท้องก็คงไม่รู้สินะ มิน่าเล่า รั่วเอ๋อร์ถึงไม่อยากกลับไปอยู่กับเจ้า!” กู้ตงหยางสูดลมหายใจสะกดอารมณ์พลุ่งพล่านในอก นางโกรธเกลียดเขามากถึงเพียงนี้ ถึงขนาดตั้งท้องคลอดลูกก็ยังไม่ยอมบอกเขา!ความทุกข์ระทมข่มขืนแล่นไปทั่วร่างเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าพิษเย็นในร่างกำเริบ นางเป็นเพียงสตรีตัวเล็กๆ ผู้หนึ่ง แต่สามารถทำให้เขาเจ็บปวดเจียดตายได้ ช่างเก่งกาจจนอยากสรรเสริญให้โลกรู้ว่าข้า-กู้ตงหยางฉายาแม่ทัพปีศาจได้พ่ายแพ้แก่สตรีที่มีนามว่าจ้าวจื่อรั่วแล้ว. หลังจากซูเม่ยช่วยสกัดพิษไม่ให้กำเริบ กู้ตงหยางจึงมีแรงขึ้น เขาผ
นางพยักหน้าบอกออกคำสั่งแม่ทัพใหญ่ผู้อยู่เหนือคนนับแสน กู้ตงหยางรีบสาวเท้าไปหยิบผ้าตามที่นางสั่ง แล้วยืนมองนางจัดการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกอย่างชำนาญ “ตอนที่น้องชายสองคนเกิดใหม่ๆ ข้าก็เคยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พวกเขาเช่นนี้ เวลานี้มีลูกเป็นคนตนเองจึงทำได้อย่างไม่ลำบากอันใด” นางพูดด้วยรอยยิ้ม แม้ไม่ได้หันมามองก็รู้ว่าสายตาของเขาตั้งคำถามอยู่ “มิน่าเล่า เจ้าถึงรักน้องชายทั้งสองมากนัก” “ท่านแม่ฝากฝังให้ข้าดูแลน้องชายให้ดี แต่สุดท้ายข้าก็ทำได้ไม่ดีนัก ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง” “พวกเขาสบายดี” กู้ตงหยางตอบไปตามจริง “น้องชายของเจ้ายังเพียรส่งจดหมายมาถามข่าวความคืบหน้า พวกเขายังหวังว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ รวมทั้งตัวข้าก็เช่นกัน” มือเรียวชะงักไปแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วหลุบตาลง “ที่ตามหาข้า...เพียงเพราะรู้สึกผิดต่อข้ากระมัง” กู้ตงหยางนิ่งงันไป นางพูดไม่ผิดแต่ก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด “เช่นนั้นท่านคงเข้าใจความคิดของข้าแล้ว ท่านไม่ต้องรู้สึกผิดหรือติดค้างต่อข้าอีก” นางอุ้มเจ้าอ้วนน้อยขึ้นแ
แม่ทัพใหญ่ทำหน้านิ่งแต่แววตาเต้นระริก คนผู้นั้นช่างกล้าเรียกตัวเองว่า ‘ท่านอา’ ทั้งที่ดูแล้วอายุก็ไล่เลี่ยกับเขา เหตุใดทำให้เขารู้สึก ‘แก่’ เช่นนี้ “ท่านแม่ทัพ เข้ามาข้างในสิ” จ้าวจื่อรั่วเรียกสามีที่หน้าทำหน้านิ่งอยู่ นางเพียงสอนเขาเล็กน้อยแม่ทัพใหญ่ก็สามารถซักผ้าได้อย่างชำนาญนัก หากผู้อื่นรู้ว่านางใช้งานแม่ทัพปีศาจหนักหนาถึงเพียงนี้ คงได้สาปแช่งนางเป็นแน่ กู้ตงหยางขมวดคิ้วสีหน้าไม่พอใจแต่ก็สาวเท้าเข้าไปใกล้แล้วก้มหน้าลงกระซิบที่ริมหู ลมหายใจอุ่นร้อนทำให้หญิงสาวหน้าแดงอย่างไม่รู้ตัว “เหตุใดเรียกข้าห่างเหินเช่นนี้” “แล้วข้าต้องเรียกท่านอย่างไร” นางขยับตัวถอยห่างเล็กน้อย “อยู่ที่จวนข้าก็เรียกท่านแม่ทัพมาตลอด” “ท่านพี่ สามี หรือชื่อข้าก็ได้” เขาทำหน้าหงุดหงิดอาศัยว่าตนกับภรรยาเดินตามหลังผู้อื่นจึงอ้าปากงับใบหูเล็กๆของนางเป็นการสั่งสอน “เจ้าเป็นภรรยาของข้านะ!” “ได้ๆ ข้ารู้แล้ว” นางหดคอแต่ไม่กล้าหันไปสบตาด้วย “ท่าน...ท่านพี่” แม้เรียกไม่ดังนัก แต่ช่วยบรรเทาความว้าวุ่นในใจของเขาได้ กู้ตงหย
“ไม่ใช่เช่นนั้น” ตงเจียวโจวลูบไหล่ภรรยาเพื่อปลอบโยน หากไม่นับเรื่องที่นางเรียกจ้าวจื่อรั่วว่า ‘ลูก’ ทุกคำ ท่าทางของนางเหมือนเป็นปกติดีทุกอย่าง รวมทั้งจดจำการรักษาได้อย่างดีเยี่ยมด้วย “แล้วอย่างไร!” “พิษเย็นขับด้วยการฝังเข็มและแช่น้ำสมุนไพรเพื่อปรับลมปราณให้โคจรเป็นปกติ แต่อาการของเจ้าหนุ่มนี้เป็นเรื้อรังมานานหลายปี ไม่ได้ขับพิษออกง่ายนักยังต้องใช้ปราณผู้อื่นขับพิษ” “ต้องใช้ปราณของผู้ใดกัน ผู้ฝึกยุทธ์รึ" ซูเม่ยถามพลางโคลงศีรษะไปมา “ไม่สิบุรุษต้องพิษเย็นใช้สตรีขับพิษเย็นให้...” แล้วสายตาทุกคู่ก็จ้องมองมาทางจ้าวจื่อรั่ว นางเพิ่งเรียนรู้การแพทย์และพิษได้ไม่ถึงหนึ่งปี แต่สิ่งที่ตงเจียวโจวและซูเม่ยพูดนั้นนางกลับเข้าใจดี มีเพียงผู้ถูกพิษที่ยังไม่เข้าใจความหมาย ได้แต่จ้องมองดวงตากลมสวยของภรรยาอย่างงุนงง. ‘ข้าไม่ต้องการให้เจ้าลำบากใจ’ เสียงกู้ตงหยางยังคงรบกวนจิตใจจ้าวจื่อรั่ว นางนั่งมองเขาอุ้มลูกเดินเล่นอยู่ที่ลานบ้าน หญิงสาวไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เห็นกู้ตงหยางอุ้มทารกเช่นกัน เขาชูเด็กชายตัวขาวอวบ
“ไม่ใช่เช่นนั้น” สีหน้าเขาร้อนใจยิ่งนัก “นั้นมันก่อนที่ข้าจะรู้ว่ามีลูกต่างหาก แต่ที่ข้าให้อ้ายเสิ่นตามหาหมอเทวดาตงเพื่อขับพิษนั้นก็เพราะข้ายังตามหาเจ้าไม่พบ ข้าจะตายก็คงตายตาไม่หลับ จึงอยากลองเสี่ยงยื้อชีวิตเพื่อได้พบเจ้า”“ทำไมท่านยังคิดว่าข้ามีชีวิตอยู่ หากหาข้าไม่พบท่านจะทำอย่างไร ทำไมท่านไม่แต่งงานใหม่ไปเสีย”“แล้วเหตุใดเจ้ามีคำถามมากมายถึงเพียงนี้” กู้ตงหยางหัวเราะออกมา เขาไม่ได้หัวเราะเช่นนี้มานานเพียงใดกันนะ อาจเพราะได้อยู่กับเจ้าอ้วนน้อยที่หัวเราะบ่อยทำให้เขาพลอยหัวเราะตามไปด้วย“ดีจริงที่ลูกเลี้ยงง่ายเช่นนั้น” เขาหันไปคุยกับลูกชายวัยหกเดือน “ข้าเป็นพี่คนโตแต่ไม่ได้เลี้ยงน้องๆ ตั้งแต่เจ็ดขวบก็ตามพวกผู้ชายเข้าป่าล่าสัตว์เล็กๆ แปดเก้าขวบก็ทำงานในสวนในไร่ ข้าไม่เคยรู้เลยว่าเลี้ยงเด็กคนหนึ่งลำบากมากเพียงใด แต่เจ้าเลี้ยงหลิงหยุนได้ดีจริงๆ”“เช่นนั้นท่านก็อยู่ช่วยข้าเลี้ยงหลิงหยุนสิ”“ได้” เขายิ้ม “ข้าซักผ้าอ้อมเป็นแล้ว อุ้มลูกก็เป็น ต่อไปให้ข้าเป็นม้าให้เขาขี่ก็ได้”จ้าวจื่อรั่วหลุดหัวเราะพรืดออกมา นางนึกภาพไม่ออกจริงๆว่าเขาจะคลานสี่ขาให้ลูกชายขี่หลังได้อย่างไรกัน“ก่อนที่ท่านจ
“ท่านแม่... ข้าขอบคุณท่าน ที่ผ่านมาหากไม่มีท่านพ่อกับท่านแม่ข้ากับลูกคงไม่มีวันนี้” “คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องดูแลลูกอยู่แล้ว” นางพูดด้วยรอยยิ้ม นอกจากมารดาที่ให้กำเนิดแล้ว จ้าวจื่อรั่วไม่เคยได้รับความรักจากใครเช่นนี้มาก่อน ขอบตาจึงร้อนผ่าวขึ้นมา นับว่าสวรรค์ยังเมตตาส่งนางมาพบคนทั้งสองทั้งช่วยชีวิตนางกับลูกและยังรักใคร่เอ็นดูนางอย่างแท้จริง ฉินหวังเหล่ยก้าวเข้ามาในห้อง เขามองจ้าวจื่อรั่วส่งลูกให้ซูเม่ยอุ้มแล้วจึงพูดขึ้น“ท่านอาจารย์ให้เจ้าเข้าไปในห้องได้แล้ว” “ข้าทราบแล้ว” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ “ขอบคุณพี่หวังเหล่ยที่ช่วยเหลือเจ้าค่ะ” “เจ้าคงไม่เปลี่ยนใจแล้วสินะ” ฉินหวังเหล่ยถอนหายใจ “หนึ่งปีผ่านมาในใจเจ้าก็ยังมีเขาอยู่เสมอมา” “ข้า...” “ช่างเถอะ” เขาโบกมือไปมาแล้วหัวเราะเสียงปร่า “เจ้าเป็นศิษย์น้องของข้า ชายผู้นั้นก็คงเรียกได้ว่าเป็นน้องเขย ข้านี่ช่างโชคดีเสียจริงที่มีน้องเขยเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งแดนใต้” ได้ยินฉินหวังเหล่ยพูดจาหยอกล้อเช่นนี้ นางก็พลอยสบายใจขึ้นมาบ้าง หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แล้วเ
อาจเพราะร่างกายที่ผ่านการฝังเข็มมายาวนานหกชั่วยามทำให้ร่างกายยังไร้เรี่ยวแรง กู้ตงหยางได้แต่มองภรรยาสาวบรรจงจุมพิตไปทั่วร่าง ลิ้นเปียกชื้นสัมผัสรอยแผลเป็นอย่างไม่รังเกียจหรือหวาดกลัว ท่อนล่างมีเพียงผ้าผืนยาวคลุมปกปิดไว้ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่นางทำเกี่ยวกับการถอนพิษอย่างไร แต่หวังใจให้นางสัมผัสเขามากกว่านั้นมือเรียวเล็กกอบกุมแก่นกายที่อยู่ใต้ผ้า มันแข็งขันท้าทายแต่ยังไม่พร้อมสู้แม้ขยับรูดไปมาก็ยังไม่ตั้งชัน จ้าวจื่อรั่วเม้มริมฝีปากกลั้นความกระดากอายแล้วเลื่อนผ้าผืนนั้นออก สิ่งนั้นจึงผงาดขึ้น แต่นางจำได้ว่ามันเคยแข็งแกร่งมากกว่านี้ หญิงสาวตัดสินใจโน้มใบหน้าลงแล้วอ้าปากครอบครองแก่นกายของสามี“อา....” กู้ตงหยางครางกระเส่า ไม่คิดว่าภรรยาตัวน้อยจะกล้าทำในสิ่งที่บุรุษปรารถนาเช่นนี้ เขาผงกศีรษะขึ้นมองนางค่อยๆดูดกลืนลำเอ็นไปจนหมดก่อนขยับศีรษะดูดดึงสร้างความเสียวซ่านจนเขาแทบคลั่งเสียงครวญครางที่ไม่อาจกลั้นได้ของเขายิ่งทำให้หญิงสาวลำพองใจ ซูเม่ยให้นางศึกษาตำรากามสูตร ยามเปิดดูก็เขินอายจนหน้าร้อนผ่าว แต่เมื่อลงมือทำจริงกับบุรุษที่เป็นสามีนาง ความเขินอายจึงลดลง มือเรียวลูบไล้ก้อนเนื้อกลมๆ พลา
“อะไรกัน เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าถอนพิษให้ข้าหมดแล้ว”“ท่านมีเรี่ยวแรงขนาดนี้ พิษคงถูกขับออกไปหมดสิ้นแล้ว” นางขึงตาใส่ทั้งที่แก้มเนียนแดงเรื่อ“เรายังมีเวลาถึงเช้า รั่วเอ๋อร์ ขับพิษอีกเถิดนะ” เขาอ้อนวอนแล้วขบเม้มติ่งหูนางเบาๆ“ข้าไม่ทำแล้ว! ท่านไปให้หญิงอื่นขับพิษให้เถอะ!”“ถ้าไม่ใช่เจ้า ข้าก็ไม่ทำเรื่องเช่นนี้กับหญิงใด” เขาเงยหน้าสบตานางพูดด้วยความจริงจัง “ชีวิตข้ากู้ตงหยาง ขอมีเพียงจ้าวจื่อรั่วเป็นภรรยาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”“ท่าน...”“ข้าสาบาน...”“ไม่ต้องสาบาน” นางรีบห้ามเขาไว้ “ข้าเชื่อใจท่าน”เขายิ้มดีใจแล้วจุมพิตหน้าผากภรรยาสาว “ทำไมเจ้าเชื่อใจข้า”“ซูเม่ยบอกว่า บุรุษไม่ได้ปลดปล่อยมานานครั้งแรกจะเสร็จเร็ว เมื่อครู่...ครั้งแรกของท่านก็เร็วนะ”“หือ? พูดเช่นนี้เห็นทีต้องพิสูจน์อีกรอบ เจ้าจะได้รู้ว่าข้าเสร็จเร็วหรือไม่”“พอแล้ว! ข้าเหนื่อย!”“ไม่เป็นไร ครั้งนี้ข้าจะปรนนิบัติเจ้าเอง”เสียงหวานครางกระเส่าดังขึ้นอีกครั้ง ในห้องที่มีเพียงแสงเทียนสลัวจวบจนเทียนเล่มน้อยหลอมละลายไปพร้อมคนทั้งสอง การเคลื่อนไหวในห้องจึงหยุดลง แต่เส้นทางของหัวใจสองดวงราวกับเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ทว่าครั้งนี้เ