8
หย่ากันเถอะ
“อาเสวียนแย่แล้วลูก” ฉินรั่วหนานหันไปประคองมือลูกชายไว้ สีหน้าแววตาเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอเชื่อสนิทใจเพราะก่อนนี้ลูกชายก็ถูกยิงตอนไปช่วยเธอ เกาม่านอี้รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เห็นใบหน้านี้จากอีกฝ่าย แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้มากจึงต้องทำหน้าเศร้าเมื่อสองแม่ลูกนั่นหันมามอง
บรรยากาศรอบข้างเริ่มเคร่งเครียด ถึงอย่างไรเธอก็แต่งเข้าบ้านมาแล้วจะไล่ไปก็ไม่ได้ อีกทั้งเธอยังเป็นเจ้าของหนังสืออนุญาตอีก ฉินรั่วหนานแม้จะไม่ชอบเธอมากก็ยังเข้าใจสถานการณ์ดี ตอนนี้ตระกูลเย่ยังต้องการพึ่งพิงเส้นสายของตระกูลเกา
“ท่านหลิว มีวิธีแก้หรือเปล่าคะ เราจะทำอย่างไรกันดี”
“นั่นสิครับ ท่านหลิวมีวิธีแก้หรือเปล่า อาอี้เป็นภรรยาของผมจะทำอย่างนั่นได้ยังไงกัน”
เย่หมิงเสวียนพูดจบก็หันไปมองเกาม่านอี้ด้วยสีหน้าอึดอัดใจ เอื้อมมือไปกุมมือเธอเพื่อปลอบใจที่ถูกคนกล่าวเช่นนี้ เกาม่านอี้นึกอยากสะบัดมือเขาแรง ๆ แล้วรีบว
8หย่ากันเถอะจางอวี้เจินตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนจะโน้มตัวจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับเธอ แววตามีแต่ความอ่อนโยนใจดี คำพูดนี่ก็เพียงเพื่อหยอกล้อเธอเท่านั้น ไม่ได้คิดกล่าวโทษเธอแต่อย่างใด“พี่ควรจะรีบมาเพราะถ้าพี่มาช้ากว่านี้ฉันคงต้องกลับก่อน”“นี่พี่ก็วางงานทุกอย่างแล้วรีบมาหาเธอแล้วนะ ถ้าอยากเจอกันให้เร็วกว่านี้มีแต่เธอต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับพี่แล้วล่ะ”“พี่อวี้เจิน”“พี่เย้าเล่น ม่านม่านให้คนตามพี่ทำไมหรือ”“มาค่ะ มานั่งก่อน”ผู้บัญชาการมณฑลถามอย่างสงสัย ดีใจอยู่ที่เธออยากเจอแต่ก็สงสัยว่าอะไรทำให้เธออยากเจอเขาในตอนนี้ หญิงสาวพยักหน้าแล้วฉวยข้อมือเขาจูงมานั่งคุยกัน“พี่งานยุ่งมากไหมคะ”“ก็พอสมควร”“นั่นสิ ช่วงนี้พี่ต้องตามคนค้าของเถื่อน ไหนจะพวกติดต่อขายสมบัติชาติให้ญี่ปุ่นอีก พี่จะไม่ยุ่งได้ยังไงกัน มีแต่ฉันหาเรื
9ชีวิตที่สงบสุขเช้าวันนี้ดินฟ้าอากาศช่างสดใสเป็นใจให้ออกกำลัง เช็ดถูบ้านเรือน แดดไม่แรง ไม่มีใบหน้าของใครคอยรบกวนสายตา ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่เธอเข้ามาในนิยายเรื่องนี้หลู่ปินปินยื่นผ้าให้เกาม่านอี้เช็ดน้ำบนใบหน้า หลังจากเธอเพิ่งล้างหน้าเสร็จ หญิงสาวลุกเดินไปมองกระจกพินิจมองร่างกายตนเองในตอนนี้ ได้เวลาออกกำลังกายลดน้ำหนักแล้วครั้งก่อนเธอต้องผอมเพราะตรอมใจ แต่ครั้งนี้เธอจะผอมและแข็งแรงไปด้วย หากแข็งแรงแม้แต่เย่หมิงเสวียนก็รังแกเธอไม่ง่ายเหมือนเดิมแล้ว“พี่ม่านอี้ วันนี้จะทำอะไรหรือคะ”“ทำความสะอาดบ้านกับออกกำลังกายสักหน่อย”“ออกกำลังกาย?”“ใช่ ลดน้ำหนักสักหน่อย โชคดีจริง ๆ ได้เธอมาอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นเหงาตายเลย”“โชคดีของฉันมากกว่าค่ะ ที่ได้พี่ช่วยเหลือ”หญิงสาวทั้งสองยืนพูดคุยกันอยู่หน้ากระจก เด็กสาวคนนี้น่าเอ็นดูไม่น้อยเลย ทั้งรู้ความ เฉลียวฉลาด รู้ว่าเมื่อใด
9ชีวิตที่สงบสุขเธอคิดไว้อยู่แล้วว่าคงเป็นเพราะอี้จินเฉิง สาวใช้เลยไม่ได้นำอาหารไปให้ เธอเปลี่ยนเส้นเรื่องเลือกพระเอกใหม่ดังนั้นบางเรื่องที่เคยเกิดเลยไม่เกิดขึ้น แต่บางเรื่องที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้น เหมือนเรื่องของหลู่ปินปิน“อาเฉิง ที่เธอพูดจริงหรือเปล่า”อี้จินเฉิงทำหน้าเศร้าทันทีทั้งที่เมื่อครู่ยังกรอกตามองบนใส่เธออยู่เลย ดวงตาคู่สวยคลอปริ่มไปด้วยม่านน้ำบางใส หากจะให้พูดตรง ๆ เธอแสร้งตีหน้าเศร้าเพราะสามีไม่ยอมเข้าข้าง หากเขาเข้าข้างเธอเหมือนชาติก่อนอี้จินเฉิงก็จะกลายเป็นคุณนายน้อยของตระกูลเย่แทนเธอ“พี่ม่านอี้ ฉันขอโทษนะคะ ฉันคิดว่าพี่จะมากินอาหารกับพวกเราที่เรือนใหญ่เลยไม่ได้ให้คนจัดอาหารไปส่งพี่ที่เรือนเล็ก พี่หมิงเสวียนฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ”“อาเฉิง หากเธอทำผิดพลาดแบบนี้อีกฉันจะลงโทษเธอ อาอี้เธอไม่ต้องกังวลแม้จะต้องหย่ากัน เธอก็ยังเป็นคุณนายน้อยของพี่เสมอ”เกาม่านอี้แทบจะเบ้ปากมื่อได้ยินคำพูดเมื่อ
10เรื่องอันตราย“พี่ม่านอี้”น้ำเสียงแผ่วอ่อนโยนร้องเรียกเธออยู่ด้านหลัง แต่เมื่อเรียกแล้วก็ไม่กล้าพูด มุมริมฝีปากสีซีดยกขึ้นเล็กน้อย เธอนึกเอ็นดูเด็กสาวคนนี้คงเป็นห่วงเธอแต่ไม่กล้าพูดเตือนถึงได้มีท่าทีลังเลอย่างนี้ เกาม่านอี้ได้นัดหมายกับผู้บัญชาการเอาไว้ว่าจะไปเจอเขาที่อาคารเก่าไม่มีร้านค้า เพื่อให้เขาสอนป้องกันตัว หลู่ปินปินคงกลัวว่าหากเย่หมิงเสวียนรู้เข้าเธออาจลำบาก แต่เธอกลัวเสียที่ไหนในเมืองใครจะมีอำนาจไปมากกว่าพี่อวี้เจินของเธออีก อีกทั้งตอนนี้เธอกับเย่หมิงเสวียนก็หย่ากันแล้ว“เธอมีอะไรก็พูดเถอะ ไม่ต้องกลัวหรอก ที่นี่ไม่มีคนอื่น”“พี่จะไปหาผู้บัญชาการจริงหรือคะ”“เธอไม่ต้องห่วงหรอก พี่รู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ตอนนี้เย่หมิงเสวียนคนนั้นไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากอี้จินเฉิงหรอก ไม่ต้องห่วงไป”“ค่ะ ฉันเชื่อพี่”แม้ใจจะยังกังวลแต่ในเมื่อผู้มีพระคุณยืนยันหนักแน่นเธอก็ไม่มีเหตุผลให้ขัดใจ เธอยิ้มใ
10เรื่องอันตราย“ม่านม่าน เธอพูดอะไร”“เปล่าค่ะ พี่ต้องรีบกลับใช่ไหม ฉันเห็นพี่ดูนาฬิกาหลายรอบแล้ว”“พี่มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ก่อนจะต้องไปเมืองข้าง ๆ”เกาม่านอี้ครุ่นคิดถึงเนื้อเรื่องต่อไปว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญอะไรอีก เธอจึงพบว่าในนิยายเองก็มีเหตุการณ์ที่เขาออกไปทำภารกิจต่างเมือง และเขาต้องบาดเจ็บสาหัสจากคนของตระกูลเย่ที่ร่วมมือกับคนญี่ปุ่น เธอควรห้ามไม่ให้เขาไปหรือควรบอกให้เขาระวังตัวดี เหตุการณ์ที่ควรเกิดไม่ว่ายังไงก็ต้องเกิด เปลี่ยนได้ก็แค่คนเกิดเรื่อง“ม่านม่าน เป็นอะไรหรือเปล่า”“ฉันกำลังคิดบางอย่าง แต่พี่ไม่ไปไม่ได้ใช่ไหมคะ”“พี่ไม่ไปไม่ได้ นี่เป็นภารกิจใหญ่ พี่จะรีบไปรีบกลับ”เขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังเป็นห่วง แววตาปรากฎความกังวลอย่างชัดเจนคนมองลืมตัวยกมุมปากขึ้น ดีใจที่ตัวเองมีตัวตนในใจเธอเช่นกัน ครั้งนี้เขาได้รับข่าวจากสายข่าวว่าที่เมืองข้าง ๆ จะมีการลอบค้าอาวุธให้แก่พวกญ
11บาดเจ็บต้องรักษามือไม้อวบอิ่มสั่นเทาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อฟังเรื่องราวจากเด็กสาวตรงหน้า ทั้งที่เตือนเขาไปแล้วว่าไม่ควรเข้าไปในสุสานโบราณ แต่คน ๆ นั้นก็ยังดื้อดึงจะเข้าไป รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางทิ้งภาระหน้าที่ตรงหน้าเพียงเพราะคำพูดของเธอแม้จะเชื่อเธอว่าด้านในมีอันตรายเขาก็ยังเข้าไปพิสูจน์ด้วยตัวเองอยู่ดี คน ๆ นั้นแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยกลัวตาย เธอไม่แปลกใจที่ได้ยินเรื่องนี้ เพราะรู้อยู่แล้วเธอถึงได้ห่วงเขาอยู่แบบนี้“ทำยังไงดีล่ะปินปิน ตอนนี้พี่อวี้เจินอยู่ที่ไหนเธอรู้หรือเปล่า”“บ้านพักผู้บัญชาการค่ะ”“นี่ก็เกือบมืดแล้ว คงไม่มีใครมาที่นี่แล้วล่ะ ฉันจะออกไปข้างนอก”เธอพูดจบก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในเรือนเล็ก หลู่ปินปินรีบวิ่งตามไป ปิดประตูหน้าเรือนเล็กลงกลอนอย่างดี ทะลุออกประตูหลังเดินอ้อมเรือนเล็กไปด้านข้างเพื่อมุดรูใต้กำแพงหนีออกจากบ้านตระกูลเย่ต้องเห็นกับตาว่าเขาไม่เป็นไรมาก ไม่อย่างนั้
11บาดเจ็บต้องรักษาเลือดในร่างกายสูบฉีดอย่างหนักเมื่อได้ยินว่าเธอถูกคนอื่นรังแกต่อหน้าต่อตา ทั้งยังเป็นในบ้านของเขา ใบหน้าหล่อเหลาดุดันเปลี่ยนจากสีขาวซีดเป็นแดงก่ำเพราะความโกรธ ตอนเด็กเขาเคยให้สัญญากับเธอไว้ว่าจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิตไม่มีวันทิ้ง ดวงตาคู่คมปรายตามองหญิงสาวในชุดสีขาวสะอาด เธอรับรู้ว่าดวงตาคู่นี้กรุ่นโกรธมากขนาดไหน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงโกรธมากขนาดนี้ ทั้งที่เขาไม่เคยโกรธเธอมาก่อน“ผู้บัญชาการ ฉันไม่ได้ตั้งจะสาดอาหารใส่เธอนะคะ”“ตั้งใจหรือไม่ ไม่สำคัญแค่เธอทำให้ม่านม่านบาดเจ็บก็มีความผิดมากเพียงพอแล้ว เห็นแก่ที่พ่อของเธอมีความดีความชอบฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ แต่เก็บของกลับไปซะ แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก”เสียงเข้มดุดันประกาศกร้าว ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเธอจะทำอะไรเขาก็ไม่เคยขีดเส้นกั้น เพียงแค่เธอพลาดทะเลาะกับผู้หญิงคนนี้เขากลับพูดจารุนแรงขนาดนี้กับเธอ หากผู้หญิงคนนี้งดงามสักหน่อยเธอคงไม่รู้สึกแย่เท่านี้“
12ความงดงามที่ซ้อนเร้นกว่าสามเดือนที่เธออดอาหารเย็นเพื่อลดน้ำหนัก ไหนจะการฝึกป้องกันตัวตอนนี้น้ำหนักเธอลดลงอย่างมาก รูปร่างก็ดีขึ้นกว่าก่อน แข็งแรงเพราะโหมออกกำลังกาย เปลี่ยนเสื้อผ้าหลังออกกำลังกายเสร็จเกาม่านอี้ก็พาตัวเองออกไปเด็ดดอกไม้ตรงสวนเล็กข้างบ้านขณะนั้นเธอได้พบกับสามีที่ไมได้เจอกันเกือบสามเดือนที่บังเอิญเดินมาที่เรือนเล็ก ไม่รู้เขานึกอะไรอยู่ ทันทีที่เย่หมิงเสวียนเห็นเธอจากทางด้านหลังก็นึกแปลกใจ คิดเข้าข้างตัวเองว่าเพราะต้องถูกกดดันให้หย่าจึงได้ตรอมใจจนซูบผอมแบบนี้“อาอี้ เธอใช่ไหม”“พี่หมิงเสวียน”บ้าจริง! ทำไมเธอต้องมาเจอเย่หมิงเสวียนตอนนี้ด้วยนะ อุตส่าห์หลบหลีกเขามาได้ตั้งนาน ถ้าเขามาเจอเธออาจจะเริ่มเพ่งความสนใจมาที่เธออีกครั้ง เกาม่านอี้ค่อย ๆ ยกมุมริมฝีปากขึ้นฝืนยิ้มให้อดีตสามีชายหนุ่มรีบเดินเข้ามาหาเธอแววตาประหลาดใจ ปนความถูกใจ แน่นอนว่าผู้ชายที่ชื่นชอบผู้หญิงงดงามอย่างเขา เมื่อเห็น
16บทส่งท้ายระหว่างที่คนสองคนกำลังยืนกอดกันอยู่ ทหารคนสนิทก็พุ่งเข้ามาโดยไม่ทันได้ดูสถานการณ์ก่อน ทำเอาผู้บัญชาการคิ้วกระตุก เจียงจื่อหยวนนึกอยากจะเอาหัวโขกพนังให้รู้แล้วรู้รอดไป เขายังไม่ชินกับการมีนายหญิงในบ้านจึงค่อนข้างลืมตัวแต่เรื่องนี้จะโทษเขาก็ไม่ได้เพราะเรื่องที่เขานำมารายงานเร่งด่วน“นายอยากถูกลงโทษสักครั้งสินะจื่อหยวน”“พี่อวี้เจินอย่าดุนักสิคะ รองเจียงเข้ามาแบบนี้ต้องมีธุระแน่ ๆ”“ว่ามา”“เจอตัวอี้จินเฉิงแล้วครับ”“ที่ไหน”“ในเขตอาคารสำนักงานเก่าตระกูลเย่ครับ”“ม่านม่านเธออยู่ที่นี่ พี่ไปดูเอง”“ค่ะ”จางอวี้เจินพูดจบก็เดินนำออกไป คิดว่าคงไปจัดการอี้จินเฉิงแน่ ๆ หลังตระกูลเย่ถูกจับ อี้จินเฉิงที่ไม่ได้รู้เรื่องราวการค้าของเถื่อนเหล่านั้นถูกปล่อยตัวไป แต่เพราะข่าวลือมากมายภายนอกทำให้เธอไม่มีที่ไปอีก จะกลับไปโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เป้าหมา
16บทส่งท้ายเกาม่านอี้นั่งอยู่ที่เก้าอี้บ้านพักผู้บัญชาการ ช่วงนี้มีบางอย่างให้เธอคิดอย่างหนัก ไม่เข้าใจว่าทำไมมาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ใจหนึ่งเธอก็อยากหลุดไปจากนิยาย แต่อีกใจกลับคิดว่าถ้าไม่ได้เจอผู้บัญชาการสุดโหดของเธออีกจะทำอย่างไรตอนนี้เธอเลยไม่กล้าอยู่ตามลำพังกับเขา เพราะในนิยายจบลงที่พระเอกบอกรักเธอ และเธอก็บอกรักเขากลับ กลัวว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วเขาบังเอิญพูดมันออกมาเธอจะต้องจากไปทั้งที่ไม่ได้บอกความรู้สึกจริง ๆ“ม่านม่าน เธอมาทำอะไรตรงนี้”“เอ่อ พี่อวี้เจิน พี่ทำงานเสร็จแล้วหรอคะ”“ไม่รู้ว่าพี่คิดไปเองหรือเปล่า แต่พี่คิดว่าช่วงนี้เธอกำลังหลบหน้าพี่”“ฉันเปล่านะคะ ก็แค่มีเรื่องให้คิดมากก็เท่านั้น”“ถ้าเธอคิดมากเรื่องความรู้สึกของพี่ก็ไม่เป็นไร เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่ พี่ก็จะไม่บังคับให้เธอต้องลำบากใจ”พูดแค่ประโยคเดียวคนโหดก็ทำท่าจะเดินจาก เขาไม่เป็นไรแ
15งานเลี้ยง“เย่หมิงเสวียนปล่อยเธอเดี๋ยวนี้”“แกคิดว่าฉันโง่หรือไงจางอวี้เจิน พวกแกหลอกฉันกับพ่อมาที่นี่ก็เพื่อจัดการตระกูลเย่”“ใครจะจัดการแกได้ ถ้าแกไม่ทำชั่วก่อน คิดว่าอาละวาดที่นี่แล้วจะหนีไปได้หรือไง”จางอวี้เจินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พยายามบังคับตนเองไม่ให้ตื่นตระหนกหรือลนลานจนเย่หมิงเสวียนรู้ว่าเขากลัวมากแค่ไหนในตอนนี้ ไม่ว่าจะต้องออกรบหรือทำภารกิจแบบไหนเขาไม่เคยนึกกลัว มีแค่ตอนนี้ตอนเห็นปากกระบอกปืนจ่ออยู่ตรงลำคอระหงของเกาม่านอี้เรือนร่างบอบบางพยายามคิดหาทางหนีให้กับตนเองขณะถูกจับตัวอยู่ พลางคิดถึงเส้นเรื่องหลักของนิยาย อย่างที่คิดเรื่องไหนต้องเกิดก็ต้องเกิด ตอนใกล้จบของนิยายมีการปะทะกันระหว่างพระเอกและพระรอง ซึ่งตอนนั้นพระรองถูกยิงตาวย เธอจะไม่ยอมให้จางอวี้เจินต้องบาดเจ็บหรือเป็นอะไรไปเพราะคนสารเลวอย่างเย่หมิงเสวียนแน่นอน“พ่อถอย”จางอวี้เจินหันไปบอกจอมพลจางซีหลิงให้สั่งทหารรอ
14คนของฉันเกาม่านอี้ตอบพลางยื่นหนังสือสัญญานั้นให้เขาอีกครั้ง แต่แรกเขาไม่ได้สนใจหนังสือนี่เพราะมัวแต่ห่วงแผลตามร่างกายเธอ พอเธอยื่นให้อีกครั้งจึงหยิบมาดู หนังสือลงนามสัญญาค้าขายของตระกูลเย่กับพวกญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ไม่มีหลักฐานชัดเจนจึงเอาผิดพวกนั้นไม่ได้ เขาไม่อยากได้ชื่อว่าโหดเหี้ยม รังแกคนไม่มีอำนาจเลยตั้งใจหาหลักฐานมาตลอด“อย่างนั้นม่านม่านพักผ่อนเถอะ พี่จะออกไปสั่งงานจื่อหยวนสักหน่อย”“ได้ค่ะ ขอบคุณพี่อวี้เจินที่ยอมร่วมมือกับฉัน”“พูดอะไรอย่างนั้น ม่านม่านขอพี่ต้องยินดีอยู่แล้ว”คุยกันเสร็จชายหนุ่มก็ออกมาจากห้องของเธอ รีบถือหนังสือสัญญาไปยังห้องทำงาน ก่อนหน้านี้เขาใจร้อนเพราะรู้สึกโกรธที่เธอถูกคนอื่นรังแกจึงวู่วามเกือบฆ่าเย่หมิงเสวียน โชคดีได้เกาม่านอี้เตือนสติไว้ แต่ตอนนี้เขามีเหตุผลเพียงพอจะจัดการคนสารเลวคนนั้น“จื่อหยวน”“ผู้บัญชาการ มีเรื่องรายงานครับ”
15งานเลี้ยงโถงโรงแรมกลางเมืองถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงามใหญ่โต เหมาะกับตำแหน่งจอมพลของเจ้าของงานอย่างยิ่ง วันนี้เป็นวันเกิดของจอมพล แขกมากมายถูกเชิญมาร่วมงานและทุกคนที่ได้รับเชิญก็ไม่มีใครไม่กล้ามาร่วมงาน“สวัสดีครับท่านจอมพล”เย่ป๋อหรานเอ่ยทักจอมพลกลางงานเลี้ยงฉลองวันเกิด จอมพลหันมายิ้มพูดคุยกับเขาสักครู่ เพื่อไม่ให้ดูเสียมารยาทและหักหน้าเขาในตอนนี้“สวัสดีคุณเย่ วันนี้มากับลูกชายหรือครับ”“นี่เย่หมิงเสวียนลูกชายคนเดียวของผม”“สวัสดีครับ ท่านจอมพลนี่เป็นของขวัญให้ท่านครับ”“ขอบคุณมาก เชิญตามสบายนะ ผมขอตัวไปดูแขกคนอื่นสักหน่อย”เจ้าของงานรับของขวัญมาแล้วยื่นให้ทหารคนสนิทข้างกาย ไม่ได้เปิดดูในทันที จากนั้นจึงขอตัวออกไปดูแขกคนอื่นที่เริ่มทยอยเข้ามาในงานบ้างแล้วปกติจอมพลจะไม่จัดงานเลี้ยงรับรองหรืองานฉลองอะไร แต่ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญที่ถูกขอให้จัด ผู้คนจึงมาร่วมงานกันม
14คนของฉันเช้ามืดของวันต่อมาเกาม่านอี้และหลู่ปินปินเตรียมกระเป๋ามาวางไว้ใกล้ประตูเผื่อหยิบได้สะดวก พอเตรียมของเสร็จก็นั่งรอให้ฟ้าสว่างช่วงสายของวันคนบ้านนั้นต้องรีบมาเอาเรื่องเธออีกแน่“เกาม่านอี้ ออกมาเดี๋ยวนี้!”นั่นอย่างไร! เสียงโหวกเหวกด้านนอกที่เธอรอมาเสียตั้งนาน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเปิดประตูเรือนเดินออกมา ท่าทางนิ่งสงบต่างจากเมื่อวานทำให้อี้จินเฉิงนึกโมโห แต่พอมองดูเธอดี ๆ ก็รู้สึกดีขึ้นมากส่วนที่โผล่พ้นร่างกายของเกาม่านอี้มีแต่รอยฟกช้ำ แม้แต่ใบหน้าสวยยังบวมขึ้นเพราะถูกตีด้วยแรงของผู้ชาย หากจางอวี้เจินมาเห็นเธอในสภาพนี้ตระกูลเย่คงถูกฆ่าล้างตระกูลแน่ ๆ“เธอกล้ามากนะเกาม่านอี้ที่ทำร้ายฉัน”เย่หมิงเสวียนพูดเสียงเข้ม ก่อนจะก้าวมายืนตรงหน้าเธอ ผู้ชายคนนี้ช่างกล้าพูดเหลือเกินตัวเองถูกตีนิดหน่อยดันทำเป็นเรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่ตีคนอื่นกลับไม่พูดถึงแม้แต่ครึ่งคำ“แล้วคุณไม่ทำร้าย
13เรื่องดีและเรื่องร้าย“เกาม่านอี้!”เสียงตะโกนโหวกเหวกด้านนอกของคนเมา ทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าเขามาแล้ว และทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอวางแผน เหลือเพียงหนึ่งตัวประกอบที่ยังมาไม่ถึงเกาม่านอี้เดินออกไปหาเขาด้วยท่าทางปกติ ไม่หวาดกลัวความกรุ่นโกรธในดวงตาเขาเลยแม้แต่น้อย เย่หมิงเสวียนตรงเข้ามากระชากข้อมือเธออย่างแรง กำแน่นจนเธอเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย เนื้อขาวเปลี่ยนเป็นแดงในทันที แต่ใบหน้าเธอยังคงเชิดรั้นไม่หวาดกลัวต่อท่าทีคุกคาม นั่นทำให้เย่หมิงเสวียนยิ่งรู้สึกโมโห“เธอทำแบบนั้นกับอาเฉิงได้ยังไง ไม่รู้หรือว่าอาเฉิงกำลังท้อง ฉันไม่คิดเลยว่าผู้หญิงใจดีคนนั้นจะกล้าทำร้ายแม้แต่เด็กที่ยังไม่เกิด”“ทำไมไม่ถามผู้หญิงคนนั้นดูล่ะว่าเธอมาที่นี่ทำไม และเธอทำอะไรกับคนของฉัน คุณไม่ได้ถามเธอละสิ อีกอย่างฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจดีไม่เคยยินดีแบ่งสามีให้ใคร ฉันก็แค่แกล้งโง่เท่านั้น”“ไม่ว่าอาเฉิงจะทำอะไรเธอก็ไม่คว
13เรื่องดีและเรื่องร้ายช่วงบ่ายวันนี้อากาศไม่ร้อนมาก เธออาศัยตอนทุกคนมีธุระจัดการ มายังเรือนเล็กเพื่อดำเนินแผนการของตนเอง เธอมีโอกาสแค่วันนี้เท่านั้น ยังไม่ถึงเรือนเล็กดีก็เจอหลู่ปินปินถอนหญ้าในแปลงดอกไม้ของเกาม่านอี้อยู่“นี่ เกาม่านอี้อยู่ที่ไหน”เด็กสาวหันไปมองคนถาม ไม่พอใจที่ผู้หญิงคนนี้เรียกชื่อพี่ม่านอี้ของเธอด้วยความไม่เคารพ ทั้งที่ตัวเองเป็นแค่ภรรยารองเท่านั้น หันไปมองแต่ไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นมือเล็กก็ถอนหญ้าอย่างไม่ใส่ใจเพราะไม่อยากพูดคุยกับคนที่เจ้านายเกลียดอี้จินเฉิงนึกโมโหขึ้นมาเมื่อถูกสาวใช้เมิน จึงต่อว่าเธออีกไม่น้อย เกาม่านอี้ที่นั่งเก็บของอยู่ในบ้านได้ยินเสียงโวยวายก็รีบออกมาดู น้องสาวบุญธรรมของเธอนั่งคลุกฝุ่นอยู่บนพื้นดิน เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยดินที่อี้จินเฉิงเป็นคนเทใส่“เธอมาหาเรื่องฉันไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องไปลงที่คนอื่น”“คนของเธอมันไม่เคยมีใครสั่งสอนยังไงล่
13เรื่องดีและเรื่องร้ายอี้จินเฉิงใช้เวลากว่าเดือนครึ่งคิดหาวิธีกำจัดเกาม่านอี้ เพราะหลังจากกลับมายังเรือนใหญ่วันนั้น เย่หมิงเสวียนก็เอาแต่แวะเวียนไปหาเกาม่านอี้บ่อยครั้ง คิดว่าอีกไม่นานเขาต้องลืมเลือนเธอแล้วไปพาเกาม่านอี้กลับมาแน่นอน จนในที่สุดก็คิดได้ว่าตระกูลเย่ต้องการมากก็คือทายาท เธอจึงตั้งใจจะหลอกพวกเขาว่าเธอตั้งครรภ์ เรื่องนี้จะมีใครรู้ดีกว่าเธอที่เป็นพยาบาลอีกเล่าหากเธอตั้งครรภ์ทุกคนต้องดีใจมาก และคงต้องโกรธมากเมื่อรู้ว่าทายาทถูกคนอื่นทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ริมฝีปากยกสูงเหยียดยิ้มให้กับแผนการอันแยบยลของตัวเองเช้าวันต่อมาอี้จินเฉิงลงมาทานอาหารเช้าพร้อมกับคนในตระกูลเย่ทั้งหมด เธอเลือกวันนี้เพราะทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากสาวใช้วางอาหารจนครบเธอไอเบา ๆ ครั้งหนึ่งก่อนจะเริ่มพูดเรื่องที่คิดเอาไว้“ขอโทษนะคะที่เสียมารยาทพูดกลางโต๊ะอาหารอย่างนี้”“มีอะไรทำไมไม่รอให้ทานอาหารกันเสร็จก่อน”เย่หมิ