“เฮอะ! ไม่มีทางเป็นอิสระเหรอ ไอ้สารเลว ไอ้เฮงซวย” นานายืนด่ามาเฟียหนุ่มด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเธอขอตัวขึ้นมาบนห้องใช้ข้ออ้างว่าอยากเปลี่ยนชุด แต่แท้จริงอยากขึ้นมาแอบด่าเขาด้วยความรุนแรงต่างหาก“จะให้อยู่ไปทำเพื่ออะไร หรืออยากกินเด็กวัยเอ๊าะ ๆ กันฮะ” ด่าไปด้วยความเกรี้ยวกราด สงบสติอารมณ์ได้จึงเปลี่ยนชุดและลงไปข้างล่างที่ยังมีมาเฟียหนุ่มนั่งอ่านหนังสืออยู่ เมื่อกี้ทำท่าจะจับเธอกิน ตอนนี้คงลืมไปแล้วละมั้ง“เฮีย!” เธอตะโกนเรียกเสียงดังอย่างลืมตัว มาเฟียหนุ่มจึงละหน้าจากหนังสือและขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ“เสียงดังทำไม ไม่มีมารยาทเลย”น่ะ! มาทำเป็นสอนเรื่องมารยาทกับเธอเสียด้วย ควรสอนตัวเองก่อนไหมคะ?“ผู้หญิงคนอื่นของเฮียไม่มีเหรอ”“ทำไม หรือว่าเกิดหึงขึ้นมา”“หนูมีสิทธิ์หึงด้วยเหรอ”“หึ” ฟาริสหัวเราะในลำคอแต่ยังคงอ่านหนังสือต่อโดยไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถาม“หนูถามว่ามีไหม”“ไม่มี มีแต่ที่เอาแล้วทิ้ง” สายตาดุตวัดขึ้นมามองร่างเล็กที่นั่งเกาะแขนเขาอยู่เหมือนเด็กน้อย“ทำไมเฮียไม่มีล่ะ ช่วยมีผู้หญิงที่เฮียเลี้ยงเก็บไว้ด้วยเถอะ” ใช่ช่วยมีบ้างเถอะ จะได้เลิกยุ่งกับเธอสักที ตั้งแต่อยู่กับเขามาก็เห็นหน้าเขาทุ
เผียะ!“โอ๊ย! หนูเจ็บ”ฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าที่บั้นท้ายเธอเต็มแรง เธอเจ็บแต่มันก็เสียวด้วย จะให้พูดไปมันก็น่าอาย“ปากบอกเจ็บ แต่มันรัดฉันไม่หยุดเลยนะ เด็กขี้โกหกมันไม่ดีไม่ใช่เหรอนานา”“มะ ใช่นะ หนูไม่ได้โกหก เฮีย เบา ๆ อ๊า~” ใบหน้าสวยเหยเกเมื่อความใหญ่โตอัดกระแทกเข้ามาลึกขึ้น เขาตอกอัดเข้ามาอย่างแนบแน่นทุกจังหวะ“อ๊า ขะ ของเฮียมันใหญ่ ไม่ไหวแล้ว”“หึ พึ่งใส่เข้าไปได้ไม่เท่าไรเองนะ ใจเสาะซะแล้ว”“ไม่เอา ไม่ไหวแล้ว อื้อ” นานาดิ้นและเอาเล็บจิกไปกับผนังห้องน้ำ เธอเสียวเหลือเกิน ความรู้สึกแปลกใหม่มันวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเธอ มันเป็นความรู้สึกที่อยากปลดปล่อยบางอย่าง เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่เธอบอกว่าปวดฉี่แต่จริง ๆ ที่ออกมามันกลับใช่ฉี่ อือ ไม่ไหวแล้วพรวด!!น้ำสีใสไหลทะลักออกมาอย่างกับก๊อกน้ำเมื่อแก่นกายใหญ่ตอกอัดเข้ามาถี่ ๆ ตรงส่วนนั้นของเธอมันบีบรัดจนเธอเสร็จถึงจุดสุดยอดจึงปลดปล่อยน้ำออกมาอย่างล้นทะลัก“เฮ้อ อ๊า เฮีย”“เหอะ! เธอเสร็จได้ถูกใจฉันจริง ๆ สาวน้อย” ฟาริสฉีกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจเมื่อหญิงสาวเสร็จถึงจุดสุดยอด“อ๊า เฮีย” เธอเอ่ยร้องเรียกด้วยน้ำเสียงที่หมดเรี่ยวหมดแรง แต่ยังไม่ทันได้พ
“ลิปสติกสีนี้สวยดูเหมาะกับเธอมากเลยนานา” เสียงพูดออกมาอย่างตื่นเต้นจากเพื่อนผู้หญิงคนใหม่ที่เพิ่งมาสนิทได้ไม่นานเอ่ยบอก“จริงเหรอบี”นานาถามออกไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เรื่องอื่นเธอเก่งเธอมั่นใจตลอดแต่พอเป็นเรื่องการแต่งตัวและเครื่องสำอางเธอไม่ค่อยมั่นใจเลย เพราะแต่งหน้าไม่เก่ง ตอนนี้แต่งหน้าได้เพราะได้พี่ก้อยช่วยสอน เพราะตอนทำงานที่ผับต้องมีหน้าตาเอาไว้ใช้หากิน และเธอต้องอำพรางอายุด้วยเลยแต่งหน้าเข้มให้ดูเซ็กซี่ที่สุด“ใช่นานาเชื่อเราสีนี้สวยมาก มันดูเป็นลูกคุณหนูเลย” บีจึงยื่นลิปสติกทาให้ เธอจึงลองมองดูในกระจก ใช่มันดูสวยและดูสุภาพมากดูแบบใส ๆ สมกับอายุ“งั้นเราเอาอันนี้แหละ”“ดีเลย เราก็จะเอาอันนี้เอาไว้เป็นคู่กันไงล่ะ”“อือ บีจะซื้ออะไรอีกไหม”“คุณพ่อให้บัตรไม่จำกัดวงเงิน เราเข้าไปไปในชอปนั้นกันเถอะ” บีชี้แบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งที่เธอไม่เคยคิดที่จะย่างกรายเข้าไป ให้เข้าไปนะเข้าได้แต่เธอคงไม่มีปัญญาซื้อเหมือนเขาหรอก“ชุดนี้สวยไหม” บีเดินออกมาด้วยชุดสีชมพูที่ปักกระดุมไข่มุกอย่างสวยงามออกมา“สวย ดูเหมาะกับบีด้วย”“จริงเหรอ งั้นเราเอาชุดนี้” บียิ้มกว้างและหมุนดูตัวเองในกระจก “นานามาลองดูชุดส
แกร๊ก!!“เธอนี่เองสินะหนอนบ่อนไส้” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้นท่ามกลางความมืดเฮือก!!“คะ คุณฟาริส”“วิ่งสิ ถ้าไม่อยากให้ฉันฆ่าเธอ ก็รีบวิ่งออกไปซะ” เสียงเย็นยะเยือกที่เต็มไปด้วยความสนุกเอ่ยบอก และกอดอกมองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนพื้นที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“แฮ่ก แฮ่ก!!” ขาเรียววิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ถึงแม้จะวิ่งให้สุดแรงยังไงยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินตามมาจากข้างหลังอย่างใจเย็นไม่ห่างตึก ตึก!!“ฮ่า ฮ่า วิ่งเร็วๆ สิ วิ่งอีก” เสียงหัวเราะที่ได้ยินมันช่างน่ากลัวเสียดแทงไปยันข้างในใจจนขนแขนลุกไปด้วยความเสียวสันหลัง“แฮ่ก แฮ่ก ไม่นะ ไม่ จะมาตายอยู่ที่นี่ไม่ได้” เสียงหายใจเหนื่อยหอบและพยายามวิ่งสุดแรงในท่ามกลางความมืด ตลอดทางที่วิ่งมาเธอชนอะไรไม่รู้ต่ออะไรมาตลอดทาง แต่ไม่คิดจะหยุดเพราะรู้อะไรมันน่ากลัวกว่าและสิ่งที่กำลังตามมานั่นมันน่ากลัวจนแทบอยากร้องไห้ให้สิ้นสติ“ฮ่า ฮ่า ซ่อนให้ดีล่ะ” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะและเสียงผิวปากมาตลอดทาง“แฮ่ก แฮ่ก ตรงนั้น” ขาเรียวเล็กรีบวิ่งไปตรงจุดมุมมืดที่แทบมองอะไรไม่เห็นถ้าไม่สังเกตให้ดี ๆ มันเป็นซอกเล็ก ๆ ที่ตัวเธอสามารถเข้าไป
“นายครับวันนี้จะสัมภาษณ์พนักงานเองเลยไหมครับ”ดวงตาสีนิลละจากเอกสารกองโตตรงหน้าหันมาดูลูกน้องคนสนิท เพราะวันนี้มีการสัมภาษณ์พนักงานใหม่ ที่เขาได้คัดคนเก่าออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องทิ้งไปเกือบทั้งชุด“เรื่องแค่นี้นายจัดการเองเถอะ” เสียงนิ่งเย็นชาบอกเพียงเท่านั้นและจัดการเอกสารกองโตตรงหน้าต่อ“ครับนาย ผมจะเข้มงวดและเลือกคนที่คุณสมบัติเพียบพร้อมที่สุดครับ”“อืม” เสียงนิ่งขานรับในลำคออย่างไม่ได้สนใจ เพราะเป็นแค่แผนกเล็ก ๆ ที่ต้องการพนักงานเสิร์ฟ 5 ตำแหน่งเพียงเท่านั้น“ผมขอตัวก่อนนะครับ”“และ...อย่าลืมคัดเอาคนที่หน้าตาดี ๆ เข้ามาด้วยล่ะ”“ครับผมจำได้ขึ้นใจเลย”เมธาลูกน้องคนสนิทพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม เพราะรู้นิสัยเจ้านายดีว่าชอบอะไรแบบไหน และต้องการคนที่หน้าตาดูดีและทำงานได้เก่ง ไม่ใช่เก่งอย่างเดียวแต่หน้าตาไม่ได้เพราะเขานั้นต้องเอาไว้ใช้เรียกแขก ดังนั้นสถานที่แห่งนี้ที่เรียกว่า Red Rose จึงเป็นสวรรค์สำหรับพวกเหล่าคนดังที่มีอันจะกินจะเข้ามาปล่อยเนื้อปล่อยใจไปกับคลับแห่งนี้ทุกค่ำคืน“ฉันผ่านเข้าทำงานแล้ว” เสียงร้อนรนเอ่ยพูดในโทรศัพท์พร้อมกับเดินกระสับกระส่ายไปมา “ปล่อยพี่สาวฉันไปได้แ
“เด็กใหม่เหรอครับ” นานามองร่างสูงของลูกค้าคนหนึ่งที่นั่งยิ้มมาให้ตนอย่างไม่คิดปิดบังความต้องการ“ใช่ค่ะเป็นเด็กใหม่ค่ะ” เธอตอบรับอย่างมีมารยาทและส่งยิ้มให้“คนสวยชื่อนานาเหรอครับ”“ใช่ค่ะ” หญิงสาวตอบกลับอย่างนอบน้อมเขาคงเห็นป้ายชื่อของเธอ เห็นแล้วยังจะถามไม่หยุด หน้าหล่อก็จริงแต่สันดานปลาไหลเลื้อยไม่หยุด“มึงหยุดสำส่อนสักทีสิวะ จะพากูเสียชื่อไปด้วย” หนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าอีกคนเอ่ยขึ้น ดูเหมือนคนนี้จะปกติที่สุดแล้วมั้ง นานาคิดในใจและรีบรินเหล้าให้เสร็จไว ๆ“ก็แหย่เล่นทำหน้าเบื่อโลกไปได้ เห็นเซ็งเลยชวนออกมา แต่ดูหน้าพี่เหมือนจะเซ็งมากกว่าเดิมอีกนะ”เธอดูการหยอกล่ออย่างสนิทสนมของพวกเขาสองคนคงเป็นพี่น้องกันสินะ“ต้องการอะไรเพิ่มเติมเรียกนานาได้นะคะ” เธอยิ้มให้อย่างมีจริตและเดินไปที่โต๊ะอื่นต่อ“ร้านนี้มีแต่คนสวย ๆ โว้ย มันดีต่อใจจริง ๆ” ชิเอลพูดเสียงกระหยิ่มได้ใจ แต่หน้าต้องเกือบคว่ำเมื่อโดนฝ่ามือของเวกัสตบเข้ามาอย่างจัง“ทำเป็นเล่นไอ้หอกหัก แม่ดอกกุหลาบมึงมานู่นแล้ว” เวกัสบุ้ยหน้าให้ดูเมื่อเห็นหญิงสาวร่างสวยหุ่นเซ็กซี่เดินเข้ามา“โห~แม่นางโฉมยงคืนนี้คงต้องโดนจัดแล้วล่ะ” ชิเอลพูดพร้อมกับแสย
“ฉันก็บอกรายละเอียดทั้งหมดไปแล้วไง คุณจะมาเอาอะไรอีก” เสียงที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธเอ่ยใส่ปลายสายทางโทรศัพท์ เธอบอกข้อมูลที่ฝั่งนั่นต้องการทั้งหมดแล้ว แล้วจะมาเอาอะไรกับเธออีก“เธอมีสิทธิ์มาถามด้วยเหรอ” เสียงปลายสายส่งเสียงเยือกเย็นออกมา ร่างเล็กได้แต่สะดุ้งด้วยความตกใจ“ชื่อของคุณฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร พี่ฉันอยู่ที่นั่นก็ไม่รู้ว่าจะปลอดภัยไหม นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วขอให้ฉันได้คุยกับพี่หน่อยเถอะ”“ถ้าถึงเวลานั้นเมื่อไรฉันจะให้เธอได้เจอกับพี่สาวของเธอเอง”“แล้วต้องการข้อมูลอะไรอีก วันนี้ฉันก็บอกแล้วว่าได้ยินว่าเขาคนนั้นไปสืบทอดอะไรไม่รู้ วันนี้เขาไม่เข้ามา”“หาทางเข้าห้องทำงานของมันให้ได้”“ที่นี่มันเป็นแค่ผับ มันจะไปมีอะไร”“เธอคิดว่ามันทำงานแค่ในผับที่แห่งนั้นเหรอนานา ถ้าไม่อยากให้พี่สาวเธอตายรีบหาข้อมูลมาซะ จะกี่เดือนกี่ปีฉันก็ไม่สนแค่เอามาให้ฉันให้ได้มากที่สุด แล้ววันนั้นพี่สาวของเธอจะเป็นอิสระ”ปลายสายพูดเสร็จและก็ตัดสายทิ้งไป เธออยากจะถามคำถามตั้งมากมายแต่ก็ไม่ได้ถามเพราะอีกฝั่งปิดทางเธอทั้งหมดร่างเล็กนอนบนเตียงและเอามือเกยหน้าผากไปด้วยความคิดไม่ตก เพราะนี่ผ่านมาหลายเด
“อะไรกันเนี่ยไหนบอกว่าเขาจะขึ้นมาที่นี่บ่อยๆ ไง” หญิงสาวบ่นอย่างหัวเสีย เพราะนี่ผ่านมาได้เดือนหนึ่งแล้วเธอยังไม่เห็นคนที่ชื่อฟาริส บอสใหญ่ขึ้นมาที่นี่เลยสักครั้ง อยู่ข้างล่างเธอยังได้เห็น แต่ที่นี่ไม่เห็นมาเลยสักครั้งเดียว“นานาเราว่างไหม?”“ว่างค่ะพี่โรม”“พี่วานเอาเหล้ากับน้ำแข็งขึ้นไปให้บอสชั้นสามหน่อยได้ไหม”“ชั้นสามเหรอคะ” เธอเอ่ยอย่างประหลาดใจเพราะปกติโรมจะเป็นคนขึ้นไปเองทุกครั้ง แต่ทำไมวันนี้ถึงวานให้เธอขึ้นไป“ใช่ วันนี้พี่ติดดูแลแขก Vip โต๊ะนั้น” เธอลองเหลือบมองดูก็รู้สึกคุ้นหน้าที่เคยเจอตอนที่อยู่ข้างล่าง ไหนบอกว่าคนที่เป็นสมาชิกถึงจะขึ้นมาได้ไง หรือคนกลุ่มนั้นจะรู้จักคนที่ชื่อฟาริส“อ้าวคุณนานานี่น่า” มีเสียงหนึ่งตะโกนเรียกเธอก่อนที่จะเดินไปเอาเครื่องดื่ม จึงมองหน้าโรมเพื่อขออนุญาตเข้าไปทักทาย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าวสวัสดีอย่างมีจริตและยิ้มแย้มให้“ผมไม่เห็นคุณข้างล่างที่แท้ขึ้นมาข้างบนนี่เอง” เสียงแพรวพราวเอ่ยขึ้นมาอย่างกระหยิ่มใจ พร้อมกับเอ่ยคำหวานให้ “เหนื่อยไหมครับคุณนานานั่งด้วยกันสักครู่ไหม”“เออ...ไม่ดีกว่าค่ะ เพราะนานากำลังทำงานอยู่” อีตาบ้านี่เห็นกี่ครั้งก็ชอบหยอดคำหว
“ลิปสติกสีนี้สวยดูเหมาะกับเธอมากเลยนานา” เสียงพูดออกมาอย่างตื่นเต้นจากเพื่อนผู้หญิงคนใหม่ที่เพิ่งมาสนิทได้ไม่นานเอ่ยบอก“จริงเหรอบี”นานาถามออกไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เรื่องอื่นเธอเก่งเธอมั่นใจตลอดแต่พอเป็นเรื่องการแต่งตัวและเครื่องสำอางเธอไม่ค่อยมั่นใจเลย เพราะแต่งหน้าไม่เก่ง ตอนนี้แต่งหน้าได้เพราะได้พี่ก้อยช่วยสอน เพราะตอนทำงานที่ผับต้องมีหน้าตาเอาไว้ใช้หากิน และเธอต้องอำพรางอายุด้วยเลยแต่งหน้าเข้มให้ดูเซ็กซี่ที่สุด“ใช่นานาเชื่อเราสีนี้สวยมาก มันดูเป็นลูกคุณหนูเลย” บีจึงยื่นลิปสติกทาให้ เธอจึงลองมองดูในกระจก ใช่มันดูสวยและดูสุภาพมากดูแบบใส ๆ สมกับอายุ“งั้นเราเอาอันนี้แหละ”“ดีเลย เราก็จะเอาอันนี้เอาไว้เป็นคู่กันไงล่ะ”“อือ บีจะซื้ออะไรอีกไหม”“คุณพ่อให้บัตรไม่จำกัดวงเงิน เราเข้าไปไปในชอปนั้นกันเถอะ” บีชี้แบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งที่เธอไม่เคยคิดที่จะย่างกรายเข้าไป ให้เข้าไปนะเข้าได้แต่เธอคงไม่มีปัญญาซื้อเหมือนเขาหรอก“ชุดนี้สวยไหม” บีเดินออกมาด้วยชุดสีชมพูที่ปักกระดุมไข่มุกอย่างสวยงามออกมา“สวย ดูเหมาะกับบีด้วย”“จริงเหรอ งั้นเราเอาชุดนี้” บียิ้มกว้างและหมุนดูตัวเองในกระจก “นานามาลองดูชุดส
เผียะ!“โอ๊ย! หนูเจ็บ”ฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าที่บั้นท้ายเธอเต็มแรง เธอเจ็บแต่มันก็เสียวด้วย จะให้พูดไปมันก็น่าอาย“ปากบอกเจ็บ แต่มันรัดฉันไม่หยุดเลยนะ เด็กขี้โกหกมันไม่ดีไม่ใช่เหรอนานา”“มะ ใช่นะ หนูไม่ได้โกหก เฮีย เบา ๆ อ๊า~” ใบหน้าสวยเหยเกเมื่อความใหญ่โตอัดกระแทกเข้ามาลึกขึ้น เขาตอกอัดเข้ามาอย่างแนบแน่นทุกจังหวะ“อ๊า ขะ ของเฮียมันใหญ่ ไม่ไหวแล้ว”“หึ พึ่งใส่เข้าไปได้ไม่เท่าไรเองนะ ใจเสาะซะแล้ว”“ไม่เอา ไม่ไหวแล้ว อื้อ” นานาดิ้นและเอาเล็บจิกไปกับผนังห้องน้ำ เธอเสียวเหลือเกิน ความรู้สึกแปลกใหม่มันวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเธอ มันเป็นความรู้สึกที่อยากปลดปล่อยบางอย่าง เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่เธอบอกว่าปวดฉี่แต่จริง ๆ ที่ออกมามันกลับใช่ฉี่ อือ ไม่ไหวแล้วพรวด!!น้ำสีใสไหลทะลักออกมาอย่างกับก๊อกน้ำเมื่อแก่นกายใหญ่ตอกอัดเข้ามาถี่ ๆ ตรงส่วนนั้นของเธอมันบีบรัดจนเธอเสร็จถึงจุดสุดยอดจึงปลดปล่อยน้ำออกมาอย่างล้นทะลัก“เฮ้อ อ๊า เฮีย”“เหอะ! เธอเสร็จได้ถูกใจฉันจริง ๆ สาวน้อย” ฟาริสฉีกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจเมื่อหญิงสาวเสร็จถึงจุดสุดยอด“อ๊า เฮีย” เธอเอ่ยร้องเรียกด้วยน้ำเสียงที่หมดเรี่ยวหมดแรง แต่ยังไม่ทันได้พ
“เฮอะ! ไม่มีทางเป็นอิสระเหรอ ไอ้สารเลว ไอ้เฮงซวย” นานายืนด่ามาเฟียหนุ่มด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเธอขอตัวขึ้นมาบนห้องใช้ข้ออ้างว่าอยากเปลี่ยนชุด แต่แท้จริงอยากขึ้นมาแอบด่าเขาด้วยความรุนแรงต่างหาก“จะให้อยู่ไปทำเพื่ออะไร หรืออยากกินเด็กวัยเอ๊าะ ๆ กันฮะ” ด่าไปด้วยความเกรี้ยวกราด สงบสติอารมณ์ได้จึงเปลี่ยนชุดและลงไปข้างล่างที่ยังมีมาเฟียหนุ่มนั่งอ่านหนังสืออยู่ เมื่อกี้ทำท่าจะจับเธอกิน ตอนนี้คงลืมไปแล้วละมั้ง“เฮีย!” เธอตะโกนเรียกเสียงดังอย่างลืมตัว มาเฟียหนุ่มจึงละหน้าจากหนังสือและขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ“เสียงดังทำไม ไม่มีมารยาทเลย”น่ะ! มาทำเป็นสอนเรื่องมารยาทกับเธอเสียด้วย ควรสอนตัวเองก่อนไหมคะ?“ผู้หญิงคนอื่นของเฮียไม่มีเหรอ”“ทำไม หรือว่าเกิดหึงขึ้นมา”“หนูมีสิทธิ์หึงด้วยเหรอ”“หึ” ฟาริสหัวเราะในลำคอแต่ยังคงอ่านหนังสือต่อโดยไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถาม“หนูถามว่ามีไหม”“ไม่มี มีแต่ที่เอาแล้วทิ้ง” สายตาดุตวัดขึ้นมามองร่างเล็กที่นั่งเกาะแขนเขาอยู่เหมือนเด็กน้อย“ทำไมเฮียไม่มีล่ะ ช่วยมีผู้หญิงที่เฮียเลี้ยงเก็บไว้ด้วยเถอะ” ใช่ช่วยมีบ้างเถอะ จะได้เลิกยุ่งกับเธอสักที ตั้งแต่อยู่กับเขามาก็เห็นหน้าเขาทุ
วันเปิดภาคเรียนก็มาถึงนานาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อคืนเธอก็แทบนอนไม่หลับ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ก้าวสู่รั้วมหาลัยเหมือนกับเด็กทั่วไปเธอมองผู้คนโดยรอบที่ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกันกับเธอ แต่ละคนดูสวยใสไม่แพ้กันเลยทีเดียว“ให้ตายสิตื่นเต้นชะมัด”เธอเดินไปตามป้ายของตึกคณะ และดูห้องที่ต้องไปเรียน บอกตามตรงเธอก็ไปไม่ถูกได้แต่อ่านป้ายและเดินตามไป“ตึก A ชั้น 14” เธอพูดพึมพำอ่านตารางคู่มือในโทรศัพท์เอาโดยไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้าง“เป็นเด็กบริหารเหรอ”“หืม?” นานาขานรับในลำคอและเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเป็นผู้ชายที่ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสมีลักยิ้มที่แก้มหนึ่งข้างด้วย “ใช่ค่ะ”“เราเจย์ อยู่ปีหนึ่งคณะบริหารเหมือนกัน ขึ้นไปด้วยกันไหม”“อือ เรานานา” เธอพยักหน้ารู้สึกว่าตัวเองรอดตายแล้ว “เจย์เป็นเด็กปีหนึ่งเหมือนกันทำไมดูชำนาญทางจังเลย”“พี่เราเคยพาทัวร์นะ แต่ตอนนี้เรียนจบไปแล้วก่อนจบเขาพามาดูก่อน จะได้ไม่หลงเหมือนกับนานาไง”“เราไม่ได้หลงนะ” นานารีบแก้ตัว เธอไม่ได้หลงเสียหน่อยก็แค่ช้าเท่านั้นเอง“ขอโทษ เราแค่แกล้งเธอเล่นเอง” เจย์ฉีกยิ้มกว้างจึงเห็นลักยิ้มของเขา ทำไมมันดูเท่และน่ารักจังทั้งสองเดินเข้ามาด้า
“มันก็ไม่เท่ากับใครบางคนที่ชอบมาเล่นลอบกัดข้างหลังหรอกว่าไหมคุณโทมัส” ฟาริสตอบเป็นภาษาอังกฤษแสยะยิ้มและใช้สายตาดูแคลนเหยียดมอง“หึ ดูเหมือนผมจะเล่นผิดคนสินะ” โทมัสยิ้มเย็นอย่างไม่สะทกสะท้าน“เล่นผิดเต็ม ๆ เลยแหละ”“แต่ผมชอบนะ ที่เล่นผิดตัว” โทมัสตอบหน้านิ่งไม่ไหวติ่งใด ๆ แต่ฟาริสเองก็ไม่น้อยหน้ามองมาทางคู่อริอย่างเชือดเฉือนเช่นกัน“เด็กนั้นกูขอ และเลิกยุ่งกับเธอซะ” ฟาริสเอ่ยเข้าเรื่องและไม่จำเป็นต้องสุภาพอีกต่อไป“ทำไมกูต้องทำ”“กูรู้นะว่ามึงต้องการอะไร เรื่องนั้นกูจะไม่ยุ่ง ถ้ามันไม่เกี่ยวกับธุรกิจของกู”“รู้แต่ก็ปล่อยผ่านจะใจดำเกินไปไหมครับคุณฟาริส”“หึ กูไม่ต้องทำอะไรหรอก แต่ฝั่งที่มึงจะเล่นอาจจะไม่ง่ายแบบที่มึงคิดก็ได้”“ง่ายหรือไม่ง่าย แต่ลูกสาวที่เขาหวงแหนหนักหวงแหนหนาก็โดนกูจับกินไม่รู้จะกินยังไงแล้วนะสิครับคุณฟาริส”“ถ้ายังอยากให้ธุรกิจของมึงอยู่รอดปลอดภัยก็เลิกยุ่งกับกูซะ และปล่อยเด็กนั่นไป”“พูดง่ายจัง”“ของที่มึงเอาไปคิดซะว่าเป็นค่าไถ่ชีวิตเด็กนั้นกับพี่สาวของเธอก็แล้วกัน”“หึ ดูท่ากูจะพลาดท่าหนักซะด้วยสินะ ของมูลค่าหลายสิบล้านที่ได้มาแต่ต้องแลกกับฐานข้อมูลสำคัญไป”“มึงก็ได
“อื้อ อย่ากวน” เสียงบ่นอย่างรำคาญเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างรบกวนและยุ่งไปตามร่างกายแต่การรุกรานไม่ยอมจบสิ้น กลับรู้สึกรับรู้ถึงความเปียกแฉะเพิ่มมากขึ้น ตามเนื้อตัวร้อนรุ่มแปลก ๆ นี่เธอฝันอะไรกัน พยายามลืมตาตื่นแต่ไม่สามารถทำได้เพราะรู้สึกหนักอึ้งเหลือเกินจ๊วบ จ๊วบ!!เสียงดูดยังคงดังให้ได้ยินเป็นระยะ มันน่ารำคาญเหลือเกินเธออยากจะนอนแต่ลืมตาขึ้นมาไม่ได้ ลืมตาตื่นสักทีเถอะ เวรเอ๊ย!สวบ!เฮือก!! ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกลืมตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เมื่อรู้สึกเสียวซ่านที่ช่องท้อง พอลืมตาก็รู้ว่าไม่ได้ฝันไปแต่มันคือความจริงที่กำลังมีดุ้นใหญ่ยักษ์เสียบเข้าที่กลางกายของเธอไอ้เวร!! เธอละอยากด่าเขาจริง ๆ“เฮีย มาลักหลับแบบนี้หนูก็ตกใจเป็นนะ” เธอบ่นกระเง้ากระงอด แต่ก็ร้องครางออกมาเมื่อร่างใหญ่ขยับ“ปลุกทำไม แค่เสียบเข้าไปเดี๋ยวเธอก็ตื่น”ไอ้โรคจิตเอ๊ย!!เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดมาเธอจึงก่นด่าในใจอีกครั้งและปล่อยให้เขากระหน่ำเข้าใส่ตามที่ต้องการทุกการเคลื่อนไหวมันช่างซาบซ่านแม้จะไม่พอใจแต่ร่างกายของเธอกลับย้อนแย้ง ตรงกลางกายของเธอก็เปียกชื้นส่งให้แก่นกายใหญ่เข้าออกได้อย่างสะดวก แต่มันก็มีความรู้สึกอย่า
“ไอ้เวรตะไล”เมื่อขึ้นมาบนห้องได้นานาก็รีบถอดชุดนักศึกษาโยนลงบนพื้นด้วยความหงุดหงิด และด่ามาเฟียหนุ่มไปด้วยความเกลียด วันนี้เขาทำให้เธออับอายมาก ไม่รู้จะมีอารมณ์อะไรกันหนักกันหนา เธอไม่อยากใส่ชุดนักศึกษาให้เขาเห็นอีกแล้ว“ให้ตายเถอะ ถ้าฉันไม่มีคนที่รักอย่างพี่สาวฉัน นายไม่มีทางได้ฉันง่าย ๆ แบบนี้หรอก ไอ้มาเฟียโรคจิตเอ๊ย” เนื้อตัวสั่นระริกไปด้วยความโกรธหวังว่าสักวันจะมีวันที่เธอได้เอาคืนดวงตากลมโตหันไปมองโทรศัพท์เครื่องที่เอาไว้ติดต่อกับคนของอีกฝั่ง หยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสายที่รอเพราะครั้งล่าสุดบอกว่าอีกสองวันจะติดต่อมา แต่นี่ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วเพิ่งติดต่อเข้ามา“คุณเกิดอะไรขึ้น ทำไมเพิ่งติดต่อเข้ามา ฉันขอคุยกับพี่สาวฉันหน่อยได้ไหม”“อย่ามาต่อรอง วันนี้ได้ข้อมูลอะไรมา” เสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความกรุ่นโกรธเอ่ยถาม“ฉันต้องการจะคุยกับพี่”“ฉันจะให้คุยแต่ไม่ใช่ตอนนี้”“อีกสองคืนจะมีการปล่อยของ” เธอถอนหายใจและบอกข้อมูลลับให้อีกฝ่ายรู้“มันจะส่งอะไร”“ที่ได้ยินมาเป็นพวกอาวุธปืน กับที่บรรจุกระสุน”“ท่าเรืออะไร” เสียงทุ้มต่ำถามอย่างใจเย็น“ท่าเรือ PAT ของออกไปที่ฮ่องกงเวลา 5 ทุ่มเวลาประเทศ
ร่างเล็กดิ้นพล่านเมื่อลิ้นร้อนเข้ามากัดที่ซอกคอของเธอจนเกิดเป็นรอยฟัน“เจ็บนะคะคุณทำอะไรเนี่ย” ด้วยความตกใจจึงลืมตัวว่าต้องเรียกชายหนุ่มว่าเฮีย“สงสัยลืมที่สั่งอีกแล้วใช่ไหมเด็กน้อยของฉัน” ฟาริสพูดเสียงเย็น และใช้นิ้วมือสอดใส่เข้าที่รูสวาทงอเข้างอออกจนร่างเล็กสะดุ้งโหยงไปด้วยความเสียว“เฮียฟาหนูขอโทษ เราไปทำกันที่บ้านดีกว่าไหม”“เธอมีสิทธิ์ต่อร้องด้วยเหรอ ชักหมดสนุกแล้วซิ” ชายหนุ่มมุ่ยหน้าและสายตาเริ่มแข็งกระด้าง มือเรียวจึงเข้าไปคว้าที่ต้นคอและจูบชายหนุ่มอย่างเอาใจสองริมฝีปากประสานกันและสอดลิ้นเข้าใส่แลกตวัดอย่างหยอกล้อปากหยักคลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อกี้เริ่มหมดอารมณ์และเริ่มเบื่อความที่หญิงสาวปฏิเสธ แต่ตอนนี้กลับมาตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อร่างเล็กเริ่มเป็นคนจู่โจมเขาเอง“ฉลาดดีนี่” ฟาริสแสยะยิ้มรู้ดีว่าหญิงสาวพยายามเอาใจเพราะกลัวเขาสั่งฆ่า เมื่อกี้ก็เกือบโทรสั่งให้เมธาจัดการไปแล้ว ดีที่ปากเล็ก ๆ นั้นเข้ามาปะทะจูบกับเขาเสียก่อน“อยากให้หนูทำอะไรบอกมาเลยค่ะ” ใบหน้ารูปไข่เงยหน้ามาถามถึงแม้ใบหน้าจะแดงซ่านไปด้วยความเขินอายและความซ่านเสียว“จับมันยัดใส่รูน่ารัก ๆ ของเธอที” เสียงที่เต็ม
หลายอาทิตย์ต่อมา“ร้อนจังเลยค่ะเฮีย”และก็เป็นอีกวันที่เธอเริ่มแผนการที่คิดไว้ ทุกวันเธอจงใจยั่วเขาให้เกิดอารมณ์ และเป็นทุกครั้งที่เขาจะเข้ามามีอะไรกับเธอจนเธอแทบหมดแรง“หึ จะยั่วอะไรฉันอีก หรือเมื่อคืนกินไม่อิ่ม” ฟาริสถามพลางจิบกาแฟดำไปด้วย ทั้งที่เมื่อคืนเขาทำเธอจนแทบเดินไม่ได้ แต่เช้ามาเธอกลับมาคึกได้อีก“ก็เฮียเอาดี เอาแรงไงคะ หนูถึงติดใจ”“เหอะ ฮ่า ฮ่า” เขานั่งหัวเราะ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะมาเล่นไม้ไหนอีก หลายวันแล้วที่เขายอมเล่นด้วย ที่ผ่านมามันก็สนุกดี เมื่อเธอเริ่มปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับเซ็กซ์ของเขา“เฮียฟาขา” เธอเรียกและลุกเดินเข้ามานั่งบนตักแกร่ง แม่บ้านที่คอยอำนวยความสะดวกต่างมองหน้ากัน เพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนกล้าแบบหญิงสาวมาก่อนฟาริสมองหญิงสาวนิ่งแต่ก็ไม่ว่าอะไรที่เธอเข้ามานั่งบนตักและยังเอาหัวมาพิงและกอดคอของเขาเอาไว้“จะเอาอะไร”ฟาริสถามเสียงเบา พลางมองใบหน้าสวยนิ่ง นานาใจเต้นตุ้มๆ ต่อม ๆ เพราะตอนแรกเธอเผื่อใจไว้แล้วว่าเขาอาจโมโหและจับเธอเหวี่ยงบนพื้น แต่เปล่าเลยเขากลับปล่อยให้เธอนั่ง และยังยอมให้เธอทำอะไรโง่ ๆ โดยการอ้อนเขาอยู่แบบนี้“เรื่องเรียนที่มหาลัย เฮียจะให้หน