บทที่ 9 มาทางไหนกลับไปทางนั้น
ตะวันบ่ายคล้อยคนมาซื้อของเริ่มซาลงรวมทั้งคนที่มาร่วมยินดีกับฟู่เยี่ยนเริ่มกลับกันไปมาก ผิงผิงง่วงนอนจึงให้เจียวเจียนพากลับบ้านไปนอนพักกลางวัน จางจื่อจือออกมาร่วมยินดีกับฟู่เยี่ยนได้เพียงครู่ก็ต้องกลับไปที่อำเภอเพราะมีงานที่ยังทำค้างอยู่
“ป้าดีใจกับหนูจริง ๆ เลยไม่คิดเลยว่าหนูจะทำกิจการได้ร่ำรวยขนาดนี้” ป้าซือเสียนนั่งมองร้านค้าของฟู่เยี่ยนอย่างยินดีปรีดาใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“หากไม่มีป้าซือเสียนกับเจียวเจียนก็คงไม่ได้ดีขนาดนี้หรอกค่ะต้องขอบคุณป้าที่คอยช่วยเหลือฉันมาตลอดแถมยังเอ็นดูผิงผิงเหมือนหลานตัวเองอีกด้วย เย็นนี้เราไปกินของอร่อย ๆ กันดีมั้ยคะ”
“แค่วันนี้ของกินที่หนูเลี้ยงแขกก็มากพอแล้ว เก็บแรงเอาไว้เถอะนะกว่าจะหมดวันคงต้องใช้พลังงานอีกมาก” ซือเสียนเริ่มเห็นความเหนื่อยล้าปรากฏขึ้นใบหน้าของฟู่เยี่ยน เธอแทบจะทำเองทุกอย่างในร้าน หยัดยืนด้วยขาของตัวเองแสดงให้เห็นความเป็นผู้นำช่างน่านับถือจริง ๆ ซือเสียนย้อนมองไปอดีตของตนเองเธอต้องมาเสียสามีตอนที่ลูกเข้ากรมทหารโชคดีที่ลูกเติบโตหมดแล้วทำให้เธอไม่ต้องดิ้นรนมาก แต่กับฟู่เยี่ยนไม่ใช่อย่างนั้นเธอเป็นทั้งพ่อและแม่ที่สมบูรณ์ของลูกจริง ๆ
“อย่างนั้นเอาไว้วันไหนว่าง ๆ ฉันจะพาทุกคนไปเที่ยวแล้วกันนะคะป้าซือเสียนอยากกินอะไรนำกลับบ้านได้นะคะฉันต้องขอตัวเขาไปดูของหลังร้านก่อน”
“ได้จ้ะ” ซือเสียนจ้องมองตามแผ่นหลังด้วยสายตาอ่อนโยนแต่ก็ไม่เข้าใจและสงสัยในตัวของฟู่เยี่ยน ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ไม่เคยพูดถึงเรื่องครอบครัวสักครั้ง ไม่รู้ว่าเธอยังมีครอบครัวเหลืออยู่มั้ย?
“ช่างเป็นเด็กที่เก่งจริง ๆ สามารถทำงานหาเงินเลี้ยงลูกของตัวเองได้แม้ฉันไม่รู้เรื่องครอบครัวของเธอ ฉันจะเป็นยายของผิงผิงมอบความรักความเอ็นดูเธอไม่ให้ขาดเลย” เธอพูดออกมาเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปช่วยฟู่เยี่ยนเก็บของ
ฟู่เยี่ยนเดินดูของที่ชั้นวางของจดใส่กระดาษเช็คของจนเธอมั่นใจว่าต้องเพิ่มอะไรและเดินเข้าไปที่หลังร้านเปิดประตูของทำงานของเธอที่มีแต่เธอเท่านั้นที่เข้ามาข้างในได้ก่อนจะเรียกฉิงเชา
“ฉิงเชาเธอได้ยินมั้ย ?”
ติ่ง…//
“สวัสดีฟู่เยี่ยน วันนี้เธอเรียกฉันทั้งที่ฟ้ายังสว่างต้องการของอะไรหรือ”
“ฉันอยากได้ของใช้เพิ่มและอยากถามตอนนี้ฉันสามารถนำของออกมาได้เยอะแค่ไหน”
“รอสักครู่ ฉันจะเช็คความดีที่เธอนำมาแลกในครั้งนี้เสียก่อน” ฉิงเชาเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะดังขึ้นมาอีกครั้ง "ตอนนี้ฉันได้ตรวจสอบแล้วความดีที่เหลืออยู่สามารถนำของออกมาได้เพียงแค่สิบอย่าง วันนี้ฉันมีสิ่งที่จะเพิ่มความดีของเธอมาให้หากเธอสามารถทำได้และช่วยเหลือคะแนนความดีของเธอจะเพิ่มขึ้นสองเท่า" ทันทีที่ฟู่เยี่ยนได้ยินเธอคลี่ยิ้มเต็มดวงหน้าไม่ว่าให้เธอช่วยเหลืออะไรเธอสามารถทำได้ทั้งนั้น
“เรื่องที่เธอว่าคืออะไรแต่ไม่ว่าอะไรที่เธอให้ทำแล้วมีคะแนนความดีเพิ่มฉันสามารถทำได้ทั้งนั้น”
“วันนี้หลังจากกลับบ้านจะมีชายคนหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลือให้เธอช่วยเหลือเขาตามที่เขาต้องการแล้วเธอจะได้คะแนนเพิ่ม”
"แค่ช่วยคนเองฉันทำได้แต่ตอนนี้ฉันขอเข้ามิติไปเอาของออกมาก่อนนะ พอดีวันนี้ฉันอยากกลับบ้านไปฉลองกับลูกสาวตัวน้อยเร็ว ๆ " เพียงฟู่เยี่ยนพูดออกมาแบบนั้นมิติได้เปิดขึ้นให้เธอเข้าไปเลือกของตามที่เธอต้องการทันที
ดวงอาทิตย์ลับลาขอบฟ้าเปลี่ยนผันเป็นดวงจันทร์ขึ้นมาแทนที่ฟู่เยี่ยนขอบคุณคนงานทุกคนก่อนจะให้ทุกคนเลิกงานกลับบ้านไปพักผ่อนเธอไม่ลืมที่จะให้ทริปเพราะวันนี้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่จริง ๆ เมื่อคนงานกลับหมดแล้วฟู่เยี่ยนเดินเข้าไปนำของในห้องเธอที่เอาออกมาจากมิติมาวางไว้ข้างนอกเพื่อให้คนงานได้เติมเข้าชั้นในวันพรุ่งนี้ เมื่อเธอทำอะไรเสร็จสิ้นสำรวจทุกที่ของร้าน และเดินออกมาปิดประตูอย่างแน่นหนาพลางถอนหายใจ
“เฮ้อ!! ไม่คิดเลยว่าฉันจะมาไกลได้ขนาดนี้แค่คิดไว้เปิดร้านเล็ก ๆ แล้วเลี้ยงลูกแต่กลับเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางจนได้ คิดถึงผิงผิงแล้วสิรีบกลับบ้านไปหาผิงผิงดีกว่า” ฟู่เยี่ยนเหนื่อยแต่เธอก็ภูมิใจที่สามารถทำให้กิจการของเธอเติบโตขึ้น ตอนนี้เธอมีแทบทุกอย่างทั้งลูกความสุขและเงิน เธอจึงคิดว่าอีกไม่นานจะพาผิงผิงไปหาพ่อของฟู่เยี่ยนไม่รู้เลยว่าตอนนี้ท่านจะเป็นอย่างไร เมื่อรู้เรื่องที่ฟู่เยี่ยนหย่ากับเสี่ยวฮั่ว คนเป็นพ่อคงทุกข์ใจไม่น้อย
ฟู่เยี่ยนขับรถยนต์กลับบ้านเธอยังอาศัยอยู่บ้านหลังที่เธอมาอยู่ในครั้งแรกเพราะผิงผิงผูกพันกับบ้านหลังนี้หากจะให้เธอย้ายไปอยู่บ้านหลังใหญ่กว่านี้หรืออพาร์ทเม้นท์หรู ๆ ยังได้แต่เมื่อเห็นเด็กหญิงมีความสุขเธอจึงเลือกที่จะอยู่บ้านหลังนี้ต่อ เพราะอย่างไรเจ้าของไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาง่าย ๆ เมื่อเดือนก่อนเธอพึ่งไปทำสัญญาเช่ารายปีกับญาติเจ้าของบ้านมาทำให้เธอสบายใจในส่วนนี้
แต่เมื่อเธอมาถึงหน้าบ้านเห็นรถยนต์ไม่คุ้นตามาจอดเทียบอยู่คิ้วของเธอเริ่มขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
"นั่นรถใครกันนะ ทำไมถึงมาจอดขวางทางเข้าบ้านฉันแบบนี้" ฟู่เยี่ยนพูดพึมพำก่อนจะขับรถจอดริมถนนทางเข้าบ้านและรีบเดินเข้าไปดูว่าใครกันที่มาหาจอดเอาไว้อย่างนี้และในใจเกิดเป็นห่วงเด็กทั้งสองคนที่อยู่ในบ้านจนหัวใจเต้นแรงระรัวสองเท้ารีบเดินเข้าไปอย่างฉับไว หน้าบ้านของเธอมีโต๊ะหน้าบ้านเมื่อเดินเข้ามาเห็นชายสองคนเพียงแค่เห็นแผ่นหลังที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำให้เธอเริ่มหวั่นใจ หรือว่าเธอจะไปขัดขาใครหรือกิจการของคนแถวนี้ถึงได้ให้ชายฉกรรจ์ถึงสองคนมานั่งคอยเธออยู่หน้าบ้านอย่างนี้ ยิ่งยุคนี้เป็นยุคที่มีมาเฟียมากมายอีกด้วย
“คุณทั้งสองคนมาทำอะไรที่หน้าบ้านของฉันคะ หากจะมาก่อความวุ่นวายหรือมารังแกกัน ฉันจะแจ้งความทันทีช่วยออกไปจากหน้าบ้านที่มีแต่ผู้หญิงด้วยเถอะค่ะ” เสียงเล็กแหลมของเธอเปล่งออกไปสุดเสียงเพื่อให้ทั้งสองได้รับรู้ว่าตอนนี้เธอที่เป็นเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับ แต่เมื่อชายทั้งสองที่นั่งอยู่หันกลับมามองเธอ สองเท้าของฟู่เยี่ยนชะงักหยุดอยู่กับที่ดวงตาเบิกโพลงโตลมหายใจเริ่มติดขัดใจเต้นแรงมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พอเห็นหน้าก็ขับไล่เลยหรือไงกันใจร้ายจริง ๆ ” เสี่ยวฮั่วยิ้มอย่างมีเลศนัยลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ฟู่เยี่ยนที่ยังยืนอึ้งอยู่กับที่ไม่ว่าผ่านมากี่ปีที่ไม่ได้พบหน้ากัน เธอจดจำใบหน้าของเขาได้เสมอมาเพราะความเกลียดชังที่เธอมีต่อเขาทำให้เธอจำเขาได้ขึ้นใจ
“คุณมาทำอะไรที่นี่จำไม่ได้หรือไงว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันพูดกับคุณคืออะไร อย่ามาทำเป็นรู้จักกันอีกฉันไม่อยากรู้จักคุณ มาจากที่ไหนก็กลับไปซ่ะ เวลาของฉันมีค่าไม่อยากจะมาเสียเวลากับคนอย่างคุณ" ฟู่เยี่ยนตั้งสติได้เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะตอบเขาออกมาเสียงแข็งพร้อมขับไล่ให้เขากลับไปเธอไม่อยากให้เขารู้ถึงการมีอยู่ของผิงผิง
บทที่ 10 คนรักของฉัน“เมื่อครู่เธอบอกว่าฉันมาจากที่ไหนให้กลับไปซ่ะอย่างนั้นเหรอ ดีอย่างนั้นตู่หนานไปเอากระเป๋าลงมาจากรถให้หน่อยฉันจะได้เข้าบ้านของฉัน”“นี่คุณหาเรื่องอะไรฉันอีก เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือไงออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนะ" ฟู่เยี่ยนปัดมือไล่เขาออกไปทันทีแต่ทว่าใบหน้าเสี่ยวฮั่วกลับยิ้มออกมาก่อนจะชักสีหน้าตึงใส่ฟู่เยี่ยนพลางเดินไปจับมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้“จะขับไล่ฉันไปไหนก็ที่นี่คือบ้านของฉัน” ฟู่เยี่ยนชะงักรอบที่สองเธอไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมได้ถึงเพียงนี้ทำไมเธอถึงไม่รู้เลยว่าบ้านหลังนี้มีเขาเป็นเจ้าของ“เอามือของคุณออกจากแขนของฉันเดี๋ยวนี้ และเรื่องที่คุณพูดมาเพราะอยากเอาชนะฉันใช่มั้ย ยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่านี่คือบ้านของคุณ” “คุณแม่มาแล้วเหรอคะ อ้าวนี่คุณลุงที่เจอตอนเช้านี่น่า ” ไม่ทันที่เสี่ยวฮั่วจะได้ตอบเสียงเล็ก ๆ ตะโกนออกมาจากประตูหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงของคุณแม่ของเธอโวยวายเสียงดัง ใบหน้าของฟู่เยี่ยนถอดสีทันทีที่ผิงผิงวิ่งออกมา“โอ๊ะ..หนูน้อยคนเมื่อเช้านี่น่า หัวเข่าของหนูเป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง” เสี่ยวฮั่วยิ้มกว้างปล่อยมือจากฟู่เยี่ยนพุ่งตัวไปหาผิงผิงทันที“ตอนน
บทที่ 11 ภารกิจล้มเหลวหลังจากที่ตู่หนานขับรถออกมาจากบ้านของฟู่เยี่ยนเสี่ยวฮั่วได้สั่งการให้เขาจอดรถอยู่ในละแวกนั้นเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าจางจื่อจือกับฟู่เยี่ยนนั้นเป็นคนรัก เพราะสายตาของเธอที่เคยแสดงความรักต่อเขา เขาจำมันได้ดีมิใช่แววตาอย่างที่เธอจ้องมองจางจื่อจือนั้นแน่นอน“ท่านนายพลจะรออีกนานมั้ยครับ แล้ววันนี้เราจะไปนอนที่ไหนกัน” ตู่หนานถามขึ้นเพราะตอนนี้เวลาล่วงเลยมานานมาไม่เห็นว่าชายที่ชื่อจางจื่อจือหรือนายอำเภอผู้นั้นจะออกมาเสียที หากเขาจะเป็นคนรักใหม่ของฟู่เยี่ยนก็ไม่แปลกเพราะตอนนี้คุณนายที่เขาเคยรู้จักเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ“รอดูอีกสักหน่อย ยังไงฉันก็เชื่อว่าชายคนนั้นถูกฟู่เยี่ยนอ้างว่าเป็นคนรักเพราะอยากขับไล่ฉันเท่านั้น ส่วนที่นอนฉันจะไปนอนบ้านญาติและจะคุยเรื่องการเช่าบ้านนี่ด้วยเหมือนกัน หากว่าฟู่เยี่ยนมาอยู่นี่นานแล้วเธอคงเช่าบ้านหลังนี้มาตลอดแต่ทำไมญาติของฉันถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย เงินสักหยวนยังไม่เห็นแถมคุณแม่ยังส่งเงินให้ทุกเดือนอีกด้วย” “เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เอ่อ..ท่านนายพลครับหากว่าเรารออีกหนึ่งชั่วโมงชายคนนั้นไม่ออกมาครั้งนี้ท่านนายพลจะยอมตัดใจจากคุณฟู่เยี่ย
บทที่12 สมน้ำหน้าตู่หนานขับรถยนต์ตามทางที่เสี่ยวฮั่วบอกจนกระทั่งมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ดูดีกว่าบ้านทุกหลังที่อยู่ในละแวกเดียวกัน"จอดรถเอาไว้ตรงนี้เดี๋ยวฉันจะลองเข้าไปเรียกดูว่าทุกคนในบ้านหลับกันหรือยัง""ได้ครับ" ตู่หนานทำตามที่เสี่ยวฮั่วสั่งการ เขาเปิดประตูเดินลงจากรถไปเคาะประตูบานใหญ่อยู่สองสามครั้งไม่นานคนในบ้านก็ออกมาเปิดประตูให้พร้อมกับชักสีหน้าใส่"ดึกขนาดนี้แล้วใครกันที่กล้ามารบกวนไม่รู้เวลาเอาเสียเลย"เสียงหญิงชราบ่นออกมาเสียงดังแต่ทว่าเมื่อเปิดประตูเห็นใบหน้าของเสี่ยวฮั่วใบหน้าพลันเปลี่ยนสี"ผมเองเว่ยเสี่ยวฮั่วหวังว่าคุณป้าจะจำผมได้""โฮ๊ะ ๆ คิดว่าใครที่แท้ก็หลานชายฉันนี่เอง ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะเข้ามาในบ้านก่อนสิมีเรื่องอะไรถึงได้มาที่นี่ดึกขนาดนี้กันแล้วแม่ของหลานได้มาด้วยมั้ย" ผู้เป็นป้ารีบยิ้มกึ่งหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อน"ไม่ครับผมมากับลูกน้องจะมาอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณพ่อ บ้านหลังนั้นคุณแม่บอกว่าจ่ายค่าจ้างป้าทุกเดือนเพื่อทำความสะอาดตอนนี้คงเข้าไปพักได้เลยใช่มั้ย" เสี่ยวฮั่วแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ป้าเอาบ้านให้ฟู่เยี่ยนเช่า เขาอยากรู้ว่าคนเป็นป้าจะตอบเขาว่าอย่างไร“เอ่อ..บ้านห
บทที่ 13 น่ารังเกียจฟู่เยียนย่ำเท้าออกไปอย่างเร่งรีบเสี่ยวฮั่วเดินตามหลังเธอมาติด ๆ คว้ามือของเธอให้หยุดเดิน"จะรีบไปไหนนี่คิดจะหนีฉันอีกแล้วเหรอ? ทำไมหรือว่าจะรีบย้ายไปอยู่กับนายอำเภอหน้าอ่อนนั่น""ปล่อยฉัน ที่ฉันไม่อยากอยู่ที่นั้นเพราะบ้านหลังนั้นเป็นคนของคนที่ไร้หัวใจ และอีกอย่างฉันจะรีบไปอยู่ที่บ้านของคนรักไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรในอนาคตเราต้องแต่งงานกัน ไปอยู่ก่อนไม่เสียหายสักนิด" ฟู่เยี่ยนสะบัดมือให้เขาปล่อยพันธนาการออกมาจากเธอแต่ทว่าคำพูดของเธอกลับทำให้เขาไม่พอใจเมื่อนึกภาพที่เธอใกล้ชิดนายอำเภอหากให้เธอไปอยู่บ้านกับเขาจริง ๆ ไม่แน่ทั้งสองอาจจะนอนด้วยกัน ใจของเสี่ยวฮั่วร้อนรุ่มขึ้นมาราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ด้านใน เขาจับข้อมือเธอแน่นกว่าเดิม ใช้มืออีกข้างคว้าเองบางของเธอมากอดแนบชิดก่อนจะก้มใบหน้าลงบดขยี้ลงบนริมฝีปากที่กำลังพูดอยู่ตอนนี้ ฟู่เยี่ยนตกใจใบหน้าแตกตื่นดวงตาเบิกโพลงพยายามใช้มือดันอกของเขาให้หยุดกระทำย่ำยีเธอตอนนี้ แต่ทว่าเธอตัวเล็กกว่าเขามากเหมือนแรงของเธอแทบไม่ทำให้เขารู้สึกระคายเคืองแม้แต่น้อยลมหายใจของเธอเริ่มติดขัดเมื่อถูกเขาดูดดื่มจนแถมหายใจไม่ทันร่างกายเริ่ม
บทที่ 14 คุณลุงใจดีติ่ง!!เสียงระบบดังขึ้นหลังจากที่ฟู่เยี่ยนเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง“สวัสดีฟู่เยี่ยน ”“มีอะไรหรือว่ามีภารกิจอะไรให้ฉันทำอีก”“วันนี้เธอทำความดีให้โอกาสเด็ก ๆ และยังมีจิตใจเมตตาฉันแค่จะมาบอกว่าคะแนนความดีของเธอแม้ว่าไม่ได้ช่วยเหลือชายที่ในภารกิจแจ้งมาแต่อย่างน้อยเธอก็ยังช่วยเหลือเด็กที่ไม่รู้ว่าชีวิตครั้งหนึ่งจะมีเงินซื้อของเล่นอย่างเด็กคนอื่นหรือไม่ การให้มันยิ่งใหญ่กว่าการช่วยเหลือ ดังนั้นวันนี้คะแนนของเธอจะคูณสอง” ฟู่เยี่ยนยิ้มกริ่มออกมาอย่างดีใจ“นี่เธอไม่ได้หลอกฉันใช่มั้ย”“ใช่นะสิ !! เห็นฉันเป็นผู้คุมมิติที่หลอกลวงคนอื่นหรือไงกัน ฉันรู้จักกับเธอมาตั้งกี่ปี”“รู้จ้ารู้ อย่างนั้นต้องขอบใจเธอมาก ๆ ฉิงเชาถ้าไม่มีเธอกับมิติฉันก็ไม่รู้เลยว่าชีวิตของฉันตอนนี้จะเป็นยังไง”“ทุกอย่างล้วนถูกลิขิตมาแล้ว ฉันมาบอกเพียงเท่านี้เมื่อไหร่อยากเข้าไปเลือกของเรียกฉันได้เสมอ ”“ขอบใจเธออีกครั้งนะ ตอนนี้ของที่มีอยู่ยังพอมีขายไปเรื่อย ๆ เอาไว้เมื่อไหร่ของใกล้จะหมดฉันจะเรียกหาเธอแล้วกัน” เมื่อสิ้นคำพูดของฟู่เยี่ยนเสียงพูดของฉิงเชาได้เงียบทันทีตอนนี้เธอต้องมาคิดหาบ้านเช่าให้ได้รวดเร
บทที่ 15 ขอโอกาสแต่ทว่าการกระทำของเขาตอนนี้ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่า เสี่ยวฮั่วคุกเข่าลงต่อหน้าเธอโดยไม่สนใจสายตาของตู่หนานและเกียรติยศศักดิ์ศรีของเขาแม้แต่น้อย การที่เขาได้มาพบเจอกับเธอกับผิงผิงทำให้เขาอยากกลับมาใช้ชีวิตกับเธออีกครั้ง หากครั้งนี้เธอให้โอกาสเขาไม่ว่าเธอจะมีร่างกายอวบอ้วนยังไง เขาจะไม่สนใจคนอื่นอีกต่อไปไม่ว่าใครจะมองเธอเป็นอย่างไรก็ตาม"นี่ทำอะไรลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ คิดว่าทำอย่างนี้แล้วฉันจะใจอ่อนหรือไงกัน ฉันมีคนรักอยู่แล้วและฉันจะไม่มีวันทำให้เขาเสียใจอย่างที่คุณเคยทำกับฉัน กลับไปเดี๋ยวนี้ฉันไม่อยากเจอหน้าคุณอีก""ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อเธอมากแค่ไหน แต่ถ้าเธอให้โอกาสฉันครั้งนี้ฉันสัญญาจะเป็นสามีที่ดีและพ่อที่ดีให้กับผิงผิง""หยุดพูดคำนั้นออกมาเถอะเพราะคุณมันเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ตอนนั้นที่ฉันเฝ้าทำดีถวายความรักให้แต่คุณตอบกลับด้วยความเย็นชา รู้มั้ยว่าสายตาและคำพูดของคนอื่นไม่สามารถทำร้ายจิตใจได้เท่ากับคนในครอบครัว จำวันที่คุณไล่ฉันลงจากรถและให้เดินกลับบ้านด้วยตนเองได้มั้ย? นั่นคือโอกาสสุดท้ายที่ฉันสัญญากับตัวเองว่าจะมอบให้คุณ แต่คุณไม่เคยสนใจใยดีฉันที่
บทที่ 16 ตัดสินใจไม่นานหลังจากที่กินอาหารเสร็จเธอเห็นเจียวเจียนเดินออกมาจากห้องของผิงผิง เธอรีบเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง“เจียวเจียนตอนนี้ผิงผิงเป็นอย่างไรบ้าง”“ตอนนี้หนูผิงผิงอาบน้ำและใจเย็นลงแล้วค่ะ”“ขอบใจเธอมากที่ช่วยพูดให้ผิงผิงใจเย็นลง ไปพักผ่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะจัดการต่อเอง”“ค่ะ”“ฉันขอตัวเข้าไปคุยกับผิงผิงสักครู่นะจะรีบออกมาหา” ฟู่เยี่ยนหันมาบอกกับจางจื่อจือขอเข้าไปหาลูกสาวเพื่อพูดคุยกับเธอให้เข้าใจกันก่อนที่เธอจะหลับไปเสียก่อน“ได้สิไปคุยกับผิงผิงเถอะ เธอเป็นเด็กฉลาดฉันเชื่อว่าผิงผิงรู้ว่าแม่รักเธอมากกว่าใคร” ฟู่เยี่ยนเปิดประตูเข้ามาอย่างเบามือเมื่อผิงผิงเห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาเธอรีบวิ่งถลาเข้ามากอดเต็มแรงจนฟู่เยี่ยนแทบล้มแต่ก็ยังตั้งตัวได้ทัน“คุณแม่ผิงผิงขอโทษ คุณแม่ต้องเสียใจมาก ๆ เลยใช่มั้ยที่ผิงผิงทำตัวไม่น่ารัก” ร่างเล็กสั่นเทากอดฟู่เยี่ยนแน่น เธอยิ้มอย่างสบายใจก่อนจะจับตัวของผิงผิงให้หยุดกอดเธอ และนั่งลงจ้องมองใบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยที่มีสีหน้าเศร้าหงอยด้วยความรู้สึกผิด เธอลูบหัวของผิงผิงอย่างแผ่วเบา“ใครจะโกรธหนูลงกัน แม่ต้องขอบใจผิงผิงมากกว่าที่เข้าใจแม่ รู้มั้ยชี
บทที่ 17 ที่ฉันทำมันถูกใช่มั้ยหลังจากนั้นทั้งสองได้พูดคุยเรื่องจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของจางจื่อจือในวันพรุ่งนี้ส่วนการเคลื่อนย้ายเขาจะลางานมาช่วยเธอเต็มที่ ฟู่เยี่ยนสบายใจในหลาย ๆ อย่าง เธอจึงบอกให้จางจื่อจือไม่ต้องรีบร้อนมาแต่เช้านักเพราะช่วงเช้าเธอจะเข้าไปที่ร้านค้าของเธอเสียก่อน เมื่อพูดคุยกับเสร็จทั้งสองได้แยกย้ายไปพักผ่อน วันนี้จางจื่อจือกลับบ้านด้วยหัวใตที่พองโต คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เขาตัดสินใจบอกความรู้สึกกับเธอในครั้งนี้ส่วนฟู่เยี่ยนเธอเข้าไปในบ้านปิดประตูแน่นหนาเห็นเจียวเจียนกำลังหาอะไรกิน เธอจึงแจ้งเรื่องที่จะย้ายออกจากที่นี่ในวันรุ่งขึ้น“หาข้าวกินสินะฉันแบ่งกับข้าวเอาไว้ให้เธอในห้องครัวแต่ก่อนจะไปกินฉันมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยสักหน่อย ” เจียวเจียนเอียงศีรษะเล็กน้อยคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย“เรื่องอะไรคะ”“ฉันจะย้ายออกจากที่นี่”“แล้วพี่ฟู่เยี่ยนจะย้ายเมื่อไหร่หาบ้านเช่าได้แล้วหรือคะ”“ย้ายพรุ่งนี้ เราจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของนายอำเภอจางจื่อจือก่อน ระหว่างที่รอรถของฉันซ่อมเสร็จเมื่อไหร่จะออกหาบ้านเช่าอีกที”“ได้ค่ะ ไม่ว่าพี่ฟู่เยี่ยนอยู่ที่ไหนฉันพร้อมจะตามไปทุกที่เลยค่ะ ”“
บทที่ 29 ความรักที่แท้จริงหนึ่งเดือนผ่านมาตอนนี้ฟู่เยี่ยนยังอยู่กับจางจื่อจือแต่ไม่ได้อยู่ในฐานะเพื่อนเพราะตอนนี้ทั้งสองได้หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ทั้งสองตั้งใจจะเดินทางไปที่มณฑลเหิงฉีไปหาพ่อของฟู่เยี่ยนเพื่อทำทุกอย่างให้เป็นทางการและขนบธรรมเนียม ฟู่เยี่ยนเองก็อยากกลับไปขอโทษที่เธอไม่ได้บอกลาและติดต่อไปเลยสักครั้งยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจที่ละเลยความรู้สึกของคนแก่คนหนึ่งที่ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหนติ่ง !! เสียงระบบดังขึ้นในระหว่างที่ฟู่เยี่ยนกำลังแต่งตัวเพื่อออกเดินทาง“สวัสดีฟู่เยี่ยน ดูเหมือนตอนนี้เธอมีความสุขดีสินะ”“ใช่ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก ว่าแต่เธอเถอะเงียบหายไปเลยตั้งแต่มาบอกเรื่องภารกิจ แล้วเรื่องที่ฉันทำภารกิจผ่านไม่ผ่านไม่เห็นจะมาบอกเลยสักครั้งเวลาที่ฉันอยากได้ของเพียงแค่คิดมิติก็เปิดออกเธอไปไหนมา ”“ฉันมีเรื่องให้ทำนิดหน่อยนะ วันนี้ฉันมาเพื่อแจ้งเรื่องภารกิจเธอทำได้สำเร็จ ฉันดีใจด้วยนะและฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะมาแจ้งเธอ”“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ ? ว่าแต่ภารกิจที่เธอทำให้ ทำให้คนรักมีความสุขนี่คือใครกันหรือใช่ผิงผิงมั้ย” “เรื่องภารกิจที่ฉันให้เธอทำให้คนรักม
บทที่ 28 ฉันเลือกคุณฟู่เยี่ยนขับรถมาถึงบ้านต้องแปลกใจ บ้านที่สว่างรอเธออยู่ทุกวันวันนี้กลับมืดไร้แสงไฟ เธอดับเครื่องยนต์ทุกคนพากันเดินลงจากรถด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน“พี่ฟู่เยี่ยนนายอำเภอจางจื่อจือวันนี้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ใช่มั้ยคะ ”“จริงสิฉันลืมได้ยังไงกันนะ วันนี้เขาคงเหนื่อยมาก ๆ แน่ ๆ เราช่วยกันทำกับข้าวไว้รอเขากันเถอะ ส่วนผิงผิงลูกอิ่มแล้วใช่มั้ยนั่งเล่นของเล่นรอแม่กับพี่เจียวเจียนทำกับข้าวก่อนนะ ทำเสร็จแล้วจะให้พี่เจียวเจียนพาไปอาบน้ำ”“ค่ะคุณแม่ ” ทั้งสามเดินเข้ามาในบ้านพร้อมเปิดไฟแต่เมื่อเดินไปที่ห้องครัวกลับพบว่าตอนนี้บนโต๊ะกับข้าวมีอาหารเต็มไปหมด“เอ๊ะ ! ทำไมกับข้าวถึงมีเต็มโต๊ะแบบนี้คะหรือว่านายอำเภอกลับมาแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงไม่เปิดไฟกัน” เจียวเจียนพูดขึ้นด้วยความสงสัยฟู่เยี่ยนพลางครุ่นคิดหรือว่าเขาเหนื่อยมากจนปิดไฟนอน แต่ทว่าเขาไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกกว่ามีอะไรแปลก ๆ ไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงบอกให้เจียวเจียนพาผิงผิงไปอาบน้ำ“เจียวเจียนเธอพาผิงผิงไปอาบน้ำและให้ผิงผิงเล่นอยู่ในห้องเธอค่อยมากินข้าวนะ ฉันจะไปดูจางจื่อจือก่อนฉันคิดว่าเขาน่าจะไม่สบาย” เธอรู้
บทที่ 27 จากกันด้วยดีแต่ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าและท่าทางของฟู่เยี่ยนต้องทำให้เขาหุบยิ้มทันที ครั้นนั้นฟู่เยี่ยนไม่ได้จะหยิบจับแหวนในกล่องเธอดันกล่องกลับมาหาเขาใบหน้าของเธอแสดงความดุดันและจริงจังอย่างที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งที่เธอขอหย่า“เก็บแหวนของคุณไว้เถอะค่ะ แหวนวงนี้ฉันขายทิ้งไปแล้วเช่นเดียวกับความรู้สึกที่ฉันตัดสินใจขายมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดี ๆ ความรักความผูกพันมันจบลงตั้วแต่วันนั้นแล้ว เราทั้งสองไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก แต่เราสามารถทำหน้าที่พ่อและแม่ให้แก่ผิงผิงได้ ฉันเปิดใจยอมให้อภัยในสิ่งที่ผ่านมาแต่ทว่าตอนนี้หัวใจของฉันมีคนอื่นเข้ามาอยู่แทนคุณแล้ว คนที่ทำทุกอย่างโดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอเขาเป็นห่วงห่วงใยคอยเอาใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเขาไม่เคยสนใจรูปร่างภายนอกของฉันและไม่เคยอายที่มีฉันเดินเคียงข้าง สิ่งนั้นที่เขามีคุณไม่เคยมีเราทั้งคู่จากกันด้วยดีเถอะนะคะ ฉันไม่อยากจะเกลียดคุณไปมากกว่านี้ ” เสี่ยวฮั่วพูดไม่ออกร่างกายสั่นเทาใจของเขาเริ่มสั่นคลอนไปหมด“ฉันไม่มีทางเข้าไปแทรกเลยสินะ เอาล่ะฉันเองก็เป็นลูกผู้ชายพอในเมื่อเธอตัดสินใจอย่างนั้นฉันเองไม่สามารถ
บทที่ 26 แต่งงานกับฉันนะเสี่ยวฮั่วดีใจมาก ๆ ที่ฟู่เยี่ยนเธอเริ่มเปิดใจให้เขาเข้าใกล้ผิงผิงและตอนนี้เธอยังยอมบอกว่าเขาคือพ่อของผิงผิงอีกด้วย เขาพาเด็กหญิงตัวน้อยนั่งรถไปหาคุณแม่ของเขาที่บ้านป้าไป๋เซียง คุณแม่ต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ได้เห็นหลายสาวน่ารักคนนี้“ผิงผิงพ่อขอโทษนะ ลูกคงจะโกระจะเกลียดพ่อมากใช่มั้ยที่ไม่ได้ดูแลและเลี้ยงลูกมา” เสี่ยวฮั่วขับรถยนต์พลางหันมามองหน้าของผิงผิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา เด็กหญิงเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกห่างจากอกผู้เป็นแม่เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนจะคอยมีฟู่เยี่ยนคอยอยู่ข้าง ๆ เสมอ“หนูไม่โกรธและก็ไม่เกลียดคุณลุงเลยค่ะ ดีใจเสียอีกที่ได้รู้ว่าพ่อของหนูยังมีชีวิตอยู่ ”“ผิงผิงเป็นเด็กดีจริง ๆ เลิกเรียกคุณลุงได้แล้วนะเรียกคุณพ่อสิ” “ได้ค่ะคุณพ่อ” ผิงผิงยิ้มหวานให้แก่เขา ทั้งสองพากันเดินทางไปถึงบ้านป้าไป๋เซียง แม่ของเสี่ยวฮั่วต่างก็แปลกใจและดีใจที่เห็นหน้าของหลานสาว เธอพาผิงผิงไปกินข้าวพาเที่ยวเล่นและซื้อของเล่นอย่างที่ผิงผิงอย่างได้ จนกระทั่งถึงเวลาไปส่งผิงผิงที่ร้านเพราะตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว ระหว่างทางไปที่ร้านเหมียวเหมียวฉิงถิงได้เอ่ยถามลูกชายเพร
บทที่ 25 ผิงผิงเกลียดคุณแม่“คุณมาทำอะไรที่นี่ผิงผิงมาหาแม่เดี๋ยวนี้” เสียงแหลมตะโกนออกมาดังสนั่นทำให้ทั้งสองหันขวับไปมองทันที ผิงผิงรีบเดินไปหาแม่ของเธออย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะถูกแม่ว่า“ฟู่เยี่ยน... ฉันแค่อยากเจอผิงผิงทำไมเธอถึงใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้” “ใจร้ายเหรอ ? ฮึ..ใช่ฉันมันใจร้ายแต่ใครกันที่ใจร้ายกว่าถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งกับเราสองแม่ลูกฉันจะพาผิงผิงหนีไปให้ไกลที่สุด และรอบนี้คุณจะไม่ได้เห็นเธออีก” “คุณแม่คะคุณลุงรู้สึกผิดและเสียใจที่เคยทำร้ายจิตใจคุณแม่ คุณแม่ยกโทษให้คุณลุงเถอะนะคะ คุณแม่เคยสอนไม่ใช่เหรอคะถ้าเราทำผิดให้ขอโทษการขอโทษคือทางออกที่ดีที่สุด อย่างนั้นแค่คุณลุงขอโทษคุณแม่ก็ควรให้อภัยไม่ใช่หรือคะ”“ผิงผิงเรื่องนี้หนูยังไม่เข้าใจ ชายคนนี้เลวร้ายยิ่งกว่าที่หนูคิดเชื่อแม่อยู่ให้ไกลจากคน ๆ นี้ ”“ทำไมล่ะ ? ทำไมเธอถึงไม่สนใจความรู้สึกของลูกบ้าง เธอจะพรากฉันกับลูกอีกนานแค่ไหน ฉันเองก็มีสิทธิ์ในตัวลูกเหมือนกันนะฉันขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ฉันผิดไปแล้วให้ฉันได้ทำหน้าที่พ่อให้แก่ผิงผิงเถอะนะ ” เสี่ยวฮั่วเดินเข้ามาใกล้พร้อมบอกผิงผิงว่าเขาคือพ่อของเธอ ตอนนี้ผิงผิงงงงวยไปหมดร
บทที่ 24 ฉันคือพ่อของผิงผิงฝั่งด้านเสี่ยวฮั่วเขาไม่ได้ไปหาฟู่เยี่ยนแต่เลือกที่จะไปหาผิงผิงที่โรงเรียนเขาไม่ลืมที่จะซื้อขนมหวานติดไม้ติดมือมาด้วย เขาให้ตู่หนานพาแม่ไปหาฟู่เยี่ยนส่วนเขามาที่นี่คนเดียว ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาวิ่งเล่นของเด็ก ๆ เขาเดินเข้ามาในโรงเรียนต้องถูกยามที่หน้าโรงเรียนเรียกตัวเองไว้ก่อน“เดี๋ยวครับ คุณเป็นผู้ปกครองหรือเป็นใครที่จะเข้าไปในโรงเรียนครับ ”“ฉันเป็นพ่อของผิงผิง อยากเข้าไปหาเธอสักหน่อยเธอเรียนอยู่ที่นี่ใช่มั้ย” ยามจ้องมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเขาก็จำได้ผู้ปกครองที่มารับผิงผิงจะมีแต่ผู้หญิงและยิ่งเรื่องการลักพาตัวเด็กไปแลกค่าไถ่หรือจับตัวไปขอทานช่วงนี้ยิ่งมีเยอะการที่เขาเป็นยามของที่นี่จึงต้องเข้มงวด“ผู้ปกครองของผิงผิงเหรอครับ อย่ามาโกหกเลยแกเป็นพวกลักพาตัวเด็กใช่มั้ย นี่จะเอาขนมมาล่อเด็กและจับตัวไปสินะคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงออกไปจากที่นี่ก่อนที่ฉันจะเรียกจัดการเรียกตำรวจ” เสี่ยวฮั่วตกใจคิดว่าที่นี่จะเข้าง่าย แต่ก็เข้าใจยามที่เฝ้าหน้าประตูดี เขาช่างเป็นคนที่รักในหน้าที่จริง ๆ“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ คุณเองก็น่าชื่นชมทำหน้าที่เป็นอย่างดี ฉันคือนายพลเว่ย
บทที่ 23 ตามกลับ“ใช่ครับเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะผม ถ้าผมเจอเธอและลูกแล้วคุณแม่ช่วยไปพูดกับเธอได้มั้ยครับ ตอนนี้ผมรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำไปจริงๆ” “ลูกพูดเหมือนอย่างกับว่าตอนนี้เจอฟู่เยี่ยนแล้วอย่างนั้นรึ” ดวงตาของฉิงถิงเบิกโพลงวางช้อนลงบนจานข้าวทันทีสายตาจับจ้องมามองเสี่ยวฮั่วอย่างคาดหวังคำตอบ“ใช่ครับ ผมเจอเธอแล้วเมื่อเดือนก่อนตอนที่ผมเดินทางไปบ้านเกิดคุณพ่อ”“ว๊าว สวรรค์เมตตาแล้วชักช้าทำไมล่ะรีบพาแม่ไปหาหลานสิแล้วหลานแม่เติบโตมาเป็นยังไงผู้หญิงหรือว่าผู้ชายสุขภาพแข็งแรงใช่มั้ย? ”“ลูกสาวครับเธอชื่อว่าผิงผิงเป็นเด็กแข็งแรงน่ารักช่างพูดช่างคุย ความบังเอิญที่ผมไม่เคยรู้เลยและถ้าวันนั้นผมไม่กลับไปที่บ้านของคุณพ่อคงไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่เราตามหาเธอ เธอเช่าบ้านหลังนั้นอยู่ ”“เป็นความบังเอิญจริง ๆ แล้วลูกไม่ขอโทษเธอและพาเธอกลับบมาล่ะ”“ผมทำแล้วครับแต่ฟู่เยี่ยนไม่ยอมใจอ่อนเลย อีกอย่างตอนนี้เธอกำลังคบหากับนายอำเภอที่นั่นอยู่ หลังจากที่ผมเจอกับเธอ เธอก็พาผิงผิงหนีไปอีกแล้วครับ ”“ห่ะ !! อะไรนะ อย่างนั้นต้องขอให้พี่ไป๋เซียงช่วยสืบหาที่อยู่ของฟู่เยี่ยนแล้ว”“คุณแม่ครับผมรู้แล้วครับว่าตอนนี้เธ
บทที่ 22 ทำตามความต้องการเธอเดินไปที่ห้องของผิงผิงค่อย ๆ แง้มประตูดูว่าเธอหลับหรือยังก็พบว่าตอนนี้ิผิงผิงหลับไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนจางจื่อจือกำลังปิดไฟและเดินออกมา"เธอมาหาผิงผิงเหรอตอนนี้หลับไปแล้วล่ะ""ขอบคุณนะที่ตามใจเธอทุกอย่างเลย เป็นเพราะฉันที่ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของผิงผิงเห็นว่าเธอไม่ถามหาพ่อ ก็คิดว่าเธอไม่โหยหาฉันนี่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย ไม่รู้แม้กระทั่งความรู้สึกของลูก " เธอเดินนำออกมาและพูดคำพูดที่เธอรู้สึกให้จางจื่อจือฟัง เขาปิดประตูอย่างเบามือก่อนจะตอบกลับฟู่เยี่ยน"เพราะผิงผิงรักเธอมากนะสิ ถึงไม่เคยงอแงเรื่องพ่อขึ้นมาสักครั้ง ตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าความต้องการของผิงผิงคืออะไร ถ้าอยากให้ลูกมีความสุขก็อยู่ที่นี่ต่อเถอะนะ ไม่ใช่แค่ผิงผิงที่ต้องการฉันเองก็ต้องการเธอเช่นเดียวกัน ระหว่างที่เรามาอยู่บ้านหลังเดียวกันฉันมีความสุขมากเลยนะ กลับจากที่ทำงานทุกวันเพราะคิดว่ามีคนรอคอยอยู่ที่บ้านกลับมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา จนตอนนี้เหมือนฉันเองก็ติดและหลงผิงผิงไปแล้ว เธอพาผิงผิงออกไปฉันคงเศร้าใจ" ฟู่เยี่ยนเริ่มลังเลและคิดว่านี่คือภารกิจที่ฉิงเชาบอกเมื่อครู่กันนะ เรื่องย้ายบ้านเ
บทที่ 21 ทำให้คนรักมีความสุขรุ่งเช้าวันต่อมาไม่รู้ว่าเพราะเธอเหน็ดเหนื่อยหรือสบายใจทำให้หัวถึงหมอนหลับไปเลยทันทีตื่นเช้ามาเธอยังไม่คุ้นชินเพราะเป็นเช้าแรกที่ย้ายมาอยู่บ้านของจางจื่อจือ เธอตื่นขึ้นมาเห็นพ่อของเขานั่งจิบน้ำชาอยู่ที่โต๊ะอาหารเธอรีบเข้าไปทักทาย“เมื่อคืนนี้นอนสบายดีมั้ย?” ไม่ทันทีที่เธอจะได้เอ่ยถามก็ถูกเขาเอ่ยถามเสียก่อน“นอนสบายดีค่ะแล้วคุณลุงละคะนอนสบายดีมั้ย”“คนแก่อย่างฉันเวลามีความสุขมักจะนอนสบายเป็นอย่างดีเลยล่ะ ฉันได้ยินว่าเธอเป็นเจ้าของร้านที่ใหญ่ในละแวกนี้เลยใช่มั้ย?”“ฉันเป็นเจ้าของร้านเหมียวเหมียวที่ไม่ได้ใหญ่อะไร กิจการที่ทำอยู่กำลังขยายตัวและเพิ่งขยายร้านเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ”“เธอเป็นคนฉลาดจริง ๆ เก่งในเรื่องธุรกิจและการจัดการอย่างนั้นเธอเองก็ไม่ค่อยมีเวลาสินะ อย่างนั้นต่อจากนี้ถ้าฉันคิดถึงหนูผิงผิงจะมาหาพวกเธอที่นี่เอง”“คุณพ่อจะเดินทางกลับแล้วหรือครับไม่อยู่ต่ออีกหน่อยล่ะครับ เดี๋ยววันหยุดผมจะไปส่งคุณพ่อเอง”“ไม่เอาล่ะฉันมีฟาร์มต้องดูแล หนูฟู่เยี่ยนฝากเจ้านี่ด้วยนะช่วยดูแลให้ฉันที เขาเป็นคนสนใจงานมากกว่าร่างกายตัวเองเสียอีก วัน ๆ สนใจแต่ทำงานไม่รู้กินอา