Share

จือหลินขึ้นเขา

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-01-06 01:04:31

จือหลินไม่มีเวลาให้โทษฟ้าดิน นางจำต้องลงมือเก็บกวาดทั้งในเรือนและนอกเรือน ส่วนเรื่องห้องน้ำไว้ค่อยจัดการในภายหลัง นางต้องไปคิดหาหนทางเสียก่อน

ทำได้ไม่ถึงครึ่งนางก็ทิ้งตัวลงนอนที่พื้นห้องโถงอย่างหมดแรง จะใช้เวลาแค่วันเดียวอย่างที่คิดไว้ไม่ได้เสียแล้ว

ยิ่งอาหารในห้องครัวตอนนี้ก็เหลือไม่มาก พรุ่งนี้นางคงต้องขึ้นเขาเพื่อหาอาหารมาเพิ่มเสียก่อน หากไม่มีอะไรตกถึงท้องก็ไม่อาจจะทำงานหนักได้เช่นกัน

จือหลินจึงเดินเข้าไปในครัวเพื่อหาสิ่งที่จะนำมาทำเป็นอาวุธได้บ้าง แต่ก็พบเพียงมีดทำครัวเท่านั้น

นางจึงเริ่มมองหาสิ่งอื่นที่ใช้ล่าสัตว์ได้บ้าง แต่ก็ไม่พบสิ่งใดที่ดูเข้าตา

ในตอนกินอาหารมื้อเย็นนางจึงได้เอ่ยถามมารดาจึงได้รู้ว่า ท่านตาของนางทิ้งธนูกับมีดพร้าไว้ด้วย ลี่อินจึงไปนำออกมาให้บุตรสาว ถึงแม้จะยังไม่เชื่อว่าจือหลินสามารถล่าสัตว์ได้อย่างที่นางพูด

แต่เมื่อเห็นแววตาที่มองมาอย่างมุ่งมั่นของนาง ลี่อินก็ไม่กล้าจะเอ่ยสิ่งใดออกมา

“ท่านแม่ ท่านมีอาการป่วยช่วยใดบ้าง” จือหลินถามสิ่งที่นางสงสัย

เพราะจากสิ่งที่นางดูภายนอกโดยที่ยังไม่ได้ลงมือตรวจ นางคิดว่าลี่อินต้องป่วยเป็นโรคโลหิตจางอย่างแน่นอน

ลี่อินจึงบอกอาการกับบุตรสาว เพราะคิดว่านางเพียงอยากรู้เท่านั้น อาการของลี่อิน นางหายใจลำบาก วิงเวียนศีรษะบ่อยครั้ง อ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย มือเท้าจะเย็นมากกว่าปกติ

“ท่านตกเลือดตอนคลอดข้าใช่หรือไม่” จือหลินขมวดคิ้วคิด

“ใช่” ลี่อินพยักหน้าราวไก่จิก

“ท่านเป็นโรคโลหิตจาง จากการตกเลือดในครั้งนั้นและไม่ยอมรักษาให้ดี” จือหลินเริ่มคิดว่าจะรักษาลี่อินเช่นใด

ลี่อินอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ ในตอนแรกที่นางฟังเรื่องเล่าของจือหลินก็เพียงแค่คิดว่าบุตรสาวของหมดสติแล้วเพ้อไป แต่ในยามนี้นางเชื่อแล้วว่าวิญญาณของจือหลินหลุดออกจากร่างจริงๆ

“อย่าร้องนะเจ้าค่ะ” จือหลินรีบพูดดักไว้ก่อน เมื่อเห็นลี่อินตั้งท่าจะร้องไห้อีกแล้ว

“พรุ่งนี้ข้าจะขึ้นเขานะเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”

ลี่อินแม้จะกังวลเรื่องบาดแผลของจือหลินมากเพียงใดแต่ก็ยอมฟังนาง เพราะอาหารในเรือนใกล้หมดลงแล้วจริงๆ อีกอย่างนางก็ไม่อาจออกไปขึ้นเขาได้เพราะร่างกายที่เป็นเช่นนี้ หากไปหมดสติอยู่ด้านนอกจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่

เพราะจือหลินต้องขึ้นเขาแต่เช้า สองแม่ลูกจึงได้แยกย้ายกันไปนอน ฟ้ายังไม่สว่างจือหลินก็ลุกเตรียมอาหารไว้ให้มารดาก่อนที่นางจะแบกตะกร้าขึ้นเขาไป

อาจจะเป็นเพราะยังเช้าเกินไป ระหว่างทางที่จือหลินนางเดินขึ้นเขาจึงยังไม่พบเห็นชาวบ้านสักคน

ตามความทรงจำเดิมของฟู่จือหลิน นางเพียงหาของป่าอยู่เพียงชายป่ารอบนอกเช่นชาวบ้านทั่วไปเท่านั้น เพราะกลัวจะถูกสัตว์ป่าทำร้าย จือหลินนางจึงเลือกเดินไปอีกทางที่ชาวบ้านน้อยคนนักจะกล้าเข้าไป

จือหลินใช้มีดพร้าในมือเปิดทางให้นางเดินเข้าไปได้ ทางที่ไม่มีคนเดินผ่านมาเป็นระยะเวลานานย่อมต้องรกชัฏเป็นธรรมดา

หัวเผือกหัวมันมีให้เห็นมากมาย จือหลินจำตำแหน่งไว้เพื่อขากลับนางจะได้มาขุดกลับเรือน ไก่ป่า กระต่ายป่ามีให้เห็นบาง แต่ธนูในมือที่นางเพิ่งได้มาใช้ไม่ถนัดมือนักจึงได้ลองฝึกยิงออกไปอยู่หลายครั้งกว่าจะได้ไก่ป่ามาสักตัว

จือหลินยิงไก่ป่าและกระต่ายป่ามาได้ทั้งหมดสี่ตัว ก่อนที่นางจะเดินขนหาตามพุ่มไม้แล้วได้ไข่ไก่มาอีกนับสิบฟอง เพราะตัวนางที่เล็กเกินไปจึงไม่อาจแบกของได้มากนัก จือหลินจึงเดินกลับไปตามทางเดิม

นางขุดหัวมันเก็บกลับไปด้วยแต่ไม่มากนัก ก่อนจะลงเขานางยังได้ผลไม้ติดมือมาให้ลี่อินนางได้กินอีกด้วย

พอถึงชายเขา ชาวบ้านก็กลับเรือนไปหมดเรียบร้อยแล้ว จือหลินนับว่าพอใจยิ่งนัก นางยังไม่อยากพบเจอผู้ใดไม่รู้ว่าจะตอบเรื่องที่นางล่าสัตว์มากมายได้อย่างไร

เมื่อเดินใกล้ถึงเรือนก็พบมารดาชะเง้อคอรอนางกลับมาที่เรือนอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นตัวจือหลิน ลี่อินก็รีบเร่งฝีเท้าเดินมาช่วยรับของไปจากบุตรสาว

“แม่เป็นห่วงเจ้ายิ่งหนัก เหตุใดถึงหามากได้มากเพียงนี้ เจ้าเดินเข้าไปในป่าลึกรึ” ลี่อินมองของในตะกร้าแล้วร้องถามอย่างตกใจ

“ท่านอย่าได้เป็นห่วงเลยเจ้าค่ะ รีบเข้าเรือนเสียก่อน ข้าจะทำอาหารอร่อยๆ ให้ท่านได้ทาน” จือหลินแย่งตะกร้ากลับมาอุ้มไว้ในอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในเรือน

จือหลินนำตะกร้าเข้าไปเก็บในห้องครัวนางรับน้ำมาดื่มจากมือมารดาก่อนจะหันไปจัดการไก่ป่าตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ลี่อินมองตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อที่เห็นบุตรสาวลงมือจัดการกับไก่ป่าอย่างชำนาญ

แม้แต่มีดในมือที่ไม่คมนางยังจัดการกับไก่ป่าได้อย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานไก่ป่าในมือของจือหลินก็ถูกโยนลงไปในหม้อ นางต้มพร้อมกับหัวมันที่ได้มา เพราะข้าวเหลือไม่มากแล้ว

จือหลินนางยังนำไข่ออกมาต้มอีกสองฟอง ทั้งหมดเสร็จลงในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อยกอาหารขึ้นตั้งโต๊ะ ลี่อินก็มองอยากไม่อยากเชื่อ นับตั้งแต่ที่บิดาเสียไปน้อยครั้งนักที่สองคนแม่ลูกจะมีเนื้อให้กิน

จือหลินนางปอกเปลือกไข่ ก่อนจะแยกไข่แดงลงในชามของมารดา และตัวนางกินเพียงแค่ไข่ขาว

“เจ้าเก็บไว้กินเองเสีย ไม่ต้องเป็นห่วงแม่” ลี่อินจะตักไข่แดงส่งคืนให้จือหลิน

“ท่านกินเถิดเจ้าค่ะ ไข่แดงจะช่วยให้อาการป่วยของท่านดีขึ้น หลังจากนี้ทุกวันท่านต้องกินไข่แดงทุกวันเจ้าค่ะ” จือหลินยังตักเนื้อไก่ให้ลี่อินจนนางแทบจะกินไม่หมด

เมื่อทานอาหารเสร็จจือหลินนางยังไปล้างผลไม้ที่นางเก็บมาด้วย เพื่อให้ลี่อินกิน ลี่อินปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างลวกๆ เพราะไม่อยากให้บุตรสาวได้เห็น นางไม่คิดว่านางจะทำให้บุตรสาวที่อายุน้อยต้องลำบากถึงเพียงนี้

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ตามหาดินเค็ม

    จือหลินนางยังไม่คิดจะนำไก่ป่ากับกระต่ายป่าที่หามาได้นำไปขาย เพราะมารดาของนางและร่างนี้ของนางไม่ได้รับสารอาหารที่พอเพียงมาเป็นระยะเวลานานนางจึงจะเก็บไว้กินเองก่อนที่จะไปล้างตัว จือหลินนางยังไปจัดการกับเนื้อสัตว์ที่ได้มาเพื่อจะเก็บไว้ได้กินในมือต่อไป เครื่องปรุงในเรือนแทบจะไม่มีนางจึงทำได้แต่แช่เนื้อไว้ในโอ่งน้ำก่อนเพื่อเก็บรักษาไม่ให้เน่าเสียพรุ่งนี้นางคิดจะขึ้นเขาเพื่อหาดินโป่งที่มีความเค็มเพื่อนำมาสกัดเป็นเกลือเก็บไว้ใช้กินในเรือนแต่หากนางโชคดีของได้พบดินเค็มแทนก็ได้จือหลินเดินไปดูลี่อินที่ห้องของนางก่อนที่นางจะกลับห้องของตนเอง ก็พบว่ามารดาของนางนั้นนอนหลับสบายอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว จือหลินจึงกลับห้องไปพักผ่อนลี่อินที่นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นางเห็นจือหลินที่กำลังยกอาหารขึ้นตั้งโต๊ะเสร็จก็กำลังจะออกจากเรือนเพื่อขึ้นเขา“กินข้าวแล้วหรือหลินเออร์” ลี่อินร้องถามบุตรสาวที่กำลังจะเดินออกจากเรือน“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่มื้อกลางวันข้าเตรียมให้แล้ว ท่านอย่าได้ลืมกินเสียเล่า” เพราะทุกครั้งสองแม่ลูกจะกินข้าวแค่มื้อเช้ากับเย็นเท่านั้นจือหลินอยากจะบำรุงร่างกายของ

    Last Updated : 2025-01-06
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   จางอู๋

    ลี่อินเลิกถามบุตรสาวแล้วว่านางรู้วิธีทำได้อย่างไร แต่หันมาช่วยเหลือนางแทน เมื่อเห็นว่ากระทะใบใหญ่ที่นางหาได้ร้อนกำลังดี จือหลินจึงให้มารดาเทน้ำที่กรองเรียบร้อยแล้วลงในกระทะเพื่อต้มนางไม่ได้อยู่เฝ้าตลอดเวลา แต่หันไปเก็บเรือนต่อแทน เพราะเกลือต้องต้มจนกว่าน้ำทั้งหมดจะระเหยไปจนเหลือเพียงเกล็ดเกลือสีขาวเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลานั่งเฝ้าจือหลินลงมือถางหญ้ารอบเรือน โดยมีลี่อินที่ร่างกายเริ่มใช้แรงได้แล้วแต่ก็ยังไม่มาก เก็บกวาดภายในเรือนเพียงครึ่งวันก็ทำได้ไม่ถึงครึ่ง ทั้งสองจึงหยุดมือแล้วรับประทานอาหารเพื่อเพิ่มพลังเสียก่อน“ท่านแม่ท่านดูฟืนด้วยนะเจ้าค่ะ” จือหลินร้องบอกมารดาให้ดูฟืนอย่าให้มอด ก่อนที่นางจะออกจากเรือนไปเก็บฟืนที่ตีนเขาไม่ไกลจากหลังบ้าน“ยังไม่ตายอีกรึ” เสียงด้านหลังดังขึ้นทำให้จือหลินที่กำลังก้มเก็บฟืนอยู่ต้องหันกลับไปมองอย่างสงสัย ตะวันตรงหัวเช่นนี้ยังมีผู้ใดออกมาหาฟืนเช่นนางอีก“แล้วเห็นหรือไม่เล่าว่าข้าตายหรือไม่” เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดจือหลินจึงสวนกลับไปอย่างไม่ยอม“หึ ปากดีเช่นนี้สมควรตายไปเสีย” อี้เฉินจ้องมองจือหลินด้วยแววตาที่ดุดัน“เช่นนั้นหรือ หากผู้อื่นรู้ว

    Last Updated : 2025-01-07
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เป็นเกลือแล้ว

    จือหลินไม่ได้รับรู้เรื่องราวหลังจากนั้น เมื่ออี้เฉินถูกชาวบ้านพากลับไป นางก็รีบเร่งมือเก็บฟืนกลับเรือน เพื่อไปดูเกลือที่นางต้มไว้แต่กว่าที่เกลือจะเสร็จก็เกือบฟ้ามืดเสียแล้ว ลี่อินเข้ามาช่วยบุตรสาวขนฟืนเข้าไปห้องครัวจือหลินเติมฟืนเข้าเตาเพื่อเร่งฟืนในช่วงสุดท้าย น้ำในกระทะเริ่มเป็นเกลือขาวโผล่มาให้เห็นแล้ว จือหลินใช้ทัพพีช้อนเกลือที่เป็นเม็ดขึ้นมาใส่กระด้งที่มารดาหามาให้นางน้ำที่ยังไม่ระเหยในกระทะนางก็ปล่อยไว้เช่นนั้น ก่อนที่จะหันมาเกลี่ยเกลือเพื่อให้คายความร้อนไว้ขึ้นนางจะได้เก็บเข้าไห ป้องกันคนที่มาหาที่เรือนพบเห็นเขาแต่ส่วนน้อยที่จะมีผู้ใดมาหานางทั้งสองคนแม่ลูก แต่กันไว้ก่อนย่อมดีกว่า เพราะเกลือเป็นสินค้าต้องห้าม หากมีคนล่วงรู้ว่านางสามารถทำเกลือขึ้นมาได้ต้องเกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่ลี่อินมองเกลือที่เสร็จแล้วในกระด้งอย่างตกตะลึง นางไม่คิดว่าเพียงดินที่บุตรสาวนำกลับมาจะได้เกลือออกมาเช่นนี้ ถึงแม้น้ำที่เกือบเต็มกระทะจะต้มออกมาได้ไม่มากอย่างที่คิด แต่เท่านี้ก็มากพอกับทั้งชีวิตที่นางได้กินมาเสียอีก“หลินเออร์ หากมีผู้ใดรู้เข้าเจ้าต้องเป็นอันตรายแน่” ลี่อินพูดขึ้นอย่างกังวล“ข้าไม่พูด ท

    Last Updated : 2025-01-07
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   นับว่าสวรรค์ยังสงสารนาง

    จือหลินดวงตาของนางเปล่งประกายเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนผนังของถ้ำ ก่อนนางจะเงยหน้าหัวเราะเสียงก้องสะท้านไปทั่วถ้ำอย่างบ้าคลั่งหากมีผู้ใดผ่านมาบริเวณถ้ำที่นางอยู่คงได้ตกใจเสียงนางจนวิ่งหนีไปแน่ แม้แต่นกที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ใกล้ๆ ถ้ำ ยังต้องบินหนีด้วยความตกใจจือหลินหาที่เหมาะๆ ปักคบไฟของนาง ก่อนจะนำมืดที่อยู่ด้านหลังตะกร้าออกมาเพื่อจัดการกับสิ่งที่นางพบเจออย่างน้อยสวรรค์ก็ไม่ได้กลั่นแกล้งนางมากเกินไป ยังพาให้นางมาพบ ‘เห็ดหลินจือ’ มากมายหลายดอก“ฮ่า ฮ่า ชื่อข้าจือหลิน ข้าถึงได้มาเจอเห็ดหลินจือ” จือหลินนางพูดกับตนเองราวกับคนเสียสตินางเก็บเห็ดลงมาจากผนังอย่างเบามือ พร้อมกับฮัมเพลงอย่างสบายใจ แม้นางจะเรียนแพทย์แผนปัจจุบันไม่ใช่แพทย์แผนจีน แต่ความรู้เรื่องสมุนไพรนางก็พอมีติดตัวหลินหลินจือที่นางพบบางดอกมีอายุหลายร้อยปี บางดอกนับพันปีก็มี หากมองไปตามผนังถ้ำดีๆ จะพบรากของต้นไม้ที่แห้งตายมาเป็นเวลานานจึงทำให้เกิดเห็ดหลินจือขึ้นมาได้จือหลินมิได้เก็บไปทั้งหมดในทันที ถ้ำแห่งนี้ไม่มีผู้ใดรู้ถึงการมีอยู่ของมัน นางค่อยขึ้นมาเก็บในภายหลังก็ยังได้ นางเลือกเก็บไปสีละสองดอก เพื่อดูว่าในยุคนี้สีใดขายได้เง

    Last Updated : 2025-01-08
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เข้าเมืองขายเห็ด

    รุ่งเช้าสองแม่ลูกก็ตื่นมาอย่างสดชื่น เมื่อทานมื้อเช้าเรียบร้อยต่างก็ช่วยกันนำเห็ดที่จือหลินหั่นไว้เมื่อวานไปตากแดดทันที“ท่านแม่ข้าจะเข้าเมืองต้องเดินทางไปเช่นไรเจ้าคะ” จือหลินเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อจัดการนำเห็ดตากแดดแล้ว“หากเจ้าขึ้นเกวียนวัวหน้าหมู่บ้านก็ต้องรีบเตรียมตัวแล้ว” ลี่อินขมวดคิ้วคิดเพราะว่านางก็ไม่ได้เมืองมานับสิบปีแล้ว หมู่บ้านไห่เหอ อยู่ห่างจากเมืองกว่างซียี่สิบลี้ (1ลี้=500เมตร) หากเดินเท้าก็ต้องมีถึงหนึ่งชั่วยาม หากนั่งเกวียนวัวก็เพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้นหมู่บ้านไห่เหอมีลุงจงเป็นผู้ขับเกวียนรับส่งคนในหมู่บ้าน โดยมีค่านั่งเกวียนคนละสองอิแปะ (ค่าเงินในยุคนั้น) เพราะระยะทางไปกลับเพียงครั้งละหนึ่งชั่วยามเท่านั้น ลุงจงจึงว่งเกวียนไปกลับไปวันละสองรอบหากจือหลินนางจะเข้าเมืองวันนี้ก็คงต้องเตรียมตัวออกจากเรือนได้แล้ว จือหลินจึงเก็บเห็ดหลินจือที่ผึงแห้งแล้วใส่ลงในถุงที่มารดาเตรียมไว้ให้ ก่อนจะรีบแบกตะกร้าออกจากเรือนไปอย่างรวดเร็วลี่อินต้องวิ่งออกมาจากเรือนเพื่อนำเงินให้จือหลินติดตัวไปเป็นค่าเกวียนและค่าเข้าเมือง เพราะนางรีบร้อนจนลืมแม้กระทั่งจะขอเงินจากมารดา“อ้าวหลินเออร์ เจ้าจ

    Last Updated : 2025-01-08
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   หมอหวงผู้ตกใจเก่ง

    ยิ่งได้เห็นแววตาที่จ้องมองเขาราวกับพยัคฆ์รอขย้ำเหยื่อ เขาก็อดสะท้านในอกวูบหนึ่งไม่ได้ หากบอกราคาที่นางไม่พอใจ นางคงไปร้านอื่นทันทีแต่แววตาของนางที่มองเขาอยู่ในยามนี้ ช่างให้ความคุ้นเคยที่ประหลาด แต่เขาก็ตอบไม่ได้ว่าเคยเห็นแววตาที่คล้ายกับนางจากที่ใด“ข้าหมอหวง เจ้าเล่าชื่อแซ่อันใด”“ข้าแซ่ฟู่ นามจือหลิน เจ้าค่ะ” จือหลินลุกขึ้นคารวะหมอหวงอย่างนอบน้อม ตามแบบซีรีส์ที่เคยผ่านตานางมา“เช่นนั้นสองพันตำลึงทองเจ้าพอใจหรือไม่” จือหลินลองคคิดค่าเงินคร่าวๆ จากที่นางจ่ายค่าเกวียนและค่าเข้าเมืองอย่างใช้ความคิด“สองพันห้าร้อยตำลึงทอง ข้าให้เจ้าเต็มที่แล้ว” หมอหวงที่เห็นจือหลินขมวดคิ้วคิดก็คิดว่านางไม่พอใจกับราคาที่เขาให้จึงกัดฟันเพิ่มให้นางอีกห้าร้อยตำลึงทอง“เจ้าค่ะ แล้วถ้าดอกนี้เล่า” จือหลินเมื่อได้ราคาที่นางพอใจก็เริ่มหยิบดอกสีดำกับสีม่วงออกมาอย่างละดอก“สวรรค์ เจ้า เจ้า โชคดีเกินไปแล้ว” หมอหวงกระโดดลุกจากเก้าอี้อย่างตกใจ เมื่อเห็นเด็กน้อยนำเห็ดหลินจือออกมาอีกสองดอก“เจ้าต้องการให้ข้าตกใจจนตายหรือ” เขาถลึงตามองจือหลิน เมื่อเห็นนางขบขันกับท่าทางตกใจของเขา“เหอะ หากมีอีกก็รีบเอาออกมาให้หมดเสีย ข้

    Last Updated : 2025-01-09
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ตอบแทนน้ำใจ

    จือหลินเมื่อเข้ามาในเรือนแล้ว นางก็นำสิ่งของออกมา ก่อนที่จะส่งถุงในใหญ่ที่เดิมที่ใส่เห็ดหลินจือ แต่ตอนนี้บรรจุตั๋วเงินจนแน่นขนัดให้ลี่อิน“สวรรค์ มากถึงเพียงนี้” ลี่อินไม่รู้ว่าเงินมีมากเท่าใด แต่นางดูจากจำนวนตั๋วเงินที่เห็น“ทั้งหมด สองหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบห้าตำลึงทองเจ้าค่ะ”เมื่อจือหลินพูดจบ ตั๋วเงินในมือของลี่อินก็ร่วงหล่นเต็มพื้น จือหลินส่ายหน้าก่อนจะก้มเก็บตั๋วเงินทั้งหมดใส่ถุงตามเดิม“ท่านแม่ ท่านดื่มน้ำเสียก่อน” จือหลินรินน้ำส่งให้ลี่อิน“หากผู้ใดรู้เข้าคงได้มาขโมยไปจนหมดแน่” ลี่อินเอ่ยพูดอย่างลนลาน“หากท่านทำอาการเช่นนี้ต่อหน้าผู้อื่นคงได้มีคนสงสัยเป็นแน่เจ้าค่ะ” จือหลินกลอกตาอย่างเหนื่อยใจ เรือนของนางนอกจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ไม่กี่หลังก็ไม่มีผู้ใดคิดจะมาจือหลินนำตั๋วเงินไปเก็บไว้ที่ห้องของนาง เพราะหากให้มารดาเป็นผู้เก็บเห็นทีคืนนี้นางคงนอนไม่หลับเป็นแน่“ท่านแม่ข้าจะนำเห็ดดอกเล็กไปท่านปู่จง ท่านป้าหลิว และท่านป้าหั่ว เจ้าค่ะ”ลี่อินนางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะทั้งสามเรือนล้วนแล้วแต่หยิบยื่นสิ่งของให้นางสองคนแม่ลูกอยู่เสมอจือหลินเอ่ยเตือนมารดาไม่ให้ทำท่าทางประหลาดก่อ

    Last Updated : 2025-01-09
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ผู้บุกรุก

    เมื่อส่งทุกคนกลับไปแล้วจือหลินก็เดินหน้าเรียบเฉยเข้าไปในเรือน ชาวบ้านพวกนี้ช่างทำให้นางเสียอารมณ์ยิ่งนัก“ท่านแม่ หรือว่าพวกเราจะออกไปอยู่ที่อื่นดีเจ้าคะ” จือหลินเอ่ยถามมารดา“จะไปอยู่ที่ใดเล่า” เรื่องนี้ไม่ใช่ว่านางไม่เคยคิดนางต้องทนอยู่ในหมู่บ้านให้คนนินทารังเกียจมานับสิบปี ที่ไปไหนไม่ได้เพราะไม่มีเงิน แต่เมื่อมีเงินก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ใด นางเคยไปไหนไกลจากหมู่บ้านนอกจากในเมืองครั้งนั้นเสียที่ไหนเล่า“เอาไว้ค่อยว่ากันเจ้าค่ะ” จือหลินก็ไม่รู้ถึงความเป็นอยู่แต่ละเมืองเสียด้วย และไม่รู้ว่าจะไปถามผู้ใดดีสองแม่ลูกแยกย้ายกันเข้านอน จือหลินที่กำลังจะเข้าสู่ห้วงความฝันก็ได้ยินเสียงสัญญาณที่นางไม่ได้ยินมานานแล้วขึ้น“ระบบกำลังประมวลผล” จือหลินเด้งตัวขึ้นจากที่นอนทันที“โปรดยืนยันตัวตน”“จือหลิน” นางรีบร้องตอบทันที“ยืนยันตัวตน ยินดีต้อนรับการกลับมาจือหลิน” นางไม่รู้ว่าในตอนนี้รู้สึกดีใจมากเพียงใดเมื่อได้ยินเสียงสวรรค์อีกครั้วแต่ก่อนที่จือหลินจะเข้าไปสำรวจภายในห้วงมิติของนาง ด้านนอกก็มีเสียงค้นหาสิ่งของดังขึ้น จือหลินรีบนำถุงใส่ตั๋วเงินและเห็ดหลินจือที่ยังเหลืออยู่เก็บเข้าไปในมิติทันทีนา

    Last Updated : 2025-01-10

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   คู่บำเพ็ญเพียร(จบ)

    จือหลินนางพาชิงชางเข้าไปภายในมิติ ชิงชางเมื่อรู้ตอนนี้ตนอยู่ที่ใดเขาก็อุ้มจือหลินเข้าไปในห้องของนางนางรู้ว่าเขาต้องการทำสิ่งใดกับนางก็อดที่จะเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้“ท่านอยู่ในขั้นใด”“ข้าเร่งเดินลมปราณ เพื่อวันนี้หลินหลิน”ชิงชางไม่ยอมบอกนางแต่เขากับจุมพิตนางอย่างดูดดื่มแทน จือหลินราวกับต้องมนต์เมื่อได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนของเขาชิงชางไล้นิ้วไปตามเรือนร่างของนาง พร้อมทั้งปลดชุดของนางอย่างรวดเร็ว“เจ้างามยิ่งนักหลินหลิน” เมื่อได้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าของนาง เขาก็อดที่จะจ้องมองอย่างตกตะลึงมิได้จือหลินนางก็ไม่ได้มีท่าทีที่เขินอายเช่นหญิงสาวทั่วไป กลับใจกล้ากว่าที่เขาคิด เพียงนางช้อนสายตายั่วยวนเขา ชิงชางก็รีบปลดชุดออกด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะขึ้นคร่อมตัวนางพร้อมกับมอบจุมพิตที่ร้อนแรงเต็มไปด้วยไฟปรารถนา จือหลินโอบรอบคอของเขาไว้ พร้อมทั้งใช้มือที่ซุกซนของนางสัมผัสไปที่เครื่องเพศของเขาโดยตรง“หลินหลิน เจ้าช่าง ซุก ซนนัก” ชิงชางเอ่ยแสงสั่นเทาออกมาอย่างไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้จือหลินนางเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าที่อดกลั้นของเขา แต่ต่อมานางก็รู้ตัวว่านางนั้นคิดผ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ออกเดินทาง

    ภายในมิติผ่านมาได้สองปี แต่ด้านนอกเพียงผ่านไปแล้วสี่เดือนเท่านั้น ชิงชางก็คิดจะออกไปจัดการเรื่องของตนในวังหลวง แม้แต่ขั้นระดับเขาก็ไม่ให้จือหลินตรวจสอบนางก็ไม่ว่าอันใด พาเขาออกไปส่งด้านนอกอย่างที่เขาต้องการ ชิงชางมองจือหลินอย่างลึกซึ้งก่อนจะเดินจากไปโดยที่เขาไม่เอ่ยอันใดสักคำจือหลินยืนมองแผ่นหลังของเขาอย่างสะท้านในอก นางคิดว่าตัวนางไม่อยากยึดติดหรือหวังในตัวของชิงชางแล้วแต่ก็ยังอดเศร้าใจไม่ได้“ชางเออร์เจ้ากลับมาเสียที” หลีจิ้งมองบุตรชายที่รูปร่างและกลิ่นอายที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแปลกใจ“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกมีเรื่องจะพูดกับพวกท่าน”“หากเป็นเรื่องของหลินเออร์ พ่อเข้าใจ แต่เจ้าก็ต้องรู้ว่าต่อไปเจ้ามิอาจมีนางเพียงผู้เดียวได้”หลีจิ้งมองบุตรชายอย่างจริงจัง เพราะตัวเขาที่คิดจะมีเพียงอี้หนิงในวังหลังเพียงหนึ่งเดียวยังไม่อาจทำได้เขาจำต้องรับบุตรสาวของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ทั้งผู้ที่เคยช่วยเหลือจนเขาได้นั่งในบัลลังก์ครั้งนี้ไว้อย่างเสียไม่ได้เพียงปีเดียวก็มีพระสนมมากถึงนับสิบคนแล้วชิงชางฟังคำพูดของบิดาหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด“ลูกไม่คิดจะเป็นฮ่องเต้เช่นเสด็จพ่อ ลูกต้องการออกเดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ความมุ่งมั่นของชิงชาง

    ชิงชางอับอายจนใบหูของเขาแดงก่ำ ตัวเขาจะเคยทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร ที่ทำกับนางก็เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันแล้วสตรีเช่นนางกับพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้อย่างไม่อายบอก หรือว่านางเคยถูกผู้ใดจุมพิตมาแล้วชิงชางยิ่งคิดก็ยิ่งเกิดอาการหึงหวง เขาเดินเข้าไปจับใบหน้าของนางไว้แล้วจุมพิตนางอีกครั้งอย่างรุนแรงแต่ครั้งนี้จือหลินนางตกตะลึงอย่างแท้จริง เพราะไม่คิดว่าชิงชางจะจุมพิตนางอีกครั้ง นางคิดว่าคำพูดของนางจะทำให้เขาเกิดอยากเปลี่ยนใจจือหลินกลับเป็นฝ่ายดึงรั้งคอของชิงชางไว้ แล้วเริ่มใช้เรียวลิ้นของนางหยอกล้อกับเรียวลิ้นของชิงชางแทนในตอนแรกชิงชางก็นิ่งชะงักอย่างตกตะลึง เขาไม่คิดว่านางจะจุมพิตได้ช่ำชองเช่นนี้ แต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นความรัญจวนที่นางมอบให้ทั้งสองไม่รู้ว่าตนจุมพิตกันนานเพียงใด แต่เมื่อจือหลินนางถอนริมฝีปากออก ชิงชางกลับอาลัยอาวรณ์อย่างไม่สิ้นสุด“หลินเออร์ เหตุใดเจ้า”“ท่านอยากจะรู้ว่าเหตุใดข้าถึงจุมพิตเป็นใช่หรือไม่”จือหลินนางจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้าอย่างหยอกล้อ ก่อนจะเล่าเรื่องที่นางไม่ใช่คนในภพนี้ให้ชิงชางได้ฟังทั้งคู่เข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นที่โซฟาแทนห้องทดลองของจือหลินนางบอกเล่า

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เจ้ากลับมาแล้ว

    บ่าวไพร่ในจวนตระกูลถานรวมทั้งองครักษ์ของชิงชางต่างแตกตื่นกันให้วุ่น เพราะเรื่องที่จือหลินและชิงชางหายตัวไปจากห้องนอนในเรือนของป๋อฉิวอย่างไร้ร่องรอยลี่อินที่ยังไม่หายดีก็ให้ตงฟางประคองตนมาที่ห้องของจือหลินอย่างร้อนใจจือหลินนางออกทันเห็นคนกำลังเข้าช่วยมารดาที่หมดสติอยู่ในห้องของนางพอดี“เกิดเรื่องใดขึ้นหรือเจ้าคะ” เสียงของนางทำให้ทุกคนหยุดนิ่งอยู่กับที่ คนที่มีสติที่สุดเห็นจะเป็นตงฟางที่วิ่งเข้ามากอดเอวพี่สาวไว้แน่น แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครจือหลินต้องลูบหลังปลอบประโลมเขาอยู่พักใหญ่กว่าจะเงียบเสียงลง คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตงฟางต้องแสร้งเข้มแข็งมากเพียงใด เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับพี่สาวของตน เพราะเขาต้องดูแลมารดาที่ล้มป่วยทั้งยังน้องชายคนเล็กที่เสียขวัญอีกด้วย“หลินเออร์ เจ้ากลับมาหาแม่แล้ว” ลี่อินเมื่อได้สติก็ลุกขึ้นดึงตัวบุตรสาวเข้ามาสวมกอดอย่างหวงแหนท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อบ่าวไปแจ้งว่าพบตัวจือหลินแล้วก็รีบร้อนเดินมาทันที“หลินเออร์” ผู้เฒ่าถานมองหลานสาวด้วยดวงตาที่เออคลอไปด้วยน้ำตาส่วนฮูหยินผู้เฒ่าถานเดินเข้ามาสวมดอกนางไม่ต่างจากที่ลี่อินทำเลย“พวกท่านใจเย็นก่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ท่านเข้ามาได้อย่างไร

    ภายนอกมิติต่างวิ่งวุ่นตามหมอกันไปทั่ว เพราะหลายวันแล้วที่จือหลินนางนอนอย่างไม่ได้สติ พวกเขาที่รอเวลาให้นางตื่นก็ไม่อาจทนรอได้อีกหมอที่มาตรวจก็ไม่อาจหาสาเหตุที่ทำให้จือหลินนางหมดสติเช่นนี้ได้ เพราะร่างกายของนางเหมือนกับคนที่หลับสนิทเท่านั้นหลีจิ้งเมื่อจัดการเรื่องภายในวังหลวงเสร็จสิ้นก็มารับอี้หนิงกับอวี่ซีกลับเข้าวังหลวง เพื่อสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้และฮองเฮาพระองค์ใหม่ป๋อฉิวถูกราชโองการแต่งตั้งเป็นเสนาบดีกรมกลาโหมทันทีที่หลีจิ้งขึ้นนั่งบัลลังก์ เขาไม่ได้รู้สึกยินดีกับตำแหน่งที่ได้จวนตระกูลถานยังไม่เปิดรับผู้คนที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี เพราะบุตรสาวที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่ในเรือนของเขาชิงชางเมื่อช่วยบิดาจัดการเรื่องในวังหลวงเสร็จสิ้น ตัวเขาก็แทบจะอยู่ที่จวนตระกูลถานไม่ยอมขยับไปที่ใด ได้แต่นั่งเฝ้าจือหลินที่นอนหลับอยู่บนเตียงเขามักจะนำตำรา หรือเรื่องที่พบเจอมาตลอดที่ไม่ได้อยู่กับนางมาเล่าให้นางฟัง จนคนที่เข้ามาพบเห็นอกเห็นใจเขาไม่ได้ป๋อฉิวก็ไม่ทำใจไล่เข้ากลับวังไม่ลง จึงปล่อยให้เขานั่งพูดอยู่เช่นนั้น เรื่องร้านค้าของจือหลินก็ไม่มีปัญหา เพราะของที่นางทำไว้ยังมีอีกมาก ลี่อินที่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ห้วงมิติเปลี่ยนแปลง

    ป๋อฉิวไม่เคยเห็นด้านที่อ่อนแอเช่นนี้ของนาง เขาอดที่จะจุกในอกไม่ได้ สุดท้ายแล้วอย่างไรนางก็เป็นเด็กสาวที่ต้องการคนปลอบประโลมชิงชางกับหลีจิ้งทรุดตัวลงอย่างสิ้นแรง ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากการระเบิดพลังครั้งนี้ของจือหลินแต่เพียงไม่นาน ร่างกายที่ทุกคนได้รับบาดเจ็บ แม้แต่โรคที่รักษาไม่หายเมื่อถูกแสงสีขาวของจือหลินต่างก็หายราวปาฏิหาริย์ เรื่องนี้ชาวเมืองที่หนีไม่ทันจากแสงก็รับรู้ได้เช่นกันชาวชราที่เดินกลับเรือนเขาไม่อาจวิ่งหนีได้เช่นคนหนุ่มสาว เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งร่างกายที่ทรุดโทรมก็กลับแข็งแรงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจคนขอทานที่ขาหัก ล้มอยู่ที่พื้น เพราะโดนชนจนหนีไม่ทันก็กลับมาลุกขึ้นเดินได้เมื่อแสงสีขาวหายไปกลายเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว ชาวเมืองทั้งหมดต่างออกจากเรือนเพื่อมารอแสงสีขาวอีกครั้ง แต่ก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลยป๋อฉิวประคองบุตรสาวขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะร่ำลาสองพ่อลูกกับจวนของตนไป“หลินเออร์” ชิงชางร้องเรียกนาง“ท่านจัดการเรื่องของท่านเถิด ข้าจะกลับจวนเพื่อไปดูมารดาและน้องชาย” จือหลินนางไม่ได้หันไปมองชิงชางเลยสักนิดจือหลินพูดจบนางก็หมดสติไปทันที เพราะการระเบิดพลังและการเลื่อนขั้นที่เกิดข

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   การระเบิดพลังของจือหลิน

    ป๋อฉิวจ้องมองฉีหลีเจียวอย่างโกรธแค้น ไม่รู้ว่าเมื่อคนของเขาไปถึงจวนตระกูลถานบุตรสาวจะออกจากการกักตัวแล้วหรือยังต่อให้ใบหน้าของเขาเรียบเฉยมากเพียงใด แต่ในอกของเขากับสะท้านอย่างหวาดกลัว กลัวว่าคนในตระกูลจะเคราะห์ร้ายไปกับเขาด้วยจือหลินนางมาถึงประตูวังหลวงเพียงลำพังหลังจากที่นางใช้ปราณรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดแล้วก็ออกเดินทางมาทันที“มีป้ายคำสั่งเข้าวังหรือไม่” ทหารหน้าประตูวังเอ่ยถามจือหลินเขามองนางอย่างแปลกใจ นางไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวังหลวงหรือ จึงได้อาจหาญเข้ามาวังหลวงเช่นนี้“ไม่มี” นางเอ่ยเสียงเหยียบเย็น“กลับไปเสีย ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน” ทหารดึงกระบี่ออกมาข่มขู่จือหลินเพียงแค่นางปรายตาไปมอง ลมปราณในร่างของนางก็ทำให้ทหารที่กำลังถือกระบี่ข่มขู่นางกระเด็นถอยหลังไปกระแทกกับประตูวังจนหมดสติเสียงร้องตกใจของทหารที่อยู่รอบบริเวณนั้น วิ่งมาทางนาง เพื่อจัดการกับนางทันทีจือหลินโบกมืออย่างนึกรำคาญ นางไม่มีเวลามากพอที่จะเล่นสนุกกับพวกเขาฉีหลีเจียวดึงกระบี่ขององครักษ์ออกมาหวังจะบั่นคอป๋อฉิวอย่างมีโทสะ ก็ถูกองครักษ์ที่อยู่หน้าประตูคุกใต้ดินวิ่งเข้ามาแจ้งเรื่องผู้บุกรุก

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   บิดาข้าอยู่ที่ใด

    จือหลินเดินลมปราณโดยไร้สิ่งรบกวน นางนั่งจนลืมวันลืมคืนเช่นเดิม ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด สิ่งที่จือหลินรับรู้ได้ครั้งนี้ ร่างกายของนางเลื่อนระดับได้เร็วขึ้นเพราะทนความเจ็บปวดจากลมปราณทั้งห้าที่ขยายใหญ่ขึ้นได้ ตัวนางจึงนั่งต่อไปเรื่อยๆ“หลินเออร์ บิดาเจ้าตกอยู่ในอันตราย” เสียงของชิงชางที่ออกมาจากหยกสื่อสารทำให้จือหลินนางหลุดออกจากการเลื่อนระดับดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับสัตว์ร้าย“บิดาข้าอยู่ที่ใด” น้ำเสียงของจือหลินที่สื่อสารกลับไปเต็มไปด้วยไอสังหาร จนชิงชางที่ถือหยกสื่อสารในมืออดสั่นสะท้านไม่ได้แรงโทสะของจือหลินเมื่อรู้ว่าบิดาของนางกำลังได้รับอันตราย ทำให้ค่ายกลที่ววางไว้ระเบิดออก เรือนของนางเสียหายไปกว่าครึ่ง ค่ายกลทั้งหมดถูกทำลายลงคนภายในจวนตระกูลถานรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ต่างพากันวิ่งมาที่เรือนของจือหลิน“คะ คุณหนู ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่ขอรับ” พ่อบ้านถานคือคนแรกที่เขามาถามนางอย่างใจกล้า เพราะไม่มีบ่าวคนใดกล้าเดินเข้ามาใกล้นางในยามนี้นอกจากแววตาที่ลุกโชนไปด้วยโทสะของนางแล้ว ร่างกายของนางยังมีเปลวไฟแผดเผาไปทุกย่างก้าวที่นางเดิน“หลินเออร์/พี่หญิง” ลี่อินกับตงฟางเ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   อักขระสื่อสาร

    แต่ผู้ใดในจวนตระกูลถานจะคิด ว่าวันต่อมาดอกไม้มากมายก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลถาน พร้อมทั้งผู้ส่งขอไม่รับเป็นเงิน ขอแลกกับน้ำหอมเพียงหนึ่งขวดเท่านั้นผู้อาวุโสต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาเพียงจือหลินที่หัวเราะร่วนอย่างชอบใจ มีคนนำของมาให้เช่นนี้นางจะไม่รับไว้ได้อย่างไร แล้วก็แรกกับน้ำหอมเพียงขวดเดียวเท่านั้นจือหลินนางก็แสนจะฉลาด นำน้ำหอมจากภพของนางบรรจุลงในขวดกระเบื้องธรรมดาที่นางนำไปวางขาย มอบให้ผู้ที่ส่งดอกไม้มาให้ที่จวนกลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเมืองหลวง เพราะน้ำหอมที่เขาได้ ไม่มีวางขายในเมืองหลวงตอนนี้วันต่อๆ มา ดอกไม้หาอยากที่มีกลิ่นหอมก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลถานมากมาย จนบ่าวในจวนไม่มีเวลาได้พักหายใจ เพราะถูกคุณหนูใช้ให้ทั้งเด็ด ล้าง ตาก ดอกไม้ทั้งหมดที่ได้มาจือหลินนางก็ไม่ได้ใช้เปล่าๆ นางมอบสินน้ำใจให้อย่างเต็มที่ บ่าวในเรือนแม้จะเหนื่อยเพิ่มแต่ก็ยินยอมทำอย่างไม่ปริปากบ่นถึงแม้นางจะมีดอกไม้ไว้ทำน้ำหอมจำนวนมากแล้ว แต่น้ำหอมที่นำออกวางขายก็ยังมีเท่าเดิม ยิ่งทำให้สินค้าของนางกลายเป็นที่พูดถึง จนพ่อค้าจากต่างแคว้นและหัวเมืองอื่นๆ เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อมาทำการค้ากับนางแต่ราคาที่จือหล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status