บทที่ 6 เปิดร้านใหม่
เช้าตรู่วันต่อมาฟู่เยี่ยนตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อทำการติดต่อกับฉิงเชา
"สวัสดีฉิงเชาเธอได้ยินฉันมั้ย"
ติ่ง ...!!
"สวัสดีฟู่เยี่ยนตอนนี้เธอต้องการสิ่งของแล้วสินะถึงได้เรียกหาฉัน"
"ใช่แล้ว วันนี้้ฉันต้องการของมาวางขาย" ฟู่เยี่ยนพูดจบมิติได้ถูกเปิดแสงสว่างจ้าของร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ส่องสว่างออกมา
"เชิญเลือกของที่เธอต้องการได้เลย เธอทำความดีระหว่างที่มาที่นี่ครั้งหน้าเธอจะได้เข้ามาเลือกของโดยไม่ต้องทำความดีเพื่อแลกของ" สิ้นเสียงของฉิงเชาฟู่เยี่ยนจับรถเข็นเดินเลือกหยิบจับของที่จำเป็นของยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาซักผ้า สบู่ครีมแป้งและของใช้ในครัวเรือน ของใช้ในชีวิตประจำวันทุกอย่างเธอไม่ลืมที่จะหยิบออกมา รวมทั้งยาและขนมอีกด้วยเมื่อได้สิ่งที่ต้องการครบครัน แสงสว่างได้หายไปตอนนี้เธอนำของมาวางไว้ด้านล่างของตัวเรือน
ตอนนี้แสงสว่างของดวงอาทิตย์เริ่มสาดส่องเข้ามา เวลานั้นเจียวเจียนตื่นและลงมาด้านล่างเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง แต่เมื่อลงมาเห็นของที่อยู่ด้านล่างทำให้เธอตกใจดวงตาเบิกโพลง
"โอ้โห่ นี่มันอะไรกันคะของพวกนี้มาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"เจียวเจียนตื่นแล้วเหรอ เมื่อวานตอนที่เราออกไปตลาดฉันได้ไปสั่งของใช้พวกนี้ให้เขานำมาส่งนะ ตอนนั้นเธอน่าจะกำลังไปซื้อไอศกรีมเลยไม่เห็นตอนฉันสั่งของ "
"แล้วทำไมต้องมาส่งแต่เช้าด้วยคะ แถมพี่ฟู่เยี่ยนไม่ปลุกฉันด้วย"
"ฉันจะรีบปลุกเธอทำไมกัน ของพวกนี้คนงานที่ร้านเขานำลงมาอีกอย่างตอนนี้ชั้นวางของยังไม่มาติดตั้งคงยังไม่มีอะไรให้เธอทำนะ "
"อย่างนั้นฉันจะทำอาหารเช้าให้พี่ฟู่เยี่ยนนะคะ อยู่ที่บ้านหน้าที่หุงข้าวทำกับข้าวเป็นหน้าที่ของฉัน"
"เอาอย่างนั้นก็ได้ " ฟู่เยี่ยนถอนหายใจอย่างโล่งอกคิดว่าเจียวเจียนจะสงสัยเธอมากกว่านี้เสียอีก
สองวันต่อมาร้านของฟู่เยี่ยนเปิดกิจการ ผู้คนละแวกนั้นพากันตื่นตาตื่นใจไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ไม่เคยพบเห็น และฟู่เยี่ยนทำทำการค้าได้ดี หากใครซื้อของร้านเธอครบสิบหยวนเธอจะแถมน้ำยาซักผ้าถุงเล็กไปให้ทดลองใช้ ผู้คนจึงเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันมากมาย ป้าซือเสียนมาช่วยในวันเปิดร้านวันแรก ราคาของทุกอย่างฟู่เยี่ยนใช้ปากกาเขียนติดทุกอย่างให้คนที่เลือกซื้อได้เห็นราคา เธอเป็นคนคิดเงินส่วนป้าซือเสียนยืนอยู่หน้าร้านตรวจสอบความปลอดภัย ส่วนเจียวเจียนคอยเติมของในชั้นวาง ฟู่เยี่ยนดีใจมากที่ร้านของเธอขายดีจนของในร้านเริ่มหมดไปเยอะมาก เธอคิดว่าในหมู่บ้านนี้จะขายไม่ค่อยได้เสียอีก
"เฮ้อ! วันนี้ช่างเป็นวันที่เหนื่อยแต่มีความสุขจริง ๆ เลย "
"พี่ฟู่เยี่ยนไปนั่งพักก่อนได้นะคะส่วนตรงนี้ฉันจะช่วยดูแลให้ ตอนนี้คนเริ่มซาแล้วด้วย" เจียวเจียนเห็นฟู่เยี่ยนเหนื่อยมาทั้งวันแถมยังไม่ได้กินข้าวกลางวันด้วยเธอเป็นห่วงจึงเดินมาบอกให้ฟู่เยี่ยนไปพักเสียหน่อย
"นั่นสิ หนูฟู่เยี่ยนท้องอยู่ด้วยต้องกินข้าวให้ตรงเวลายืนนานไม่ดีต่อสุขภาพรู้มั้ย"ป้าซือเสียนพูดขึ้นอีกคน
"ได้ค่ะอย่างไรฝากด้วยนะคะ วันนี้ร้านคงต้องปิดเร็วหน่อยเพราะของบางอย่างหมดแล้ว ป้าซือเสียนไม่รีบกลับบ้านเย็นนี้อยู่ฉลองเปิดร้านใหม่กับพวกเราก่อนนะคะ ปิดร้านแล้วเราไปกินข้าวข้างนอกกัน"
"ว๊าววว หนูฟู่เยี่ยนใจดีจริง ๆ "
พูดจบฟู่เยี่ยนเดินไปกินข้าวที่เจียวเจียนจัดเตรียมไว้ให้ ช่วงนี้เธอยุ่งจนแทบไม่มีเวลาไปคิดถึงครอบครัวของเธอเลยสักนิด
ฝั่งด้านเสี่ยวฮั่ว
หลังจากที่หย่ากับฟู่เยี่ยนเขากลับมาจากปกติจะมีเธอคอยยืนต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต่อให้เขาใบหน้าบูดบึ้งใส่เท่าไหร่เธอมักจะส่งยิ้มตอนรับเสมอ เมื่อไม่มีเธอเหมือนอย่างเคยรู้สึกเหมือนบ้านหลังนี้มีอะไรขาดขายไป
"ทำไมยืนนิ่งอยู่แบบนั้นครับไม่เข้าบ้านหรือไง หรือว่าท่านนายพลคิดถึงคุณนาย แต่ก็น่าใจหายนะครับเมื่อไหร่ที่กลับมาจะพบคุณนายอยู่ตรงนี้เสมอ แถมยังจัดเตรียมของกินน้ำเย็น ๆ อาหารว่างไว้รอทุกวัน "
"เงียบปากของนายเดี๋ยวนี้ฉันไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้น เธอออกจากชีวิตของฉันไปก็ดีมากเท่าไหร่แล้วมีเธออยู่ที่นี่ฉันทนอึดอัดมาตั้งสองสามเดือนมีอะไรไปทำก็รีบไปทำเข้า "
"อึดอัดอะไรกันเสี่ยวฮั่ว " เสียงผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของเสี่ยวฮั่วดังขั้นมาจากด้านใน ใบหน้าของเขาซีดเผือกทันที
"คุณแม่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ ทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า"
"ทำไมต้องแจ้งด้วยล่ะ ฉันมาหาหนูฟู่เยี่ยนลูกสะใภ้ของฉันนะสิว่าแต่นี่เธอไปไหนฉันมาที่นี่ได้สักพักไม่เห็นเธอเลยหรือว่าออกไปตลาดซื้อของอย่างนั้นหรือ? "
"คุณแม่ครับวันนี้ฟู่เยี่ยนไม่สบายคงให้คุณแม่เข้าพบไม่ได้เธอเป็นไข้หวัดนะครับ วันนี้คุณแม่กลับไปก่อนและค่อยมาวันหน้านะครับ ไม่อย่างนั้นผมจะบอกให้เธอไปหาคุณแม่ที่บ้านเอง"
"อะไรนะ !!นี่ลูกสะใภ้ฉันไม่สบายอย่างนั้นเหรอ? จะให้ฉันกลับได้ยังไง ฉันจะต้องไปดูอาการเธอเสียหน่อยแล้วหากไม่สบายมากก็รีบพาไปหาหมอสิ แกนี่ไม่ได้เรื่องเลยนะ" ใบหน้าของเสี่ยวฮั่วเริ่มมีเหงื่อผุดออกตามรูขุมขน หันไปมองหน้าของตู่หนานเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ทว่าตู่หนานกลับส่ายหหน้าและเดินหนีออกไป
ฉิงถิงรีบเดินไปที่ห้องนอนของเสี่ยวฮั่วไปดูอาการลูกสะใภ้ เสี่ยวฮั่วรีบเดินตามก่อนจะยืนบังไม่ให้คนเป็นแม่เข้าไปด้านในไม่อย่างนั้นเธอจะจับได้แน่นอนว่าตอนนี้ทั้งสองหย่ากันแล้ว
"คุณแม่ครับอย่าเข้าไปเลยนะครับ หากเข้าไปรบกวนเวลาคนป่วยอาจทำให้เธอรำคาญและปวดหัวมากกว่าเดิม ผมจะเข้าไปดูเธอเอง และถ้าเธอไม่ไหวจริง ๆ ผมที่เป็นสามีต้องดูแลเธออยู่แล้ว แต่ว่าถ้าคุณแม่เข้าไปแล้วติดไข้หวัดจากเธอใครจะดูแลคุณแม่กัน อีกอย่างคุณแม่อายุเยอะแล้วหากเจ็บป่วยไปอีกคนฟู่เยี่ยนคงต้องโทษตัวเองที่ทำให้คุณแม่ไม่สบายเชื่อผมเถอะนะครับ"
ฉิงถิงเริ่มคิดตามคำพูดของเสี่ยวฮั่วก่อนจะถอนหายใจออกมา
"เอาอย่างนั้นก็ได้ ฉันทำซุปไว้อย่าลืมเอาเข้าไปให้ลูกสะใภ้กินด้วย "
"ครับคุณแม่จะกลับแล้วผมจะให้ตู่หนานไปส่งนะครับ"
"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจะกลับเอง " พูดจบฉิงถิงไปหยิบกระเป๋าของเธอก่อนจะออกไปจากบ้านของเสี่ยวฮั่ว เขาถอดหายใจอย่างโล่งอกคิดว่าจะถูกจับไปเสียแล้ว
บทที่ 7 ตามหา5ปีต่อมากิจการของฟู่เยี่ยนเจริญเติบโตขึ้นมากการค้าขายเป็นที่รู้จักของคนที่อยู่มณฑลยวนอัน เธอคอยสอนงานเจียวเจียนไม่ว่าจะเป็นการคิดเงินบวกลบทุกอย่างและสอนให้เธออ่านหนังสือจนเธอสามารถอ่านออกเขียนได้และคอยเป็นผู้ช่วยของเธอเสมอมา กิจการของเธอได้ขยายร้านใหญ่มากกว่าเดิมเธอต่อเติมร้านน่าดึงดูดและมีลูกค้าประจำที่ได้ใช้สินค้าของที่ร้านและติดใจกลับมาซื้อซ้ำ เพราะไม่ว่าจะไปหาทีร้านไหนก็ไม่มีสินค้าตัวเดียวกับที่ร้านของฟู่เยี่ยน"พี่เจียวเจียน หนูหิวแล้วคุณแม่เมื่อไหร่จะมาสักที" เด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังตัวกลมราวกับซาลาเปานั่งบ่นกับพี่เลี้ยงเพราะเธอรอแม่ของเธอนานจนท้องเล็ก ๆ ร้องประท้วงเสียงดัง"เดี๋ยวพี่ฟู่เยี่ยนออกมารออีกสักหน่อยนะ”“แต่ผิงผิงหิวแล้วนี่คะ ดูสิท้องของผิงผิงเริ่มร้องไห้โยเยแล้ววว” เด็กน้อยอายุ 4 ขวบพูดจาฉะฉานรู้มากยิ่งกว่าเด็กวัยเดียวกันใช้มือเล็ก ๆ อวบอูมลูบท้องไปมา“ไหนใครบอกหิวข้าวกันนะ” ฟู่เยี่ยนเดินออกมาจากในบ้านวันนี้เธอแต่งตัวอย่างสวยงาม ตั้งแต่เธอท้องผิงผิงไม่รู้ว่าเพราะอาการแพ้ท้องหรือว่าเธอเหม็นอาหารทำให้เธอกินอะไรไม่ค่อยได้ ร่างกายที่เคยอ้วนท้วนสมบ
บทที่ 8 แสดงความยินดีเสี่ยวฮั่วเดินตรงเข้าไปในร้านแต่แล้วจู่ ๆ ระหว่างที่เขากำลังเดินอยู่นั้นมีเด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้ามาชนจนล้มลงกับพื้น"โอ๊ยยย!! " เสี่ยวฮั่วตกใจใบหน้าเปลี่ยนสีรีบนั่งย่อตัวลงถามอาการเด็กน้อยทันที"หนูน้อยเป็นอะไรมากมั้ย?เจ็บตรงไหนมากหรือเปล่า " เด็กน้อยจับหัวเข่าตัวเองลูบ ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผู้ใหญ่ร่างโตที่เธอพึ่งวิ่งชนเมื่อครู่ แต่เมื่อเด็กน้อยสบตากับเสี่ยวฮั่วแววตาเป็นประกายสีดวงตาน้ำตาลขลับกลมโต จมูกโด่งเข้ารูปหน้าทำให้เขาชะงักเล็กน้อยเด็กคนนี้ช่างเหมือนเขาตอนเด็กเหลือเกิน"คุณลุงคะหนูต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ดูทางวิ่งชนคุณลุงเข้า""โธ่ ๆ เธอเป็นคนเจ็บแท้ ๆ ทำไมต้องขอโทษฉันด้วยล่ะลุกขึ้นมาเถอะฉันจะดูแผลให้แล้วแม่ของหนูอยู่ที่ไหนกัน ทำไมถึงปล่อยหนูออกมาวิ่งเล่นอยู่อย่างนี้""คุณลุงไม่ใช่คนที่นี่สินะคะถึงไม่รู้จักแม่ของผิงผิงคุณแม่เป็นเจ้าของร้านนี้ไงคะ นู้นคุณแม่กำลังรับแขกอยู่ด้านนู้นค่ะ " ผิงผิงยืนขึ้นชี้นิ้วไปทางด้านที่ฟู่เยี่ยนยืนอยู่ เขามองตามนิ้วน้อย ๆ ที่ชี้ไปด้านหน้าทันทีที่เขาเห็นเธอทำให้เขาจำได้ทันที แม้ว่าจะไม่ได้เจอเธอมาหลายปีและรูปร่างของเธอดูเปลี
บทที่ 9 มาทางไหนกลับไปทางนั้นตะวันบ่ายคล้อยคนมาซื้อของเริ่มซาลงรวมทั้งคนที่มาร่วมยินดีกับฟู่เยี่ยนเริ่มกลับกันไปมาก ผิงผิงง่วงนอนจึงให้เจียวเจียนพากลับบ้านไปนอนพักกลางวัน จางจื่อจือออกมาร่วมยินดีกับฟู่เยี่ยนได้เพียงครู่ก็ต้องกลับไปที่อำเภอเพราะมีงานที่ยังทำค้างอยู่“ป้าดีใจกับหนูจริง ๆ เลยไม่คิดเลยว่าหนูจะทำกิจการได้ร่ำรวยขนาดนี้” ป้าซือเสียนนั่งมองร้านค้าของฟู่เยี่ยนอย่างยินดีปรีดาใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม“หากไม่มีป้าซือเสียนกับเจียวเจียนก็คงไม่ได้ดีขนาดนี้หรอกค่ะต้องขอบคุณป้าที่คอยช่วยเหลือฉันมาตลอดแถมยังเอ็นดูผิงผิงเหมือนหลานตัวเองอีกด้วย เย็นนี้เราไปกินของอร่อย ๆ กันดีมั้ยคะ”“แค่วันนี้ของกินที่หนูเลี้ยงแขกก็มากพอแล้ว เก็บแรงเอาไว้เถอะนะกว่าจะหมดวันคงต้องใช้พลังงานอีกมาก” ซือเสียนเริ่มเห็นความเหนื่อยล้าปรากฏขึ้นใบหน้าของฟู่เยี่ยน เธอแทบจะทำเองทุกอย่างในร้าน หยัดยืนด้วยขาของตัวเองแสดงให้เห็นความเป็นผู้นำช่างน่านับถือจริง ๆ ซือเสียนย้อนมองไปอดีตของตนเองเธอต้องมาเสียสามีตอนที่ลูกเข้ากรมทหารโชคดีที่ลูกเติบโตหมดแล้วทำให้เธอไม่ต้องดิ้นรนมาก แต่กับฟู่เยี่ยนไม่ใช่อย่างนั้นเธอเป็นทั้งพ่อแล
บทที่ 10 คนรักของฉัน“เมื่อครู่เธอบอกว่าฉันมาจากที่ไหนให้กลับไปซ่ะอย่างนั้นเหรอ ดีอย่างนั้นตู่หนานไปเอากระเป๋าลงมาจากรถให้หน่อยฉันจะได้เข้าบ้านของฉัน”“นี่คุณหาเรื่องอะไรฉันอีก เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือไงออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนะ" ฟู่เยี่ยนปัดมือไล่เขาออกไปทันทีแต่ทว่าใบหน้าเสี่ยวฮั่วกลับยิ้มออกมาก่อนจะชักสีหน้าตึงใส่ฟู่เยี่ยนพลางเดินไปจับมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้“จะขับไล่ฉันไปไหนก็ที่นี่คือบ้านของฉัน” ฟู่เยี่ยนชะงักรอบที่สองเธอไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมได้ถึงเพียงนี้ทำไมเธอถึงไม่รู้เลยว่าบ้านหลังนี้มีเขาเป็นเจ้าของ“เอามือของคุณออกจากแขนของฉันเดี๋ยวนี้ และเรื่องที่คุณพูดมาเพราะอยากเอาชนะฉันใช่มั้ย ยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่านี่คือบ้านของคุณ” “คุณแม่มาแล้วเหรอคะ อ้าวนี่คุณลุงที่เจอตอนเช้านี่น่า ” ไม่ทันที่เสี่ยวฮั่วจะได้ตอบเสียงเล็ก ๆ ตะโกนออกมาจากประตูหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงของคุณแม่ของเธอโวยวายเสียงดัง ใบหน้าของฟู่เยี่ยนถอดสีทันทีที่ผิงผิงวิ่งออกมา“โอ๊ะ..หนูน้อยคนเมื่อเช้านี่น่า หัวเข่าของหนูเป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง” เสี่ยวฮั่วยิ้มกว้างปล่อยมือจากฟู่เยี่ยนพุ่งตัวไปหาผิงผิงทันที“ตอนน
บทที่ 11 ภารกิจล้มเหลวหลังจากที่ตู่หนานขับรถออกมาจากบ้านของฟู่เยี่ยนเสี่ยวฮั่วได้สั่งการให้เขาจอดรถอยู่ในละแวกนั้นเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าจางจื่อจือกับฟู่เยี่ยนนั้นเป็นคนรัก เพราะสายตาของเธอที่เคยแสดงความรักต่อเขา เขาจำมันได้ดีมิใช่แววตาอย่างที่เธอจ้องมองจางจื่อจือนั้นแน่นอน“ท่านนายพลจะรออีกนานมั้ยครับ แล้ววันนี้เราจะไปนอนที่ไหนกัน” ตู่หนานถามขึ้นเพราะตอนนี้เวลาล่วงเลยมานานมาไม่เห็นว่าชายที่ชื่อจางจื่อจือหรือนายอำเภอผู้นั้นจะออกมาเสียที หากเขาจะเป็นคนรักใหม่ของฟู่เยี่ยนก็ไม่แปลกเพราะตอนนี้คุณนายที่เขาเคยรู้จักเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ“รอดูอีกสักหน่อย ยังไงฉันก็เชื่อว่าชายคนนั้นถูกฟู่เยี่ยนอ้างว่าเป็นคนรักเพราะอยากขับไล่ฉันเท่านั้น ส่วนที่นอนฉันจะไปนอนบ้านญาติและจะคุยเรื่องการเช่าบ้านนี่ด้วยเหมือนกัน หากว่าฟู่เยี่ยนมาอยู่นี่นานแล้วเธอคงเช่าบ้านหลังนี้มาตลอดแต่ทำไมญาติของฉันถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย เงินสักหยวนยังไม่เห็นแถมคุณแม่ยังส่งเงินให้ทุกเดือนอีกด้วย” “เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เอ่อ..ท่านนายพลครับหากว่าเรารออีกหนึ่งชั่วโมงชายคนนั้นไม่ออกมาครั้งนี้ท่านนายพลจะยอมตัดใจจากคุณฟู่เยี่ย
บทที่12 สมน้ำหน้าตู่หนานขับรถยนต์ตามทางที่เสี่ยวฮั่วบอกจนกระทั่งมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ดูดีกว่าบ้านทุกหลังที่อยู่ในละแวกเดียวกัน"จอดรถเอาไว้ตรงนี้เดี๋ยวฉันจะลองเข้าไปเรียกดูว่าทุกคนในบ้านหลับกันหรือยัง""ได้ครับ" ตู่หนานทำตามที่เสี่ยวฮั่วสั่งการ เขาเปิดประตูเดินลงจากรถไปเคาะประตูบานใหญ่อยู่สองสามครั้งไม่นานคนในบ้านก็ออกมาเปิดประตูให้พร้อมกับชักสีหน้าใส่"ดึกขนาดนี้แล้วใครกันที่กล้ามารบกวนไม่รู้เวลาเอาเสียเลย"เสียงหญิงชราบ่นออกมาเสียงดังแต่ทว่าเมื่อเปิดประตูเห็นใบหน้าของเสี่ยวฮั่วใบหน้าพลันเปลี่ยนสี"ผมเองเว่ยเสี่ยวฮั่วหวังว่าคุณป้าจะจำผมได้""โฮ๊ะ ๆ คิดว่าใครที่แท้ก็หลานชายฉันนี่เอง ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะเข้ามาในบ้านก่อนสิมีเรื่องอะไรถึงได้มาที่นี่ดึกขนาดนี้กันแล้วแม่ของหลานได้มาด้วยมั้ย" ผู้เป็นป้ารีบยิ้มกึ่งหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อน"ไม่ครับผมมากับลูกน้องจะมาอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณพ่อ บ้านหลังนั้นคุณแม่บอกว่าจ่ายค่าจ้างป้าทุกเดือนเพื่อทำความสะอาดตอนนี้คงเข้าไปพักได้เลยใช่มั้ย" เสี่ยวฮั่วแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ป้าเอาบ้านให้ฟู่เยี่ยนเช่า เขาอยากรู้ว่าคนเป็นป้าจะตอบเขาว่าอย่างไร“เอ่อ..บ้านห
บทที่ 13 น่ารังเกียจฟู่เยียนย่ำเท้าออกไปอย่างเร่งรีบเสี่ยวฮั่วเดินตามหลังเธอมาติด ๆ คว้ามือของเธอให้หยุดเดิน"จะรีบไปไหนนี่คิดจะหนีฉันอีกแล้วเหรอ? ทำไมหรือว่าจะรีบย้ายไปอยู่กับนายอำเภอหน้าอ่อนนั่น""ปล่อยฉัน ที่ฉันไม่อยากอยู่ที่นั้นเพราะบ้านหลังนั้นเป็นคนของคนที่ไร้หัวใจ และอีกอย่างฉันจะรีบไปอยู่ที่บ้านของคนรักไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรในอนาคตเราต้องแต่งงานกัน ไปอยู่ก่อนไม่เสียหายสักนิด" ฟู่เยี่ยนสะบัดมือให้เขาปล่อยพันธนาการออกมาจากเธอแต่ทว่าคำพูดของเธอกลับทำให้เขาไม่พอใจเมื่อนึกภาพที่เธอใกล้ชิดนายอำเภอหากให้เธอไปอยู่บ้านกับเขาจริง ๆ ไม่แน่ทั้งสองอาจจะนอนด้วยกัน ใจของเสี่ยวฮั่วร้อนรุ่มขึ้นมาราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ด้านใน เขาจับข้อมือเธอแน่นกว่าเดิม ใช้มืออีกข้างคว้าเองบางของเธอมากอดแนบชิดก่อนจะก้มใบหน้าลงบดขยี้ลงบนริมฝีปากที่กำลังพูดอยู่ตอนนี้ ฟู่เยี่ยนตกใจใบหน้าแตกตื่นดวงตาเบิกโพลงพยายามใช้มือดันอกของเขาให้หยุดกระทำย่ำยีเธอตอนนี้ แต่ทว่าเธอตัวเล็กกว่าเขามากเหมือนแรงของเธอแทบไม่ทำให้เขารู้สึกระคายเคืองแม้แต่น้อยลมหายใจของเธอเริ่มติดขัดเมื่อถูกเขาดูดดื่มจนแถมหายใจไม่ทันร่างกายเริ่ม
บทที่ 14 คุณลุงใจดีติ่ง!!เสียงระบบดังขึ้นหลังจากที่ฟู่เยี่ยนเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง“สวัสดีฟู่เยี่ยน ”“มีอะไรหรือว่ามีภารกิจอะไรให้ฉันทำอีก”“วันนี้เธอทำความดีให้โอกาสเด็ก ๆ และยังมีจิตใจเมตตาฉันแค่จะมาบอกว่าคะแนนความดีของเธอแม้ว่าไม่ได้ช่วยเหลือชายที่ในภารกิจแจ้งมาแต่อย่างน้อยเธอก็ยังช่วยเหลือเด็กที่ไม่รู้ว่าชีวิตครั้งหนึ่งจะมีเงินซื้อของเล่นอย่างเด็กคนอื่นหรือไม่ การให้มันยิ่งใหญ่กว่าการช่วยเหลือ ดังนั้นวันนี้คะแนนของเธอจะคูณสอง” ฟู่เยี่ยนยิ้มกริ่มออกมาอย่างดีใจ“นี่เธอไม่ได้หลอกฉันใช่มั้ย”“ใช่นะสิ !! เห็นฉันเป็นผู้คุมมิติที่หลอกลวงคนอื่นหรือไงกัน ฉันรู้จักกับเธอมาตั้งกี่ปี”“รู้จ้ารู้ อย่างนั้นต้องขอบใจเธอมาก ๆ ฉิงเชาถ้าไม่มีเธอกับมิติฉันก็ไม่รู้เลยว่าชีวิตของฉันตอนนี้จะเป็นยังไง”“ทุกอย่างล้วนถูกลิขิตมาแล้ว ฉันมาบอกเพียงเท่านี้เมื่อไหร่อยากเข้าไปเลือกของเรียกฉันได้เสมอ ”“ขอบใจเธออีกครั้งนะ ตอนนี้ของที่มีอยู่ยังพอมีขายไปเรื่อย ๆ เอาไว้เมื่อไหร่ของใกล้จะหมดฉันจะเรียกหาเธอแล้วกัน” เมื่อสิ้นคำพูดของฟู่เยี่ยนเสียงพูดของฉิงเชาได้เงียบทันทีตอนนี้เธอต้องมาคิดหาบ้านเช่าให้ได้รวดเร
บทที่ 29 ความรักที่แท้จริงหนึ่งเดือนผ่านมาตอนนี้ฟู่เยี่ยนยังอยู่กับจางจื่อจือแต่ไม่ได้อยู่ในฐานะเพื่อนเพราะตอนนี้ทั้งสองได้หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ทั้งสองตั้งใจจะเดินทางไปที่มณฑลเหิงฉีไปหาพ่อของฟู่เยี่ยนเพื่อทำทุกอย่างให้เป็นทางการและขนบธรรมเนียม ฟู่เยี่ยนเองก็อยากกลับไปขอโทษที่เธอไม่ได้บอกลาและติดต่อไปเลยสักครั้งยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจที่ละเลยความรู้สึกของคนแก่คนหนึ่งที่ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหนติ่ง !! เสียงระบบดังขึ้นในระหว่างที่ฟู่เยี่ยนกำลังแต่งตัวเพื่อออกเดินทาง“สวัสดีฟู่เยี่ยน ดูเหมือนตอนนี้เธอมีความสุขดีสินะ”“ใช่ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก ว่าแต่เธอเถอะเงียบหายไปเลยตั้งแต่มาบอกเรื่องภารกิจ แล้วเรื่องที่ฉันทำภารกิจผ่านไม่ผ่านไม่เห็นจะมาบอกเลยสักครั้งเวลาที่ฉันอยากได้ของเพียงแค่คิดมิติก็เปิดออกเธอไปไหนมา ”“ฉันมีเรื่องให้ทำนิดหน่อยนะ วันนี้ฉันมาเพื่อแจ้งเรื่องภารกิจเธอทำได้สำเร็จ ฉันดีใจด้วยนะและฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะมาแจ้งเธอ”“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ ? ว่าแต่ภารกิจที่เธอทำให้ ทำให้คนรักมีความสุขนี่คือใครกันหรือใช่ผิงผิงมั้ย” “เรื่องภารกิจที่ฉันให้เธอทำให้คนรักม
บทที่ 28 ฉันเลือกคุณฟู่เยี่ยนขับรถมาถึงบ้านต้องแปลกใจ บ้านที่สว่างรอเธออยู่ทุกวันวันนี้กลับมืดไร้แสงไฟ เธอดับเครื่องยนต์ทุกคนพากันเดินลงจากรถด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน“พี่ฟู่เยี่ยนนายอำเภอจางจื่อจือวันนี้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ใช่มั้ยคะ ”“จริงสิฉันลืมได้ยังไงกันนะ วันนี้เขาคงเหนื่อยมาก ๆ แน่ ๆ เราช่วยกันทำกับข้าวไว้รอเขากันเถอะ ส่วนผิงผิงลูกอิ่มแล้วใช่มั้ยนั่งเล่นของเล่นรอแม่กับพี่เจียวเจียนทำกับข้าวก่อนนะ ทำเสร็จแล้วจะให้พี่เจียวเจียนพาไปอาบน้ำ”“ค่ะคุณแม่ ” ทั้งสามเดินเข้ามาในบ้านพร้อมเปิดไฟแต่เมื่อเดินไปที่ห้องครัวกลับพบว่าตอนนี้บนโต๊ะกับข้าวมีอาหารเต็มไปหมด“เอ๊ะ ! ทำไมกับข้าวถึงมีเต็มโต๊ะแบบนี้คะหรือว่านายอำเภอกลับมาแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงไม่เปิดไฟกัน” เจียวเจียนพูดขึ้นด้วยความสงสัยฟู่เยี่ยนพลางครุ่นคิดหรือว่าเขาเหนื่อยมากจนปิดไฟนอน แต่ทว่าเขาไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกกว่ามีอะไรแปลก ๆ ไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงบอกให้เจียวเจียนพาผิงผิงไปอาบน้ำ“เจียวเจียนเธอพาผิงผิงไปอาบน้ำและให้ผิงผิงเล่นอยู่ในห้องเธอค่อยมากินข้าวนะ ฉันจะไปดูจางจื่อจือก่อนฉันคิดว่าเขาน่าจะไม่สบาย” เธอรู้
บทที่ 27 จากกันด้วยดีแต่ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าและท่าทางของฟู่เยี่ยนต้องทำให้เขาหุบยิ้มทันที ครั้นนั้นฟู่เยี่ยนไม่ได้จะหยิบจับแหวนในกล่องเธอดันกล่องกลับมาหาเขาใบหน้าของเธอแสดงความดุดันและจริงจังอย่างที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งที่เธอขอหย่า“เก็บแหวนของคุณไว้เถอะค่ะ แหวนวงนี้ฉันขายทิ้งไปแล้วเช่นเดียวกับความรู้สึกที่ฉันตัดสินใจขายมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดี ๆ ความรักความผูกพันมันจบลงตั้วแต่วันนั้นแล้ว เราทั้งสองไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก แต่เราสามารถทำหน้าที่พ่อและแม่ให้แก่ผิงผิงได้ ฉันเปิดใจยอมให้อภัยในสิ่งที่ผ่านมาแต่ทว่าตอนนี้หัวใจของฉันมีคนอื่นเข้ามาอยู่แทนคุณแล้ว คนที่ทำทุกอย่างโดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอเขาเป็นห่วงห่วงใยคอยเอาใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเขาไม่เคยสนใจรูปร่างภายนอกของฉันและไม่เคยอายที่มีฉันเดินเคียงข้าง สิ่งนั้นที่เขามีคุณไม่เคยมีเราทั้งคู่จากกันด้วยดีเถอะนะคะ ฉันไม่อยากจะเกลียดคุณไปมากกว่านี้ ” เสี่ยวฮั่วพูดไม่ออกร่างกายสั่นเทาใจของเขาเริ่มสั่นคลอนไปหมด“ฉันไม่มีทางเข้าไปแทรกเลยสินะ เอาล่ะฉันเองก็เป็นลูกผู้ชายพอในเมื่อเธอตัดสินใจอย่างนั้นฉันเองไม่สามารถ
บทที่ 26 แต่งงานกับฉันนะเสี่ยวฮั่วดีใจมาก ๆ ที่ฟู่เยี่ยนเธอเริ่มเปิดใจให้เขาเข้าใกล้ผิงผิงและตอนนี้เธอยังยอมบอกว่าเขาคือพ่อของผิงผิงอีกด้วย เขาพาเด็กหญิงตัวน้อยนั่งรถไปหาคุณแม่ของเขาที่บ้านป้าไป๋เซียง คุณแม่ต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ได้เห็นหลายสาวน่ารักคนนี้“ผิงผิงพ่อขอโทษนะ ลูกคงจะโกระจะเกลียดพ่อมากใช่มั้ยที่ไม่ได้ดูแลและเลี้ยงลูกมา” เสี่ยวฮั่วขับรถยนต์พลางหันมามองหน้าของผิงผิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา เด็กหญิงเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกห่างจากอกผู้เป็นแม่เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนจะคอยมีฟู่เยี่ยนคอยอยู่ข้าง ๆ เสมอ“หนูไม่โกรธและก็ไม่เกลียดคุณลุงเลยค่ะ ดีใจเสียอีกที่ได้รู้ว่าพ่อของหนูยังมีชีวิตอยู่ ”“ผิงผิงเป็นเด็กดีจริง ๆ เลิกเรียกคุณลุงได้แล้วนะเรียกคุณพ่อสิ” “ได้ค่ะคุณพ่อ” ผิงผิงยิ้มหวานให้แก่เขา ทั้งสองพากันเดินทางไปถึงบ้านป้าไป๋เซียง แม่ของเสี่ยวฮั่วต่างก็แปลกใจและดีใจที่เห็นหน้าของหลานสาว เธอพาผิงผิงไปกินข้าวพาเที่ยวเล่นและซื้อของเล่นอย่างที่ผิงผิงอย่างได้ จนกระทั่งถึงเวลาไปส่งผิงผิงที่ร้านเพราะตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว ระหว่างทางไปที่ร้านเหมียวเหมียวฉิงถิงได้เอ่ยถามลูกชายเพร
บทที่ 25 ผิงผิงเกลียดคุณแม่“คุณมาทำอะไรที่นี่ผิงผิงมาหาแม่เดี๋ยวนี้” เสียงแหลมตะโกนออกมาดังสนั่นทำให้ทั้งสองหันขวับไปมองทันที ผิงผิงรีบเดินไปหาแม่ของเธออย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะถูกแม่ว่า“ฟู่เยี่ยน... ฉันแค่อยากเจอผิงผิงทำไมเธอถึงใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้” “ใจร้ายเหรอ ? ฮึ..ใช่ฉันมันใจร้ายแต่ใครกันที่ใจร้ายกว่าถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งกับเราสองแม่ลูกฉันจะพาผิงผิงหนีไปให้ไกลที่สุด และรอบนี้คุณจะไม่ได้เห็นเธออีก” “คุณแม่คะคุณลุงรู้สึกผิดและเสียใจที่เคยทำร้ายจิตใจคุณแม่ คุณแม่ยกโทษให้คุณลุงเถอะนะคะ คุณแม่เคยสอนไม่ใช่เหรอคะถ้าเราทำผิดให้ขอโทษการขอโทษคือทางออกที่ดีที่สุด อย่างนั้นแค่คุณลุงขอโทษคุณแม่ก็ควรให้อภัยไม่ใช่หรือคะ”“ผิงผิงเรื่องนี้หนูยังไม่เข้าใจ ชายคนนี้เลวร้ายยิ่งกว่าที่หนูคิดเชื่อแม่อยู่ให้ไกลจากคน ๆ นี้ ”“ทำไมล่ะ ? ทำไมเธอถึงไม่สนใจความรู้สึกของลูกบ้าง เธอจะพรากฉันกับลูกอีกนานแค่ไหน ฉันเองก็มีสิทธิ์ในตัวลูกเหมือนกันนะฉันขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ฉันผิดไปแล้วให้ฉันได้ทำหน้าที่พ่อให้แก่ผิงผิงเถอะนะ ” เสี่ยวฮั่วเดินเข้ามาใกล้พร้อมบอกผิงผิงว่าเขาคือพ่อของเธอ ตอนนี้ผิงผิงงงงวยไปหมดร
บทที่ 24 ฉันคือพ่อของผิงผิงฝั่งด้านเสี่ยวฮั่วเขาไม่ได้ไปหาฟู่เยี่ยนแต่เลือกที่จะไปหาผิงผิงที่โรงเรียนเขาไม่ลืมที่จะซื้อขนมหวานติดไม้ติดมือมาด้วย เขาให้ตู่หนานพาแม่ไปหาฟู่เยี่ยนส่วนเขามาที่นี่คนเดียว ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาวิ่งเล่นของเด็ก ๆ เขาเดินเข้ามาในโรงเรียนต้องถูกยามที่หน้าโรงเรียนเรียกตัวเองไว้ก่อน“เดี๋ยวครับ คุณเป็นผู้ปกครองหรือเป็นใครที่จะเข้าไปในโรงเรียนครับ ”“ฉันเป็นพ่อของผิงผิง อยากเข้าไปหาเธอสักหน่อยเธอเรียนอยู่ที่นี่ใช่มั้ย” ยามจ้องมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเขาก็จำได้ผู้ปกครองที่มารับผิงผิงจะมีแต่ผู้หญิงและยิ่งเรื่องการลักพาตัวเด็กไปแลกค่าไถ่หรือจับตัวไปขอทานช่วงนี้ยิ่งมีเยอะการที่เขาเป็นยามของที่นี่จึงต้องเข้มงวด“ผู้ปกครองของผิงผิงเหรอครับ อย่ามาโกหกเลยแกเป็นพวกลักพาตัวเด็กใช่มั้ย นี่จะเอาขนมมาล่อเด็กและจับตัวไปสินะคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงออกไปจากที่นี่ก่อนที่ฉันจะเรียกจัดการเรียกตำรวจ” เสี่ยวฮั่วตกใจคิดว่าที่นี่จะเข้าง่าย แต่ก็เข้าใจยามที่เฝ้าหน้าประตูดี เขาช่างเป็นคนที่รักในหน้าที่จริง ๆ“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ คุณเองก็น่าชื่นชมทำหน้าที่เป็นอย่างดี ฉันคือนายพลเว่ย
บทที่ 23 ตามกลับ“ใช่ครับเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะผม ถ้าผมเจอเธอและลูกแล้วคุณแม่ช่วยไปพูดกับเธอได้มั้ยครับ ตอนนี้ผมรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำไปจริงๆ” “ลูกพูดเหมือนอย่างกับว่าตอนนี้เจอฟู่เยี่ยนแล้วอย่างนั้นรึ” ดวงตาของฉิงถิงเบิกโพลงวางช้อนลงบนจานข้าวทันทีสายตาจับจ้องมามองเสี่ยวฮั่วอย่างคาดหวังคำตอบ“ใช่ครับ ผมเจอเธอแล้วเมื่อเดือนก่อนตอนที่ผมเดินทางไปบ้านเกิดคุณพ่อ”“ว๊าว สวรรค์เมตตาแล้วชักช้าทำไมล่ะรีบพาแม่ไปหาหลานสิแล้วหลานแม่เติบโตมาเป็นยังไงผู้หญิงหรือว่าผู้ชายสุขภาพแข็งแรงใช่มั้ย? ”“ลูกสาวครับเธอชื่อว่าผิงผิงเป็นเด็กแข็งแรงน่ารักช่างพูดช่างคุย ความบังเอิญที่ผมไม่เคยรู้เลยและถ้าวันนั้นผมไม่กลับไปที่บ้านของคุณพ่อคงไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่เราตามหาเธอ เธอเช่าบ้านหลังนั้นอยู่ ”“เป็นความบังเอิญจริง ๆ แล้วลูกไม่ขอโทษเธอและพาเธอกลับบมาล่ะ”“ผมทำแล้วครับแต่ฟู่เยี่ยนไม่ยอมใจอ่อนเลย อีกอย่างตอนนี้เธอกำลังคบหากับนายอำเภอที่นั่นอยู่ หลังจากที่ผมเจอกับเธอ เธอก็พาผิงผิงหนีไปอีกแล้วครับ ”“ห่ะ !! อะไรนะ อย่างนั้นต้องขอให้พี่ไป๋เซียงช่วยสืบหาที่อยู่ของฟู่เยี่ยนแล้ว”“คุณแม่ครับผมรู้แล้วครับว่าตอนนี้เธ
บทที่ 22 ทำตามความต้องการเธอเดินไปที่ห้องของผิงผิงค่อย ๆ แง้มประตูดูว่าเธอหลับหรือยังก็พบว่าตอนนี้ิผิงผิงหลับไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนจางจื่อจือกำลังปิดไฟและเดินออกมา"เธอมาหาผิงผิงเหรอตอนนี้หลับไปแล้วล่ะ""ขอบคุณนะที่ตามใจเธอทุกอย่างเลย เป็นเพราะฉันที่ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของผิงผิงเห็นว่าเธอไม่ถามหาพ่อ ก็คิดว่าเธอไม่โหยหาฉันนี่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย ไม่รู้แม้กระทั่งความรู้สึกของลูก " เธอเดินนำออกมาและพูดคำพูดที่เธอรู้สึกให้จางจื่อจือฟัง เขาปิดประตูอย่างเบามือก่อนจะตอบกลับฟู่เยี่ยน"เพราะผิงผิงรักเธอมากนะสิ ถึงไม่เคยงอแงเรื่องพ่อขึ้นมาสักครั้ง ตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าความต้องการของผิงผิงคืออะไร ถ้าอยากให้ลูกมีความสุขก็อยู่ที่นี่ต่อเถอะนะ ไม่ใช่แค่ผิงผิงที่ต้องการฉันเองก็ต้องการเธอเช่นเดียวกัน ระหว่างที่เรามาอยู่บ้านหลังเดียวกันฉันมีความสุขมากเลยนะ กลับจากที่ทำงานทุกวันเพราะคิดว่ามีคนรอคอยอยู่ที่บ้านกลับมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา จนตอนนี้เหมือนฉันเองก็ติดและหลงผิงผิงไปแล้ว เธอพาผิงผิงออกไปฉันคงเศร้าใจ" ฟู่เยี่ยนเริ่มลังเลและคิดว่านี่คือภารกิจที่ฉิงเชาบอกเมื่อครู่กันนะ เรื่องย้ายบ้านเ
บทที่ 21 ทำให้คนรักมีความสุขรุ่งเช้าวันต่อมาไม่รู้ว่าเพราะเธอเหน็ดเหนื่อยหรือสบายใจทำให้หัวถึงหมอนหลับไปเลยทันทีตื่นเช้ามาเธอยังไม่คุ้นชินเพราะเป็นเช้าแรกที่ย้ายมาอยู่บ้านของจางจื่อจือ เธอตื่นขึ้นมาเห็นพ่อของเขานั่งจิบน้ำชาอยู่ที่โต๊ะอาหารเธอรีบเข้าไปทักทาย“เมื่อคืนนี้นอนสบายดีมั้ย?” ไม่ทันทีที่เธอจะได้เอ่ยถามก็ถูกเขาเอ่ยถามเสียก่อน“นอนสบายดีค่ะแล้วคุณลุงละคะนอนสบายดีมั้ย”“คนแก่อย่างฉันเวลามีความสุขมักจะนอนสบายเป็นอย่างดีเลยล่ะ ฉันได้ยินว่าเธอเป็นเจ้าของร้านที่ใหญ่ในละแวกนี้เลยใช่มั้ย?”“ฉันเป็นเจ้าของร้านเหมียวเหมียวที่ไม่ได้ใหญ่อะไร กิจการที่ทำอยู่กำลังขยายตัวและเพิ่งขยายร้านเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ”“เธอเป็นคนฉลาดจริง ๆ เก่งในเรื่องธุรกิจและการจัดการอย่างนั้นเธอเองก็ไม่ค่อยมีเวลาสินะ อย่างนั้นต่อจากนี้ถ้าฉันคิดถึงหนูผิงผิงจะมาหาพวกเธอที่นี่เอง”“คุณพ่อจะเดินทางกลับแล้วหรือครับไม่อยู่ต่ออีกหน่อยล่ะครับ เดี๋ยววันหยุดผมจะไปส่งคุณพ่อเอง”“ไม่เอาล่ะฉันมีฟาร์มต้องดูแล หนูฟู่เยี่ยนฝากเจ้านี่ด้วยนะช่วยดูแลให้ฉันที เขาเป็นคนสนใจงานมากกว่าร่างกายตัวเองเสียอีก วัน ๆ สนใจแต่ทำงานไม่รู้กินอา