“คุณส่งฉันมาตายรึเปล่าเนี่ย คุณรู้ไหมไอ้มาเฟียโรคจิตนั้นมันฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลาเลยรู้ไหม บอกฉันมาตรง ๆ ดีกว่าคุณต้องการข้อมูลอะไรกันแน่”
“หึ สาวน้อยใจเย็น ๆ มันไม่ฆ่าเธอหรอก เธอทำงานออกมาได้ด้วยดี ตอนนี้เธอมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ก็น่าประหลาดใจแล้วไม่ใช่เหรอ”
“คุณเองก็บ้าไม่ต่างไปกับไอ้โรคจิตนั้นหรอก พี่สาวฉันล่ะ วันนี้ยังไงฉันก็ต้องได้คุย”
“เฮ้อ ฉันให้คุยแล้วกลับไปทำงานให้มันได้เรื่องด้วยล่ะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนและเป่าหัวพี่สาวเธอ”
“ไอ้เลว!!”
“อยากให้พี่สาวเธอตายเร็ว ๆ ก็ปากเก่งอีกสิ แนนนี่ส่งเสียงให้น้องสาวเธอได้ยินหน่อยสิ”
“นานา นานาน้องโอเคไหม” เสียงกระวนกระวายที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงส่งเสียงถาม
“นานาโอเคค่ะพี่แนน แล้วพี่ล่ะมันได้ทำอะไรพี่ไหม”
“ไม่ พี่โอเค ปล่อยนะ ขอให้ฉันคุยกับน้องอีกหน่อยเถอะ”
“พี่แนน! พี่แนน! ไม่ต้องเป็นห่วงนะ นานาจะช่วยพี่ออกมาเอง” เธอรีบบอกให้อีกฝ่ายไม่ต้องกังวล เพราะรู้ดีว่าพี่สาวเธอจะคิดมากและคอยเป็นห่วงเธออยู่ตลอดเวลา
“พี่น้องสมานฉันท์กันเหลือเกินนะ ฉันให้เวลาเธออีก 5 เดือน ถ้ายังไม่ได้ข้อมูลธุรกิจของมันทั้งหมด และแหล่งเก็บสินค้าของมันเธอเตรียมรับหัวพี่สาวของเธอได้เลยนานา”
“ไอ้...โธ่เว้ย” เธอกัดปากตัวเองที่เกือบจะหลุดคำด่าออกมา แต่ด้วยความที่กลัวว่าพี่จะตกอยู่ในอันตรายจึงเลือกสบถออกมาอย่างหัวเสียแทน
“เป็นเด็กดีล่ะ อีก 2 ฉันจะโทรเข้ามาถามความคืบหน้า ราตรีสวัสดิ์"
ตู๊ด ตู๊ด!!
“ไอ้เลว ไอ้ชาติชั่ว ไอ้ชาติหมา ไอ้ระยำ” เมื่อปลายสายตัดไปแล้วเธอจึงบันดาลโทสะที่เต็มไปด้วยความแค้นเคือง ถ้าคำแช่งคำด่าทำให้อีกฝ่ายตายได้ก็คงดี คนเลว ๆ จะได้หมดโลกสักที
ภายในความมืดสลัวที่ทุกคนกำลังทำงานตามหน้าที่ของตนเองนั้น มีร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งที่พยายามเดินหลบมุมท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจากสปอตไลน์สาดลงมาเล็กน้อย
เธอค่อย ๆ ย่องออกมาอย่างเบาที่สุด ขึ้นมาชั้นสามที่เป็นโซน Vip ก็ต้องชะงักเพราะชั้นนี้ลูกน้องชุดดำยืนเฝ้ากันแต่ละจุดเต็มไปหมด
“แม่งเอ๊ย” เธอสบถในใจเล็กน้อยและค่อย ๆ เดินกลับทางเดิมอย่างเงียบเชียบที่สุด
“นานาหายไปไหนพี่หาเราตั้งนาน” โรมเดินเข้ามาหาและฉีกยิ้มกว้าง
“พี่โรมจะใช้อะไรนานาค่ะ”
“ไปดูแลแขกโต๊ะนั้นที ดูแลดี ๆ เพราะโต๊ะนั้นทั้งกลุ่มเป็นเพื่อนบอสทั้งหมด”
“ค่ะ แล้วบอสจะลงมาไหมคะ”
“บอสก็นั่งอยู่ในกลุ่มนั่นแหละ เอาแก้วเหล้าบอสแยกไปด้วยล่ะ”
“ค่ะพี่โรม” เธอรับแก้วใบใหม่มาและเดินถอนหายใจเข้าไป เธอไม่รู้จะตีหน้าแบบไหนกับมาเฟียคนนั้นกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
“สวัสดีครับคุณนานา” เป็นอีกครั้งที่คนเดิมเอ่ยทักทายเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มกรุ้มกริ่มและเจ้าเล่ห์ และมีสายตาคมจ้องมองมาที่เธอสบตาเข้าจนทำให้เสียวสันหลังไปทั้งตัว
“สวัสดีค่ะ นานาขออนุญาตรินวิสกี้ให้นะคะ”
“เชิญครับ” เป็นชิเอลอีกครั้งที่ยิ้มมาให้จนน่าหมั่นไส้ แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้เขาดูดีอย่างเห็นได้ชัด
“ไซรัสมึงต้องระวังธุรกิจของมึงให้ดีนะ เพราะตอนนี้น่าจะมีจะมีหนูเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ตัว”
หญิงสาวรินเหล้าไปและเงี่ยหูฟังไปกับการสนทนาที่มาเฟียหนุ่มพูด
“ใครมันจะมาลูบคมอย่างเฮียฟาริสว่ะ ถ้าไม่อยากตาย” ไซรัสเอ่ยถามอย่างสงสัยว่าไอ้คนที่เข้ามาทำให้ธุรกิจของเจ้าพ่อมาเฟียอย่างฟาริสเสียหายนี่มันไม่กลัวตายเลยรึไงกันถึงได้เข้ามาในถ้ำเสือได้
“นั่นนะสิเฮีย ใครจะกล้า” เวกัสเอ่ยเสริมทัพและจิบเหล้าของตัวเองต่อ
“เพราะแบบนี้ไงกูถึงได้เรียกพวกมึงมาเพราะมีคนมาลูบคมกูแล้ว” ฟาริสเอ่ยบอกและเงียบเสียงลงเมื่อเห็นร่างบางเข้ามารินเหล้าให้ตัวเองอีกครั้ง “เธอออกไปก่อนไป”
“ค่ะบอส” นานารับคำอย่างว่าง่ายและรีบเดินออกไป
“ไอ้โรมเรื่องไปถึงไหนแล้ว” ทันทีที่ชายหนุ่มเรียกชื่อ โรมที่แอบอยู่ในมุมมืดก็ยิ้มและเดาะลิ้นเดินเข้ามา
“ก็น่าสงสัยสุด ๆ ไปเลยนะสิวะ”
“น่าสงสัยอะไรกันพี่โรม” ชิเอลถามด้วยความสงสัย เพราะจะว่าไปโรมก็แอบไปทำอะไรไม่สมเป็นเขาเลย เพราะคลั่งล่าสุดเห็นอยู่คลับเฮ้าส์
“แอบไปทำงานให้ไอ้ริสไง”
“อ๋อเป็นผู้ชายขายน้ำนะเหรอพี่โรม ฮ่า ฮ่า” ชิเอลนั่งหัวเราะท้องคัดท้องแข็งถึงว่าทำไมถึงไปอยู่ที่นั่นได้เพราะแอบไปทำงานโดยไม่บอกนี่เอง
“ฟาริสกูว่าพอแล้วมั้งที่ให้ไอ้โรมไปสืบนะ” ไซรัสเอ่ยขึ้นมาเพราะแอบเป็นห่วงเพื่อนถ้าคนทางบ้านรู้หัวใจคงได้วายกันพอดีลูกชายทายาทพันล้านเพียงคนเดียวแต่ไปเต้นรูดเสาร์จับป้าแก่ ๆ กิน
“กูใช้ให้มันไปทำที่ไหนล่ะ มันไปของมันเอง กูบอกให้มันหยุดมันฟังที่ไหน” ฟาริสโต้กลับเพราะเขาเองก็บอกแล้วว่าไม่ต้องเข้าไปแต่โรมเข้าไปเอง
“เหอะ! แปลว่ามึงชอบใช่ไหมไอ้โรม”
“กูมีอะไรให้เสียหายล่ะ มันสนุกด้วยไง” โรมพูดอย่างสบายใจไม่ได้เดือดร้อนใจเหมือนกับที่เพื่อนเป็นห่วง
“เออยังก็ระวังตัวไว้ไอ้โรม แล้วงานที่วานล่ะ” ฟาริสถามเสียงขรึมและมองไปรอบ ๆ ว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม
“อืม น้องเขาแอบมองอยู่ตลอดเลยสงสัยคงชอบมึงล่ะมั้ง”
“ไอ้โรมกูให้มึงมาทำงานที่นี่เพื่อสนุกรึไง เอาจริงเอาจังสักทีสิวะ” ฟาริสดุพร้อมกับเอาปืนมาวางไว้บนโต๊ะ ถ้าขืนโรมยังเล่นไม่เลิกเขาจะเอาปืนเป่าปากมันแทน เพื่อนก็เพื่อเถอะ
“เขามองมึงจริง แต่มองแบบไม่ได้อยากกิน มองแบบมึงเป็นเหยื่อ”
“แล้วมันต่างกันยังไงพี่โรม คือเขามองเพราะเขาชอบเฮียฟาริสใช่ไหม”
“ไม่ใช่ แต่น้องเขามองแบบพร้อมที่จะกระสวกไส้นะสิ” เมื่อชิเอลได้ยินในสิ่งที่โรมบอกก็หลุดขำออกมา
“เหอะ เหอะ ปกติมีแต่คนกลัวถ้ามองเฮียแบบนั้น ส่วนมากผู้หญิงมองเพราะเขาแอบชอบและอยากจับเฮียกิน แต่มองแบบต้องการกระสวกนี้ ฮ่า ฮ่า เฮียระวังเขาให้ดีล่ะเผลอ ๆ โดนมีดปักกลางอกตายทำไง”
“ไอ้กัสปากมึงน่าเอาปืนจ่อปากแล้วยิงสักสองสามนัดไม่ให้วิญญาณมึงได้ไปผุดไปเกิดเลยไอ้เวร”
“ล้อเล่นครับเฮีย” ปากบอกว่าล้อเล่นแต่กลับนั่งหัวเราะกับชิเอลอย่างสนุกสนาน
“ระวังไว้ไม่เสียหายนะฟาริส เพราะน้องเขาชอบใช้สายตาสอดส่อง กูสังเกตมาตั้งแต่น้องเขาขึ้นมาข้างบนแล้ว ปกติถ้าใช้ให้ใครขึ้นไปหามึงจะต้องกลัวกันจนตัวสั่น แต่น้องกับดีใจถึงแม้พยายามปกปิดไม่ให้กูรู้ก็เถอะ แต่กูดูออก และอีกอย่างกูใช้ให้ลูกน้องกูไปสืบมาเพิ่มเติม มึงรู้ไหมกูเจออะไร”
“อะไร”
“น้องเขาอายุแค่ 18 แต่ทำบัตรปลอมว่าอายุ 20 และอีกอย่างน้องใช้ชื่อปลอมเข้ามาทำงาน”
“ฮ่า ฮ่า เด็กน้อยเล่นกูซะแล้ว ไอ้เชี่ย” ฟาริสนั่งหัวเราะชอบใจ ต่างจากคนอื่นที่มองหน้ากันอย่างกังวลเพราะกลัวสาวน้อยนั้นตาย
-------------------------------------------
พร้อมให้น้องกระสวกไส้ไหมคะพี่ฟ้าริส แต่ขอบอกเลยนะว่าน้องด่าเก่ง ^^
“พี่โรม นานาต้องขึ้นไปชั้นสามอีกแล้วเหรอคะ” ร่างเล็กเดินเข้ามาถามและทำสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด“ใช่ เรามีอะไรรึเปล่า” โรมแกล้งถามและลองสังเกตสีหน้าของหญิงสาวไปด้วย“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร นานาขอเอาเหล้าขึ้นไปข้างบนก่อนนะคะ”“อืม แล้วคอยช่วยรินเหล้าให้บอสจนกว่าบอสจะสั่งให้ลงมานะ เพราะบอสไม่ชอบรินเหล้าเอง”“ค่ะพี่โรม”ขาเรียวเดินขึ้นมาชั้นสามด้วยอาการขาสั่นบอกตัวเองจะมากลัวไม่ได้เพราะเวลาเหลือไม่มากแล้ว ต้องรีบหาข้อมูลที่อีกฝั่งต้องการให้เร็วที่สุดที่จะหาได้ทางเดียวที่จะหาได้คงต้องเข้าหาบอสของที่นี่ซะแล้วมั้ง แต่จะเข้าหายังไงเพราะเขาน่ากลัวซะขนาดนั้นพอเธอเปิดประตูเข้ามาก็ต้องหายใจด้วยความโล่งอก เพราะคิดจะเห็นใครตายเสียแล้วอีก“นานาขอรินเหล้าให้นะคะ” ฟาริสเงยหน้ามองใบหน้ารูปไข่ที่มีใบหน้าเล็กสมกับตัว ริมฝีปากอวบอิ่มนั่นที่เอ่ยเสียงหวาน ๆ ออกมาจะทำยังไงกับเด็กน้อยตรงนี้ดี จับถลกหนังซะเลยดีไหม หรือจะเก็บเลี้ยงไว้ดูเล่นต่อไปสักระยะ เบื่อเมื่อไรค่อยจัดการ“เมธาของล็อตนี้สั่งจองเข้ามาเท่าไร” ฟาริสเอ่ยถามไม่นานร่างสูงของใครอีกคนก็ก้าวออกมาจากมุมมืด“ล็อตนี้สั่งมาเกือบเต็มโควตาแล้วครับ”“ส
“อีกแล้วเหรอพี่โรม แต่นานาติดลูกค้าอยู่นะคะ” หญิงสาวทำหน้าเสียเมื่อรู้ว่าต้องขึ้นไปข้างบนที่มีมาเฟียโรคจิตอยู่บนนั้น“ใช่บอสให้เราไปชงเหล้า ตรงนี้พี่เคลียร์เองรีบขึ้นไปเถอะบอสไม่ชอบรอนาน”เธอทำอะไรไม่ได้จึงต้องจำใจขึ้นไปอย่างจำยอม เปิดประตูเข้ามาเธอต้องเอามือปิดจมูกแทบไม่ทันเพราะกลิ่นคาวเลือดลอยมาเตะจมูกของเธอเข้าอย่างจังอย่าบอกนะว่าเขาฆ่าคนอีกแล้ว“ผมยอมแล้วครับ อย่าฆ่าผมเลย”“หึ คนที่สั่งมึงมาชื่ออะไร” เมธาคำรามถามเสียงลอดไรฟัน ที่ใบหน้าและมือมีแต่เลือดสาดกระเซ็นใส่“เข้ามาสิ” มาเฟียหนุ่มกวักมือเรียกเมื่อเห็นหญิงสาวยืนนิ่งไม่ยอมก้าวเข้ามา“คะ ค่ะบอส” เธอเอ่ยเสียงสั่นและเข้ามาชงเหล้าด้วยมืออันสั่นเทาร่างสูงเหยียดยิ้มและคว้าหญิงสาวเข้ามานั่งบนตัก ให้เธอเอาหลังพิงอกเขาเอาไว้ และใช้มือจับคางให้เธอมองไปที่ร่างของคนที่โดนซ้อมสภาพดูไม่ได้ เธอไม่รู้เลยว่าคนที่นอนอยู่นั้นยังมีลมหายใจอยู่ไหม จะมีแค่คนเดียวที่สภาพใบหน้าดูแทบไม่ได้ และโดนจับมัดกับเก้าอี้ที่กำลังโดนมาเฟียหนุ่มเค้นเอาความจริง“คุณโทมัสครับ คุณโทมัสสั่งพวกผมมา อย่าฆ่าผมเลยครับ”“จุ๊ ๆ ใจเย็น กูไม่ฆ่ามึงหรอก แต่บอกมาว่านายมึงอยู่
“คุณพี่การ์ดหนูจะเข้าไปทำงานค่ะมากันหนูเอาไว้ทำไม” นานาร้องโวยวายเมื่อเธอมาถึงที่ทำงานแต่เข้าไปไม่ได้เพราะการ์ดตรวจบัตรไม่ให้เข้าไป“รอก่อน” ชายร่างกำยำพูดสั้น ๆ และมองมาทางหญิงสาวด้วยใบหน้าที่ถมึงทึงน่ากลัวร่างเล็กได้แต่ยืนสั่นด้วยหัวใจที่เต้นตึกตักไปด้วยความหวาดกลัว เพราะกลัวฝั่งนี้จับได้ว่าเธอคือหนอนบ่อนไส้“ให้หนูรออะไรเดี๋ยวหนูไปทำงานสายแล้วโดนไล่ออกจะทำยังไงล่ะพี่” ถึงแม้จะกลัวแต่เธอยังทำใจดีสู้เสือถามออกไปอย่างไม่ยอมแพ้“ก็บอกให้รอก่อน น้องพูดไม่รู้เรื่องเหรอ” ครั้งนี้นานาเลือกที่จะเงียบและไม่ถามซอกแซกอีก เพราะสายตาของการ์ดมันน่ากลัวมาก“ตามมา” ไม่นานการ์ดอีกคนก็เดินมาหาเธอและเรียกให้เดินตามไปเขาจะพาฉันไปฆ่าหรือไงกันใจก็กลัวแต่ก็เลือกที่จะเดินตามออกไปเงียบ ๆ หลังร้าน ค่อยหาทางหนีเมื่อมีโอกาสดี ๆเธอเดินมาสักพักก็เห็นรถ BMW สีดำเงาวับขนาดอยู่ที่มืดยังรู้ว่ารถคันนี้สะอาดเอี่ยมขนาดไหน เขาคงไม่จับเธอไปฆ่าหรอกมั้ง เพราะรถมันดูดีเกินไปที่จะจับตัวเธอไปฆ่าหมกศพในรถ“ขึ้นไปบอสรอเธออยู่” เสียงแข็งกระด้างเอ่ยบอกและผลักร่างบางเข้าไป ผลักเพียงนิดเดียวคนตัวเล็ก ๆ อย่างเธอหน้าก็แทบคะมำ“เห
นานายืนงงอึ้งกับภาพตรงหน้าเพราะที่นี่มันคือโกดังสินค้าที่เธอต้องการจะรู้ แต่วันนี้โชคเข้าข้างรึไงกันเพราะมันโผล่มาให้เห็นตรงหน้า“เออ บะ บอสค่ะที่มันคือ” เธอลองหยั่งเชิงถามถึงแม้จะรู้อาชีพของเขาคืออะไรก็ตาม แต่เพราะไม่อยากตายไวเลยทำเป็นไม่รู้เรื่องเป็นเด็กใสซื่อดีที่สุด เพราะเขาบอกแล้วเป็นโคแก่อยากกินหญ้าอ่อน ดังนั้นเธอจะเป็นหญ้าอ่อนให้เขาเอง“ที่ทำงานฉันไง” เสียงเย็นตอบกลับและนำเดินเข้าไป“ที่ทำงานงานบอสไม่ใช่ที่ผับเหรอคะ”“เธอคิดว่าฉันจะมีแค่งานนั้นงานเดียวรึไง ทำอันนั้นแค่อันเดียวคิดว่าฉันจะรวยแบบนี้รึสาวน้อย” มาเฟียหนุ่มหันมาพูดและหัวเราะในลำคอ“บอสทำอาชีพอะไรกันแน่ อย่าบอกนะว่าข้างในเป็นยาบ้า”“มั้ง หึ หึ”โรคจิต! มันเป็นเสียงหัวเราะที่โรคจิตมาก รู้สึกไม่ดีจนอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้เหลือเกิน สัญชาตญาณมันบอกเธอว่าถ้าเขาเปิดประตูโกดังนั้นชีวิตของเธอคงไม่มีอีกแล้วครืด~~~~“บอสค่ะ!” เธอวิ่งเข้ามาและจับชายสูทของเขาเอาไว้ แต่มือแกร่งเลื่อนเปิดประตูโกดังสินค้าแล้วเรียบร้อยและในนั้นเห็นแล้วมันชวนให้น่าอ้วกเหลือเกิน เพราะสภาพคนที่นอนสะบักสะบอมอยู่เบื้องหน้ามันช่างน่ารันทด ครั้งนี้เธอ
ร่างแบบบางนั่งหายใจเหนื่อยหอบที่เธอนั่งหายใจแบบนี้เพราะกำลังควบคุมสติของตัวเอง สถานการณ์ก่อนหน้าที่มาเฟียหนุ่มได้จัดการพวกผู้ชายพวกนั้นเสร็จเขาก็เอ่ยปากไล่ให้เธอขึ้นมานอนในนี้เป็นห้องรับรองแขกที่ได้ยินคนอื่นพูดมาว่าที่นี้เป็นแค่บ้านพักที่เอาไว้ใช้เมื่อมาทำงานที่โกดังแห่งนี้เท่านั้น บ้านจริง ๆ ของเขาจะอยู่อีกที่หนึ่ง แต่ที่ไหนตอนนี้เธอก็ไม่คิดที่อยากจะไปไหน ๆ วันนี้เธอก็มาที่โกดังตามที่ใจเธอเคยอยากมาแล้วกะจะรอเวลาให้ดึกมากกว่านี้เสียก่อน แล้วเธอจะเข้าไปสำรวจหาข้อมูลที่เธอต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายและมาเฟียนั้นมีธุรกิจอะไรบ้างวันนี้เธอต้องรวบรวมเอามาทั้งหมดให้ได้ เพราะเธออยากไปให้พ้นจากสถานที่อันตรายแห่งนี้เต็มทน ยิ่งอยู่ห่างจากเขาได้เท่าไรชีวิตของเธอยิ่งปลอดภัยขึ้นเท่านั้นเวลาตีสองกว่า ๆ ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงและแอบย่องออกมาอย่างเงียบเฉียบที่สุด เธอมองซ้ายมองขวาเมื่อปลอดภัยจึงรีบเดินย่องออกมาท่ามกลางความเงียบเชียบที่สุดเธอเดินเข้ามาในโกดังท้ายสุดเพราะในนี้มีหลายโกดังมาก แต่โกดังนี้เธอเข้ามากลับไม่มีอะไรมีแต่ความว่างเปล่าเธอจึงรีบเดินออกมา ตอนแรกกะจะเอามือถือมาถ่ายรูปแต่เธอไม่รู
“หึ หึ I caught you สาวน้อย” เสียงหัวเราะในลำคอและสายตาที่ว่างเปล่าจดจ้องมาทางเธอเนื้อตัวของหญิงสาวเย็นเฉียบและแน่นิ่งไม่ฉับพลัน จบแล้วสินะชะตาชีวิตของเธอ เขาจะทรมานเธอรูปแบบไหนเธอไม่อาจรู้ ขอให้ตายไว ๆ ก็แล้วกันจะได้ทรมานน้อยลง“อยากได้ก็เอาไปสิ เอาไปให้นายของเธอ” มาเฟียหนุ่มยิ้ม และเอากระดาษยัดใส่มือของหญิงสาว และลูบที่ใบหน้าสวยก่อนจะพูดบางอย่างออกมาทำให้หญิงสาวแทบสิ้นสติ“ถ้าเธอคิดว่าจะมีลมหายใจออกไปได้อะนะ สาวน้อย”เท่านั้นแหละสาวน้อยตรงหน้าของเขาที่พยายามทำเป็นแข็งแกร่งมาตั้งแต่แรกปล่อยร้องไห้โฮออกมาอย่างน่าสงสารฟาริสนั่งมองและจุดบุหรี่สูบไปด้วยทุกครั้งที่เขาฆ่าคนและเธอเห็น แต่เด็กน้อยตรงหน้าก็ไม่ร้องไห้ให้เห็นน้ำตา แต่นี่กลับปล่อยร้องไห้โฮออกมาเหมือนเด็กน้อยที่น่าสงสารคนหนึ่ง“ทำไมกลัวตายเหรอถึงร้องไห้” เขาถามและฉีกยิ้ม เพราะยิ่งเห็นน้ำตาของหญิงสาวเลือดลมเขายิ่งสูบฉีด“ไม่ หนูไม่กลัวตาย แต่หนูกลัวพี่สาวหนูตาย ฮื่อ”มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มเมื่อได้ยินหญิงสาวแทนตัวเองว่าหนูคงไม่อยากปิดบังแล้วสินะว่าตัวเองยังเป็นเพียงแค่เด็ก“ทำไมพี่สาวของเธอต้องตายด้วยล่ะ” เขาถามอย่างใจเย็น แต่หญิงสา
“อือ หนูเจ็บ โอ๊ย!!” เสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อฟันคมกัดไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ขนาดคอเขาก็ไม่เว้นหมาบ้าชัด ๆ“เลือดเธอหวานจัง” เสียงพูดอย่างคนโรคจิตกระซิบที่ข้างหูสวย และใช้ฟันกัดไปที่แก้มแต่ไม่แรง และใช้ลิ้นเลียตรงที่ตัวเองกัด เขายิ้มเหมือนพอใจกับผลงานของตัวเองเป็นอย่างมาก“หนูยังเด็กนะคะ บอสจะทำลงเหรอ”เธอหันมาถามทั้งน้ำตา แต่ชายหนุ่มกับยิ้มและใช้นิ้วลากไปตามกรอบหน้าสวยและเปลี่ยนมืออีกข้างลากไปตามแผ่นหลังเนียนที่ตอนนี้มีแต่รอยฟันและรอยจูบ“เคยบอกแล้วไงโคแก่มันชอบกินหญ้าอ่อน”“แต่หนูเป็นหญ้าแก่”“ฮ่า ฮ่า เธอนี่ไม่กลัวตายจริง ๆ เลยนะ”ใครว่าเธอไม่กลัวตาย ตอนนี้กลัวจนฉี่แทบราด แค่ปากดีจนติดเป็นนิสัย“บอกว่าไม่เคยแล้วทำไมตรงนี้แฉะล่ะ” มือหนาคลึงตรงรอยแยกเมื่อเห็นตรงนั้นของหญิงสาวกำลังผลิตน้ำหวานออกมาเธออยากจะเถียงเหลือเกินแต่ก็กลัวเขาจะโกรธ ที่มันแฉะก็เป็นเพราะเขาไหม มัวจูบเล้าโลมอยู่นั้นมันก็ต้องแฉะถึงแม้เธอจะไม่เคยเรื่องพวกนี้ แต่เธอเองก็ไม่ได้โง่จนไม่รู้เรื่องว่ากลไกของมันจะทำงานยังไง“อ่าส์~~” เธอเผลอร้องครางออกมาแผ่วเบาเมื่อมือนิ้วแกร่งสัมผัสตรงรอยแยกและใช้นิ้วเขี่ยตรงจุดกระสัน
“อ๊า~~~”เสียงแหบแห่งครางออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อทั้งตัวเหมือนโดนรถสิบล้อทับมา ขยับตรงไหนตรงนั้นก็เจ็บ ตัวก็รู้สึกร้อนวูบวาบแปลก ๆ เหมือนจะจับไข้“ตื่นแล้วเหรอคะ” เธอหันไปมองตามเสียงเหมือนคนมีอายุเล็กน้อยทางด้านหลัง“ค่ะ”“ยาแก้ปวดและลดไข้ค่ะ” หญิงวัยกลางคนส่งยามาให้เหมือนคนที่ทำหน้าที่นี้อย่างเคยชินเธอมองสำรวจเนื้อตัวของตัวเองก็ต้องตกใจเพราะมีแต่รอยแดงเต็มไปหมด และตรงพื้นก็มีแต่ถุงยางและซองถุงยางเต็มไปหมดมันน่าอายจริง ๆ ไหนจะผู้หญิงคนนี้อีกที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“เชิญคุณนานาไปอาบน้ำได้เลยค่ะ แช่น้ำอุ่น ๆ สักครู่แล้วคุณจะรู้สึกดี”“ขอบคุณค่ะคุณป้า”“อาบเสร็จป้าจะขึ้นมาตาม เพราะนายรอคุณนานาอยู่ด้านล่างค่ะ”“ค่ะ” เธอรับคำและเดินกะเผลก ๆ เข้าไปในห้องน้ำอย่างทุลักทุเลป้าแม่บ้านได้แต่ส่ายหน้ากับรสนิยมของนายตัวเอง เธอทำงานนี้จนเคยชินแล้วกับสภาพของผู้หญิงทุกคนที่ได้ร่วมหลับนอนกับนายน้อยของเธอแต่เด็กคนนี้รู้สึกเหมือนจะเด็กกว่าทุกคนที่นายเคยพามา ส่วนมากมาเฟียหนุ่มชอบหิ้วสาวมานอนที่นี่มากกว่าจะใช้ห้องที่ผับ น้ำแตกก็แยกย้าย แต่กับเด็กคนนี้เขากลับสั่งให้ขึ้นมาดูแลและเตรียมน้ำให้อาบ“ตื่
“ลิปสติกสีนี้สวยดูเหมาะกับเธอมากเลยนานา” เสียงพูดออกมาอย่างตื่นเต้นจากเพื่อนผู้หญิงคนใหม่ที่เพิ่งมาสนิทได้ไม่นานเอ่ยบอก“จริงเหรอบี”นานาถามออกไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เรื่องอื่นเธอเก่งเธอมั่นใจตลอดแต่พอเป็นเรื่องการแต่งตัวและเครื่องสำอางเธอไม่ค่อยมั่นใจเลย เพราะแต่งหน้าไม่เก่ง ตอนนี้แต่งหน้าได้เพราะได้พี่ก้อยช่วยสอน เพราะตอนทำงานที่ผับต้องมีหน้าตาเอาไว้ใช้หากิน และเธอต้องอำพรางอายุด้วยเลยแต่งหน้าเข้มให้ดูเซ็กซี่ที่สุด“ใช่นานาเชื่อเราสีนี้สวยมาก มันดูเป็นลูกคุณหนูเลย” บีจึงยื่นลิปสติกทาให้ เธอจึงลองมองดูในกระจก ใช่มันดูสวยและดูสุภาพมากดูแบบใส ๆ สมกับอายุ“งั้นเราเอาอันนี้แหละ”“ดีเลย เราก็จะเอาอันนี้เอาไว้เป็นคู่กันไงล่ะ”“อือ บีจะซื้ออะไรอีกไหม”“คุณพ่อให้บัตรไม่จำกัดวงเงิน เราเข้าไปไปในชอปนั้นกันเถอะ” บีชี้แบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งที่เธอไม่เคยคิดที่จะย่างกรายเข้าไป ให้เข้าไปนะเข้าได้แต่เธอคงไม่มีปัญญาซื้อเหมือนเขาหรอก“ชุดนี้สวยไหม” บีเดินออกมาด้วยชุดสีชมพูที่ปักกระดุมไข่มุกอย่างสวยงามออกมา“สวย ดูเหมาะกับบีด้วย”“จริงเหรอ งั้นเราเอาชุดนี้” บียิ้มกว้างและหมุนดูตัวเองในกระจก “นานามาลองดูชุดส
เผียะ!“โอ๊ย! หนูเจ็บ”ฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าที่บั้นท้ายเธอเต็มแรง เธอเจ็บแต่มันก็เสียวด้วย จะให้พูดไปมันก็น่าอาย“ปากบอกเจ็บ แต่มันรัดฉันไม่หยุดเลยนะ เด็กขี้โกหกมันไม่ดีไม่ใช่เหรอนานา”“มะ ใช่นะ หนูไม่ได้โกหก เฮีย เบา ๆ อ๊า~” ใบหน้าสวยเหยเกเมื่อความใหญ่โตอัดกระแทกเข้ามาลึกขึ้น เขาตอกอัดเข้ามาอย่างแนบแน่นทุกจังหวะ“อ๊า ขะ ของเฮียมันใหญ่ ไม่ไหวแล้ว”“หึ พึ่งใส่เข้าไปได้ไม่เท่าไรเองนะ ใจเสาะซะแล้ว”“ไม่เอา ไม่ไหวแล้ว อื้อ” นานาดิ้นและเอาเล็บจิกไปกับผนังห้องน้ำ เธอเสียวเหลือเกิน ความรู้สึกแปลกใหม่มันวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเธอ มันเป็นความรู้สึกที่อยากปลดปล่อยบางอย่าง เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่เธอบอกว่าปวดฉี่แต่จริง ๆ ที่ออกมามันกลับใช่ฉี่ อือ ไม่ไหวแล้วพรวด!!น้ำสีใสไหลทะลักออกมาอย่างกับก๊อกน้ำเมื่อแก่นกายใหญ่ตอกอัดเข้ามาถี่ ๆ ตรงส่วนนั้นของเธอมันบีบรัดจนเธอเสร็จถึงจุดสุดยอดจึงปลดปล่อยน้ำออกมาอย่างล้นทะลัก“เฮ้อ อ๊า เฮีย”“เหอะ! เธอเสร็จได้ถูกใจฉันจริง ๆ สาวน้อย” ฟาริสฉีกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจเมื่อหญิงสาวเสร็จถึงจุดสุดยอด“อ๊า เฮีย” เธอเอ่ยร้องเรียกด้วยน้ำเสียงที่หมดเรี่ยวหมดแรง แต่ยังไม่ทันได้พ
“เฮอะ! ไม่มีทางเป็นอิสระเหรอ ไอ้สารเลว ไอ้เฮงซวย” นานายืนด่ามาเฟียหนุ่มด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเธอขอตัวขึ้นมาบนห้องใช้ข้ออ้างว่าอยากเปลี่ยนชุด แต่แท้จริงอยากขึ้นมาแอบด่าเขาด้วยความรุนแรงต่างหาก“จะให้อยู่ไปทำเพื่ออะไร หรืออยากกินเด็กวัยเอ๊าะ ๆ กันฮะ” ด่าไปด้วยความเกรี้ยวกราด สงบสติอารมณ์ได้จึงเปลี่ยนชุดและลงไปข้างล่างที่ยังมีมาเฟียหนุ่มนั่งอ่านหนังสืออยู่ เมื่อกี้ทำท่าจะจับเธอกิน ตอนนี้คงลืมไปแล้วละมั้ง“เฮีย!” เธอตะโกนเรียกเสียงดังอย่างลืมตัว มาเฟียหนุ่มจึงละหน้าจากหนังสือและขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ“เสียงดังทำไม ไม่มีมารยาทเลย”น่ะ! มาทำเป็นสอนเรื่องมารยาทกับเธอเสียด้วย ควรสอนตัวเองก่อนไหมคะ?“ผู้หญิงคนอื่นของเฮียไม่มีเหรอ”“ทำไม หรือว่าเกิดหึงขึ้นมา”“หนูมีสิทธิ์หึงด้วยเหรอ”“หึ” ฟาริสหัวเราะในลำคอแต่ยังคงอ่านหนังสือต่อโดยไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถาม“หนูถามว่ามีไหม”“ไม่มี มีแต่ที่เอาแล้วทิ้ง” สายตาดุตวัดขึ้นมามองร่างเล็กที่นั่งเกาะแขนเขาอยู่เหมือนเด็กน้อย“ทำไมเฮียไม่มีล่ะ ช่วยมีผู้หญิงที่เฮียเลี้ยงเก็บไว้ด้วยเถอะ” ใช่ช่วยมีบ้างเถอะ จะได้เลิกยุ่งกับเธอสักที ตั้งแต่อยู่กับเขามาก็เห็นหน้าเขาทุ
วันเปิดภาคเรียนก็มาถึงนานาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อคืนเธอก็แทบนอนไม่หลับ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ก้าวสู่รั้วมหาลัยเหมือนกับเด็กทั่วไปเธอมองผู้คนโดยรอบที่ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกันกับเธอ แต่ละคนดูสวยใสไม่แพ้กันเลยทีเดียว“ให้ตายสิตื่นเต้นชะมัด”เธอเดินไปตามป้ายของตึกคณะ และดูห้องที่ต้องไปเรียน บอกตามตรงเธอก็ไปไม่ถูกได้แต่อ่านป้ายและเดินตามไป“ตึก A ชั้น 14” เธอพูดพึมพำอ่านตารางคู่มือในโทรศัพท์เอาโดยไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้าง“เป็นเด็กบริหารเหรอ”“หืม?” นานาขานรับในลำคอและเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเป็นผู้ชายที่ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสมีลักยิ้มที่แก้มหนึ่งข้างด้วย “ใช่ค่ะ”“เราเจย์ อยู่ปีหนึ่งคณะบริหารเหมือนกัน ขึ้นไปด้วยกันไหม”“อือ เรานานา” เธอพยักหน้ารู้สึกว่าตัวเองรอดตายแล้ว “เจย์เป็นเด็กปีหนึ่งเหมือนกันทำไมดูชำนาญทางจังเลย”“พี่เราเคยพาทัวร์นะ แต่ตอนนี้เรียนจบไปแล้วก่อนจบเขาพามาดูก่อน จะได้ไม่หลงเหมือนกับนานาไง”“เราไม่ได้หลงนะ” นานารีบแก้ตัว เธอไม่ได้หลงเสียหน่อยก็แค่ช้าเท่านั้นเอง“ขอโทษ เราแค่แกล้งเธอเล่นเอง” เจย์ฉีกยิ้มกว้างจึงเห็นลักยิ้มของเขา ทำไมมันดูเท่และน่ารักจังทั้งสองเดินเข้ามาด้า
“มันก็ไม่เท่ากับใครบางคนที่ชอบมาเล่นลอบกัดข้างหลังหรอกว่าไหมคุณโทมัส” ฟาริสตอบเป็นภาษาอังกฤษแสยะยิ้มและใช้สายตาดูแคลนเหยียดมอง“หึ ดูเหมือนผมจะเล่นผิดคนสินะ” โทมัสยิ้มเย็นอย่างไม่สะทกสะท้าน“เล่นผิดเต็ม ๆ เลยแหละ”“แต่ผมชอบนะ ที่เล่นผิดตัว” โทมัสตอบหน้านิ่งไม่ไหวติ่งใด ๆ แต่ฟาริสเองก็ไม่น้อยหน้ามองมาทางคู่อริอย่างเชือดเฉือนเช่นกัน“เด็กนั้นกูขอ และเลิกยุ่งกับเธอซะ” ฟาริสเอ่ยเข้าเรื่องและไม่จำเป็นต้องสุภาพอีกต่อไป“ทำไมกูต้องทำ”“กูรู้นะว่ามึงต้องการอะไร เรื่องนั้นกูจะไม่ยุ่ง ถ้ามันไม่เกี่ยวกับธุรกิจของกู”“รู้แต่ก็ปล่อยผ่านจะใจดำเกินไปไหมครับคุณฟาริส”“หึ กูไม่ต้องทำอะไรหรอก แต่ฝั่งที่มึงจะเล่นอาจจะไม่ง่ายแบบที่มึงคิดก็ได้”“ง่ายหรือไม่ง่าย แต่ลูกสาวที่เขาหวงแหนหนักหวงแหนหนาก็โดนกูจับกินไม่รู้จะกินยังไงแล้วนะสิครับคุณฟาริส”“ถ้ายังอยากให้ธุรกิจของมึงอยู่รอดปลอดภัยก็เลิกยุ่งกับกูซะ และปล่อยเด็กนั่นไป”“พูดง่ายจัง”“ของที่มึงเอาไปคิดซะว่าเป็นค่าไถ่ชีวิตเด็กนั้นกับพี่สาวของเธอก็แล้วกัน”“หึ ดูท่ากูจะพลาดท่าหนักซะด้วยสินะ ของมูลค่าหลายสิบล้านที่ได้มาแต่ต้องแลกกับฐานข้อมูลสำคัญไป”“มึงก็ได
“อื้อ อย่ากวน” เสียงบ่นอย่างรำคาญเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างรบกวนและยุ่งไปตามร่างกายแต่การรุกรานไม่ยอมจบสิ้น กลับรู้สึกรับรู้ถึงความเปียกแฉะเพิ่มมากขึ้น ตามเนื้อตัวร้อนรุ่มแปลก ๆ นี่เธอฝันอะไรกัน พยายามลืมตาตื่นแต่ไม่สามารถทำได้เพราะรู้สึกหนักอึ้งเหลือเกินจ๊วบ จ๊วบ!!เสียงดูดยังคงดังให้ได้ยินเป็นระยะ มันน่ารำคาญเหลือเกินเธออยากจะนอนแต่ลืมตาขึ้นมาไม่ได้ ลืมตาตื่นสักทีเถอะ เวรเอ๊ย!สวบ!เฮือก!! ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกลืมตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เมื่อรู้สึกเสียวซ่านที่ช่องท้อง พอลืมตาก็รู้ว่าไม่ได้ฝันไปแต่มันคือความจริงที่กำลังมีดุ้นใหญ่ยักษ์เสียบเข้าที่กลางกายของเธอไอ้เวร!! เธอละอยากด่าเขาจริง ๆ“เฮีย มาลักหลับแบบนี้หนูก็ตกใจเป็นนะ” เธอบ่นกระเง้ากระงอด แต่ก็ร้องครางออกมาเมื่อร่างใหญ่ขยับ“ปลุกทำไม แค่เสียบเข้าไปเดี๋ยวเธอก็ตื่น”ไอ้โรคจิตเอ๊ย!!เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดมาเธอจึงก่นด่าในใจอีกครั้งและปล่อยให้เขากระหน่ำเข้าใส่ตามที่ต้องการทุกการเคลื่อนไหวมันช่างซาบซ่านแม้จะไม่พอใจแต่ร่างกายของเธอกลับย้อนแย้ง ตรงกลางกายของเธอก็เปียกชื้นส่งให้แก่นกายใหญ่เข้าออกได้อย่างสะดวก แต่มันก็มีความรู้สึกอย่า
“ไอ้เวรตะไล”เมื่อขึ้นมาบนห้องได้นานาก็รีบถอดชุดนักศึกษาโยนลงบนพื้นด้วยความหงุดหงิด และด่ามาเฟียหนุ่มไปด้วยความเกลียด วันนี้เขาทำให้เธออับอายมาก ไม่รู้จะมีอารมณ์อะไรกันหนักกันหนา เธอไม่อยากใส่ชุดนักศึกษาให้เขาเห็นอีกแล้ว“ให้ตายเถอะ ถ้าฉันไม่มีคนที่รักอย่างพี่สาวฉัน นายไม่มีทางได้ฉันง่าย ๆ แบบนี้หรอก ไอ้มาเฟียโรคจิตเอ๊ย” เนื้อตัวสั่นระริกไปด้วยความโกรธหวังว่าสักวันจะมีวันที่เธอได้เอาคืนดวงตากลมโตหันไปมองโทรศัพท์เครื่องที่เอาไว้ติดต่อกับคนของอีกฝั่ง หยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสายที่รอเพราะครั้งล่าสุดบอกว่าอีกสองวันจะติดต่อมา แต่นี่ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วเพิ่งติดต่อเข้ามา“คุณเกิดอะไรขึ้น ทำไมเพิ่งติดต่อเข้ามา ฉันขอคุยกับพี่สาวฉันหน่อยได้ไหม”“อย่ามาต่อรอง วันนี้ได้ข้อมูลอะไรมา” เสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความกรุ่นโกรธเอ่ยถาม“ฉันต้องการจะคุยกับพี่”“ฉันจะให้คุยแต่ไม่ใช่ตอนนี้”“อีกสองคืนจะมีการปล่อยของ” เธอถอนหายใจและบอกข้อมูลลับให้อีกฝ่ายรู้“มันจะส่งอะไร”“ที่ได้ยินมาเป็นพวกอาวุธปืน กับที่บรรจุกระสุน”“ท่าเรืออะไร” เสียงทุ้มต่ำถามอย่างใจเย็น“ท่าเรือ PAT ของออกไปที่ฮ่องกงเวลา 5 ทุ่มเวลาประเทศ
ร่างเล็กดิ้นพล่านเมื่อลิ้นร้อนเข้ามากัดที่ซอกคอของเธอจนเกิดเป็นรอยฟัน“เจ็บนะคะคุณทำอะไรเนี่ย” ด้วยความตกใจจึงลืมตัวว่าต้องเรียกชายหนุ่มว่าเฮีย“สงสัยลืมที่สั่งอีกแล้วใช่ไหมเด็กน้อยของฉัน” ฟาริสพูดเสียงเย็น และใช้นิ้วมือสอดใส่เข้าที่รูสวาทงอเข้างอออกจนร่างเล็กสะดุ้งโหยงไปด้วยความเสียว“เฮียฟาหนูขอโทษ เราไปทำกันที่บ้านดีกว่าไหม”“เธอมีสิทธิ์ต่อร้องด้วยเหรอ ชักหมดสนุกแล้วซิ” ชายหนุ่มมุ่ยหน้าและสายตาเริ่มแข็งกระด้าง มือเรียวจึงเข้าไปคว้าที่ต้นคอและจูบชายหนุ่มอย่างเอาใจสองริมฝีปากประสานกันและสอดลิ้นเข้าใส่แลกตวัดอย่างหยอกล้อปากหยักคลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อกี้เริ่มหมดอารมณ์และเริ่มเบื่อความที่หญิงสาวปฏิเสธ แต่ตอนนี้กลับมาตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อร่างเล็กเริ่มเป็นคนจู่โจมเขาเอง“ฉลาดดีนี่” ฟาริสแสยะยิ้มรู้ดีว่าหญิงสาวพยายามเอาใจเพราะกลัวเขาสั่งฆ่า เมื่อกี้ก็เกือบโทรสั่งให้เมธาจัดการไปแล้ว ดีที่ปากเล็ก ๆ นั้นเข้ามาปะทะจูบกับเขาเสียก่อน“อยากให้หนูทำอะไรบอกมาเลยค่ะ” ใบหน้ารูปไข่เงยหน้ามาถามถึงแม้ใบหน้าจะแดงซ่านไปด้วยความเขินอายและความซ่านเสียว“จับมันยัดใส่รูน่ารัก ๆ ของเธอที” เสียงที่เต็ม
หลายอาทิตย์ต่อมา“ร้อนจังเลยค่ะเฮีย”และก็เป็นอีกวันที่เธอเริ่มแผนการที่คิดไว้ ทุกวันเธอจงใจยั่วเขาให้เกิดอารมณ์ และเป็นทุกครั้งที่เขาจะเข้ามามีอะไรกับเธอจนเธอแทบหมดแรง“หึ จะยั่วอะไรฉันอีก หรือเมื่อคืนกินไม่อิ่ม” ฟาริสถามพลางจิบกาแฟดำไปด้วย ทั้งที่เมื่อคืนเขาทำเธอจนแทบเดินไม่ได้ แต่เช้ามาเธอกลับมาคึกได้อีก“ก็เฮียเอาดี เอาแรงไงคะ หนูถึงติดใจ”“เหอะ ฮ่า ฮ่า” เขานั่งหัวเราะ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะมาเล่นไม้ไหนอีก หลายวันแล้วที่เขายอมเล่นด้วย ที่ผ่านมามันก็สนุกดี เมื่อเธอเริ่มปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับเซ็กซ์ของเขา“เฮียฟาขา” เธอเรียกและลุกเดินเข้ามานั่งบนตักแกร่ง แม่บ้านที่คอยอำนวยความสะดวกต่างมองหน้ากัน เพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนกล้าแบบหญิงสาวมาก่อนฟาริสมองหญิงสาวนิ่งแต่ก็ไม่ว่าอะไรที่เธอเข้ามานั่งบนตักและยังเอาหัวมาพิงและกอดคอของเขาเอาไว้“จะเอาอะไร”ฟาริสถามเสียงเบา พลางมองใบหน้าสวยนิ่ง นานาใจเต้นตุ้มๆ ต่อม ๆ เพราะตอนแรกเธอเผื่อใจไว้แล้วว่าเขาอาจโมโหและจับเธอเหวี่ยงบนพื้น แต่เปล่าเลยเขากลับปล่อยให้เธอนั่ง และยังยอมให้เธอทำอะไรโง่ ๆ โดยการอ้อนเขาอยู่แบบนี้“เรื่องเรียนที่มหาลัย เฮียจะให้หน