บทที่ 11 ภารกิจล้มเหลว
หลังจากที่ตู่หนานขับรถออกมาจากบ้านของฟู่เยี่ยนเสี่ยวฮั่วได้สั่งการให้เขาจอดรถอยู่ในละแวกนั้นเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าจางจื่อจือกับฟู่เยี่ยนนั้นเป็นคนรัก เพราะสายตาของเธอที่เคยแสดงความรักต่อเขา เขาจำมันได้ดีมิใช่แววตาอย่างที่เธอจ้องมองจางจื่อจือนั้นแน่นอน
“ท่านนายพลจะรออีกนานมั้ยครับ แล้ววันนี้เราจะไปนอนที่ไหนกัน” ตู่หนานถามขึ้นเพราะตอนนี้เวลาล่วงเลยมานานมาไม่เห็นว่าชายที่ชื่อจางจื่อจือหรือนายอำเภอผู้นั้นจะออกมาเสียที หากเขาจะเป็นคนรักใหม่ของฟู่เยี่ยนก็ไม่แปลกเพราะตอนนี้คุณนายที่เขาเคยรู้จักเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ
“รอดูอีกสักหน่อย ยังไงฉันก็เชื่อว่าชายคนนั้นถูกฟู่เยี่ยนอ้างว่าเป็นคนรักเพราะอยากขับไล่ฉันเท่านั้น ส่วนที่นอนฉันจะไปนอนบ้านญาติและจะคุยเรื่องการเช่าบ้านนี่ด้วยเหมือนกัน หากว่าฟู่เยี่ยนมาอยู่นี่นานแล้วเธอคงเช่าบ้านหลังนี้มาตลอดแต่ทำไมญาติของฉันถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย เงินสักหยวนยังไม่เห็นแถมคุณแม่ยังส่งเงินให้ทุกเดือนอีกด้วย”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เอ่อ..ท่านนายพลครับหากว่าเรารออีกหนึ่งชั่วโมงชายคนนั้นไม่ออกมาครั้งนี้ท่านนายพลจะยอมตัดใจจากคุณฟู่เยี่ยนมั้ยครับ เพราะตอนนี้ผมมองดูแล้วเธอมีความสุขมากมีครอบครัวที่อบอุ่นพ่อแม่ลูกอยู่กันอย่างครบหน้า”
“ไม่!! ฉันไม่มีทางเชื่อ อย่างไรเด็กคนนั้นต้องเป็นลูกของฉันคอยดูไว้เถอะฉันจะให้เธอกลับมาเป็นภรรยาของฉันเหมือนเดิม”
“ทำไมแต่ก่อนนายพลไม่เห็นสนใจตอนที่เธอเป็นคุณนายสักนิด อีกอย่างตอนนี้ทั้งสองหย่ากันแล้วคงยากที่จะทำให้ฟู่เยี่ยนกลับไป นายพลคงไม่ลืมหรอกใช่มั้ยครับว่าเคยทำอะไรไว้” ตู่หนานคอยเฝ้ารับใช้เขาตลอดไม่เห็นว่าเขารู้สึกรักและห่วงใยฟู่เยี่ยนสักครั้งและเรื่องที่ทำให้เธอตัดสินใจหย่าเพราะเขาอับอายที่มีภรรยาอ้วนคอยออกงานด้วยและขับไล่เธอลงจากรถให้เดินกลับบ้านด้วยตนเองเขาทำร้ายจิตใจภรรยาครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบไม่มีความเห็นใจเลยสักนิด แต่ทว่ามาตอนนี้อยากได้เธอคืนคงยากที่ผู้หญิงที่รักเขา ๆ ยอมตัดใจพูดคำหย่าออกมากลับไปเหมือนเดิม
“นี่แกเป็นคนของฉันหรือคนของฟู่เยี่ยนกันแน่ที่ผ่านมาฉันรู้แล้วว่าฉันผิด ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เห็นหรือไงว่าฉันออกตามหาฟู่เยี่ยนขนาดไหน”
“ครับ ครับเข้าใจแล้วครับแต่ทว่าความรู้สึกผิดกับความรักมันต่างกันนะครับถ้าได้คุณฟู่เยี่ยนกลับไป ถ้าเกิดนายพลไม่มีความรักให้เธอทุกอย่างก็คงจะเป็นเหมือนเดิม”
“หุบปากก่อนที่ฉันจะเอาลูกปืนไปให้นายอม พูดมากจริง ๆ น่ารำคาญ” ตู่หนานรีบหยุดพูดทันทีเมื่อเห็นสีหน้าแววตาของเสี่ยวฮั่วที่จ้องมองเขาตอนนี้
ฝั่งด้านของฟู่เยี่ยน
หลังจากที่กินอาหารเย็นฉลองกันเสร็จเธอให้เจียวเจียนพาผิงผิงไปอาบน้ำนอนพักผ่อนส่วนเธอเดินมาส่งจางจื่อจือที่รถยนต์ของเขา
“กลับเข้าบ้านเถอะ หากนายพลอะไรนั่นมาอีกโทรเรียกฉันได้เสมอเข้าใจมั้ยไม่ต้องเกรงใจ อะไรที่ทำให้เธอปลอดภัยจะใช้ชื่อของฉันหน้าที่การงานข่มขู่เขาฉันเองก็เต็มใจและจะดีใจมากที่เธอคิดพึ่งพาอาศัยฉัน”
“นี่ท่านนายอำเภอฉันใช้คุณออกหน้าเป็นคนรักของฉัน หากเป็นคนอื่นเขาคงไม่พอใจแน่ ๆ คิดดูสิถ้าผู้หญิงที่คอยเฝ้าตามตื้อคุณรู้เข้าจะเกิดอะไรขึ้นอีกอย่างหากฉันเอาแต่พึ่งพาอาศัยชื่อเสียงของคุณ คุณคงได้ขึ้นคานพอดี ”
“ไม่เห็นจะกลัวขึ้นคานเลย อย่างน้อยก็มีเธอกับผิงผิงคอยอยู่เคียงข้าง จริงสิได้ยินว่านายพลเว่ยเสี่ยวฮั่วเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เท่ากันว่าต่อจากนี้เขาคงจะมาหาเรื่องเธออีกแน่ ๆ เอาอย่างนี้มั้ยไปพาผิงผิงกับเจียวเจียนไปพักอยู่บ้านฉันก่อน เมื่อหาบ้านหลังใหม่ได้เมื่อไหร่ค่อยย้ายออกจากบ้านของฉันก็ได้ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลนะที่นั้นมีห้องว่างอยู่หลายห้อง ” ฟู่เยี่ยนจ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้าใบหน้าของเธอเริ่มปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาจาง ๆ เขาช่างเป็นคนดีใส่ใจคนอื่นจริง ๆ
“ฉันยังไม่เชื่อหรอกว่าที่นี่คือบ้านของเขา แต่ว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าฉันอยู่ที่ไหนคงมาหาอีกแน่ ๆ ขอบคุณความห่วงใยที่มีให้กันนะ เอาไว้พรุ่งนี้เช้าก่อนเข้าร้านฉันจะไปหาป้าซือเสียนกับคนที่ฉันทำสัญญาเช่าบ้านเพื่อถามความจริงเรื่องนี้ หากเขาเป็นเจ้าของบ้านจริง ๆ ฉันจะย้ายออกทันที ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ ถ้าเขาเป็นเจ้าของบ้านจริง ๆ เธอต้องติดต่อหาฉันทันทีเข้าใจมั้ย ”
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วเดินทางกลับดี ๆ นะ ” ฟู่เยี่ยนโบกมือลาเขาจางจื่อจือให้กลับบ้าน
เธอยืนมองจนรถของจางจื่อจือขับออกไปลับสายตาก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เฮ้อ !! ทำไมถึงได้เหนื่อยใจแบบนี้นะ จางจื่อจือฉันพอรู้ว่าคุณคิดยังไงกับฉันและคุณเองเป็นคนที่ดีมาก ๆ คนหนึ่ง ฉันมันเป็นแค่แม่หม้ายแถมยังมีลูกสาวพ่วงมาด้วย อนาคตคุณยังอีกไกล ฉันอยากพูดแบบนี้ออกไปจริง ๆ แต่ก็แอบกลัวคุณเสียใจ ฮึ .. แล้วอย่างนี้ฉันจะทำยังไงต่อไปนะ ทั้งเสี่ยวฮั่วที่จู่ ๆ ก็โผล่มา ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวไปอาบน้ำนอนพักแล้วค่อยคิดหาทางอีกครั้งก็แล้วกัน “ ฟู่เยี่ยนหันหลังกำลังเดินเข้าบ้านจู่ ๆ เสียงมิติของฉิงเชาได้ดังขึ้น
ติ่ง !!
“ฟู่เยี่ยนเธอทำภารกิจล้มเหลวความดีคูณสองของเธอไม่มีผล สินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตจะได้เท่าเดิม ” ฟู่เยี่ยนคิ้วขมวดเข้าหากันจู่ ๆ ฉิงเชาบอกว่าเธอทำภารกิจไม่สำเร็จ
“อะไรกัน.. ฉันยังไม่ได้เริ่มทำเลยด้วยซ้ำทำไมทำไม่สำเร็จล่ะ ” ทว่ายามนั้นเองคำพูดของฉิงเชาที่บอกเธอเรื่องทำความดีให้ช่วยเหลือผู้มาเยือน เธอถึงกลับเบิกตาโพลงโต
“อย่าบอกนะว่าภารกิจที่เธอให้ฉันทำคือการช่วยเหลือเว่ยเสี่ยวฮั่ว”
“ใช่แล้ว ภารกิจของเธอคือการช่วยให้เสี่ยวฮั่วมีที่นอนในคืนนี้แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่ช่วยเหลือแถมขับไล่เขาไปอีกด้วย”
“เฮอะ ! หากให้ช่วยเขาแล้วได้ของคูณสองฉันไม่เอาดีกว่า ขอแบบเดิมก็ได้ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีทางใยดีกับคนที่เห็นแก่ตัวแบบนั้นหรอก ” ฟู่เยี่ยนกอดอกพูดออกไปอย่างไม่สนใจ
“ทุกอย่างอยู่ที่ตัวของเธอเลือกจะทำ อย่างนั้นวันนี้ขอสรุปภารกิจล้มเหลวการทำความดีมีผลเท่าเดิม และฉันมีเรื่องจะมาแจ้งตอนนี้ราคาสินค้าในยุคปัจจุบันมีการปรับราคาขึ้น ต่อจากนี้ความดีของเธอที่จะเอามาแลกของต้องมากกว่าเดิม ขอให้คืนนี้ฝันดี ”
“เดี๋ยวสิ อย่าพึ่งไปฉิงเชาได้ยินฉันมั้ย” ฟู่เยี่ยนตกใจเล็กน้อยที่มิติจู่ ๆ เกิดการปรับราคาทั้งที่ในระยะห้าปีมานี้ไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง แต่เมื่อเธอเรียกหาเท่าไหร่กลับไปพบเพียงความเงียบงัน
“……….”
“เฮอะ ให้มันได้อย่างนี้สินี่คงเป็นเพราะฉันทำภารกิจไม่สำเร็จใช่มั้ยได้อย่างนั้นฉันจะตั้งใจทำความดีให้มากกว่าเดิม ชิ” ฟู่เยี่ยนเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์เสียไม่คิดเลยว่าภารกิจที่ฉิงเชาให้ทำคือการช่วยเหลือสามีเก่าให้เข้ามานอนในบ้าน
อีกฝั่งที่นั่งอยู่บนรถยนต์เมื่อเห็นแสงสว่างจากรถยนต์ที่เคลื่อนออกจากซอย รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวฮั่วได้ปรากฏขึ้นพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างพึงพอใจ
“เห็นมั้ยฉันบอกแล้วว่าฟู่เยี่ยนเธอแค่โกหกเพื่อขับไล่ฉันแค่นั้นเอง ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่พ่อของผิงผิงแต่เป็นฉันต่างหาก ตู่หนานไปที่บ้านของคุณป้า ส่วนเรื่องของฟู่เยี่ยนกับผิงผิงฉันจะวางแผนเข้ามาหาเธอใหม่อีกครั้ง”
“ได้ครับนายพล”
“ครั้งนี้ฉันจะไม่ให้เธอหนีไปไหนอีกแล้วฟู่เยี่ยน”
บทที่12 สมน้ำหน้าตู่หนานขับรถยนต์ตามทางที่เสี่ยวฮั่วบอกจนกระทั่งมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ดูดีกว่าบ้านทุกหลังที่อยู่ในละแวกเดียวกัน"จอดรถเอาไว้ตรงนี้เดี๋ยวฉันจะลองเข้าไปเรียกดูว่าทุกคนในบ้านหลับกันหรือยัง""ได้ครับ" ตู่หนานทำตามที่เสี่ยวฮั่วสั่งการ เขาเปิดประตูเดินลงจากรถไปเคาะประตูบานใหญ่อยู่สองสามครั้งไม่นานคนในบ้านก็ออกมาเปิดประตูให้พร้อมกับชักสีหน้าใส่"ดึกขนาดนี้แล้วใครกันที่กล้ามารบกวนไม่รู้เวลาเอาเสียเลย"เสียงหญิงชราบ่นออกมาเสียงดังแต่ทว่าเมื่อเปิดประตูเห็นใบหน้าของเสี่ยวฮั่วใบหน้าพลันเปลี่ยนสี"ผมเองเว่ยเสี่ยวฮั่วหวังว่าคุณป้าจะจำผมได้""โฮ๊ะ ๆ คิดว่าใครที่แท้ก็หลานชายฉันนี่เอง ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะเข้ามาในบ้านก่อนสิมีเรื่องอะไรถึงได้มาที่นี่ดึกขนาดนี้กันแล้วแม่ของหลานได้มาด้วยมั้ย" ผู้เป็นป้ารีบยิ้มกึ่งหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อน"ไม่ครับผมมากับลูกน้องจะมาอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณพ่อ บ้านหลังนั้นคุณแม่บอกว่าจ่ายค่าจ้างป้าทุกเดือนเพื่อทำความสะอาดตอนนี้คงเข้าไปพักได้เลยใช่มั้ย" เสี่ยวฮั่วแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ป้าเอาบ้านให้ฟู่เยี่ยนเช่า เขาอยากรู้ว่าคนเป็นป้าจะตอบเขาว่าอย่างไร“เอ่อ..บ้านห
บทที่ 13 น่ารังเกียจฟู่เยียนย่ำเท้าออกไปอย่างเร่งรีบเสี่ยวฮั่วเดินตามหลังเธอมาติด ๆ คว้ามือของเธอให้หยุดเดิน"จะรีบไปไหนนี่คิดจะหนีฉันอีกแล้วเหรอ? ทำไมหรือว่าจะรีบย้ายไปอยู่กับนายอำเภอหน้าอ่อนนั่น""ปล่อยฉัน ที่ฉันไม่อยากอยู่ที่นั้นเพราะบ้านหลังนั้นเป็นคนของคนที่ไร้หัวใจ และอีกอย่างฉันจะรีบไปอยู่ที่บ้านของคนรักไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรในอนาคตเราต้องแต่งงานกัน ไปอยู่ก่อนไม่เสียหายสักนิด" ฟู่เยี่ยนสะบัดมือให้เขาปล่อยพันธนาการออกมาจากเธอแต่ทว่าคำพูดของเธอกลับทำให้เขาไม่พอใจเมื่อนึกภาพที่เธอใกล้ชิดนายอำเภอหากให้เธอไปอยู่บ้านกับเขาจริง ๆ ไม่แน่ทั้งสองอาจจะนอนด้วยกัน ใจของเสี่ยวฮั่วร้อนรุ่มขึ้นมาราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ด้านใน เขาจับข้อมือเธอแน่นกว่าเดิม ใช้มืออีกข้างคว้าเองบางของเธอมากอดแนบชิดก่อนจะก้มใบหน้าลงบดขยี้ลงบนริมฝีปากที่กำลังพูดอยู่ตอนนี้ ฟู่เยี่ยนตกใจใบหน้าแตกตื่นดวงตาเบิกโพลงพยายามใช้มือดันอกของเขาให้หยุดกระทำย่ำยีเธอตอนนี้ แต่ทว่าเธอตัวเล็กกว่าเขามากเหมือนแรงของเธอแทบไม่ทำให้เขารู้สึกระคายเคืองแม้แต่น้อยลมหายใจของเธอเริ่มติดขัดเมื่อถูกเขาดูดดื่มจนแถมหายใจไม่ทันร่างกายเริ่ม
บทที่ 14 คุณลุงใจดีติ่ง!!เสียงระบบดังขึ้นหลังจากที่ฟู่เยี่ยนเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง“สวัสดีฟู่เยี่ยน ”“มีอะไรหรือว่ามีภารกิจอะไรให้ฉันทำอีก”“วันนี้เธอทำความดีให้โอกาสเด็ก ๆ และยังมีจิตใจเมตตาฉันแค่จะมาบอกว่าคะแนนความดีของเธอแม้ว่าไม่ได้ช่วยเหลือชายที่ในภารกิจแจ้งมาแต่อย่างน้อยเธอก็ยังช่วยเหลือเด็กที่ไม่รู้ว่าชีวิตครั้งหนึ่งจะมีเงินซื้อของเล่นอย่างเด็กคนอื่นหรือไม่ การให้มันยิ่งใหญ่กว่าการช่วยเหลือ ดังนั้นวันนี้คะแนนของเธอจะคูณสอง” ฟู่เยี่ยนยิ้มกริ่มออกมาอย่างดีใจ“นี่เธอไม่ได้หลอกฉันใช่มั้ย”“ใช่นะสิ !! เห็นฉันเป็นผู้คุมมิติที่หลอกลวงคนอื่นหรือไงกัน ฉันรู้จักกับเธอมาตั้งกี่ปี”“รู้จ้ารู้ อย่างนั้นต้องขอบใจเธอมาก ๆ ฉิงเชาถ้าไม่มีเธอกับมิติฉันก็ไม่รู้เลยว่าชีวิตของฉันตอนนี้จะเป็นยังไง”“ทุกอย่างล้วนถูกลิขิตมาแล้ว ฉันมาบอกเพียงเท่านี้เมื่อไหร่อยากเข้าไปเลือกของเรียกฉันได้เสมอ ”“ขอบใจเธออีกครั้งนะ ตอนนี้ของที่มีอยู่ยังพอมีขายไปเรื่อย ๆ เอาไว้เมื่อไหร่ของใกล้จะหมดฉันจะเรียกหาเธอแล้วกัน” เมื่อสิ้นคำพูดของฟู่เยี่ยนเสียงพูดของฉิงเชาได้เงียบทันทีตอนนี้เธอต้องมาคิดหาบ้านเช่าให้ได้รวดเร
บทที่ 15 ขอโอกาสแต่ทว่าการกระทำของเขาตอนนี้ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่า เสี่ยวฮั่วคุกเข่าลงต่อหน้าเธอโดยไม่สนใจสายตาของตู่หนานและเกียรติยศศักดิ์ศรีของเขาแม้แต่น้อย การที่เขาได้มาพบเจอกับเธอกับผิงผิงทำให้เขาอยากกลับมาใช้ชีวิตกับเธออีกครั้ง หากครั้งนี้เธอให้โอกาสเขาไม่ว่าเธอจะมีร่างกายอวบอ้วนยังไง เขาจะไม่สนใจคนอื่นอีกต่อไปไม่ว่าใครจะมองเธอเป็นอย่างไรก็ตาม"นี่ทำอะไรลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ คิดว่าทำอย่างนี้แล้วฉันจะใจอ่อนหรือไงกัน ฉันมีคนรักอยู่แล้วและฉันจะไม่มีวันทำให้เขาเสียใจอย่างที่คุณเคยทำกับฉัน กลับไปเดี๋ยวนี้ฉันไม่อยากเจอหน้าคุณอีก""ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อเธอมากแค่ไหน แต่ถ้าเธอให้โอกาสฉันครั้งนี้ฉันสัญญาจะเป็นสามีที่ดีและพ่อที่ดีให้กับผิงผิง""หยุดพูดคำนั้นออกมาเถอะเพราะคุณมันเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ตอนนั้นที่ฉันเฝ้าทำดีถวายความรักให้แต่คุณตอบกลับด้วยความเย็นชา รู้มั้ยว่าสายตาและคำพูดของคนอื่นไม่สามารถทำร้ายจิตใจได้เท่ากับคนในครอบครัว จำวันที่คุณไล่ฉันลงจากรถและให้เดินกลับบ้านด้วยตนเองได้มั้ย? นั่นคือโอกาสสุดท้ายที่ฉันสัญญากับตัวเองว่าจะมอบให้คุณ แต่คุณไม่เคยสนใจใยดีฉันที่
บทที่ 16 ตัดสินใจไม่นานหลังจากที่กินอาหารเสร็จเธอเห็นเจียวเจียนเดินออกมาจากห้องของผิงผิง เธอรีบเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง“เจียวเจียนตอนนี้ผิงผิงเป็นอย่างไรบ้าง”“ตอนนี้หนูผิงผิงอาบน้ำและใจเย็นลงแล้วค่ะ”“ขอบใจเธอมากที่ช่วยพูดให้ผิงผิงใจเย็นลง ไปพักผ่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะจัดการต่อเอง”“ค่ะ”“ฉันขอตัวเข้าไปคุยกับผิงผิงสักครู่นะจะรีบออกมาหา” ฟู่เยี่ยนหันมาบอกกับจางจื่อจือขอเข้าไปหาลูกสาวเพื่อพูดคุยกับเธอให้เข้าใจกันก่อนที่เธอจะหลับไปเสียก่อน“ได้สิไปคุยกับผิงผิงเถอะ เธอเป็นเด็กฉลาดฉันเชื่อว่าผิงผิงรู้ว่าแม่รักเธอมากกว่าใคร” ฟู่เยี่ยนเปิดประตูเข้ามาอย่างเบามือเมื่อผิงผิงเห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาเธอรีบวิ่งถลาเข้ามากอดเต็มแรงจนฟู่เยี่ยนแทบล้มแต่ก็ยังตั้งตัวได้ทัน“คุณแม่ผิงผิงขอโทษ คุณแม่ต้องเสียใจมาก ๆ เลยใช่มั้ยที่ผิงผิงทำตัวไม่น่ารัก” ร่างเล็กสั่นเทากอดฟู่เยี่ยนแน่น เธอยิ้มอย่างสบายใจก่อนจะจับตัวของผิงผิงให้หยุดกอดเธอ และนั่งลงจ้องมองใบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยที่มีสีหน้าเศร้าหงอยด้วยความรู้สึกผิด เธอลูบหัวของผิงผิงอย่างแผ่วเบา“ใครจะโกรธหนูลงกัน แม่ต้องขอบใจผิงผิงมากกว่าที่เข้าใจแม่ รู้มั้ยชี
บทที่ 17 ที่ฉันทำมันถูกใช่มั้ยหลังจากนั้นทั้งสองได้พูดคุยเรื่องจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของจางจื่อจือในวันพรุ่งนี้ส่วนการเคลื่อนย้ายเขาจะลางานมาช่วยเธอเต็มที่ ฟู่เยี่ยนสบายใจในหลาย ๆ อย่าง เธอจึงบอกให้จางจื่อจือไม่ต้องรีบร้อนมาแต่เช้านักเพราะช่วงเช้าเธอจะเข้าไปที่ร้านค้าของเธอเสียก่อน เมื่อพูดคุยกับเสร็จทั้งสองได้แยกย้ายไปพักผ่อน วันนี้จางจื่อจือกลับบ้านด้วยหัวใตที่พองโต คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เขาตัดสินใจบอกความรู้สึกกับเธอในครั้งนี้ส่วนฟู่เยี่ยนเธอเข้าไปในบ้านปิดประตูแน่นหนาเห็นเจียวเจียนกำลังหาอะไรกิน เธอจึงแจ้งเรื่องที่จะย้ายออกจากที่นี่ในวันรุ่งขึ้น“หาข้าวกินสินะฉันแบ่งกับข้าวเอาไว้ให้เธอในห้องครัวแต่ก่อนจะไปกินฉันมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยสักหน่อย ” เจียวเจียนเอียงศีรษะเล็กน้อยคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย“เรื่องอะไรคะ”“ฉันจะย้ายออกจากที่นี่”“แล้วพี่ฟู่เยี่ยนจะย้ายเมื่อไหร่หาบ้านเช่าได้แล้วหรือคะ”“ย้ายพรุ่งนี้ เราจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของนายอำเภอจางจื่อจือก่อน ระหว่างที่รอรถของฉันซ่อมเสร็จเมื่อไหร่จะออกหาบ้านเช่าอีกที”“ได้ค่ะ ไม่ว่าพี่ฟู่เยี่ยนอยู่ที่ไหนฉันพร้อมจะตามไปทุกที่เลยค่ะ ”“
บทที่ 18 ย้ายบ้านฝั่งด้านผิงผิงเด็กน้อยตื่นขึ้นมาต้องแปลกใจเพราะไม่เห็นคุณแม่เหมือนทุกวันแต่เป็นพี่เจียวเจียนที่กำลังนั่งพับผ้าของเธอใส่กระเป๋า“พี่เจียวเจียนคุณแม่ล่ะคะ”“ผิงผิงตื่นแล้วหรือ ? พี่ฟู่เยี่ยนไปที่ร้านนะเลยให้ฉันมาอยู่กับผิงผิงตื่น แล้วไปล้างหน้าล้างตากันเถอะจะได้ช่วยกันเก็บของ”“เก็บของเก็บไปทำไมคะ ผิงผิงไม่ได้ทำบ้านรกเสียหน่อย”“พี่ฟู่เยี่ยนยังไม่ได้บอกเรื่องที่เราจะย้ายบ้านกับผิงผิงสินะ วันนี้เราจะย้ายไปอยู่บ้านคุณอาจางจื่อจือกันค่ะ ”“ไม่เอาผิงผิงจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนทั้งนั้น เราอยู่ที่นี่ก็ดีแล้วทำไมต้องย้ายไปอยู่กับคุณอาจางจื่อจือ ”“เพราะว่าเจ้าของบ้านหลังนี้เขาจะเอาบ้านคืน ผิงผิงเด็กดีหนูจำป้าไป๋เซียงได้ใช่มั้ย ป้าเขาบอกว่าเจ้าของเขาจะกลับมาอยู่เราจำเป็นต้องออกจากที่นี่ ไปอยู่ที่บ้านอาจางจื่อจือชั่วคราว เมื่อแม่หาบ้านหลังใหม่ได้แล้วเราจะย้ายไปอยู่ด้วยกันสามคนเหมือนเดิมดีมั้ย” ฟู่เยี่ยนเดินเข้ามาได้ยินที่ผิงผิงกำลังพูดอยู่พอดี เธอคิดเอาไว้แล้วอย่างไรผิงผิงคงไม่ยอมง่าย ๆ แน่ เธอลืมตาขึ้นมาก็อยู่ที่บ้านหลังนี้คงผูกพันไม่น้อย“พี่ฟู่เยี่ยนกลับมาแล้วเหรอคะ อย่างนั้นฉั
บทที่ 19 เอ็นดูเสี่ยวฮั่วไม่อาจจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไปเขารู้สึกโมโหตัวเองที่ทำให้คลาดเคลื่อนกับฟู่เยี่ยน เขากำมือแน่นต่อยเข้าที่เบาะรถครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความโกรธเกรี้ยวตุ้บ ตุ้บ…”“โธ่เว่ย !! นี่ฉันทำพลาดอีกแล้วเหรอ ทำไมกันทำไมเธอต้องพาลูกหนีฉันด้วย ”“ท่านนายพลครับต่อให้ท่านทำร้ายตัวเองยังไงหรือใส่อารมณ์แค่ไหนตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วครับอย่างนี้จะทำยังไงต่อไปดี”“เฮอะ ! นี่มันไม่ใช่เรื่องของนายไม่ต้องมาสะเออะหุบปากเสีย ๆ ไปซ่ะ ” ตู่หนานมองผ่านกระจกหลังเขารู้ดีว่าตอนนี้เสี่ยวฮั่วโมโหแค่ไหน จึงทำได้เพียงนั่งเงียบ ๆ ในรถรอให้เขาสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้เสียก่อนภายในรถตอนนี้มีเงียบความเงียบงันจะมีเพียงแต่เสียงลมหายใจเท่านั้นที่ยังดังอยู่ เสี่ยวฮั่วพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองเพราะเขาโมโหมากไปจึงทำให้ขาดสติ เป็นอย่างที่ตู่หนานบอกโมโหตอนนี้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาจะทำตอนนี้คือไปดูฟู่เยี่ยนที่ร้านของเธอ หากไม่พบเขาจะกลับไปหาคุณป้าให้สืบเรื่องนี้ให้แก่เขา เขาไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ“เฮ้อ ! ตู่หนานเมื่อครู่ฉันต้องขอโทษด้วยฉันมันอารมณ์ร้อนเลยหยุดคำพูดต่อว่านาย ตอนนี้ฉันตั้งสติได้
บทที่ 29 ความรักที่แท้จริงหนึ่งเดือนผ่านมาตอนนี้ฟู่เยี่ยนยังอยู่กับจางจื่อจือแต่ไม่ได้อยู่ในฐานะเพื่อนเพราะตอนนี้ทั้งสองได้หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ทั้งสองตั้งใจจะเดินทางไปที่มณฑลเหิงฉีไปหาพ่อของฟู่เยี่ยนเพื่อทำทุกอย่างให้เป็นทางการและขนบธรรมเนียม ฟู่เยี่ยนเองก็อยากกลับไปขอโทษที่เธอไม่ได้บอกลาและติดต่อไปเลยสักครั้งยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจที่ละเลยความรู้สึกของคนแก่คนหนึ่งที่ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหนติ่ง !! เสียงระบบดังขึ้นในระหว่างที่ฟู่เยี่ยนกำลังแต่งตัวเพื่อออกเดินทาง“สวัสดีฟู่เยี่ยน ดูเหมือนตอนนี้เธอมีความสุขดีสินะ”“ใช่ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก ว่าแต่เธอเถอะเงียบหายไปเลยตั้งแต่มาบอกเรื่องภารกิจ แล้วเรื่องที่ฉันทำภารกิจผ่านไม่ผ่านไม่เห็นจะมาบอกเลยสักครั้งเวลาที่ฉันอยากได้ของเพียงแค่คิดมิติก็เปิดออกเธอไปไหนมา ”“ฉันมีเรื่องให้ทำนิดหน่อยนะ วันนี้ฉันมาเพื่อแจ้งเรื่องภารกิจเธอทำได้สำเร็จ ฉันดีใจด้วยนะและฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะมาแจ้งเธอ”“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ ? ว่าแต่ภารกิจที่เธอทำให้ ทำให้คนรักมีความสุขนี่คือใครกันหรือใช่ผิงผิงมั้ย” “เรื่องภารกิจที่ฉันให้เธอทำให้คนรักม
บทที่ 28 ฉันเลือกคุณฟู่เยี่ยนขับรถมาถึงบ้านต้องแปลกใจ บ้านที่สว่างรอเธออยู่ทุกวันวันนี้กลับมืดไร้แสงไฟ เธอดับเครื่องยนต์ทุกคนพากันเดินลงจากรถด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน“พี่ฟู่เยี่ยนนายอำเภอจางจื่อจือวันนี้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ใช่มั้ยคะ ”“จริงสิฉันลืมได้ยังไงกันนะ วันนี้เขาคงเหนื่อยมาก ๆ แน่ ๆ เราช่วยกันทำกับข้าวไว้รอเขากันเถอะ ส่วนผิงผิงลูกอิ่มแล้วใช่มั้ยนั่งเล่นของเล่นรอแม่กับพี่เจียวเจียนทำกับข้าวก่อนนะ ทำเสร็จแล้วจะให้พี่เจียวเจียนพาไปอาบน้ำ”“ค่ะคุณแม่ ” ทั้งสามเดินเข้ามาในบ้านพร้อมเปิดไฟแต่เมื่อเดินไปที่ห้องครัวกลับพบว่าตอนนี้บนโต๊ะกับข้าวมีอาหารเต็มไปหมด“เอ๊ะ ! ทำไมกับข้าวถึงมีเต็มโต๊ะแบบนี้คะหรือว่านายอำเภอกลับมาแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงไม่เปิดไฟกัน” เจียวเจียนพูดขึ้นด้วยความสงสัยฟู่เยี่ยนพลางครุ่นคิดหรือว่าเขาเหนื่อยมากจนปิดไฟนอน แต่ทว่าเขาไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกกว่ามีอะไรแปลก ๆ ไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงบอกให้เจียวเจียนพาผิงผิงไปอาบน้ำ“เจียวเจียนเธอพาผิงผิงไปอาบน้ำและให้ผิงผิงเล่นอยู่ในห้องเธอค่อยมากินข้าวนะ ฉันจะไปดูจางจื่อจือก่อนฉันคิดว่าเขาน่าจะไม่สบาย” เธอรู้
บทที่ 27 จากกันด้วยดีแต่ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าและท่าทางของฟู่เยี่ยนต้องทำให้เขาหุบยิ้มทันที ครั้นนั้นฟู่เยี่ยนไม่ได้จะหยิบจับแหวนในกล่องเธอดันกล่องกลับมาหาเขาใบหน้าของเธอแสดงความดุดันและจริงจังอย่างที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งที่เธอขอหย่า“เก็บแหวนของคุณไว้เถอะค่ะ แหวนวงนี้ฉันขายทิ้งไปแล้วเช่นเดียวกับความรู้สึกที่ฉันตัดสินใจขายมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดี ๆ ความรักความผูกพันมันจบลงตั้วแต่วันนั้นแล้ว เราทั้งสองไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก แต่เราสามารถทำหน้าที่พ่อและแม่ให้แก่ผิงผิงได้ ฉันเปิดใจยอมให้อภัยในสิ่งที่ผ่านมาแต่ทว่าตอนนี้หัวใจของฉันมีคนอื่นเข้ามาอยู่แทนคุณแล้ว คนที่ทำทุกอย่างโดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอเขาเป็นห่วงห่วงใยคอยเอาใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเขาไม่เคยสนใจรูปร่างภายนอกของฉันและไม่เคยอายที่มีฉันเดินเคียงข้าง สิ่งนั้นที่เขามีคุณไม่เคยมีเราทั้งคู่จากกันด้วยดีเถอะนะคะ ฉันไม่อยากจะเกลียดคุณไปมากกว่านี้ ” เสี่ยวฮั่วพูดไม่ออกร่างกายสั่นเทาใจของเขาเริ่มสั่นคลอนไปหมด“ฉันไม่มีทางเข้าไปแทรกเลยสินะ เอาล่ะฉันเองก็เป็นลูกผู้ชายพอในเมื่อเธอตัดสินใจอย่างนั้นฉันเองไม่สามารถ
บทที่ 26 แต่งงานกับฉันนะเสี่ยวฮั่วดีใจมาก ๆ ที่ฟู่เยี่ยนเธอเริ่มเปิดใจให้เขาเข้าใกล้ผิงผิงและตอนนี้เธอยังยอมบอกว่าเขาคือพ่อของผิงผิงอีกด้วย เขาพาเด็กหญิงตัวน้อยนั่งรถไปหาคุณแม่ของเขาที่บ้านป้าไป๋เซียง คุณแม่ต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ได้เห็นหลายสาวน่ารักคนนี้“ผิงผิงพ่อขอโทษนะ ลูกคงจะโกระจะเกลียดพ่อมากใช่มั้ยที่ไม่ได้ดูแลและเลี้ยงลูกมา” เสี่ยวฮั่วขับรถยนต์พลางหันมามองหน้าของผิงผิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา เด็กหญิงเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกห่างจากอกผู้เป็นแม่เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนจะคอยมีฟู่เยี่ยนคอยอยู่ข้าง ๆ เสมอ“หนูไม่โกรธและก็ไม่เกลียดคุณลุงเลยค่ะ ดีใจเสียอีกที่ได้รู้ว่าพ่อของหนูยังมีชีวิตอยู่ ”“ผิงผิงเป็นเด็กดีจริง ๆ เลิกเรียกคุณลุงได้แล้วนะเรียกคุณพ่อสิ” “ได้ค่ะคุณพ่อ” ผิงผิงยิ้มหวานให้แก่เขา ทั้งสองพากันเดินทางไปถึงบ้านป้าไป๋เซียง แม่ของเสี่ยวฮั่วต่างก็แปลกใจและดีใจที่เห็นหน้าของหลานสาว เธอพาผิงผิงไปกินข้าวพาเที่ยวเล่นและซื้อของเล่นอย่างที่ผิงผิงอย่างได้ จนกระทั่งถึงเวลาไปส่งผิงผิงที่ร้านเพราะตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว ระหว่างทางไปที่ร้านเหมียวเหมียวฉิงถิงได้เอ่ยถามลูกชายเพร
บทที่ 25 ผิงผิงเกลียดคุณแม่“คุณมาทำอะไรที่นี่ผิงผิงมาหาแม่เดี๋ยวนี้” เสียงแหลมตะโกนออกมาดังสนั่นทำให้ทั้งสองหันขวับไปมองทันที ผิงผิงรีบเดินไปหาแม่ของเธออย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะถูกแม่ว่า“ฟู่เยี่ยน... ฉันแค่อยากเจอผิงผิงทำไมเธอถึงใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้” “ใจร้ายเหรอ ? ฮึ..ใช่ฉันมันใจร้ายแต่ใครกันที่ใจร้ายกว่าถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งกับเราสองแม่ลูกฉันจะพาผิงผิงหนีไปให้ไกลที่สุด และรอบนี้คุณจะไม่ได้เห็นเธออีก” “คุณแม่คะคุณลุงรู้สึกผิดและเสียใจที่เคยทำร้ายจิตใจคุณแม่ คุณแม่ยกโทษให้คุณลุงเถอะนะคะ คุณแม่เคยสอนไม่ใช่เหรอคะถ้าเราทำผิดให้ขอโทษการขอโทษคือทางออกที่ดีที่สุด อย่างนั้นแค่คุณลุงขอโทษคุณแม่ก็ควรให้อภัยไม่ใช่หรือคะ”“ผิงผิงเรื่องนี้หนูยังไม่เข้าใจ ชายคนนี้เลวร้ายยิ่งกว่าที่หนูคิดเชื่อแม่อยู่ให้ไกลจากคน ๆ นี้ ”“ทำไมล่ะ ? ทำไมเธอถึงไม่สนใจความรู้สึกของลูกบ้าง เธอจะพรากฉันกับลูกอีกนานแค่ไหน ฉันเองก็มีสิทธิ์ในตัวลูกเหมือนกันนะฉันขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ฉันผิดไปแล้วให้ฉันได้ทำหน้าที่พ่อให้แก่ผิงผิงเถอะนะ ” เสี่ยวฮั่วเดินเข้ามาใกล้พร้อมบอกผิงผิงว่าเขาคือพ่อของเธอ ตอนนี้ผิงผิงงงงวยไปหมดร
บทที่ 24 ฉันคือพ่อของผิงผิงฝั่งด้านเสี่ยวฮั่วเขาไม่ได้ไปหาฟู่เยี่ยนแต่เลือกที่จะไปหาผิงผิงที่โรงเรียนเขาไม่ลืมที่จะซื้อขนมหวานติดไม้ติดมือมาด้วย เขาให้ตู่หนานพาแม่ไปหาฟู่เยี่ยนส่วนเขามาที่นี่คนเดียว ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาวิ่งเล่นของเด็ก ๆ เขาเดินเข้ามาในโรงเรียนต้องถูกยามที่หน้าโรงเรียนเรียกตัวเองไว้ก่อน“เดี๋ยวครับ คุณเป็นผู้ปกครองหรือเป็นใครที่จะเข้าไปในโรงเรียนครับ ”“ฉันเป็นพ่อของผิงผิง อยากเข้าไปหาเธอสักหน่อยเธอเรียนอยู่ที่นี่ใช่มั้ย” ยามจ้องมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเขาก็จำได้ผู้ปกครองที่มารับผิงผิงจะมีแต่ผู้หญิงและยิ่งเรื่องการลักพาตัวเด็กไปแลกค่าไถ่หรือจับตัวไปขอทานช่วงนี้ยิ่งมีเยอะการที่เขาเป็นยามของที่นี่จึงต้องเข้มงวด“ผู้ปกครองของผิงผิงเหรอครับ อย่ามาโกหกเลยแกเป็นพวกลักพาตัวเด็กใช่มั้ย นี่จะเอาขนมมาล่อเด็กและจับตัวไปสินะคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงออกไปจากที่นี่ก่อนที่ฉันจะเรียกจัดการเรียกตำรวจ” เสี่ยวฮั่วตกใจคิดว่าที่นี่จะเข้าง่าย แต่ก็เข้าใจยามที่เฝ้าหน้าประตูดี เขาช่างเป็นคนที่รักในหน้าที่จริง ๆ“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ คุณเองก็น่าชื่นชมทำหน้าที่เป็นอย่างดี ฉันคือนายพลเว่ย
บทที่ 23 ตามกลับ“ใช่ครับเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะผม ถ้าผมเจอเธอและลูกแล้วคุณแม่ช่วยไปพูดกับเธอได้มั้ยครับ ตอนนี้ผมรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำไปจริงๆ” “ลูกพูดเหมือนอย่างกับว่าตอนนี้เจอฟู่เยี่ยนแล้วอย่างนั้นรึ” ดวงตาของฉิงถิงเบิกโพลงวางช้อนลงบนจานข้าวทันทีสายตาจับจ้องมามองเสี่ยวฮั่วอย่างคาดหวังคำตอบ“ใช่ครับ ผมเจอเธอแล้วเมื่อเดือนก่อนตอนที่ผมเดินทางไปบ้านเกิดคุณพ่อ”“ว๊าว สวรรค์เมตตาแล้วชักช้าทำไมล่ะรีบพาแม่ไปหาหลานสิแล้วหลานแม่เติบโตมาเป็นยังไงผู้หญิงหรือว่าผู้ชายสุขภาพแข็งแรงใช่มั้ย? ”“ลูกสาวครับเธอชื่อว่าผิงผิงเป็นเด็กแข็งแรงน่ารักช่างพูดช่างคุย ความบังเอิญที่ผมไม่เคยรู้เลยและถ้าวันนั้นผมไม่กลับไปที่บ้านของคุณพ่อคงไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่เราตามหาเธอ เธอเช่าบ้านหลังนั้นอยู่ ”“เป็นความบังเอิญจริง ๆ แล้วลูกไม่ขอโทษเธอและพาเธอกลับบมาล่ะ”“ผมทำแล้วครับแต่ฟู่เยี่ยนไม่ยอมใจอ่อนเลย อีกอย่างตอนนี้เธอกำลังคบหากับนายอำเภอที่นั่นอยู่ หลังจากที่ผมเจอกับเธอ เธอก็พาผิงผิงหนีไปอีกแล้วครับ ”“ห่ะ !! อะไรนะ อย่างนั้นต้องขอให้พี่ไป๋เซียงช่วยสืบหาที่อยู่ของฟู่เยี่ยนแล้ว”“คุณแม่ครับผมรู้แล้วครับว่าตอนนี้เธ
บทที่ 22 ทำตามความต้องการเธอเดินไปที่ห้องของผิงผิงค่อย ๆ แง้มประตูดูว่าเธอหลับหรือยังก็พบว่าตอนนี้ิผิงผิงหลับไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนจางจื่อจือกำลังปิดไฟและเดินออกมา"เธอมาหาผิงผิงเหรอตอนนี้หลับไปแล้วล่ะ""ขอบคุณนะที่ตามใจเธอทุกอย่างเลย เป็นเพราะฉันที่ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของผิงผิงเห็นว่าเธอไม่ถามหาพ่อ ก็คิดว่าเธอไม่โหยหาฉันนี่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย ไม่รู้แม้กระทั่งความรู้สึกของลูก " เธอเดินนำออกมาและพูดคำพูดที่เธอรู้สึกให้จางจื่อจือฟัง เขาปิดประตูอย่างเบามือก่อนจะตอบกลับฟู่เยี่ยน"เพราะผิงผิงรักเธอมากนะสิ ถึงไม่เคยงอแงเรื่องพ่อขึ้นมาสักครั้ง ตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าความต้องการของผิงผิงคืออะไร ถ้าอยากให้ลูกมีความสุขก็อยู่ที่นี่ต่อเถอะนะ ไม่ใช่แค่ผิงผิงที่ต้องการฉันเองก็ต้องการเธอเช่นเดียวกัน ระหว่างที่เรามาอยู่บ้านหลังเดียวกันฉันมีความสุขมากเลยนะ กลับจากที่ทำงานทุกวันเพราะคิดว่ามีคนรอคอยอยู่ที่บ้านกลับมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา จนตอนนี้เหมือนฉันเองก็ติดและหลงผิงผิงไปแล้ว เธอพาผิงผิงออกไปฉันคงเศร้าใจ" ฟู่เยี่ยนเริ่มลังเลและคิดว่านี่คือภารกิจที่ฉิงเชาบอกเมื่อครู่กันนะ เรื่องย้ายบ้านเ
บทที่ 21 ทำให้คนรักมีความสุขรุ่งเช้าวันต่อมาไม่รู้ว่าเพราะเธอเหน็ดเหนื่อยหรือสบายใจทำให้หัวถึงหมอนหลับไปเลยทันทีตื่นเช้ามาเธอยังไม่คุ้นชินเพราะเป็นเช้าแรกที่ย้ายมาอยู่บ้านของจางจื่อจือ เธอตื่นขึ้นมาเห็นพ่อของเขานั่งจิบน้ำชาอยู่ที่โต๊ะอาหารเธอรีบเข้าไปทักทาย“เมื่อคืนนี้นอนสบายดีมั้ย?” ไม่ทันทีที่เธอจะได้เอ่ยถามก็ถูกเขาเอ่ยถามเสียก่อน“นอนสบายดีค่ะแล้วคุณลุงละคะนอนสบายดีมั้ย”“คนแก่อย่างฉันเวลามีความสุขมักจะนอนสบายเป็นอย่างดีเลยล่ะ ฉันได้ยินว่าเธอเป็นเจ้าของร้านที่ใหญ่ในละแวกนี้เลยใช่มั้ย?”“ฉันเป็นเจ้าของร้านเหมียวเหมียวที่ไม่ได้ใหญ่อะไร กิจการที่ทำอยู่กำลังขยายตัวและเพิ่งขยายร้านเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ”“เธอเป็นคนฉลาดจริง ๆ เก่งในเรื่องธุรกิจและการจัดการอย่างนั้นเธอเองก็ไม่ค่อยมีเวลาสินะ อย่างนั้นต่อจากนี้ถ้าฉันคิดถึงหนูผิงผิงจะมาหาพวกเธอที่นี่เอง”“คุณพ่อจะเดินทางกลับแล้วหรือครับไม่อยู่ต่ออีกหน่อยล่ะครับ เดี๋ยววันหยุดผมจะไปส่งคุณพ่อเอง”“ไม่เอาล่ะฉันมีฟาร์มต้องดูแล หนูฟู่เยี่ยนฝากเจ้านี่ด้วยนะช่วยดูแลให้ฉันที เขาเป็นคนสนใจงานมากกว่าร่างกายตัวเองเสียอีก วัน ๆ สนใจแต่ทำงานไม่รู้กินอา