แชร์

บทที่31 ปี1976

ผู้เขียน: Ainthira06
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-20 14:16:53

ต้นปี 1976 พรรคคอมมิวนิสต์ประกาศการค้าเสรี ประชาชนทุกคนสามารถทำการซื้อขายโดยที่ไม่ต้องผ่านทางรัฐบาลและยกเลิกการใช้คูปอง ราคาที่ดิน บ้านเช่าหรือแม้แต่ตึกเช่าหนึ่งคูหา สองคูหา จากที่หลายคนมีกำลังพอซื้อได้ ตอนนี้ก็ไม่สามารถซื้อได้แล้ว

โชคดีที่กัวเหม่ยอิงมีน้องชายรองที่สามารถช่วยเหลือได้ เธอให้เขาหาซื้อตึกคูหากับบ้านเช่าเอาไว้ 2 ที่ด้วยกัน โดยที่เอกสารต่าง ๆ ก็เป็นน้องชายรองที่จัดการให้ ไม่อย่างนั้นพวกเธอคงจะไม่ได้โฉนดที่ดินมาครอบครองก่อนที่พรรคคอมมิวนิสต์ประกาศหรอก

ที่แรกเป็นบ้านปูน 2 ชั้น 4 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง และ 1 ห้องครัว

โดยที่ชั้นสองมีห้องนอนสามห้องนอน ส่วนชั้นแรกมีห้องนอน 1 ห้อง น่าจะเป็นห้องรับแขก กัวเหม่ยอิงได้มาในราคาสองพันหยวน

ส่วนอีกที่เป็นตึกคูหาคู่ 2 ชั้น จริง ๆ ตอนแรกจะเอาแค่คูหาเดียว แต่ตอนนั้นเจ้าของที่ดินร้อนเงินพอดีจึงได้มาในราคาถูก ๆ สามพันหยวน จากปกติเกือบห้าพันหยวน ที่ได้มาในราคาถูกแบบนี้เพราะไม่มีใครกล้าซื้อด้วย

กัวเหม่ยอิงไม่ได้ปล่อยเช่าบ้านหรือตึกเพราะเธอกลัวว่าคนที่เข้าพักจะทำเสียหาย ยังไงพวกเธอก็ไม่ได้เข้ามาอยู่ในอำเภอในเวลานั้น แค่อนาคตกัวเหม่ยอิงก็คิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่32 ต่อเติมตึกคูหา

    ก่อนที่จะตกลงซื้อบ้านและตึกคูหากัวเหม่ยอิงก็ขอมาดูสถานที่ก่อน เพราะเธอตอนนั้นคิดที่จะย้ายเข้ามาอำเภอจึงอยากจะรู้ว่าหากพวกเธอย้ายเข้ามาอยู่จริง ๆ จะอยู่ได้ไหม ซึ่งที่ดินที่ได้มาก็ถือว่าดี บ้านเป็นบ้านย่านคนมีเงินนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ถึงกับรวยมาก แบบพี่กินพอใช้ ไม่ใช่ว่ากัวเหม่ยอิงอยากยกระดับตัวเอง แต่บริเวณบ้านนั้นเงียบสงบและร่มเย็นมาก ที่สำคัญอยู่ใกล้โรงพยาบาล สถานีรถไฟ ร้านค้าต่าง ๆ แต่มันก็ไม่ได้เสียงดังส่วนตึกคูหาเรียกได้ว่าเป็นที่ทำเลทองเลยก็ว่าได้ อยู่ใจกลางอำเภอ มีตึกและในอนาคตจะต้องเป็นย่านการค้า ที่สำคัญก็อยู่ไม่ห่างบ้านมากด้วยกัวเหม่ยอิงปั่นจักรยานเข้าอำเภอตามหลังน้องชายรองที่จะมาทำงาน แต่เขาขอลาหยุดครึ่งวัน ก็คือช่วงเช้าเพราะจะเข้าไปดูตึกพร้อมกับเธอ หลังจากช่างมาต่อเติมบ้านเสร็จ วันนี้ก็เป็นวันที่ช่างจะมาต่อเติมและแก้ไขตึกตามที่กัวเหม่ยอิงต้องการ“คุณลุงไฉ่คงใกล้จะมาแล้วครับ” น้องชายรองหันมาบอกหัวหน้าไฉ่ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างที่สำนักงานประจำอำเภอนั่นเอง โชคดีวันที่กัวเหม่ยอิงเข้าไปคุยที่สำนักงานก่อสร้างยังไม่มีคิวงานที่ไหน กัวเหม่ยอิงจึงได้คิวก่อนคนอื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่33 แบ่งเงินออกเป็นห้าส่วน

    กัวเหม่ยอิงซื้อแอปเปิลกับสาลี่อย่างละถุง แล้วก็มีองุ่นกับสตรอว์เบอร์รี่อย่างละสองกล่อง เพราะเด็กที่บ้านชอบกันมาก นาน ๆ ที จะมีลูกใหญ่แบบนี้กัวเหม่ยอิงจึงซื้อมาอย่างละสองกล่องเลย“คุณแม่ได้องุ่นกลับมาด้วย!”ทันทีที่กัวเหม่ยอิงเปิดประตูหน้าบ้าน หานเมิ่งลู่ก็วิ่งมาหา พร้อมกับน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ปกติองุ่นจะได้กินเดือนละครั้งเพราะคุณแม่ชอบไปไม่ทัน แต่พวกเธอพึ่งได้กินองุ่นไปสัปดาห์ที่แล้ว ไม่คิดว่าวันนี้คุณแม่จะซื้อมาอีกกัวเหม่ยอิงหัวเราะ “เสี่ยวลู่อยากกินเหรอจ๊ะ เดี๋ยวแม่เอาจักรยานเข้าเก็บก่อน”เธอบอกลูกสาวที่วิ่งมาเกาะขา จากนั้นจึงจูงจักรยานเข้าที่เก็บ แล้วหิ้วผลไม้ที่ซื้อมาเข้าห้องครัวจัดการล้างผลไม้ที่จะเอาให้เด็ก ๆ กินเป็นของว่าง กัวเหม่ยอิงแบ่งสาลี่ให้คนละครึ่งลูก และสตรอว์เบอร์รี่กับองุ่นคนละลูกเท่านั้น เพราะตอนนี้เลยเวลามื้อกลางวันแล้ว เดี๋ยวเย็นเด็ก ๆ จะไม่ยอมกินข้าวกัน“ทำไมวันนี้มีองุ่นล่ะคะ” เป็นหานเผยหนิงที่ถาม“ป้าไปเจอมาพอดีจ้ะ เดี๋ยวไปเรียกน้อง ๆ มาหน่อย ป้าแบ่งไว้แล้ว กินคนละแค่นี้ก็พอ เก็บไว้กินวันอื่นบ้าง” กัวเหม่ยอิงบอกหลานสาวพอหานเผยหนิงออกไปก็เป็นลูกสาวของเธอที่ถามบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่34 ชวนสหายไปทำงานด้วย

    หลังจากต่อเติมชั้นสองเสร็จกัวเหม่ยอิงก็เริ่มย้ายไหที่เต็มไปด้วยหน่อไม้ ผัก และของแห้งต่าง ๆ เข้าอำเภอ แม้หน้าร้านจะยังไม่เสร็จแต่กัวเหม่ยอิงก็จะย้ายไหเข้าไปเก็บก่อนบางส่วน และแน่นอนว่าไม่เกะกะคนงานกัวเหม่ยอิงยกไหผลไม้ตากแห้งขึ้นรถที่ไปเช่ามาในราคา 10 หยวน ต่อเที่ยว แม้จะเป็นจำนานที่เยอะแต่กัวเหม่ยอิงก็พร้อมจ่าย หากไม่เช่าก็จะขนเข้าไปยาก อีกอย่างหมู่บ้านกับอำเภอก็ไกลกันพอสมควร“ไม่ต้องยก ๆ พี่ยกเอง” พี่ใหญ่กัวรีบวิ่งมาดึงน้องสาวที่ช่วยยกไหออก ตั้งแต่ที่เขาไม่ได้ลงแปลงนาต้องบอกว่าเขามีแรงเพิ่มขึ้นมากพอจะไปช่วยพี่ชายคนรองยกก็ถูกไล่อีก กัวเหม่ยอิงจึงไปช่วยพี่สาวกับน้องสะใภ้ที่กำลังตากกล้วยอยู่ พอแห้งค่อยนำมาทอดและใส่ไหเก็บเอาไว้“คงจะโดนไล่มาล่ะสิ” สะใภ้รองว่าอย่างรู้ทัน ปกติพี่น้องบ้านกัวก็ชอบทำอะไรตัดหน้าน้องสาวอยู่แล้วพี่สาวรองหัวเราะ “เธอรู้ทันจริง ๆ” เพราะหล่อนก็เดินตามน้องสาวมาจากช่วยยกไหเหมือนกัน“ทุกวันนี้ฉันแทบจะเดินไม่ติดพื้นแล้ว” ถ้าอุ้มเดินได้ กัวเหม่ยอิงก็เชื่อว่าพี่ชายจะทำทุกคนหัวเราะเพราะมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ตั้งแต่ที่กัวเหม่ยอิงหารายได้ให้บ้านกัว จากที่เธอเป็นที่รักแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่35 ได้เวลาแบ่งเงินแล้ว

    อวี้หลันให้คำตอบที่จะเข้ามาทำงานกับกัวเหม่ยอิงหลังกลับไปคิดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หล่อนให้เหตุผลว่าไหน ๆ ก็ทำงานในสหกรณ์หลายปีแล้วขอเปลี่ยนงานบ้าง อีกอย่างก็คือบ้านของหล่อนชอบไปที่สหกรณ์และก่อความวุ่นวายให้หล่อนจนโดนเตือนส่วนกัวเหม่ยอิงที่เข้าไปซื้อของในอำเภอก็ได้คำตอบที่พึงพอใจ และให้อวี้หลันแจ้งลาออกได้เลย แต่ทางสหกรณ์ต้องหาพนักงานเพิ่ม อวี้หลันจึงต้องรอให้ทางสหกรณ์หาคนมาแทนได้ก่อน ถึงจะสามารถหยุดทำงานได้“คุณแม่รู้จักเด็กสาวที่ขยันไหมคะ? ผู้ชายก็ได้ค่ะ” กัวเหม่ยอิงถามแม่กัวหลังมารวมตัวกันเพราะอีกไม่กี่วันก็จะได้เปิดร้านแล้วแม่กัวชะงักแล้วถาม “ลูกถามทำไมเหรอ” ถ้าถามว่ารู้จักไหม ก็มีรู้จักอยู่บ้าง แต่ก็ต้องถามลูกสาวด้วยว่าจะเอาคนไปทำไหมกัวเหม่ยอิงเขียนชื่ออวี้หลันลงในสมุดจดที่ซื้อมา พร้อมทั้งตอบคนเป็นแม่ “ฉันต้องการพนักงานเพิ่มค่ะ ตอนนี้มีพี่สาวรองกับสหายของฉันที่เป็นพนักงานคิดเงิน แต่พนักงานคิดเงินขาดอีกสองคน แล้วก็พนักงานตรวจเช็คของด้วยค่ะ ตำแหน่งสุดท้ายถ้าได้เป็นผู้ชายจะดีมาก” เธอเชื่อว่ากิจการที่ทำจะเป็นไปด้วยดีจึงได้สร้างโต๊ะจ่ายเงินร้านละสองโต๊ะ เพราะจะได้ไม่ต้องให้ลูกค้ารอนาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่36 หลานนอกสกุลกัว

    หมู่บ้านแซ่เหลียน ตำบลซินหยาง อำเภอเมิ่งอู่ปากทางเข้าหมู่บ้านมีป้ายปักเอาไว้ แต่มันเก่ามาก ๆ หากไม่ใช่คนที่มีความรู้ หรือรู้จักหมู่บ้านที่นี่คงจะไม่มีทางเชื่อแน่ว่าเป็นหมู่บ้านแซ่เหลียน เพราะตัวหนังสือบนป้ายจางมากกัวเหม่ยอิงจอดจักรยานดูป้ายทางเข้าหมู่บ้านก่อนจะหันไปถามพี่ชาย “ที่นี่คือหมู่บ้านที่เราจะมาเหรอ?” เธอว่ามันน่าจะเป็นหมู่บ้านที่ยากแค้นกว่าหมู่บ้านฟงลู่ของพวกเธอซะอีก“ใช่แล้ว พี่มาล่าสุดก็นานมากแล้ว แต่ป้ายนี้ก็ยังเป็นป้ายเดิม” พี่ใหญ่กัวถอนหายใจ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ยังไม่พัฒนาขึ้นเลย ยังดีหน่อยที่ผู้นำหมู่บ้านของพวกเขาเป็นคนขยัน และซื่อสัตย์ ไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดเลยกัวเหม่ยอิงส่ายหน้า “ฉันว่าเป็นหมู่บ้านที่ยากจนมาก” เธอไม่ได้ดูถูกแต่มันก็อดที่จะพูดไม่ได้จริง ๆ กว่าจะมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน เธอกับพี่ชายก็หยุดพักไปแล้วหลายรอบพี่ใหญ่กัวหัวเราะก่อนจะปั่นจักรยานนำไป “ไปกันเถอะ ไม่รู้ว่าที่นี่ยังตรวจคนเหมือนเดิมไหม แต่เราไปหาผู้นำหมู่บ้านก่อน” มารอบก่อน ๆ ใครที่จะเข้าหมู่บ้านต้องไปแจ้งคณะกรรมการของหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ทุกคนต่างเรียกว่าผู้นำหมู่บ้าน กับสมาชิกผู้นำหมู่บ้านแทนกัวเหม่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่37 คุณย่าหลี่เลือกเงิน

    หลี่เวยเวย! ยัยหมูขี้เกียจ วัน ๆ มีแต่กินกับนอน งานการไม่ทำอะไรช่วย ยังจะหนีงานอีก กลับไปทำงานเดี๋ยวนี้เลยนะ!”เสียงตะโกนที่บาดหู ทำให้กัวเหม่ยอิงที่หลับตากอดอกและกำลังจะพิงพี่ชายถึงกลับสะดุ้งโหยง เพียงแค่ต้องการพักสายตา แต่ทำไมตอนนี้เธอเหมือนต้องได้ออกแรงอีก“คุณย่า!”เสียงสั่นของหลี่เวยเวยที่รีบวิ่งออกมานอกบ้าน ทำให้กัวเหม่ยอิงหันไปมอง และหันกลับไปมองหญิงชราที่อายุน่าจะมากกว่าแม่ของเธอหลายปี“หน็อยแน่! กรรมการแค่เรียกให้ไปหาก็อู้งานแล้ว วันนี้ไม่ต้องกินข้าวเลย!” ไม่รู้ว่าหญิงชรามองเห็นแค่หลี่เวยเวยหรือยังไง ถึงมองข้ามพี่ใหญ่กัวกับกัวเหม่ยอิงที่นั่งมองอยู่“หนูขอโทษค่ะ แต่ญาติบ้านเดิมคุณแม่มาหา หนูกำลังคุยอยู่” หลี่เวยเวยว่าเสียงเบาแล้วรีบปิดประตูบ้านหญิงชราหรือคุณย่าหลี่หันมามองแขกของหลานสาวก่อนจะท้าวเอวว่า “อ๋อ ก็ว่าใครมาหา ญาติบ้านเดิมแม่ของแกนี่เอง เป็นยังไงบ้างล่ะ ยังจนเหมือนเดิมใช่ไหม” ก่อนจะหัวเราะ นางไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้ เพราะตาเฒ่าสามีของนางชอบลูกสะใภ้คนนี้มาก ชอบกว่าลูกสะใภ้คนอื่นที่นางเป็นคนเลือกให้ลูกชายคนอื่นซะอีกด้านหลังของหญิงชรายังมีผู้หญิงวัยกลางคนสองคนที่น่าจะเป็นล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่38 ความวุ่นวายก่อนเปิดร้าน

    ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ครอบครัวของหลี่เวยเวยจะใช้ชีวิตโดยที่ขาดเสาหลักของครอบครัว แต่ก่อนเสาหลักของครอบครัวคือพ่อของหล่อน แต่หลังจากพ่อหายไป แม่ก็เริ่มป่วย หล่อนที่เป็นลูกสาวคนโตจึงกลายมาเป็นเสาหลักของบ้านแทนตอนที่พ่อของหลี่เวยเวยหายไป ระบบนารวมยังไม่ถูกยกเลิก และในตอนนั้นหลี่เวยเวยกับน้องชายต้องลงแปลงนาเพื่อรับแต้มคนละ 6 แต้ม ในขณะคนเป็นแม่รับแต้มได้เพียง 4 แต้ม เพราะร่างกายอ่อนแอยิ่งช่วงแจกจ่ายผลผลิตแล้วบ้านหลี่ของหลี่เวยเวยก็ไม่ต่างจากบ้านสามสกุลหานแต่ก่อนเลย แต่บ้านสามจะดีกว่าก็คือพวกผู้ชายทำงานส่งเงินเดือนมาให้กัวเหม่ยอิงได้ยินเรื่องราวบ้านหลี่ของน้องสาวจากพี่สาวจิวลู่ ที่กัวเหม่ยอิงถามก่อนที่จะขอตัวกลับบ้าน เพราะมันจะเย็นแล้ว โชคดีที่ของไม่ได้เยอะมาก จึงสามารถเอาจักรยานขึ้นรถ แล้วใช้รถยนต์ในการเดินทางกลับบ้าน แม้จะเสียค่ารถหลายสิบหยวนแต่ก็คุ้มพอถึงบ้านมันก็ดึกแล้ว 2 พี่น้องบ้านหลี่จึงได้นอนในห้องว่างของบ้านกัวที่สร้างเอาไว้ให้ลูกชาย ลูกสาวแยกห้องนอน แต่เพราะพวกเขาชินที่จะอยู่ด้วยกัน จึงไม่มีใครแยกห้องนอน พอมีคนเพิ่มขึ้นมา ห้องที่เคยว่างก็มีคนใช้แล้ว เช้าวันใหม่กัวเหม่ยอิงถึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่39 ร้านขายของหานอี

    การที่บ้านหานเปิดร้านขายของแห้งและของดองถูกพูดคุยกันภายในหมู่บ้าน ในเวลานี้การค้าขายยังไม่ได้เปิดกว้างมากนัก หลายคนต่างดูถูกในอาชีพนี้ และแน่นอนว่าบ้านใหญ่หานต่างรู้สึกอับอายมาก แม้อยากจะไปถามแต่ก็ไม่กล้าร้านที่กัวเหม่ยอิงเปิดมีชื่อว่า ‘หานอี’ มันเป็นร้านแรกที่กัวเหม่ยอิงได้ลงมือทำ เธอจึงใช้นามสกุลของบ้านสามีในการตั้งนั้นก็คือคำว่า หาน ส่วน อี แปลว่า หนึ่ง และแน่นอนว่าหานอีจะไม่ใช่ร้านเดียวของพวกเธอแน่ ๆสำหรับคนในตลาดมืดเมื่อมีป้ายบอกว่าจะขายไหของดอง และของแห้ง พวกเขาย่อมรู้จักเพราะมีแต่คนแย่งกันซื้อ แต่วันนี้พอมีหน้าร้านจึงแห่กันมาซื้อวันแรกที่เปิดร้านกัวเหม่ยอิงลดราคาลงไหละ 1 หยวน ถือเป็นการเพิ่มการค้าขายไปในตัว แต่มันก็ทำให้เธอขายไปได้ถึง 30 ไหวันที่สองพอคนรู้ว่าเปิดร้านแล้ว ต่างก็มาซื้อเพิ่ม และยิ่งมีของอร่อย ๆ ที่ไม่เคยซื้อทัน มันยิ่งทำให้หลายคนต่างมาซื้อ และวันนั้นก็ขายไปได้ถึง 67 ไหและแน่นอนว่าสินค้าประจำร้านที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ กุ้งแห้ง ยิ่งมีกุ้งแห้งเยอะเท่าไร คนในอำเภอยิ่งซื้อกันเยอะมาก พวกเขาต่างบอกว่ามันสามารถเพิ่มรสชาติในการทำอาหารได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือพวกเขาต่างอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่ 73 ชาหลงจิ่ว

    เพราะความอ่อนล้าจากการเดินทางหลายชั่วโมง กัวเหม่ยอิงที่ได้พักผ่อนจากช่วงบ่ายของเมื่อวานจึงหลับสนิท รู้สึกตัวอีกทีก็ช่วงสายของวันใหม่แล้วโรงแรมที่เหวินหลงจองเอาไว้ให้เป็นห้องขนาดใหญ่ มันมีห้องอาบน้ำในตัวซึ่งกัวเหม่ยอิงไม่ต้องไปอาบน้ำรวมกับคนอื่น ๆ ยกเว้นห้องปลดทุกข์ที่ต้องไปเข้าห้องน้ำข้างล่างกัวเหม่ยอิงรีบอาบน้ำเพราะกลัวเหอลี่จะรอ อันที่จริงก็คุยกันแล้วว่าตื่นค่อยไปเคาะประตู แต่กัวเหม่ยอิงตื่นสายมากวันนี้เสื้อเชิ้ตสีขาวลวดลายสีฟ้าถูกสวมลงบนตัวกัวเหม่ยอิง เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อที่ลูกค้าต่างแย่งกันซื้อในร้านแต่ที่กัวเหม่ยอิงได้มาก็เพราะสีด้ายมันเพี้ยน หากลูกค้าหรือคนนอกมองคงจะไม่สังเกต แต่กัวเหม่ยอิงตรวจรายละเอียดทุกตัวกัวเหม่ยอิงจะเป็นคนเอาเสื้อออกจากกระสอบให้พนักงานเพื่อตรวจสอบว่าเสื้อผ้ามันได้คุณภาพ ทุกครั้งที่ได้รับเสื้อมากัวเหม่ยอิงก็จะตรวจทันที“เธอตื่นนานแล้วเหรอ”ยังไม่ทันได้เคาะประตูเหอลี่ก็เปิดออกมา เหมือนหล่อนจะรอกัวเหม่ยอิงมาเคาะประตูอยู่แล้ว“เพิ่งจะตื่นค่ะ”“แล้วกินข้าวเช้ายัง”“ยังค่ะ”“อืม เราลงไปหาข้าวเช้ากินก่อนดีกว่า”“ค่ะ”นอกจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่รวมกับค่ากิน

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่72 ไปหางโจว

    ห้องเช่าห้องสุดท้ายกัวเหม่ยอิงตัดสินใจเช่า ก่อนที่ลูกค้าคนอื่นจะมาเช่าเพียงแค่ไม่ถึงสิบหน้าที อย่างที่บอกตอนนี้ห้องเช่าเหลือแค่ห้องเดียวแล้ว การที่คนต้องการจะมาเช่ามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และยังดีที่เธอได้เช่าทันกัวเหม่ยอิงจะทุบผนังห้องที่ติดกันแค่เดินผ่านได้สองคน ห้องเช่าห้องใหม่กัวเหม่ยอิงจะเพิ่มห้องลองเสื้อสองห้อง ห้องรับรองลูกค้าสองห้อง ที่เหลือจะมีโต๊ะให้นั่งประมาณสิบโต๊ะแต่ห้องพักข้างหลังกัวเหม่ยอิงทุบรวมกันทำเป็นห้องพักของพนักงาน ไหน ๆ พนักงานในร้านก็เยอะแบบนั่งพักในห้องไม่หมด กัวเหม่ยอิงเลยทำเพิ่ม เพราะยังไงก็ต้องได้รับพนักงานมาอีกเพราะต้องขยายร้านเพิ่ม กัวเหม่ยอิงจึงจะใช้เวลานี้ในการไปเลือกซื้อใบชามาใช้ในร้าน เธอได้คุยกับสามีแล้ว ตอนแรกเขาก็ไม่เห็นด้วยที่เธอจะไปคนเดียว แต่กัวเหม่ยอิงก็ไม่ยอมเช่นเดียวกันสำหรับคนเป็นพ่อค้าแม่ค้าแล้ว สิ่งไหนที่ดีกับลูกค้ากัวเหม่ยอิงก็ยินดีที่จะทำ อีกอย่างเธออยากส่งต่อร้านดี ๆ ให้กับลูกสาวกัวเหม่ยอิงยอมรับว่าตัวเองโอ๋ลูกสาวกับหลาน ๆ หนักมาก กว่าที่บ้านจะลืมตาอ้าปากได้ กัวเหม่ยอิงไม่อยากให้รุ่นลูก รุ่นหลานเป็นเหมือนรุ่นก่อน ๆ จึงต้องการปูทางให้

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่71 ย่าหานอยากให้กลับบ้าน

    ร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างหลังจากเปิดร้านมาได้เพียงสองเดือน ด้วยความที่เป็นเนื้อผ้าที่ไม่ค่อยมีในปักกิ่งหรือเรียกได้ว่าไม่มีเลยก็ได้ อีกทั้งยังมีลวดลายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะร้าน ใครเห็นก็ต้องแวะเข้ามาดู เข้ามาซื้อช่วงหลัง ๆ ต้องสั่งตัดเย็บมาลายละห้าร้อยตัว ยิ่งพอมีลายใหม่มาอีกห้าลาย ลูกค้าก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งกัวเหม่ยอิงก็ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น ตื่นเช้ามาต้องทำกับข้าวให้เด็ก ๆ ไปกินที่โรงเรียน ระหว่างที่รอไปทำงานก็ตรวจบัญชีที่เอามาทำเมื่อคืน ยิ่งวันไหนขายเสื้อได้เป็นพัน ๆ ตัว กัวเหม่ยอิงก็ต้องจดบันทึกจนเหนื่อย จริง ๆ ถ้าเป็นลูกค้ารายใหญ่หรือมาซื้อทีละหลายตัวมันก็ไม่เยอะหรอก แต่เธอต้องจดบันทึกเอาไว้ว่าลูกค้าซื้อไปกี่ตัว และในแต่ละวันลูกค้าก็มีไม่ต่ำกว่าร้อยคนกัวเหม่ยอิงกำลังมองห้องเช่าข้าง ๆ ที่ว่างอยู่ห้องหนึ่ง เธอยังตกลงกับตัวเองไม่ได้ว่าจะเช่าเพิ่มไหม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะที่ร้านขายดีหรือมีคนอยากเช่าอยู่แล้ว พอเห็นร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่มีลูกค้าก็มาเช่าห้องเปิดร้านไปทั้งหมด เหลือว่างแค่หนึ่งห้องแต่เธอกลัวว่าจะดูแลไม่ทั่วถึงและบางทีอาจต้องหาพนักงานมาเพิ่ม แค่สิบห้าคนก

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่70 พนักงานสิบห้าคน

    สัปดาห์แรกของการเปิดร้านกัวเหม่ยอิงหัวหมุนมาก ไม่ว่าจะเป็นการเอาเสื้อขึ้นแขวนไม่ทัน ลูกค้าเข้าร้านทีละหลายคน พนักงานในร้านไม่เพียงพอต่อลูกค้า หานหรงเจ๋อจึงต้องเข้ามาช่วย ปล่อยให้เด็ก ๆ นั่งเล่นในห้องพักพนักงานไปส่วนน้องชายสามเห็นบอกว่าทางอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาเรียกตัวให้เข้าไปช่วยงาน กัวเหม่ยอิงอนุญาตให้เขาไป เธอจึงต้องจัดการเองหลาย ๆ อย่างไม่รู้ว่าเป็นเพราะลวดลายเสื้อที่แปลกตา หหรือลูกค้าชอบเสื้อแบบนี้ภายในเจ็ดวันพวกเธอขายเสื้อไปพันกว่าตัวแล้ว ตอนนี้ก็ได้ไปสั่งตัดเย็บเสื้อเพิ่มแต่คงต้องรออีกหลายคิวถึงจะได้กัวเหม่ยอิงไม่ได้ใช้สัญญาในการลัดคิวลูกค้าคิวอื่น ทั้งที่หลายคนใช้สิทธิ์สัญญาในการเร่งลัดคิวให้ตัวเอง เพราะเธอคิดว่าหากเธอเป็นลูกค้าคนอื่นเธอก็อยากได้ของเร็ว ๆ เหมือนกันในร้านมีพนักงานสิบคน รวมกัวเหม่ยอิงก็สิบเอ็ดคน ตอนนี้คนที่ดูแลหน้าร้านมีเพียงแค่คนเดียว เพราะกัวเหม่ยอิงเห็นว่าในร้านมีพนักงานไม่พอเลยดึงเข้ามาช่วย แต่ทุกคนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร อีกอย่างที่หน้าร้านก็มีหน้าที่ต้อนรับลูกค้างานไม่หนักมากยังดีที่การค้าขายเป็นไปด้วยดี ไม่อย่างนั้นกัวเหม่ยอิงคิดว่าเธอคงต้องใช้เงินประคอ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่69 ร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่สาขารอง

    ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่กัวเหม่ยอิงต้องฝึกงานให้พนักงาน เธอแทบจะไม่ได้ทำกับข้าวเลย เพราะทุกวันต้องตื่นตั้งแต่เช้าและกลับดึก หน้าที่ทำอาหารนอกจากมื้อเช้าก็จะเป็นหานหรงเจ๋อที่ทำ ไม่ก็ซื้อจากตลาดมากินเองอย่างวันนี้อาหารมื้อเช้าคือโจ๊กกุ้งที่ได้กุ้งมาจากพนักงานฝึกเมื่อวานที่เอามาฝาก ส่วนมากมื้อเช้าที่ทำก็เป็นโจ๊ก ส่วนมื้อกลางวันถ้าไม่ใช่น้องชายสามกลับมาเอากับข้าวที่บ้านเอง ก็จะเป็นหานหรงเจ๋อเอาไปส่งที่ร้านพนักงานฝึกในร้านตอนนี้เหลือสิบคน ผู้ชายสามคนผู้หญิงเจ็ดคน ที่สามารถทำตามเกณฑ์ของร้านที่กัวเหม่ยอิงกำหนดได้ ส่วนคนที่ถูกคัดออกก็จะมีคนที่ไม่สามารถเข้ากับร้านได้ หรือบางทีพอเห็นว่าไม่เหมาะกับต้วเองก็ขอไม่เข้ามาฝึกต่อวันนี้เป็นวันที่ต้องเลือกว่าพนักงานที่ฝึกผ่านมีใครบ้าง สำหรับกัวเหม่ยอิงก็มีคนที่ไม่ผ่าน แต่การที่จะคัดออกนั้นมีสามคนที่เลือก คือกัวเหม่ยอิง น้องชายสามและหานหรงเจ๋อ หากพนักงานฝึกคนไหนไม่ถูกพวกเธอเลือกสองคนก็จะไม่ผ่านและที่สำคัญในร้านก็เอาเสื้อขึ้นแขวนเต็มร้านแล้วระหว่างที่ฝึกงาน เสื้อมีมากถึงสองพันตัวแน่นอนว่าต่อให้ร้านใหญ่เพียงพอกัวเหม่ยอิงก็ไม่ได้เอาขึ้นแขวนหมด เธอเอา

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่68 เสื้อเชิ้ต

    รายชื่อทั้งสามสิบชื่อถูกกัวเหม่ยอิงติดประกาศไว้ที่หน้าร้านว่ามีใครผ่านการสมัครฝึกงานบ้าง พร้อมทั้งเปิดรับสมัครพนักงานอีกรอบที่หน้าร้านเฉพาะวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะประกาศอีกรอบว่าจะมีใครผ่านเข้ามาฝึกงานบ้างกัวเหม่ยอิงแจ้งในใบประวัติแล้วว่าแต่ละคนจะได้เงินเดือนเท่าไรหากฝึกงานผ่าน และช่วงฝึกงานตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์กว่า ๆ กัวเหม่ยอิงจะไม่มีค่าจ้างให้ ใครผ่านก็จะได้เข้ามาทำงาน ใครไม่ผ่านก็ไม่ได้เข้ามาทำงานรอบแรกมีคนมาสมัครทั้งหมดสามสิบคน เป็นผู้ชายเจ็ดคน ที่เหลือยี่สิบสามคนจะเป็นผู้หญิง ซึ่งแน่นอนว่าเกณฑ์การคัดเลือกมีเยอะจึงมีหลายคนที่ไม่ผ่านคนที่ผ่านวันนี้มีแค่ผู้ชายสามคน ผู้หญิงแปดคน ซึ่งสามารถมารายงานตัวได้วันพรุ่งนี้ แต่ถ้าใครไม่อยากทำงานด้วยแล้วหรือได้งานทำแล้วก็สละสิทธิ์ได้ห้องเช่าที่ช่างได้เข้ามาต่อเติมให้ตามที่กัวเหม่ยอิงอยากได้ ตอนนี้ก็เสร็จหมดแล้ว รอแค่เอาเสื้อขึ้นแขวนกับสอนงานคนในร้านก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว ซึ่งตอนนี้เสื้อที่สั่งตัดมาก็มาส่งเมื่อสองวันก่อนเสื้อเชิ้ตผ้าป๊อปลินจำนวนสองพันตัวถูกคละสี คละไซซ์ของผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กเล็กที่ส่งมาไว้ที่บ้านทันทีที่ตัดเย็บเสร็จ ผลงา

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่ 67 ผลิตเสื้อหลายสิบลาย

    แผนกที่สองเป็นแผนกเนื้อผ้าลินิน เป็นเนื้อผ้าเส้นใยเหนียว ดูดซับความชื้นและระบายอากาศมากกว่าผ้าฝ้าย เวลาใส่จะรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด แต่มันเหมาะกับอากาศร้อน ซึ่งกัวเหม่ยอิงยังคิดว่ามันไม่เหมาะกับเสื้อที่อยากจะได้“เนื้อผ้าดีมากเลยค่ะ แต่ยังไม่ใช่” กัวเหม่ยอิงปฏิเสธผู้จัดการถึงแม้ไม่อยากจะพูดว่าไม่ใช่ แต่กัวเหม่ยอิงจะทำธุรกิจเธอจะบอกใช่ไม่ได้ เมื่อไม่ใช่ในสิ่งที่อยากได้ อีกอย่างเนื้อผ้าก็มีเป็นร้อย บางทีเนื้อผ้าที่อยากได้คงจะมีในนี้“ผ้าเรยอนไหมคะ เนื้อผ้าจะนุ่ม ดูดซึมน้ำได้ดี มีความมันเงา แต่จะยับง่ายและคลายยับยาก” ผู้จัดการแนะนำ“ฉันอยากได้เนื้อผ้าเรียบ ๆ ค่ะ ถ้ามันเงามันจะไม่สวย” กัวเหม่ยอิงส่ายหน้า“หรือจะเอาเนื้อผ้าผสมดีค่ะ”“ไม่ดีค่ะ ถ้าผ้าผสมมันต้องผสมให้เท่า ๆ กัน ซึ่งแน่นอนว่ายาก”เหมือนจะเสียมารยาทแต่กัวเหม่ยอิงก็ตอบแบบนี้จริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นได้ในการทำธุรกิจ และต่อให้คนนอกมองว่าเธอเรื่องมาก กัวเหม่ยอิงก็ไม่ปฏิเสธ เพราะเธอเรื่องมากจริง ๆการออกแบบลวดลายแต่ละลายไม่ได้ออกแบบแบบขอไปที กัวเหม่ยอิงออกแบบให้ใกล้เคียงกับยุคที่เธอจากมาให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นลวดลายปัจ

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่66 โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่

    การจะเปิดร้านเสื้อผ้าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องวางแผน ออกแบบชุด หาตึกเช่าที่จะเปิดร้าน ต้องมีเงินลงทุนมากพอสมควรหากไม่มีประสบการณ์ และถึงจะมีประสบการณ์มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดร้านได้ ต่อให้มีเงินหลายแสนหยวน แต่ไม่มีความรู้ก็สามารถเจ๊งได้แต่กัวเหม่ยอิงจะดีหน่อยที่้เคยเปิดร้านมาก่อนถึงสามร้าน เธอจึงนับว่ามีประสบการณ์พอสมควร อะไรที่มีปัญหาในร้านเดิม กัวเหม่ยอิงก็จะแก้ไขในร้านนี้ให้ดีกว่าเดิมร้านเสื้อผ้าร้านใหม่ที่จะเปิดขายกัวเหม่ยอิงตั้งชื่อว่าร้านเสื้อผ้าเมิ่งลู่ของผู้เป็นลูกสาวเหมือนเดิม แต่สาขาที่นี่จะเป็นสาขารอง ส่วนสาขาหลักก็จะอยู่ในมณฑลบ้านเกิดครั้งนี้กัวเหม่ยอิงจะแบ่งเสื้อออกเป็นโซน แยกชายหญิงอย่างชัดเจน เพราะลูกค้าที่มาซื้อของในตลาดมีเยอะมาก จึงต้องแยกเพื่อความรวดเร็วในการซื้อขายกระดาษที่ถูกออกแบบลวดลายมีมากนับสิบลายที่กัวเหม่ยอิงจะส่งให้โรงงานตัดเย็บ ในปักกิ่งแบบนี้ส่วนมากต้องติดต่อโรงงานไม่มีสมาคมแม่บ้าน กัวเหม่ยอิงจึงออกแบบไว้หลายลายเพื่อส่งทีเดียวเห็นน้องชายสามเล่าว่าที่บ้านของโจวเฟินมีโรงงานขนาดใหญ่เป็นของตระกูล ที่สืบทอดมาหลายสิบรุ่นวันนี้น้องชายสามจะเป็นคนพากัวเห

  • ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายเลี้ยงครอบครัวสามียุค70   บทที่65 ห้องเช่า

    ห้องเช่าขนาดใหญ่ในตลาดถูกปล่อยว่างไว้แทบจะทั้งหมดเพราะมีราคาเช่าที่แพงมาก พ่อค้า แม่ค้า คนไหนที่อยากได้พื้นที่กว้างก็จะเช่าสองห้องติดกันแทนเช่าห้องใหญ่ป้ายเช่าปีละ 25,000 ติดเด่นหลาแปะหน้าห้องเช่าเกือบจะทั้งหมด มีพ่อค้า แม่ค้าอยู่ขายของอยู่ประปราย แต่ก็มีลูกค้าเดินผ่านเพราะมันต้องเดินผ่านบริเวณนี้ในการไปตลาดอีกฟากรวม ๆ แล้วกัวเหม่ยอิงคิดว่าห้องเช่าที่มาดูเป็นห้องเช่าที่ดีมาก มีขนาดที่ใหญ่พอสำหรับความต้องการ แต่ต้องดูข้างในด้วยว่าจะเป็นยังไง อีกอย่างก็คือที่ทำเลสำหรับกัวเหม่ยอิงแล้วเธอคิดว่ามันยังไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะส่วนมากลูกค้าจะเดินผ่านเฉย ๆ เพื่อไปตลาดอีกฟาก“แล้วเราจะติดต่อเจ้าของที่ยังไง”กัวเหม่ยอิงมีเส้นสายในอำเภอ ในมณฑล การที่จะติดต่อเจ้าของที่เธอแค่ขอให้คนช่วยก็มีคนช่วยแล้ว แต่ไม่ใช่กับในปักกิ่งที่เธอเหมือนกับเพิ่งหัดเดิน“ติดต่อที่เจ้าหน้าที่ดูแลที่นี่ครับ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าต้องติดต่อที่ไหน” น้องชายสามตอบ เขาไม่เคยถามใครเรื่องนี้เพราะไม่คิดว่าพี่สะใภ้จะเข้ามาที่ปักกิ่ง“หน้าทางเข้าไหม” เป็นหานหรงเจ๋อที่พูดขึ้นเพราะปกติถ้าเป็นโรงงาน หรือการติดต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็จะอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status