Share

บทที่ 17 บ้านเช่า

last update Last Updated: 2025-02-22 01:24:17

ในที่สุดวันที่เฉินเฟิ่นอี้รอก็มาถึง วันที่เธอจะได้เข้าไปในอำเภออีกครั้ง หลายวันก่อนลุงสามส่งจดหมายมาให้บ้านเฉิน ในจดหมายกล่าวว่าเพื่อนของลุงสามเจอบ้านพักที่ต้องการแล้ว ราคาเดือนละห้าหยวน มีทั้งหมดสี่ห้องนอน

ซึ่งเช่าบ้านหลังหนึ่งในราคาไม่ถึงสิบหยวนเป็นราคาที่ถูกมาก ที่ได้มาเป็นเพราะลุงสามเป็นคนจัดการให้ หากเป็นคนอื่นราคาจะสูงกว่านี้อีกเท่าตัว ได้ยินว่าเป็นบ้านพักของคนรู้จักที่ไม่ได้เปิดให้เช่า แต่เพราะลุงสามหาบ้านเช่าให้หลานๆ จึงได้มันมา

อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าต้องพักบ้านหลังนั้น พวกเธอยังสามารถเลือกได้ว่าจะพักบ้านหลังนี้หรือหาหลังอื่นๆ อีก ซึ่งเฉินเฟิ่นอี้เห็นด้วยกับเรื่องนี้ พวกเธอที่ต้องเข้าไปอยู่จึงต้องไปดู โดยมีลุงใหญ่เป็นคนพาเข้าไปในอำเภอ

เงินที่ได้จากการขายคูปองตอนนั้นหมดแล้ว เหลือแค่เงินที่ได้รับจากระบบสองร้อยหยวน เฉินเฟิ่นอี้จะให้เฉินตงเอาคูปองไปขายให้อีกครั้ง คราวนี้เธอจะไม่เสี่ยงไปเอง ไม่อย่างนั้นลุงใหญ่คงสงสัย เฉินตงเป็นคนที่จัดการอะไรเร็วกว่าเฉินไห่หลิว เฉินเฟิ่นอี้จึงสะดวกใจกับเขามากกว่าคนอื่น

อีกไม่ถึงสิบวันโรงเรียนในอำเภอก็จะเปิดเทอมแล้ว เด็กๆ บ้านเฉินจึงควรที่จะเข้าไปอยู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 18 ขายสบู่

    สุดท้ายเฉินตงก็ปฏิเสธพี่สาวไม่ได้ เขาเดินนำเข้าตลาดมืดอย่างคุ้นเคย เฉินเฟิ่นอี้เดินตามหลังไปโดยไม่ได้สนใจสีหน้าที่กระอักกระอ่วนของเขา หากเฉินไห่หลิวคุยง่ายเธอจะให้เขามาแทนเฉินเฟิ่นอี้เตรียมพร้อมอย่างดี หมวกไม้ไผ่สานถูกมัดแน่น ยากที่จะแกะออกหากไม่ใช่เธอที่แกะเอง มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบสบู่หอมออกมาหนึ่งก้อน รอบนี้เธอไม่สามารถแยกจากเฉินตงได้เลย เขาตามติดเฉินเฟิ่นอี้ตลอดไม่ละสายตาวันนี้บรรยากาศภายในตลาดมืดยังเป็นเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าการเข้ามาในตลาดมืดมันง่ายกว่าครั้งแรกที่มา อาจเป็นเพราะเธอเคยมาแล้วจึงไม่ได้เกร็ง เฉินเฟิ่นอี้เดินตามแผงขายของไปเรื่อยๆ เธอไม่ได้เลือกร้านค้า แต่กำลังมองหาลูกค้าที่เหมาะกับสินค้าของเธอผู้หญิงหากถูกใจแล้วไม่ว่าต้องแลกกับอะไรก็ต้องได้ของสิ่งนั้น สบู่ที่เฉินเฟิ่นอี้กดแลกมามันมีกลิ่นที่หอมมาก เธอมั่นใจได้ว่ามันจะขายได้ในราคาที่สูง ระหว่างเดินทางมาที่ตลาดมืดเฉินเฟิ่นอี้ถามราคาสบู่ในสหกรณ์กับเฉินตง เขาบอกว่ามันราคาสี่หยวนต่อหนึ่งก้อน และในความทรงจำของเธอสบู่มันไม่ได้หอมติดผิวกาย ซึ่งถ้าขายในตลาดมืดราคาต้องมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัวเพราะไม่ได้ใช้คูปองเฉินเ

    Last Updated : 2025-02-22
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 19 ส่วนแบ่งผลผลิต

    อีกแปดวันโรงเรียนประจำอำเภอจะเปิดการเรียนการสอน เด็กๆ บ้านเฉินทำการยื่นเรื่องขอเข้าเรียนต่อแล้ว อีกทั้งวันไปรับใบจบเฉินเฟิ่นอี้ยังได้รับหนังสือกลับมาหลายเล่ม ทางโรงเรียนไม่ได้มีเงินมากพอที่จะสนับสนุนนักเรียน นี่จึงถือว่าเป็นทุนการศึกษาให้คนที่ได้คะแนนสูงในการสอบเฉินเฟิ่นอี้เก็บเสื้ิอผ้าและของใส่กล่องอย่างเป็นระเบียบ ที่หมู่บ้านเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จพอดี วันนี้จึงไม่ได้ไปทำงานและรอรับส่วนแบ่ง ย่าเฉินจึงให้ลุงใหญ่ไปตามคนที่มีรถใหญ่ในตำบลมา ค่าจ้างเท่าไรก็ยอมเพราะต้องขนของไปเยอะอีกอย่างวันนี้ได้ยินว่าเด็กที่เรียนต่อมัธยมปลายเริ่มเดินทางไปทำเอกสารกันแล้ว โชคดีที่เฉินเฟิ่นอี้ไม่ต้องการต่อแถวทำเอกสารจึงรีบยื่นตั้งแต่ได้รับใบจบมา เฉินเฟิ่นอี้ เฉินไห่หลิว เฉินตงเรียนมัธยมปลาย และเฉินเหม่ยเย่กับเฉินจางเรียนมัธยมต้น[ภารกิจที่ 72 : ไปรับส่วนแบ่งกับบ้านเฉินเพื่อรับ 10 แต้ม]เฉินเฟิ่นอี้ชะงัก ทั้งๆ ที่อีกไม่นานก็ต้องขนของขึ้นรถ ระบบเพิ่งจะมาแจ้งเตือนเธอ เธอถอนหายใจก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าและเดินออกจากห้องนอนเพื่อตามไปที่แบ่งอาหารของเธอมีแค่ไม่กี่อย่างและมันก็ถูกเก็บตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนมากของท

    Last Updated : 2025-02-22
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 20 ย้ายเข้าบ้านเช่า

    ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเรื่องหลานสาวบ้านเฉินซื้อธัญพืชไปในราคาสามสิบกว่าหยวนก็ถูกพูดต่อๆ กัน มีหลายคนที่ส่ายหน้าให้กับความสิ้นเปลืองของบ้านเฉินแต่บ้านเฉินไม่ได้สนใจแม้จะตกใจก็ตาม ย่าเฉินทำการตักแบ่งธัญพืชให้หลานๆ และเฉินเฟิ่นอี้มีข้อแม้ว่าพวกเธอจะนำไปทุกอย่างยกเว้นข้าวขาว ทุกคนไม่เห็นด้วยเพราะเฉินเฟิ่นอี้เป็นคนซื้อมา ไม่มีใครถามว่าได้เงินมาจากไหน แต่ย่าเฉินเคยบอกเอาไว้ว่าลูกชายคนที่สามของนางเอาเงินให้หลานสาวใช้เฉินเฟิ่นอี้ลงจากรถยนต์ที่ลุงใหญ่ไปหาเช่ามา โชคดีที่เป็นรถของคนรู้จักบ้านของสามีพี่สาวใหญ่ พี่เขยของเธอจึงไปยืมมาให้โดยไม่ต้องเช่า และเป็นคนขับรถพาพวกเธอมายังบ้านพักรถไม่ได้คันใหญ่ คนที่มาด้วยได้จึงมีเพียงลุงใหญ่ แม้กระทั่งย่าเฉินที่ควรมาด้วยยังไม่ได้มา ลุงใหญ่เดินทางสะดวกและเป็นคนติดต่อบ้านพักกับเพื่อนลุงสามเพื่อนของลุงสามยืนรอที่หน้าบ้านพร้อมผู้ชายที่ดูมีฐานะคนหนึ่ง ลุงใหญ่เดินเข้าไปทักทายเขาเหมือนจะรู้จัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะครั้งก่อนก็เคยเจอกันแล้ว พี่เขยใหญ่ช่วยเด็กชายบ้านเฉินยกของลงจากรถ ส่วนเฉินเฟิ่นอี้กับเฉินเหม่ยเย่ยืนอยู่เฉยๆ ไม่มีใครยอมให้ช่วยเฉินเฟิ่นอี้ที่เห็น

    Last Updated : 2025-02-22
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 21 โก่งราคาของ

    เฉินไห่หลิว เฉินจาง และเฉินเหม่ยเย่ออกไปที่ร้านหนังสือหลังรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ เฉินเฟิ่นอี้จึงให้เงินเฉินไห่หลิวไปจำนวนสิบหยวน หากเด็กๆ ต้องการหนังสือก็อนุญาตให้ซื้อ และบางทีเธอกับเฉินตงอาจกลับช้า ถ้าหิวก็สามารถเอาอาหารในตู้เย็นมาทำรับประทานได้เลยเพราะเฉินเหม่ยเย่ก็ทำอาหารเป็น หรือหากเงินเหลือก็ไปซื้ออาหารรับประทานในร้านค้ารัฐได้เฉินเฟิ่นอี้กัดฟันแลกแต้มคะแนนสะสมจำนวนหนึ่งร้อยแต้มกับคูปองอาหารเพียงสิบใบ แต่ก็นับว่าคุ้ม หากเด็กๆ ไม่ต้องการทำอาหารเอง อีกทั้งเธอยังให้เงินเฉินไห่หลิวแยกต่างหากเพื่อให้เขานำไปซื้อเนื้อมาทำอาหารเงินที่เหลือมีเพียงหนึ่งร้อยกว่าหยวน และคำนวณดูแล้วเฉินเฟิ่นอี้คิดว่ามันจะอยู่ได้อีกไม่นาน วันนี้จึงแลกสบู่หอมออกมาหนึ่งโหล รวมกับที่เหลือไว้อีกสามก้อนก็เป็นสิบห้าก้อน เพราะเธอจะนำออกมาใช้ เฉินเฟิ่นอี้จะเข้าตลาดมืดแค่สัปดาห์ละครั้งป้องกันความเสี่ยง คาดว่าเข้าตลาดมืดวันนี้คงได้ไม่ต่ำกว่าร้อยหยวนเฉินตงถอนหายใจ เมื่อคืนนี้เฉินไห่หลิวมากดดันเขาเรื่องที่จะไปตลาดมืด แต่ถึงกดดันอย่างไรก็ต้องไปอยู่ดี หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเขาจึงต้องรีบแต่งตัว ไม่อย่างนั้นพี่

    Last Updated : 2025-02-22
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 22 เตรียมของสำหรับไปโรงเรียน

    เฉินตงเดินถือกระสอบกล่องข้าวสามช่องกลับบ้านด้วยร่างไร้วิญญาณ คงจะพูดไม่ออกที่อยู่ๆ ก็เห็นของโผล่ออกมาจากในอากาศที่ไม่คิดว่ามันจะมี นอกจะกระสอบกล่องข้าวแล้วยังมีไข่จำนวนสิบชั่งที่แลกออกมาในคะแนนสะสมห้าสิบแต้ม ส่วนของอย่างอื่นเธอจะทยอยแลกออกมาหลังจากแลกของในระบบเสร็จเฉินเฟิ่นอี้ก็ลากน้องชายออกจากตลาดมืดทั้งที่มีอาการเหม่อลอย คงเป็นเรื่องที่ทำใจยากพอสมควรเธอจึงไม่ได้ทักท้วงเขาที่ไม่พูดระหว่างเดินกลับเฉินเฟิ่นอี้นับเงินดูแล้วตอนนี้เธอมีตั๋วเงินสามร้อยหกสิบหยวน ซึ่งยังไม่รวมกับเงินอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตั๋วเงินและเงินที่เหลือจากย่าเฉิน คูปองมีรวมๆ กันห้าสิบใบจากการแลกมาและใช้ไปบางส่วน แต้มสะสมเหลือสามพันกว่าแต้มซึ่งเธอต้องนำของออกมาอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าคงหายไปเป็นพันๆ คะแนนพอเดินถึงบ้านก็รีบนำของเข้าไปเก็บในครัว ยังดีที่ก่อนหน้านี้พวกเธอนำโหลที่มีในบ้านมาด้วยจึงไม่ได้ซื้อและแลกในระบบ เฉินเฟิ่นอี้รีบนำไข่ไก่ลงเก็บในโหลสะอาด เครื่องปรุงต่างๆ ถูกบรรจุใส่โหลเล็ก โดยมีเฉินตงคอยช่วยเหลือเฉินไห่หลิว เฉินจาง และเฉินเหม่ยเย่ยังไม่กลับ ตอนนี้คงใกล้เที่ยงแล้ว เฉินเฟิ่นอี้จึงทำอาหารรอน้องๆ เธอรู้ว่ายังไงเ

    Last Updated : 2025-02-22
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 23 เปิดเทอม

    ตลอดหนึ่งสัปดาห์ก่อนเปิดเทอมเฉินเฟิ่นอี้ยุ่งมาก เธอกำลังคิดว่าจะทำอะไรระหว่างเรียน จะให้ขายของในตลาดมืดไปตลอดก็ไม่ได้ มันสามารถขายได้ก็จริงแต่ค่าใช้จ่ายก็ยังไม่พออยู่ดีที่บ้านคงให้เงินพวกเธอเดือนละสิบหยวนต่อเดือน ทั้งค่าอาหารมื้อกลางวันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ สำหรับเฉินเฟิ่นอี้ที่คิดจะทำอาหารไปรับประทานระหว่างวันแค่นี้มันไม่พอ ถึงค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นแต่ถ้าได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนย่อมดีกว่าในหนึ่งเดือนเธอต้องทำเงินให้ได้ไม่ต่ำกว่าสองร้อยหยวน ได้มากเท่าไรยิ่งดี เพราะจากที่คำนวณคร่าวๆ ทั้งเงินไปโรงเรียน ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายยิบย่อยแต่ละคน เฉินเฟิ่นอี้ตั้งไว้คนละสิบหยวน ไม่มากและไม่น้อยเกินไปวันนี้โรงเรียนเปิดเทอม เฉินเฟิ่นอี้จึงลุกมาทำอาหารตั้งแต่เช้ามืด ต้องไปถึงโรงเรียนก่อนเจ็ดโมงเช้า และเวลากลับบ้านคือห้าโมงเย็น ข้าวกล่องวันนี้เฉินเฟิ่นอี้ผัดหมูใส่หัวหอมและแครอท รับประทานคู่กับข้าวขาวและไข่หนึ่งฟอง ไม่พอยังมีสาลี่และแอปเปิลอย่างละสองซีก ซึ่งเธอทำให้แต่ละคนไม่เท่ากันเฉินไห่หลิว เฉินตง เป็นบุรุษที่ถึงจะไม่ได้ออกแรงแต่พวกเขากระเพาะใหญ่มาก เฉินเฟิ่นอี้จึงเพิ่มปริมาณให้พวกเขาเป็นพิเศษ ส่ว

    Last Updated : 2025-02-22
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 24 ค่อยๆ เริ่ม

    อาหารที่เจียวซีห่อมารับประทานที่โรงเรียนมีเพียงแผ่นแป้งแข็งและผักดองลวก เฉินเฟิ่นอี้จึงแบ่งอาหารส่วนของเธอให้หล่อนไปด้วย ถึงแม้เจียวซีจะพยายามปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ผล และต้องรับประทานให้หมดไม่อย่างนั้นเฉินเฟิ่นอี้จะโกรธหลังจากวันนั้นเฉินเฟิ่นอี้จึงทำอาหารไปเผื่อเจียวซีทุกวัน ถึงบางวันหล่อนจะรีบแยกตัวออกไปรับประทานคนเดียวแต่ก็ถูกเฉินเฟิ่นอี้ตามจนเจอ ต้องบอกว่าเจียวซีกลายมาเป็นเพื่อนของเธอแล้วก็ได้ เฉินเฟิ่นอี้เห็นว่าเจียวซีรับประทานไม่มากจึงไม่คิดว่ามันจะเสียหายหากทำอาหารเพิ่มขึ้นอีกหน่อยเฉินเฟิ่นอี้เริ่มเห็นช่องทางของการทำเงินแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ต้องรอให้ทุกคนทนไม่ไหวเข้ามาติดต่อเธอเอง หรือไม่ก็ต้องสอบถามคนที่ดูเหมือนจะสนใจ เฉินเหม่ยเย่กับเฉินจางทั้งคู่ขอไม่รับประทานอาหารร่วมกับพวกเธอ เห็นว่าไปนั่งรวมกับเพื่อนใหม่และเฉินเฟิ่นอี้เคยไปแอบดูแล้วถึงไว้วางใจทุกครั้งที่เธอเปิดกล่องข้าวอาหารกลางวัน เพื่อนร่วมห้องที่เริ่มเข้ามานั่งรอบข้างต่างหันมาสนใจเพราะมันส่งกลิ่นหอม เฉินเฟิ่นอี้ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่ากล่องข้าวสามช่องที่เธอแลกออกมาสามารถอุ่นอาหารได้ด้วย ไม่เชิงว่าอุ่นอาหารแต่มันเก็บอุณหภูมิที่

    Last Updated : 2025-02-23
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 25 ความจริง

    วันนี้เป็นวันแรกที่เฉินเฟิ่นอี้ต้องทำอาหารให้กับจี้หลันและเว่ยฟ่ง รวมถึงเพื่อนสนิทของพวกเขา เธอจำเป็นต้องตื่นก่อนเวลาที่ต้องตื่นเพื่อมาเตรียมอาหารให้พร้อม ปิ่นโตทั้งห้าเพื่อนร่วมห้องเรียนของเธอจะเอามาให้วันนี้ตอนเย็น เธอจึงต้องทำใส่กล่องข้าวที่มีในบ้านไปก่อนเฉินเฟิ่นอี้หั่นเนื้อให้เป็นชิ้นเล็กๆ เธอจะผัดใส่แตงกวาที่เพื่อนลุงสามเอามาให้เมื่อวานตอนเย็น ไม่มีใครแพ้หรือไม่รับประทานอะไร เฉินเฟิ่นอี้จึงทำเมนูเดียวเพื่อประหยัดเวลา ระหว่างเตรียมทำกับข้าวก็หุงข้าวทิ้งเอาไว้“ทำอะไรครับ” เฉินไห่หลิวที่ลุกมาเข้าห้องน้ำเอ่ยถาม อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาที่ควรลุกมาทำอาหารและแต่งตัวไปโรงเรียน แต่วันนี้เฉินเฟิ่นอี้กลับตื่นเช้ากว่าปกติ“เฉินไห่หลิว” เธอเอ่ยทักเขาพร้อมล้างแตงกวาไปด้วย โชคดีที่ในบ้านมีน้ำประปาให้ใช้ไม่ต้องไปตักเหมือนในหมู่บ้าน เฉินเฟิ่นอี้จึงคิดว่ามันสะดวกมาก“ทำไมถึงหุงข้าวเยอะขนาดนี้” เขาถามอย่างสงสัย ซึ่งตอนที่จี้หลันและเว่ยฟ่งเข้ามาพูดคุยกับเฉินเฟิ่นอี้เขาไม่ได้อยู่ด้วย“พวกจี้หลันกับพวกเว่ยฟ่งอยากให้ทำไปให้น่ะ” เฉินเฟิ่นอี้ตอบก่อนหยิบผลไม้ที่เอาออกมาแช่น้ำทิ้งไว้ขึ้นมาหั่นต่อ กล่องข

    Last Updated : 2025-02-23

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทส่งท้าย

    วันที่ 5 เดือน 3 ปี 1984 งานมงคลสมรสของเฉินเฟิ่นอี้และโอวหยางจิงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่ได้รับเชิญต่างพากันเข้าร่วมงานอย่างหนาแน่น เฉินเฟิ่นอี้ต้องลุกมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด ทั้งต้องคอยถามถึงหน้างานเพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง สิ่งที่รอคอยนั่นคือการแต่งงานสักครั้งในชีวิต ในตอนที่เป็นแป้งร่ำ เธอพลาดโอกาสนั้นแล้ว ครั้งนี้เฉินเฟิ่นอี้ย่อมไม่พลาด"พี่สาวสามสวยมาก" เฉินเหม่ยเย่เอ่ยชมพี่สาวด้วยความตื่นเต้น ทั้งที่ไม่ใช่งานของตนเองนาน ๆ ที เฉินเฟิ่นอี้จะได้แต่งหน้าและแต่งตัว หากไม่ใช่วันสำคัญ แต่ก็ไม่ได้จัดเต็มเหมือนวันนี้ ภายใต้ชุดสีแดงมงคล เฉินเฟิ่นอี้เป็นผู้หญิงที่สวยมากในสายตาของน้องสาว"พี่สาวสามของเธอเป็นคนสวยมาตั้งนานแล้ว หล่อนแค่ไม่แต่งตัวเหมือนกับเธอที่ต้องทำงาน" พี่สาวใหญ่เดินเข้ามานั่งใกล้น้องสาวภายในห้องเจ้าสาวตอนนี้ มีพี่สาวใหญ่ พี่สาวรอง เฉินเหม่ยเย่ และเฉินเฟิ่นอี้ที่เป็นเจ้าสาว ทั้งสี่คนเป็นหลานสาวสายหลักของลุงสามที่เป็นผู้นำตระกูล ต่อให้แต่งงานแล้วแต่ยังเป็นคนสำคัญเฉินเฟิ่นอี้แต่งงานแล้วเธอจะเป็นคนของตระกูลโอวหยาง แต่ว่ายังสามารถมีปากเสียงในตระกูลเ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 156 เติบโต

    ต่อให้เร่งมากแค่ไหน การสร้างบ้านยังต้องใช้เวลาสองเดือน เฉินเฟิ่นอี้จึงใช้เวลาที่ว่างในการช่วยเฉียนลี่เซียนเปิดร้านตัดเย็บ มันเป็นเพียงการตัดเย็บที่ลูกค้าสั่งตัดไม่เกินห้าตัว ปะซ่อมบริเวณที่ขาดกว่าบ้านจะเสร็จ ร้านตัดเย็บเฉียนก็เริ่มเข้าที่แล้ว เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เธอปล่อยให้หล่อนจัดการร้านเอาเอง เพราะมีเฉียนเฟยเข้ามาช่วยจึงไม่ค่อยห่วงนักบ้านที่สร้างใหม่เป็นบ้านปูนห้าห้องนอน ล้อมรั้วแข็งแรงไม่ให้คนนอกเข้าไป แต่เฉินเฟิ่นอี้ฝากกุญแจให้ผู้ใหญ่บ้านจ้างคนไปทำความสะอาดข้างนอกบ้านให้ รวมถึงถางหญ้าในที่ดิน ค่าดูแลเดือนละยี่สิบหยวน แน่นอนว่าเฉินเฟิ่นอี้ยอมจ่ายทันทีที่บ้านเสร็จ กลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้ก็เดินทางกลับปักกิ่งเพื่อเริ่มงาน พวกผู้หญิงมีงานถ่ายแบบเข้ามาบ้าง เฉินเฟิ่นอี้อนุญาตให้ทำและลดเงินเดือนบางส่วนของพวกหล่อนลงร้านผ้าถุงเซี่ยเซี่ยอีกสองสาขาอยู่ห่างจากสาขาใหญ่พอสมควร แต่เป็นบริเวณที่มีคนเดินผ่าน แน่นอนว่าร้านของเธอพี่ใหญ่เฉินเป็นคนหาให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าสาขาที่สองเป็นสาขาที่เฉินเฟิ่นอี้สร้างร่วมกับน้องชายน้องสาว ส่วนสาขาใหญ่ตอนนี้มันเป็นเพียงชื่อของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าการ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 155 ยุติการขาย

    งานมงคลผ่านไปแล้ว มีแต่คนอิจฉาเจ้าสาวเพราะได้รับสินสอดจำนวนมาก หลังงานมงคลเฉินเฟิ่นอี้เรียกผู้รับเหมาเข้าไปดูบ้านพร้อมกับสร้างบ้านใหม่ด้วยเวลาอันน้อยนิด เฉินเฟิ่นอี้จ่ายไม่อั้นเพื่อให้บ้านเสร็จก่อนกลับปักกิ่ง แต่ถึงจะเสร็จไม่ทันเธอก็จะรอให้มันเสร็จก่อนอยู่ดี ต่อให้มีคนนินทาและด่าว่าโง่ที่เอาเงินมาทิ้งกับบ้านที่ไม่ได้อยู่ เฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่ได้สนใจ"พี่จัดการเรื่องผ้าถุงเสร็จแล้ว พวกเรากลับไปที่ร้านกันก่อนเถอะครับ" โอวหยางจิงบอกคนรักที่นั่งรออยู่ในโรงงานวันนี้เฉินเฟิ่นอี้เข้ามาจัดการเรื่องที่จะให้โรงงานส่งผ้าถุงเข้าไปในปักกิ่ง ค่าใช้จ่ายในการขนส่งแน่นอนว่าเฉินเฟิ่นอี้ยินดีจ่าย ขอแค่ให้ของไปถึงมือส่วนร้านเซี่ยเซี่ยร้านแรกของเธอจะยุติการขาย เรื่องนี้ได้คุยกับลุงเหว่ยเทาไปแล้วตอนที่กลับมาถึงวันแรก แต่ต้องเข้าไปคุยอีกทีเพื่อยกเลิกสัญญาพอมีการประกาศออกไปดูเหมือนว่าทุกคนจะตกใจและรีบมาซื้อเก็บเอาไว้ สินค้าจะมีเหลือให้ขายเพียงห้าพันผืนสุดท้าย หากขายหมดก่อนร้านจะปิดลงทันที"ค่ะ"หากเป็นเมื่อก่อนเฉินเฟิ่นอี้กับโอหยางจิงคงปั่นจักรยานกัน แต่ตอนนี้คุณลุงโอวหยางให้คนรักของเธอนำรถมาใช้งานระหว่างอยู

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 154 บ้านหลังแรก

    วันที่เจ็ดเดือนสามปี 1982 กลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้เดินทางมาถึงบ้านพักในอำเภอจวี่ที่เป็นบ้านหลังเดิม และเพื่อนของลุงสามเป็นคนจัดพื้นที่เอาไว้ให้แล้วการเดินทางในครั้งนี้ไม่ได้มีผู้ใหญ่บ้านเฉินเดินทางมาด้วย มีเพียงผู้ปกครองที่เดินทางกลับบ้าน เฉินเฟิ่นอี้พร้อมกับน้อง ๆ ต้องการมาเข้าร่วมงานมงคลของเว่ยฟ่งกับเจียวซีถึงได้ตามกันมา ยกเว้นเฉินชิงชิงน้องชายคนเล็กของบ้านที่ปีนี้อายุสิบเอ็ดปีแล้วเฉินเฟิ่นอี้รับกุญแจจากลุงเหว่ยเทาทันทีที่มาถึง บ้านพักหลังนี้ถือว่าเป็นความทรงจำของเธอก็ว่าได้ อยู่มาตั้งหลายปี ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม"คุณลุงเหว่ยไม่ได้ปล่อยบ้านให้คนอื่นเช่าเหรอคะ" เฉินเฟิ่นอี้หันไปถามเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ในห้องโถง และสอบถามเรื่องราวระหว่างที่ไปอยู่ในปักกิ่ง"บ้านหลังนี้หลานบอกว่ามันเป็นความทรงจำไม่ใช่หรือ ถึงลุงไม่ได้ขายให้แต่ก็เก็บเอาไว้รอพวกหลานกลับมา" เหว่ยเทายิ้มเล็กน้อยเขาไม่ได้แต่งงานมีภรรยา สมบัติที่มีอยู่จึงเป็นของเขาและมีรายได้จากการปล่อยเช่าห้องพัก ไม่จำเป็นต้องปล่อยเช่าบ้านหลังนี้ให้คนอื่น และเด็กบ้านเฉินก็เหมือนลูกเหมือนหลานของเขา"ขอบคุณค่ะ""ลุงสามฝากบอกว่าถ้ามีเวลาให้ขึ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 153 เวลาไม่รอคอย

    หลังงานเลี้ยงจบลง ข่าวที่หลายคนจับตามองมากที่สุดไม่พ้นหลานชายหลานสาวของตระกูลเฉินมีคนรักแล้ว หลายคนยังคงต้องการขยับความสัมพันธ์ เผื่อว่าวันหน้าจะมีโอกาส จึงจ้างกลุ่มของเฉินเฟิ่นอี้ไปร่วมงานอยู่บ่อย ๆช่วงปิดภาคเรียนเป็นช่วงที่ต้องทำหลายอย่าง กว่าจะลงตัวก็เปิดภาคเรียนแล้ว ภาคเรียนที่สองเป็นภาคเรียนที่เหนื่อยมาก บ่อยครั้งที่เฉินเฟิ่นอี้ต้องนอนในหอพักของมหาวิทยาลัยความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนยังคงหนาแน่น ยิ่งที่บ้านย้ายเข้าไปอยู่ในเขตตระกูลเฉิน ทุกคนย้ายเข้าไปอยู่บ้านพักทำให้ได้พบเจอหน้ากันทุกวันยิ่งได้อยู่ด้วยกันกับเฉินเฟิ่นอี้ ทุกคนต่างลงความเห็นที่จะทำงานกับเพื่อนสาว เว่ยฟ่งถึงขั้นต่อสายมาหาพ่อกับแม่เรื่องที่เขาเรียนจบแล้วจะกลับไปแต่งงานกับเจียวซีแล้วจะกลับมาอยู่ในปักกิ่งคนอื่น ๆ ก็มีท่าทีไม่ต่างกัน ผู้ชายเข้าไปช่วยรุ่นพี่โอวหยางจิงทำงาน ผู้หญิงช่วยเฉินเฟิ่นอี้ในร้านผ้าถุงเซี่ยเซี่ย ตอนนี้ได้ค่าตอบแทนน้อย แต่ถือว่าคุ้มเพราะช่วยอยู่เบื้องหลังแค่มาเรียนปีแรกก็ทำเอาผู้ปกครองปวดหัวแล้ว ปีที่ีสองยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่มีใครกลับบ้านในช่วงปิดภาคเรียน ถ้าอยากเจอก็ให้เดินทางมาหาความสัมพัน

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 152 งานเลี้ยงต้อนรับ

    หลานชาย หลานสาว รวมถึงกลุ่มเพื่อนสนิทถูกจับแต่งตัวให้เหมาะสมกับงานสำคัญ อันที่จริงกลุ่มเพื่อนของเฉินเฟิ่นอี้ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมก็ได้ แต่ทุกคนลงความคิดเห็นว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของบ้านเฉินแล้วแขกภายในงานมีหลายคนที่เคยสนิทกับคนในตระกูลเฉิน เพราะฉะนั้นเฉินเฟิ่นอี้จึงพยายามบอกคนอื่นให้หลีกเลี่ยงเท่าที่จะทำได้เฉินเฟิ่นอี้มองชุดที่ออกแบบด้วยฝีมือของพี่เยี่ยฉิงจากร้านเยว่ซิน ทันทีที่จะมีการจัดเตรียมงานเธอได้ทำการติดต่อขอตัดเย็บเสื้อผ้าให้ และตระกูลเยี่ยคือหนึ่งในพันธมิตรของปู่เธอ"เสียดายจริง ๆ ที่เธอไม่คิดจะทำงานในวงการบ้างหรือ" เยี่ยฉิงมองชุดบนตัวของเฉินเฟิ่นอี้"ไม่ละค่ะ ฉันชอบทำงานเบื้องหลังมากกว่า" เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธไป ให้ช่วยแต่งหน้าหรือทำอย่างอื่นได้ แต่จะให้ถ่ายแบบเธอทำไม่ได้จริง ๆ"อื้อ ๆ ฉันก็ว่าแบบนั้นดูเป็นเธอมากกว่า" หล่อนหัวเราะเฉินเฟิ่นอี้เป็นเจ้าของร้านผ้าถุงที่ออกแบบลวดลายเอง เยี่ยฉิงเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าที่ไม่ถ่ายแบบงานตัวเอง จึงเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเยี่ยฉิงที่ช่วยเฉินเฟิ่นอี้แต่งตัวแล้วเดินไปช่วยคนอื่นต่อ ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้แต่งตัว แน่นอนว่างานส

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 151 ผู้นำตระกูลที่แท้จริง

    ข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งของหลายวันมานี้จะเป็นข่าวอะไรไปไม่ได้นอกจากข่าวผลัดเปลี่ยนผู้นำตระกูลเฉิน เป็นผู้นำที่หลาย ๆ คนคิดว่าเหมาะสมที่สุด นั่นก็คือ เฉินจงอี้ หรือปู่เฉินของเด็ก ๆ บ้านเฉิน ที่รับช่วงต่อระหว่างรอลูกชายทั้งสี่เรียนรู้งานเฉินเฟิ่นอี้ให้พี่ใหญ่เฉินส่งคนคอยตามคนตระกูลเฉินไปอย่างลับ ๆ เธอไม่ไว้ใจพวกเขา อย่าลืมว่าเฉินหานกับ เฉินหว่านทั้งสองต่างมีชื่อเสียง เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ และปู่รอง ปู่สามของตระกูลจะไม่มีน้ำยาทำอะไรจริง ๆ น่ะหรือ"ปู่คะ ฉันว่าพวกเราอยู่ที่บ้านนี้สักพักก่อนดีกว่าค่ะ ส่วนบ้านหลังนั้นก็ให้คนเข้าไปเก็บกวาดซ่อมแซมใหม่ก่อน" เฉินเฟิ่นอี้เสนอเมื่อปู่เฉินจะพาทุกคนย้ายเข้าไปอยู่บ้านตระกูลเฉินบ้านมันเก่ามากแล้วควรทำความสะอาดครั้งใหญ่ อีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าข้างในจะมีอะไรที่เป็นอันตรายหรือไม่ และเธอสะดวกใจที่จะอยู่บ้านพักหลังนี้มากกว่า แต่ว่าถ้าปู่เฉินต้องการที่จะย้ายไปเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอเพียงให้มั่นใจก่อนว่ามันจะปลอดภัยจริง ๆช่วงนี้เธอไม่สามารถติดต่อกับระบบได้และมันก็หายไปหลายวันแล้ว ทำให้เฉินเฟิ่นอี้เป็นกังวลและคิดว่าควรรอมากกว่า"ทำไมล่ะ ที่จริงพวกเร

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 150 ตระกูลบรรพบุรุษ

    ปู่เฉิน ย่าเฉิน ลุงใหญ่ ลุงรอง ลุงสาม พ่อของเธอ พี่ใหญ่เฉิน และเฉินเฟิ่นอี้อยู่บนรถยนต์เพื่อเดินทางไปยังตระกูลเฉินตามที่เคยบอกเฉินหว่านเอาไว้ เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้พูดเล่น ตอนนี้ตระกูลเฉินมีหนี้และอีกไม่นานกิจการค้าขายที่เคยเป็นของปู่เฉินก็จะถูกยึด พี่ใหญ่เฉินกล่าวว่ามีคนจากตระกูลเฉินขอกู้เงินจำนวนหนึ่งล้านหยวนแลกกับกิจการเฉินเฟิ่นอี้นั่งข้างคนขับซึงก็คือพี่ใหญ่เฉิน นอกจากพวกเธอแล้วยังมีนายทหารอีกสองคันที่พี่ใหญ่เฉินพามาด้วย ดูเหมือนว่าตระกูลเฉินจะไม่มีเงินจ้างคนทำความสะอาดทางเข้า เขตบ้านตระกูลเฉินรกมากรถยนต์ดับลงหน้าบ้าน สมาชิกบ้านเฉินลงจากรถ เฉินเฟิ่นอี้เดินไปหาย่าเฉินที่อยู่ในวงล้อมของลูก ๆ เฉินเฟิ่นไม่ได้กลัวแต่ถ้าเกิดมีการลงไม้ลงมือกัน อย่างน้อยอยู่ใกล้ย่าเฉินจะปลอดภัยที่สุด“ที่นี่คือตระกูลเฉินเหรอคะ?”เฉินเฟิ่นอี้มองไปยังบ้านหลายหลังที่อยู่ติดกัน ด้านหน้าทางเข้าพบว่าเป็นบ้านสมัยใหม่ที่ดูดี แต่พอเข้ามาด้านหลังต้องบอกว่ามันทรุดโทรมมาก โดยเฉพาะหลังที่เป็นเหมือนบ้านรวม ตัวหลังคาหน้าบ้านมันแตกแล้ว“เปลี่ยนไปมากจริง ๆ” ปู่เฉินว่าด้วยความเสียดาย ที่ผ่านมาเขาคิดว่าจะมีคนดูแลที่นี่เหมือนก

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 149 ตามหาจนพบ

    เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดร้านนานหลายวัน เฉินเฟิ่นอี้กลับมาเปิดร้านอีกครั้งและจ้างคนมาเฝ้าหน้าร้านถึงสามคนเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย หนังสือพิมพ์ลงข่าวทายาทของเจ้าของกิจการที่ยกให้น้องชายก่อนที่เขาจะหายตัวไปพร้อมครอบครัว ทำให้ร้านผ้าถุงมีลูกค้าเข้ามาซื้อของมากขึ้น และมีหลายร้านที่มาจ้างให้เฉินเหม่ยเย่ไปถ่ายงาน นอกจากนี้กลุ่มเพื่อนผู้หญิงก็ยังมีงานตามมาอีกไม่ต่างกันเฉินเฟิ่นอี้นั่งลงบนเก้าอี้เพื่อตรวจสอบบัญชีของเมื่อวานที่ยังไม่ได้จัดการ ข้าง ๆ กันมีโอวหยางจิงที่ตามมาด้วย เห็นบอกว่างานในโรงงานไม่ได้มีอะไรให้ทำและไม่ได้รับลูกค้าเพิ่ม เพียงตัดเย็บให้ร้านของเธอกับตัดเย็บเสื้อผ้าให้ร้านเยว่ซินก็ทำแทบไม่ทันแล้ว"เมื่อวานโจวซิงฉือบอกว่าที่บ้านติดต่อมา มีคนเข้าไปหาพวกเขาสอบถามถึงเรื่องของเธอ แต่ครอบครัวของเขาบอกไปว่าไม่รู้จักเธอ" โอวหยางจิงเอ่ยขึ้นระหว่างที่นั่งมองคนรักทำงานทุกคนติดต่อไปยังครอบครัวเพื่อให้บอกว่าไม่รู้จักบ้านเฉินหรือหากพวกเขามีพยานให้ตอบว่าเป็นเพื่อนของลูกเท่านั้นไม่ได้รู้จักสนิทสนม และเป็นคำสั่งของเฉินเฟิ่นอี้เองเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และไม่มีใครถามเนื่องจากเชื่อในตัวของเพื่อน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status