ร่างแบบบางนั่งหายใจเหนื่อยหอบที่เธอนั่งหายใจแบบนี้เพราะกำลังควบคุมสติของตัวเอง สถานการณ์ก่อนหน้าที่มาเฟียหนุ่มได้จัดการพวกผู้ชายพวกนั้นเสร็จเขาก็เอ่ยปากไล่ให้เธอขึ้นมานอน
ในนี้เป็นห้องรับรองแขกที่ได้ยินคนอื่นพูดมาว่าที่นี้เป็นแค่บ้านพักที่เอาไว้ใช้เมื่อมาทำงานที่โกดังแห่งนี้เท่านั้น บ้านจริง ๆ ของเขาจะอยู่อีกที่หนึ่ง แต่ที่ไหนตอนนี้เธอก็ไม่คิดที่อยากจะไป
ไหน ๆ วันนี้เธอก็มาที่โกดังตามที่ใจเธอเคยอยากมาแล้วกะจะรอเวลาให้ดึกมากกว่านี้เสียก่อน แล้วเธอจะเข้าไปสำรวจหาข้อมูลที่เธอต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายและมาเฟียนั้นมีธุรกิจอะไรบ้างวันนี้เธอต้องรวบรวมเอามาทั้งหมดให้ได้ เพราะเธออยากไปให้พ้นจากสถานที่อันตรายแห่งนี้เต็มทน ยิ่งอยู่ห่างจากเขาได้เท่าไรชีวิตของเธอยิ่งปลอดภัยขึ้นเท่านั้น
เวลาตีสองกว่า ๆ ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงและแอบย่องออกมาอย่างเงียบเฉียบที่สุด เธอมองซ้ายมองขวาเมื่อปลอดภัยจึงรีบเดินย่องออกมาท่ามกลางความเงียบเชียบที่สุด
เธอเดินเข้ามาในโกดังท้ายสุดเพราะในนี้มีหลายโกดังมาก แต่โกดังนี้เธอเข้ามากลับไม่มีอะไรมีแต่ความว่างเปล่าเธอจึงรีบเดินออกมา ตอนแรกกะจะเอามือถือมาถ่ายรูปแต่เธอไม่รู้ว่ามือถือของเธออยู่ไหน โทรศัพท์ที่แอบเอาไว้ใช้ติดต่ออีกฝ่ายเธอก็แอบเอาซ้อนไว้ที่ผับ
เมื่อโกดังนี้ไม่มีอะไรให้สืบได้เธอจึงเลือกเดินเข้ามาอีกโกดังหนึ่งและก็ต้องยิ้มออกมาเพราะที่นี่น่าจะเป็นที่ทำงานของเขาที่เอาไว้ใช้เก็บข้อมูลของลูกค้าและจำนวนสินค้า เพราะในนี้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากมีกองเอกสารและแฟ้มต่าง ๆ อยู่ในตู้กระจก และมีห้องทำงานต่าง ๆ อย่างไม่น่าเชื่อว่าในโกดังจะมีของแบบนี้เพราะส่วนมากเอาไว้ใช้เก็บสินค้ามากกว่าเอาไว้ใช้เก็บเอกสารและทำงานออฟฟิศในนี้ เพราะมันเหมือนออฟฟิศดี ๆ นี้เอง
“มาดูกันสักตั้ง มันต้องเจออะไรที่เป็นประโยชน์บ้างแหละ” เธอว่าและหยิบแฟ้มแต่ละแฟ้มขึ้นมา ส่วนมากเธอเจาะจงเอาข้อมูลซื้อขายมากกว่า เพราะฝ่ายที่บังคับให้เธอมาแอบสอดส่องต้องการแค่ข้อมูลซื้อขาย และชื่อของลูกค้าเท่านั้น
“อ๊ะ! เจอแล้ว” เธอรีบอ่านและพยายามจดจำให้ได้มากที่สุด เมื่อได้สิ่งที่เธอต้องการจึงรีบไปดูส่วนอื่นต่อ
มือเรียวหมุนลูกบิดประตูอย่างเบามือที่สุด พอเข้ามาในนี้ค่อนข้างมืดไม่เหมือนข้างนอกที่ยังมีแสงไฟจากข้างนอกส่องผ่าน เธอจึงค่อย ๆ คลำทางไปและรู้สึกจะมีประตูอีกฝั่งจึงเปิดประตูออกไป จึงเห็นว่าเป็นทางเชื่อมออกไปข้างนอก
เธอเปิดเอาไว้แบบนั้นเพื่อต้องการให้แสงไฟส่องเข้ามา เธอจึงเริ่มหาสิ่งที่เธออยากได้ว่ามาเฟียโรคจิตคนนี้มีธุรกิจอะไรบ้าง มันน่าแปลกที่เป็นเหมือนออฟฟิศแต่มันกลับไม่มีคอมพิวเตอร์สักตัว จะมีก็แต่เอกสารที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบ เหมือนรอให้เธอมาสืบมาค้น
“ใจเย็น ๆ นานามันคงไม่มีอะไรหรอก รีบหาข้อมูลที่จำเป็นชีวิตเฮงซวยและพี่สาวที่น่าสงสารจะได้หลุดพ้นจากไอ้พวกเวรไง”
เธอปลอบใจตัวเองและนั่งลงไปกับพื้น เมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินตรวจอยู่ข้างนอก
“โกดังสองมันลืมปิดประตูเหรอวะ” เสียงคนด้านนอกเอ่ยถามคนที่ตรวจเวรด้วยกัน
“คงงั้นมั้ง รีบปิดแล้วไปเปลี่ยนเวรกะสามต่อเถอะ เราจะได้ไปพักกัน”
“เออ..คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เราไปกันเถอะ” ชายสองคนปิดประตูเสร็จก็เดินออกไป เธอเงี่ยหูฟังเมื่อไม่ได้ยินเสียงเดินแล้วจึงใช้มือคลำทางอีกรอบเพราะเมื่อประตูปิดลงในนี้ก็มีแต่ความมืด
แกร๊ก!!
“เธอนี่เองสินะหนอนบ่อนไส้” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้นท่ามกลางความมืด
เฮือก!!
“คะ คุณฟาริส”
“วิ่งสิ ถ้าไม่อยากให้ฉันฆ่าเธอ ก็รีบวิ่งออกไปซะ” เสียงเย็นยะเยือกที่เต็มไปด้วยความสนุกเอ่ยบอก และกอดอกมองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนพื้นที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“แฮก แฮก!!”
ขาเรียววิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ถึงแม้จะวิ่งให้สุดแรงยังไงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินตามมาจากข้างหลังอย่างใจเย็นไม่ห่าง
เธอวิ่งออกมาไม่คิดชีวิตและวิ่งเข้าไปในโกดังแห่งหนึ่งเพื่อไปซ่อนตัว
ตึก ตึก!!
“ฮ่า ฮ่า วิ่งเร็ว ๆ สิ วิ่งอีก” เสียงหัวเราะที่ได้ยินมันช่างน่ากลัวเสียดแทงไปยันข้างในจนขนแขนลุกไปด้วยความเสียวสันหลัง
“แฮก แฮก ไม่นะ ไม่ จะมาตายอยู่ที่นี่ไม่ได้” เสียงหายใจเหนื่อยหอบและพยายามวิ่งสุดแรงในท่ามกลางความมืด ตลอดทางที่วิ่งมาเธอชนอะไรไม่รู้ต่ออะไรมาตลอดทาง แต่ไม่คิดจะหยุดเพราะรู้อะไรมันน่ากลัวกว่าและสิ่งที่กำลังตามมานั่นมันน่ากลัวจนแทบอยากร้องไห้ให้สิ้นสติ
“ฮ่า ฮ่า ซ่อนให้ดีล่ะ” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะและเสียงผิวปากมาตลอดทาง
“แฮก แฮก ตรงนั้น” ขาเรียวเล็กรีบวิ่งไปตรงจุดมุมมืดที่แทบมองอะไรไม่เห็นถ้าไม่สังเกตให้ดี ๆ มันเป็นซอกเล็กคับแคบที่ตัวเธอสามารถเข้าไปหลบซ่อนได้
ตึก ตัก ตึก ตัก!! เสียงหัวใจที่เต้นระส่ำบวกกับเสียงฝีเท้าที่ย่างกรายเข้ามาทำให้หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น ได้แต่นั่งภาวนาว่าอย่าให้เขาจับได้เลย เพราะครั้งล่าสุดเธอเห็นว่าเขานั่นฆ่าคนได้อย่างเยือกเย็น
เสียงผิวปากยังคงดังเข้ามาเรื่อย ๆ จนเธอต้องกลั้นหายใจเพราะกลัวเขาจะได้ยิน และเสียงฝีเท้าดังเดินเข้ามาจนใจเธอเต้นระส่ำสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าที่ดังมาตลอดได้หยุดลง และในตอนนี้ในพื้นที่โกดังเก่า ๆ มีแต่ความเงียบ เงียบจนเธอกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหายใจของเธอ
“หึ หึ อยู่นี่นี้เอง” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยอย่างเป็นเรื่องสนุกและกระชากร่างบางออกมา
“กรี๊ด!!”
“ฮ่า ฮ่า จับได้แล้วสนุกไหม” เสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาในโสตประสาทแทบทำให้เธอสิ้นสติ
“บะ บอสค่ะ นานาแค่หลงทางค่ะ เลยเข้าไปในนั้นโดยไม่รู้ตัว”
“แล้ววิ่งทำไม” มาเฟียหนุ่มถามและนั่งชันเข่ามือสองข้างวางไว้ตรงหัวเข่ามองมาที่หญิงสาวนิ่ง
“ก็บอสบอกให้วิ่ง นานาก็เลยวิ่งไงคะ”
“เด็กน้อย ชอบเล่นเกมเหรอ”
“ปะ เปล่าค่ะ นานาไม่ชอบ” เธอปฏิเสธเสียงแข็งและนั่งจับหัวเข่าของตัวเองที่มีเลือดไหลออกมา
“เธอหาอันนี้อยู่เหรอ” ชายหนุ่มล้วงมือเข้าไปในเสื้อของตัวเองและกางกระดาษออกต่อหน้าเธอ
“รายชื่อลูกค้า” เธอพึมพำและต้องตาโตเพราะมันเป็นสิ่งที่เธอต้องการ
“หึ หึ I caught you สาวน้อย”
----------------------------------------------
เอาแล้ว ๆ เป็นไงต่อล่ะทีนี้
เรามาเดากันเถอะ ep ต่อไปจะรอดหรือร่วง
แต่ฟาริสเหมือนฆ่าตกรโรคจิตเลยง่ะ
“หึ หึ I caught you สาวน้อย” เสียงหัวเราะในลำคอและสายตาที่ว่างเปล่าจดจ้องมาทางเธอเนื้อตัวของหญิงสาวเย็นเฉียบและแน่นิ่งไม่ฉับพลัน จบแล้วสินะชะตาชีวิตของเธอ เขาจะทรมานเธอรูปแบบไหนเธอไม่อาจรู้ ขอให้ตายไว ๆ ก็แล้วกันจะได้ทรมานน้อยลง“อยากได้ก็เอาไปสิ เอาไปให้นายของเธอ” มาเฟียหนุ่มยิ้ม และเอากระดาษยัดใส่มือของหญิงสาว และลูบที่ใบหน้าสวยก่อนจะพูดบางอย่างออกมาทำให้หญิงสาวแทบสิ้นสติ“ถ้าเธอคิดว่าจะมีลมหายใจออกไปได้อะนะ สาวน้อย”เท่านั้นแหละสาวน้อยตรงหน้าของเขาที่พยายามทำเป็นแข็งแกร่งมาตั้งแต่แรกปล่อยร้องไห้โฮออกมาอย่างน่าสงสารฟาริสนั่งมองและจุดบุหรี่สูบไปด้วยทุกครั้งที่เขาฆ่าคนและเธอเห็น แต่เด็กน้อยตรงหน้าก็ไม่ร้องไห้ให้เห็นน้ำตา แต่นี่กลับปล่อยร้องไห้โฮออกมาเหมือนเด็กน้อยที่น่าสงสารคนหนึ่ง“ทำไมกลัวตายเหรอถึงร้องไห้” เขาถามและฉีกยิ้ม เพราะยิ่งเห็นน้ำตาของหญิงสาวเลือดลมเขายิ่งสูบฉีด“ไม่ หนูไม่กลัวตาย แต่หนูกลัวพี่สาวหนูตาย ฮื่อ”มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มเมื่อได้ยินหญิงสาวแทนตัวเองว่าหนูคงไม่อยากปิดบังแล้วสินะว่าตัวเองยังเป็นเพียงแค่เด็ก“ทำไมพี่สาวของเธอต้องตายด้วยล่ะ” เขาถามอย่างใจเย็น แต่หญิงสา
“อือ หนูเจ็บ โอ๊ย!!” เสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อฟันคมกัดไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ขนาดคอเขาก็ไม่เว้นหมาบ้าชัด ๆ“เลือดเธอหวานจัง” เสียงพูดอย่างคนโรคจิตกระซิบที่ข้างหูสวย และใช้ฟันกัดไปที่แก้มแต่ไม่แรง และใช้ลิ้นเลียตรงที่ตัวเองกัด เขายิ้มเหมือนพอใจกับผลงานของตัวเองเป็นอย่างมาก“หนูยังเด็กนะคะ บอสจะทำลงเหรอ”เธอหันมาถามทั้งน้ำตา แต่ชายหนุ่มกับยิ้มและใช้นิ้วลากไปตามกรอบหน้าสวยและเปลี่ยนมืออีกข้างลากไปตามแผ่นหลังเนียนที่ตอนนี้มีแต่รอยฟันและรอยจูบ“เคยบอกแล้วไงโคแก่มันชอบกินหญ้าอ่อน”“แต่หนูเป็นหญ้าแก่”“ฮ่า ฮ่า เธอนี่ไม่กลัวตายจริง ๆ เลยนะ”ใครว่าเธอไม่กลัวตาย ตอนนี้กลัวจนฉี่แทบราด แค่ปากดีจนติดเป็นนิสัย“บอกว่าไม่เคยแล้วทำไมตรงนี้แฉะล่ะ” มือหนาคลึงตรงรอยแยกเมื่อเห็นตรงนั้นของหญิงสาวกำลังผลิตน้ำหวานออกมาเธออยากจะเถียงเหลือเกินแต่ก็กลัวเขาจะโกรธ ที่มันแฉะก็เป็นเพราะเขาไหม มัวจูบเล้าโลมอยู่นั้นมันก็ต้องแฉะถึงแม้เธอจะไม่เคยเรื่องพวกนี้ แต่เธอเองก็ไม่ได้โง่จนไม่รู้เรื่องว่ากลไกของมันจะทำงานยังไง“อ่าส์~~” เธอเผลอร้องครางออกมาแผ่วเบาเมื่อมือนิ้วแกร่งสัมผัสตรงรอยแยกและใช้นิ้วเขี่ยตรงจุดกระสัน
“อ๊า~~~”เสียงแหบแห่งครางออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อทั้งตัวเหมือนโดนรถสิบล้อทับมา ขยับตรงไหนตรงนั้นก็เจ็บ ตัวก็รู้สึกร้อนวูบวาบแปลก ๆ เหมือนจะจับไข้“ตื่นแล้วเหรอคะ” เธอหันไปมองตามเสียงเหมือนคนมีอายุเล็กน้อยทางด้านหลัง“ค่ะ”“ยาแก้ปวดและลดไข้ค่ะ” หญิงวัยกลางคนส่งยามาให้เหมือนคนที่ทำหน้าที่นี้อย่างเคยชินเธอมองสำรวจเนื้อตัวของตัวเองก็ต้องตกใจเพราะมีแต่รอยแดงเต็มไปหมด และตรงพื้นก็มีแต่ถุงยางและซองถุงยางเต็มไปหมดมันน่าอายจริง ๆ ไหนจะผู้หญิงคนนี้อีกที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“เชิญคุณนานาไปอาบน้ำได้เลยค่ะ แช่น้ำอุ่น ๆ สักครู่แล้วคุณจะรู้สึกดี”“ขอบคุณค่ะคุณป้า”“อาบเสร็จป้าจะขึ้นมาตาม เพราะนายรอคุณนานาอยู่ด้านล่างค่ะ”“ค่ะ” เธอรับคำและเดินกะเผลก ๆ เข้าไปในห้องน้ำอย่างทุลักทุเลป้าแม่บ้านได้แต่ส่ายหน้ากับรสนิยมของนายตัวเอง เธอทำงานนี้จนเคยชินแล้วกับสภาพของผู้หญิงทุกคนที่ได้ร่วมหลับนอนกับนายน้อยของเธอแต่เด็กคนนี้รู้สึกเหมือนจะเด็กกว่าทุกคนที่นายเคยพามา ส่วนมากมาเฟียหนุ่มชอบหิ้วสาวมานอนที่นี่มากกว่าจะใช้ห้องที่ผับ น้ำแตกก็แยกย้าย แต่กับเด็กคนนี้เขากลับสั่งให้ขึ้นมาดูแลและเตรียมน้ำให้อาบ“ตื่
แจ๊ะ แจ๊ะ!!เสียงนิ้วและเสียงลิ้นที่ละเลงใส่รูอันคับแคบดังออกให้ได้ยิน หญิงสาวอับอายจนแทบอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ยังตายไม่ได้เพราะถ้าเธอตายพี่สาวเธอก็ต้องตายเหมือนกัน“อื้อ อะ อ่าส์”ปากอวบอิ่มเผยอร้องครางเมื่อลิ้นร้อนสอดใส่เข้ามาและจ้วงทะลวงเข้าลึกพร้อมกับนิ้วเรียวยาวไปพร้อม ๆ กัน จนเธอเสียวจนเผลอครางออกมา ไหนขาที่สั่นจนควบคุมไม่ได้นี่อีกนัยน์ตาคมเหลือบมองหน้าสวยที่น้ำตาปริมคลออกมาให้เห็น พร้อมกับใบหน้าที่แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นเสียวมากมายขนาดไหนกับสัมผัสที่วาบหวามที่เขานั้นมอบให้ปากหยักคลี่ยิ้มอย่างถูกใจและลุกขึ้นเช็ดน้ำตาให้ออกจากใบหน้าสวย เขาชอบเหลือเกินเวลาที่เธอร้องไห้เพราะเขานั้นยิ่งมีอารมณ์“เฮียจะให้หนูคุยกับพี่ใช่ไหม ถ้าเฮียทำจบแล้ว”“ถ้าเธอเป็นเด็กดี และเชื่อฟัง” เสียงเจ้าเล่ห์บอกด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง และจับให้ใบหน้าสวยลุกขึ้นมามองที่แก่นกายผ่องขยายใหญ่ของเขา พลางใช้สายตาบังคับให้หญิงสาวจัดการมันเธอเม้มปากแน่นอย่างหวาดหวั่น และคลานลงมานั่งใบหน้าประสานกับแก่นกายใหญ่ที่แทบจะทิ่มเข้าปากปากเล็กค่อย ๆ อ้าและพยายามอมให้ได้ครึ่งหนึ่ง เพราะขนาดของเขามันใหญ่มากจึงยากที่จะอมไ
“พี่แนน พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม”เมื่อมาเฟียหนุ่มพาเธอขึ้นมาบนห้องเธอเองก็ไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหนมาตื่นอีกทีก็ตอนช่วงเย็น และตอนนี้เขาก็ยื่นโทรศัพท์ให้เธอได้ติดต่อกับพี่สาว“พี่ไม่เป็นไรนานา มีคนมาช่วยพี่ออกมาจากไอ้พวกนั้น”“ตอนนี้พี่อยู่ไหน”เธอถามด้วยความเป็นห่วง น้ำตาแห่งความดีใจก็ไหลไม่หยุด แต่ก็รีบเช็ดออกเมื่อชายหนุ่มเอาแต่มอง เพราะกลัวเขาจะมีอารมณ์ขึ้นมาอีก ตอนนี้ถ้าเขาจะทำเธอขอตายไปเลยดีกว่าเพราะรับไม่ไหวแล้ว“พี่บอกไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยของนานาด้วย เราไม่ต้องห่วงพี่นะ ตอนนี้พี่สบายดี คนที่นี่ดูแลพี่เป็นอย่างดี กินอาหารครบสามมื้อทุกมื้อ”“นั้นพี่จริง ๆ ใช่ไหม”“ใช่พี่เอง” สักพักปลายสายก็เปลี่ยนเป็นโทรแบบเห็นหน้ามาให้ เธอจึงยิ้มออกมาได้ในที่สุด และรู้สึกหายห่วงเป็นปลิดทิ้ง “ตอนนี้เชื่อแล้วใช่ไหม”“ค่ะพี่” เธอยิ้มกว้าง แทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก“พี่ต้องวางแล้ว ดูแลตัวเองด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงพี่นะนานา”“ค่ะพี่แนน”“คราวนี้พอใจแล้วใช่ไหม” เสียงราบเรียบเอ่ยถามพร้อมกับดึงโทรศัพท์คืน“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยพี่สาวหนูออกมา”“หึ ฉันไม่ช่วยเธอฟรี ๆ หรอก ฉันจะให้เธอตอบแทนใ
“ตื่นแล้วเหรอ ฉันก็หลงคิดว่าเธอซ้อมตายซะอีก” เสียงทุ้มถามแต่สายตายังไม่ลดละจากเอกสารที่ถือเข้ามาด้วย ที่เขาเข้ามานั่งรอให้หญิงสาวตื่นมาได้สักพัก“ตกใจหมดเลยค่ะ” ร่างเล็กสะดุ้งตกใจจึงเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง และไม่รู้เลยว่าเธอไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ทั้งที่ก่อนนอนเธอยังใส่ชุดนอนอยู่เลย“เป็นเพราะเธอยังเด็กเหรอนมเธอถึงดูเด้งน่าบีบขนาดนั้น” เสียงเจ้าเล่ห์ถาม แต่สายตากลับน่ากลัวจับจ้องมาทางหญิงสาวนิ่ง“ยะ อย่ามองนะ หนูจะไปอาบน้ำ” หน้าเธอแดงแปร๊ดและรีบลุกขึ้นแต่กลับไม่มีอะไรมาคลุมตัวเลย สภาพเธอเป็นแบบนี้ต้องเป็นเพราะเขาแน่ ๆ“ฉันเห็นมาตั้งสองครั้งแล้ว เธอจะอายอะไร”ร่างเล็กหยุดเดินเมื่อผ้านวมเธอถูกฝ่าเท้าของมาเฟียเอาแต่ใจเหยียบเอาไว้ และกอดอกมองมาทางเธอนิ่ง ด้วยความสูงที่เธอสูงแค่หน้าอกของเขาจึงต้องแหงนหน้ามอง“หนูไม่ใช่เด็กแก่แดดนะ ที่จะต้องก้านโลก” เธอเถียงกลับและมือกำชับผ้านวมกอดไว้แน่น เมื่อมือหนากำลังจะดึงผ้านวมเธอออก“เลือกเอา อยากขึ้นเตียงกับฉันอีกก็เอาผ้านวมคลุมไว้ แต่ถ้าไม่อยากขึ้นก็เดินเปลือยเข้าห้องน้ำไป"“เฮียฟา” หญิงสาวทำเสียงเหมือนจะร้องไห้ แต่ชายหนุ่มกับทำหน้านิ่งและมือกำลังมาสัมผัสท
“ข้อมูลมีแค่นั้น และชื่อฉันจำมาได้เท่าที่จำได้” เธอกรอกเสียงโทรศัพท์อย่างรำคาญใจ“นานาไม่มีอะไรผิดพลาดใช่ไหม” เสียงทุ้มปลายสายเอ่ยถามเธอถึงกลับสะดุ้ง“ไม่มี ฉันจำมาได้แค่นั้นเพราะตอนนั้นมีคนมาตรวจเวรฉันจึงวิ่งออกมา”“อืม แค่นี้ก็เก่งแล้ว หวังว่าคราวหน้าเธอจะมีผลงานชิ้นใหญ่มาให้ฉันนะ”“ถ้าฉันมีของชิ้นใหญ่มาให้คุณจะปล่อยพี่สาวของฉันใช่ไหม”“ใช่ ฉันจะปล่อยพี่สาวให้กลับมาหาเธอ”โกหก!“จำคำพูดของคุณเอาไว้ด้วย”เธอกรอกเสียงกลับเล่นไปตามแผน เพราะตอนนี้พี่สาวของเธออยู่ในเงื้อมมือของมาเฟียอีกคนแล้ว เพราะอยากให้ทั้งเธอและพี่สาวของเธอปลอดภัย เธอต้องทำงานนี้ให้ออกมาดีที่สุดอย่าให้อีกฝ่ายระแคะระคายได้โดยเด็ดขาด“อืม อีกสองวันฉันจะติดต่อกลับ ไฮโทมัส!!” ทันทีที่มีเสียงผู้หญิงดังเข้ามาคนในปลายสายก็รีบตัดสายไปทันที“อะไรวะ” เธอมองโทรศัพท์อย่างฉงน ปลายสายรีบตัดเหมือนกลัวว่าเธอจะล่วงรู้อะไรไม่ควรรู้เลยก๊อก ๆเธอสะดุ้งตกใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วมีคนมาเคาะประตู“ใครคะ” เธอถามกลับไปด้วยใจที่เต้นระส่ำ สายตาสอดส่องหาอาวุธมาถือ เห็นร่มวางอยู่ตรงซอกตู้จึงรีบมาถือเอาไว้แต่ไม่มีใครตอบกลั
“หนูไม่ใส่ให้ตายก็ไม่ใส่” นานาร้องโวยวายอย่างไม่พอใจเมื่อเปิดตู้มาแทบช็อกให้แดดิ้นตายตรงนั้น เขาเป็นมาเฟียโรคจิตขนานแท้ ของในตู้มีแต่ของเล่นผู้ใหญ่ ไหนจะชุดหนังนี่อีกเขาอยากให้เธอใส่ทำอะไร“จะใส่ดี ๆ หรือต้องกินลูกตะกั่วก่อน” ฟาริสขู่เขาไม่ได้ขู่เล่น ๆ แต่เขาจะทำจริง ๆ เขาไม่ชอบเสียเวลาและไม่ชอบให้ของเล่นมาดื้อต่อรองอยู่แบบนี้“แต่เฮียฟาริสขา จะให้หนูใส่ไปทำไม เสื้อผ้ามันก็ชิ้นเล็ก ๆ ปิดแค่ตรงนั้นอีก” ถึงใส่ไปยังไงก็ต้องถอดไหมแล้วจะให้เธอใส่ทำเพื่อ“1 2...” มาเฟียหนุ่มเริ่มนับและชักปืนออกมาถือและสายตาคมจดจ้องมาทางร่างหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า“ให้ตายเถอะ”เธอสบถออกมาอย่างหัวเสียและจำใจถอดชุดเก่าของตัวเอง เพราะถ้าขืนเธอวิ่งเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำเขาเองก็คงขัด ถอดและใส่มันตรงนี้แหละหน้าด้านเข้าไป และอย่าลืมต้องออดอ้อนเข้าไว้ อ้อนให้เขาหลงหัวปักหัวปำไปเลย“ฉันได้ยินเธอสบถนะ เป็นเด็กเป็นเล็กมาสบถให้ผู้ใหญ่ฟังได้ไงไม่น่ารักเลย”ไม่น่ารักก็ไม่ต้องน่ารักตัวเองแก่กว่าเธอกี่ปีเองมาทำเหมือนตาแก่ขี้บ่นไปได้ ถ้าไม่เห็นว่าเป็นมาเฟียโรคจิตฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลานะเธอวิ่งแจ้นหนีไปไหนต่อไหนแล้ว
“ลิปสติกสีนี้สวยดูเหมาะกับเธอมากเลยนานา” เสียงพูดออกมาอย่างตื่นเต้นจากเพื่อนผู้หญิงคนใหม่ที่เพิ่งมาสนิทได้ไม่นานเอ่ยบอก“จริงเหรอบี”นานาถามออกไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เรื่องอื่นเธอเก่งเธอมั่นใจตลอดแต่พอเป็นเรื่องการแต่งตัวและเครื่องสำอางเธอไม่ค่อยมั่นใจเลย เพราะแต่งหน้าไม่เก่ง ตอนนี้แต่งหน้าได้เพราะได้พี่ก้อยช่วยสอน เพราะตอนทำงานที่ผับต้องมีหน้าตาเอาไว้ใช้หากิน และเธอต้องอำพรางอายุด้วยเลยแต่งหน้าเข้มให้ดูเซ็กซี่ที่สุด“ใช่นานาเชื่อเราสีนี้สวยมาก มันดูเป็นลูกคุณหนูเลย” บีจึงยื่นลิปสติกทาให้ เธอจึงลองมองดูในกระจก ใช่มันดูสวยและดูสุภาพมากดูแบบใส ๆ สมกับอายุ“งั้นเราเอาอันนี้แหละ”“ดีเลย เราก็จะเอาอันนี้เอาไว้เป็นคู่กันไงล่ะ”“อือ บีจะซื้ออะไรอีกไหม”“คุณพ่อให้บัตรไม่จำกัดวงเงิน เราเข้าไปไปในชอปนั้นกันเถอะ” บีชี้แบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งที่เธอไม่เคยคิดที่จะย่างกรายเข้าไป ให้เข้าไปนะเข้าได้แต่เธอคงไม่มีปัญญาซื้อเหมือนเขาหรอก“ชุดนี้สวยไหม” บีเดินออกมาด้วยชุดสีชมพูที่ปักกระดุมไข่มุกอย่างสวยงามออกมา“สวย ดูเหมาะกับบีด้วย”“จริงเหรอ งั้นเราเอาชุดนี้” บียิ้มกว้างและหมุนดูตัวเองในกระจก “นานามาลองดูชุดส
เผียะ!“โอ๊ย! หนูเจ็บ”ฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าที่บั้นท้ายเธอเต็มแรง เธอเจ็บแต่มันก็เสียวด้วย จะให้พูดไปมันก็น่าอาย“ปากบอกเจ็บ แต่มันรัดฉันไม่หยุดเลยนะ เด็กขี้โกหกมันไม่ดีไม่ใช่เหรอนานา”“มะ ใช่นะ หนูไม่ได้โกหก เฮีย เบา ๆ อ๊า~” ใบหน้าสวยเหยเกเมื่อความใหญ่โตอัดกระแทกเข้ามาลึกขึ้น เขาตอกอัดเข้ามาอย่างแนบแน่นทุกจังหวะ“อ๊า ขะ ของเฮียมันใหญ่ ไม่ไหวแล้ว”“หึ พึ่งใส่เข้าไปได้ไม่เท่าไรเองนะ ใจเสาะซะแล้ว”“ไม่เอา ไม่ไหวแล้ว อื้อ” นานาดิ้นและเอาเล็บจิกไปกับผนังห้องน้ำ เธอเสียวเหลือเกิน ความรู้สึกแปลกใหม่มันวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเธอ มันเป็นความรู้สึกที่อยากปลดปล่อยบางอย่าง เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่เธอบอกว่าปวดฉี่แต่จริง ๆ ที่ออกมามันกลับใช่ฉี่ อือ ไม่ไหวแล้วพรวด!!น้ำสีใสไหลทะลักออกมาอย่างกับก๊อกน้ำเมื่อแก่นกายใหญ่ตอกอัดเข้ามาถี่ ๆ ตรงส่วนนั้นของเธอมันบีบรัดจนเธอเสร็จถึงจุดสุดยอดจึงปลดปล่อยน้ำออกมาอย่างล้นทะลัก“เฮ้อ อ๊า เฮีย”“เหอะ! เธอเสร็จได้ถูกใจฉันจริง ๆ สาวน้อย” ฟาริสฉีกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจเมื่อหญิงสาวเสร็จถึงจุดสุดยอด“อ๊า เฮีย” เธอเอ่ยร้องเรียกด้วยน้ำเสียงที่หมดเรี่ยวหมดแรง แต่ยังไม่ทันได้พ
“เฮอะ! ไม่มีทางเป็นอิสระเหรอ ไอ้สารเลว ไอ้เฮงซวย” นานายืนด่ามาเฟียหนุ่มด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเธอขอตัวขึ้นมาบนห้องใช้ข้ออ้างว่าอยากเปลี่ยนชุด แต่แท้จริงอยากขึ้นมาแอบด่าเขาด้วยความรุนแรงต่างหาก“จะให้อยู่ไปทำเพื่ออะไร หรืออยากกินเด็กวัยเอ๊าะ ๆ กันฮะ” ด่าไปด้วยความเกรี้ยวกราด สงบสติอารมณ์ได้จึงเปลี่ยนชุดและลงไปข้างล่างที่ยังมีมาเฟียหนุ่มนั่งอ่านหนังสืออยู่ เมื่อกี้ทำท่าจะจับเธอกิน ตอนนี้คงลืมไปแล้วละมั้ง“เฮีย!” เธอตะโกนเรียกเสียงดังอย่างลืมตัว มาเฟียหนุ่มจึงละหน้าจากหนังสือและขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ“เสียงดังทำไม ไม่มีมารยาทเลย”น่ะ! มาทำเป็นสอนเรื่องมารยาทกับเธอเสียด้วย ควรสอนตัวเองก่อนไหมคะ?“ผู้หญิงคนอื่นของเฮียไม่มีเหรอ”“ทำไม หรือว่าเกิดหึงขึ้นมา”“หนูมีสิทธิ์หึงด้วยเหรอ”“หึ” ฟาริสหัวเราะในลำคอแต่ยังคงอ่านหนังสือต่อโดยไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถาม“หนูถามว่ามีไหม”“ไม่มี มีแต่ที่เอาแล้วทิ้ง” สายตาดุตวัดขึ้นมามองร่างเล็กที่นั่งเกาะแขนเขาอยู่เหมือนเด็กน้อย“ทำไมเฮียไม่มีล่ะ ช่วยมีผู้หญิงที่เฮียเลี้ยงเก็บไว้ด้วยเถอะ” ใช่ช่วยมีบ้างเถอะ จะได้เลิกยุ่งกับเธอสักที ตั้งแต่อยู่กับเขามาก็เห็นหน้าเขาทุ
วันเปิดภาคเรียนก็มาถึงนานาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อคืนเธอก็แทบนอนไม่หลับ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ก้าวสู่รั้วมหาลัยเหมือนกับเด็กทั่วไปเธอมองผู้คนโดยรอบที่ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกันกับเธอ แต่ละคนดูสวยใสไม่แพ้กันเลยทีเดียว“ให้ตายสิตื่นเต้นชะมัด”เธอเดินไปตามป้ายของตึกคณะ และดูห้องที่ต้องไปเรียน บอกตามตรงเธอก็ไปไม่ถูกได้แต่อ่านป้ายและเดินตามไป“ตึก A ชั้น 14” เธอพูดพึมพำอ่านตารางคู่มือในโทรศัพท์เอาโดยไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้าง“เป็นเด็กบริหารเหรอ”“หืม?” นานาขานรับในลำคอและเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเป็นผู้ชายที่ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสมีลักยิ้มที่แก้มหนึ่งข้างด้วย “ใช่ค่ะ”“เราเจย์ อยู่ปีหนึ่งคณะบริหารเหมือนกัน ขึ้นไปด้วยกันไหม”“อือ เรานานา” เธอพยักหน้ารู้สึกว่าตัวเองรอดตายแล้ว “เจย์เป็นเด็กปีหนึ่งเหมือนกันทำไมดูชำนาญทางจังเลย”“พี่เราเคยพาทัวร์นะ แต่ตอนนี้เรียนจบไปแล้วก่อนจบเขาพามาดูก่อน จะได้ไม่หลงเหมือนกับนานาไง”“เราไม่ได้หลงนะ” นานารีบแก้ตัว เธอไม่ได้หลงเสียหน่อยก็แค่ช้าเท่านั้นเอง“ขอโทษ เราแค่แกล้งเธอเล่นเอง” เจย์ฉีกยิ้มกว้างจึงเห็นลักยิ้มของเขา ทำไมมันดูเท่และน่ารักจังทั้งสองเดินเข้ามาด้า
“มันก็ไม่เท่ากับใครบางคนที่ชอบมาเล่นลอบกัดข้างหลังหรอกว่าไหมคุณโทมัส” ฟาริสตอบเป็นภาษาอังกฤษแสยะยิ้มและใช้สายตาดูแคลนเหยียดมอง“หึ ดูเหมือนผมจะเล่นผิดคนสินะ” โทมัสยิ้มเย็นอย่างไม่สะทกสะท้าน“เล่นผิดเต็ม ๆ เลยแหละ”“แต่ผมชอบนะ ที่เล่นผิดตัว” โทมัสตอบหน้านิ่งไม่ไหวติ่งใด ๆ แต่ฟาริสเองก็ไม่น้อยหน้ามองมาทางคู่อริอย่างเชือดเฉือนเช่นกัน“เด็กนั้นกูขอ และเลิกยุ่งกับเธอซะ” ฟาริสเอ่ยเข้าเรื่องและไม่จำเป็นต้องสุภาพอีกต่อไป“ทำไมกูต้องทำ”“กูรู้นะว่ามึงต้องการอะไร เรื่องนั้นกูจะไม่ยุ่ง ถ้ามันไม่เกี่ยวกับธุรกิจของกู”“รู้แต่ก็ปล่อยผ่านจะใจดำเกินไปไหมครับคุณฟาริส”“หึ กูไม่ต้องทำอะไรหรอก แต่ฝั่งที่มึงจะเล่นอาจจะไม่ง่ายแบบที่มึงคิดก็ได้”“ง่ายหรือไม่ง่าย แต่ลูกสาวที่เขาหวงแหนหนักหวงแหนหนาก็โดนกูจับกินไม่รู้จะกินยังไงแล้วนะสิครับคุณฟาริส”“ถ้ายังอยากให้ธุรกิจของมึงอยู่รอดปลอดภัยก็เลิกยุ่งกับกูซะ และปล่อยเด็กนั่นไป”“พูดง่ายจัง”“ของที่มึงเอาไปคิดซะว่าเป็นค่าไถ่ชีวิตเด็กนั้นกับพี่สาวของเธอก็แล้วกัน”“หึ ดูท่ากูจะพลาดท่าหนักซะด้วยสินะ ของมูลค่าหลายสิบล้านที่ได้มาแต่ต้องแลกกับฐานข้อมูลสำคัญไป”“มึงก็ได
“อื้อ อย่ากวน” เสียงบ่นอย่างรำคาญเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างรบกวนและยุ่งไปตามร่างกายแต่การรุกรานไม่ยอมจบสิ้น กลับรู้สึกรับรู้ถึงความเปียกแฉะเพิ่มมากขึ้น ตามเนื้อตัวร้อนรุ่มแปลก ๆ นี่เธอฝันอะไรกัน พยายามลืมตาตื่นแต่ไม่สามารถทำได้เพราะรู้สึกหนักอึ้งเหลือเกินจ๊วบ จ๊วบ!!เสียงดูดยังคงดังให้ได้ยินเป็นระยะ มันน่ารำคาญเหลือเกินเธออยากจะนอนแต่ลืมตาขึ้นมาไม่ได้ ลืมตาตื่นสักทีเถอะ เวรเอ๊ย!สวบ!เฮือก!! ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกลืมตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เมื่อรู้สึกเสียวซ่านที่ช่องท้อง พอลืมตาก็รู้ว่าไม่ได้ฝันไปแต่มันคือความจริงที่กำลังมีดุ้นใหญ่ยักษ์เสียบเข้าที่กลางกายของเธอไอ้เวร!! เธอละอยากด่าเขาจริง ๆ“เฮีย มาลักหลับแบบนี้หนูก็ตกใจเป็นนะ” เธอบ่นกระเง้ากระงอด แต่ก็ร้องครางออกมาเมื่อร่างใหญ่ขยับ“ปลุกทำไม แค่เสียบเข้าไปเดี๋ยวเธอก็ตื่น”ไอ้โรคจิตเอ๊ย!!เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดมาเธอจึงก่นด่าในใจอีกครั้งและปล่อยให้เขากระหน่ำเข้าใส่ตามที่ต้องการทุกการเคลื่อนไหวมันช่างซาบซ่านแม้จะไม่พอใจแต่ร่างกายของเธอกลับย้อนแย้ง ตรงกลางกายของเธอก็เปียกชื้นส่งให้แก่นกายใหญ่เข้าออกได้อย่างสะดวก แต่มันก็มีความรู้สึกอย่า
“ไอ้เวรตะไล”เมื่อขึ้นมาบนห้องได้นานาก็รีบถอดชุดนักศึกษาโยนลงบนพื้นด้วยความหงุดหงิด และด่ามาเฟียหนุ่มไปด้วยความเกลียด วันนี้เขาทำให้เธออับอายมาก ไม่รู้จะมีอารมณ์อะไรกันหนักกันหนา เธอไม่อยากใส่ชุดนักศึกษาให้เขาเห็นอีกแล้ว“ให้ตายเถอะ ถ้าฉันไม่มีคนที่รักอย่างพี่สาวฉัน นายไม่มีทางได้ฉันง่าย ๆ แบบนี้หรอก ไอ้มาเฟียโรคจิตเอ๊ย” เนื้อตัวสั่นระริกไปด้วยความโกรธหวังว่าสักวันจะมีวันที่เธอได้เอาคืนดวงตากลมโตหันไปมองโทรศัพท์เครื่องที่เอาไว้ติดต่อกับคนของอีกฝั่ง หยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสายที่รอเพราะครั้งล่าสุดบอกว่าอีกสองวันจะติดต่อมา แต่นี่ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วเพิ่งติดต่อเข้ามา“คุณเกิดอะไรขึ้น ทำไมเพิ่งติดต่อเข้ามา ฉันขอคุยกับพี่สาวฉันหน่อยได้ไหม”“อย่ามาต่อรอง วันนี้ได้ข้อมูลอะไรมา” เสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความกรุ่นโกรธเอ่ยถาม“ฉันต้องการจะคุยกับพี่”“ฉันจะให้คุยแต่ไม่ใช่ตอนนี้”“อีกสองคืนจะมีการปล่อยของ” เธอถอนหายใจและบอกข้อมูลลับให้อีกฝ่ายรู้“มันจะส่งอะไร”“ที่ได้ยินมาเป็นพวกอาวุธปืน กับที่บรรจุกระสุน”“ท่าเรืออะไร” เสียงทุ้มต่ำถามอย่างใจเย็น“ท่าเรือ PAT ของออกไปที่ฮ่องกงเวลา 5 ทุ่มเวลาประเทศ
ร่างเล็กดิ้นพล่านเมื่อลิ้นร้อนเข้ามากัดที่ซอกคอของเธอจนเกิดเป็นรอยฟัน“เจ็บนะคะคุณทำอะไรเนี่ย” ด้วยความตกใจจึงลืมตัวว่าต้องเรียกชายหนุ่มว่าเฮีย“สงสัยลืมที่สั่งอีกแล้วใช่ไหมเด็กน้อยของฉัน” ฟาริสพูดเสียงเย็น และใช้นิ้วมือสอดใส่เข้าที่รูสวาทงอเข้างอออกจนร่างเล็กสะดุ้งโหยงไปด้วยความเสียว“เฮียฟาหนูขอโทษ เราไปทำกันที่บ้านดีกว่าไหม”“เธอมีสิทธิ์ต่อร้องด้วยเหรอ ชักหมดสนุกแล้วซิ” ชายหนุ่มมุ่ยหน้าและสายตาเริ่มแข็งกระด้าง มือเรียวจึงเข้าไปคว้าที่ต้นคอและจูบชายหนุ่มอย่างเอาใจสองริมฝีปากประสานกันและสอดลิ้นเข้าใส่แลกตวัดอย่างหยอกล้อปากหยักคลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อกี้เริ่มหมดอารมณ์และเริ่มเบื่อความที่หญิงสาวปฏิเสธ แต่ตอนนี้กลับมาตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อร่างเล็กเริ่มเป็นคนจู่โจมเขาเอง“ฉลาดดีนี่” ฟาริสแสยะยิ้มรู้ดีว่าหญิงสาวพยายามเอาใจเพราะกลัวเขาสั่งฆ่า เมื่อกี้ก็เกือบโทรสั่งให้เมธาจัดการไปแล้ว ดีที่ปากเล็ก ๆ นั้นเข้ามาปะทะจูบกับเขาเสียก่อน“อยากให้หนูทำอะไรบอกมาเลยค่ะ” ใบหน้ารูปไข่เงยหน้ามาถามถึงแม้ใบหน้าจะแดงซ่านไปด้วยความเขินอายและความซ่านเสียว“จับมันยัดใส่รูน่ารัก ๆ ของเธอที” เสียงที่เต็ม
หลายอาทิตย์ต่อมา“ร้อนจังเลยค่ะเฮีย”และก็เป็นอีกวันที่เธอเริ่มแผนการที่คิดไว้ ทุกวันเธอจงใจยั่วเขาให้เกิดอารมณ์ และเป็นทุกครั้งที่เขาจะเข้ามามีอะไรกับเธอจนเธอแทบหมดแรง“หึ จะยั่วอะไรฉันอีก หรือเมื่อคืนกินไม่อิ่ม” ฟาริสถามพลางจิบกาแฟดำไปด้วย ทั้งที่เมื่อคืนเขาทำเธอจนแทบเดินไม่ได้ แต่เช้ามาเธอกลับมาคึกได้อีก“ก็เฮียเอาดี เอาแรงไงคะ หนูถึงติดใจ”“เหอะ ฮ่า ฮ่า” เขานั่งหัวเราะ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะมาเล่นไม้ไหนอีก หลายวันแล้วที่เขายอมเล่นด้วย ที่ผ่านมามันก็สนุกดี เมื่อเธอเริ่มปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับเซ็กซ์ของเขา“เฮียฟาขา” เธอเรียกและลุกเดินเข้ามานั่งบนตักแกร่ง แม่บ้านที่คอยอำนวยความสะดวกต่างมองหน้ากัน เพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนกล้าแบบหญิงสาวมาก่อนฟาริสมองหญิงสาวนิ่งแต่ก็ไม่ว่าอะไรที่เธอเข้ามานั่งบนตักและยังเอาหัวมาพิงและกอดคอของเขาเอาไว้“จะเอาอะไร”ฟาริสถามเสียงเบา พลางมองใบหน้าสวยนิ่ง นานาใจเต้นตุ้มๆ ต่อม ๆ เพราะตอนแรกเธอเผื่อใจไว้แล้วว่าเขาอาจโมโหและจับเธอเหวี่ยงบนพื้น แต่เปล่าเลยเขากลับปล่อยให้เธอนั่ง และยังยอมให้เธอทำอะไรโง่ ๆ โดยการอ้อนเขาอยู่แบบนี้“เรื่องเรียนที่มหาลัย เฮียจะให้หน