Share

บทที่ 631

Author: จี้เวยเวย
“ข้ารู้สึกว่าอวิ๋นฮูหยินปฏิบัติต่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อดียิ่งนัก ไม่ใช่ลูกในไส้ของนางสักหน่อย หรือเป็นลูกชายในไส้จริงๆ?”

เพียงแต่หากเป็นเช่นนี้ แม้อวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่ต้องตบแต่งกับอวิ๋นซีหว่าน แต่มิใช่ทำให้อวิ๋นเนี่ยนชูเสียเวลาหรอกหรือ? หากไม่มีตระกูลอวิ๋นและตระกูลจาง นางก็เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง เกรงว่าจะแต่งเข้าตระกูลดีๆไม่ได้”

ทุกคนต่างจุ๊ปากสะท้อนใจ เรื่องนี้อวิ๋นฮูหยินช่างไร้คุณธรรมยิ่งนัก แต่การที่อวิ๋นฮูหยินกระทำเช่นนี้ เรียกได้ว่าทำร้ายคนอื่นก็ทำร้ายถูกตัวเองด้วย

ในสายตาของหลายคนคือ ได้ไม่คุ้มเสีย

เพราะหลังจากหย่าร้างก็มิใช่ภรรยาของข้าราชการแล้ว ทั้งไม่มีความช่วยเหลือจากครอบครัวมารดาอีก นางก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว

“มารดาของเจ้าปกป้องแต่ญาติผู้พี่ของเจ้าเท่านั้น และไม่คำนึกถึงเจ้าเลยแม้แต่น้อย ได้ยินมาว่าเพราะนางไม่มีลูกชาย จึงเลี้ยงญาติผู้พี่ของเจ้าดั่งลูกชายแท้ๆ?”

อู๋เมี่ยวเสวียนหัวเราะเยาะ “ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่ามาชิงกับข้า มันไม่เป็นผลดีกับเจ้าหรอก”

“นี่เป็นเรื่องของครอบครัวข้า เจ้าไม่มีสิทธิที่จะเอามาพูด วันนี้เจ้าอย่าคิดจะชิงกับข้า!”

“ท่านอ๋อง เนี่ยนชูเพคะ”

ซ่งรั่วเจินอยู่ข
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 632

    เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว ซื่อจื่อน้อยก็เป็นน้องชายของฉู่อ๋องเช่นกัน หรือว่าฉู่อ๋องจะไม่ให้เกียรตินางเลยหรือ?นางนั้นลังเลยังไม่กล้าพูด ทันใดนั้นนางก็มองเห็นร่างสูงโปร่งดูอ่อนโยนเดินเข้ามา ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มในพริบตา“ซื่อจื่อน้อย ท่านมาแล้วหรือ!”ซ่งรั่วเจินหันไปมอง เห็นฉู่จิ่นหวยค่อย ๆ เดินเข้ามา ดวงตาพราวใสมีความประหลาดใจแล่นผ่านเมืองหลวงนั้นช่างเล็กเสียจริง แค่เพียงชั่วขณะเดียวก็บังเอิญพบเจอคนที่คุ้นเคยหลายคนจากงานเลี้ยงนับญาติครั้งก่อน นางก็ไม่เคยเห็นฉู่จิ่นหวยอีกเลย แต่ตอนที่พี่ใหญ่แต่งงาน จวนเซียงอ๋องกลับส่งของขวัญแสดงความยินดีมาให้ ทว่าได้ยินมาว่าพระชายาเซียงอ๋องไม่สบาย จึงไม่สามารถมาเข้าร่วมได้บัดนี้ได้พบกับฉู่จิ่นหวยอีกครั้ง หน้าตาของเด็กหนุ่มนั้นดูผ่อนคลายลงกว่าเมื่อก่อนประมาณหนึ่ง ไม่ปิดกั้นมากอย่างนั้นแล้ว แต่ยังคงมีความเศร้าหลงเหลืออยู่จาง ๆ“คุณหนูซ่ง?”เมื่อฉู่จิ่นหวยนั้นเห็นซ่งรั่วเจิน สายตานั้นเป็นประกายขึ้นมาบางส่วน แม้แต่เสียงก็ขึ้นสูงอย่างไม่รู้ตัว คล้ายมีความยินดีเป็นอย่างมาก “นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอเจ้า เจ้ามาภัตตาคารเพื่อกินอาหารเย็นเช่นกันหร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 633

    “นึกถึงเมื่อข้าก็ได้ยินถึงความสง่างามของเสด็จพี่มาตลอด ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งเราจะได้กลายมาเป็นพี่น้องกัน วันหน้ามิสู้วันนี้ ถ้าหากเสด็จพี่ไม่รังเกียจก็ให้ข้าได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงมื้อเย็นได้หรือไม่?” ฉู่จวินถิงมองฉู่จิ่นหวยและอู๋เมี่ยวเสวียนที่อยู่ข้าง ๆ “ในเมื่อเจ้ามีคนที่นัดไว้แล้ว แล้วยังต้องรักษาท่านป้าอีก ธุระสำคัญไม่ควรชักช้า ค่อยเลี้ยงวันหลังเถิด”อย่างไรก็ตาม ฉู่จิ่นหวยนั้นกลับไม่อยากจะเลิกล้ม เขายิ้มพูด “มิเป็นไร คุณหนูอู๋เพียงแค่แนะนำหมอเทวดาให้ข้าเท่านั้น ค่อยส่งเด็กรับใช้ไปส่งท่านหมอมาที่จวนก็ได้”ซ่งรั่วเจินและอวิ๋นเนี่ยนซูย่อมเข้าใจดี หมอเทวดาที่แนะนำสามารถส่งคนมารับไปที่จวนเซียงอ๋องได้โดยตรงอู๋เมี่ยวเสวียนกลับมิได้ทำเช่นนั้น นั่นเพราะเขาต้องการใช้มันเป็นข้ออ้างเพื่อมาพบฉู่จิ่นหวย“คุณหนูซ่ง ที่จริงแล้วข้าคิดว่าอาการฝันร้ายของท่านแม่นั้นแปลก ข้าได้ยินว่าเจ้าเก่งในศาสตร์ลึกลับ ดังนั้นข้าจึงอยากขอคำชี้แนะจากเจ้าหน่อยข้าไม่มั่นใจ กังวลว่าการไปที่จวนนั้นจะยิ่งรบกวนเจ้า ในเมื่อยามนี้ได้พบเจ้าแล้วจึงอยากจะถาม”ฉู่จิ่นหวยพูดเหตุผลที่แท้จริงออกมาเมื่อฟังคำพูดนั้น ซ่งรั่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 634

    เมื่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ที่นั่นก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที ทว่าก็เข้าใจในไม่ช้า “เนี่ยนชู เจ้าจะไปหาคุณหนูซ่งเพื่อพูดคุยเรื่องฝันร้ายของท่านน้าใช่หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินชะงักไปชั่วครู่ ก่อนมองไปที่อวิ๋นเนี่ยนชูโดยไม่รู้ตัว “ท่านป้าก็ฝันร้ายเช่นกันหรือเจ้าคะ?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “ช่วงนี้ท่านพ่อของข้ามักจะไปหาท่านแม่ตลอด ท่านตากับท่านน้าเองก็คอยไปกดดันท่านแม่ โดยหวังว่าท่านแม่จะเปลี่ยนใจทว่าท่านแม่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ สถานการณ์จึงตึงเครียดไปหมด อนุอวิ๋นคนนั้นชอบสร้างเรื่อง ชอบพูดจาเสียดสีอยู่เรื่อย เพียงหวังว่าท่านแม่ของข้าจะไม่กลับไป นางจะได้มีโอกาสขึ้นเป็นอวิ๋นฮูหยินตอนแรกท่านแม่เพียงจิตใจเหนื่อยล้า ทว่าต่อมาจู่ๆ ก็เริ่มฝันร้ายจึงไปหาท่านหมอ ท่านหมอเพียงบอกว่านางวิตกกังวลมากเกินไปและความทุกข์รุมเร้า จึงจ่ายยาสงบใจให้จำนวนหนึ่งวันนี้ข้านัดพบกับท่านพี่ที่นี่ก็เพื่อคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้”อย่างไรก็ตาม อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลับพูดว่า “คุณหนูซ่ง ข้าคิดว่าสถานการณ์ของท่านน้าไม่ง่ายขนาดนั้น กลัวว่าจะเป็นการกระทำของวิญญาณร้าย”“เหตุใดคุณชายอวิ๋นจึงพูดเช่นนี้?”“แม้ว่าหลายปีมานี้ใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 635

    ในห้องรับรองส่วนตัว อวิ๋นเนี่ยนชูนั่งลงด้านข้างซ่งรั่วเจิน สายตามองไปมาระหว่างซื่อจื่อน้อยผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มและฉู่อ๋องใบหน้าเย็นชาไม่หยุดนางอดไม่ได้ที่จะดึงมือของซ่งรั่วเจินและกระซิบว่า “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่ค่อนข้างแปลกกัน?”ซ่งรั่วเจินลดเสียงลง “บางทีพวกเขาอาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยสนิทกันนัก?”อวิ๋นเนี่ยนชูรู้สึกอึดอัด “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”ซ่งรั่วเจินเฝ้ามองอาหารเลิศรสที่ถูกนำมาทีละจาน จึงพูดสร้างบรรยากาศขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าอาหารในหอสุราเลิศรสอย่างมาก ปกติแล้วจะต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ทุกท่านมาลองชิมดูกันดูเถอะ?”ขณะพูด นางก็คีบกุ้งใส่ลงในชามของฉู่จวินถิง ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มนับตั้งแต่เข้ามา ฉู่จวินถิงก็มีสีหน้าเย็นชา ต้องพูดเลยว่ายามเขาไม่ยิ้ม จะมีบรรยากาศกดดันอย่างยิ่งจนผู้อื่นไม่กล้าหายใจฉู่จวินถิงเหลือบมองกุ้งในชาม คิ้วคลายออกเล็กน้อย และยื่นมือไปคีบอาหารให้ซ่งรั่วเจิน “วันนี้เดินเล่นมานานมากแล้ว เจ้าก็คงหิวมากแล้ว กินเยอะๆ เล่า”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า นางก็ไม่เกรงใจและเริ่มกินทันที ทั้งยังพูดกับอวิ๋นเนี่ยนชูและคนอื่นๆ ว่า “พวกท่านก็รีบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 636

    ดวงตาฉู่จิ่นหวยทอประกาย “ใช่แล้ว ก็เป็นเช่นนี้! ข้าถามท่านแม่ว่าตกลงฝันถึงอะไร นางกลับไม่ยอมพูด พูดเพียงหลับไม่สนิท บอกให้ข้าไม่ต้องกังวล”“พูดเช่นนี้แล้ว สถานการณ์ของพวกเขาล้วนเหมือนกัน?” คนเงียบขรึมอย่างฉู่จวินถิงขมวดคิ้ว สังเกตเห็นปัญหาอย่างว่องไว “เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด?”“ท่านแม่ข้าบอกว่าเมื่อเจ็ดวันก่อน” ฉู่จิ่นหวยเอ่ยตอบอวิ๋นเนี่ยนชูกลับพูด “แม่ข้าเมื่อห้าวันก่อน”“ที่แท้ก็ฝันต่อเนื่องกันหลายวันนี่เอง พวกเราเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่หลายวันนี้ไม่เพียงจิตใจว้าวุ่น แม้แต่คนก็เริ่มบ่นงึมงำ ข้ารู้สึกผิดปกติยิ่งนัก”ได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่ท่านป้าและพระชายาเซียงอ๋องคล้ายไม่มีอะไร เหตุใดถึงฝันร้ายเช่นนี้เล่า?“ระยะอันใกล้นี้มีสิ่งของพิเศษอันใดเพิ่มขึ้นมา หรือมีที่ใดพิเศษบ้างหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยครุ่นคิด พูดว่า “วันปกติท่านแม่ซื้อของไม่น้อย ส่วนมีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมานั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”“ระยะนี้ท่านน้ามิได้เพิ่มสิ่งใด เพียงแต่เมื่อห้าวันก่อนอนุอวิ๋นมาเที่ยวหนึ่ง อ้างว่าหวังดีต่อนางจึงนำของบางส่วนส่งมาให้ แต่ท่านน้าให้คนโยนทิ้งไปทั้งหมด”“ต่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 637

    เช้าวันต่อมา ฉู่จวินถิงมารับซ่งรั่วเจินแล้วซ่งจืออวี้เห็นว่าเพิ่งได้สนทนากับน้องสาวบ้านตนสองประโยค คนก็จากไปแล้ว สลดใจอย่างอดไม่ได้“เมื่อวานน้องหญิงห้าก็ออกไปกับฉู่อ๋องทั้งวันแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดวันนี้ยังไปอีกเล่า? ฉู่อ๋องมาเยี่ยมเยียนบ่อยเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่มีอะไรน่าแปลกกัน? ได้พบกับแม่นางที่ชมชอบย่อมต้องเร็วสักหน่อย หาไม่แล้วจะได้อุ้มหญิงงามกลับไปยามใดกันเล่า?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าเข้าใจ ผินมองซ่งจืออวี้สายตารังเกียจแวบหนึ่ง “มิน่าเล่าท่านถึงยังไม่เปิดใจ!”“เจ้ากลับเปิดใจแล้ว ยังมิสู้ไม่เปิดใจ!” ซ่งจืออวี้เย้ยหยันกลับไป เย้ยหยันเขาด้านอื่นก็ช่างเถอะ บัดนี้ซ่งจิ่งเซินยังเย้ยหยันเขาด้านนี้ นั่นไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย!“ได้ยินมาว่าสองวันนี้เคอหยวนจื่อปรากฎตัวภายในร้าน น่าจะตั้งใจมาหาเจ้ากระมัง? เมื่อวานยามข้าไปหยิบของที่ร้าน นางเกือบจำข้าเป็นเจ้าไปแล้ว”ซ่งจิ่งเซินหน้าดำทึบทึม “ข้ายอมรับ ก่อนนี้ข้าตาบอด พอใจแล้วกระมัง!”ซ่งจืออวี้หัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ข้าเห็นว่าหลายวันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ ปล่อยให้ผู้ดูแลมารายงานสถานการณ์กับเจ้าในจวนก็พอ หาไม่แล้วเคอหยวนจื่อและสหายน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 638

    ผ่านไปเพียงไม่นาน ลู่หมิ่นฮุ่ยก็มาถึงแล้วนับตั้งแต่เข้ามา สายตาของนางก็ตกลงบนตัวซ่งรั่วเจิน ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายซ่งรั่วเจินถูกสายตานี้มองเสียจนประหม่า เกิดความสงสัยภายในใจ ระยะนี้นางมิได้ล่วงเกินพระชายาอันหลาน คงมิใช่มาคิดบัญชีกับนางเพราะฮองเฮาหรอกกระมัง?ดวงตาดำดุจหมึกของฉู่จวินถิงสะท้อนความสงสัยสายหนึ่ง ขยับขึ้นมากำบังซ่งรั่วเจินไว้ข้างหลัง เอ่ยว่า “ท่านน้า วันนี้ท่านมาพบท่านป้าด้วยเหตุใด?”“ไม่ใช่” ลู่หมิ่นฮุ่ยโบกมือ “ข้าได้ยินว่าวันนี้เจ้าและแม่นางซ่งมา นี่จึงตั้งใจมาพบ”พูดไป มองเห็นลู่หมิ่นฮุ่ยสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มกว้างจับมือซ่งรั่วเจิน ตบๆ อย่างสนิทสนม“แม่นางซ่ง ครั้งก่อนขอบคุณเจ้ามาก หากไม่ใช่เจ้าช่วยข้า ข้ายังไม่รู้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ยามใด”“พระชายาไม่จำเป็นต้องเกรงใจถึงเพียงนี้ ต่อให้หม่อมฉันไม่พูด พระชายาก็จะมีข่าวดีอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวินถิงเห็นท้องนูนขึ้นมาเล็กน้อยของลู่หมิ่นฮุ่ย นึกได้ว่าชาติก่อนท่านน้ามิได้ตั้งครรภ์ว่องไวถึงเพียงนี้หากไม่ใช่รั่วเจินกล่าวเตือน ยังต้องรออีกหนึ่งปี ครรภ์นี้ต้องขอบคุณรั่วเจินจริงๆ“ไม่ๆ ต้องขอบคุณเจ้า!”รอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1

    ราชวงศ์ฉู่โยว เมืองหลวงเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังหยุดเรียงกันหน้าประตูจวนหลินโหว ตามมาด้วยเสียงประทัดฆ้องกลอง ครึกครื้นมากเป็นพิเศษแขกเหรื่อมาร่วมงานเห็นภาพนี้แล้วก็ตกตะลึง “เหตุใดมีเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังกันเล่า?”“แม่นางห้าสกุลซ่ง—ซ่งรั่วเจิน รอหลินโหวมานานสองปี ดูแลงานทั้งจวนโหวแทนเขา บัดนี้หลินโหวคว้าชัยชนะกลับมา ตบแต่งแม่นางซ่งก็คือเรื่องดีของเมืองหลวง แต่เกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูพร้อมกัน มิใช่ว่ายังแต่งกับคนอื่นด้วยหรือ?”“คุณหนู ตอนนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินรู้สึกเพียงเสียงดังเอะอะอยู่ข้างหูพักหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ลืมตาทั้งสองข้างก็มองเห็นชุดแต่งงานสีแดงเข้ม?เกิดเหตุอันใดขึ้น?ชุดแต่งงานซิ่วเหอและเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงเข้ม นี่มิใช่ขบวนแต่งงานหรอกหรือ?“ท่านโหวทำเกินไปแล้ว ก่อนนี้เขาออกรบอยู่ภายนอก หากมิได้ท่านดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ไฉนเลยเขาจะสามารถออกรบอย่างสบายใจได้? บัดนี้กลับมาอย่างยากลำบาก เขาถึงขั้นตบแต่งฉินซวงซวงเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ไม่บอกกล่าวแม้คำเดียว เห็นได้ชัดว่ากำลังรังแกคุณหนู!”เฉินเซียงยิ่งพูดยิ่งโมโห บัดนี้เกี้ยวเจ้าสาวทั้งสองหลังหยุดอ

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 638

    ผ่านไปเพียงไม่นาน ลู่หมิ่นฮุ่ยก็มาถึงแล้วนับตั้งแต่เข้ามา สายตาของนางก็ตกลงบนตัวซ่งรั่วเจิน ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายซ่งรั่วเจินถูกสายตานี้มองเสียจนประหม่า เกิดความสงสัยภายในใจ ระยะนี้นางมิได้ล่วงเกินพระชายาอันหลาน คงมิใช่มาคิดบัญชีกับนางเพราะฮองเฮาหรอกกระมัง?ดวงตาดำดุจหมึกของฉู่จวินถิงสะท้อนความสงสัยสายหนึ่ง ขยับขึ้นมากำบังซ่งรั่วเจินไว้ข้างหลัง เอ่ยว่า “ท่านน้า วันนี้ท่านมาพบท่านป้าด้วยเหตุใด?”“ไม่ใช่” ลู่หมิ่นฮุ่ยโบกมือ “ข้าได้ยินว่าวันนี้เจ้าและแม่นางซ่งมา นี่จึงตั้งใจมาพบ”พูดไป มองเห็นลู่หมิ่นฮุ่ยสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มกว้างจับมือซ่งรั่วเจิน ตบๆ อย่างสนิทสนม“แม่นางซ่ง ครั้งก่อนขอบคุณเจ้ามาก หากไม่ใช่เจ้าช่วยข้า ข้ายังไม่รู้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ยามใด”“พระชายาไม่จำเป็นต้องเกรงใจถึงเพียงนี้ ต่อให้หม่อมฉันไม่พูด พระชายาก็จะมีข่าวดีอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวินถิงเห็นท้องนูนขึ้นมาเล็กน้อยของลู่หมิ่นฮุ่ย นึกได้ว่าชาติก่อนท่านน้ามิได้ตั้งครรภ์ว่องไวถึงเพียงนี้หากไม่ใช่รั่วเจินกล่าวเตือน ยังต้องรออีกหนึ่งปี ครรภ์นี้ต้องขอบคุณรั่วเจินจริงๆ“ไม่ๆ ต้องขอบคุณเจ้า!”รอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 637

    เช้าวันต่อมา ฉู่จวินถิงมารับซ่งรั่วเจินแล้วซ่งจืออวี้เห็นว่าเพิ่งได้สนทนากับน้องสาวบ้านตนสองประโยค คนก็จากไปแล้ว สลดใจอย่างอดไม่ได้“เมื่อวานน้องหญิงห้าก็ออกไปกับฉู่อ๋องทั้งวันแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดวันนี้ยังไปอีกเล่า? ฉู่อ๋องมาเยี่ยมเยียนบ่อยเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่มีอะไรน่าแปลกกัน? ได้พบกับแม่นางที่ชมชอบย่อมต้องเร็วสักหน่อย หาไม่แล้วจะได้อุ้มหญิงงามกลับไปยามใดกันเล่า?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าเข้าใจ ผินมองซ่งจืออวี้สายตารังเกียจแวบหนึ่ง “มิน่าเล่าท่านถึงยังไม่เปิดใจ!”“เจ้ากลับเปิดใจแล้ว ยังมิสู้ไม่เปิดใจ!” ซ่งจืออวี้เย้ยหยันกลับไป เย้ยหยันเขาด้านอื่นก็ช่างเถอะ บัดนี้ซ่งจิ่งเซินยังเย้ยหยันเขาด้านนี้ นั่นไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย!“ได้ยินมาว่าสองวันนี้เคอหยวนจื่อปรากฎตัวภายในร้าน น่าจะตั้งใจมาหาเจ้ากระมัง? เมื่อวานยามข้าไปหยิบของที่ร้าน นางเกือบจำข้าเป็นเจ้าไปแล้ว”ซ่งจิ่งเซินหน้าดำทึบทึม “ข้ายอมรับ ก่อนนี้ข้าตาบอด พอใจแล้วกระมัง!”ซ่งจืออวี้หัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ข้าเห็นว่าหลายวันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ ปล่อยให้ผู้ดูแลมารายงานสถานการณ์กับเจ้าในจวนก็พอ หาไม่แล้วเคอหยวนจื่อและสหายน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 636

    ดวงตาฉู่จิ่นหวยทอประกาย “ใช่แล้ว ก็เป็นเช่นนี้! ข้าถามท่านแม่ว่าตกลงฝันถึงอะไร นางกลับไม่ยอมพูด พูดเพียงหลับไม่สนิท บอกให้ข้าไม่ต้องกังวล”“พูดเช่นนี้แล้ว สถานการณ์ของพวกเขาล้วนเหมือนกัน?” คนเงียบขรึมอย่างฉู่จวินถิงขมวดคิ้ว สังเกตเห็นปัญหาอย่างว่องไว “เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด?”“ท่านแม่ข้าบอกว่าเมื่อเจ็ดวันก่อน” ฉู่จิ่นหวยเอ่ยตอบอวิ๋นเนี่ยนชูกลับพูด “แม่ข้าเมื่อห้าวันก่อน”“ที่แท้ก็ฝันต่อเนื่องกันหลายวันนี่เอง พวกเราเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่หลายวันนี้ไม่เพียงจิตใจว้าวุ่น แม้แต่คนก็เริ่มบ่นงึมงำ ข้ารู้สึกผิดปกติยิ่งนัก”ได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่ท่านป้าและพระชายาเซียงอ๋องคล้ายไม่มีอะไร เหตุใดถึงฝันร้ายเช่นนี้เล่า?“ระยะอันใกล้นี้มีสิ่งของพิเศษอันใดเพิ่มขึ้นมา หรือมีที่ใดพิเศษบ้างหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยครุ่นคิด พูดว่า “วันปกติท่านแม่ซื้อของไม่น้อย ส่วนมีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมานั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”“ระยะนี้ท่านน้ามิได้เพิ่มสิ่งใด เพียงแต่เมื่อห้าวันก่อนอนุอวิ๋นมาเที่ยวหนึ่ง อ้างว่าหวังดีต่อนางจึงนำของบางส่วนส่งมาให้ แต่ท่านน้าให้คนโยนทิ้งไปทั้งหมด”“ต่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 635

    ในห้องรับรองส่วนตัว อวิ๋นเนี่ยนชูนั่งลงด้านข้างซ่งรั่วเจิน สายตามองไปมาระหว่างซื่อจื่อน้อยผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มและฉู่อ๋องใบหน้าเย็นชาไม่หยุดนางอดไม่ได้ที่จะดึงมือของซ่งรั่วเจินและกระซิบว่า “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่ค่อนข้างแปลกกัน?”ซ่งรั่วเจินลดเสียงลง “บางทีพวกเขาอาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยสนิทกันนัก?”อวิ๋นเนี่ยนชูรู้สึกอึดอัด “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”ซ่งรั่วเจินเฝ้ามองอาหารเลิศรสที่ถูกนำมาทีละจาน จึงพูดสร้างบรรยากาศขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าอาหารในหอสุราเลิศรสอย่างมาก ปกติแล้วจะต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ทุกท่านมาลองชิมดูกันดูเถอะ?”ขณะพูด นางก็คีบกุ้งใส่ลงในชามของฉู่จวินถิง ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มนับตั้งแต่เข้ามา ฉู่จวินถิงก็มีสีหน้าเย็นชา ต้องพูดเลยว่ายามเขาไม่ยิ้ม จะมีบรรยากาศกดดันอย่างยิ่งจนผู้อื่นไม่กล้าหายใจฉู่จวินถิงเหลือบมองกุ้งในชาม คิ้วคลายออกเล็กน้อย และยื่นมือไปคีบอาหารให้ซ่งรั่วเจิน “วันนี้เดินเล่นมานานมากแล้ว เจ้าก็คงหิวมากแล้ว กินเยอะๆ เล่า”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า นางก็ไม่เกรงใจและเริ่มกินทันที ทั้งยังพูดกับอวิ๋นเนี่ยนชูและคนอื่นๆ ว่า “พวกท่านก็รีบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 634

    เมื่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ที่นั่นก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที ทว่าก็เข้าใจในไม่ช้า “เนี่ยนชู เจ้าจะไปหาคุณหนูซ่งเพื่อพูดคุยเรื่องฝันร้ายของท่านน้าใช่หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินชะงักไปชั่วครู่ ก่อนมองไปที่อวิ๋นเนี่ยนชูโดยไม่รู้ตัว “ท่านป้าก็ฝันร้ายเช่นกันหรือเจ้าคะ?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “ช่วงนี้ท่านพ่อของข้ามักจะไปหาท่านแม่ตลอด ท่านตากับท่านน้าเองก็คอยไปกดดันท่านแม่ โดยหวังว่าท่านแม่จะเปลี่ยนใจทว่าท่านแม่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ สถานการณ์จึงตึงเครียดไปหมด อนุอวิ๋นคนนั้นชอบสร้างเรื่อง ชอบพูดจาเสียดสีอยู่เรื่อย เพียงหวังว่าท่านแม่ของข้าจะไม่กลับไป นางจะได้มีโอกาสขึ้นเป็นอวิ๋นฮูหยินตอนแรกท่านแม่เพียงจิตใจเหนื่อยล้า ทว่าต่อมาจู่ๆ ก็เริ่มฝันร้ายจึงไปหาท่านหมอ ท่านหมอเพียงบอกว่านางวิตกกังวลมากเกินไปและความทุกข์รุมเร้า จึงจ่ายยาสงบใจให้จำนวนหนึ่งวันนี้ข้านัดพบกับท่านพี่ที่นี่ก็เพื่อคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้”อย่างไรก็ตาม อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลับพูดว่า “คุณหนูซ่ง ข้าคิดว่าสถานการณ์ของท่านน้าไม่ง่ายขนาดนั้น กลัวว่าจะเป็นการกระทำของวิญญาณร้าย”“เหตุใดคุณชายอวิ๋นจึงพูดเช่นนี้?”“แม้ว่าหลายปีมานี้ใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 633

    “นึกถึงเมื่อข้าก็ได้ยินถึงความสง่างามของเสด็จพี่มาตลอด ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งเราจะได้กลายมาเป็นพี่น้องกัน วันหน้ามิสู้วันนี้ ถ้าหากเสด็จพี่ไม่รังเกียจก็ให้ข้าได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงมื้อเย็นได้หรือไม่?” ฉู่จวินถิงมองฉู่จิ่นหวยและอู๋เมี่ยวเสวียนที่อยู่ข้าง ๆ “ในเมื่อเจ้ามีคนที่นัดไว้แล้ว แล้วยังต้องรักษาท่านป้าอีก ธุระสำคัญไม่ควรชักช้า ค่อยเลี้ยงวันหลังเถิด”อย่างไรก็ตาม ฉู่จิ่นหวยนั้นกลับไม่อยากจะเลิกล้ม เขายิ้มพูด “มิเป็นไร คุณหนูอู๋เพียงแค่แนะนำหมอเทวดาให้ข้าเท่านั้น ค่อยส่งเด็กรับใช้ไปส่งท่านหมอมาที่จวนก็ได้”ซ่งรั่วเจินและอวิ๋นเนี่ยนซูย่อมเข้าใจดี หมอเทวดาที่แนะนำสามารถส่งคนมารับไปที่จวนเซียงอ๋องได้โดยตรงอู๋เมี่ยวเสวียนกลับมิได้ทำเช่นนั้น นั่นเพราะเขาต้องการใช้มันเป็นข้ออ้างเพื่อมาพบฉู่จิ่นหวย“คุณหนูซ่ง ที่จริงแล้วข้าคิดว่าอาการฝันร้ายของท่านแม่นั้นแปลก ข้าได้ยินว่าเจ้าเก่งในศาสตร์ลึกลับ ดังนั้นข้าจึงอยากขอคำชี้แนะจากเจ้าหน่อยข้าไม่มั่นใจ กังวลว่าการไปที่จวนนั้นจะยิ่งรบกวนเจ้า ในเมื่อยามนี้ได้พบเจ้าแล้วจึงอยากจะถาม”ฉู่จิ่นหวยพูดเหตุผลที่แท้จริงออกมาเมื่อฟังคำพูดนั้น ซ่งรั่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 632

    เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว ซื่อจื่อน้อยก็เป็นน้องชายของฉู่อ๋องเช่นกัน หรือว่าฉู่อ๋องจะไม่ให้เกียรตินางเลยหรือ?นางนั้นลังเลยังไม่กล้าพูด ทันใดนั้นนางก็มองเห็นร่างสูงโปร่งดูอ่อนโยนเดินเข้ามา ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มในพริบตา“ซื่อจื่อน้อย ท่านมาแล้วหรือ!”ซ่งรั่วเจินหันไปมอง เห็นฉู่จิ่นหวยค่อย ๆ เดินเข้ามา ดวงตาพราวใสมีความประหลาดใจแล่นผ่านเมืองหลวงนั้นช่างเล็กเสียจริง แค่เพียงชั่วขณะเดียวก็บังเอิญพบเจอคนที่คุ้นเคยหลายคนจากงานเลี้ยงนับญาติครั้งก่อน นางก็ไม่เคยเห็นฉู่จิ่นหวยอีกเลย แต่ตอนที่พี่ใหญ่แต่งงาน จวนเซียงอ๋องกลับส่งของขวัญแสดงความยินดีมาให้ ทว่าได้ยินมาว่าพระชายาเซียงอ๋องไม่สบาย จึงไม่สามารถมาเข้าร่วมได้บัดนี้ได้พบกับฉู่จิ่นหวยอีกครั้ง หน้าตาของเด็กหนุ่มนั้นดูผ่อนคลายลงกว่าเมื่อก่อนประมาณหนึ่ง ไม่ปิดกั้นมากอย่างนั้นแล้ว แต่ยังคงมีความเศร้าหลงเหลืออยู่จาง ๆ“คุณหนูซ่ง?”เมื่อฉู่จิ่นหวยนั้นเห็นซ่งรั่วเจิน สายตานั้นเป็นประกายขึ้นมาบางส่วน แม้แต่เสียงก็ขึ้นสูงอย่างไม่รู้ตัว คล้ายมีความยินดีเป็นอย่างมาก “นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอเจ้า เจ้ามาภัตตาคารเพื่อกินอาหารเย็นเช่นกันหร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 631

    “ข้ารู้สึกว่าอวิ๋นฮูหยินปฏิบัติต่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อดียิ่งนัก ไม่ใช่ลูกในไส้ของนางสักหน่อย หรือเป็นลูกชายในไส้จริงๆ?”เพียงแต่หากเป็นเช่นนี้ แม้อวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่ต้องตบแต่งกับอวิ๋นซีหว่าน แต่มิใช่ทำให้อวิ๋นเนี่ยนชูเสียเวลาหรอกหรือ? หากไม่มีตระกูลอวิ๋นและตระกูลจาง นางก็เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง เกรงว่าจะแต่งเข้าตระกูลดีๆไม่ได้”ทุกคนต่างจุ๊ปากสะท้อนใจ เรื่องนี้อวิ๋นฮูหยินช่างไร้คุณธรรมยิ่งนัก แต่การที่อวิ๋นฮูหยินกระทำเช่นนี้ เรียกได้ว่าทำร้ายคนอื่นก็ทำร้ายถูกตัวเองด้วยในสายตาของหลายคนคือ ได้ไม่คุ้มเสียเพราะหลังจากหย่าร้างก็มิใช่ภรรยาของข้าราชการแล้ว ทั้งไม่มีความช่วยเหลือจากครอบครัวมารดาอีก นางก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว“มารดาของเจ้าปกป้องแต่ญาติผู้พี่ของเจ้าเท่านั้น และไม่คำนึกถึงเจ้าเลยแม้แต่น้อย ได้ยินมาว่าเพราะนางไม่มีลูกชาย จึงเลี้ยงญาติผู้พี่ของเจ้าดั่งลูกชายแท้ๆ?”อู๋เมี่ยวเสวียนหัวเราะเยาะ “ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่ามาชิงกับข้า มันไม่เป็นผลดีกับเจ้าหรอก”“นี่เป็นเรื่องของครอบครัวข้า เจ้าไม่มีสิทธิที่จะเอามาพูด วันนี้เจ้าอย่าคิดจะชิงกับข้า!”“ท่านอ๋อง เนี่ยนชูเพคะ”ซ่งรั่วเจินอยู่ข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 630

    งานเลี้ยงวันเกิดของฉู่มู่เหยาใกล้จะถึงแล้ว จะต้องรีบจัดเตรียมงานโดยเร็วฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินภาพวาดเป็นครั้งแรก พบว่าวิธีการวาดภาพของนางไม่เหมือนกับที่เห็นตามปกติทั่วไปแค่นางตวัดปลายพู่กันอย่างสบายเพียงไม่กี่ครั้งก็ปรากฏเรือนร่างอรชรของหญิงสาวได้ กระนั้นยังวาดรายละเอียดอันวิจิตของกระโปรงออกมาได้อีกทุกจุดออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งความยาว ความกว้าง แม้กระทั่งวัสดุที่เลือกใช้ก็เขียนไว้ด้านข้างอย่างชัดเจน ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเสื้อผ้าของลั่วเซินฟางจึงมีเอกลักษณ์มากเมื่อก่อนรู้แค่ว่านางเก่งเรื่องศาสตร์ลี้ลับ และยังรู้จักทำการค้า ร้านที่นางเปิดกิจการก็เป็นไปได้ดี แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วนางยังมีพรสวรรค์เพียงนี้หญิงสาวเช่นนี้...เมื่อก่อนในเมืองหลวงต้องได้รับฉายาว่าเป็นกุลสตรีตระกูลใหญ่เท่านั้น ช่างเป็นสตรีที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากเสียจริงหวนนึกถึงชาติที่แล้วเห็นเพียงแค่ซ่งรั่วเจินผู้เศร้าโศก ต่างจากคนตรงหน้านี้...อุปนิสัยช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซ่งรั่วเจินเลือกผ้าด้วยตนเอง และหารือกับช่างเย็บปักเกี่ยวกับแบบลวดลายปัก แล้วจึงเดินไปด้านหน้าฉู่จวินถิงชายหนุ่มยืนรอนางอยู่ต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status