Share

เรื่องคลี่คลาย

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-01-10 01:12:48

พ่อแม่ของต้าจูต่างเข้ามาขอร้องสองแม่ลูกไม่ให้ส่งเรื่องให้ทางการ ต้าจูในยามนี้ได้ยินสิ่งที่จือหลินพูดก็เป็นลมหมดสติไปเสียแล้ว

จินฮวานางก็แข้งขาอ่อนเมื่อได้ยินว่าจะส่งตัวต้าจูให้ทางการ หากเขาถูกจับไปจริงนางก็คงไม่พ้นความผิดเป็นแน่

เป็นนางที่พูดยุยงให้ต้าจูที่กำลังหาเงินไปใช้หนี้พนันมาขโมยเห็ดหลินจือที่เรือนของสองแม่นาง นางอิจฉาในความโชคดีที่สองแม่ลูกได้รับ แต่ไม่คิดว่าต้าจูจะโง่ถึงขั้นล้มจนมีแทงตัวเองได้เช่นนี้

อี้เฉินก็เดินเข้ามาประคองมารดาไว้ จางอู๋จ้องมองจินฮวาอย่างดุดัน หากต้าจูไม่โง่ล้มลงเสียก่อนเข้าไม่อยากจะนึกว่าสองคนแม่สองที่อ่อนแอจะเป็นเช่นใด

ลี่อินที่เห็นสายตาห่วงใยของจางอู๋นางก็ก้มหน้าลงโดยไม่กล้ามอง นางรู้ว่าเพราะความหึงหวงจึงทำจินฮวาทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา

แม้ว่านางกับจางอู๋จะไม่ได้พบเจอหรือพูดคุยกันแล้ว แต่จินฮวานนางก็ยังไม่ยอมเลิกรา ลี่อินจึงคิดเรื่องที่บุตรสาวถามเรื่องที่ย้ายไปอยู่อีกครั้งขึ้นมา

“ช่างเถิดเจ้าค่ะ ข้ากับหลินเออร์จะย้ายไปอยู่ที่อื่น” ลี่อินเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันเบา

“อาอิน” ชาวบ้านรวมทั้งจางอู๋เอ่ยเรียกนางอย่างไม่อยากเชื่อหูตนเอง

“ท่านพาต้าจูกลับไปรักษาตัวเถิด ส่วนเรื่องที่จินฮวานางเป็นผู้ยุยงหรือไม่ ท่านผู้นำหมู่บ้านข้าหวังว่าท่านจะสอบถามเรื่องนี้ให้ข้าด้วยเจ้าคะ” ลี่อินเงยหน้าไปมองสบตาผู้นำหมู่บ้านอย่างอ้อนวอน

“ได้ข้าจะสอบสวนด้วยตนเอง หากนางผิดจริง ข้าจะให้นางหย่าขาดกับอาอู๋เสีย” ผู้นำหมู่บ้านพูดด้วยเสียงอันดัง

“ท่านพ่อ ไม่ ไม่นะเจ้าค่ะ ข้า ข้าไม่ได้ทำ” จินฮวาคลานเข่าเข้าไปหาพ่อสามีอย่างไม่อยากเชื่อหู

“เป็นเจ้าที่ลอบคบชู้กับสามีข้าใช่หรือไม่ จึงได้ใส่ร้ายข้าเช่นนี้” จินฮวาที่จวนตัวก็กล่าวโทษลี่อินกับจางอู๋ทันที

“เจ้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดี ข้าจะได้พูดเรื่องทั้งหมด” ลี่อินมองไปที่จินฮวาอยากไม่อยากเชื่อ นางต้องเริ่มที่จะตอบโต้ได้แล้ว จึงเอ่ยออกมาเช่นนี้

“เจ้าจะพูดเรื่องอันใด” จินฮวาหันมามองที่ลี่อินอย่างข่มขู่

“เรื่องเมื่อสิบปีที่แล้วอย่างไรเล่าพี่หญิง” ลี่อินไม่ได้เรียกจินฮวาเช่นนี้มานานแล้ว

“หยุดปากเสีย หากเจ้าพูดออกมาข้าจะฆ่าเจ้าทิ้ง” จินฮวาโวยวายอย่างคนเสียสติ

ชาวบ้านช่วยกันจับตัวนางไว้ เพื่อไม่ให้เข้ามาทำร้ายลี่อินได้ แต่จือหลินอยากให้นางเดินเข้ามาเสียจริงจะได้จัดการนางเสียเลย ยาพิษที่นางทำขึ้นในมิติมีอยู่มากนัก จะทำให้เป็นใบ้หรือเป็นอัมพาตก็ย่อมได้ ด้วยความเร็วของนางแล้วย่อมไม่มีผู้ใดพบเห็นแน่นอน

ลี่อินสูดหายใจเข้าก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้วโดยที่นางไม่เคยได้มีโอกาสโต้แย้งมาก่อน ป้าจงก็เดินเข้ามาใกล้นางเพื่อช่วยประคองตัวนางไว้

เสียงสะอื้นอย่างเจ็บปวดของลี่อิน และแววตาที่เจ็บปวดของจางอู๋ทำให้ชาวบ้านได้แต่ถอดถอนใจ ไม่คิดว่าสิ่งที่พวกตนกล่าวโทษมาตลอดจะลงเอ่ยเช่นนี้

“อาอิน” จางอู๋เอ่ยเรียกนางเสียงแผ่วเบา เขาเจ็บปวดไม่ต่างจากนางที่ต้องมาฟังเรื่องในหนนั้นอีกครั้ง

“ฮ่า ฮ่า แล้วอย่างไรเล่า ต่อให้พวกเจ้ารักกันมากเพียงใด ในที่สุดข้าก็ไม่ครอบครองพี่อู๋” จินฮวาหัวเราะและร้องไห้ราวคนเสียสติ

“ข้าไม่เคยรักเจ้าเลยสักนิด” จางอู๋กัดฟันพูดออกมาอย่างโกรธแค้น

“ท่านพ่อ” อี้เฉินเรียกบิดาอย่างไม่อยากเชื่อหู แม้นางจะรับรู้ทุกสิ่งจากมารดา แต่ไม่คิดว่าบิดาจะพูดออกมาต่อหน้าทุกคน

“เฉินเออร์ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เป็นมารดาเจ้าที่ชั่วช้านัก” จางอู๋หันไปพูดกับบุตรสาว ถึงนางจะเกิดมาจากเล่ห์ของจินฮวา แต่เขาก็เลี้ยงดูนางมาอย่างดี

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนของบุรุษแปลกหน้ามาถามหาเจ้ากับข้า ลี่อินเอ่ยลี่อิน เพราะเขามีฐานะข้ากลัวว่าเจ้าจะได้ดีจึงบอกว่าเจ้ากระโดดน้ำหนีความอับอายไปแล้ว” จินฮวาเอ่ยออกมาอย่างยินดี ราวกับว่าสิ่งที่นางทำเป็นเรื่องถูกต้อง

“เจ้ามันเสียสติไปแล้ว จิตใจโหดเหี้ยมยิ่งนัก” ชาวบ้านต่างตะโกนด่าทอจินฮวาอย่างหนาหู

ลี่อินไม่คิดว่าบุรุษผู้นั้นจะส่งคนออกตามหานาง จือหลินก็ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเช่นกัน

อี้เฉินที่ทนอับอายไม่ไหวก็วิ่งหนีกลับเรือนโดยทิ้งมารดาไว้ข้างหลัง นางรับรู้มาโดยตลอดแต่ไม่คิดว่ามารดาจะโง่เขลาจนกล้าพูดเรื่องทั้งหมดออกมาในยามนี้

กว่าลานเรือนของลี่อินจะเงียบสงบก็เกือบฟ้าสาง จินฮวาถูกลากตัวกลับไปที่เรือนของผู้นำหมู่บ้าน เขาจัดการเขียนหนังสือหย่าให้บุตรชายด้วยตนเองในคืนนั้นเลย เพราะเขาก็ทนรับความอับอายที่ลูกสะใภ้ทำไว้ไม่ได้เช่นกัน

บุตรชายของเขายังหนุ่มแน่นจะแต่งงานอีกรอบก็ยังได้ ต่อให้จางอู๋คิดจะแต่งลี่อินเขาก็จะไม่เอ่ยห้ามอีกแล้ว ตอนนี้ได้แต่โทษตัวเองที่ไม่สืบสาวราวเรื่องเหตุการณ์ในครั้งนั้นให้ดีเสียก่อน จึงทำให้ชีวิตของสองแม่ลูกต้องเป็นเช่นนี้

ตอนนี้สวรรค์ได้ลงโทษเขาแล้ว โดยการที่ทำให้เรือนลุกเป็นไฟโดยสะใภ้ที่มีปากเสียงกับบุตรชายทุกวันมาตลอดสิบปี

จือหลินนางประคองมารดาเข้าไปพักในห้อง โดยมีป้าจงเข้ามาช่วยดูแล เมื่อเห็นมารดาหลับสนิทแล้วนางจึงส่งป้าจงกลับเรือน

จือหลินจึงได้มีเวลาส่วนตัวของนางเสียที นางยังไม่ได้ตรวจสอบห้วงมิติของนางเลยว่าสิ่งที่อยู่ภายในติดตามนางมาด้วยหรือไม่

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ห้วงมิติของจือหลิน

    จือหลินเข้าไปด้านในของมิติทันที นางยืนมองรอบๆ มิติอย่างคะนึงหา ไม่อยากจะเชื่อว่าในยามนี้ภายนอกล้วนไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยสักนิดนางเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะหยุดมองที่ห้องทดลองของนางอย่างเหม่อลอย ในยามนี้ได้แต่ถอนหายใจออกมา เพราะสิ่งของด้านในล้วนไม่อาจนำออกมาใช้ให้ผู้อื่นในภพนี้เห็นได้ อีกอย่างเหตุการณ์ในครั้งนั้นนางก็ไม่คิดอยากจะทดลองยาตัวใดขึ้นมาอีกเลยข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่นางนำเข้ามาล้วนอยู่ครบ จือหลินเดินไปล้มตัวลงนอนที่เตียงอย่างโหยหา ก่อนนางจะหลับตาที่เหนื่อยล้าลงแล้วเข้าสู่ความฝันอย่างรวดเร็วจือหลินไม่รู้ว่าตอนที่นางสะดุ้งตื่นนั้นเป็นเวลาเท่าใด แต่ที่นางตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงร้องของมารดา จือหลินรีบออกจากมิติทันทีเพื่อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้นก็พบมารดาที่วิ่งหานางพร้อมกับร้องเรียกไปทั่วเรือน“ท่านแม่ ข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ” จือหลินเข้าไปหามารดาอย่างรวดเร็ว“หลินเออร์ หลินเออร์ เจ้าหายไปที่ใดมา แม่ แม่กลัวเหลือเกิน” ลี่อินคิดว่าต้าจูหรือจินฮวามาลักพาตัวบุตรสาวของนางไปเสียแล้วจือหลินที่ตกใจกับท่าทางของลี่อินก็ไม่รู้จะปลอบนางเช่นไร จึงได้สวมกอดมารดาไว้แน่นเพื่อให้นางวางใจลง ลี่อินก็กอ

    Last Updated : 2025-01-11
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   รักษามารดา

    จือหลินเดินเข้าไปด้านในห้องทดลองของนาง ข้าวของทุกอย่างยังจัดวางอยู่เช่นเดิม นางลูบโต๊ะที่เคยนั่งทำงานทุกวันด้วยความคิดถึง แต่เพราะทุกสิ่งภายในห้องนี้ล้วนไม่มีผลกับนางเมื่ออยู่ในยุคโบราณอีกแล้วนางจึงเดินเข้าไปด้านในสุดของห้อง หากไม่สังเกตให้ดีก็จะเห็นทั้งหมดเป็นเพียงผนังห้องขาวๆ แต่ถ้ามองให้ละเอียดจะพบปุ่มกลไกเล็กๆ ที่ฝั่งอยู่บนผนัง เพื่อใช้เปิดเข้าไปภายในห้องอีกห้องหนึ่งด้านในห้องมีตู้เก็บยาหลายพันขวด ทั้งยารักษาทั่วไปที่พบเห็นได้ตามร้านขายยา หรือยาเฉพาะที่มีเพียงในโรงพยาบาล ทุกขวดล้วนแต่ถูกเก็บไว้ในตู้กระจกสีขาวที่มองแล้วสบายตาแต่จะมีอยู่ตู้ที่โดดเด่นที่สุดภายในห้อง ตู้สีดำทึบ ด้านในเป็นยาพิษที่ทำให้อ่อนแรงไปจนถึงชีวิต มีอยู่หลายขวดที่ถูกทำขึ้นโดยจือหลินเองนางเกือบลืมไปแล้วว่าการทดลองทุกครั้งนอกจากจะใช้หนูทดลอง บางครั้งยังเป็นมนุษย์ที่ถูกองค์กรส่งมาให้นางได้ทดลองด้วยจือหลินเพียงปรายตามองที่ตู้สีดำเท่านั้น นางไม่คิดจะเปิดนำสิ่งที่อยู่ด้านในออกมาใช้ หากไม่จำเป็นจริงๆจือหลินเดินไปที่ตู้ยาเพื่อค้นหายาที่รักษาโรคโลหิตจาง คนที่เป็นโรคโลหิตจางไม่ได้ร้ายแรงเช่นมารดาของนาง เพียงให้ธาตุเ

    Last Updated : 2025-01-11
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   พบเจอผู้บาดเจ็บ

    เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างล้วนแล้วยังสามารถเปิดใช้งานภายในมิติได้ปกติ จือหลินนางจึงเดินไปที่โต๊ะทำงานเพื่อเปิดคอมของนางดูมันเปิดใช้งานได้ แต่ไม่อาจเข้าดูข้อมูลของงานที่นางเก็บไว้ คงได้แต่เปิดเล่นเกมที่ไม่ต้องเชื่อมเน็ตฆ่าเวลาเท่านั้นจือหลินปิดคอมลงแล้วเดินเข้าไปแช่น้ำในห้องน้ำของนาง หากร่างกายนี้เติบโตมากพอที่จะนั่งจิบไวน์ได้คงดีไม่น้อย ทำได้เพียงจิบน้ำส้มไปก่อนนางหลับตาพริ้มแช่น้ำอุ่นอย่างสบายตัว นับตั้งแต่ที่มาอยู่ภพนี้ การอาบน้ำครั้งนี้เรียกได้ว่าดีสุดแล้วของนางชุดนอนที่มีอยู่ในตู้ก็หลวมเกินที่จะนำมาใส่ได้ จือหลินจึงใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ก็คลุมเข่าของนางแล้ว อย่างน้อยสิ่งที่ดีอีกเรื่องก็เห็นจะเป็นมีเสื้อชั้นใน กางเกงชั้นในให้ใส่ได้เมื่อก้มลงมองหน้าอกของตนในยามนี้ก็ได้แต่ปิดลิ้นชักเสื้อชั้นในลงเสีย ขยะจากกล่องอาหารหรือถุงขนมที่นางกิน เมื่อทิ้งลงในถังขยะก็อันตรธานหายไปทันที หากพามารดาเข้ามาด้วยได้คงจะดีกว่านี้ จือหลินได้แต่คิดแล้วก็หลับตาลงบนเตียงอย่างสบายตัววันต่อมาก่อนออกจากมิติ จือหลินนางนำมีดสั้นออกมาด้วย ทั้งยังใช้สายรัดซ่อนไว้ที่ต้นขาของนาง ยังดีที่สายรัดปรับขนาดได้ไม่เช่

    Last Updated : 2025-01-12
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ข้ามาพบเจ้า

    จือหลินนางเดินนำหน้าทุกครั้งไปตำแหน่งที่นายพรานกงนอนหมดสติอยู่ ชาวบ้านเมื่อเห็นบาดแผลต่างก็ตกใจกลัวหากนายพรานกงที่เก่งกาจยังพลาดท่าเช่นนี้ ต่อไปพวกเขาจะไปหาของป่ากันได้อย่างไรจือหลินมองพวกเขาที่ช่วยกันหามนายพรานกงลงเขานางก็ไม่คิดที่จะเอ่ยเตือน เพราะนางตรวจดูขาของเขาแล้วมันไม่ได้หักยังไม่ต้องระวังในการเคลื่อนย้ายมากนัก“แม่หนู เจ้านามอันใดหรือ” อี้หนิงเอ่ยถามจือหลิน หลังจากที่นางให้บุตรชายพาท่านหมอตามเข้าไปดูสามีที่ในเรือนแล้ว“ข้า ฟู่จือหลินเจ้าค่ะ” อี้หนิงเอ่ยขอบคุณจือหลินก่อนจะเข้าไปในเรือนเพื่อดูสามี“นังหนูหลิน เจ้ามาทำอันใดที่นี่” ผู้นำหมู่บ้านจางที่เพิ่งจะมาก็เอ่ยถามจือหลินที่เห็นนางมาอยู่อีกฟากของหมู่บ้านอย่างแปลกใจ“วันนี้ข้าขึ้นเขาเจ้าค่ะ แต่เดินออกนอกเส้นทางที่เคยเดินทุกวัน จนหลงมาถึงป่าฟากนี้แล้วพบกับพรานกงเข้า” จือหลินเอ่ยเล่าเรื่องให้ท่านผู้นำหมู่บ้านฟัง“เด็กดี คราวหน้าอย่าได้ขึ้นเขาคนเดียวเล่า กลับเรือนเจ้าเถิดประเดี๋ยวแม่ของเจ้าจะเป็นห่วง” ผู้นำหมู่บ้านไม่แปลกใจที่จือหลินบอกเรื่องหลงป่าเพราะครั้งนั้นเขาก็พาชาวบ้านออกตามหานางที่นางตกเขา ยิ่งนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับ

    Last Updated : 2025-01-12
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ที่ใดไม่มีถ้ำเสือถ้ำหมาป่าบ้าง

    จือหลินเมื่อหาน้ำมาให้แขกแล้วนางก็เอ่ยถามถึงสาเหตุที่สองแม่ลูกมาที่เรือนของนาง“สามีข้าเล่าเรื่องที่เจ้าต้องการให้เขาช่วยเหลือให้ข้าฟัง ข้าจึงได้มาหาเจ้าว่ามีเรื่องใดที่พวกข้าพอจะช่วยเจ้าได้บ้าง” อี้หนิงนางอยากตอบแทนที่จือหลินรีบมาตามชาวบ้านไปช่วยชีวิตของสามีนางไว้ได้ทัน“เรื่องที่ข้าอยากจะขอร้องให้พวกท่านช่วยไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าพวกท่านมาจากเมืองหลวงจึงอยากจะถามเรื่องราวความเป็นอยู่ของที่นั่น” จือหลินเอ่ยบอกสิ่งที่นางต้องการรู้ระยะทางเดินทางใช้เวลานานเพียงใด หรือตรงไหนของเมืองหลวงที่สมควรไปซื้อเรือนอยู่ และถามเรื่องแคว้นต้าฉีมีกี่หัวเมือง นางถามเรื่องหัวเมืองไปยังงั้นหากตระกูงกงไม่รู้ก็ไม่เป็นอันใด นางจะได้ไปถามผู้อื่น“เจ้าจะย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงหรือ” กงชิงชางที่เงียบมานานก็เอ่ยถามขึ้นอย่างประหลาดใจเพราะเขาคิดไม่ถึงว่าจือหลินที่เป็นเพียงเด็กน้อยจะมีความคิดเช่นนี้ อีกอย่างมารดาของนางก็ดูเหมือนไม่ค่อยพูด ทุกการตัดสินใจเหมือนจะเป็นเด็กน้อยตรงหน้าเขาเสียมากกว่า“เจ้าค่ะ”“เจ้าจะไปกันสองคนแม่ลูกหรือ” อี้หนิงเอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อขนาดครอบครัวพวกนางที่มีกงหลี่จิ้งเก่

    Last Updated : 2025-01-13
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ของเยี่ยนไข้

    ชิงชางเดินเข้าไปบอกบิดาด้านในห้องว่าจือหลินนางมาเยี่ยม อี้หนิงก็เดินพาจือหลินเข้าไปด้านในห้องของนางเรือนของทั้งสามมีขนาดใหญ่กว่าเรือนของนางไม่มากนัก รอบเรือนทั้งด้านล้วนเก็บกวาดอย่างสะอาดเรียบร้อย ถึงข้าวของเครื่องเรือนจะมีไม่มากแต่ก็นับว่ามีครบทุกอย่างมากกว่าเรือนของนางเสียอีกจือหลินมองผ้าปักผืนใหญ่ที่อยู่ห้องโถงอย่างหลงใหล ถึงแม้จะยังไม่เสร็จนางก็ดูออกว่าหากหงส์ตัวนั้นถูกปักเสร็จเมื่อใดคงงดงามมากเป็นแน่“หากหลินเออร์ชอบจะมาให้ข้าสอนก็ได้” อี้หนิงเอ่ยขึ้นอย่างใจดี เมื่อเห็นสายตาของจือหลินมองที่ผ้าปักอย่างพอใจ“มิเป็นไรเจ้าค่ะ หากท่านสอนข้าคงเสียเวลาหลายปี”จือหลินนางไม่ถนัดทางนี้ ต่อให้เรื่องเย็บแผลนางจะทำออกมาได้ไร้ที่ติ แต่เรื่องจับเข็มเย็บผ้าหรือให้มานั่งปักผ้านางขอผ่าน นางมีความอดทนกับเรื่องนี้ได้ไม่มากพอจือหลินเดินตามอี้หนิงเข้าไปด้านในของห้อง นางทักทายพรานกงที่พยุงตัวขึ้นพิงหัวเตียง จือหลินนางเดินไปที่ปลายเตียงเพื่อตรวจดูบาดแผลของพรานกง“ข้าขอดูได้หรือไม่เจ้าคะ” นางเห็นการพันแผลของหมอยุคนี้แล้วนางอย่างจะกุมขมับ“มันใช่เรื่องที่เจ้าจะมาเล่นหรือเจ้าเด็กน้อย” ชิงชางเพิ่งจะยอมเอ

    Last Updated : 2025-01-13
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เจ้าบอกข้าได้ทุกเมื่อ

    นางนั่งพักเพื่อรอให้พรานกงฟื้นขึ้นมาก่อนที่นางจะเดินออกไปเรียกอี้หนิงและชิงชางที่นั่งรออยู่ด้านนอกอย่างร้อนใจให้เข้ามาด้านในห้อง“ต่อไปท่านก็เพียงทำความสะอาดบาดแผลทุกวันก็พอเจ้าค่ะ” จือหลินไม่สนใจสายตาที่มองมาที่นางอย่างตกตะลึงของชิงชางนางหันไปพูดกับอี้หนิงเรื่องทำความสะอาดบาดแผลแทน นางให้ใช้น้ำต้มสุกล้างในรอบแรก น้ำที่สองนางให้ใช้น้ำต้มสุกผสมเกลือเล็กน้อยล้างอีกครั้ง อี้หนิงก็ตั้งใจฟังอย่างดี“ยานี่ให้ท่านลุงกินหลังมื้ออาหาร หากมีอาการปวดให้ทานเม็ดนี้ทุกสองชั่วยาม หากท่านทนได้ก็ไม่ต้องทานเจ้าค่ะ” จือหลินส่งยาหน้าตาประหลาดที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นให้กับอี้หนิงเพราะนางเอ่ยเตือนไว้ว่าไม่ให้ถามสิ่งใดจากนาง พวกเขาจึงไม่กล้าเอ่ยถาม มีเพียงชิงชางที่อ้าปากจะเอ่ยถามหลายครั้งแต่ก็ถูกบิดามารดาถลึงตาห้ามไว้เสียก่อนชิงชางแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจือหลินเด็กสาวที่ชอบแอบมองเด็กในหมู่บ้านเล่นกันอยู่หลังต้นไม้เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่นางเดินเข้ามาขอเล่นด้วยยังถูกเด็กคนอื่นรังแกจนร้องไห้วิ่งกลับเรือน เขาที่ช่วยต่อว่าเด็กพวกนั้นในครั้งนั้นนางกลับจำไม่ได้เสียแล้วเขาไม่รู้ว่านางพบเจอเรื่องอันใดถึงเปลี่ยนไปได้มาก

    Last Updated : 2025-01-14
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   รับทรัพย์

    จือหลินนางเดินทางเข้าเมืองกว่างซีในวันต่อมาเพื่อหาซื้อของใช้ เสื้อผ้า และรถม้าเพื่อใช้เดินทางเข้าเมืองหลวงแต่ก่อนที่นางจะไปซื้อของ จือหลินนางไปที่ร้านขายยาเพื่อต้องการนำโสมพันปี ออกมาขายหนึ่งหัว“มาแล้วหรือแม่หนู ข้ารอเจ้าอยู่หลายวัน” เสี่ยวเอ้อต้อนรับลูกค้า เห็นจือหลินแล้วรีบเดินเข้ามาหานางทันที“มีอันใดหรือเจ้าคะ” จือหลินเอ่ยถามอย่างไม่เข้า“ท่านหมอหวงอยากพบเจ้า แต่ไม่รู้ว่าจะตามหาเจ้าจากที่ใด” ครั้งที่แล้วจือหลินนางมาขายเห็ดหลินจือ หมอหวงก็มัวแต่สนใจเพียงเห็ดจนไม่ได้ถามที่อยู่ของนางไว้จือหลินขมวดคิ้วอย่างไม่เข้า นางคิดว่าหรือท่านหมอรับซื้อเห็ดในราคาที่สูงเกินไปถึงอยากจะได้เงินจากนางคืน“หากท่านจะขอเงินคืน ข้าไม่ให้นะเจ้าคะ” จือหลินเปลี่ยนสีหน้าทันที“มิใช่ มิใช่ เจ้าตามข้ามาด้านในเสียก่อน” เสี่ยวเอ้อที่เห็นจือหลินกำลังจะเดินออกไปก็ร้องเรียกนางไว้ก่อน“ไม่เอาเงินคืนแน่นะเจ้าคะ” จือหลินเอ่ยถามย้ำ“ไม่เอาคืน ไม่เอาคืน” เสี่ยวเอ้อกวักมือเรียกให้นางเดินตามเข้าไปจือหลินเดินเข้ามาในห้องรับรองห้องเดียวกับที่นางเข้ามาในครั้งที่แล้ว เสี่ยวเอ้อออกไปตามท่านหมอหวง และหาของว่างกับน้ำชามาให้นา

    Last Updated : 2025-01-14

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   คู่บำเพ็ญเพียร(จบ)

    จือหลินนางพาชิงชางเข้าไปภายในมิติ ชิงชางเมื่อรู้ตอนนี้ตนอยู่ที่ใดเขาก็อุ้มจือหลินเข้าไปในห้องของนางนางรู้ว่าเขาต้องการทำสิ่งใดกับนางก็อดที่จะเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้“ท่านอยู่ในขั้นใด”“ข้าเร่งเดินลมปราณ เพื่อวันนี้หลินหลิน”ชิงชางไม่ยอมบอกนางแต่เขากับจุมพิตนางอย่างดูดดื่มแทน จือหลินราวกับต้องมนต์เมื่อได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนของเขาชิงชางไล้นิ้วไปตามเรือนร่างของนาง พร้อมทั้งปลดชุดของนางอย่างรวดเร็ว“เจ้างามยิ่งนักหลินหลิน” เมื่อได้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าของนาง เขาก็อดที่จะจ้องมองอย่างตกตะลึงมิได้จือหลินนางก็ไม่ได้มีท่าทีที่เขินอายเช่นหญิงสาวทั่วไป กลับใจกล้ากว่าที่เขาคิด เพียงนางช้อนสายตายั่วยวนเขา ชิงชางก็รีบปลดชุดออกด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะขึ้นคร่อมตัวนางพร้อมกับมอบจุมพิตที่ร้อนแรงเต็มไปด้วยไฟปรารถนา จือหลินโอบรอบคอของเขาไว้ พร้อมทั้งใช้มือที่ซุกซนของนางสัมผัสไปที่เครื่องเพศของเขาโดยตรง“หลินหลิน เจ้าช่าง ซุก ซนนัก” ชิงชางเอ่ยแสงสั่นเทาออกมาอย่างไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้จือหลินนางเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าที่อดกลั้นของเขา แต่ต่อมานางก็รู้ตัวว่านางนั้นคิดผ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ออกเดินทาง

    ภายในมิติผ่านมาได้สองปี แต่ด้านนอกเพียงผ่านไปแล้วสี่เดือนเท่านั้น ชิงชางก็คิดจะออกไปจัดการเรื่องของตนในวังหลวง แม้แต่ขั้นระดับเขาก็ไม่ให้จือหลินตรวจสอบนางก็ไม่ว่าอันใด พาเขาออกไปส่งด้านนอกอย่างที่เขาต้องการ ชิงชางมองจือหลินอย่างลึกซึ้งก่อนจะเดินจากไปโดยที่เขาไม่เอ่ยอันใดสักคำจือหลินยืนมองแผ่นหลังของเขาอย่างสะท้านในอก นางคิดว่าตัวนางไม่อยากยึดติดหรือหวังในตัวของชิงชางแล้วแต่ก็ยังอดเศร้าใจไม่ได้“ชางเออร์เจ้ากลับมาเสียที” หลีจิ้งมองบุตรชายที่รูปร่างและกลิ่นอายที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแปลกใจ“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกมีเรื่องจะพูดกับพวกท่าน”“หากเป็นเรื่องของหลินเออร์ พ่อเข้าใจ แต่เจ้าก็ต้องรู้ว่าต่อไปเจ้ามิอาจมีนางเพียงผู้เดียวได้”หลีจิ้งมองบุตรชายอย่างจริงจัง เพราะตัวเขาที่คิดจะมีเพียงอี้หนิงในวังหลังเพียงหนึ่งเดียวยังไม่อาจทำได้เขาจำต้องรับบุตรสาวของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ทั้งผู้ที่เคยช่วยเหลือจนเขาได้นั่งในบัลลังก์ครั้งนี้ไว้อย่างเสียไม่ได้เพียงปีเดียวก็มีพระสนมมากถึงนับสิบคนแล้วชิงชางฟังคำพูดของบิดาหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด“ลูกไม่คิดจะเป็นฮ่องเต้เช่นเสด็จพ่อ ลูกต้องการออกเดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ความมุ่งมั่นของชิงชาง

    ชิงชางอับอายจนใบหูของเขาแดงก่ำ ตัวเขาจะเคยทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร ที่ทำกับนางก็เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันแล้วสตรีเช่นนางกับพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้อย่างไม่อายบอก หรือว่านางเคยถูกผู้ใดจุมพิตมาแล้วชิงชางยิ่งคิดก็ยิ่งเกิดอาการหึงหวง เขาเดินเข้าไปจับใบหน้าของนางไว้แล้วจุมพิตนางอีกครั้งอย่างรุนแรงแต่ครั้งนี้จือหลินนางตกตะลึงอย่างแท้จริง เพราะไม่คิดว่าชิงชางจะจุมพิตนางอีกครั้ง นางคิดว่าคำพูดของนางจะทำให้เขาเกิดอยากเปลี่ยนใจจือหลินกลับเป็นฝ่ายดึงรั้งคอของชิงชางไว้ แล้วเริ่มใช้เรียวลิ้นของนางหยอกล้อกับเรียวลิ้นของชิงชางแทนในตอนแรกชิงชางก็นิ่งชะงักอย่างตกตะลึง เขาไม่คิดว่านางจะจุมพิตได้ช่ำชองเช่นนี้ แต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นความรัญจวนที่นางมอบให้ทั้งสองไม่รู้ว่าตนจุมพิตกันนานเพียงใด แต่เมื่อจือหลินนางถอนริมฝีปากออก ชิงชางกลับอาลัยอาวรณ์อย่างไม่สิ้นสุด“หลินเออร์ เหตุใดเจ้า”“ท่านอยากจะรู้ว่าเหตุใดข้าถึงจุมพิตเป็นใช่หรือไม่”จือหลินนางจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้าอย่างหยอกล้อ ก่อนจะเล่าเรื่องที่นางไม่ใช่คนในภพนี้ให้ชิงชางได้ฟังทั้งคู่เข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นที่โซฟาแทนห้องทดลองของจือหลินนางบอกเล่า

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เจ้ากลับมาแล้ว

    บ่าวไพร่ในจวนตระกูลถานรวมทั้งองครักษ์ของชิงชางต่างแตกตื่นกันให้วุ่น เพราะเรื่องที่จือหลินและชิงชางหายตัวไปจากห้องนอนในเรือนของป๋อฉิวอย่างไร้ร่องรอยลี่อินที่ยังไม่หายดีก็ให้ตงฟางประคองตนมาที่ห้องของจือหลินอย่างร้อนใจจือหลินนางออกทันเห็นคนกำลังเข้าช่วยมารดาที่หมดสติอยู่ในห้องของนางพอดี“เกิดเรื่องใดขึ้นหรือเจ้าคะ” เสียงของนางทำให้ทุกคนหยุดนิ่งอยู่กับที่ คนที่มีสติที่สุดเห็นจะเป็นตงฟางที่วิ่งเข้ามากอดเอวพี่สาวไว้แน่น แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครจือหลินต้องลูบหลังปลอบประโลมเขาอยู่พักใหญ่กว่าจะเงียบเสียงลง คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตงฟางต้องแสร้งเข้มแข็งมากเพียงใด เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับพี่สาวของตน เพราะเขาต้องดูแลมารดาที่ล้มป่วยทั้งยังน้องชายคนเล็กที่เสียขวัญอีกด้วย“หลินเออร์ เจ้ากลับมาหาแม่แล้ว” ลี่อินเมื่อได้สติก็ลุกขึ้นดึงตัวบุตรสาวเข้ามาสวมกอดอย่างหวงแหนท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อบ่าวไปแจ้งว่าพบตัวจือหลินแล้วก็รีบร้อนเดินมาทันที“หลินเออร์” ผู้เฒ่าถานมองหลานสาวด้วยดวงตาที่เออคลอไปด้วยน้ำตาส่วนฮูหยินผู้เฒ่าถานเดินเข้ามาสวมดอกนางไม่ต่างจากที่ลี่อินทำเลย“พวกท่านใจเย็นก่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ท่านเข้ามาได้อย่างไร

    ภายนอกมิติต่างวิ่งวุ่นตามหมอกันไปทั่ว เพราะหลายวันแล้วที่จือหลินนางนอนอย่างไม่ได้สติ พวกเขาที่รอเวลาให้นางตื่นก็ไม่อาจทนรอได้อีกหมอที่มาตรวจก็ไม่อาจหาสาเหตุที่ทำให้จือหลินนางหมดสติเช่นนี้ได้ เพราะร่างกายของนางเหมือนกับคนที่หลับสนิทเท่านั้นหลีจิ้งเมื่อจัดการเรื่องภายในวังหลวงเสร็จสิ้นก็มารับอี้หนิงกับอวี่ซีกลับเข้าวังหลวง เพื่อสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้และฮองเฮาพระองค์ใหม่ป๋อฉิวถูกราชโองการแต่งตั้งเป็นเสนาบดีกรมกลาโหมทันทีที่หลีจิ้งขึ้นนั่งบัลลังก์ เขาไม่ได้รู้สึกยินดีกับตำแหน่งที่ได้จวนตระกูลถานยังไม่เปิดรับผู้คนที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี เพราะบุตรสาวที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่ในเรือนของเขาชิงชางเมื่อช่วยบิดาจัดการเรื่องในวังหลวงเสร็จสิ้น ตัวเขาก็แทบจะอยู่ที่จวนตระกูลถานไม่ยอมขยับไปที่ใด ได้แต่นั่งเฝ้าจือหลินที่นอนหลับอยู่บนเตียงเขามักจะนำตำรา หรือเรื่องที่พบเจอมาตลอดที่ไม่ได้อยู่กับนางมาเล่าให้นางฟัง จนคนที่เข้ามาพบเห็นอกเห็นใจเขาไม่ได้ป๋อฉิวก็ไม่ทำใจไล่เข้ากลับวังไม่ลง จึงปล่อยให้เขานั่งพูดอยู่เช่นนั้น เรื่องร้านค้าของจือหลินก็ไม่มีปัญหา เพราะของที่นางทำไว้ยังมีอีกมาก ลี่อินที่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ห้วงมิติเปลี่ยนแปลง

    ป๋อฉิวไม่เคยเห็นด้านที่อ่อนแอเช่นนี้ของนาง เขาอดที่จะจุกในอกไม่ได้ สุดท้ายแล้วอย่างไรนางก็เป็นเด็กสาวที่ต้องการคนปลอบประโลมชิงชางกับหลีจิ้งทรุดตัวลงอย่างสิ้นแรง ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากการระเบิดพลังครั้งนี้ของจือหลินแต่เพียงไม่นาน ร่างกายที่ทุกคนได้รับบาดเจ็บ แม้แต่โรคที่รักษาไม่หายเมื่อถูกแสงสีขาวของจือหลินต่างก็หายราวปาฏิหาริย์ เรื่องนี้ชาวเมืองที่หนีไม่ทันจากแสงก็รับรู้ได้เช่นกันชาวชราที่เดินกลับเรือนเขาไม่อาจวิ่งหนีได้เช่นคนหนุ่มสาว เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งร่างกายที่ทรุดโทรมก็กลับแข็งแรงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจคนขอทานที่ขาหัก ล้มอยู่ที่พื้น เพราะโดนชนจนหนีไม่ทันก็กลับมาลุกขึ้นเดินได้เมื่อแสงสีขาวหายไปกลายเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว ชาวเมืองทั้งหมดต่างออกจากเรือนเพื่อมารอแสงสีขาวอีกครั้ง แต่ก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลยป๋อฉิวประคองบุตรสาวขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะร่ำลาสองพ่อลูกกับจวนของตนไป“หลินเออร์” ชิงชางร้องเรียกนาง“ท่านจัดการเรื่องของท่านเถิด ข้าจะกลับจวนเพื่อไปดูมารดาและน้องชาย” จือหลินนางไม่ได้หันไปมองชิงชางเลยสักนิดจือหลินพูดจบนางก็หมดสติไปทันที เพราะการระเบิดพลังและการเลื่อนขั้นที่เกิดข

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   การระเบิดพลังของจือหลิน

    ป๋อฉิวจ้องมองฉีหลีเจียวอย่างโกรธแค้น ไม่รู้ว่าเมื่อคนของเขาไปถึงจวนตระกูลถานบุตรสาวจะออกจากการกักตัวแล้วหรือยังต่อให้ใบหน้าของเขาเรียบเฉยมากเพียงใด แต่ในอกของเขากับสะท้านอย่างหวาดกลัว กลัวว่าคนในตระกูลจะเคราะห์ร้ายไปกับเขาด้วยจือหลินนางมาถึงประตูวังหลวงเพียงลำพังหลังจากที่นางใช้ปราณรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดแล้วก็ออกเดินทางมาทันที“มีป้ายคำสั่งเข้าวังหรือไม่” ทหารหน้าประตูวังเอ่ยถามจือหลินเขามองนางอย่างแปลกใจ นางไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวังหลวงหรือ จึงได้อาจหาญเข้ามาวังหลวงเช่นนี้“ไม่มี” นางเอ่ยเสียงเหยียบเย็น“กลับไปเสีย ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน” ทหารดึงกระบี่ออกมาข่มขู่จือหลินเพียงแค่นางปรายตาไปมอง ลมปราณในร่างของนางก็ทำให้ทหารที่กำลังถือกระบี่ข่มขู่นางกระเด็นถอยหลังไปกระแทกกับประตูวังจนหมดสติเสียงร้องตกใจของทหารที่อยู่รอบบริเวณนั้น วิ่งมาทางนาง เพื่อจัดการกับนางทันทีจือหลินโบกมืออย่างนึกรำคาญ นางไม่มีเวลามากพอที่จะเล่นสนุกกับพวกเขาฉีหลีเจียวดึงกระบี่ขององครักษ์ออกมาหวังจะบั่นคอป๋อฉิวอย่างมีโทสะ ก็ถูกองครักษ์ที่อยู่หน้าประตูคุกใต้ดินวิ่งเข้ามาแจ้งเรื่องผู้บุกรุก

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   บิดาข้าอยู่ที่ใด

    จือหลินเดินลมปราณโดยไร้สิ่งรบกวน นางนั่งจนลืมวันลืมคืนเช่นเดิม ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด สิ่งที่จือหลินรับรู้ได้ครั้งนี้ ร่างกายของนางเลื่อนระดับได้เร็วขึ้นเพราะทนความเจ็บปวดจากลมปราณทั้งห้าที่ขยายใหญ่ขึ้นได้ ตัวนางจึงนั่งต่อไปเรื่อยๆ“หลินเออร์ บิดาเจ้าตกอยู่ในอันตราย” เสียงของชิงชางที่ออกมาจากหยกสื่อสารทำให้จือหลินนางหลุดออกจากการเลื่อนระดับดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับสัตว์ร้าย“บิดาข้าอยู่ที่ใด” น้ำเสียงของจือหลินที่สื่อสารกลับไปเต็มไปด้วยไอสังหาร จนชิงชางที่ถือหยกสื่อสารในมืออดสั่นสะท้านไม่ได้แรงโทสะของจือหลินเมื่อรู้ว่าบิดาของนางกำลังได้รับอันตราย ทำให้ค่ายกลที่ววางไว้ระเบิดออก เรือนของนางเสียหายไปกว่าครึ่ง ค่ายกลทั้งหมดถูกทำลายลงคนภายในจวนตระกูลถานรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ต่างพากันวิ่งมาที่เรือนของจือหลิน“คะ คุณหนู ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่ขอรับ” พ่อบ้านถานคือคนแรกที่เขามาถามนางอย่างใจกล้า เพราะไม่มีบ่าวคนใดกล้าเดินเข้ามาใกล้นางในยามนี้นอกจากแววตาที่ลุกโชนไปด้วยโทสะของนางแล้ว ร่างกายของนางยังมีเปลวไฟแผดเผาไปทุกย่างก้าวที่นางเดิน“หลินเออร์/พี่หญิง” ลี่อินกับตงฟางเ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   อักขระสื่อสาร

    แต่ผู้ใดในจวนตระกูลถานจะคิด ว่าวันต่อมาดอกไม้มากมายก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลถาน พร้อมทั้งผู้ส่งขอไม่รับเป็นเงิน ขอแลกกับน้ำหอมเพียงหนึ่งขวดเท่านั้นผู้อาวุโสต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาเพียงจือหลินที่หัวเราะร่วนอย่างชอบใจ มีคนนำของมาให้เช่นนี้นางจะไม่รับไว้ได้อย่างไร แล้วก็แรกกับน้ำหอมเพียงขวดเดียวเท่านั้นจือหลินนางก็แสนจะฉลาด นำน้ำหอมจากภพของนางบรรจุลงในขวดกระเบื้องธรรมดาที่นางนำไปวางขาย มอบให้ผู้ที่ส่งดอกไม้มาให้ที่จวนกลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเมืองหลวง เพราะน้ำหอมที่เขาได้ ไม่มีวางขายในเมืองหลวงตอนนี้วันต่อๆ มา ดอกไม้หาอยากที่มีกลิ่นหอมก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลถานมากมาย จนบ่าวในจวนไม่มีเวลาได้พักหายใจ เพราะถูกคุณหนูใช้ให้ทั้งเด็ด ล้าง ตาก ดอกไม้ทั้งหมดที่ได้มาจือหลินนางก็ไม่ได้ใช้เปล่าๆ นางมอบสินน้ำใจให้อย่างเต็มที่ บ่าวในเรือนแม้จะเหนื่อยเพิ่มแต่ก็ยินยอมทำอย่างไม่ปริปากบ่นถึงแม้นางจะมีดอกไม้ไว้ทำน้ำหอมจำนวนมากแล้ว แต่น้ำหอมที่นำออกวางขายก็ยังมีเท่าเดิม ยิ่งทำให้สินค้าของนางกลายเป็นที่พูดถึง จนพ่อค้าจากต่างแคว้นและหัวเมืองอื่นๆ เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อมาทำการค้ากับนางแต่ราคาที่จือหล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status