แชร์

มอบของขวัญ

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-17 01:21:28

จือหลินเมื่อได้ฟังคำสารภาพแล้ว ความโกรธแค้นของนางก็ปะทุขึ้นเกินจะควบคุมได้อีก นางฆ่าทั้งสามทิ้งอย่างไร้ความรู้สึก เสียงร้องขอชีวิตของทั้งสามดังจนลี่อินที่อยู่ในรถม้าต้องยกมือขึ้นปิดหู

จือหลินตัดศีรษะของทั้งสามโยนเข้าไปในมิติของนาง ก่อนที่จะนำยาสลายเนื้อออกจากจากในมิติเพื่อทำลายร่างกายของทั้งสามที่เหลืออยู่

จือหลินยืนมองร่างที่ไร้ศีรษะทั้งสามค่อยๆ ย่อยสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย คงเหลือไว้เพียงกองเลือดกองโตที่บอกว่าทั้งสามเคยมีชีวิตอยู่

นางขึ้นบังคับรถม้าเพื่อเข้าเมืองอีกครั้งอย่างไร้ความรู้สึก ในเมื่อกล้ามาหาเรื่องนางเช่นนี้ จินฮวานางก็มีของขวัญจะมอบให้นางก่อนจะจากกัน

เมื่อรถม้าของจือหลินเข้ามาในเมืองกว่างซีแล้ว นางก็แวะพักที่โรงเตี๊ยมก่อนหนึ่งคืน พรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางใหม่ เพราะคืนนี้นางมีเรื่องให้ไปจัดการ

“เหตุใดถึงแวะพักเสียแล้วเล่า” ลี่อินที่ถูกจือหลินพาเข้ามาในโรงเตี๊ยมเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

“ข้าจะนำของขวัญไปให้จินฮวาเจ้าค่ะ” นางเอ่ยบอกมารดาตามความจริง แต่ไม่ได้บอกว่าของขวัญที่นางจะให้คือสิ่งใด

เมื่อฟ้ามืดลง จือหลินนางก็เปลี่ยนเป็นชุดสีดำสนิทที่นางเพิ่งไปซื้อมาออกจากโรงเตี๊ยมไป นางควบม้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   จุดจบของจินฮวา

    เสียงร้องของนางจิ่วดังไปทั่วเรือนเมื่อเห็นบุตรชายของตนเหลือเพียงแค่ศีรษะเท่านั้น นางพุ่งเข้าไปตบตีจินฮวา เพราะนางเป็นคนให้เขามาพบนางที่เรือนความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเรือนตระกูลจินว่าผู้นำหมู่บ้านจะมาถึง สามคนพ่อแม่ลูกเนื้อตัวก็เต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทุบตี ของชาวบ้านอีกหมู่บ้านที่มาตามหาบุตรชายของตนเอง“เกิดเรื่องใดขึ้นอาฮวา” ผู้นำหมู่บ้านจางเอ่ยถามขึ้นเสียงดัง“อา อา อู้ อี้” นางส่งเสียงร้องได้เพียงเท่านี้ ไม่อาจพูดสิ่งใดออกมาได้ชาวบ้านมองมาที่จินฮวาอย่างตื่นตระหนก ผู้นำหมู่บ้านคิดว่านางแสร้งเป็นใบ้จึงให้คนไปตามท่านหมอมาตรวจร่างกายนางเสียงร้องของชาวบ้านอีกหมู่บ้านก็ช่างหน้าปวดหัว เพราะมีคนตายถึงสามคนจำต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบในหมู่บ้านท่านหมอก็หาสาเหตุที่ทำให้นางเป็นใบ้ทั้งยังสิ้นเรี่ยวแรงไม่ได้ แต่ก็บอกว่านางเป็นใบ้จริงมิได้แสร้งทำ ทั้งยังบอกว่านางไม่อาจจะหายได้อีกแล้วจินต้าโกวทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง เขาต้องมาดูแลบุตรสาวที่ไม่ได้เรื่องจนกว่าเขาหรือนางจะตายจากกันอีกหรืออี้เฉินที่แอบอยู่ในกลุ่มชาวบ้านก็ไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ๆ นางรู้เพียงมารดาบอกท่านลุงของนางให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ถ้ำในเมืองฝูหนาน

    จือหลินนางก็ขมวดคิ้วแน่นมองใบหน้าเด็กชายที่ยังไม่ลุกจากพื้นอย่างประหลาดใจ“คุณชายเหตุใดถึงล้มลงเช่นนี้ขอรับ” บ่าวของเด็กน้อยรีบเข้ามาประคองนายของตนขึ้น“ข้าเดินไม่ดีเลยชนนางเข้า” เขาเปลี่ยนท่าทางไปจนจือหลินต้องเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย“เจ้าเป็นอันใดหรือไม่” เขาเอ่ยถามจือหลินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“ไม่ คราวหลังก็อย่าวิ่งเช่นนี้อีก หากเป็นผู้อื่นมิใช่ข้า เจ้าคงได้ถูกตีเป็นแน่” จือหลินเอ่ยเตือนเขาก่อนที่จะเดินจากไป“คุณชาย” บ่าวของเด็กน้อยเอ่ยเรียกอย่างแปลกใจเพราะคุณชายของตนเอาแต่ใจยิ่งนัก นับตั้งแต่ที่สูญเสียมารดาเมื่อตอนสามหนาว เขาก็ถูกท่านปู่ท่านย่าตามใจจนแทบจะเสียเด็ก เรื่องที่ยอมผู้อื่นเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“เสี่ยวซง เจ้าว่าดวงตานางเหมือนข้าหรือไม่” ถานตงฟางเอ่ยถามบ่าวข้างกายของเขาอย่างเหม่อลอย“คุณชาย ท่านว่าอย่างไรนะขอรับ” เพราะเสียงของตงฟางแผ่วเบา เสี่ยงซงจึงไม่แน่ใจว่าเขาพูดว่าอะไร“ไม่มีอันใด ไปเถิด ประเดี๋ยวท่านย่ารอนาน” ตงฟางเดินเข้าไปเรือนรับรองที่อยู่ด้านหลังของโรงเตี๊ยมจือหลินเมื่อแยกกับตงฟางแล้ว นางก็ควบม้าไปทางภูเขา เพื่อไปสำรวจดูอย่างที่นางต้องการ บนภูเขาฝูหนานก็ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เจ้าเป็นเซียนหรือ

    ซูเว่ยบอกจือหลินผู้ฝึกต้นมีห้าระดับก่อนที่นางจะเลื่อนขั้นไปเป็นผู้บรรลุ จอมยุทธ์ ปรมาจารย์ เซียน ยอดเซียน เทพเซียน ตามลำดับจือหลินนิ่วหน้าทันที นานเพียงใดนางถึงจะได้เป็นเซียนเล่า“แล้วท่านอยู่ในระดับใด” จือหลินที่ยังไม่ได้คำนับซูเว่ยเป็นอาจารย์ก็ถามก่อนเพื่อความแน่ใจ“ข้าปรมาจารย์ขั้นห้า อีกเพียงขั้นเดียวข้าก็จะเป็นเซียนแล้ว” ในตอนแรกเขากล่าวอย่างภูมิใจก่อนที่จะมีสีหน้าผิดหวังในตอนท้ายจือหลินถอนหายใจออกมา นางอดสงสารเขาไม่ได้ไม่รู้ว่าฝึกมานานเพียงใด แต่ผมขาวบนหัวก็พอจะบอกได้ว่าเขาฝึกมานานแล้วนางคุกเข่าลงก่อนจะคำนับเขาสามครั้งแล้วเรียกว่าอาจารย์ออกมา“ข้าเป็นอาจารย์เจ้าแล้ว เอาสุรามาให้ข้าอีกขวด” จือหลินถอนหายใจก่อนจะนำสุราออกมา“เจ้ามีถุงเก็บของด้วยหรือ” เขาเอ่ยถามอย่างประหลาดใจที่เห็นจือหลินเรียกสิ่งของออกมาได้“ไม่มีเจ้าค่ะ ข้ามีมิติส่วนตัว” “ห๊า เจ้าเป็นเซียนแล้วหรือ” ซูเว่ยร้องออกมาเสียงดังจือหลินกลอกตา หากมีเพียงมิติเช่นนางแล้วเป็นเซียน นางจะคำนับเขาเป็นอาจารย์เพื่อเป็นผู้ฝึกตนได้อย่างไรจือหลินลองพาซูเว่ยเข้าไปในมิติของนาง เพราะเขาไม่มีชีวิตแล้วคงจะเข้ามิติของนางได้“สวรรค์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ลมปราณทั้ง5

    ในตอนแรกนางคิดว่าโดนตาเฒ่าซูวางยาพิษเสียแล้ว แต่เมื่อรอดตายมาได้ก็พบว่าร่างกายตอนนี้ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเช่นเดิมอีกแล้ว“กินยาเม็ดสีเขียวลงไปแล้วนั่งเดินลมปราณเสีย เจ้าต้องดึงลมปราณจากจุดตันเถียนทั้งห้ามารวมกันให้ได้” จือหลินมองหาซูเว่ยว่าเขาอยู่ที่ใดเสียงของเขาจึงเข้ามาอยู่ในห้องน้ำนางได้แต่เมื่อมองไปรอบๆ ห้องน้ำ ทั้งยังรีบแต่งตัวออกไปดูด้านนอก เขาก็ยังคงหลับอยู่บนโซฟาเช่นเดิม นางจึงเดินกลับไปที่ห้องนอนแล้วกินยาเม็ดสีเขียวลงไปจือหลินนั่งสมาธิแล้วกำหนดจิตตามที่เสียงของซูเว่ยที่ดังในหูของนางแนะนำจุดสีขาวแรกที่ปรากฏให้นางเห็นเมื่อสมาธิของนางเข้าทีเกิดขึ้นที่กลางหน้าผากของนาง“ดึงมาไว้ที่หน้าท้องของเจ้า เพ็งไปที่จุดกลางหน้าผากแล้วค่อยๆ ดึงลงมา” ซูเว่ยอดประหลาดใจในตัวลูกศิษย์ของเขาไม่ได้ ที่นางเพียงกำหนดจิตไม่นานก็เห็นแสงในจุดตันเถียนไวเพียงนี้จือหลินค่อยๆ ดึงมาตามคำบอกของอาจารย์อย่างช้าๆ เมื่อลงมาอยู่ที่หน้าท้องของนางได้แล้ว จือหลินนางก็จับจุดได้แล้วว่าควรทำเช่นไร เพียงหนึ่งชั่วยามต่อมาจุดตันเถียนทั้งห้านางก็สามารถดึงมาอยู่ที่กึ่งกลางท้องของนางได้สำเร็จแสงสว่างเปล่งประกายออกมาจากต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ตระกูลถาน

    จือหลินถูกเชิญเข้าไปนั่งรอที่เก้าอี้ภายในห้องโถง สาวใช้หายเข้าไปในห้องเพื่อช่วยประคองสตรีชราเดินเข้ามานั่งตำแหน่งประธานทั้งจือหลินและฮูหยินผู้เฒ่าถานมองประเมินกัน ก่อนที่จือหลินนางจะลุกขึ้นเพื่อคารวะผู้อาวุโส“เจ้าคงสงสัยว่าข้าเรียกเจ้ามาพบด้วยเรื่องอันใดสินะ” ฮูหยินผู้เฒ่าจิบเสร็จก่อนจะเอ่ยขึ้น“เจ้าค่ะ” “ฟางเออร์ บอกว่าพบแม่นางน้อยที่หน้าโรงเตี๊ยม ข้าจึงอยากจะพบเจ้า” ฮูหยินผู้เฒ่าจ้องมองจือหลินอย่างไม่วางตา“หากเป็นเรื่องที่เขาวิ่งมาชนข้าจนตัวเองล้มลง เรื่องนี้ข้าคิดว่าไม่อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ท่านเรียกตัวข้ามาพบได้” แววตาของจือหลินแข็งกร้าวขึ้น หากเขาจะเรียกนางมาทำโทษก็คงคิดผิดเสียแล้ว“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ช่างเหมือนกันจนน่าประหลาด เจ้าว่าใช่หรือไม่เสี่ยวถิง” ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะเสียงดัง เมื่อเห็นท่าทางและคำพูดที่เปลี่ยนไปของจือหลินนางยังเอ่ยถามสาวใช้ข้างกายว่าเห็นด้วยกับนางหรือไม่ สาวใช้ข้างกายก็อดพยักหน้าเห็นด้วยมิได้ แล้วมองจือหลินอย่างพิจารณา“ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านกล่าวเจ้าค่ะ หากไม่ได้เรียกข้ามาเพื่อกล่าวโทษ แล้วเรียกข้ามาด้วยเรื่องอันใดเจ้าคะ” จือหลินเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ“ก่อนท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   อาจารย์ข้า ซูเว่ย

    จือหลินมองป๋อฉิวก็รู้ว่าความเสียใจของเขาไม่ใช่สิ่งที่เขากำลังแสดงให้นางได้ดู“เช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าจะพาท่านแม่มาพบพวกท่าน ตอนนี้ข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ” จือหลินเอ่ยบอกเขาไปก่อนที่นางจะออกจากห้องไปทันทีหากนางยังช้าอยู่ไม่แน่พวกเขาอาจจะรั้งตัวนางไว้เพื่อถามเรื่องอื่นต่ออีกเป็นแน่เมื่อกลับมาถึงห้องพักจือหลินนางก็บอกกล่าวเรื่องที่นางไปรับรู้มาให้มารดาฟังลี่อินนั่งเหม่อลอยอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อนึกถึงเรื่องในหนนั้นนางไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะรู้สึกเช่นไร เมื่อได้พบบุรุษผู้นั้น นางไม่ได้แค้นเขาแล้วที่ทำให้นางต้องพบเจอเรื่องโหดร้ายมานับสิบปีแต่จะให้ขอบคุณที่ทำให้นางมีชีวิตต่อเพื่ออยู่ดูแลบุตรสาวก็คงทำไม่ลง“ท่านแม่ เช่นนั้นท่านพักผ่อนเสียก่อน หากไม่อยากไปพบพวกเขา เราเดินทางเข้าเมืองหลวงแต่เช้าเลยก็ได้เจ้าค่ะ” จือหลินหยิบยาคลายเครียดเพื่อช่วยให้มารดาหลับสบายขึ้นในคืนนี้เมื่อส่งมารดาเข้านอนจนนางหลับสนิทแล้ว จือหลินนางก็กลับเข้าไปในมิติอีกครั้งเพียงเข้ามานางก็ได้กลิ่นสุราคละคลุ้งไปหมด จือหลินนางรู้สึกว่าประสาทการรับรู้ของนางชัดขึ้นหลังจากที่นางเปิดจุดลมปราณได้แล้ว“เอาไปอ่าน แล้วทำตามตำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ท่านย่า

    จือหลินนางไม่เข้าใจว่าเหตุใดป๋อฉิวถึงได้ตื่นตระหนกมากเพียงนี้เมื่อได้ยินนามอาจารย์ของนาง“เหอะ ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่เชื่อข้า” ซูเว่ยเอ่ยออกมาอย่างดูแคลน เมื่อเห็นว่าศิษย์ของตนไม่เคยเชื่อเขา“จะ เจ้า พบเขาที่ใด” ป๋อฉิวจ้องมองจือหลินอย่างค้นหา“ท่านต้องการให้ข้าบอกเขาเรื่องท่านหรือไม่” จือหลินสื่อสารถามอาจารย์ซู“ไม่จำเป็น ข้าต้องการให้หลุมศพของข้าอยู่อย่างสงบ บอกเขาไปว่าข้าสิ้นใจแล้ว” อาจารย์ซูไม่ต้องการให้ผู้ใดนอกจากจือหลินรู้ที่ฝั่งร่างของเขา“ท่านอาจารย์สิ้นแล้วเจ้าค่ะ” จือหลินเอ่ยตอบตามที่อาจารย์ซูแจ้ง“เช่นนั้นหรือ” ป๋อฉิวพึมพำเบาๆ อย่างเสียดายที่เขาไม่มีวาสนาจะได้พบจือหลินกับมารดาเมื่อเห็นว่าวันนี้ยังไม่สะดวกที่ทั้งคู่จะพูดคุยกับป๋อฉิวนางจึงขอตัวกลับที่พัก แต่ก่อนที่จะไปนางบอกเรื่องการดูแลฮูหยินผู้เฒ่า และข้อควรระวัง“ขอบใจเจ้ามาก” ป๋อฉิวมองสองแม่ลูกอย่างลึกซึ้งแม้ทั้งคู่จะรู้เรื่องที่เขาเป็นบิดาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลี่อินหรือจือหลินนางไม่เอ่ยเรื่องที่จะให้เขารับเข้าจวนหรือพูดเรื่องให้เขาดูแลเลยสักคำ“ท่านแม่หากไม่มีอันใด ท่านก็พักก่อนเถิดเจ้าค่ะ ลูกจะเข้าไปด้านใน” จือหลินนางจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เซียวเข่อ

    จือหลินกลอกตามองตงฟาง เจ้าตัวเล็กวิ่งมานั่งแทรกระหว่างนางกับมารดา ราวกับเป็นบุตรชายของมารดานางอีกคนเสียอย่างนั้น“แล้วเจ้าไม่มีที่นั่งแล้วหรืออย่างไร ถึงต้องมานั่งเบียดข้าเช่นนี้” จือหลินเอ่ยถามตงฟางเสียงเรียบ“ข้าอยากนั่งข้างท่าน และก็อยากนั่งข้างท่านแม่ด้วย” ตงฟางเบิกตากลมโตมองจือหลินอย่างใสซื่อ จนนางก็คิดว่าพูดกับเขาหนักเกินไปหรือไม่“ฟางเออร์” ป๋อฉิวเอ่ยเสียงดุบุตรชาย ที่ทึกทักว่าลี่อินเป็นมารดาของตนไปแล้ว“ดีดีดี” แต่ฮูหยินผู้เฒ่ากับแม่นมของตงฟางกับพยักหน้าอย่างยินดีหากลี่อินยอมเข้าจวนตระกูลถาน คุณชายน้อยของพวกตนก็จะได้มีมารดากับเขาเสียที แม้จะให้นายท่านถานหาฮูหยินคนใหม่เขาก็ไม่ยอมแต่งผู้ใดเสียที“ท่านย่า ขอข้าตรวจร่างกายท่านได้หรือไม่เจ้าคะ” จือหลินแอ่ยขึ้น หากนางเป็นเบาหวานอย่างที่จือหลินคิด ก็ควรจะรักษาเสียแต่เนิ่น“ดียิ่ง” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างยินดี เพราะโรคของนางหากกำเริบขึ้นมาทีก็สร้างความทรมานให้นางมากนักจือหลินให้สาวใช้ช่วยประคองฮูหยินผู้เฒ่าถานเข้าไปด้านในของห้อง และขอให้ออกไปรออยู่ด้านนอกสาวใช้เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าถานพยักหน้าอนุญาตนางก็เดินออกไปรออยู่ที่หน้าประตู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   คู่บำเพ็ญเพียร(จบ)

    จือหลินนางพาชิงชางเข้าไปภายในมิติ ชิงชางเมื่อรู้ตอนนี้ตนอยู่ที่ใดเขาก็อุ้มจือหลินเข้าไปในห้องของนางนางรู้ว่าเขาต้องการทำสิ่งใดกับนางก็อดที่จะเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้“ท่านอยู่ในขั้นใด”“ข้าเร่งเดินลมปราณ เพื่อวันนี้หลินหลิน”ชิงชางไม่ยอมบอกนางแต่เขากับจุมพิตนางอย่างดูดดื่มแทน จือหลินราวกับต้องมนต์เมื่อได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนของเขาชิงชางไล้นิ้วไปตามเรือนร่างของนาง พร้อมทั้งปลดชุดของนางอย่างรวดเร็ว“เจ้างามยิ่งนักหลินหลิน” เมื่อได้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าของนาง เขาก็อดที่จะจ้องมองอย่างตกตะลึงมิได้จือหลินนางก็ไม่ได้มีท่าทีที่เขินอายเช่นหญิงสาวทั่วไป กลับใจกล้ากว่าที่เขาคิด เพียงนางช้อนสายตายั่วยวนเขา ชิงชางก็รีบปลดชุดออกด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะขึ้นคร่อมตัวนางพร้อมกับมอบจุมพิตที่ร้อนแรงเต็มไปด้วยไฟปรารถนา จือหลินโอบรอบคอของเขาไว้ พร้อมทั้งใช้มือที่ซุกซนของนางสัมผัสไปที่เครื่องเพศของเขาโดยตรง“หลินหลิน เจ้าช่าง ซุก ซนนัก” ชิงชางเอ่ยแสงสั่นเทาออกมาอย่างไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้จือหลินนางเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าที่อดกลั้นของเขา แต่ต่อมานางก็รู้ตัวว่านางนั้นคิดผ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ออกเดินทาง

    ภายในมิติผ่านมาได้สองปี แต่ด้านนอกเพียงผ่านไปแล้วสี่เดือนเท่านั้น ชิงชางก็คิดจะออกไปจัดการเรื่องของตนในวังหลวง แม้แต่ขั้นระดับเขาก็ไม่ให้จือหลินตรวจสอบนางก็ไม่ว่าอันใด พาเขาออกไปส่งด้านนอกอย่างที่เขาต้องการ ชิงชางมองจือหลินอย่างลึกซึ้งก่อนจะเดินจากไปโดยที่เขาไม่เอ่ยอันใดสักคำจือหลินยืนมองแผ่นหลังของเขาอย่างสะท้านในอก นางคิดว่าตัวนางไม่อยากยึดติดหรือหวังในตัวของชิงชางแล้วแต่ก็ยังอดเศร้าใจไม่ได้“ชางเออร์เจ้ากลับมาเสียที” หลีจิ้งมองบุตรชายที่รูปร่างและกลิ่นอายที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแปลกใจ“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกมีเรื่องจะพูดกับพวกท่าน”“หากเป็นเรื่องของหลินเออร์ พ่อเข้าใจ แต่เจ้าก็ต้องรู้ว่าต่อไปเจ้ามิอาจมีนางเพียงผู้เดียวได้”หลีจิ้งมองบุตรชายอย่างจริงจัง เพราะตัวเขาที่คิดจะมีเพียงอี้หนิงในวังหลังเพียงหนึ่งเดียวยังไม่อาจทำได้เขาจำต้องรับบุตรสาวของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ทั้งผู้ที่เคยช่วยเหลือจนเขาได้นั่งในบัลลังก์ครั้งนี้ไว้อย่างเสียไม่ได้เพียงปีเดียวก็มีพระสนมมากถึงนับสิบคนแล้วชิงชางฟังคำพูดของบิดาหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด“ลูกไม่คิดจะเป็นฮ่องเต้เช่นเสด็จพ่อ ลูกต้องการออกเดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ความมุ่งมั่นของชิงชาง

    ชิงชางอับอายจนใบหูของเขาแดงก่ำ ตัวเขาจะเคยทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร ที่ทำกับนางก็เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันแล้วสตรีเช่นนางกับพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้อย่างไม่อายบอก หรือว่านางเคยถูกผู้ใดจุมพิตมาแล้วชิงชางยิ่งคิดก็ยิ่งเกิดอาการหึงหวง เขาเดินเข้าไปจับใบหน้าของนางไว้แล้วจุมพิตนางอีกครั้งอย่างรุนแรงแต่ครั้งนี้จือหลินนางตกตะลึงอย่างแท้จริง เพราะไม่คิดว่าชิงชางจะจุมพิตนางอีกครั้ง นางคิดว่าคำพูดของนางจะทำให้เขาเกิดอยากเปลี่ยนใจจือหลินกลับเป็นฝ่ายดึงรั้งคอของชิงชางไว้ แล้วเริ่มใช้เรียวลิ้นของนางหยอกล้อกับเรียวลิ้นของชิงชางแทนในตอนแรกชิงชางก็นิ่งชะงักอย่างตกตะลึง เขาไม่คิดว่านางจะจุมพิตได้ช่ำชองเช่นนี้ แต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นความรัญจวนที่นางมอบให้ทั้งสองไม่รู้ว่าตนจุมพิตกันนานเพียงใด แต่เมื่อจือหลินนางถอนริมฝีปากออก ชิงชางกลับอาลัยอาวรณ์อย่างไม่สิ้นสุด“หลินเออร์ เหตุใดเจ้า”“ท่านอยากจะรู้ว่าเหตุใดข้าถึงจุมพิตเป็นใช่หรือไม่”จือหลินนางจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้าอย่างหยอกล้อ ก่อนจะเล่าเรื่องที่นางไม่ใช่คนในภพนี้ให้ชิงชางได้ฟังทั้งคู่เข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นที่โซฟาแทนห้องทดลองของจือหลินนางบอกเล่า

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เจ้ากลับมาแล้ว

    บ่าวไพร่ในจวนตระกูลถานรวมทั้งองครักษ์ของชิงชางต่างแตกตื่นกันให้วุ่น เพราะเรื่องที่จือหลินและชิงชางหายตัวไปจากห้องนอนในเรือนของป๋อฉิวอย่างไร้ร่องรอยลี่อินที่ยังไม่หายดีก็ให้ตงฟางประคองตนมาที่ห้องของจือหลินอย่างร้อนใจจือหลินนางออกทันเห็นคนกำลังเข้าช่วยมารดาที่หมดสติอยู่ในห้องของนางพอดี“เกิดเรื่องใดขึ้นหรือเจ้าคะ” เสียงของนางทำให้ทุกคนหยุดนิ่งอยู่กับที่ คนที่มีสติที่สุดเห็นจะเป็นตงฟางที่วิ่งเข้ามากอดเอวพี่สาวไว้แน่น แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครจือหลินต้องลูบหลังปลอบประโลมเขาอยู่พักใหญ่กว่าจะเงียบเสียงลง คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตงฟางต้องแสร้งเข้มแข็งมากเพียงใด เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับพี่สาวของตน เพราะเขาต้องดูแลมารดาที่ล้มป่วยทั้งยังน้องชายคนเล็กที่เสียขวัญอีกด้วย“หลินเออร์ เจ้ากลับมาหาแม่แล้ว” ลี่อินเมื่อได้สติก็ลุกขึ้นดึงตัวบุตรสาวเข้ามาสวมกอดอย่างหวงแหนท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อบ่าวไปแจ้งว่าพบตัวจือหลินแล้วก็รีบร้อนเดินมาทันที“หลินเออร์” ผู้เฒ่าถานมองหลานสาวด้วยดวงตาที่เออคลอไปด้วยน้ำตาส่วนฮูหยินผู้เฒ่าถานเดินเข้ามาสวมดอกนางไม่ต่างจากที่ลี่อินทำเลย“พวกท่านใจเย็นก่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ท่านเข้ามาได้อย่างไร

    ภายนอกมิติต่างวิ่งวุ่นตามหมอกันไปทั่ว เพราะหลายวันแล้วที่จือหลินนางนอนอย่างไม่ได้สติ พวกเขาที่รอเวลาให้นางตื่นก็ไม่อาจทนรอได้อีกหมอที่มาตรวจก็ไม่อาจหาสาเหตุที่ทำให้จือหลินนางหมดสติเช่นนี้ได้ เพราะร่างกายของนางเหมือนกับคนที่หลับสนิทเท่านั้นหลีจิ้งเมื่อจัดการเรื่องภายในวังหลวงเสร็จสิ้นก็มารับอี้หนิงกับอวี่ซีกลับเข้าวังหลวง เพื่อสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้และฮองเฮาพระองค์ใหม่ป๋อฉิวถูกราชโองการแต่งตั้งเป็นเสนาบดีกรมกลาโหมทันทีที่หลีจิ้งขึ้นนั่งบัลลังก์ เขาไม่ได้รู้สึกยินดีกับตำแหน่งที่ได้จวนตระกูลถานยังไม่เปิดรับผู้คนที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี เพราะบุตรสาวที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่ในเรือนของเขาชิงชางเมื่อช่วยบิดาจัดการเรื่องในวังหลวงเสร็จสิ้น ตัวเขาก็แทบจะอยู่ที่จวนตระกูลถานไม่ยอมขยับไปที่ใด ได้แต่นั่งเฝ้าจือหลินที่นอนหลับอยู่บนเตียงเขามักจะนำตำรา หรือเรื่องที่พบเจอมาตลอดที่ไม่ได้อยู่กับนางมาเล่าให้นางฟัง จนคนที่เข้ามาพบเห็นอกเห็นใจเขาไม่ได้ป๋อฉิวก็ไม่ทำใจไล่เข้ากลับวังไม่ลง จึงปล่อยให้เขานั่งพูดอยู่เช่นนั้น เรื่องร้านค้าของจือหลินก็ไม่มีปัญหา เพราะของที่นางทำไว้ยังมีอีกมาก ลี่อินที่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ห้วงมิติเปลี่ยนแปลง

    ป๋อฉิวไม่เคยเห็นด้านที่อ่อนแอเช่นนี้ของนาง เขาอดที่จะจุกในอกไม่ได้ สุดท้ายแล้วอย่างไรนางก็เป็นเด็กสาวที่ต้องการคนปลอบประโลมชิงชางกับหลีจิ้งทรุดตัวลงอย่างสิ้นแรง ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากการระเบิดพลังครั้งนี้ของจือหลินแต่เพียงไม่นาน ร่างกายที่ทุกคนได้รับบาดเจ็บ แม้แต่โรคที่รักษาไม่หายเมื่อถูกแสงสีขาวของจือหลินต่างก็หายราวปาฏิหาริย์ เรื่องนี้ชาวเมืองที่หนีไม่ทันจากแสงก็รับรู้ได้เช่นกันชาวชราที่เดินกลับเรือนเขาไม่อาจวิ่งหนีได้เช่นคนหนุ่มสาว เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งร่างกายที่ทรุดโทรมก็กลับแข็งแรงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจคนขอทานที่ขาหัก ล้มอยู่ที่พื้น เพราะโดนชนจนหนีไม่ทันก็กลับมาลุกขึ้นเดินได้เมื่อแสงสีขาวหายไปกลายเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว ชาวเมืองทั้งหมดต่างออกจากเรือนเพื่อมารอแสงสีขาวอีกครั้ง แต่ก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลยป๋อฉิวประคองบุตรสาวขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะร่ำลาสองพ่อลูกกับจวนของตนไป“หลินเออร์” ชิงชางร้องเรียกนาง“ท่านจัดการเรื่องของท่านเถิด ข้าจะกลับจวนเพื่อไปดูมารดาและน้องชาย” จือหลินนางไม่ได้หันไปมองชิงชางเลยสักนิดจือหลินพูดจบนางก็หมดสติไปทันที เพราะการระเบิดพลังและการเลื่อนขั้นที่เกิดข

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   การระเบิดพลังของจือหลิน

    ป๋อฉิวจ้องมองฉีหลีเจียวอย่างโกรธแค้น ไม่รู้ว่าเมื่อคนของเขาไปถึงจวนตระกูลถานบุตรสาวจะออกจากการกักตัวแล้วหรือยังต่อให้ใบหน้าของเขาเรียบเฉยมากเพียงใด แต่ในอกของเขากับสะท้านอย่างหวาดกลัว กลัวว่าคนในตระกูลจะเคราะห์ร้ายไปกับเขาด้วยจือหลินนางมาถึงประตูวังหลวงเพียงลำพังหลังจากที่นางใช้ปราณรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดแล้วก็ออกเดินทางมาทันที“มีป้ายคำสั่งเข้าวังหรือไม่” ทหารหน้าประตูวังเอ่ยถามจือหลินเขามองนางอย่างแปลกใจ นางไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวังหลวงหรือ จึงได้อาจหาญเข้ามาวังหลวงเช่นนี้“ไม่มี” นางเอ่ยเสียงเหยียบเย็น“กลับไปเสีย ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน” ทหารดึงกระบี่ออกมาข่มขู่จือหลินเพียงแค่นางปรายตาไปมอง ลมปราณในร่างของนางก็ทำให้ทหารที่กำลังถือกระบี่ข่มขู่นางกระเด็นถอยหลังไปกระแทกกับประตูวังจนหมดสติเสียงร้องตกใจของทหารที่อยู่รอบบริเวณนั้น วิ่งมาทางนาง เพื่อจัดการกับนางทันทีจือหลินโบกมืออย่างนึกรำคาญ นางไม่มีเวลามากพอที่จะเล่นสนุกกับพวกเขาฉีหลีเจียวดึงกระบี่ขององครักษ์ออกมาหวังจะบั่นคอป๋อฉิวอย่างมีโทสะ ก็ถูกองครักษ์ที่อยู่หน้าประตูคุกใต้ดินวิ่งเข้ามาแจ้งเรื่องผู้บุกรุก

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   บิดาข้าอยู่ที่ใด

    จือหลินเดินลมปราณโดยไร้สิ่งรบกวน นางนั่งจนลืมวันลืมคืนเช่นเดิม ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด สิ่งที่จือหลินรับรู้ได้ครั้งนี้ ร่างกายของนางเลื่อนระดับได้เร็วขึ้นเพราะทนความเจ็บปวดจากลมปราณทั้งห้าที่ขยายใหญ่ขึ้นได้ ตัวนางจึงนั่งต่อไปเรื่อยๆ“หลินเออร์ บิดาเจ้าตกอยู่ในอันตราย” เสียงของชิงชางที่ออกมาจากหยกสื่อสารทำให้จือหลินนางหลุดออกจากการเลื่อนระดับดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับสัตว์ร้าย“บิดาข้าอยู่ที่ใด” น้ำเสียงของจือหลินที่สื่อสารกลับไปเต็มไปด้วยไอสังหาร จนชิงชางที่ถือหยกสื่อสารในมืออดสั่นสะท้านไม่ได้แรงโทสะของจือหลินเมื่อรู้ว่าบิดาของนางกำลังได้รับอันตราย ทำให้ค่ายกลที่ววางไว้ระเบิดออก เรือนของนางเสียหายไปกว่าครึ่ง ค่ายกลทั้งหมดถูกทำลายลงคนภายในจวนตระกูลถานรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ต่างพากันวิ่งมาที่เรือนของจือหลิน“คะ คุณหนู ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่ขอรับ” พ่อบ้านถานคือคนแรกที่เขามาถามนางอย่างใจกล้า เพราะไม่มีบ่าวคนใดกล้าเดินเข้ามาใกล้นางในยามนี้นอกจากแววตาที่ลุกโชนไปด้วยโทสะของนางแล้ว ร่างกายของนางยังมีเปลวไฟแผดเผาไปทุกย่างก้าวที่นางเดิน“หลินเออร์/พี่หญิง” ลี่อินกับตงฟางเ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   อักขระสื่อสาร

    แต่ผู้ใดในจวนตระกูลถานจะคิด ว่าวันต่อมาดอกไม้มากมายก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลถาน พร้อมทั้งผู้ส่งขอไม่รับเป็นเงิน ขอแลกกับน้ำหอมเพียงหนึ่งขวดเท่านั้นผู้อาวุโสต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาเพียงจือหลินที่หัวเราะร่วนอย่างชอบใจ มีคนนำของมาให้เช่นนี้นางจะไม่รับไว้ได้อย่างไร แล้วก็แรกกับน้ำหอมเพียงขวดเดียวเท่านั้นจือหลินนางก็แสนจะฉลาด นำน้ำหอมจากภพของนางบรรจุลงในขวดกระเบื้องธรรมดาที่นางนำไปวางขาย มอบให้ผู้ที่ส่งดอกไม้มาให้ที่จวนกลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเมืองหลวง เพราะน้ำหอมที่เขาได้ ไม่มีวางขายในเมืองหลวงตอนนี้วันต่อๆ มา ดอกไม้หาอยากที่มีกลิ่นหอมก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลถานมากมาย จนบ่าวในจวนไม่มีเวลาได้พักหายใจ เพราะถูกคุณหนูใช้ให้ทั้งเด็ด ล้าง ตาก ดอกไม้ทั้งหมดที่ได้มาจือหลินนางก็ไม่ได้ใช้เปล่าๆ นางมอบสินน้ำใจให้อย่างเต็มที่ บ่าวในเรือนแม้จะเหนื่อยเพิ่มแต่ก็ยินยอมทำอย่างไม่ปริปากบ่นถึงแม้นางจะมีดอกไม้ไว้ทำน้ำหอมจำนวนมากแล้ว แต่น้ำหอมที่นำออกวางขายก็ยังมีเท่าเดิม ยิ่งทำให้สินค้าของนางกลายเป็นที่พูดถึง จนพ่อค้าจากต่างแคว้นและหัวเมืองอื่นๆ เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อมาทำการค้ากับนางแต่ราคาที่จือหล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status