หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70 / บทที่ 29 ธุรกิจใหม่ของหลินเสี่ยวเหยา

แชร์

บทที่ 29 ธุรกิจใหม่ของหลินเสี่ยวเหยา

ผู้เขียน: BBNanz
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-28 10:00:20

หลินเสี่ยวเหยาเดินนำจักรยานออกมาจากในมิติก่อนจะปั่นจักรยานออกจากซอยเปลี่ยวมามุ่งหน้าไปจุดหมายปลายทาง ไม่นานนักสายตาของเธอก็มองเห็นโกดังร้างที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ริมฝีปากบางเม้มสนิท

เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง หลินเสี่ยวเหยาก็นำจักรยานมาเก็บในมิติก่อนจะก้าวเท้าเดินตรงไปยังโกดังร้าง โกดังแห่งนี้ถูกทิ้งร้างมานานจนประตูเหล็กเริ่มผุพัง หลินเสี่ยวเหยาออกแรงผลักประตูจนเปิดออก เสียงเหล็กครืดคราดดังก้องไปทั่ว เผยให้เห็นความมืดมิดที่ปกคลุมอยู่ภายใน

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ปรับสายตาให้คุ้นเคยกับความมืด มองเข้าไปในโกดังอันกว้างใหญ่ เธอรู้สึกถึงอากาศที่ร้อนอบอ้าว เต็มไปด้วยฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจาย

ร่างบางเปิดไฟฉายส่องทาง เดินลัดเลาะผ่านกองสินค้าเก่าๆ ที่ถูกทิ้งไว้รกเต็มพื้น เธอจำเป็นต้องหาห้องที่มิดชิดเงียบสงบ เหมาะสำหรับการกักขังชายหนุ่มสองคนไว้โดยที่เสียงร้องของพวกเขาจะไม่เล็ดลอดออกมา

หลินเสี่ยวเหยาเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสะดุดเข้ากับประตูไม้เก่าๆ ที่ปิดสนิท เธอใช้มือจับลูกบิดประตู หมุนไปมาอย่างเบามือ เสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ดังก้องไปทั่ว ก่อนที่เธอจะนำชายที่น่าสงสัย 2 คนอ

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 30 มีของรางวัลอะไรให้พี่บ้าง

    หลินเสี่ยวเหยาเดินยิ้มร่าออกจากห้างสรรพสินค้ามาอย่างอารมณ์ดี แผนการหาเงินของเธอเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วในมือของเธอคือถุงผ้าใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยของกินของใช้มากมายล้วนเป็นสินค้าที่เธอคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันก่อนจะมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถจักรยานที่อยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าหลินเสี่ยวเหยาหยิบกุญแจออกจากกระเป๋าสตางค์ ปลดล็อกจักรยานของเธอ ก่อนจะปั่นจักรยานออกจากห้างสรรพสินค้า มุ่งหน้าไปยังถนนไปรษณีย์ เมื่อมาถึงบ้านป้าหวัง หลินเสี่ยวเหยาก็รีบเอ่ยทักทาย"สวัสดีค่ะป้าหวัง หนูกลับมาแล้วค่ะ"หวังลี่จูยิ้มแย้มเมื่อเห็นคนเป็นหลานสาวเดินเข้าบ้านมา "หนูเสี่ยวเหยากลับมาแล้วหรือ ได้ของอะไรมาบ้าง"หวังลี่จูเอ่ยถามเมื่อเห็นเธอหิ้วของมาเยอะแยะหลินเสี่ยวเหยา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม รีบกล่าวให้ป้าหวังฟังทันที "ป้าหวังค่ะ พอดีพันตรีหยางให้เงินหนูมา 500 หยวน หนูเลยเอามาซื้อพวกของกินของใช้ในบ้านค่ะ""ว้าว..พี่สาวซื้อของมาเยอะและเลย" หลินเสี่ยวหมิงเมื่อเห็นของที่เธอซื้อมาถึงกับตาโตเปล่งประกายด้วยความดีใจวิ่งมาเกาะแกะที่ขาพี่สาวหลินเสี่ยวเหยา ยิ้มให้เด็กน้อยด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 31 ร้านขายของเก่า

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเสี่ยวเหยาตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม เธอรีบลุกขึ้นออกจากเตียง หยิบผ้าคลุมไหล่มาสวมก่อนจะเดินไปที่เตาฟืนควันไฟโชยขึ้นจากเตา เสียงฟืนจากกิ่งไม้ดังเปรี๊ยะ ๆ ร่างบางกับกับข้าวง่าย ๆ เธอวางกับข้าวไว้บนโต๊ะให้หลินเสี่ยวหมิง ก่อนจะยกกับข้าวไปให้คุณตัวร้าย เธอมองไปยังเตียงเธอพบกับคุณตัวร้ายยังคงนอนหลับอยู่หลินเสี่ยวเหยาค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ รอยยิ้มของเธอบางลงเล็กน้อย แผลที่สีข้างของคู่หมั้นหนุ่มเริ่มประสานกันแล้ว เขาเริ่มขยับตัวเดินไปไหนได้บ้าง"พี่เฟิงค่ะ... ตื่นได้แล้วค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาหยางเฟิงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขาเมื่อเห็นหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ"พี่เฟิงสบายดีไหมคะ บาดแผลเป็นอย่างไรบ้าง?" หลินเสี่ยวเหยาถามด้วยความห่วงใย ดวงตาสีดำสนิทของเธอจ้องมองเขาอย่างอ่อนโยน"พี่สบายดีครับ ขอบคุณเหยาเหยาที่ดูแลพี่เป็นอย่างดี ตอนนี้บาดแผลของพี่สมานตัวได้ดีมากอีกไม่นานก็ใกล้จะหายแล้ว" หยางเฟิงกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ"ก็พี่เฟิงเป็นขาทองคำของฉันนี้ ฉันก็ต้องดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 32 ภารกิจลับที่สำคัญมาก

    หยางจิ้ง ชายชราวัย 60 ปี เขาเป็นผู้นำระดับสูงของรัฐบาลกลาง เขากำลังนั่งรถยนต์คันหรูสีดำ มุ่งหน้าสู่เมืองจินหลง เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศ จ้าวหลิน เลขาผู้ซื่อสัตย์ เขาทำหน้าที่ทั้งเป็นคนขับรถและคอยคุ้มครองหยางจิ้งอย่างใกล้ชิดการเดินทางครั้งนี้ หยางจิ้งปิดบังไว้เป็นความลับ ชายชราไม่ได้บอกกล่าวกับคนในครอบครัว เขาก็ปิดปากเงียบ สาเหตุก็เพราะเขาได้รับข่าวจาก นายพลเฉิน รุ่นน้องที่เขาสนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเป็นทหาร ว่าหลานชายคนเล็กของเขา อย่างเจ้าหยางเฟิง เกิดไปตกหลุมรักแม่สาวชาวบ้านที่บังเอิญช่วยชีวิตไว้ รุ่นน้องคนสนิทเขาเล่าต่ออีกว่า เจ้าหลานชายจอมหัวดื้อของเขา น่าจะหลงรักเด็กสาวคนนั้นมาก ถึงขนาดจะขอหมั้นหมายเจ้าหล่อนเลยทีเดียวหยางจิ้ง รู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง หลานชายคนนี้ของเขา ไม่มีทีท่าจะสนใจผู้หญิงคนไหน พอพ่อแม่ของเขาจัดการนัดหมายให้ไปดูตัวกับผู้หญิงคนไหน ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าหลานชายตัวร้ายของเขาทำยังไง ฝ่ายหญิงถึงได้หนีเตลิดเปิดเปิงไปเสียไกล จนพวกเขาหมดหวังไปกับเจ้าหลานชายคนเล็ก แต่พอเมื่อเขารู้ข่าวดีเรื่องหลานสะใภ้ หยางจิ้งถึงรีบออกเดินทางมาเมืองจินหลงด้วยตัวเอง โดยไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 33 หรือว่าชายชราคนนี้คือ….

    หลังจากหลินเสี่ยวเหยา ออกมาจากร้านขายของเก่า เธอก็มุ่งหน้าไปตลาดมืดต่อทันที ตอนนี้ก็ใกล้ที่ถึงเวลานัดหมายกับเจ๊เจ้าของร้านขายของชำขนาดใหญ่ที่แถวตรอกในตลาดมืดเมื่อร่างบางปั่นจักรยานมาถึงบริเวณตรอกซอกซอยเปลี่ยว หลินเสี่ยวเหยาหยุดชะงัก มองไปรอบๆ แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ หญิงสาวลูบไล้รอยสักรูปดอกบัวสีเงินบนหลังมืออย่างแผ่วเบาทันใดนั้น และในเสี้ยววินาที ร่างของเธอพร้อมกับจักรยานก็หายวับไปทันทีเมื่อลืมตาขึ้นอีกมาครั้ง หลินเสี่ยวเหยาก็พบว่าตัวเธอเองอยู่ในมิติ หลินเสี่ยวเหยาเดินไปที่ห้างสรรพสินค้าก่อนที่จะแปลงโฉมเป็น "คุณหนูหลิน" สาวสังคมชั้นสูงจากเมืองหลวง เนื่องจากเธอไม่อยากให้ใครแกะรอยการซื้อขายครั้งนี้ เธอกลัวมีเรื่องวุ่นวายติดตามมาถ้าหากใครรู้ว่าเธอเป็นแค่ชาวบ้านที่หมู่บ้านไป๋เหอเท่านั้นเธอรีบคว้าชุดกระโปรงสีสันสดใสมาสวมใส่ แต่งหน้าอย่างประณีต เนรมิตลุคคุณหนูแสนหวาน ปิดท้ายด้วยหมวกตาข่ายสีดำ พรางใบหน้าบางส่วน เผยให้เห็นดวงตาคมโตที่เปล่งประกายเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หลินเสี่ยวเหยาก็ก้าวเท้าออกจากมิติ พร้อมตะกร้าหวายที่มีฝาปิดมิดชิด เธอไม่แน่ใจว่ารหัสผ่านย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 34 คุณปู่ของคุณตัวร้าย

    จ้าวหลิน ชายหนุ่มรูปร่างสูง รีบวิ่งสุดแรงเกิดเมื่อเขาเห็นฉากการต่อสู้ของชายหนุ่มทั้ง 5 กับหญิงสาว เขารีบลงจากรถวิ่งไปหาท่านผู้นำ ด้วยความรวดเร็วเมื่อไปถึง เขาก็พบกับภาพที่น่าตกตะลึง ชายฉกรรจ์ห้าคนรูปร่างสูงใหญ่ นอนสลบอยู่กับพื้น ท่านผู้นำนั่งอยู่บนก้อนหิน ใบหน้าซีดเซียว มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น ราวกับเพิ่งผ่านเหตุการณ์อันตรายมา"ท่านผู้นำ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า?" จ้าวหลินรีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงหยางจิ้งส่ายหน้าช้าๆ "ฉันไม่เป็นอะไร แม่หนูคนนี้เป็นคนช่วยชีวิตไว้ฉันไว้"จ้าวหลินเหลือบมองไปที่หญิงสาวร่างบอบบางที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเธอเรียบเฉย ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองมาด้วยสายตาเฉียบคม ผมยาวสีดำขลับมัดรวบตึง เผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากบางเฉียบ ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่จ้าวหลินกลืนน้ำลาย เขาเคยไม่เคยเธอผู้หญิงคนไหนที่มีฝีมือร้ายกาจ ที่ต่อสู้กับเหล่าคนร้ายหลายคนเพียงลำพังและเอาชนะได้อย่างง่ายดายจ้าวหลินก้มมองไปที่พื้น เห็นชายร่างกำยำ 5 คนนอนสลบอยู่ เสื้อผ้าของพวกเราขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เขาถึงกับตกตะลึง ชายฉกรรจ์นี้ล้วนเป็นชายห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 35 เธอช่างน่าสนใจจริงๆ

    เมื่อหลินเสี่ยวเหยามาถึงตลาดมืด เธอนำหมวกตาข่ายใบใหม่มาปิดบังใบหน้าเธอเอาไว้ ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังร้านขายของชำเพื่อส่งสบู่ให้กับพี่สาวเฉินเฉินหงที่เมื่อหลินหลินเสี่ยวเหยาติดผ้าพันแผลที่แขนเธอจึงเอ่ยทัก"น้องสาวหลินเย่วเป็นอะไรหรือ?" เฉินหงเจ้าของร้านขายของชำเอ่ยถามด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่องรอยแผลบนแขนของเธอ"เอ่อ...ฉันไม่เป็นไรค่ะพี่สาวเฉิน แค่จักรยานล้มนิดหน่อย ตอนนี้หมอใส่ยาให้ฉันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาตอบยิ้มๆ"ระวังตัวหน่อยสิโชคดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก" พี่สาวเฉินเอ่ยเตือนด้วยความห่วงใย ก่อนจะเอ่ยถาม"แล้วสบู่ของพี่สาว น้องสาวหลินได้นำมาครบหรือเปล่า""ครบค่ะพี่สาว" หลินเสี่ยวเหยาตอบกลับมาก่อนจะนำสบู่ออกมาจากตะกร้า 100 ก้อนเฉินหง หยิบตะกร้าสบู่มาตรวจดู กลิ่นหอมของดอกไม้จากสบู่โชยมาแตะจมูก หญิงสาววัยกลางคนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ"สบู่ของน้องสาวนี่หอมมากนะ ลูกค้าหลายคนชื่นชอบมากพี่ขายดิบขายดี" เฉินหงเอ่ยขึ้น "น้องสาวเอาสบู่ไปวางไว้ก่อนเดี๋ยวพี่สาวขอนับของก่อนนะ"หลินเสี่ยวเหยาวางตะกร้าสบู่ลงบนชั้นวางของ ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 36 อาหารมื้อค่ำอันแสนพิเศษ

    หลินเสี่ยวเหยาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามกลั้นความตื่นเต้นที่ปะปนกับความกังวล ใบหน้าของเธอแดงเรื่อขึ้นเมื่อนึกถึงภาพหยางเฟิงจ้องมองเธอด้วยสายตาที่จับจ้อง"คุณตัวร้ายจะสงสัยอะไรไหม?" เสียงของเธอสั่นด้วยความกังวล หยางเฟิงยิ่งเป็นคนที่จับสังเกตคนเก่งซะด้วยสิเธอรีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังห้องครัว ปล่อยความกังวลลงชั่วคราว ร่างบางนำของออกมาจากห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในมิติของเธอมาทำกับข้าวทันที"วันนี้ทำเมนูพิเศษหน่อยก็แล้วกัน" เธอเอ่ยพึมพำกับตัวเองหลินเสี่ยวเหยาเริ่มลงมือทำเมนูอาหารจีนโบราณ เสียงมีดสับดังก้องไปทั่วห้องครัว กลิ่นหอมเย้ายวนโชยมาแตะจมูก ไล่ความหิวกระหายเธอเริ่มต้นทำเป็ดปักกิ่ง หนังสีทองกรอบ เนื้อนุ่มฉ่ำ ราดด้วยซอสถั่วเหลืองสูตรพิเศษ จานแรกถูกวางลงบนโต๊ะตามมาด้วย หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊ว เนื้อหมูนุ่มละมุนละลายในปาก รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นซีอิ๊วปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว เนื้อปลานุ่มฟู ราดด้วยซีอิ๊วหอมๆ ทานคู่กับผักต้ม อร่อยลงตัวผักรวมมิตรผัดน้ำมันหอย ผักหลากชนิดผัดจนสุกกรอบ ราดด้วยน้ำมันหอยรสเข้มข้นและเมนูสุดท้ายซุปไก่ตุ๋นโสม น้ำซุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 37 เธอมีความลับอะไรซ่อนอยู่

    แสงไฟสีส้มอ่อนจากแสงตะเกียงสาดส่องลงบนโต๊ะอาหารมื้อค่ำอันแสนเรียบง่ายเพิ่งจบลง เสียงหัวเราะและบทสนทนาค่อยๆ เงียบลง เหลือเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องรับกับสายลมยามค่ำคืนนายพลเฉิน ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารพร้อมกับจ้าวหลิน เลขาของท่านผู้นำพวกเขาเดินมุ่งหน้าออกไปสูบบุหรี่ท่ามกลางอากาศเย็นสบายของยามค่ำคืนภายในลานหน้าบ้านหยางจิ้ง นั่งพิงเก้าอี้หลังอาหารเย็นเสร็จ สายตาของเขามองหลานสะใภ้ด้วยความเอ็นดู เธอกำลังเก็บกวาดจานชามบนโต๊ะอาหารอย่างคล่องแคล่วกับน้องชาย"หลานสะใภ้กับข้าววันนี้อร่อยมาก ปู่ไม่เคยทานอาหารเย็นที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย ฝีมือหลานเหนือกว่าแม่ครัวในภัตตาคารใหญ่ๆ ในเมืองหลวงเสียอีก" หยางจิ้งเอ่ยชมเชยด้วยความเอ็นดูหลินเสี่ยวเหยายิ้มเขินแก้มแดง "ขอบคุณค่ะปู่ หนูดีใจที่ปู่ชอบ หนูตั้งใจทำมาให้คุณปู่ทานค่ะ"หยางเฟิง นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มองดูภาพความอบอุ่นของคู่หมั้นและปู่ของเขารอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า แต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย"คุณปู่ครับ เหยาเหยาทำกับข้าวอร่อยก็จริง แต่ปู่ก็อย่ามาบ่อยนักนะครับ เดี๋ยวเหยาเหยาจะเหนื่อยซะก่อน" เขากล่าวขึ้นด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 71 บทส่งท้าย ค่ำคืนของสองเรา

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมา รถไฟขบวนพิเศษจากเมืองหลวงก็แล่นเข้าสู่สถานีรถไฟเมืองจินหลง หยางกั๋วเฉิงและหลิวซิวหยวน พ่อแม่ของหยางเฟิง ย่างก้าวลงจากรถไฟด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุข ท่ามกลางเสียงต้อนรับของลูกชายและลูกสะใภ้ที่มารอรับอย่างพร้อมหน้า"คุณพ่อ คุณแม่" หยางเฟิงโผเข้ากอดพ่อแม่ด้วยความคิดถึง น้ำตาคลอหน่วย "ผมคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน""ลูกชายแม่" หลิวซิวหยวนลูบหลังลูกชายเบาๆ ปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน"หยางกั๋วเฉิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "เจ้าสามแกโตเป็นหนุ่มแล้วนะ แถมยังจะแต่งงานมีครอบครัวอีกต่างหาก""แล้วนี่หลินเสี่ยวเหยา คู่หมั้นของลูก ใช่ไหม?" หลิวซิวหยวนเอ่ยถามพลางมองไปยังหญิงสาวหน้าหวานที่ยืนข้างๆ ลูกชายด้วยสายตาเอ็นดู"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ หนูชื่อหลินเสี่ยวเหยาค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาโค้งคำนับอย่างนอบน้อม"หนูเสี่ยวเหยา ไม่ต้องมากพิธีหรอก" หยางกั๋วเฉิงยิ้มให้หลินเสี่ยวเหยาอย่างเป็นมิตร "พ่อได้ยินเรื่องของลูกจากเจ้าสามมาเยอะพอสมควร พอได้มาเห็นตัวจริงแล้วน่ารักกว่าที่คิดไว้มาก""จริงสิ พี่ชายคนโตของพ่อกับลูกสะใภ้ก็มาด้วยนะ"

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 70 ขอแต่งงาน

    เสียงไซเรนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณโรงแรมหลงหยวนชุน เซียวจิ้งหนานและเจียงเหม่ยหลิงถูกใส่กุญแจมือถูกลากตัวไปขึ้นรถทหาร หยางเฟิงหัวหน้าหน่วยที่ 13 ปาดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผาก เขาหันไปสั่งการเจียงเฉินเพื่อนสนิทของเขา"เจียงเฉิน นายรีบพาหลินฮวาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!" หยางเฟิงสั่งการด้วยน้ำเสียงเข้มเจียงเฉินพยักหน้ารับคำสั่งอย่างรวดเร็ว เขารับร่างบอบบางของหลินฮวาที่หมดสติไปจากหัวหน้าหน่วยอย่างระมัดระวัง ใบหน้าซีดเผือดของหลินฮวามีรอยไหม้จากน้ำกรดปรากฏให้เห็นเป็นบาดแผลที่น่ากลัว ใบหน้าของเธอเสียหายไปทั้งใบหน้า เจียงเฉินกัดฟันแน่น เขาอุ้มหลินฮวาขึ้นรถ รีบบึ่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์และพยาบาลต่างก็กรูเข้ามาช่วยเหลือหลินฮวาอย่างเร่งด่วน พวกเขาเข็นเตียงของหลินฮวาเข้าห้องฉุกเฉินทันที เจียงเฉินมองตามร่างของหญิงสาวที่หายลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน"คุณหมอครับ อาการของเธอจะเป็นยังไงบ้างครับ" เจียงเฉินถามคุณหมอเมื่อเห็นทีมแพทย์ออกจากห้องฉุกเฉินมา"อาการของเธอค่อนข้างสาหัส ของเหลวที่เธอได้รับเข้าไปนั้นเป็นกรดที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก ตอนนี้เ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 69 จับกุมตัวสองผัวเมีย

    หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดจากหลี่เหว่ยแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็รีบแจ้งหยางเฟิงถึงแผนที่จะไปช่วยลูกชายของหลี่เหว่ยที่บ้านพักตากอากาศชานเมืองจินหลงทันทีหยางเฟิงแสดงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด "เหยาเหยา เธอแน่ใจนะว่าจะไปเอง? ไม่ให้พี่ไปด้วย"หลินเสี่ยวเหยาส่ายหน้า "ไม่เป็นไรหรอกพี่เฟิง พี่ไปจัดการเรื่องจับกุมเซียวจิ้งหนานเถอะ เรื่องหลี่เหว่ยตงฉันจัดการเองได้" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"แต่ว่า..." หยางเฟิงยังคงลังเล"ไม่มีแต่ค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมส่งยิ้มหวานละมุนให้คู่หมั้นหนุ่มหยางเฟิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเหยาเหยาก็ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรโทรมาที่ค่ายทหารติดต่อพี่ได้ตลอด"หลินเสี่ยวเหยาพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ค่ะ...พี่เฟิง งั้นเดี๋ยวฉันขอยืมรถพี่เฟิงหน่อยนะคะ""เหยาเหยาขับรถเป็นด้วยหรือครับ" หยางเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นหลินเสี่ยวเหยาขับรถมาก่อน"ฉันขับรถเป็นค่ะ" หลินเสี่ยวเหยากล่าวอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 68 ใบหน้าเสียโฉม

    แสงอาทิตย์สีทองค่อยๆ ลับหายไปหลังแนวขุนเขา ทิ้งไว้เพียงสีส้มจางๆ ระบายขอบฟ้า แต่แสงนั้นไม่อาจบรรเทาความร้อนรุ่มในใจของเจียงเหม่ยหลิงได้เลยแม้แต่น้อย รถยนต์คันใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองจินหลงในยามพลบค่ำ เธอหันไปสั่งคนสนิทเสียงเข้ม"ไปสืบเรื่องหลินฮวาที่ร้านจินหยวนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้"รถยนต์ยังคงแล่นไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและรถลาก เจียงเหม่ยหลิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยกลับดูหม่นหมองลงในสายตา"นายหญิงครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ทำให้เจียงเหม่ยหลิงละสายตาจากภาพด้านนอก"ว่าอย่างไร" เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแววเคร่งขรึม"คุณเซียวได้ไถ่ตัวหลินฮวาจากร้านจินหยวนจริงครับ จากการสืบปากคำเจ้าของร้านทำให้ทราบว่าตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมหลงหยวนชุน" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยรายงานเจียงเหม่ยหลิงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความโกรธเกรี้ยวประดุจเปลวไฟลุกโชนขึ้นในอก เธอหวนนึกถึงคำพูดของบรรดาอนุภรรยาของเซียวจิ้งหนานที่คอยพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ชอบโอ้อวดเรื่องสามีให้เธอฟัง แม้จะโกรธเพียงใด แต่เจียงเหม่ยหลิงก็รู้ดีว่าเธอต้องอดทน เธอรู้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 67 หายนะที่กำลังจะมาเยือน

    ไม่ถึงสิบนาที ประตูห้องสอบสวนก็เปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงของหลินเสี่ยวเหยาปรากฏขึ้น เธอเดินอย่างสง่าผ่าเผยออกมาจากห้อง ทิ้งให้หลี่เหว่ยจมอยู่กับความคิดอันสับสนวุ่นวายเพียงลำพังทันทีที่ก้าวพ้นประตู หลินเสี่ยวเหยาต้องเผชิญหน้ากับบุรุษสองนายที่ยืนรออยู่ หยางเฟิงในชุดทหารที่ดูสง่างามยืนรออยู่เคียงข้างพลตรีเฉินกั๋วชิง ผู้บังคับบัญชาของเขา ดวงตาคมกริบของหยางเฟิงจับจ้องมาที่หลินเสี่ยวเหยาอย่างร้อนรน ความอยากรู้ฉายชัดอยู่ในแววตา"เหยาเหยา เป็นยังไงบ้าง หลี่เหว่ยมันยอมปริปากหรือยัง?" เสียงทุ้มเข้มของพันตรีหนุ่มดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบของทางเดินหลินเสี่ยวเหยาหยุดยืนอยู่หน้าหยางเฟิงและพลตรีเฉินกั๋วชิง เธอสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบ "แน่นอนค่ะว่าหลี่เหว่ยสารภาพ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศหยางเฟิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาและเหว่ยเจี้ยน ต่างก็เค้นสอบสวนหลี่เหว่ยมาตลอดทั้งอาทิตย์ ใช้ทั้งวิธีข่มขู่และทรมานสารพัด แต่หัวหน้ากลุ่มกบฏก็ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแต่หลินเสี่ยวเหยาที่เข้าไปในห้องสืบสวน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 66 เปิดปากหลี่เหว่ย

    ท้องฟ้าเหนือเมืองจินหลงยังคงมืดครึ้ม แม้แสงอาทิตย์แรกของวันใหม่จะเริ่มสาดส่อง ทว่าบรรยากาศในเซฟเฮาส์ลับกลับเย็นเยียบราวกับถูกปกคลุมด้วยเงามืดเซียวจิ้งหนานนั่งนิ่ง สายตาคมกริบจับจ้องไปยังลูกน้องที่ยืนตัวสั่นอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าที่ถึงจะมีอายุเยอะแต่ก็ยังคงความหล่อเหลา บัดนี้ใบหน้าเขากลับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อทุกสิ่งที่เขาได้วางแผนไว้ล้มเหลวไม่เป็นท่า"นายท่านผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ ผมได้รับรายงานว่าค่ายของพวกกบฏที่เราสนับสนุนถูกทหารบุกโจมตีตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วครับ" เสียงของลูกน้องรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "อาวุธและคนของเราถูกจับยึดไปทั้งหมด...""ว่ายังไงนะ!" เสียงทุ้มต่ำของเซียวจิ้งหนานดังก้องไปทั่วห้องทำงานเมื่อได้ยินข่าวร้าย "ค่ายของเราถูกพวกทหารรัฐบาลบุกโจมตีงั้นเหรอ?"แก้วเหล้าคริสตัลที่บรรจุของเหลวสีอำพันล้ำค่าหลุดร่วงจากมือหนา กระทบกับพื้นหินอ่อนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ของเหลวสีทองอร่ามไหลนองไปทั่วพรมเปอร์เซียราคาแพง"ครับนายท่าน" ลูกน้องคนสนิทก้มหน้าลงต่ำด้วยความหวาดกลัว "พวกมันบุกเข้ามาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนของเราเสียชีวิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 65 จดหมายแจ้งข่าว

    คฤหาสน์ตระกูลเซียว อันโอ่อ่ากว้างใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองหยวนหลิงเมืองขนาดใหญ่ทางภาคใต้ของประเทศ ภายในห้องโถงใหญ่ ที่ประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง และแจกันดอกเหมยที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น เจียงเหม่ยหลิง ภรรยาหลวงของเซียวจิ้งหนาน เจ้าของคฤหาสน์ กำลังนั่งจิบน้ำชาอย่างสง่างามอยู่บนเก้าอี้ไม้มะฮอกกานีตัวโปรดรอบโต๊ะน้ำชา ยังมีคุณนายอีกสี่คนนั่งอยู่ ได้แก่ ซูหนิง คุณนายรองผู้มีใบหน้าเรียวสวยหวาน ลู่เหยา คุณนายสามผู้มีดวงตากลมโตเป็นประกาย เฉินหง คุณนายสี่ผู้มีผิวขาวผ่องราวกับหยก และคุณนายห้าหยางเหมย บุคลิกเงียบขรึมแต่แฝงไปด้วยความเฉลียวฉลาด บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย"พี่เหม่ยหลิง ฉันเห็นพี่จิ้งหนานซื้อสร้อยไข่มุกเส้นใหม่ให้น้องเหมยเมื่ออาทิตย์ก่อน สวยงามมากเลยนะคะ" ซูหนิงคุณนายรองเอ่ยถึงคุณนายห้าด้วยน้ำเสียงหวานหยด พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้เจียงเหม่ยหลิงผู้เป็นภรรยาหลวงเจียงเหม่ยหลิงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "อืม ก็แค่สร้อยไข่มุกธรรมดา ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย""แหม พี่เหม่ยหลิง พูดอย่างน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 64 แผนการเอาคืนหลินฮวา

    พลตรีเฉินยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้ากลุ่มทหารที่รายล้อมตัวพวกกบฏเอาไว้ ร่างสูงใหญ่ของเขาในชุดเครื่องแบบสีเขียวเข้มเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น ใบหน้ามีรอยย่นใต้หมวกทรงทหารบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าจากการศึกอันยาวนานเบื้องหลังเขาคือกองทหารผู้ภักดีราวหนึ่ง170นาย ทุกคนต่างถืออาวุธคู่กายแน่น มือเปื้อนเลือดจากการต่อสู้อันดุเดือดที่เพิ่งจบลงไป เหล่าเชลยศึกกว่าเก้าสิบคนที่รอดชีวิตต่างถูกจับมัดรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ทุกคนต่างมีใบหน้าซีดเผือดและร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว พวกเขาคือกลุ่มกบฏที่พยายามโค่นล้มรัฐบาลและสร้างความวุ่นวายให้แก่ประเทศชาติไม่ไกลจากจุดที่พลตรีเฉินยืนอยู่ ร่างสองร่างที่ถูกจับมัดอย่างแน่นหนาคุกเข่าอยู่บนพื้น จางเหว่ยและหลี่เหว่ย ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผล"รายงานสถานการณ์มา" พลตรีเฉินสั่งการเสียงเข้มหยางเฟิงก้าวออกมาข้างหน้า "เรียนท่านผู้บังคับบัญชา พวกเราได้ทำการจับกุมหลี่เหว่ย หัวหน้ากลุ่มกบฏ พร้อมพรรคพวกได้สำเร็จในขณะที่พวกมันกำลังหลบหนีออกไปทางด้านหลังค่าย"พลตรีเฉินพยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ"พวกมันถูกจับโดยหลินเสี่ยวเ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 63 สติแตก

    ยามราตรีแผ่คลุมทั่วผืนป่า ท้องฟ้าไร้แสงจันทร์ มีเพียงแสงดาวริบหรี่ส่องประกายอยู่ห่างไกล ท่ามกลางความมืดมิดนั้น กองกำลังทหารกำลังเคลื่อนพลอย่างเงียบเชียบ พวกเขาซ่อนตัวอยู่ตามพุ่มไม้และโขดหิน รอคอยสัญญาณจากผู้นำกลุ่มทันใดนั้น เสียงหวานแต่หนักแน่นก็ดังขึ้นจากวิทยุสื่อสารคู่กายของพันตรีหนุ่ม หยางเฟิง"พี่เฟิง ได้ยินไหม? ฉันเจอคลังอาวุธของพวกกบฏแล้ว เตรียมพร้อมโจมตีได้เลย " เสียงหวานแต่หนักแน่นของหลินเสี่ยวเหยาดังแว่วมาจากในวิทยุสื่อสาร ทำให้บรรยากาศในกองทัพอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นหยางเฟิงยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ เขาหันไปพยักหน้าให้เหว่ยเจี้ยน หัวหน้าหน่วยที่ 7 ผู้ที่มีฝีมือการต่อสู้เก่งกาจพอๆ กับเขา เหว่ยเจี้ยนตอบรับด้วยการพยักหน้ากลับอย่างมั่นคง แววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในการทำภารกิจที่จะเกิดขึ้น"ทุกหน่วย เตรียมพร้อม! เราจะบุกโจมตีฐานทัพพวกกบฏในอีกสิบนาทีข้างหน้า" หยางเฟิงออกคำสั่งผ่านวิทยุสื่อสาร น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและเด็ดขาดเหล่าทหารหนุ่มคนอื่นๆ ต่างขานรับคำสั่งของหัวหน้ากลุ่มด้วยความพร้อมเพรียง พวกเขาตรวจสอบอาวุธและส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status