9:00 น.นหน้าท้องพระโรงบัดนี้แคว้นหกได้เดินทางเข้าท้องพระโรงประจำตำแหน่งที่นั่งของตนเอง โดยถานเจี้ยนซื่อเป็นผู้จัดการ ถานเจี้ยนซื่อ " พวกเจ้ามารอแต่เช้า ชั่งตรงต่อเวลายิ่งนัก" เสี่ยวถัง" ฝ่าบาทชมเกินไปแล้ว " ถานเจี้ยนซื่อ" เอาเถิด ขยันรอเช่นนี้ข้าก็ไม่ว่าอะไร ( พูดพรางๆหัวเราะในลำคออย่างเบาๆ)เสี่ยวถัง" การแข่งครั้งนี้เป็นการต่อบทกลอน ข้าอดทนรอไม่ไหวแล้ว อยากรู้ว่าเฉิ่งฮั่นจะมีดีแค่ไหนเชียว"ในขณะนั้น หลี่ซิ่นและหลิวซินเนียนเข้ามายังท้องพระโรง ทั้งสองเลือกที่นั่งผิดที่จนถานเจี้ยนซื่อกล่าวตักเตือน ถานเจี้ยนซื่อ" พระมเหสี เจ้าไม่สั่งสอนลูกเจ้ารึ ว่าที่นั่งตรงนี้เป็นของผู้ใด " (ถานเจี้ยนซื่อถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา)หลิวซินเนียน" ฝ่าบาท ข้าเป็นถึงมเหสี ท่านเห็นผู้อื่นดีกว่าข้ารึ " ถานเจี้ยนซื่อ" ใช่ เพราะที่ตรงนี้ ข้าตั้งใจไว้ให้เฝิงเส้าเฟิง และ ซุนอี้ " (หลิวซินเนียนกุมมือค่อยๆนั่งลง กำหมัดจนมือแดง กลั้นสีหน้าบอกลูกสาวให้ย้ายไปนั่งด้านหลัง)หลิวซิ่นเนียน" หลี่ซิ่นลูกแม่ไปนั่งด้านหลังเถิด " ( หลี่ซิ่นลุกขึ้นถอนหายใจส่งสายตามองไปถานเจี้ยนซื่ออย่างไม่พอใจ )เสียงประตูเปิดออก ผ
เสี่ยวถัง" ข้าว่าลองให้องค์หญิงหลี่ซิ่นกับองค์หญิงซุนอี้ แข่งต่อกลอนดูสิว่าผู้ใดจะเก่งกาจสักแค่ไหน " (สองสามีภรรยามองตากัน นางถอนหายใจตากลมใส่ๆรี่ลงช้าๆแล้วจับมือสามีเป็นการบอกนัยๆว่า ตนทำได้ )ซุนอี้" องค์ชายแคว้นสิบชั่งอยากรู้อยากเห็นยิ่งนัก " เสี่ยวถัง" องค์หญิงกล่าวเช่นนี้หากไม่อยากประลองข้าก็ไม่ว่าอะไร "ซุนอี้" ในเมื่อพวกท่านบากบั่นมาถึงที่นี่ข้าก็จะประลองกับนางสักครั้งให้เป็นบุญตาของท่าน "หลี่ซิ่น" มาเริ่มกันเลย เสียเวลามามากพอแล้ว " ซุนอี้" องค์หญิง เริ่มก่อนเลยเพคะ "ยามประสบพบยากจากแสนยากลมโปรยโชยอ่อนบุปผาโรยตัวไหมสิ้นใจจึ่งสิ้นสุดสายใยเปลวเทียนดับมอดน้ำตาจึ่งแห้งเหือดโฉมนางงามระทมกาลแปรผันครวญคร่ำยามดึกจันทร์ริบหรี่จากนี้คิดไปไร้ซึ่งหนทางวอนวิหคส่งข่าวแทนข้าทีเสี่ยวถัง" บทกวีขององค์หญิงชั่งไพเราะยิ่งนัก " หลี่ซิ่น" องค์ชายท่านชมเกินไปแล้ว" หลิวซินเนียน"ลูกแม่รูปโฉมงดงามไม่พอยังเก่งกาจหลายด้าน ....เฝิงเส้าเฟิงข้าอยากรู้ความคิดเห็นเจ้า ต่อหลี่ซิ่น"เฝิงเส้าเฟิง" นางสวยสู้ภรรยาข้าไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ" คำตอบของเฝิงเส้าเฟิงทำให้ทุกคนในท้องพระโรงอึ้ง หลี่ซิ่นหน้า
ถานเจี้ยนซื่อ " นับวันยิ่งทำตัวแปลกๆ เฝิงเส้าเฟิง" ฝ่าบาทขอรับในเมื่อทุกคนในท้องพระโรงได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าภรรยาข้ามีความสามารถ ต่อไปนี้คงไม่มีผู้ใดสงสัยในตัวนางอีก " เสี่ยวถัง" ภรรยาของท่านเก่งรอบด้านเสียจริง ข้าอิจฉาท่านนัก " ( ปากเอ่ยเชยชมแต่สายตามองภรรยาเฝิงเส้าเฟิงจนตาเยิ้ม) เฝิงเส้าเฟิง" ในเมื่อการแข่งจบแล้ว ท่านเสี่ยวถังเชิญกลับไปยังที่พักเสียเถิด " เสี่ยวถัง " ข้าลา " (กลั้นใจฝืนก้มคำนับด้วยใบหน้าแสร้งเป็นมิตร ) เฝิงเส้าเฟิง" เชิญ " ตำหนักหลิวซินเนียน หลี่ซิ่น" ท่านแม่เหตุใดท่านถึงพาข้าออกจากท้องพระโรงกะทันหันเช่นนี้ " หลิวซินเนียน" แม่ไม่สบาย เจ้าไม่ต้องกังวล " หลี่ซิ่น" ให้ข้าตามหมอหลวงหรือไม่" หลิวซิ่นเนียน" ลูกกลับตำหนักไปก่อน แม่อยากพักผ่อน " หลี่ซิ่น" เพคะ " หลี่ซิ่น" แปลกยิ่งนักทันใดที่ท่านแม่เห็นรูปวาดใบนั้นอาการก็เป็นเช่นนี้ หรือว่ารูปใบนั้นแม่ข้ามีส่วนเกี่ยวข้อง ( คิดในใจ ) หมู่บ้านป่าทึบ หลังจากแข่งขันเสร็จแล้วตนรีบพาภรรยากลับหมู่บ้านป่าทึบทันที ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าขึ่นเรือนก็มีข่าวจากทหารมาแจ้งให้ทราบเป็นการส่วนตัว ทหาร" ข้าขอคุย
หมู่บ้านป่าทึบ เวลา 17:00 น.นชาวบ้านยิน ๆ ได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านป่าทึบแต่ต้องหยุดกะทันหันเพราะทหารค่อยเฝ้าตรวจการอย่างเข้มงวด ทหาร" หยุด พวกเจ้ามาจากที่ใด "ชาวบ้าน" พวกข้ามาจากหมู่บ้านยินๆ"ทหาร" มาไกลเชียว เหตุใดถึงมากันมากมายถึงเพียงนี้" ชาวบ้าน" พวกข้ามาเข้าเฝ้าองค์หญิงซุนอี้ "ทหาร" ข้าไม่เชื่อ "ชาวบ้าน" ได้โปรดเถิด ท่านเชิญองค์หญิงมาที่นี่พวกข้าจะยืนรอ "ทหาร " ได้ พวกเจ้าเข้าไปได้ "ชาวบ้าน" เมื่อครู่ยังไม่อยากให้เข้าไป เหตุใดท่านถึงเปลี่ยนใจ "ทหาร " ข้าแค่ลองเชิง เข้าไปได้แล้ว "เรือนซุนอี้ ชงหยุน" องค์หญิงมีชาวบ้านมาจากหมู่บ้านยินๆต้องการพบท่านโดยเร็ว "ซุนอี้" ข้าจะไปเดี๋ยวนี้" เมื่อมองจากบนเรือนลงมาด้านล่างเห็นชาวบ้านตาดำๆเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อในแววตานั้นมีบางอย่างที่อยากจะอธิบายและบอกกล่าวให้รู้ จนอกแทบจะระเบิดซุนอี้" พวกเจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไร "ชาวบ้านรีบคุกเข่าก้มคำนับก่อนลุกขึ้นเอ่ยกล่าวชาวบ้าน" องค์หญิง ท่านพ่อของท่านเพิ่งจะกลับมาจากแดนไกล ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวขโมย "ในขณะที่ชาวบ้านยืนอธิบายให้ซุนอี้ฟังเฝิงเส้าเฟิงเดินเข้ามาสบจังหวะพอดีเฝิงเส้าเฟิง " เ
6.00 หมู่บ้านป่าทึบเฝิงเส้าเฟิง" พวกเจ้ารีบเดินทางกลับเถิด ข้าจะให้ทหารคอยติดตาม ไม่ให้เกิดอันตราย "ชาวบ้าน" กระหม่อม ทูลลาขอรับ " ทหารหลายร้อยนายรวมกลุ่มเดินทางมายังหน้าเรือนซุนอี้เพื่อพบ เฝิงเส้าเฟิง ทหาร" องค์ชาย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว "เฝิงเส้าเฟิง " เหตุใดถึงได้รวมกลุ่มมาหน้าเรือนข้าเช่นนี้ "ทหาร" ฝ่าบาทถานเจี้ยนซื่อถูกลอบทำร้ายเมื่อคืน อาการสาหัสยังไม่ฟื้นเลยขอรับ" เฝิงเส้าเฟิง" พวกเจ้ากลับไปทำหน้าที่ให้ดีก็พอ เรื่องนี้จะจัดการเอง "ทหาร" ขอรับ ท่านคือความหวังของเฉิ่งฮั่น อย่าทิ้งชาวบ้านตาดำๆ "เฝิงเส้าเฟิง" ข้าให้คำมั่นสัญญา "เมื่อทหารกลับออกไปหมดแล้ว ตนจึงรีบขึ่นเรือนไปปลุกภรรยาที่กำลังนอนอย่างเต็มอิ่ม เฝิงเส้าเฟิง" ซุนอี้ " ( ตนสกิดแขนเบาๆ ปลุกนางอยู่นานไม่ยอมตื่น ถูกนางสลัดมือออกทุกคร่า)เฝิงเส้าเฟิง" เจ้าไม่ยอมตื่น ถ้าเช่นนั้น...(เฝิงเส้าเฟิงครอมตัวภรรยาก้มหน้าจูมพิษกลืนกินความรู้สึกเหมือนวิญญานจะหลุดออกจากร่าง )ซุนอี้" ท่านพี่ อย่า ! ( นางผลักสามีออกจากร่างกาย อย่างรวดเร็ว)เฝิงเส้าเฟิง" เจ้านอนไม่อยากตื่น ข้าเลยต้องทำเช่นนี้ "ซุนอี้" ข้ากำลังนอนหลับฝันดี ท่านพี่มา
เฝิงเส้าเฟิง" ข้ามีอีกเรื่องอยากจะขอท่าน จัดการด้วยตัวเอง "ถานเจี้ยนซื่อ" ว่ามา "เฝิงเส้าเฟิง" หัวหน้ากรมตุลาการ จับคนร้ายโดยไม่สืบสวน ข้าว่าเบื้องหลังอาจจะไม่ใช่แค่รายแรก "ถานเจี้ยนซื่อ" เจ้าจะทำอะไรก็ทำ หากคนชั่วในเฉิ่งฮั่นหมดไปจะเป็นการดี " หลังจากที่ทั้งสองได้คุยธุระให้เข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น เฝิงเส้าเฟิงตอบตกลงทำตามแผนที่ว่างเอาไว้ เรื่องต่อไปที่ทั้งสองต้องไปสะสางให้รู้ความ เป้าหมายคือ หัวหน้ากรมตุลาการกรมตุลาการ 9:45ทหาร" ท่านหูจวิน องค์ชายเฝิงเส้าเฟิงเดินทางมาที่นี่รอพบท่าน ขอรับ "หูจวิน" ข้าจะออกไปต้อนรับ"เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่มีอำนาจกว่า หูจวินจะแสร้งถ่อมตนได้แนบเนียนผู้ใดก็มองแทบไม่ออก หูจวิน" คำนับองค์ชาย " เฝิงเส้าเฟิง" นั่งลงก่อน "หูจวิน" ขอรับ" ซุนอี้ไม่รอช้ารีบเปิดคำถามอย่างตรงจุดซุนอี้" เจ้าจับพ่อข้า ทำไม"หูจวินนึกไม่ออกว่าผู้ใดคือพ่อของซุนอี้เพราะวันๆหาแต่ผู้รับผิดเป็นแพะรับบาปจนจำไม่ได้เป็นบางคร่า หูจวิน" องค์หญิงคนที่ข้าจับมาล้วนเป็นคนชั่วช้า "ซุนอี้" เมื่อวานเจ้าจำไม่ได้รึ ว่าจับผู้ใดมา " หูจวิน" ออ ข้านึกออกแล้ว ชายผู้นั้นที่หมู่บ้านยินๆ "ซุนอ
สถานะหลัวหมิงตอนนี้เป็นทาสคอยรับใช้หลิวซินเนียนไม่ว่านางจะสั่งอะไรก็ต้องทำ วันนี้นางถูกสั่งให้ไปควบคุมนางกำนัลที่เข้ามาใหม่ จ๋อม ! ?หลัวหมิง" เสียงอะไร !"แย่แล้ว " นางกำนัลเผอลทำแจกันตกอ่างน้ำในขณะที่ทำความสะอาด " ตายแน่ๆ "เสียงฝีเท้าเดินเข้ามา ตึกๆ ตึกๆ สวบๆ ! นางกำนัลรีบนั่งคุกเข่าก้มหน้าจนตัวเกร็ง ริมฝีปากนางสั่นระริกด้วยความเสียใจ เมื่อหลัวหมิงเดินเข้ามาพบเห็นจึงมองไปยังอ่างน้ำ พร้อมตีหน้ายักษ์ชี้นิ้วสั่งให้ลงไปเก็บขึ้นมา หลังหมิง" ไปเก็บขึ้นมา "" ท่านกลัวหมิง แต่น้ำมันลึกมากเพคะ หม่อมฉันว่ายน้ำไม่เป็น "นางได้แต่ตอบไปพรางๆ ก้มหน้าไม่กล้าสบตาจนใบหน้าของนางซีดเผือกหลัวหมิง" กล้าขัดข้ารึ " " หม่อมฉันไม่กล้าเพคะ "หลัวหมิง " งันก็ลงไปเก็บขึ้นมา "" หม่อมฉันขอร้อง หม่อมฉันว่ายน้ำไม่เป็น" นางกอดขาวิงวอนขอร้องจนน้ำตารื้นขอบตา เสียงสะอึกสะอื้นจนตัวสั่น ดังนั้นหลัวหมิงเลยผลักนางออกเขย่าขาตนให้แขนนางกำนัลที่เกาะนั้นหลุดออก หลัวหมิง" สกปรก " หลัวหมิงสะบัดสะบิ้งทำท่ารังเกียจด่าทอเสียงดังโวยวายจนนางกำนัลที่เหลือต้องรีบทำความสะอาดเพราะกลัวจะโดนดุหลิวหมิง" พ่อแม่เจ้าไม่สอนรึ เ
กรมตุลาการซุนอี้ได้ให้นางกำนัลผู้นี้ทำหน้าที่ทำความสะอาดและเป็นสายลับ ซุนอี้ " เจ้าชื่ออะไร "" หม่อมฉัน ชื่อ หนิงเหอ เพค่ะ "ซุนอี้" สิ่งที่ข้ามอบหมายให้เจ้าทำ เจ้าทำได้หรือไม่ "หนิงเหอ " หม่อมฉันทำได้เพคะ "ซุนอี้" ส่วนเรื่องการแต่งกาย เจ้าต้องแต่งกายคล้ายบุรุษ "หนิงเหอ" หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ"ซุนอี้" มีอีกคนที่เจ้าต้องรู้จัก เจ้ากับนางหน้าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน "หนิงเหอ" ผู้ใดรึ "ซุนอี้" ชงหยุน บ่าวรับใช้คนสนิทของข้า......นั้นไงนางมาพอดี"ชงหยุน" องค์หญิงนางผู้นี้เป็นใครรึ "ซุนอี้" ข้ารับนางเข้ามาทำงานด้วย "ชงหยุน" เจ้าชื่ออะไร"หนิงเหอ" ข้าชื่อหนิงเหอ "ชงหยุนคว้าแขนหนิงเหอ เพื่อไปคุยกันข้างนอก ทั้งสองคุยกันถูกคอพูดไม่หยุดปาก ชงหยุน" หนิงเหอ บ้านเจ้าอยู่ที่ไหนหมู่บ้านใด"หนิงเหอ " ไกลมาก ผู้คนไม่ค่อยรู้จักซื่อ หมู่บ้านข้าเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ""ถอยๆ หลบไป "รถม้าวิ่งด้วยความเร็วมุ่งหน้ามายังกรมตุลาการ ชงหยุน" เจ้าจะรีบไปไหน " ทหาร" ข้าต้องการเข้าเฝ้าองค์หญิง "ชงหยุน " แล้วเหตุใดต้องนำรถม้าไปผูกเชือกข้างใน "ทหาร" เดี้ยวเจ้าก็รู้เอง แต่ตอนนี้ข้าต้องเข้าเฝ้าองค์หญิง "ชงหยุ
ตำหนักหลี่ซิ่น หมอหลวง" องค์หญิงสิ้นใจแล้วขอรับ "หลิวซินเนียน" ไม่จริง...ฮือๆ ลูกแม่เจ้าตื่นขึ่นมาเถิดหนา "ตนนั้นทำใจไม่ได้และกล่าวหาหมอหลวงว่าไม่มีความสามรถ...ร้องไห้คร่ำครวญกอดลูกสาวไม่ยอมปล่อย...หันมากล่าวโทษทุกคนที่ยืนดูอยู่หลิวซินเนียน" เป็นเพราะพวกเจ้า พวกเจ้าทำลายชีวิตของของข้า " ฉางอัน" เจ้าทำตัวเองทั้งนั้น จะโทษผู้อื่นเหตุใดไม่โทษตัวเอง " หลิวซินเนียน" ผู้ใดถามเจ้า ข้าชังน้ำหน้าเจ้านัก "ฉางอัน" พอเถิดเจ้าหมดหนทางแล้ว เตรียมตัวเข้าไปชดใช้กรรมในคุกเถิด" ได้ยินคำว่าคุก นางจึงยิบมีดออกมาข่มขู่ทุกคนก่อนจะตายนางได้เอ่ยทิ้งท้าย หลิวซินเนียน" จ้าไม่มีวันยอมเข้าคุก ข้ายอมตายเสียดีกว่า " หลังจากนั้นตนได้ใช้มีดแทงตัวเองจนสิ้นใจตามลูกสาวทิ้งตัวนอนลงข้างกายลูกของตน และหลังจากนั้นศพสองแม่ลูกนั้นได้ถูกเผาไม่มีการทำพิธีใดๆไปทั้งสิ้น เมื่อข่าวนี้แพร่งพรายออกไปทั่วเฉิ่งฮั่น ต่างคนต่างเชื่อในปาฏิหาริย์และรับรู้ว่าต่อจากนี้เมืองเฉิ่งฮั่นจะกลับมามีความสุขดังเฉกเช่นเมื่อก่อนในเมื่อทุกอย่างถูกคลี่คลายเฝิงเส้าเฟิงตอบตกลงทำการค้ากับแคว้นเฉิงฮั่นโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ส่วนซุนอี้ได้พบกับแม่ที่แท้
เจ็ดวันถัดมา เวลา 8.00ณ . ท้องพระโรงในที่สุดวันนี้ก็มาถึงได้เวลาเปิดโปงความจริงทุกอย่าง หลักฐานพร้อมพยานพร้อม ทุกคนในท้องพระโรงต่างรอพระมเหสีหลิวซินเนียนและองค์หญิงซุนอี้ บรรยากาศในท้องพระโรงเริ่มรี่เสียงลงอวยหน้าหันไปยังหน้าประตูบานใหญ่ที่กำลังเปิดออก พระมเหสีหลิวซินเนียนมาแล้ว แต่มาด้วยใบหน้าที่ใส่หน้ากากปิดบังรอยบาดแผลไว้ เหลือให้เห็นแค่ดวงตาทั้งสองข้าง ถานเจี้ยนซื่อ " ในเมื่อมากันครบแล้ว....เฝิงเส้าเฟิงเริ่มได้เลย " เฝิงเส้าเฟิง " เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน หัวหน้ากรมตุลาการ หูจวินได้ทำความผิด ข้อหาโยนความผิดให้ผู้บริสุทธิ์ปิดบังเรื่องการหายตัวของชาวบ้านตั้งยี่สิบกว่าปี นักโทษที่จับมานั้นล้วนเป็นคนดีทั้งหมดและเรื่องนี้มีผู้อยู่เบื้องหลังคอยหนุนหลังหูจวินมาตลอด "หลิวซินเนียนเริ่มออกอาการทำตัวไม่ถูกตนนั้นกลัวจะถูกเปิดโปง เลยขอตัวกลับตำหนักอ้างว่าตนนั้นไม่สบายหลิวซินเนียน" ฝ่าบาทข้าปวดหัวมาก ข้าขอกลับไปพักผ่อนที่ตำหนัก " เฝิงเส้าเฟิง" ท่านยังไปไหนไม่ได้ " หลิวซินเนียน " บังอาจกล้ามาก้าวร้าวใส่ข้า " เฝิงเส้าเฟิง " ฝ่าบาทขอรับผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือ พระมเหสีหลิวซินเนียนข
ทรมารจากบาดแผลจนร้องไห้ออกมาผ่านบาดแผลที่แก้มทั้งแสบทั้งแค้นใจจนนางสลบลงไปในที่สุด สภาพนางตอนนี้ไม่ต่างจากหมาเร่ร่อนเลยสักนิด กลายเป็นผู้ที่มีหน้าตาอัปลักษณ์จนนางกำนัลไม่กล้าเข้าไปพยุง ในขณะหลี่ซิ่นได้ผ่านมาทางหน้าตำหนักโบตั๋นเห็นนางกำนัลยืนวงล้อมดูท่าวุ่นวายกันมาก ส่วนชงหยุน/หนิงเหอ ได้รีบกลับเข้าตำหนักไปเก็บข้าวของเตรียมหนีกลับแคว้นสิบและพาลี่ถังไปด้วยหนิงเหอ " เหตุใดถึงต้องหนี "ชงหยุน " องค์ชายเคยบอกข้าไว้ล่วงหน้า ว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ให้ข้ารีบกลับแคว้นสิบอย่าอยู่ที่นี่ "หนิงเหอ"แล้วองค์ชายละ จะเป็นเช่นไร องค์หญิงก็เช่นกัน "ชงหยุน " เรื่องนี้เจ้าอย่าได้ขวัญเสียไป องค์ชายข้าเก่งฉลาดกว่าที่เจ้าคิดเสียอีก รีบเก็บของแล้วไปตำหนักท่านลี่ถัง " หน้าตำหนักโบตั๋นเพลานี้เหล่าขุนนางต่างเรียกให้ทหารนำตัวนางไปรักษา ส่วนนางกำนัลโดนหลี่ซิ่นลงโทษ อย่างหนัก ที่ลานกลางเรือนหลี่ซิ่น แซ่ประจำตัวนางไม่ได้ใช้มานานเพลานี้สมควรนำมันออกมาใช้เสียที แค่เห็นแซ่ในมือนาง นางกำนัลคนเก่าๆที่อยู่มานานยังกลัวไม่ต่างจากนางกำนัลคนใหม่ หลี่ซิ่นจับมวยผมจนจำศีรษะลากนางกำนัลถูพื้นจนขาถลอก มือชั่วช้าได้จับผม
เช้าวันใหม่ 6.00 สองสามีภรรยาตื่นเช้าเตรียมตัวออกตามหานักสืบที่อยู่ในรายชื่อทั้งหมด ที่แรกที่ต้องไปคือหมู่บ้านเล็กๆในแถบนอกเมือง ที่นั้นมีนักสืบซ่อนตัวอยู่เพื่อหลบซ่อนผู้หวังจะทำร้าย เมื่อทั้งสองได้เดินทางมายังหมู่บ้าน ก้าวแรกที่เข้ามาก็เป็นที่หมายตาของชาวบ้านเสียแล้ว ชาวบ้าน " พวกเจ้าทั้งสองมาทำอะไร "เฝิงเส้าเฟิง " ข้ามาตามหาชายที่ชื่อว่า ห่าวซวน " ชายแก่เดินวนรอบ ๆ กายทั้งสอง ใช้ไม้เท้าเคาะตามตัวเพื่อหาสิ่งของ ว่าแอบนำอะไรเข้ามา มองตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่เว้นแม้กระทั่งม้าที่ตนขี่มา วนมองดูหนึ่งรอบไม่พอยังมีรอบที่สอง " ใส่ชุดคลุมหนาเช่นนี้ตอนถอด คงให้ภรรยาซ่วยละสิ ละดูรองเท้าเจ้าสิหนาอย่างกับกากมะพร้าว รอยแผลตามตัวมีแต่แผลเก่าเต็มไปหมด หน้าตาก็ดี รูปร่างใช้ได้ ดูมีฐานะแต่เหตุใดต้องใส่เสื้อผ้าโสโครกเช่นนี้ ผมเผ้ารกรุงรังไปหมด ไปตัดออกบ้าง ไม่เหนื่อยรึปลอมตัวมาเช่นนี้ " เฝิงเส้าเฟิง " ท่านรู้ได้เช่นไร " " ดูภรรยาเจ้าสิผิวพรรณนวลผ่องดังน้ำนมข้าว รูปร่างหน้าตาไม่เป็นสองรองใคร สงบเสงี่ยมเหมือนคนโดนเชือกมัดปากไว้ไม่ยอมพูดจา เนื้อตัวมีกลิ่นเครื่องหอมพุ่งเข้ามาเตะจมูกข้า สาวชาวบ้านธรรมดา
ในระหว่างเดินทางกลับ นางชำเลืองมองไปเห็นชายร่างกายสูงใหญ่หน้าตาหน้ากลัวกำลังอารมณ์เสียเหมือนผิดหวังอะไรมาสักอย่าง แววตารังสีอำมหิตร้อนแรงแผ่ออกกระจายมาทั่วร่างกาย นางสูดหายใจเข้าลึกๆ เบิกตากว้างมองชายผู้นั้นอย่างตื่นตะลึ่ง แต่เมื่อวิ่งรถม้าผ่านชายผู้นั้นไปนางจึงนึกได้ว่าจะหาใครมาทำงานให้นาง จึงสั่งทหารให้เลี้ยวรถม้ากลับทันที "." เงินก็ไม่มีไปเล่นการพนันยังถูกโกง หึ สงสัยข้าต้องขายวัวทิ้งจะได้กลับไปแก้แค้นให้ได้เงินกลับมาเป็นหลายเท่า "{ ตนเดินบ่นไม่พอใจหงุดหงิดใจมองไปทางไหนก็ไม่สบอารมณ์ จนได้ยินเสียงรถม้าวิ่งมาจอดดักหน้าตน สิ่งแรกที่สังเกตเห็นได้คือทหารผู้นี้มาจากในวังและตนยังได้กลิ่นเครื่องหอมของสตรีพุ่งออกมา ตนชะเง้อมองผ้าม่านสีเทาที่กำลังเลื่อนออกอย่างช้าๆ } หลิวซินเนียน " เจ้าอยากมีงานทำหรือไม่ " " ท่านเป็นใคร " หิวซินเนียน" ข้าคือพระมเหสีหลิวซินเนียน " [เมื่อตนรู้ความจริงถึงกับยืนอ้าปากค้างตัวแข็งเหมือนหุ่น }หลิวซินเนียน " ไม่ต้องกลัว สนใจทำงานให้ข้าหรือไม่ ข้าตอบแทนของเจ้าจะทำให้เจ้าสบายไปทั้งชาติ " " งานอะไร ขอรับถึงได้เงินมากมายถึงเพียงนี้ " หลิวซินเนียน " ลักพาตัว
ระเบิดหลายลูกกำลังเตรียมการเล็งเป้าหมายมาที่หมู่บ้าน ชายทั้งห้าจะไปหยุดพวกมันทันหรือไม่ เมื่อเห็นว่าทางเฉิ่งฮั่นไม่มีการตอบโต้ยิ่งทำให้ได้ใจหลงระเริงคิดว่าฝั่งตนนั้นเหนือกว่าทุกอย่าง ในที่หลบบนเนินเขาไม่แปลกใจที่หาพวกมันไม่เจอหนำซ้ำฝั่งเฉิ่งฮั่นเสียเปรีบยอยู่ไม่น้อย บัดนี้เจ้าหมาป่าได้เดินดมกลิ่นไปเรื่อยๆ จนมันเริ่มเหาเบาๆเพื่อบอกชายทั้งห้าเดินทางขึ่นไปยังหุบเขาโดยใช้ทางเดินที่ทุกคนต่างก็รู้ว่ามันเป็นทางตัน" เจ้าหมาป่า ทางนั้นมันเป็นทางตัน " เจ้าหมาป่าไม่สนใจวิ่งนำหน้าชายทั้งห้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว " ตามเจ้าหมาป่าไป " เมื่อเดินทางมาถึงยังที่หมายกลับเป็นทางตันจริงๆ " เจ้าหมาป่าข้าบอกเจ้าแล้วว่ามันเป็นทางตัน " { ตนย้ำด้วยเสียงที่มั่นใจและไม่หลบสายตา} เจ้าหมาป่าไม่เชื่อเพราะกลิ่นจมูกของมันไม่มีทางคาดการผิดพลาด มันจึงดมกลิ่นรอบๆจนเจอกับโพรงหญ้าที่มีหลุมใต้ดินเป็นทางลัดเดินลงไป โฮ่งๆ...... มันคาบชายกระโปรงเพื่อให้ทุกคนเข้ามาดูในที่มันเจอ " ใจเย็น ข้าจะไปดู " เมื่อชายทั้งห้าเปิดโพรงหญ้าที่หนาทึบและมีหนามคมเต็มไปหมด " ห๊ะ ทางลัดใต้ดิน พวกมันขุดเตรียมการไว้ลวงหน้าก่อนจะเปิดสงคราม " {
" สัญลักษณ์แคว้นหกรึ หมาลอบกัด "ตนยิบป้ายมองมันอย่างแค้นใจที่กล้ามาทำร้ายลูกน้องของตน จึงนำป้ายเก็บไว้เพื่อจะจะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า " เจ้าหมาป่าออกจากที่นี้กันเถิด " เมื่อเจ้าหมาป่าได้ยินคำสั่งมันจึงให้หัวหน้าทหารเดินนำก่อนหน้ามันจะเดินตามหลังเพื่อปกป้องตามสัญชาตญาณ กรมกลาโหมเมื่อเฝิงเส้าเฟิงทราบข่าวตนวิ่งขี่ม้าเร็วมาที่กรมกลาโหม ก่อนจะเข้าประตูตนได้มองไปยังวังหลวงที่ควันไฟลอยกระจายไปทั่ววังหลวง" เฝิงเส้าเฟิง " มันเปิดการโจมตีอย่างเปิดเผยเช่นนี้ คงอยากให้ฝั่งเราเดินตามเกมส์หากตอบโต้กลับชาวบ้านจะเดือดร้อน "เฉินต้าหนิง" ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้เลยรึ ข้าว่าพวกมันยังไงก็เล่นไม่ซื่อ " เฝิงเส้าเฟิง " หากข้าตอบโต้เจ้าคิดว่าจะเป็นเช่นไร " เฉินต้าหนิง" คงวุ่นวายไปทั่วแคว้น "เฝิงเส้าเฟิง" ข้าเปลี่ยนใจแล้ว เจ้าเป็นผู้บัญชาการทหาร จึงสั่งให้เหล่าทหารพร้อมรบตั้งแต่เพลานี้เป็นต้นไป" เฉินต้าหนิง " ขอรับองค์ชาย " เสียงระฆังดังลั่นทุกคนวางอาวุตหยุดฝึกซ้อมกะทันหัน ทหารมากกว่า หนึ่งล้านเจ็ดแสนนายพร้อมใจกันรวมตัวเฉินต้าหนิง" ฟังข้าให้ดี นับตั้งแต่เพลานี้เป็นต้นไป เฉิ่งฮั่นจะทำสงครามเพื่อปก
ลานประชุมกรมกลาโหมผ่านมาแล้วหกวัน อีกหนึ่งวันก็จะครบกำหนดการเปิดสงครามกับแคว้นหกอย่างเต็มรูปแบบ เวลาชั่งเร็วเหลือเกิน วันนี้ทั้งหกคนต้องแบ่งหน้าที่ของตัวเองเฝิงเส้าเฟิง เป็นผู้วางแผนการทำศึก/ ออกรบ เฉินต้าหนิง คือผู้บัญชาการทหารสูงสุดและคือผู้นำกองทัพซุนอี้ ค่อยคุมทหารในแต่ละหมู่บ้าน ทั้งหมดในเฉิงฮั่น เพื่อแคว้นหกเล่นตุกติกหวนกลับมาทำร้ายชาวบ้านลี่ถัง" เป็นหมอประจำการ หากมีทหารบาดเจ็บ จะได้รักษาทันในช่วงเวลาที่ทำศึก หนิงเหอ/ชงหยุน " ดูแลเด็กๆอย่าให้ออกไปข้างในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย " เฝิงเส้าเฟิง " ท่านเฉินต้าหนิง อาวุตที่จะใช้โจมตี มีกี่ประเภทรึ ตนกำลังเลือกดาบที่เหมาะกับตัวเองในขณะที่เฝิงเส้าเฟิงรอคำตอบนั้นอยู่ เฉินต้าหนิงหันลำตัวกลับมามองสบตาทุกคน ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามในชุดเกราะที่เฝิงเส้าเฟิงนั้นออกแบบให้ เฉินต้าหนิง" ที่นี้มีดินระเบิด ธนูไร้หัว ธนูไฟ เฝิงเส้าเฟิง " ตั้งแต่เจ้าสวมชุดเกราะตัวนี้ดูรูปงามมากนัก " เฉินต้าหนิง" ข้ายังหาเมียไม่ได้เลย " เฝิงเส้าเฟิง" เอาไว้จบศึกครั้งนี้ข้าจะประทานเมียให้เจ้า " เฉินต้าหนิง" ฮ่าๆ องค์ชาย ท่านพูดเล่นรึ " เฝิงเส้าเฟิง
หลิวซินเนียน" เอามือสกปกของเจ้าออกไป" นางใช้ใบพัดตีเข้าที่หัวและมือจนสุดแรงซุนอี้ถึงกับทนไม่ได้ แต่ก่อนที่ซุนอี้จะเข้าไปช่วย ลี่ถังนั้นได้กระแชะหลิวซินเนียนอย่างเงียบๆลี่ถัง" เพราะท่านไม่มีอะไรให้หน้ายกย่อง ท่านเองก็สกปกมาก ๆ ในเฉิงฮั่น "หลิวซินเนียนได้ฟังแล้วยิ่งทำให้นางโกรธมากยิ่งขึ่น นางหันไปเห็นไม้ท่อนแข็งๆขนาดใหญ่ปานกลางยื่นแขนและลำตัวก้มลงไปยิบขึ่นมาเพื่อจะทำร้ายลี่ถัง หลิวซินเนียน" เจ้าไม่หยุดใช่ไหม " ซุนอี้" หยุดนะ กิริยาเลวทรามเช่นนี้อย่ามาใช้ให้ทหารไม่เคารพ"นางกระชากไม้ออกจากมือหลิวซินเนียนใช้แขนอีกข้างผลักตัวนางเวี่ยงเข้าถังขยะเศษกองสมุนไพรจนเปื้อนไปหมดหลิงซินเนียน" บังอาจนัก " { โกรธจนปากสั่น สีหน้าไร้ความสดใสมีแต่ความอาฆาต }ซุนอี้ " ทหารส่งพระมเหสีกลับตำหนัก " หลิวซินเนียน" พวกทหารชั้นต่ำ อย่ามาโดนตัวข้า หลิวซินเนียนนิ่งด่าทอทหารในสภาพที่เลอะเทอะไม่ยอมลุกออกจากกองเศษสมุนไพร ด้วยตัวเองหลิวซินเนียน" นางบ่าวไพร่ มาพยุงข้าสิ ยืนมองข้าอยู่ได้ "นางกำนัลรีบไปเข้าไปพยุงนางลุกขึ่นมาแต่พอลุกขึ่นมาได้ ก็สั่งสอนนางกำนัลด้วยการใช้นิ้วจี้ไปที่หน้าผากพูดจาดูถูกเยี่ยงสัตว์ตั