แชร์

บทที่ 10 ความเชื่อใจ (2)

ผู้เขียน: ชงเมิ่ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-20 14:37:54

“คุณแม่” / “หญิงใจร้าย”

“เป็นเด็กเป็นเล็กใช้เตาไฟโดยไม่มีผู้ใหญ่อันตรายแค่ไหนไม่รู้หรือไง”

“พวกเราเป็นผู้ชายเจ็ดขวบแล้ว ขึ้นชั้นประถมแล้วด้วย ไม่ใช่เด็กแล้ว”

หลี่จื่อชิงร้องโวยวายโต้แย้ง พ่อเคยบอกว่าพวกเขาเป็นผู้ชาย ตอนนี้เจ็ดขวบแล้วอีกทั้งยังขึ้นชั้นประถมแล้วไม่นับว่าเป็นเด็กอีกต่อไป ต้องรู้จักพึ่งพาช่วยเหลือตนเอง หญิงใจร้ายตรงหน้าไม่รู้เรื่องของผู้ชายละสิ ถึงได้ยังคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กแบบพวกผู้หญิง

ซ่งเจียซินถอนหายใจยาวมองดูความดื้อดึงของเด็กชายตรงหน้าอย่างระอาใจ ทว่าพริบตาก็เปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองจ้องมองใบหน้าแต่ละคนด้วยสายตาไม่พอใจ

“จื่อชิง แค่พูดไม่ระวัง ถ้าคุณไม่พอใจที่พวกเราใช้เตาไฟอย่างนั้นพวกเราก็จะไม่ใช้”

หลี่จื่อหมิงเห็นสายตาขุ่นเคืองของหญิงสาวตรงหน้าก็คิดว่าเธอคงไม่พอใจที่หลี่จื่อชิงโต้แย้งเมื่อครู่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้น้องถูกทำโทษขังในห้อง หรือให้อดอาหารเหมือนในอดีต หลี่จื่อหมิงจึงหลบเลี่ยงด้วยการคิดจะพาน้อง ๆ กลับขึ้นห้อง

คิดแล้วก็โมโหตนเอง เพราะหลายวันมานี้เสวี่ยชิงหยวนใจดีกับพวกเขามากไป ดังนั้นหลี่จื่อหมิงจึงชะล่าใจไม่ได้เตรียมอาหารแห้งซ่อนไว้ในห้องเช่นเมื่อก่อน วันนี้จึงจำใจต้องถอยหนึ่งก้าวเพื่อปกป้องท้องของทุกคน

ทนหิวหนึ่งมื้อก็ดีกว่าต้องทนหิวไปอีกหลายวัน

“หน้าพวกนาย ฝีมือใคร”

เพราะความหิวทำให้เด็กชายทั้งสามลืมไปเสียสนิทว่าพวกตนหลบหน้าเสวี่ยชิงหยวนเพราะไม่ต้องการให้เธอเห็นรอยฟกช้ำบนใบหน้า ตอนนี้คิดจะหลบเลี่ยงก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว

ซ่งเจียซินไม่รอคำตอบจากพวกเขาเดินตรงเข้ามาจับตัวของเด็กชายแต่ละคนเปิดเสื้อสำรวจร่างกาย เมื่อเห็นว่าเนื้อตัวของพวกเขามีรอยฟกช้ำทั้งเก่าและใหม่ก็ขบกรามแน่น

ซ่งเจียซินหลับตาขมวดคิ้วแน่น พยายามเค้นหาความทรงจำของเสวี่ยชิงหยวนว่าในอดีตเคยทำร้ายเด็กชายทั้งสามหรือไม่

“แม่ครับ พวกเราขอโทษ”

หลี่จื่อรั่วเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ามารดาเลี้ยงที่ตอนนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

ซ่งเจียซินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเมื่อพบว่าในความทรงจำนี้แม้ว่าเสวี่ยชิงหยวนจะเป็นสตรีร้ายกาจ แต่เธอก็ไม่เคยลงมือทุบตีเด็กชายทั้งสาม เวลาไม่พอใจก็จะใช้วิธีกักขังเอาไว้ในห้อง หรือให้อดอาหาร ดังนั้นรอยฟกช้ำบนตัวของพวกเขาแน่นอนว่าต้องมาจากผู้อื่น

“แม่จะไม่โกรธถ้าจื่อรั่วบอกแม่มาว่าใครเป็นคนทำร้ายลูก ๆ”

เมื่อถูกถามถึงคนที่ลงมือทำร้ายตนเองและพี่ชายฝาแฝดทั้งสอง หลี่จื่อรั่วก็เม้มริมฝีปากแน่น หลี่จื่อหมิงเอื้อมมือมาดึงน้องชายให้ถอยห่างจากมารดาเลี้ยงแล้วพูดเสียงเยือกเย็นราบเรียบ

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”

กล่าวจบก็จับมือน้องชายทั้งสองเดินกลับขึ้นห้อง หากแต่

ซ่งเจียซินก็เดินมาขวางทางเอาไว้ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ใครบอกว่าไม่ใช่เรื่องของฉัน พวกนายเป็นลูกของฉัน”

“แค่ลูกเลี้ยง”

หลี่จื่อชิงพูดแทรกขึ้นมา พลางเบนสายตาหลบไม่สบตา

“จะลูกจริงหรือลูกเลี้ยงพวกนายก็คือลูกของฉัน ถ้าวันนี้พวกนายไม่บอกความจริงกับฉัน พรุ่งนี้ฉันก็จะไปถามที่โรงเรียน”

“คุณจะอยากรู้ไปทำไม ไม่ต้องห่วงถ้าคุณพ่อถามพวกเราจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับคุณ”

ซ่งเจียซินได้ยินหลี่จื่อหมิงตอบกลับด้วยท่าทางเย็นชาก็สูดลมหายใจเข้าข่มกลั้นอารมณ์

“จื่อหมิง วันก่อนนายไม่ใช่บอกว่าจะเชื่อฟังฉันหรือไง”

“ไม่ได้บอกว่ากี่วัน”

เป็นอีกครั้งที่ซ่งเจียซินต้องใช้ลมหายใจควบคุมอารมณ์ตนเอง หลี่จื่อหมิงอายุเจ็ดขวบก็รู้จักใช่เล่ห์เหลี่ยมแล้วหรือ

“ได้! อย่างนั้นพรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนพร้อมกัน”

“พวกเราไปมีเรื่องมา อยากลงโทษก็ลงโทษไม่ต้องทำเรื่องให้วุ่นวาย”

เป็นหลี่จื่อชิงที่พูดออกมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ซ่งเจียซินยังเห็นว่าเขาแอบยกมือปาดน้ำตาบนใบหน้า ราวกับอัดอั้นตันใจในบางสิ่ง

“แม่ครับ พวกเราไม่ได้เริ่มก่อน เป็นพวกติงฝูไห่ที่มารีดไถเงินพวกเรา แล้วยังว่าพวกเราจนจื่อชิงทนไม่ไหวแล้วก็...”

“จื่อรั่วไม่ต้องพูดแล้ว เป็นผมเองที่หาเรื่อง คุณจะตีหรือจะลงโทษอะไรก็มาลงที่ผม คนอื่นไม่เกี่ยว”

“ห้ามตีพวกเขา! หรือถ้าจะตีก็ตีผม”

ซ่งเจียซินมองดูสามพี่น้องตรงหน้าแล้วถอนหายใจยาว ไม่รู้ว่าเธอควรดีใจในความรักใคร่ปรองดองของพวกเขา หรือโมโหที่พวกเขาร่วมมือกันปกปิดเรื่องราวกันแน่

“อย่างนั้นให้พวกนายเลือก อยากให้ฉันรู้ความจริงจากปากพวกนาย หรือคำโกหกจากปากคนอื่น”

ความจริงจากปากพวกเขา หรือคำโกหกจากปากคนอื่น หมายความว่าเธอเชื่อพวกเขาอย่างนั้นหรือ หลี่จื่อหมิงจ้องมองดวงตากลมของมารดาเลี้ยงอย่างชั่งใจก่อนจะเป็นคนเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

“ดี! อย่างนั้นพรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนพร้อมกัน”

“จะไปทำไมอีก ไหนคุณบอกว่าเชื่อพวกเราไง นี่คุณโกหกใช่ไหม จริง ๆ แล้วคุณไม่เคยเชื่อพวกเราเลย”

หลี่จื่อชิงได้ยินว่าหญิงใจร้ายตรงหน้าจะไปโรงเรียนก็โวยวายอีกระลอก ดวงตาเริ่มแดงก่ำอีกหน ซ่งเจียซินที่เห็นแล้วในใจก็อดจะรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ ความรู้สึกที่ไม่อาจพึ่งพาใครพวกเขาที่อายุแค่นี้จะรับไหวได้อย่างไรกัน

“พวกนายถูกคนอื่นรังแก ฉันจะไม่ไปเอาเรื่องได้อย่างไร”

ไปเอาเรื่อง นี่หมายความว่าเธอเชื่อคำพูดของพวกเขาอย่างนั้นเหรอ

“คุณ... เชื่อพวกเรา”

“พวกนายเป็นลูกของฉัน ฉันไม่เชื่อพวกนายแล้วจะให้ไปเชื่อคนอื่นหรือไง ไปนั่งที่โต๊ะฉันจะทำอาหารให้ คืนนี้ต้องกินให้อิ่มพรุ่งนี้จะได้มีแรงช่วยฉันหาเรื่องคน”

พูดจบหญิงสาวก็เดินเข้าไปในครัว หลี่จื่อหมิงมองตามแผ่นหลังบางที่ดูมั่นคงอย่างที่เขาไม่เคยเห็นแล้วพูดเสียงเบา

“หญิงอันธพาล”

ซ่งเจียซินที่ได้ยินคำชมของเด็กชายหน้านิ่งยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปเปิดเตาไฟทำอาหารง่าย ๆ ให้พวกเขากินก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องนอน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 11 ความเชื่อใจ (3)

    ซ่งเจียซินมาถึงโรงเรียนพร้อมกับเด็กชายฝาแฝดทั้งสามคน ทว่าเวลาที่มาถึงนั้นกลับไม่ใช่ช่วงเช้าแต่เป็นช่วงบ่าย อีกทั้งห้องที่เธอพาพวกเด็ก ๆ ไปนั้นก็ไม่ใช่ห้องเรียน แต่เป็นห้องของ...“ผอ.หวัง คะ ผู้ปกครองของหลี่จื่อหมิง หลี่จื่อชิง หลี่จื่อรั่ว มาขอพบค่ะ”“ผู้ปกครองของสามแฝดหลี่หรือ มีเรื่องอะไร”“เอ่อ... เห็นว่ามาร้องเรียนค่ะ”“ร้องเรียน! ร้องเรียนใคร เรื่องอะไร”“ลูกชายของครูติงค่ะ”หวังเต๋อห้าว ได้ยินว่าอีกฝ่ายมาร้องเรียนติงฝูไห่ก็ถอนหายใจยาว เรื่องที่ติงฝูไห่รีดไถเงินของนักเรียนรุ่นน้องนั้นเขาเคยตักเตือนติงอี้เทาไปหลายหนแล้ว ไม่คิดว่าครั้งนี้จะเกิดเรื่องขึ้นจริง“ไปเรียกครูติงกับนักเรียนติงฝูไห่มา”“ค่ะ”ซ่งเจียซินขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้รับคำอธิบายเหตุการณ์ที่เด็กแฝดทั้งสามของเธอถูกทำร้ายว่าเป็นเพียงการหยอกล้อกันเท่านั้น ส่วนเรื่องรีดไถเงินนั้นอีกฝ่ายยืนกรานว่าไม่เคยเกิดขึ้น เงินไม่มีเจ้าของดังนั้นจึงไม่อาจพิสูจน์ได้“ได้ค่ะ ในเมื่อครูติงและผอ.หวังยืนยันเช่นนี้ ฉันก็จะเชื่อค่ะ”ได้ยินหญิงสาวตรงหน้าเจรจาง่ายดายเช่นนี้หวังเต๋อห้าวและติงอี้เทาก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ติงฝูไห่ยังยกยิ้มเย้ยหยัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 12 ความเชื่อใจ (4)

    ซ่งเจียซินยืนพิงขอบหน้าต่างห้องนอน ร่วมเดือนแล้วที่เธอทะลุมิติมาใช้ชีวิตในฐานะของเสวี่ยชิงหยวน แต่ระยะเวลาอันแสนสั้นนี้ก็ทำให้เธอได้รู้ว่า หลี่โจวอี้ไม่ได้ต้องการให้เธอเป็นภรรยาอย่างแท้จริง และเด็กชายทั้งสามก็ไม่ปรารถนาให้เธอเป็นมารดาเลี้ยง เช่นนี้แล้วยังมีเหตุผลใดให้เธอต้องทนอยู่ในบ้านหลังนี้กัน“อิงอิง ในยุคนี้สามีภรรยาสามารถหย่าขาดจากกันได้แล้วใช่ไหม”“ได้ค่ะ แต่การหย่าร้างจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของผู้หญิงนะคะ”หูหลินอิงอยู่กับเสวี่ยชิงหยวนมาหลายปี แม้ช่วงนี้อีกฝ่ายจะมีพฤติกรรมและความคิดที่แปลกไปจากปกติ แต่เธอก็พอจะคาดเดาความคิดของผู้เป็นนายได้“ก็แค่หญิงหม้าย หย่าสามี มีเรื่องใดให้ต้องอับอายกัน”“คุณหนูตัดใจทิ้งคุณชายทั้งสามได้หรือคะ”หากเป็นเมื่อก่อนหูหลินอิงย่อมไม่กล้าถามคำถามนี้ เพราะรู้ดีว่าคุณชายทั้งสามไม่มีความสำคัญใดต่อคุณหนูของตนเลยสักนิด ทว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณชายน้อยทั้งสาม คุณหนูของเธอก็จะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ“พวกเขาต้องการฉันด้วยหรือ”หลี่จื่อหมิง และ หลี่จื่อรั่วสบตากันก่อนจะมองไปที่หลี่จื่อชิงด้วยความสงสัย ก่อนที่หลี่จื่อรั่วจะข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 13 ความเชื่อใจ (5)

    ซ่งเจียซินใช้เวลาหลังจากที่เด็ก ๆ ไปโรงเรียนแล้วตรวจสอบบัญชีกิจการ เมื่อพบว่าไม่มีปัญหาอะไรให้กังวลเธอก็มอบหมายให้ตงซางผู้จัดการเดิมดูแลต่อ โดยเธอจะแวะเข้ามาตรวจสอบเป็นระยะ ในระหว่างที่กำลังจะกลับบ้านเพื่อเตรียมไปรับเด็ก ๆ สายตาก็หันไปเห็นลูกบอลหนัง ซ่งเจียซินนึกถึงสนามหญ้าด้านหลังบ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางเหมาะแก่การทำเป็นสนามฟุตบอลให้เด็ก ๆ ใช้ออกกำลังกาย“อิงอิง ไปซื้อลูกบอลหนังให้ฉันที”“ค่ะ”หูหลินอิงเดินไปซื้อของตามคำสั่งผู้เป็นนาย ขณะที่ซ่งเจียซินเดินไปดูเสื้อผ้าที่แผนกเด็กโต วันก่อนเธอสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของเด็กชายมีขนาดเล็กเกินไป ก่อนออกจากบ้านจึงไปแอบวัดเสื้อผ้าชุดเดิมมาคร่าว ๆ เพื่อกะขนาดที่ใหญ่ขึ้นสักหน่อยให้พวกเขา ทว่าเลือกดูได้ไม่นานเธอก็ชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคน“อะ... ขอโทษค่ะ”เพราะเธอเดินไม่ระวังจึงชนคน ดังนั้นซ่งเจียซินจึงรีบขอโทษก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ตนเองชน และทันทีที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายคิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นในทันที“คุณเฉินเซียว”“คุณเสวี่ย ไม่เจอกันนานคุณสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ แล้วนี่ภรรยาของคุณล่ะคะไม่มาด้วยหรือ”เฉินเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อถูกหญิงสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 14 ได้รับความเชื่อใจ (1)

    บทที่ 14 ได้รับความเชื่อใจ (1)เมื่อกลับมาถึงบ้านหลี่จื่อรั่วที่เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตนเองแล้วเห็นชุดใหม่สามชุดแขวนอยู่ก็เบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นยินดี อีกทั้งยังหยิบทั้งสามชุดออกมาวางทาบตัวด้วยท่าทางกระตือรือร้น“จื่อหมิง จื่อชิง พวกนายดูชุดใหม่พวกนี้สิ พอดีกับตัวพวกเราเลย”หลี่จื่อหมิงขมวดคิ้วเข้มมองดูชุดใหม่ที่น้องชายถือ ไม่ต้องซักถามหรือคาดเดาก็รู้ได้ในทันทีว่าชุดพวกนี้เป็นใครที่ซื้อมาให้ ในขณะที่หลี่จื่อชิงเองก็รีบลุกไปเปิดตู้ของตนเอง เมื่อเห็นว่าเขาเองก็ได้ชุดใหม่ในแบบเดียวกันกับหลี่จื่อรั่วบนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มยินดี สองปีมาแล้วที่เขาไม่เคยได้ชุดใหม่เลย เพียงแต่เมื่อคิดถึงคนที่น่าจะซื้อชุดเหล่านี้ให้ตนเอง ท่าทางยินดีเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นนิ่งสงบ“ไม่เห็นจะสวยสักนิด เลือกชุดก็ไม่เป็น”ทั้งที่ปากบ่นตำหนิ แต่มือกลับจับชุดเหล่านั้นเอาไว้แน่น มุมปากก็ยกขึ้นเป็นครั้งคราวอย่างพยายามอดกลั้นหลี่จื่อหมิงลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตนเองก็พบชุดในแบบเดียวกันกับน้องชายเช่นกัน หากแต่บนใบหน้าของเขากลับไม่มีความยินดีเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับแฝงไปด้วยความหวาดระแวงและกังวลใจ“พับให้เรียบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 15 ได้รับความเชื่อใจ (2)

    ซ่งเจียซินยืนพิงขอบหน้าต่างห้องนอนมองดูสนามหญ้าเบื้องล่างด้วยความรู้สึกสงสัย สามวันแล้วที่เธอมอบลูกบอลหนังให้เด็กชายทั้งสามคนไป ทว่าจวบจนวันนี้กลับไม่เคยเห็นพวกเขาหยิบมันมาเล่นเลยสักครั้ง หรือแท้จริงแล้วพวกเขาจะไม่ชอบเล่นบอลกัน“อิงอิง ปกติคุณชายทั้งสามคนเขาชอบเล่นบอลหรือไม่”“ชอบค่ะ”“แล้วทำไม ฉันไม่เห็นเขาเอาบอลมาเล่นที่สนามล่ะ”“เรื่องนี้คุณหนูคงต้องถามตัวเองแล้ว...”ถามตัวเอง หรือว่าเสวี่ยชิงหยวนผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมจะทำเรื่องบางอย่างเอาไว้อีกแล้วซ่งเจียซินเพ่งสายตามองไปที่สนามหญ้าด้านล่าง พยายามขบคิดความทรงจำเดิมของเสวี่ยชิงหยวน ก่อนที่ภาพหนึ่งจะสะท้อนเข้ามาในห้วงความคิด“เอามานี่”เสวี่ยชิงหยวนตวาดเสียงหงุดหงิดก่อนจะแย่งบอลในมือของหลี่จื่อรั่วมาแล้วใช้กรรไกรจิ้มจนเกิดรอยรั่วมากมาย “คุณทำอะไร!”หลี่จื่อชิงเข้ามาแย่งบอลคืน หากแต่ก็สายเกินแก้ไข รอยรั่วมากมายทำให้ลูกบอลลูกนี้ไม่อาจเล่นได้อีก หลี่จื่อรั่วน้ำตาไหลอาบแก้ม สะอื้นจนตัวสั่น หากแต่กลับไม่ได้ทำให้เสวี่ยชิงหยวนรู้สึกสงสารเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอกลับกล่าวคำข่มขู่เพิ่มเติม“วันนี้ฉันแค่ทำลายบอลของพวกแก ถ้าวันหน้าพวกแกยังกล้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 16 ได้รับความเชื่อใจ (3)

    หลี่จื่อรั่วจับมือซ่งเจียซินลงมาที่สนามหญ้าหลังบ้าน โดยมีหลี่จื่อชิงและหลี่จื่อหมิงที่วางท่าจำใจตามลงมาเพื่อติดตามดูแลหลี่จื่อรั่วอยู่ไม่ห่าง ซ่งเจียซินที่รู้ทันเด็กน้อยทั้งสองคนจึงไม่ได้ตำหนิ อีกทั้งยังท้าดวลพวกเขาสามคนแข่งกันเตะเข้าประตูแมว แน่นอนว่าด้วยอัตราหนึ่งต่อสามแม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงเด็กชายเจ็ดขวบ แต่ร่างกายที่เติบโตมาราวกับไข่ในหินของเสวี่ยชิงหยวนย่อมอ่อนแอและบอบบาง ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีก็ถูกเด็กชายทั้งสามนำไปด้วยคะแนน สองต่อศูนย์“แม่ครับ พวกเราพักก่อนดีหรือไม่”หลี่จื่อรั่วเห็นมารดาเลี้ยงสองแก้มแดงก่ำ อีกทั้งยังหายใจหอบถี่ก็เอ่ยถามด้วยความห่วงใย หากแต่หญิงสาวกลับยืดตัวเอ่ยตอบเสียงหนักแน่น“ได้พัก วันนี้ฉันจะต้องชนะพวกนายให้ได้”หลี่จื่อหมิงได้ยินหญิงสาวประกาศกร้าวก็ยกยิ้มขบขัน ก่อนจะจับบอลพลิกตัวไปมา แล้วยิงเข้าประตูทำคะแนนอีกรอบ“จื่อหมิงนายเก่งที่สุด”หลี่จื่อชิงตะโกนชมพี่ชายฝาแฝดของตนเองเสียงก้อง“สามรุมหนึ่ง ชัยชนะนี้น่าภาคภูมิใจมากหรือไร”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น สายตาสี่คู่ในสนามพลันหันไปมองโดยพร้อมกัน หลี่จื่อหมิงเห็นแววตาคมดุของบิดามีคำตำหนิแฝงก็ก้มหน้าพาน้องชายทั้งสองเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 17 จำใจทำหน้าที่ (1)

    ซ่งเจียซินขบกรามแน่น เขาไม่ได้ลงโทษตีเธอตามคำมั่นที่ให้ไว้กับเด็กทั้งสาม แต่กลับบอกว่าต้องการกินอาหารค่ำฝีมือเธอ หากในตอนนี้คนในร่างเป็นเสวี่ยชิงหยวนคนเดิม เกรงว่าเรื่องราวคงไม่จบโดยง่ายเพียงแต่เธอในเวลานี้คือซ่งเจียซิน ผู้มีฉายาเจ้าแม่ร้อยอาชีพ!“อิงอิง ปกติแล้วคุณหลี่ชอบทานอะไรเป็นพิเศษไหม หรือว่าไม่ชอบทานอะไรบ้างหรือเปล่า”ได้ยินคุณหนูของตนสอบถามความชอบและไม่ชอบของผู้พันหลี่โจวอี้อย่างใส่ใจ หูหลินอิงก็ได้แต่ถอนหายใจยาวด้วยความรู้สึกเสียดาย คุณหนูเสวี่ยของนางแม้จะขาดคุณสมบัติบางประการไป แต่ก็เป็นหญิงสาวที่พร้อมด้วยรูปและทรัพย์ เหตุใดต้องมาทนกับพ่อหม้ายลูกติดหลี่โจวอี้พวกนี้ด้วยนะ“คุณหนูให้ฉันทำให้เถอะค่ะ”“ทำอะไรกัน ผู้พันอยากกินอาหารฝีมือฉัน แน่นอนว่าฉันต้องทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อเอาใจเขาสิ”“แต่ว่าคุณหนูทำอาหารไม่เป็นไม่ใช่หรือคะ”เมื่อได้ยินคุณสมบัติส่วนตัวของเจ้าของร่าง ซ่งเจียซินก็ชะงักมือที่กำลังหั่นผักไปชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมุมปากแล้วลงมือทำต่ออย่างชำนาญ“ทำไม่เป็นก็หัดได้ ก็แค่อาหารไม่เห็นจะยากเย็นอะไร”ดังนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าที่โต๊ะอาหาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 18 จำใจทำหน้าที่ (2)

    หลังมื้อค่ำหลี่โจวอี้ต้องการอยู่พูดคุยกับลูกชายทั้งสามต่อ ซ่งเจียซินรู้ดีว่าตนเองเป็นคนนอกจึงไม่ต้องการรบกวนพวกเขา ใช้ข้ออ้างว่าติดละครช่วงค่ำแยกตัวออกมานั่งดูโทรทัศน์ดวงตาคมมองแผ่นหลังบางที่เดินออกจากห้องอาหารไปด้วยความรู้สึกแปลกใจ ปกติแล้วทุกครั้งที่เขากลับบ้านเสวี่ยชิงหยวนจะต้องใช้ลูกไม้สารพัดทำให้เขายอมอยู่กับเธอ แม้แต่การจงใจกินดอกลำโพงจนตัวเองล้มป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขาในวันที่เขาจะกลับเข้ากรมเมื่อครั้งก่อนเธอก็เคยทำเช่นนี้แล้วเสวี่ยชิงหยวนในวันนี้เป็นอะไรไป ทำไมเขาจึงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเธอ ราวกับเธอคนนี้ไม่ใช่เสวี่ยชิงหยวนที่เขาเคยรู้จัก“คุณพ่อครับ มาครั้งนี้คุณพ่อจะอยู่กี่วันหรือครับ”“ห้าวัน”“แค่ห้าวันเองหรือครับ”“ทำไมหรือ มีอะไรหรือเปล่า”ปกติแม้ว่าหลี่จื่อรั่วจะเป็นเด็กชายขี้อ้อน ทว่าที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยมีท่าทีเช่นนี้ หรือว่าระหว่างนี้เสวี่ยชิงหยวนจะสร้างความลำบากให้ลูก ๆ ของเขาอีกแล้ว“ผู้หญิงคนนั้นรังแกลูก ๆ อีกแล้วหรือ”ได้ยินคำถามนี้หลี่จื่อรั่วก็รีบเงยหน้าส่ายหัวไปมาดุกดิกอย่างรวดเร็ว“แม่ไม่ได้รังแกพวกเราเลยครับ ยังใจดีมากอีกด้วย”“ใจดี?”ให้หลี่จื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 20 จำใจทำหน้าที่ (4)

    ซ่งเจียซินเปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินกลับมา พร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาล เมื่อนั่งลงบนโซฟาแล้วก็เอายื่นให้กับหลี่โจวอี้“อะไร” หลี่โจวอี้เอ่ยถามพร้อมกับหยิบเอกสารด้านในออกมาดู“สัญญาหย่า!” ดวงตาคมเบิกกว้างมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื่นตกใจ“ชิงหยวน นี่เธอกำลังจะขอหย่ากับผมอย่างนั้นหรือ”“ใช่ค่ะ”ซ่งเจียซินตอบกลับด้วยสีหน้าสงสัย เอกสารตรงหน้าเธอระบุชัดเจนถึงจุดประสงค์แล้วเหตุใดชายหนุ่มจึงยังต้องถามย้ำอีกกัน หรือว่าเธอร่างสัญญาไม่ชัดเจน“ก่อนหน้านี้เป็นฉันที่ผิดต่อคุณ ฉกฉวยโอกาสตอนที่คุณกำลังเดือดร้อนบังคับคุณให้ยอมแต่งงานด้วย”ถึงแม้จะบอกว่าเป็นการตกลงที่ล้วนได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย แต่ซ่งเจียซินต้องการยุติความสัมพันธ์นี้จึงจงใจยอมรับความผิดทั้งหมดมาเองเพื่อง่ายต่อการเจรจา“อีกทั้งหลังแต่งงานมาฉันเองก็ทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดีนัก ตอนนี้ฉันรู้สึกละอายใจต่อคุณจึงอยากมอบอิสระคืนให้คุณค่ะ”มอบอิสระอะไรกัน! เขาเคยบอกหรือว่าต้องการหย่ากับเธอ หลี่โจวอี้ตกใจกับความคิดของตนเองเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาวางแผนเอาไว้ว่าหลังจากที่ทำเรื่องย้ายมาอยู่ในสังกัดใกล้บ้านได้แล้วก็จะเจรจาขอหย่ากับเสวี่ยชิงหยวน ทว่าไม

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 19 จำใจทำหน้าที่ (3)

    หลี่จื่อหมิงมองเห็นมารดาเลี้ยงเดินขึ้นไปชั้นบนเพียงลำพังในใจก็เกิดความกังวลถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งเห็นสายตาที่เธอทอดมองมาทางพวกเขาด้วยความเศร้า หัวใจของเด็กชายก็คล้ายถูกบีบรัดเศร้าหมองขึ้นมา“วันนี้พ่อเพิ่งกลับมาคงเหนื่อยมาก ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องเถอะครับ”“งั้นพวกเราก็ขึ้นห้องนอนกันเถอะ”หลี่โจวอี้ตอบรับลูกชายฝาแฝดคนโตในทันที ทว่ายามที่จะลุกขึ้นพาพวกเขากลับเข้าห้องนอนเช่นทุกครั้ง กลับถูกคัดค้านขึ้นมา“พ่อแต่งงานแล้วจะนอนห้องเดียวกับพวกเราได้ยังไงครับ”“จื่อหมิง ลูกหมายความว่าจะให้พ่อกลับไปนอนที่ห้องเดิม”หลี่โจวอี้ขมวดคิ้วหนาด้วยความสงสัย ปกติแล้วยามที่เขากลับมาบ้านลูกชายทั้งสามจะเกาะติดเขาแน่น และพยายามอย่างหนักในการขัดขวางเขากับเสวี่ยชิงหยวน ทว่าเหตุใดครั้งนี้จึงพูดราวกับจงใจเปิดทางให้เขาใกล้ชิดกับเสวี่ยชิงหยวน“ที่นอนของพวกเราไม่ได้กว้างมาก ปกตินอนกันสามคนก็แน่นมากแล้ว คืนนี้พ่อกลับไปนอนที่ห้องเดิมเถอะครับ”คิ้วเข้มของหลี่โจวอี้ขมวดเข้าหากันแน่นมากขึ้น มองลูกชายคนรองด้วยความรู้สึกสงสัยเป็นทบทวี หากพูดถึงความรู้สึกที่ลูกชายทั้งสามของเขามีต่อเสวี่ยชิงหยวน

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 18 จำใจทำหน้าที่ (2)

    หลังมื้อค่ำหลี่โจวอี้ต้องการอยู่พูดคุยกับลูกชายทั้งสามต่อ ซ่งเจียซินรู้ดีว่าตนเองเป็นคนนอกจึงไม่ต้องการรบกวนพวกเขา ใช้ข้ออ้างว่าติดละครช่วงค่ำแยกตัวออกมานั่งดูโทรทัศน์ดวงตาคมมองแผ่นหลังบางที่เดินออกจากห้องอาหารไปด้วยความรู้สึกแปลกใจ ปกติแล้วทุกครั้งที่เขากลับบ้านเสวี่ยชิงหยวนจะต้องใช้ลูกไม้สารพัดทำให้เขายอมอยู่กับเธอ แม้แต่การจงใจกินดอกลำโพงจนตัวเองล้มป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขาในวันที่เขาจะกลับเข้ากรมเมื่อครั้งก่อนเธอก็เคยทำเช่นนี้แล้วเสวี่ยชิงหยวนในวันนี้เป็นอะไรไป ทำไมเขาจึงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเธอ ราวกับเธอคนนี้ไม่ใช่เสวี่ยชิงหยวนที่เขาเคยรู้จัก“คุณพ่อครับ มาครั้งนี้คุณพ่อจะอยู่กี่วันหรือครับ”“ห้าวัน”“แค่ห้าวันเองหรือครับ”“ทำไมหรือ มีอะไรหรือเปล่า”ปกติแม้ว่าหลี่จื่อรั่วจะเป็นเด็กชายขี้อ้อน ทว่าที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยมีท่าทีเช่นนี้ หรือว่าระหว่างนี้เสวี่ยชิงหยวนจะสร้างความลำบากให้ลูก ๆ ของเขาอีกแล้ว“ผู้หญิงคนนั้นรังแกลูก ๆ อีกแล้วหรือ”ได้ยินคำถามนี้หลี่จื่อรั่วก็รีบเงยหน้าส่ายหัวไปมาดุกดิกอย่างรวดเร็ว“แม่ไม่ได้รังแกพวกเราเลยครับ ยังใจดีมากอีกด้วย”“ใจดี?”ให้หลี่จื่อ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 17 จำใจทำหน้าที่ (1)

    ซ่งเจียซินขบกรามแน่น เขาไม่ได้ลงโทษตีเธอตามคำมั่นที่ให้ไว้กับเด็กทั้งสาม แต่กลับบอกว่าต้องการกินอาหารค่ำฝีมือเธอ หากในตอนนี้คนในร่างเป็นเสวี่ยชิงหยวนคนเดิม เกรงว่าเรื่องราวคงไม่จบโดยง่ายเพียงแต่เธอในเวลานี้คือซ่งเจียซิน ผู้มีฉายาเจ้าแม่ร้อยอาชีพ!“อิงอิง ปกติแล้วคุณหลี่ชอบทานอะไรเป็นพิเศษไหม หรือว่าไม่ชอบทานอะไรบ้างหรือเปล่า”ได้ยินคุณหนูของตนสอบถามความชอบและไม่ชอบของผู้พันหลี่โจวอี้อย่างใส่ใจ หูหลินอิงก็ได้แต่ถอนหายใจยาวด้วยความรู้สึกเสียดาย คุณหนูเสวี่ยของนางแม้จะขาดคุณสมบัติบางประการไป แต่ก็เป็นหญิงสาวที่พร้อมด้วยรูปและทรัพย์ เหตุใดต้องมาทนกับพ่อหม้ายลูกติดหลี่โจวอี้พวกนี้ด้วยนะ“คุณหนูให้ฉันทำให้เถอะค่ะ”“ทำอะไรกัน ผู้พันอยากกินอาหารฝีมือฉัน แน่นอนว่าฉันต้องทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อเอาใจเขาสิ”“แต่ว่าคุณหนูทำอาหารไม่เป็นไม่ใช่หรือคะ”เมื่อได้ยินคุณสมบัติส่วนตัวของเจ้าของร่าง ซ่งเจียซินก็ชะงักมือที่กำลังหั่นผักไปชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมุมปากแล้วลงมือทำต่ออย่างชำนาญ“ทำไม่เป็นก็หัดได้ ก็แค่อาหารไม่เห็นจะยากเย็นอะไร”ดังนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าที่โต๊ะอาหาร

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 16 ได้รับความเชื่อใจ (3)

    หลี่จื่อรั่วจับมือซ่งเจียซินลงมาที่สนามหญ้าหลังบ้าน โดยมีหลี่จื่อชิงและหลี่จื่อหมิงที่วางท่าจำใจตามลงมาเพื่อติดตามดูแลหลี่จื่อรั่วอยู่ไม่ห่าง ซ่งเจียซินที่รู้ทันเด็กน้อยทั้งสองคนจึงไม่ได้ตำหนิ อีกทั้งยังท้าดวลพวกเขาสามคนแข่งกันเตะเข้าประตูแมว แน่นอนว่าด้วยอัตราหนึ่งต่อสามแม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงเด็กชายเจ็ดขวบ แต่ร่างกายที่เติบโตมาราวกับไข่ในหินของเสวี่ยชิงหยวนย่อมอ่อนแอและบอบบาง ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีก็ถูกเด็กชายทั้งสามนำไปด้วยคะแนน สองต่อศูนย์“แม่ครับ พวกเราพักก่อนดีหรือไม่”หลี่จื่อรั่วเห็นมารดาเลี้ยงสองแก้มแดงก่ำ อีกทั้งยังหายใจหอบถี่ก็เอ่ยถามด้วยความห่วงใย หากแต่หญิงสาวกลับยืดตัวเอ่ยตอบเสียงหนักแน่น“ได้พัก วันนี้ฉันจะต้องชนะพวกนายให้ได้”หลี่จื่อหมิงได้ยินหญิงสาวประกาศกร้าวก็ยกยิ้มขบขัน ก่อนจะจับบอลพลิกตัวไปมา แล้วยิงเข้าประตูทำคะแนนอีกรอบ“จื่อหมิงนายเก่งที่สุด”หลี่จื่อชิงตะโกนชมพี่ชายฝาแฝดของตนเองเสียงก้อง“สามรุมหนึ่ง ชัยชนะนี้น่าภาคภูมิใจมากหรือไร”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น สายตาสี่คู่ในสนามพลันหันไปมองโดยพร้อมกัน หลี่จื่อหมิงเห็นแววตาคมดุของบิดามีคำตำหนิแฝงก็ก้มหน้าพาน้องชายทั้งสองเ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 15 ได้รับความเชื่อใจ (2)

    ซ่งเจียซินยืนพิงขอบหน้าต่างห้องนอนมองดูสนามหญ้าเบื้องล่างด้วยความรู้สึกสงสัย สามวันแล้วที่เธอมอบลูกบอลหนังให้เด็กชายทั้งสามคนไป ทว่าจวบจนวันนี้กลับไม่เคยเห็นพวกเขาหยิบมันมาเล่นเลยสักครั้ง หรือแท้จริงแล้วพวกเขาจะไม่ชอบเล่นบอลกัน“อิงอิง ปกติคุณชายทั้งสามคนเขาชอบเล่นบอลหรือไม่”“ชอบค่ะ”“แล้วทำไม ฉันไม่เห็นเขาเอาบอลมาเล่นที่สนามล่ะ”“เรื่องนี้คุณหนูคงต้องถามตัวเองแล้ว...”ถามตัวเอง หรือว่าเสวี่ยชิงหยวนผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมจะทำเรื่องบางอย่างเอาไว้อีกแล้วซ่งเจียซินเพ่งสายตามองไปที่สนามหญ้าด้านล่าง พยายามขบคิดความทรงจำเดิมของเสวี่ยชิงหยวน ก่อนที่ภาพหนึ่งจะสะท้อนเข้ามาในห้วงความคิด“เอามานี่”เสวี่ยชิงหยวนตวาดเสียงหงุดหงิดก่อนจะแย่งบอลในมือของหลี่จื่อรั่วมาแล้วใช้กรรไกรจิ้มจนเกิดรอยรั่วมากมาย “คุณทำอะไร!”หลี่จื่อชิงเข้ามาแย่งบอลคืน หากแต่ก็สายเกินแก้ไข รอยรั่วมากมายทำให้ลูกบอลลูกนี้ไม่อาจเล่นได้อีก หลี่จื่อรั่วน้ำตาไหลอาบแก้ม สะอื้นจนตัวสั่น หากแต่กลับไม่ได้ทำให้เสวี่ยชิงหยวนรู้สึกสงสารเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอกลับกล่าวคำข่มขู่เพิ่มเติม“วันนี้ฉันแค่ทำลายบอลของพวกแก ถ้าวันหน้าพวกแกยังกล้า

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 14 ได้รับความเชื่อใจ (1)

    บทที่ 14 ได้รับความเชื่อใจ (1)เมื่อกลับมาถึงบ้านหลี่จื่อรั่วที่เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตนเองแล้วเห็นชุดใหม่สามชุดแขวนอยู่ก็เบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้นยินดี อีกทั้งยังหยิบทั้งสามชุดออกมาวางทาบตัวด้วยท่าทางกระตือรือร้น“จื่อหมิง จื่อชิง พวกนายดูชุดใหม่พวกนี้สิ พอดีกับตัวพวกเราเลย”หลี่จื่อหมิงขมวดคิ้วเข้มมองดูชุดใหม่ที่น้องชายถือ ไม่ต้องซักถามหรือคาดเดาก็รู้ได้ในทันทีว่าชุดพวกนี้เป็นใครที่ซื้อมาให้ ในขณะที่หลี่จื่อชิงเองก็รีบลุกไปเปิดตู้ของตนเอง เมื่อเห็นว่าเขาเองก็ได้ชุดใหม่ในแบบเดียวกันกับหลี่จื่อรั่วบนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มยินดี สองปีมาแล้วที่เขาไม่เคยได้ชุดใหม่เลย เพียงแต่เมื่อคิดถึงคนที่น่าจะซื้อชุดเหล่านี้ให้ตนเอง ท่าทางยินดีเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นนิ่งสงบ“ไม่เห็นจะสวยสักนิด เลือกชุดก็ไม่เป็น”ทั้งที่ปากบ่นตำหนิ แต่มือกลับจับชุดเหล่านั้นเอาไว้แน่น มุมปากก็ยกขึ้นเป็นครั้งคราวอย่างพยายามอดกลั้นหลี่จื่อหมิงลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตนเองก็พบชุดในแบบเดียวกันกับน้องชายเช่นกัน หากแต่บนใบหน้าของเขากลับไม่มีความยินดีเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับแฝงไปด้วยความหวาดระแวงและกังวลใจ“พับให้เรียบ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 13 ความเชื่อใจ (5)

    ซ่งเจียซินใช้เวลาหลังจากที่เด็ก ๆ ไปโรงเรียนแล้วตรวจสอบบัญชีกิจการ เมื่อพบว่าไม่มีปัญหาอะไรให้กังวลเธอก็มอบหมายให้ตงซางผู้จัดการเดิมดูแลต่อ โดยเธอจะแวะเข้ามาตรวจสอบเป็นระยะ ในระหว่างที่กำลังจะกลับบ้านเพื่อเตรียมไปรับเด็ก ๆ สายตาก็หันไปเห็นลูกบอลหนัง ซ่งเจียซินนึกถึงสนามหญ้าด้านหลังบ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางเหมาะแก่การทำเป็นสนามฟุตบอลให้เด็ก ๆ ใช้ออกกำลังกาย“อิงอิง ไปซื้อลูกบอลหนังให้ฉันที”“ค่ะ”หูหลินอิงเดินไปซื้อของตามคำสั่งผู้เป็นนาย ขณะที่ซ่งเจียซินเดินไปดูเสื้อผ้าที่แผนกเด็กโต วันก่อนเธอสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของเด็กชายมีขนาดเล็กเกินไป ก่อนออกจากบ้านจึงไปแอบวัดเสื้อผ้าชุดเดิมมาคร่าว ๆ เพื่อกะขนาดที่ใหญ่ขึ้นสักหน่อยให้พวกเขา ทว่าเลือกดูได้ไม่นานเธอก็ชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคน“อะ... ขอโทษค่ะ”เพราะเธอเดินไม่ระวังจึงชนคน ดังนั้นซ่งเจียซินจึงรีบขอโทษก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ตนเองชน และทันทีที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายคิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นในทันที“คุณเฉินเซียว”“คุณเสวี่ย ไม่เจอกันนานคุณสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ แล้วนี่ภรรยาของคุณล่ะคะไม่มาด้วยหรือ”เฉินเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อถูกหญิงสา

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 12 ความเชื่อใจ (4)

    ซ่งเจียซินยืนพิงขอบหน้าต่างห้องนอน ร่วมเดือนแล้วที่เธอทะลุมิติมาใช้ชีวิตในฐานะของเสวี่ยชิงหยวน แต่ระยะเวลาอันแสนสั้นนี้ก็ทำให้เธอได้รู้ว่า หลี่โจวอี้ไม่ได้ต้องการให้เธอเป็นภรรยาอย่างแท้จริง และเด็กชายทั้งสามก็ไม่ปรารถนาให้เธอเป็นมารดาเลี้ยง เช่นนี้แล้วยังมีเหตุผลใดให้เธอต้องทนอยู่ในบ้านหลังนี้กัน“อิงอิง ในยุคนี้สามีภรรยาสามารถหย่าขาดจากกันได้แล้วใช่ไหม”“ได้ค่ะ แต่การหย่าร้างจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของผู้หญิงนะคะ”หูหลินอิงอยู่กับเสวี่ยชิงหยวนมาหลายปี แม้ช่วงนี้อีกฝ่ายจะมีพฤติกรรมและความคิดที่แปลกไปจากปกติ แต่เธอก็พอจะคาดเดาความคิดของผู้เป็นนายได้“ก็แค่หญิงหม้าย หย่าสามี มีเรื่องใดให้ต้องอับอายกัน”“คุณหนูตัดใจทิ้งคุณชายทั้งสามได้หรือคะ”หากเป็นเมื่อก่อนหูหลินอิงย่อมไม่กล้าถามคำถามนี้ เพราะรู้ดีว่าคุณชายทั้งสามไม่มีความสำคัญใดต่อคุณหนูของตนเลยสักนิด ทว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณชายน้อยทั้งสาม คุณหนูของเธอก็จะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ“พวกเขาต้องการฉันด้วยหรือ”หลี่จื่อหมิง และ หลี่จื่อรั่วสบตากันก่อนจะมองไปที่หลี่จื่อชิงด้วยความสงสัย ก่อนที่หลี่จื่อรั่วจะข

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status