Share

บทที่ 31

Author: จี้เวยเวย
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าฉู่อ๋องจะเป็นคนเรียบง่ายเป็นกันเองเช่นนี้” หลิ่วหรูเยียนเอ่ยชื่นชม

ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “หากท่านอ๋องไม่มา วันนี้เกรงว่าคงจะคลี่คลายไม่ได้ง่ายดายถึงเพียงนี้”

“วันนี้ลำบากเจ้าแล้ว ถ้าเจ้าไม่ไปพบเรื่องนี้เข้าเสียก่อน เกรงว่าผลลัพธ์คงเลวร้ายสุดคาดคิด...บุตรีตระกูลฉินทำเรื่องชั่วร้ายพรรค์นี้ออกมาได้ ข้าจะต้องให้พวกเขามอบคำอธิบายมาให้ได้ จะรังแกกันเกินไปแล้ว!”

“พวกเจ้าพักผ่อนที่บ้านไปก่อน ข้าจะไปเอาเรื่องที่จวนตระกูลฉินสักรอบ พรุ่งนี้กลับมาอ้างว่าป่วยจะได้มีเหตุผลเพิ่มมาอีกข้อ”

หลิ่วหรูเยียนสุดจะกล้ำกลืนโทสะนี้ลงไปได้จริงๆ ยามนี้คนที่รอดูเรื่องขายหน้าของตระกูลซ่งมีจำนวนไม่น้อย ถ้านางไม่ฮึดสู้ วันหน้าเรื่องทำนองนี้คงมีมาไม่หยุดหย่อน

สามีไม่อยู่ นางจะต้องปกป้องครอบครัวนี้ ไม่อาจปล่อยให้พวกลูก ๆ ได้รับความไม่เป็นธรรมโดยไร้เหตุผล!

เห็นมารดาเรียกสาวใช้แล้วออกไปข้างนอก ซ่งรั่วเจินก็อดประหลาดใจไม่ได้ ในความทรงจำของนาง น้อยครั้งนักที่นางจะได้เห็นมารดามีท่าทีเช่นนี้

“ท่านแม่แค่ถูกตระกูลหลิ่วรังแกจนชินชา ท่านตาท่านยายก็ไม่เคยจะเข้าข้างท่านแม่ แต่เวลาอยู่ข้างนอกมี
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Manila
แปลผิดหลายจุด ตระกูลซ่ง ใส่เป็นตระกูลฉิน เสียอรรถรสในการอ่าน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 32

    “ข้าไม่ให้ท่านทำเปล่า ๆ แน่นอน บ้านข้าอยู่ในเมืองหลวงนี่เอง ท่านไปสักรอบก็ไม่ไกลหรอก คนในครอบครัวข้าจะต้องตามหาข้าอยู่เป็นแน่ ขอเพียงท่านบอกเบาะแสของข้าต่อพวกเขา พวกเขาจะต้องตกรางวัลขอบคุณท่านแน่นอน”“หืม?” ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้ว คิดไม่ถึงว่าแม้เจ้าผีน้อยจะอายุไม่มาก แต่กลับเข้าใจอะไรไม่น้อย “ไหนลองพูดมาซิ”ภายใต้คำบอกเล่าของผีน้อย ซ่งรั่วเจินถึงรู้ว่าที่แท้เจ้าผีน้อยตนนี้ก็มีนามว่าต่งเป๋ยอวี่ เป็นหลานชายต่งหลินชิงรองเจ้ากรมพิธีการหลายเดือนก่อน เขารังเกียจว่าอยู่บ้านน่าเบื่อเกินไป จึงติดตามท่านย่ากับอาสะใภ้กลับไปเยี่ยมญาติที่บ้านเดิม คิดไม่ถึงว่ากลับถูกอาสะใภ้ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต สุดท้ายศพยังถูกโยนทิ้งลงในบ่อน้ำที่แห้งขอด“เหตุใดอาสะใภ้ของเจ้าต้องทำร้ายเจ้าด้วย?” ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้วแน่น เจ้าผีน้อยตรงหน้าดูแล้วก็อายุแค่หกเจ็ดขวบ ไยต้องลงมือโหดร้ายถึงเพียงนี้?ต่งเป๋ยอวี่ส่ายศีรษะน้อย ๆ “ข้า...ข้าก็ไม่รู้”“งั้นเจ้าเล่าเรื่องครอบครัวเจ้าให้ข้าฟังโดยละเอียดแทนก็แล้วกัน” ซ่งรั่วเจินไม่รีบร้อน ถึงจะตัดสินใจแล้วว่าจะช่วย แต่ก็ต้องรู้สาเหตุเสียก่อนตำแหน่งรองเจ้ากรมพิธีการนั้นไม่ต่ำต้อย ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 33

    หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็นชา นางรู้ว่าฉินฮูหยินตรงหน้าเป็นภรรยาที่แต่งเข้าบ้านหลังภรรยาคนเก่าสิ้นบุญ แต่ชื่อเสียงกลับไม่ได้น่าฟังเหมือนภรรยาที่มาแต่งงานใหม่ทั่วไปเลยสักนิดได้ยินว่าสมัยที่ฮูหยินคนเก่ายังอยู่ แม่ทัพฉินก็แอบสานสัมพันธ์กับกู้อวิ๋นเวยแล้ว ต่อมาฮูหยินผู้นั้นสิ้นบุญ กู้อวิ๋นเวยจึงแต่งเข้ามา ยามนี้มาคิดดูแล้วพฤติกรรมของฉินซวงซวงก็เหมือนผู้เป็นแม่ไม่มีผิดเพี้ยน!ไร้ยางอายสิ้นดี!“อวี้เอ๋อร์” หลิ่วหรูเยียนขานเรียกซ่งจืออวี้ยกฆ้องขึ้นตีโดยพลัน เสียงดังครึกโครมดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ในชั่วพริบตา แม่ทัพไป๋ที่อยู่ในจวนก็ถูกเสียงดังดึงดูดความสนใจจนออกมาดูด้วยเช่นกัน“หรูเยียน เจ้ามาได้อย่างไร?” แม่ทัพไป๋ถามอย่างประหลาดใจหลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเจ็บช้ำใจ “อาจารย์เจ้าคะ ตระกูลฉินชั่วร้ายเกินไปแล้ว สามีข้ายังไม่กลับมา พวกเขาก็คิดจะเอาชีวิตพวกข้าทุกคน...”เมื่อซ่งรั่วเจินมาถึงก็ได้เห็นฉากที่แสนจะครึกครื้นเช่นนี้เอง กู้อวิ๋นเวยยืนอธิบายอยู่ข้าง ๆ หากแต่ไร้คนเชื่อ มารดาของนางกุมสถานการณ์ไว้ได้อยู่หมัดถึงแม่ทัพไป๋จะเป็นอาจารย์ของบิดา แต่ปฏิบัติต่อบิดานางเสมือนเป็นลูกชายของตนเอง เ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 34

    ณ จวนฉู่อ๋องฉู่จวินถิงเพิ่งกลับมา องค์ชายห้าฉู่อวิ๋นกุยที่รออยู่นานแล้วก็รีบเข้ามาหาทันที “เสด็จพี่สาม วันนี้ท่านไปไหนมา? ข้าไปสถานที่ประจำของท่านตั้งหลายแห่งก็ไม่พบท่าน ให้ข้าตามหาเสียตั้งนาน”“มาหาข้ามีเรื่องอะไร?” ฉู่จวินถิงถามอย่างไม่เร็วไม่ช้า“พรุ่งนี้ท่านน้าจะจัดงานเลี้ยงชมดอกอิงฮวา [1] ที่ริมทะเลสาบอวิ๋นสุ่ย เสด็จแม่ให้ข้ามากำชับท่านว่าพรุ่งนี้ต้องไปให้ได้”“ริมทะเลสาบอวิ๋นสุ่ย?”เมื่อฉู่จวินถิงได้ยินคำว่าริมทะเลสาบอวิ๋นสุ่ย ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสี ในหัวนึกถึงคำพูดที่ซ่งรั่วเจินบอกเขาว่าอย่าไปริมทะเลสาบขึ้นมาทันที เขายังคิดอยู่เลยว่าตนเองไม่มีความคิดจะไปเสียหน่อย คิดไม่ถึงว่าท่านน้าจะจัดงานเลี้ยงชมดอกอิงฮวาริมทะเลสาบ ตกลงแล้วนี่เป็นเรื่องจริงหรือว่าบังเอิญกันแน่?ฉู่อวิ๋นกุยเห็นฉู่จวินถิงเงียบงันไม่เอ่ยวาจาก็คิดว่าเขาเป็นเหมือนที่ผ่านมา จึงถอนหายใจยาว “พี่สาม งานมงคลของท่านแทบจะกลายเป็นปมในใจเสด็จแม่ไปแล้ว สองปีมานี้งานเลี้ยงชมดอกเหมย งานเลี้ยงชมบุปผา หรืองานเลี้ยงชมดอกอิงฮวาล้วนจัดมาหมดแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะส่งคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงมาตรงหน้าท่านหมดแล้ว ไม่มีสักคนที่ท่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 35

    “คุณหนู หากอยากได้ยันต์คุ้มกาย พรุ่งนี้พวกเราค่อยไปขอที่วัดกว่างอวิ๋นมาสักอันดีไหมเจ้าคะ? ไยต้องลำบากเขียนเองด้วย?”ซ่งรั่วเจินตอบโดยไม่เหลือบสายตาขึ้นมอง “ยันต์ที่พวกเขาวาดสู้ของข้าไม่ได้”เฉินเซียงเผยอปาก พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่นางเห็นคุณหนูเขียนพู่กันอย่างหนักแน่น สัญลักษณ์ยันต์ที่ซับซ้อนยังวาดได้สมจริงมาก ถ้าไม่ได้มาเห็นคุณหนูเขียนด้วยตัวเอง บอกว่าไปขอมาจากที่วัดนางก็เชื่อหลังเขียนยันต์คุ้มกายหลายแผ่นติดต่อกัน ซ่งรั่วเจินก็หยิบหนึ่งแผ่นในนั้นส่งให้เฉินเซียง“แผ่นนี้ให้เจ้า เก็บไว้ให้ดี”“ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ!” เฉินเซียงยินดีเหลือจะกล่าว เก็บยันต์แผ่นนั้นไว้ในอกเสื้อราวกับเป็นของล้ำค่า ไม่ว่าจะใช้ได้ผลหรือไม่ก็เป็นน้ำใจของคุณหนูหารู้ไม่ว่ายันต์คุ้มกายแผ่นนั้นเปล่งแสงสีทองจางๆ เป็นของล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่งวันถัดมา ซ่งรั่วเจินถูกหลิ่วหรูเยียนเรียกหาแต่เช้า“เจินเอ๋อร์ วันนี้ลู่ฮูหยินจัดงานเลี้ยงชมดอกอิงฮวา คุณหนูตระกูลใหญ่ที่ยังไม่ออกเรือนในเมืองหลวงล้วนไปกันหมด วันนี้เจ้าก็ไปด้วยเถิด!”หลิ่วหรูเยียนนำอาภรณ์และเครื่องประดับที่เตรียมไว้ออกมา “แม่ตั้งใจเลือกของพวกนี้ให้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 36

    ฉู่จวินถิงปรายตามองฉู่อวิ๋นกุยที่อยู่ข้างกาย “เจ้าสนใจเรื่องนี้ถึงเพียงนี้ คงไม่ได้มีคุณหนูที่พึงใจแล้วหรอกนะ? มิสู้ข้ากลับไปบอกเสด็จแม่ให้เจ้า ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก เจ้าแต่งงานไว ๆ มีหลานตัวน้อยให้เสด็จแม่อุ้ม ข้าเองก็จะได้ฟังคำบ่นน้อยลงหน่อย”“เสด็จพี่ ท่านจัดการเรื่องตัวเองไม่ได้ก็อย่ามาทำร้ายข้าสิ แม้จะมีสตรีชื่นชมข้ามากมาย แต่ไม่มีใครได้ใจข้าไปหรอกนะ ตราบใดที่ท่านยังไม่แต่งงาน เรื่องนี้อย่างไรก็เวียนมาไม่ถึงข้าหรอก”ฉู่อวิ๋นกุยกระหยิ่มยิ้มย่อง อย่างไรเสียเขาก็อยู่อันดับท้าย ๆ มีเสด็จพี่สามขวางอยู่ข้างหน้า เขาจึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเสรี“หากข้าแต่งงาน คนต่อไปก็คือเจ้า เจ้าจะทุ่มเทเพื่องานมงคลของข้าไปทำไม?” ฉู่จวินถิงถามกลับฉู่อวิ๋นกุยอึ้งไป “จริงด้วย ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เสด็จพี่ ท่านต้องต้านให้อยู่นะ ข้ายังไม่อยากแต่งงานตั้งแต่ยังหนุ่ม”“งั้นเจ้ากับข้าก็อยู่ตรงนี้ก่อน ไม่ต้องรีบร้อน”ฉู่จวินถิงทอดสายตามองผิวทะเลสาบซึ่งต้องแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับห่างไกลออกไป นึกถึงคำพูดที่ซ่งรั่วเจินบอกเขาว่าอย่าเข้าใกล้ริมทะเลสาบ รู้สึกว่าเชื่อว่ามีไว้ก่อนก็ยังดีกว่าไม่เช

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 37

    หญิงสาวรูปร่างอรชร กิริยาชดช้อย อาภรณ์สุภาพเรียบง่ายเมื่อสวมลงบนร่างนางกลับสง่างามเหนือสามัญ ดุจดั่งนางเซียนลงมาเยือนแดนมนุษย์คิ้วดุจจันทร์เสี้ยว ดวงตาดุจธาราในฤดูสารท ริมฝีปากแดงฟันขาว ผิวขาวเนียนลออ เครื่องหน้างามเฉิดฉายนั้นเมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องแล้วยิ่งงดงามจับตา เป็นหนึ่งไม่มีสองในใต้หล้าทันใดนั้น คนไม่น้อยสังเกตเห็นซ่งรั่วเจินที่งามเฉิดฉัน แววตาก็ไหวระริกด้วยความตื่นเต้น“นี่เป็นคนงามจากบ้านใดกัน? ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย!”ชายหนุ่มรอบข้างล้วนหวั่นไหว คนงามเช่นนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าชาติกำเกิดเป็นเช่นไร แค่สามารถแต่งเข้าบ้านได้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแล้ว“เสด็จพี่ ท่านดูสิ ทางนั้นมีหญิงงามมาคนหนึ่ง!”ฉู่อวิ๋นกุยพลันตื่นเต้นขึ้นมา สายตาจับจ้องคนงามในอาภรณ์สีฟ้าอ่อนที่อยู่ห่างไกลออกไป “ช่างงามพิลาสอะไรเช่นนี้ งามล่มบ้านล่มเมือง ไม่รู้ว่าเป็นแม่นางบ้านใด?”เขาลุกขึ้นจัดแจงรอยยับย่นบนอาภรณ์ “เสด็จพี่ ข้ารู้ว่าท่านไม่ใกล้ชิดกับสตรีมาแต่ไหนแต่ไร ข้าขอล่วงหน้าไปก่อนนะ!”ฉู่จวินถิงย่อมจำหญิงสาวที่ริมฝั่งทะเลสาบได้ เห็นฉู่อวิ๋นกุยกำลังจะจากไปด้วยความรีบร้อน แววตาก็พลันมืดครึ้ม กล่าว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 38

    ซ่งจืออวี้เห็นน้องสาวตัวเองตอบโต้จนหลินจือเยว่พูดอะไรไม่ออก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าก่อนหน้านี้มารดากำชับเสียเปล่าแล้ว น้องหญิงห้าในตอนนี้ไม่ได้มีนิสัยยอมคนเลยสักนิด ยังร้ายกาจกว่าเขาเสียอีก!“น้องหญิงห้า เรื่องนี้ยกให้ข้าจัดการก็พอ พี่สามจะต้องนำเงินกลับมาให้ได้! ถ้าไม่คืน ข้าก็จะไปตีกลองร้องทุกข์ นำความไปทูลเบื้องพระพักตร์!”หลินจือเยว่พลันนึกขึ้นมาได้ว่าซ่งจืออวี้เป็นคนที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์คนหนึ่ง เรื่องแบบนี้หากเป็นคนอื่นไม่แน่ว่าจะทำได้ แต่ซ่งจืออวี้ทำได้แน่นอนเงินแปดล้านตำลึง กะทันหันแบบนี้เขาจะไปหามาจากไหน? หากไม่คืน เกรงว่าตระกูลซ่งคงจะอาละวาดจนไม่อาจจัดการได้...“ท่านฉลาดมากไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงไปชอบคนพรรค์นี้ได้?” ต่งเป๋ยอวี่อดรังเกียจไม่ได้ “ท่านแม่ข้าบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกผู้ชายคือความรับผิดชอบ พึงปฏิบัติกับสตรีอย่างสุภาพมีมารยาท คนผู้นี้ดูแล้วไม่เห็นจะเป็นเช่นนั้น”“แม่เจ้าสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้าด้วย?”“แน่นอน ท่านแม่ก็แค่ขี้บ่นเกินไป แต่ข้าคิดว่าที่พูดมาก็มีเหตุผล”ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง “ถือเสียว่าก่อนหน้านี้เจ้ากับข้าตาบอดไป ยามคนเรามีชีวิตอยู่มักจะมีช่วงเวลาที่ตามืด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 39

    “ฮูหยิน คุณชายต่งไม่เคยโทษท่าน เขาไหว้วานให้ข้านำของสิ่งนี้มาให้ท่านเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินเดินเข้าไปหาแล้วยื่นกล่องไม้ขนาดเล็กแสนประณีตในมือออกไปหลินอิ๋งเฉียวอึ้งไป มองแม่นางแปลกหน้าตรงหน้าอย่างงงงวย “เจ้า...เจ้ารู้จักเป๋ยอวี่หรือ?”“เคยพบเจ้าค่ะ”หลินอิ๋งเฉียวเปิดกล่องไม้ออกก็เห็นว่าในนั้นมีกระดาษแผ่นหนึ่ง เมื่อกางออกดูก็พบว่าเป็นภาพวาดครอบครัวของตนเอง ข้าง ๆ ยังมีข้อความที่ต่งเป๋ยอวี่เขียนไว้‘ก็ได้ ท่านแม่ อย่างมากข้ากลับไปแล้วค่อยตั้งใจเรียนกับพี่ใหญ่ก็ได้ จะได้ไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ท่านรับภาพแล้วห้ามโกรธข้าเชียวนะ’นี่คือภาพที่ต่งเป๋ยอวี่วาดหลังไปเยี่ยมญาติได้สองวันแล้วคิดถึงครอบครัวขึ้นมา กลัวว่ากลับมาแล้วมารดาจะไม่สนใจตนเองจึงวาดภาพนี้ เทียนสุ่ยนำภาพนี้มาด้วยตอนที่พาต่งเป๋ยอวี่กลับมาพริบตาที่จดจำลายมือได้ หลินอิ๋งเฉียวก็พลันน้ำตาไหลอาบหน้า “เป็นลายมือเป๋ยอวี่ นี่เป็นลายมือเป๋ยอวี่! แม่นาง เจ้าไปเจอเป๋ยอวี่ที่ใดหรือ? เจ้าโปรดบอกข้าด้วยเถิด ต้องการสิ่งใดเป็นการตอบแทน ข้าล้วนรับปากทั้งสิ้น”หลินอิ๋งเฉียวว่าแล้วก็ทำท่าจะคุกเข่าสวี่ชิงเหมยได้ยินความเคลื่อนไหวฝั่งนี้จึงรีบเดินเ

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 870

    “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ”ฉู่อวิ๋นกุยตบมือของเขา “ปีนั้นข้าเองก็อยู่ด้วย ตกลงเรื่องราวเป็นเช่นไร ทุกคนล้วนรู้ดี พูดขึ้นมาแล้ว อันที่จริงพวกเราก็ไม่สามารถหนีความรับผิดชอบทั้งหมดพ้น”ปีนั้นอายุยังน้อยไม่รู้ความ หลังเอะอะโวยวายแล้วก็จากไป ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้น พวกเขาเองก็ต้องรับผิดชอบจริงๆเป็นความผิดของพวกเขาตอนนี้เอง จ้าวซวี่ไป๋มองเห็นซ่งรั่วเจนจึงรีบเอ่ยถาม “แม่นางซ่ง เหตุใดเหมียวเหมี่ยวจึงกลายเป็นเช่นนี้? ข้าได้ยินมาว่าคนตายไปแล้วจะได้เกิดใหม่ เหตุใดนางจึงยังอยู่ในแม่น้ำเย็นยะเยือกนั้นอยู่ตลอดเล่า?”แม้ว่าตอนนั้นเฉียนชิ่งเหมียวยังพูดไม่จบ แต่เขาได้ยินนางพูดว่าในน้ำหนาวมากปีนั้นนางยังเด็กก็ต้องสำลักน้ำเย็นยะเยือกในแม่น้ำตายไป ชนิดที่ว่าผ่านมานานหลายปีถึงเพียงนี้ก็ยังถูกสภาพแวดล้อมเย็นยะเยือกโอบล้อมไว้...ทีแรกเขาคิดจริงว่าเฉียนชิ่งเหมียวน่ากลัว แต่ตอนนี้คิดตกแล้ว เดิมทีทั้งหมดก็เป็นความผิดของเขา“เพราะนางมีความยึดติด” ซ่งรั่วเจินพูดตามตรงผีตายในน้ำสำลักน้ำจนตาย แม้อนาถมาก แต่สามารถเกิดใหม่ได้ ทว่านางยังอยู่ที่นั่นไม่ยอมจากไป คาดว่ามีความยึดติดจึงยังอยู่ที่นั่น“เช่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 869

    วันต่อมา ซ่งรั่วเจินลุกจากที่นอนและกลั้วปากดีแล้ว ก็พบว่าฉู่จวินถิงและฉู่อวิ๋นกุยล้วนมาแล้วนางเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ “สกุลจ้าวให้คนมาส่งข่าวแล้วหรือ?”ฉู่อวิ๋นกุยพยักหน้าด้วยสีหน้าร้อนใจอยู่บ้าง “ส่งข่าวมาเช้าวันนี้ พูดว่าตกใจแทบแย่ เมื่อคืนล้วนไม่กล้านอนหลับ ข่าวถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อคืน แต่ข้าเพิ่งรู้เช้าวันนี้”ซ่งรั่วเจินกลับไม่แปลกใจ เมื่อวานทิ้งยันต์แผ่นนั้นไว้ย่อมสามารถทำให้จ้าวซวี่ไป๋ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่ายแต่ไหนแต่ไรมา ผีตายในน้ำนั้นน่าเกลียดมากนักเดิมทีคิดว่าเป็นหญิงงามน่าสงสารคนหนึ่ง เพียงหันหน้าก็กลายเป็นผีสาวหน้าตาบิดเบี้ยวน่ากลัวไปเสียแล้ว ความรักใคร่ลุ่มหลงของเขาย่อมมลายหายไป บัดนี้ต้องการเพียงมีชีวิตกับดักหญิงงามพรรค์นี้ นางเคยพบมาไม่น้อยแม้ต้องตายใต้อ้อมกอดหญิงงาม เป็นผีก็ยังสำราญมากนัก หากไม่ได้ฉู่อวิ๋นกุยมาหานางและขอความช่วยเหลือ จุดจบของจ้าวซวี่ไป๋ก็คงเป็นเช่นนี้“พวกเราไปดูตอนนี้ดีหรือไม่? ข้าเห็นบ่าวคนนั้นร้อนใจยิ่งนัก” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยจากนั้นฉู่จวินถิงเห็นว่าซ่งรั่วเจินเพิ่งตื่นและอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยจึงพูดว่า “ไม่รีบ กินมื้อเช้าก่อนเถอะ”ซ่ง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 868

    “หรือท่านจำไม่ได้แล้วว่าตอนเด็กเรียกขานข้าเยี่ยงไร?”ภายในสมองจ้าวซวี่ไป๋ปรากฏภาพสมัยยังเด็กของทั้งคู่“เหมียวเหมียว น้องหญิงเหมียวเหมียว”เขาเรียกเฉียนชิ่งเหมียวเช่นนี้มาโดยตลอด...“ใช่แล้ว ข้าก็คือน้องหญิงเหมียวเหมี่ยวของท่านอย่างไรเล่า สมัยเด็กพวกเราเล่นด้วยกัน ท่านเป็นสามี ข้าเป็นฮูหยินของท่านมาโดยตลอดอย่างไรเล่า!”ดวงตาผีสาวเริ่มมีเลือดไหล “เป็นท่านพูดว่าโตแล้วจะแต่งกับข้า ท่านสมควรเป็นสามีของข้าสิ!”พูดไป สีหน้าคลุ้มคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในสายตาเจือความมุ่งมั่นจะต้องได้มาครอบครอง“ข้าอยู่เพียงลำพังเหงามากเกินไปแล้ว ท่านจะต้องเป็นสามีข้า อยู่ร่วมกับข้าตลอดชีวิต!”ครู่ต่อมา จ้าวซวี่ไป๋เห็นผีสาวโผเข้าหาเขาอย่างกะทันหัน เล็บของนางคมมากเป็นพิเศษ หากแทงเข้าคอของเขา เขาจะต้องตายแน่!“อ๊าก...”เขาตกใจกลัวจึงวิ่งหนี กลับพบว่าผีสาวเร็วยิ่งกว่าเขามาก เดิมทีเขาก็หนีไม่รอด ดิ้นพล่านต้องการตื่นขึ้น กลับพบว่าพยายามไปก็ไร้ผล“ล้มเลิกความคิดเถอะ ท่านตื่นขึ้นมาไม่ได้หรอก”เฉียนชิ่งเหมียวอ่านความคิดของเขาออก พูดเยาะหยัน “หรือว่าระยะนี้ท่านไม่สังเกต ช่วงเวลาตื่นนอนของท่านสั้นลงทุกที ช่ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 867

    คืนวันเดียวกัน สกุลจ้าวจ้าวซวี่ไป๋มองเห็นแม่นางเหมียวเหมี่ยวที่เขาเฝ้าคะนึงหาภายในความฝัน นางงดงามและใจดีเช่นนั้น เป็นนางฟ้าของเขาหลังเขาโมโหเล่าเรื่องในวันนี้ออกมา ภายในดวงตาเหมียวเหมี่ยวสะท้อนสีแปลกประหลาด จากนั้นจูงมือของเขา ภายในสายตาเปี่ยมความลึกซึ้ง“คุณชายจ้าว ข้าไม่ต้องการอันใดทั้งสิ้น ต้องการเพียงอยู่ร่วมกับท่าน”“ไม่ว่าพวกเขาเข้าใจข้าผิดเยี่ยงไร ขอเพียงท่านเชื่อข้าก็พอ”หัวใจจ้าวซวี่ไป๋อบอุ่น พูดว่า “ข้าย่อมเชื่อเจ้า ในสายตาข้าเจ้าดีที่สุด พวกเขาล้วนพูดเหลวไหลไร้สาระ เดิมทีก็ไม่เคยพบเจ้า กลับพูดจาว่าร้ายเจ้า ทำเลยเถิดเกินไปจริงๆ!”“คุณชายจ้าว ข้ากลัวยิ่งนัก” เหมียวเหมี่ยวโผเข้าอ้อมกอดของจ้าวซวี่ไป๋ “ข้ากลัวพวกเขาจะแยกพวกเราออกจากกัน บัดนี้ข้าไม่ต้องการสิ่งใด ขอเพียงพวกเราได้อยู่ร่วมกันก็พอ”พูดไป นางก็ปลดเสื้อออก ทันใดนั้นไหล่หอมก็เผยออกมาจ้าวซวี่ไป๋เห็นภาพตรงหน้างดงามและหอมถึงเพียงนี้ ทันใดนั้นใบหน้าแดงเรื่อ “เหมียวเหมี่ยว นี่เจ้าจะทำอันใด?”“คุณชายจ้าว ข้าไม่ใส่ใจขนบธรรมเนียม ขอเพียงได้เป็นคนของท่าน เรื่องอื่นข้าล้วนไม่ใส่ใจ ท่านรับข้าไว้ดีหรือไม่?”มือสองข้างข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 866

    นางวางไม่ลง ทุกครั้งที่ได้เห็นเขาก็ทรมานจนอยากร้องไห้ซ่งรั่วเจินเห็นอวิ๋นเนี่ยนชูมองกลับมาตาแดง เอ่ยถามอย่างห่วงใย “เกิดอันใดขึ้น?”“ไม่มีอันใด” อวิ๋นเนี่ยนชูส่ายหน้า เดิมทียังอยากฝืนเอาไว้ แต่มองเห็นท่าทางเข้าใจนางอย่างทะลุปรุโปร่งของซ่งรั่วเจิน โผกอดนางไว้อย่างอดไม่ได้“รั่วเจิน ข้าไม่ได้เรื่องเลย เดิมทีก็ไม่สามารถปล่อยวางได้ลง”ซ่งรั่วเจินตบหลังอวิ๋นเนี่ยนชูเบาๆ พลางพูดปลอบโยน “อย่าบังคับตนเองจนเกินไป ไฉนเลยจะปล่อยวางความรักลงได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนั้น?”“แต่ก่อนหน้านี้เจ้าวางลงได้รวดเร็วยิ่งนัก” อวิ๋นเนี่ยนชูสะอื้นพลางพูดซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “เจ้าเองก็ไม่ดูหลินจือเยว่ว่าเป็นชายชั่วเยี่ยงไร ใช้เงินของข้าเลี้ยงดูหญิงอื่น ยังพูดจาเหยียดหยามข้าอีกด้วย แม้แต่ครอบครัวข้าก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา”“ชายเช่นนี้ เปลี่ยนเป็นเจ้าจะยังลังเลอีกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีข้าและเขาก็ไม่ได้รักกัน ย่อมปล่อยวางได้ลง”“หากญาติผู้พี่เจ้าเหมือนกับหลินจือเยว่ ข้าว่าเจ้าเองก็คงไม่ชอบเขาหลายปีถึงเพียงนี้ คงไล่เขาไปตั้งนานแล้ว”เดิมทีอวิ๋นเนี่ยนชูกำลังรู้สึกแย่ จู่ๆ ถูกซ่งรั่วเจินพูดเช

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 865    

    อวิ๋นเฉิงเจ๋อมองใบหน้าเล็กที่ดื้อรั้นของหญิงสาว ก่อนกล่าวเสียงหนักแน่น “ข้ามิได้หลบหน้าเจ้า และก็มิได้มิอยากพูดกับเจ้า”    “งั้นหรือ? ข้าเป็นคน ข้าย่อมรู้สึกได้เอง”    อวิ๋นเนี่ยนชูคิดถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ นับตั้งแต่ที่มารดาจากไป พวกเขาก็ได้อยู่ด้วยกัน ปราศจากการรบกวนของอวิ๋นซีหว่าน นางจึงมีเวลาได้อยู่กับญาติผู้พี่มากขึ้นกว่าเดิม    ทว่าเขากลับยุ่งมากในทุกวัน ยุ่งเสียจนตอนกลับมาก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว    นางตั้งใจเฝ้ารอจนดึกดื่นเพียงเพื่อจะได้พบเขา ต้มยาบำรุงร่างกายให้เขา แต่กลับได้รับเพียงประโยคเดียวจากเขาว่า “อย่ารอข้าเลย รีบนอนเถิด”    “ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะข้าเองที่ไม่รู้ความ ความชอบที่ข้าคิดไปเองว่าดี จะนำพาภาระมากมายให้แก่ท่าน บัดนี้ข้าละทิ้งมันแล้ว ต่อจากนี้จะไม่ตามรบกวนท่านอีก ท่านก็มิจำเป็นต้องหลบเลี่ยงข้าจนถึงขั้นไม่กลับบ้าน”    อวิ๋นเนี่ยนชูกลืนความขมขื่นในใจลงไป นางคิดมาโดยตลอดว่าตนเองก็ดีไม่น้อย ต่อให้ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นที่น่าชื่นชอบ แต่อย่างน้อยก็ไม่เป็นที่น่ารังเกียจของผู้ใด    ทว่าเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าผู้ที่นางรักที่สุด นางกลับกลายเป็นคนที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 864   

    สภาพแวดล้อมในยุคปัจจุบันและยุคโบราณย่อมแตกต่างกัน หลายสิ่งจึงต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย ทว่าซ่งจิ่งเซินเดิมทีก็เป็นผู้ที่เฉลียวฉลาดอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีวิสัยทัศน์เฉพาะตัวในด้านการทำธุรกิจ    แค่นางเสนอแนวคิดขึ้นมา ซ่งจิ่งเซินก็สามารถคิดหาหนทางที่เป็นไปได้และนำมาปฏิบัติได้จริงอย่างรวดเร็ว    ซ่งจิ่งเซินได้ยินถ้อยคำของซ่งรั่วเจิน ดวงตาก็ยิ่งเปล่งประกายขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายต้องรีบคว้ามือของซ่งรั่วเจินอย่างมิอาจข่มกลั้นความตื่นเต้นได้    “น้องหญิงห้า เจ้าเป็นอัจฉริยะจริง ๆ วิธีนี้ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”    สกุลซ่งของพวกเขาเดิมทีก็มีร้านค้าอยู่ในหลายเมือง บัดนี้เมื่อมีวิธีการนี้มาอีก แม้ว่ากระบวนการจะยุ่งยากอยู่บ้าง แต่หากประสบความสำเร็จ อิทธิพลของสกุลซ่งของพวกเขาย่อมมหาศาลอย่างแน่นอน!    “การดำเนินการโดยละเอียดยังคงต้องพึ่งพาท่านอยู่ดี มันค่อนข้างจะเปลืองแรงไม่น้อย” ซ่งรั่วเจินกล่าว    ซ่งจิ่งเซินโบกมือ “นี่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรกันล่ะ? ล้วนให้ข้าจัดการเถิด เมื่อถึงเวลานั้น กิจการสกุลซ่งของเราย่อมต้องเปิดทั่วทุกสารทิศ เพียงแค่คิดก็ดีใจยิ่งนัก!”    เมื่อร้านค้าของสกุลซ่งได้รับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 863    

    “ในเมื่อคุณชายจ้าวกล่าวชัดเจนถึงเพียงนี้แล้วว่าไม่ต้องการให้พวกเราช่วย หากว่าตามที่ข้าคิด พวกเราก็ไปกันเถิด”    ซ่งรั่วเจินเหลือบมองจ้าวซวี่ไป๋ที่อารมณ์กำลังเดือดดาลแวบหนึ่ง ด้วยสภาพร่างกายของเขาในยามนี้ หากยังคงโต้เถียงต่อไปเช่นนี้อีกเพียงไม่กี่คำ ก็ไม่จำเป็นต้องให้ฉู่อวิ๋นกุยลงมือ ตัวเขาเองคงจะโมโหจนหมดสติไปเอง    สีหน้าของฉู่อวิ๋นกุยเปลี่ยนไปเล็กน้อย “พี่สะใภ้…”    ซ่งรั่วเจิน “???” เหตุใดจึงเรียกว่าพี่สะใภ้เล่า!    ฉู่จวินถิงสบสายตาที่เต็มไปด้วยความงุนงงของซ่งรั่วเจิน ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “เชื่อฟังพี่สะใภ้ของเจ้าเถิด”    ฉู่อวิ๋นกุย “!!!”    นายหญิงจ้าวเมื่อเห็นดังนั้นก็ยิ่งร้อนใจ “แม่นางซ่ง ตอนนี้สมองของซวี่ไป๋ไม่สมประกอบนัก เจ้าอย่าได้โกรธเขาเลย ขอร้องล่ะ โปรดช่วยเขาด้วยเถิด!”    “ท่านป้าอย่าได้ร้อนใจไป พวกเราออกไปแล้วค่อยคุยกันเถิด” ซ่งรั่วเจินกล่าวปลอบโยน    นายหญิงจ้าวพยักหน้า ก่อนเดินตามออกจากเรือนไปด้วยความสับสนและจนปัญญา    “บัดนี้คุณชายจ้าวมีแต่เรื่องของสตรีนางนั้นอยู่เต็มหัว พวกเราจะกล่าวสิ่งใดไปก็ล้วนไร้ประโยชน์ ยันต์ใบนี้มอบให้ท่าน”    ซ่ง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 862

    ในช่วงฤดูที่สายหมอกและสายฝนโปรยปราย จ้าวซวี่ไป๋ได้บังเอิญพบเจอกับแม่นางเหมียวเหมี่ยวที่ลืมพกร่มมา    นางมีผิวพรรณขาวผ่องงดงาม ราวกับดอกไม้สีขาวที่เบ่งบานอยู่ริมทาง ทั้งบริสุทธิ์ อ่อนโยน และดูไร้เดียงสา จนผู้คนอดไม่ได้ที่จะอยากปกป้อง ยามที่นางยิ้มก็ยิ่งอ่อนหวาน ราวกับรอยยิ้มนั้นได้แทรกซึมเข้าสู่หัวใจผู้คน    จ้าวซวี่ไป๋พูดไปพูดมาก็อดไม่ได้ที่จะเผลอเผยรอยยิ้มออกมา ครั้นเมื่อกล่าวถึงช่วงท้าย แก้มก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม    ซ่งรั่วเจินสบตากับคนอื่น ๆ แวบหนึ่ง แม้เขาจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน แต่ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่า การพบเจอกันเช่นใดที่สามารถทำให้จิตใจของบุรุษว้าวุ่น จนถูกช่วงชิงวิญญาณไปโดยสิ้นเชิง    รสชาติแห่งความลุ่มหลงในความฝันนี้ คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาเป็นแน่    “อวิ๋นอ๋อง ก่อนหน้านี้ท่านกล่าวว่าคุณชายจ้าวเคยมีสหายรักตั้งแต่วัยเยาว์ที่พลัดตกน้ำตายเมื่อหลายปีก่อน มีนามว่าอะไรหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม    ฉู่อวิ๋นกุยขมวดคิ้ว “ข้ากับแม่นางผู้นั้นมิได้สนิทสนมกันนัก อีกทั้งยังผ่านมาหลายปีเช่นนี้ กล่าวตามตรง ข้าก็จำมิได้”    “นางคือเฉียนชิ่งเหมียว” นายหญิงจ้าวรีบเอ่ยขึ้น    “เฉี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status