Share

บทที่ 5 คูปองเนื้อ

last update Last Updated: 2025-02-14 03:23:07

ตั้งแต่ได้ใช้ชีวิตในร่างของเฉินเฟิ่นอี้นี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอจะทำอาหารมื้อกลางวันไปส่งที่แปลงนาทุกวัน จะมีบางวันที่ป้าสะใภ้หรือแม่ของเธอมาช่วยถือตะกร้าอาหาร ต้องบอกว่าทุกคนมีเรี่ยวแรงมากขึ้นจริงๆ เมื่อรับประทานข้าวขาวเป็นมื้อกลางวัน

ยิ่งช่วงนี้บ้านเฉินจับกระต่ายที่ออกมากินธัญพืชที่กำลังเก็บเกี่ยวได้ ทุกคนก็ดูเหมือนจะเจริญอาหารมากขึ้น หากเป็นปีก่อนๆ กระต่ายจะถูกนำไปขายในตำบล แต่เฉินเฟิ่นอี้ไม่ให้นำไปขาย อีกทั้งบางครั้งเธอก็ได้เนื้อกระต่ายเป็นรางวัล ปริมาณเนื้อกระต่ายจึงมีมากกว่าเดิม ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงสอบของน้องๆ แล้ว เฉินเฟิ่นอี้จึงต้องทำอาหารที่มีประโยชน์

และการสอบเลื่อนชั้นปีที่ว่าจริงๆ ทางโรงเรียนเรียกว่าสอบเทียบ หลังจากจบเทอมนี้ชั้นปีสุดท้ายก็จบการศึกษาทั้งมัธยมต้น และมัธยมปลาย ทำให้คนที่ยังไม่จบต้องสอบเทียบว่าจะผ่านหรือเปล่า ถ้าสอบผ่านก็จะจบแต่สอบไม่ผ่านต้องไปเรียนใหม่ทั้งหมด

ทีแรกผู้ปกครองของเด็กต่างไม่พอใจเพราะถ้าสอบไม่ผ่านและให้เข้าไปเรียนในอำเภอใหม่ เงินที่เคยจ่ายค่าเทอมไปล่ะ? อีกอย่างค่าใช้จ่ายในอำเภอไม่ใช่น้อยๆ แต่มีเด็กหลายคนที่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะหากสอบผ่านมันก็คุ้มค่าไม่ใช่เหรอ

[คะแนนรวม : 89 แต้ม ]

เฉินเฟิ่นอี้มองกระดานใสตรงหน้าด้วยความภูมิใจ วันนี้เธอได้เพิ่มมาตั้งสิบห้าแต้มในการปลูกผักคนเดียว ยังดีที่สวนหลังบ้านมีแปลงผักที่ว่างแปลงหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ผ่านง่ายๆ แน่ จากนั้นจึงกดไปยังปุ่มรางวัลพิเศษ

“คูปองเนื้อ!”

มีหลายครั้งที่เฉินเฟิ่นอี้ได้รับคูปองหรือตั๋วเงิน แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากนั่นก็คือคูปองเนื้อสองชั่งจำนวนห้าใบ! ขอแค่ได้หนึ่งใบเฉินเฟิ่นอี้ก็พอใจเป็นอย่างมาก แต่วันนี้เธอได้รับถึงห้าใบเลยนะ!

คูปองเนื้อจำนวนห้าใบถูกเฉินเฟิ่นอี้เก็บลงในกล่องเก็บของสำคัญ นอกจากคูปองแล้วในนี้ยังมีตั๋วเงินและเงินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเงินเก็บแต่เดิมของเฉินเฟิ่นอี้ก็มีสามหยวน ตั๋วเงินที่ได้รับจากระบบก็ยังมีถึงสองร้อยหยวน! เงินจำนวนนี้ไม่น้อยเลย

ไม่มีใครรู้ว่าเฉินเฟิ่นอี้มีเงินเก็บเท่าไหร่และเธอก็จะไม่บอกใคร สัปดาห์หน้าจะมีการสอบเทียบและอีกหนึ่งเดือนหลังจากนั้น โรงเรียนในอำเภอจะมีการเปิดการศึกษา ซึ่งเฉินเฟิ่นอี้คิดที่จะหาบ้านเช่าอยู่รวมกับน้องๆ เดือนหนึ่งคงไม่เกินสิบหยวน

ซึ่งลุงสามของพวกเธอรับรู้เรื่องนี้แล้ว และบอกว่าหากทุกคนไปเรียนในอำเภอต้องหาบ้านเช่าสักหลังเพราะมันจะสะดวกมากกว่า หลังจากนี้จะส่งเงินมาเพิ่มซึ่งไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่ แต่เฉินเฟิ่นอี้คิดว่าลุงสามต้องทำภารกิจเสี่ยงอันตรายเพิ่มแน่ นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ยอมแต่งภรรยา แม้ปู่เฉินย่าเฉินจะหาภรรยาให้ลุงสามแล้วก็ตาม

ยังดีที่เฉินไห่หลิวกับเฉินตงเรียนมัธยมต้น เฉินเฟิ่นอี้จึงสามารถอ่านหนังสือด้วยได้ เนื่องจากการขาดแคลนหนังสือและทรัพยากรต่างๆ เฉินเฟิ่นอี้จึงไม่มีหนังสือเก็บไว้ที่บ้าน จะมีก็แต่สมุดที่อ่านไม่ค่อยได้เพราะหมึกจางลง

ดูเหมือนเธอต้องให้พ่อของเธอพาเข้าไปในอำเภอและซื้อเนื้อมาทำอาหาร แต่คงไม่ใช่วันนี้และพรุ่งนี้เพราะการขอหยุดไม่ใช่เรื่องง่ายหากไม่มีเรื่องจำเป็นจริงๆ ไม่เหมือนกับวันที่เฉินเฟิ่นอี้ล้มป่วย ที่คณะกรรมการในหมู่บ้านอนุญาตให้ผู้หญิงบ้านเฉินหยุดเพราะมันเป็นเหตุสุดวิสัย

“ชิงชิงน้อย”

เฉินเฟิ่นอี้อ้าแขนออกเล็กน้อยให้น้องชายที่กำลังเล่นอยู่กับย่าเฉินวิ่งมาหา ก่อนจะอุ้มขึ้นและหอมแก้มอย่างที่เคยทำ เฉินชิงชิงหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี

“พี่ฉาววว”

เฉินชิงชิงใช้มือกอดคอพี่สาวที่อุ้มตนเองแน่น ก่อนที่เฉินเฟิ่นอี้จะเดินไปหาย่าเฉินที่นั่งอยู่พร้อมยิ้มกว้าง เพราะเธอเห็นว่าย่าเฉินมีอายุมากแล้วทั้งยังชอบนอนพักกลางวันจึงเลี้ยงน้องชายให้ เฉินชิงชิงปกติก็ชอบนอนกลางวันแต่หลายวันมานี้คงร้อนมากเกินไปจึงไม่ยอมนอน

“พอเห็นพี่สาวแล้วลืมย่าเลยนะเจ้าห้า” ย่าเฉินว่าหลานชายพร้อมทั้งยื่นอาหารกลางวันของเฉินชิงชิงให้เฉินเฟิ่นอี้จัดการเหมือนที่ผ่านมา

วันนี้มีภารกิจปลูกผัก เฉินเฟิ่นอี้จึงให้ป้าสะใภ้มาเอาอาหารเอง โดยที่เธอทำเตรียมไว้ให้แล้ว ซึ่งป้าสะใภ้ใหญ่กับป้าสะใภ้รองก็เพิ่งมาเอาไปไม่นาน พอดีกับที่เธอปลูกผักเสร็จ

เฉินเฟิ่นอี้ฉีกเนื้อกระต่ายตุ๋นใส่ถ้วยให้น้องชาย อาหารมื้อกลางวันของเขามีเนื้อกระต่ายตุ๋นฉีก ไข่ตุ๋นผักตำลึงที่ใส่ข้าวลงไปด้วยและน้ำซุปผักหลายชนิดที่มีรสชาติหวาน ก่อนจะจับน้องชายนั่งเก้าอี้ที่ให้พ่อของเธอทำขึ้น และวางอาหารลงบนโต๊ะให้เขาตักรับประทานเอง ส่วนเธอก็คอยมองห่างๆ

ก่อนหน้านี้ย่าเฉินจะป้อนเขาเพราะกลัวเลอะเทอะ แต่พออยู่ในความดูแลของพี่สาวอย่างเธอ เฉินเฟิ่นอี้จึงฝึกน้องให้รับประทานเอง เพราะเด็กวัยนี้ก็รู้ความมากแล้ว ส่วนชุดที่เลอะเธอก็ทำความสะอาดหลังรับประทานเสร็จพร้อมอาบน้ำให้เขา ย่าเฉินจึงไม่มีข้อโต้แย้งอีก

“ตั้งแต่หลานทำอาหารให้เขา เจ้าห้าก็อ้วนขึ้นมาก” ย่าเฉินหัวเราะพร้อมชี้ไปยังเสื้อที่เล็กลง และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ปกติถ้าไม่ใช่มันบดก็จะเป็นฟักทองผสมข้าว

“เขายังเด็กค่ะ ควรได้รับสารอาหารให้ครบ” เฉินเฟิ่นอี้กล่าวยิ้มๆ ยื่นมือที่มีผ้าไปเช็ดปากให้น้องชายที่รับประทานอย่างเอร็ดอร่อย เสื้อผ้าของเขาก็ไม่ได้เลอะมาก

เพราะเฉินเฟิ่นอี้ยื่นคำขาดว่าหากอยากรับประทานของอร่อยแบบนี้อีก ต้องรับประทานให้หมดและห้ามเลอะ ซึ่งเขาก็ทำได้ดีมากจนคนในบ้านเฉินแปลกใจ

“หลานปลูกผักเสร็จแล้วหรือ”

“เสร็จแล้วค่ะ ฉันกินข้าวแล้วจึงมาดูชิงชิง” เพราะมันถึงเวลานอนพักกลางวันของย่าเฉินแล้ว

“อ้อ ย่าจะเดินไปบ้านหลินสักหน่อย ได้ยินว่าหลานสะใภ้บ้านหลินคลอดลูกเมื่อเช้า” ย่าเฉินบอกพร้อมชี้ไปยังบ้านหลินที่อยู่ไม่ไกล

“ค่ะ”

ตกเย็นเฉินเฟิ่นอี้ก็ทำอาหารรอทุกคนกลับมา วันนี้มีตุ๋นกระต่ายที่เหลืออยู่ และมีคะน้าผัดน้ำมันที่ทุกคนชอบรับประทานอีก พอมีเนื้อกระต่ายในมื้ออาหาร ไข่ไก่ในบ้านจึงยังเหลือแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก เพราะเฉินเฟิ่นอี้จะต้มให้น้องๆ คนละฟองก่อนไปเรียน ส่วนเฉินชิงชิงนั้นจะได้รับประทานแค่ในมื้อกลางวัน

“ฉันช่วยค่ะ” เฉินเหม่ยเย่ที่กลับมาถึงบ้านก็ตรงมายังห้องครัวเหมือนกับทุกวัน ช่วงหลังๆ มา ผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของหล่อนดีขึ้นมากเพราะมีพี่สาวช่วยสอนทุกวัน คุณครูจึงไม่ได้สั่งการบ้านให้ทำ ทำให้หล่อนมีเวลาว่างเข้าครัวช่วยพี่สาว

เฉินเฟิ่นอี้พยักหน้าพร้อมลุกออกจากที่นั่งปล่อยให้เฉินเหม่ยเย่หั่นคะน้า ส่วนเธอเดินไปดูหม้อตุ๋นกระต่ายที่กำลังได้ที่ เติมน้ำลงไปเล็กน้อยพร้อมปิดฝา ไม่รู้ว่าย่าเฉินเห็นเธอต้องล้างหม้อบ่อยๆ หรือเปล่า ถึงกัดฟันซื้อหม้อใบใหม่มาหุงข้าว

“เฉินไห่หลิวกับเฉินตงล่ะ” เฉินเฟิ่นอี้ถามถึงน้องชายอีกสองคน หลายวันมานี้พวกเขาชอบเข้ามาป่วนในครัวบ่อยๆ พร้อมเฉินเหม่ยเย่ จึงแปลกใจที่วันนี้ไม่เห็น

“พวกเขาไปเก็บฟืนกับเฉินจางค่ะ เมื่อเช้าคุณปู่สั่งไว้”

“อ้อ”

ระหว่างรอตุ๋นกระต่ายและคะน้าที่หั่นอยู่ เฉินเฟิ่นอี้ก็หันมาแกะเนื้อปลาที่พ่อของเธอได้มาเมื่อวาน วันนี้อาหารมื้อเย็นของเฉินชิงชิงมีเนื้อปลาต้มและผักลวกพร้อมกับข้าวที่หุงสองช้อน ไม่รู้ว่าเพราะชอบหรือกลัวจะไม่ได้รับประทานของอร่อยเฉินชิงชิงจึงไม่เหลือแม้แต่ผักให้ได้ทิ้ง

“พี่ทำอาหารให้เจ้าห้ากินจนอ้วน แม่บ่นๆ กับฉัน” เฉินเหม่ยเย่บอกพี่สาว เพราะแม่ของหล่อนกลัวว่าจะทำให้พี่สาวเสียใจจึงไม่กล้าพูด แต่ก็มีบ่นเรื่องนี้กับหล่อนระหว่างที่หล่อนช่วยเลี้ยงน้องชายคนเล็ก

“ไม่หรอก นี่แหละปกติแล้ว” เฉินเฟิ่นอี้หัวเราะ คนในหมู่บ้านส่วนมากขาดสารอาหาร พอเห็นเฉินชิงชิงเริ่มมีเนื้อมีหนังก็คิดว่าอ้วนมากเกินไป ทั้งที่จริงแล้วสำหรับเธอยังผอมอยู่

รวมถึงทุกคนในบ้านที่ช่วงนี้เจริญอาหารขึ้นมาก เฉินเฟิ่นอี้ใช้ผักและปลาตากแห้งในการทำน้ำซุปสำหรับปรุงอาหาร ทั้งยังทำแต่อาหารที่มีประโยชน์

“จริงสิ อีกไม่กี่วันก็จะสอบแล้ว พี่ไปลงชื่อสมัครสอบหรือยังคะ” เฉินเหม่ยเย่ถามด้วยความเป็นห่วง

“เฉินตงจัดการให้พี่แล้ว เธอไม่ต้องห่วง”

เฉินเฟิ่นอี้ยิ้มอย่างเอ็นดูน้องสาวที่เป็นห่วงเธอ เพราะเฉินตงสนิทกับครูใหญ่ของโรงเรียน เขาจึงแอบถามว่าเจ้าตัวไม่มาสมัครเองได้หรือไม่ ตามคำบอกของเฉินเฟิ่นอี้ ซึ่งครูใหญ่ก็ตอบว่าถ้ามีปัญหาและมาไม่ได้จริงๆ ก็ลงชื่อไว้และครูใหญ่จะเป็นคนยืนยันเอง เมื่อวานเฉินตงบอกเธอว่าลงชื่อให้แล้ว

“ฉันกลัวว่าพี่จะไม่ได้ไปเรียนด้วยนี่คะ” เพราะลุงสามบอกให้เช่าบ้านอยู่ในอำเภอ หล่อนกลัวว่าจะต้องทำอาหารให้บรรดาพี่ชายและน้องชายรับประทานทุกวัน หล่อนทำอาหารได้แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่

“ถ้าสอบเทียบไม่ได้ก็แค่เรียนใหม่” เธอได้ทบทวนดูแล้วยังมีเวลาให้เรียนอีกหลายปี ซึ่งต่อให้เฉินเฟิ่นอี้เรียนมัธยมต้นใหม่ มหาวิทยาลัยก็คงจะยังไม่เปิดให้สอบ

“ค่ะ”

“จริงสิ เธอรู้จักตลาดมืดหรือเปล่า” เฉินเฟิ่นอี้ขยับเข้าใกล้น้องสาวพลางกระซิบถามอย่างระมัดระวัง

“ตลาดมืด!” เฉินเหม่ยเย่ตาโตเมื่อได้ยินพี่สาวพูดถึงสถานที่ผิดกฎหมายและอาจถูกเยาวชนแดงจับไปทรมาน หล่อนพยักหน้าเล็กน้อยเพราะเพื่อนๆ ของหล่อนเคยเล่าให้ฟังอยู่บ้าง

“พี่อยากให้เธอขอพ่อให้ได้หรือเปล่า”

เฉินเฟิ่นอี้ไม่โง่พอที่จะไปคนเดียวและไม่ต้องการให้น้องสาวติดตามไปด้วย พ่อของพวกเธอดูเหมือนจะรักเฉินเหม่ยเย่มากกว่าเธอ เฉินเฟิ่นอี้จึงใช้โอกาสนี้ส่งน้องสาวไป

“ฉันว่าพ่อคงห้ามค่ะ ต้องให้พวกพี่เฉินตงพาไป” คราแรกเฉินเหม่ยเย่ส่ายหน้าแต่สุดท้ายก็กระซิบบอกพี่สาว

“พวกเขาเคยไปเหรอ”

“ใช่ค่ะ”

ระหว่างพี่น้องบ้านเฉินไม่เคยมีความลับต่อกัน ขอเพียงแค่ถามและบางครั้งเฉินไห่หลิวกับเฉินตงชอบใช้โอกาสที่ได้เข้าไปในอำเภอ ไปที่ตลาดมืดแห่งนี้ พี่น้องไม่มีความลับต่อกัน แต่ไม่ใช่กับผู้ใหญ่เพราะรู้ว่าจะถูกห้าม

Related chapters

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 6 เข้าอำเภอ

    ภารกิจที่ 35 : ขายคูปองรับ 200 แต้ม]เฉินเฟิ่นอี้ที่กำลังหุงข้าวทำอาหารเช้าให้คนในบ้านสะดุ้งเมื่อกระดานใสปรากฏตรงหน้า เหลือบมองเฉินเหม่ยเย่ที่คนหม้อน้ำซุปผักอยู่ข้างๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจวันนี้โรงเรียนในตำบลปิดการเรียนการสอนหลังจากสอบเสร็จแล้ว อีกสามวันจะมีการสอบเทียบ และเปิดโรงเรียนอีกครั้งคือหนึ่งเดือนหลังจากนี้พร้อมโรงเรียนในอำเภอระหว่างนี้เด็กๆ ในบ้านก็ต้องออกไปทำงานเก็บแต้มในแปลงนาช่วยผู้ใหญ่ แต่จะมีการสอบเทียบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผู้ใหญ่ในบ้านเฉินจึงตกลงกันว่าไม่ต้องช่วยงานในแปลงนา เอาเรื่องเรียนไว้ก่อนซึ่งเธอก็เห็นด้วย การสอบแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแต่เธอจะได้เปรียบคนอื่นบ้างเรื่องที่ไม่ใช่คนในโลกใบนี้ผู้ใหญ่ออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืด อาหารมื้อเช้าที่เฉินเฟิ่นอี้ทำไว้ให้ก็คือคะน้าผัดไข่ไก่ ส่วนของพวกเธอก็เพิ่งจะมาทำเพราะเฉินเฟิ่นอี้กลัวว่าหากทำเยอะจะเสร็จไม่ทันทุกคน“เหม่ยเย่เธอไปเรียกเฉินตงมาหาพี่หน่อย” เฉินเฟิ่นอี้บอกน้องสาว เธอกำลังทำอาหารอยู่หากไปเองกลัวว่ามันจะไหม้เอาได้“ได้ค่ะ”เฉินเหม่ยเย่เดินออกจากครัวเพื่อไปเรียกเฉินตงที่คงอ่านหนังสืออยู่ในบ้าน เฉินเฟิ่นอี้จึงใ

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 7 ตลาดมืด

    สหกรณ์อำเภอเป็นแหล่งรวมสินค้าที่ผู้คนมากมายต่างมาเลือกซื้อของ ยิ่งช่วงต้นเดือนมีสินค้าเข้ามาใหม่ก็จะถูกยื้อแย่ง ใครมาเร็วก็ได้ใครมาช้าก็อด แต่ที่นี่ต้องใช้คูปอง ซึ่งหากมีเงินแต่ไม่มีคูปองก็ไม่สามารถซื้อได้อยู่ดี ยกเว้นจะมีเส้นสายหรือรู้จักพนักงานของที่นี่เฉินเฟิ่นอี้เดินเข้าสหกรณ์พร้อมเฉินตงที่ถือตะกร้าให้ เฉินไห่หลิวต้องการหนังสือและเขามีเงินที่จะซื้อหนังสืออยู่บ้าง ซึ่งมันเป็นเงินเก็บของเขาและเฉินตง ที่พวกเขาทำงานให้เพื่อนร่วมชั้น และเป็นเงินที่ได้รับจากย่าเฉินวันละสองเฟินต่อวันช่วงนี้เป็นช่วงกลางเดือน คนในสหกรณ์จึงมีไม่เยอะมาก และสินค้าต่างๆ ก็ใกล้จะหมดแล้ว เฉินเฟิ่นอี้เดินไปยังโซนเครื่องปรุงตามที่ตาเห็น เครื่องปรุงมีอะไรบ้างเธอก็จับใส่ตะกร้าให้หมด มีทั้งซอสหอย ซีอิ๊ว น้ำปลา ผงปรุงรส น้ำมัน และของอย่างอื่น ซึ่งเธอได้คำนวณไว้แล้วว่าให้พอดีกับคูปอง“พี่สาวสาม เงินเราจะพอเหรอครับ” เฉินตงกระซิบถามเมื่อเห็นของพูนเต็มตะกร้า“พอสิ”นอกจากเครื่องปรุงแล้วเฉินเฟิ่นอี้ยังซื้ออาหารแห้งที่สามารถใช้บำรุงร่างกายกลับไปด้วย เฉินเฟิ่นอี้นำเงินที่ได้รับจากระบบมาด้วย เข้าอำเภอทั้งทีเธอต้องซื้อให้คุ้

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 8 เฉินไห่หลิวบ่น

    จะกลับมาถึงบ้านก็บ่ายสามแล้ว โชคดีที่ก่อนทางเข้าตำบลมีรถแทรกเตอร์ของหมู่บ้านขับผ่าน สามพี่น้องบ้านเฉินจึงขอติดรถกลับมาด้วยเพราะของหนักมาก มีทั้งเครื่องปรุง ไข่ แตงโม แอปเปิล เนื้อ และของอื่นๆ อีกมากมาย ยังดีที่มีกระสอบและตะกร้าใส่ไม่อย่างนั้นคนขับรถแทรกเตอร์คงมองเห็นของที่ซื้อมาเฉินเฟิ่นอี้เป็นคนลงจากรถคนแรก เธอหยิบเอาของที่สามารถถือได้ ที่เหลือปล่อยให้เฉินไห่หลิวกับเฉินตงจัดการ จากนั้นจึงเดินเข้าบ้านที่มีย่าเฉิน เฉินเหม่ยเย่ และเฉินชิงชิงนั่งเล่นกันอยู่“ซื้ออะไรมาเยอะขนาดนั้น!” ย่าเฉินอุทานมองตะกร้าของที่หลานทั้งสามคนแบกมา“อาหารค่ะ เอาไปไว้ในครัว” เฉินเฟิ่นอี้ตอบ พร้อมหันไปบอกน้องชายที่แบกกระสอบอยู่ เธอจะคุยกับย่าเฉินสักหน่อยค่อยเข้าไปจัดการของในครัว“ครับพี่”เฉินเฟิ่นอี้หยิบคูปองและเงินจำนวนสามหยวน ยื่นคืนย่าเฉินที่มองมาอย่างสงสัย นี่คือเงินที่หักจากการซื้อเครื่องปรุง ส่วนเงินอื่นๆ เฉินเฟิ่นอี้เป็นคนจ่ายเอง ย่าเฉินให้เงินไปซื้อแค่เครื่องปรุง“นี่คือเงินที่เหลือจากซื้อเครื่องปรุงค่ะ ส่วนของอย่างอื่นฉันซื้อเอง” เพื่อป้องกันการถูกด่าที่ซื้อของสิ้นเปลือง เฉินเฟิ่นอี้จึงบอกตั้งแต่แรก

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 9 สอบเทียบ 1

    เรื่องที่บ้านเฉินมีเนื้อกินถูกพูดถึงทั้งหมู่บ้าน หากไม่ใช่เฉินหมิงกลับมาที่บ้านก็ต้องเป็นช่วงที่ได้รับผลผลิต บ้านเฉินรวมถึงทุกคนจึงจะมีเนื้อกิน แต่อยู่ๆ สามวันก่อนกลับมีคนได้กลิ่นเนื้อจากบ้านเฉิน ซึ่งเพื่อนบ้านต่างยืนยันว่าเป็นกลิ่นเนื้อจริงๆเฉินเฟิ่นอี้ถูกคนในบ้านเฉินซักถามว่าได้เนื้อมายังไง ก็เป็นย่าเฉินที่ออกหน้าและบอกว่านางเป็นคนเอาเงินและคูปองให้เฉินเฟิ่นอี้ไปซื้อเอง ทุกคนจึงทำได้แค่เงียบวันนี้มีการสอบเทียบ พี่ใหญ่เฉินหยุดงานหนึ่งวันเพื่อพาเฉินเฟิ่นอี้ เฉินไห่หลิว และเฉินตงไปสอบเทียบขึ้นมัธยมปลายในตำบล การสอบครั้งนี้ไม่ใช่การสอบใหญ่ ผู้ใหญ่ในบ้านเฉินจึงตกลงให้พี่ใหญ่เฉินไปคนเดียว ส่วนเรื่องลางานในแปลงนาทำเรื่องเอาไว้ตั้งแต่รู้วันสอบแล้วเดินทางไปในตำบลใช้เวลาเดินเท้าแค่ครึ่งชั่วโมง สมาชิกบ้านเฉินจึงไม่ได้เร่งรีบ เพราะมีสอบตอนเก้าโมง ลุงใหญ่ของบ้านจึงพาลูกชาย หลานชายและหลานสาวเดินเท้าไปยังตำบลถ้าเลือกได้เฉินเฟิ่นอี้ก็อยากได้จักรยานมาใช้ อย่างน้อยคงได้ไปซื้อของบ่อยๆ เอาไว้ลุงสามกลับมาที่บ้าน เธอจะลองขอให้เขาซื้อให้ดู หากให้พึ่งตนเองตอนนี้คงไม่ได้ เพราะต้องสำรองเงินบางส่วนไว้ใช้

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 10 สอบเทียบ 2

    พักได้ไม่นานเฉินเฟิ่นอี้ก็ต้องเข้าห้องสอบต่อ วิชาที่สองเป็นวิชาคณิตศาสตร์ เธอใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม แน่นอนว่าครั้งนี้เฉินเฟิ่นอี้ยังสอบเสร็จก่อนคนอื่น ช่วยไม่ได้ที่เธอมีตัวช่วยอย่างระบบเส็งเคร็งที่ชอบบอกคำตอบบ้าง แค่กๆเฉินเฟิ่นอี้ส่งกระดาษคำตอบทันทีที่หมดเวลาสอบ ท่ามกลางสีหน้าเคร่งเครียดของนักเรียนระดับมัธยมต้น คงมีเพียงเฉินเฟิ่นอี้ที่มีสีหน้าผ่อนคลาย เมื่อออกจากห้องสอบ บางคนรีบไปรับประทานอาหารมื้อกลางวันเพราะต้องกลับมาอ่านหนังสือต่อ วิชาต่อไปคือภาษาต่างประเทศอย่างภาษาอังกฤษที่เธอรู้จักดี เนื่องจากการทำงานเป็นเลขาของท่านประธานที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เธอในตอนนั้นจึงถูกส่งไปเรียนพิเศษแต่บางคนไม่ได้ไปรับประทานอาหารกลางวันเหมือนคนอื่น พวกเขาหาที่นั่งพร้อมกับอ่านหนังสือ จะสอบผ่านหรือไม่ผ่านก็อยู่ที่วิชาภาษาต่างประเทศแล้ว ยกเว้นบ้านเฉินที่เฉินเฟิ่นอี้ชวนไปหาที่รับประทานอาหารมื้อกลางวันข้างนอกโรงเรียนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง และแน่นอนว่าเฉินเฟิ่นอี้ไม่ต้องการอดอาหาร หากเฉินไห่หลิวกับเฉินตงเครียดและไม่ได้รับประทานอาหารมื้อกลางวัน พวกเขาอาจเป็นลมได้ ส่วนเธอนั้นไม่น่าห่วงเพราะไม่ได้

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 11 สะใภ้สี่เฉินตัดขาดบ้านเดิม

    ห้าโมงเย็นเป็นเวลาเลิกงานของคนในหมู่บ้าน หลังจากเลขาธิการจดชื่อว่าใครได้กี่แต้ม ทุกคนก็ทยอยกลับบ้าน บ้านไหนที่จัดการเสร็จก่อนคนอื่นก็รีบร้อนกลับบ้าน เพราะผู้หญิงต้องไปทำงานบ้านและอาหารมื้อเย็น ต่างจากบ้านเฉินที่รอให้คนน้อยค่อยไปต่อแถวจดชื่อ ที่บ้านมีคนทำอาหารรอแล้ว“วันนี้เด็กๆ ไปสอบ ฉันหวังว่าทุกคนจะสอบผ่านหมดนะคะ จะได้ไปเรียนพร้อมกัน” สะใภ้สี่เฉินเอ่ยระหว่างยืนรอต่อแถวสมาชิกบ้านอื่น“อืม เฟิ่นอี้จะได้สอนน้องๆ ได้” สะใภ้ใหญ่เห็นด้วย เรื่องการเรียนของเฉินเฟิ่นอี้บ้านเฉินต่างรับรู้กันดี ขนาดเฉินไห่หลิวที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะยังไม่สู้หล่อน“ฮ่าๆ หลานสาวต้องสอบผ่านแน่ครับ หล่อนสอนการบ้านน้องสาวแทบทุกวัน ไหนจะอ่านหนังสือหนักอีก” พี่รองเฉินหัวเราะอย่างอารมณ์ดี“ใช่” ปู่เฉินเห็นด้วย“เหล่าสะใภ้อี้มีเรื่องอะไรกันเหรอ เห็นกลับจากสอบ ก็ตรงมาหาคนบ้านอี้เลย” สะใภ้สี่กล่าวด้วยความสนใจ หล่อนเป็นคนบ้านอี้มาก่อน เห็นแบบนี้จึงรับรู้ได้ว่าเกิดเรื่องขึ้น และรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย“จะอะไรก็เถอะ คุณไม่ต้องไปสนใจหรอก ขอแค่พวกหล่อนไม่ไปทำอะไรให้สูกสาวของเราก็พอ” น้องชายสี่เฉินบอกภรรยา แต่ก่อนเรื่องบ้านอี

    Last Updated : 2025-02-17
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 12 พี่สาวรองกลับบ้าน

    เรื่องที่สะใภ้สี่บ้านเฉินเอ่ยตัดขาดบ้านเดิมแพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว อย่างที่รู้กันว่าผู้หญิงที่แต่งงานออกจากบ้านก็จะเป็นคนในครอบครัวของสามี ไม่ใช่คนของบ้านเดิม แต่ถ้าไม่มีเรื่องร้ายแรงหรือบ้านเดิมตัดขาดกับคนที่แต่งออกจากบ้าน ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลูกสาวเอ่ยตัดขาดจากบ้านเดิมมาก่อนแต่เมื่อวานนี้สะใภ้สี่บ้านเฉินได้ทำลงไปแล้ว และเรื่องต่อมาที่จะพูดไม่ได้เลยก็คือหมิงหลานฮุ่ยยังไม่ได้มาหมั้นหมายอี้เหม่ยเฟิ่ง ทั้งๆ ที่สะใภ้ใหญ่บ้านอี้ป่าวประกาศไปทั่วหมู่บ้านเฉินเฟิ่นอี้กำลังต้มข้าวใส่ไข่ให้แม่ของเธอที่นอนป่วยอยู่ในห้องนอนได้รับประทาน บ้านเฉินลงความเห็นกันว่าให้สะใภ้สี่พักจิตใจก่อน ส่วนเรื่องแปลงนาย่าเฉินจะลงไปทำแทน อีกทั้งสามพี่น้องบ้านอี้ยังไปช่วยผู้ใหญ่ทำงานอีก ที่บ้านตอนนี้จึงเหลือแค่สะใภ้สี่ เฉินเฟิ่นอี้ เฉินเหม่ยเย่และเฉินชิงชิงที่รับหน้าที่ดูแลน้องชายยังเป็นเฉินเฟิ่นอี้ที่รับหน้าที่ทำอาหารมื้อกลางวันให้ทุกคนเช่นเคย วันนี้มีตุ๋นไก่ในเล้าหนึ่งตัว ที่เฉินเฟิ่นอี้ขอพ่อของเธอฆ่าให้เพราะมันเกินจำนวนสมาชิกในบ้านที่ตอนนี้เหลือเพียงสิบหกคนแต่มีไก่เก้าตัว“พี่ทำข้าวต้มให้แม่เหร

    Last Updated : 2025-02-17
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 13 คะแนนสอบเทียบ

    พี่สาวรองนอนที่บ้านแค่หนึ่งคืนก็กลับบ้านสามี หล่อนกล่าวว่ายังอยากอยู่ที่บ้านต่อ แต่บอกแม่สามีไว้แล้วว่าจะกลับตอนเช้า ย่าเฉินจึงให้เฉินตงไปส่งพี่สาวและให้นำผลไม้กลับไปด้วยเพียงบางส่วน ถึงเฉินเยี่ยนฉิงจะปฏิเสธก็ตามเฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้กล่าวและเตือนพี่สาวรอง อย่างที่รู้กันว่าหล่อนเรียนถึงมัธยมปลาย คงไม่ได้โง่ถึงกับให้บ้านสามีทำร้ายตนเองหรอก อีกอย่างบ้านฉางยังเกรงกลัวบ้านเฉินอยู่แม่ของเธอนอนพักแค่วันเดียวก็กลับไปทำงานต่อ เฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่ได้ว่าอะไรในเมื่อหายดีแล้ว มีเพียงย่าเฉินที่ยังอยากให้สะใภ้ของนางนอนพักอีกวันนี้เป็นวันที่คะแนนสอบเทียบออก คนในบ้านเฉินไม่มีใครได้หยุดงานสักคนเพราะการเก็บเกี่ยวฤดูนี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว เฉินเฟิ่นอี้จึงเป็นคนที่พาเฉินไห่หลิว เฉินตง และเฉินเหม่ยเย่ที่อยากเข้าไปดูคะแนนสอบด้วย ส่วนเฉินจางถูกลากไปลงแปลงนาตั้งแต่เช้ามืดถ้าทุกคนสอบผ่านจะได้ส่งจดหมายไปบอกลุงสามเรื่องบ้านเช่าในอำเภอ ครั้งก่อนลุงสามตอบจดหมายกลับมาว่าช่วงสิ้นปีถึงจะกลับและลาพักได้สามเดือน ระหว่างนี้คงไม่ได้ตอบจดหมายบ่อยๆ เนื่องจากการทำงาน แต่อย่างน้อยก็ต้อง

    Last Updated : 2025-02-18

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 16 คะแนนเต็ม

    สมาชิกบ้านเฉินหลังจากพักหายเหนื่อยก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เฉินไห่หลิว เฉินตง เฉินจาง และรวมถึงผู้ชายบ้านเฉินพากันไปยกตะกร้าผ้ากลับมา เหล่าสะใภ้ต่างช่วยกันตากผ้า ส่วนเฉินเฟิ่นอี้ เฉินเหม่ยเย่กลับไปทำอาหารมื้อเย็นเฉินเฟิ่นอี้จัดการอาหารเสร็จก็ตักใส่ชาม รอให้คนมายกออกไปก็ได้เวลารับประทานอาหาร ข้าวก็สุกพร้อมรับประทาน เฉินเหม่ยเย่จึงอาสาออกไปเรียกคนมาช่วยยกถ้วย จาน และช้อนถูกเฉินเฟิ่นอี้ยกออกไปก่อน ส่วนข้าวและกับข้าวจะให้คนอื่นยก ระหว่างรอทุกคนเข้ามาในห้องโถงเธอจึงใช้โอกาสนี้เข้าไปหยิบซองจดหมายแจ้งคะแนนในห้องที่ถูกเปิดแล้ว เฉินไห่หลิวกับเฉินตงก็หยิบออกมาเช่นเดียวกัน เพียงแค่ของพวกเขายังไม่ได้เปิด“วันนี้เด็กๆ สอบผ่านทุกคน ต้องฉลองกันแล้วสิ เจ้าใหญ่ไปเอาเหล้าในห้องแม่มา ถึงจะหาเนื้อไม่ทันแต่ก็ดื่มเหล้าได้ แม่จะให้หลานทำกับแกล้มเพิ่ม” ย่าเฉินบอกลูกชาย ก่อนหน้านี้ลืมถามเด็กๆ ว่าสอบผ่านไหม จึงไม่ได้ให้เงินไปซื้อเนื้อไว้ แต่อาหารวันนี้ก็พอจะทดแทนได้บ้างพี่ใหญ่เฉินรีบพยักหน้าลุกขึ้นไปหยิบเหล้าที่ว่าทันที ปกติผู้ชายบ้านเฉินไม่ค่อยดื่มเหล้า จะดื่มก็ตอนงานม

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 15 สงสัย

    ก่อนที่เฉินเฟิ่นอี้จะล้มป่วยหล่อนมีร่างกายที่แข็งแรงมาก ถึงขนาดที่ว่าทำงานเก็บแต้มที่หนัก ตื่นเช้ามาหล่อนก็ยังไปเรียนได้อย่างปกติ พอเลิกเรียนก็ทำแบบเดิมซ้ำๆ มีเพียงช่วงเวลาก่อนเรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้นที่ร่างกายของหล่อนเปลี่ยนไปช่วงแรกเป็นการเวียนหัวแต่หล่อนคิดว่าเป็นเพราะทำงานหนักและไม่ได้บอกใคร เคยเป็นลมหมดสติตอนทำงานเก็บแต้มก็ยังคิดว่าแค่ป่วย แต่หลังจากนั้นหล่อนก็อาเจียน เวลาไปโรงเรียนหล่อนก็เป็นแบบนี้ประจำจนขาดเรียนบ่อยครั้ง แต่พอขาดเรียนอาการกลับดีขึ้นมาก เฉินเฟิ่นอี้จึงไม่ยอมลาออกจากโรงเรียน จนลุงสามของหล่อนกลับมาและได้ยื่นคำขาดเฉินเฟิ่นอี้ชะงักเมื่อมองย้อนกลับไปช่วงเวลานั้นว่าเกิดอะไรขึ้น อี้เหม่ยเฟิ่งทำการบ้านที่ครูสั่งไม่ได้จึงให้เฉินเฟิ่นอี้ช่วยสอน แต่สอนไปสอนมา กลับเป็นหล่อนที่ต้องทำการบ้านให้อี้เหม่ยเฟิ่ง และเป็นช่วงเดียวกันที่อี้เหม่ยเฟิ่งกับหมิงหลานฮุ่ยชอบออกไปซื้อของกินนอกโรงเรียนเฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่าอี้เหม่ยเฟิ่งเป็นญาติผู้พี่ที่ไม่มีเพื่อน เพราะเพื่อนสนิทคนอื่นไม่ได้เรียนต่อในระดับมัธยม แม่ของหล่อนจึงให้หล่อนดูแลญาติผู้พี่ เฉิ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 14 เปิดระบบแลกของ

    หลังจากจากยื่นเอกสารเสร็จเฉินเฟิ่นอี้ก็รีบพาน้องๆ เดินออกจากอาคาร ยังดีที่อี้เหม่ยเฟิ่งกับหมิงหลานฮุ่ยต่อแถวรอยื่นเอกสารอยู่ พวกเธอจึงไม่ได้ปะทะหน้ากัน เธอเดินมาหยุดที่หน้าโรงเรียนอย่างใช้ความคิดพรุ่งนี้ถึงจะมารับใบขอจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้นได้พวกเธอจึงกลับได้เลย แต่อย่าลืมว่าเฉินเฟิ่นอี้มีภารกิจช่วยเหลือเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ถูกล้อ พวกเธอจะกลับแล้วแต่ยังไม่เห็นคนนั้นที่ว่า“เจียวซีเธอสอบไม่ผ่านเหรอ? ฮ่าๆ ฉันเดาเอาไว้ไม่มีผิด รู้ไหมว่าห้องเรียนของเราสอบผ่านหมดนะ อ้อ ยกเว้นเธอน่ะ”เสียงหัวเราะเรียกความสนใจของเฉินเฟิ่นอี้ได้เป็นอย่างดี เธอเพ่งมองเด็กสาวคนนั้นอย่างใช้ความคิด หล่อนคุ้นหน้าไม่น้อยคงเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอตอนที่ยังเรียนอยู่ แต่น่าจะอยู่คนละห้องกันเพราะเหมือนจะไม่เคยคุยกัน“ไม่เอาน่าซ่งเยว่ลี่ เจียวซีหล่อนก็แค่ไม่เข้าใจการเรียน ยังไงหล่อนก็แค่เรียนมัธยมต้นต่อ ไม่เหมือนพวกเราที่ต้องไปเรียนมัธยมปลาย ฮ่าๆ”“ฉันรู้ๆ จางเฟยหง แต่อีกห้องจะหัวเราะให้ห้องพวกเราที่มีคนสอบไม่ผ่าน! ได้ยินว่าอีกห้องสอบผ่านหม

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 13 คะแนนสอบเทียบ

    พี่สาวรองนอนที่บ้านแค่หนึ่งคืนก็กลับบ้านสามี หล่อนกล่าวว่ายังอยากอยู่ที่บ้านต่อ แต่บอกแม่สามีไว้แล้วว่าจะกลับตอนเช้า ย่าเฉินจึงให้เฉินตงไปส่งพี่สาวและให้นำผลไม้กลับไปด้วยเพียงบางส่วน ถึงเฉินเยี่ยนฉิงจะปฏิเสธก็ตามเฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้กล่าวและเตือนพี่สาวรอง อย่างที่รู้กันว่าหล่อนเรียนถึงมัธยมปลาย คงไม่ได้โง่ถึงกับให้บ้านสามีทำร้ายตนเองหรอก อีกอย่างบ้านฉางยังเกรงกลัวบ้านเฉินอยู่แม่ของเธอนอนพักแค่วันเดียวก็กลับไปทำงานต่อ เฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่ได้ว่าอะไรในเมื่อหายดีแล้ว มีเพียงย่าเฉินที่ยังอยากให้สะใภ้ของนางนอนพักอีกวันนี้เป็นวันที่คะแนนสอบเทียบออก คนในบ้านเฉินไม่มีใครได้หยุดงานสักคนเพราะการเก็บเกี่ยวฤดูนี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว เฉินเฟิ่นอี้จึงเป็นคนที่พาเฉินไห่หลิว เฉินตง และเฉินเหม่ยเย่ที่อยากเข้าไปดูคะแนนสอบด้วย ส่วนเฉินจางถูกลากไปลงแปลงนาตั้งแต่เช้ามืดถ้าทุกคนสอบผ่านจะได้ส่งจดหมายไปบอกลุงสามเรื่องบ้านเช่าในอำเภอ ครั้งก่อนลุงสามตอบจดหมายกลับมาว่าช่วงสิ้นปีถึงจะกลับและลาพักได้สามเดือน ระหว่างนี้คงไม่ได้ตอบจดหมายบ่อยๆ เนื่องจากการทำงาน แต่อย่างน้อยก็ต้อง

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 12 พี่สาวรองกลับบ้าน

    เรื่องที่สะใภ้สี่บ้านเฉินเอ่ยตัดขาดบ้านเดิมแพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว อย่างที่รู้กันว่าผู้หญิงที่แต่งงานออกจากบ้านก็จะเป็นคนในครอบครัวของสามี ไม่ใช่คนของบ้านเดิม แต่ถ้าไม่มีเรื่องร้ายแรงหรือบ้านเดิมตัดขาดกับคนที่แต่งออกจากบ้าน ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลูกสาวเอ่ยตัดขาดจากบ้านเดิมมาก่อนแต่เมื่อวานนี้สะใภ้สี่บ้านเฉินได้ทำลงไปแล้ว และเรื่องต่อมาที่จะพูดไม่ได้เลยก็คือหมิงหลานฮุ่ยยังไม่ได้มาหมั้นหมายอี้เหม่ยเฟิ่ง ทั้งๆ ที่สะใภ้ใหญ่บ้านอี้ป่าวประกาศไปทั่วหมู่บ้านเฉินเฟิ่นอี้กำลังต้มข้าวใส่ไข่ให้แม่ของเธอที่นอนป่วยอยู่ในห้องนอนได้รับประทาน บ้านเฉินลงความเห็นกันว่าให้สะใภ้สี่พักจิตใจก่อน ส่วนเรื่องแปลงนาย่าเฉินจะลงไปทำแทน อีกทั้งสามพี่น้องบ้านอี้ยังไปช่วยผู้ใหญ่ทำงานอีก ที่บ้านตอนนี้จึงเหลือแค่สะใภ้สี่ เฉินเฟิ่นอี้ เฉินเหม่ยเย่และเฉินชิงชิงที่รับหน้าที่ดูแลน้องชายยังเป็นเฉินเฟิ่นอี้ที่รับหน้าที่ทำอาหารมื้อกลางวันให้ทุกคนเช่นเคย วันนี้มีตุ๋นไก่ในเล้าหนึ่งตัว ที่เฉินเฟิ่นอี้ขอพ่อของเธอฆ่าให้เพราะมันเกินจำนวนสมาชิกในบ้านที่ตอนนี้เหลือเพียงสิบหกคนแต่มีไก่เก้าตัว“พี่ทำข้าวต้มให้แม่เหร

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 11 สะใภ้สี่เฉินตัดขาดบ้านเดิม

    ห้าโมงเย็นเป็นเวลาเลิกงานของคนในหมู่บ้าน หลังจากเลขาธิการจดชื่อว่าใครได้กี่แต้ม ทุกคนก็ทยอยกลับบ้าน บ้านไหนที่จัดการเสร็จก่อนคนอื่นก็รีบร้อนกลับบ้าน เพราะผู้หญิงต้องไปทำงานบ้านและอาหารมื้อเย็น ต่างจากบ้านเฉินที่รอให้คนน้อยค่อยไปต่อแถวจดชื่อ ที่บ้านมีคนทำอาหารรอแล้ว“วันนี้เด็กๆ ไปสอบ ฉันหวังว่าทุกคนจะสอบผ่านหมดนะคะ จะได้ไปเรียนพร้อมกัน” สะใภ้สี่เฉินเอ่ยระหว่างยืนรอต่อแถวสมาชิกบ้านอื่น“อืม เฟิ่นอี้จะได้สอนน้องๆ ได้” สะใภ้ใหญ่เห็นด้วย เรื่องการเรียนของเฉินเฟิ่นอี้บ้านเฉินต่างรับรู้กันดี ขนาดเฉินไห่หลิวที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะยังไม่สู้หล่อน“ฮ่าๆ หลานสาวต้องสอบผ่านแน่ครับ หล่อนสอนการบ้านน้องสาวแทบทุกวัน ไหนจะอ่านหนังสือหนักอีก” พี่รองเฉินหัวเราะอย่างอารมณ์ดี“ใช่” ปู่เฉินเห็นด้วย“เหล่าสะใภ้อี้มีเรื่องอะไรกันเหรอ เห็นกลับจากสอบ ก็ตรงมาหาคนบ้านอี้เลย” สะใภ้สี่กล่าวด้วยความสนใจ หล่อนเป็นคนบ้านอี้มาก่อน เห็นแบบนี้จึงรับรู้ได้ว่าเกิดเรื่องขึ้น และรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย“จะอะไรก็เถอะ คุณไม่ต้องไปสนใจหรอก ขอแค่พวกหล่อนไม่ไปทำอะไรให้สูกสาวของเราก็พอ” น้องชายสี่เฉินบอกภรรยา แต่ก่อนเรื่องบ้านอี

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 10 สอบเทียบ 2

    พักได้ไม่นานเฉินเฟิ่นอี้ก็ต้องเข้าห้องสอบต่อ วิชาที่สองเป็นวิชาคณิตศาสตร์ เธอใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม แน่นอนว่าครั้งนี้เฉินเฟิ่นอี้ยังสอบเสร็จก่อนคนอื่น ช่วยไม่ได้ที่เธอมีตัวช่วยอย่างระบบเส็งเคร็งที่ชอบบอกคำตอบบ้าง แค่กๆเฉินเฟิ่นอี้ส่งกระดาษคำตอบทันทีที่หมดเวลาสอบ ท่ามกลางสีหน้าเคร่งเครียดของนักเรียนระดับมัธยมต้น คงมีเพียงเฉินเฟิ่นอี้ที่มีสีหน้าผ่อนคลาย เมื่อออกจากห้องสอบ บางคนรีบไปรับประทานอาหารมื้อกลางวันเพราะต้องกลับมาอ่านหนังสือต่อ วิชาต่อไปคือภาษาต่างประเทศอย่างภาษาอังกฤษที่เธอรู้จักดี เนื่องจากการทำงานเป็นเลขาของท่านประธานที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เธอในตอนนั้นจึงถูกส่งไปเรียนพิเศษแต่บางคนไม่ได้ไปรับประทานอาหารกลางวันเหมือนคนอื่น พวกเขาหาที่นั่งพร้อมกับอ่านหนังสือ จะสอบผ่านหรือไม่ผ่านก็อยู่ที่วิชาภาษาต่างประเทศแล้ว ยกเว้นบ้านเฉินที่เฉินเฟิ่นอี้ชวนไปหาที่รับประทานอาหารมื้อกลางวันข้างนอกโรงเรียนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง และแน่นอนว่าเฉินเฟิ่นอี้ไม่ต้องการอดอาหาร หากเฉินไห่หลิวกับเฉินตงเครียดและไม่ได้รับประทานอาหารมื้อกลางวัน พวกเขาอาจเป็นลมได้ ส่วนเธอนั้นไม่น่าห่วงเพราะไม่ได้

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 9 สอบเทียบ 1

    เรื่องที่บ้านเฉินมีเนื้อกินถูกพูดถึงทั้งหมู่บ้าน หากไม่ใช่เฉินหมิงกลับมาที่บ้านก็ต้องเป็นช่วงที่ได้รับผลผลิต บ้านเฉินรวมถึงทุกคนจึงจะมีเนื้อกิน แต่อยู่ๆ สามวันก่อนกลับมีคนได้กลิ่นเนื้อจากบ้านเฉิน ซึ่งเพื่อนบ้านต่างยืนยันว่าเป็นกลิ่นเนื้อจริงๆเฉินเฟิ่นอี้ถูกคนในบ้านเฉินซักถามว่าได้เนื้อมายังไง ก็เป็นย่าเฉินที่ออกหน้าและบอกว่านางเป็นคนเอาเงินและคูปองให้เฉินเฟิ่นอี้ไปซื้อเอง ทุกคนจึงทำได้แค่เงียบวันนี้มีการสอบเทียบ พี่ใหญ่เฉินหยุดงานหนึ่งวันเพื่อพาเฉินเฟิ่นอี้ เฉินไห่หลิว และเฉินตงไปสอบเทียบขึ้นมัธยมปลายในตำบล การสอบครั้งนี้ไม่ใช่การสอบใหญ่ ผู้ใหญ่ในบ้านเฉินจึงตกลงให้พี่ใหญ่เฉินไปคนเดียว ส่วนเรื่องลางานในแปลงนาทำเรื่องเอาไว้ตั้งแต่รู้วันสอบแล้วเดินทางไปในตำบลใช้เวลาเดินเท้าแค่ครึ่งชั่วโมง สมาชิกบ้านเฉินจึงไม่ได้เร่งรีบ เพราะมีสอบตอนเก้าโมง ลุงใหญ่ของบ้านจึงพาลูกชาย หลานชายและหลานสาวเดินเท้าไปยังตำบลถ้าเลือกได้เฉินเฟิ่นอี้ก็อยากได้จักรยานมาใช้ อย่างน้อยคงได้ไปซื้อของบ่อยๆ เอาไว้ลุงสามกลับมาที่บ้าน เธอจะลองขอให้เขาซื้อให้ดู หากให้พึ่งตนเองตอนนี้คงไม่ได้ เพราะต้องสำรองเงินบางส่วนไว้ใช้

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 8 เฉินไห่หลิวบ่น

    จะกลับมาถึงบ้านก็บ่ายสามแล้ว โชคดีที่ก่อนทางเข้าตำบลมีรถแทรกเตอร์ของหมู่บ้านขับผ่าน สามพี่น้องบ้านเฉินจึงขอติดรถกลับมาด้วยเพราะของหนักมาก มีทั้งเครื่องปรุง ไข่ แตงโม แอปเปิล เนื้อ และของอื่นๆ อีกมากมาย ยังดีที่มีกระสอบและตะกร้าใส่ไม่อย่างนั้นคนขับรถแทรกเตอร์คงมองเห็นของที่ซื้อมาเฉินเฟิ่นอี้เป็นคนลงจากรถคนแรก เธอหยิบเอาของที่สามารถถือได้ ที่เหลือปล่อยให้เฉินไห่หลิวกับเฉินตงจัดการ จากนั้นจึงเดินเข้าบ้านที่มีย่าเฉิน เฉินเหม่ยเย่ และเฉินชิงชิงนั่งเล่นกันอยู่“ซื้ออะไรมาเยอะขนาดนั้น!” ย่าเฉินอุทานมองตะกร้าของที่หลานทั้งสามคนแบกมา“อาหารค่ะ เอาไปไว้ในครัว” เฉินเฟิ่นอี้ตอบ พร้อมหันไปบอกน้องชายที่แบกกระสอบอยู่ เธอจะคุยกับย่าเฉินสักหน่อยค่อยเข้าไปจัดการของในครัว“ครับพี่”เฉินเฟิ่นอี้หยิบคูปองและเงินจำนวนสามหยวน ยื่นคืนย่าเฉินที่มองมาอย่างสงสัย นี่คือเงินที่หักจากการซื้อเครื่องปรุง ส่วนเงินอื่นๆ เฉินเฟิ่นอี้เป็นคนจ่ายเอง ย่าเฉินให้เงินไปซื้อแค่เครื่องปรุง“นี่คือเงินที่เหลือจากซื้อเครื่องปรุงค่ะ ส่วนของอย่างอื่นฉันซื้อเอง” เพื่อป้องกันการถูกด่าที่ซื้อของสิ้นเปลือง เฉินเฟิ่นอี้จึงบอกตั้งแต่แรก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status