8
หย่ากันเถอะ
“อาเสวียนแย่แล้วลูก” ฉินรั่วหนานหันไปประคองมือลูกชายไว้ สีหน้าแววตาเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอเชื่อสนิทใจเพราะก่อนนี้ลูกชายก็ถูกยิงตอนไปช่วยเธอ เกาม่านอี้รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เห็นใบหน้านี้จากอีกฝ่าย แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้มากจึงต้องทำหน้าเศร้าเมื่อสองแม่ลูกนั่นหันมามอง
บรรยากาศรอบข้างเริ่มเคร่งเครียด ถึงอย่างไรเธอก็แต่งเข้าบ้านมาแล้วจะไล่ไปก็ไม่ได้ อีกทั้งเธอยังเป็นเจ้าของหนังสืออนุญาตอีก ฉินรั่วหนานแม้จะไม่ชอบเธอมากก็ยังเข้าใจสถานการณ์ดี ตอนนี้ตระกูลเย่ยังต้องการพึ่งพิงเส้นสายของตระกูลเกา
“ท่านหลิว มีวิธีแก้หรือเปล่าคะ เราจะทำอย่างไรกันดี”
“นั่นสิครับ ท่านหลิวมีวิธีแก้หรือเปล่า อาอี้เป็นภรรยาของผมจะทำอย่างนั่นได้ยังไงกัน”
เย่หมิงเสวียนพูดจบก็หันไปมองเกาม่านอี้ด้วยสีหน้าอึดอัดใจ เอื้อมมือไปกุมมือเธอเพื่อปลอบใจที่ถูกคนกล่าวเช่นนี้ เกาม่านอี้นึกอยากสะบัดมือเขาแรง ๆ แล้วรีบวิ่งออกไปจากบ้านหลังนี้ เ
8หย่ากันเถอะ“อาเสวียนแย่แล้วลูก” ฉินรั่วหนานหันไปประคองมือลูกชายไว้ สีหน้าแววตาเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอเชื่อสนิทใจเพราะก่อนนี้ลูกชายก็ถูกยิงตอนไปช่วยเธอ เกาม่านอี้รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เห็นใบหน้านี้จากอีกฝ่าย แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้มากจึงต้องทำหน้าเศร้าเมื่อสองแม่ลูกนั่นหันมามองบรรยากาศรอบข้างเริ่มเคร่งเครียด ถึงอย่างไรเธอก็แต่งเข้าบ้านมาแล้วจะไล่ไปก็ไม่ได้ อีกทั้งเธอยังเป็นเจ้าของหนังสืออนุญาตอีก ฉินรั่วหนานแม้จะไม่ชอบเธอมากก็ยังเข้าใจสถานการณ์ดี ตอนนี้ตระกูลเย่ยังต้องการพึ่งพิงเส้นสายของตระกูลเกา“ท่านหลิว มีวิธีแก้หรือเปล่าคะ เราจะทำอย่างไรกันดี”“นั่นสิครับ ท่านหลิวมีวิธีแก้หรือเปล่า อาอี้เป็นภรรยาของผมจะทำอย่างนั่นได้ยังไงกัน”เย่หมิงเสวียนพูดจบก็หันไปมองเกาม่านอี้ด้วยสีหน้าอึดอัดใจ เอื้อมมือไปกุมมือเธอเพื่อปลอบใจที่ถูกคนกล่าวเช่นนี้ เกาม่านอี้นึกอยากสะบัดมือเขาแรง ๆ แล้วรีบว
8หย่ากันเถอะจางอวี้เจินตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนจะโน้มตัวจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับเธอ แววตามีแต่ความอ่อนโยนใจดี คำพูดนี่ก็เพียงเพื่อหยอกล้อเธอเท่านั้น ไม่ได้คิดกล่าวโทษเธอแต่อย่างใด“พี่ควรจะรีบมาเพราะถ้าพี่มาช้ากว่านี้ฉันคงต้องกลับก่อน”“นี่พี่ก็วางงานทุกอย่างแล้วรีบมาหาเธอแล้วนะ ถ้าอยากเจอกันให้เร็วกว่านี้มีแต่เธอต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับพี่แล้วล่ะ”“พี่อวี้เจิน”“พี่เย้าเล่น ม่านม่านให้คนตามพี่ทำไมหรือ”“มาค่ะ มานั่งก่อน”ผู้บัญชาการมณฑลถามอย่างสงสัย ดีใจอยู่ที่เธออยากเจอแต่ก็สงสัยว่าอะไรทำให้เธออยากเจอเขาในตอนนี้ หญิงสาวพยักหน้าแล้วฉวยข้อมือเขาจูงมานั่งคุยกัน“พี่งานยุ่งมากไหมคะ”“ก็พอสมควร”“นั่นสิ ช่วงนี้พี่ต้องตามคนค้าของเถื่อน ไหนจะพวกติดต่อขายสมบัติชาติให้ญี่ปุ่นอีก พี่จะไม่ยุ่งได้ยังไงกัน มีแต่ฉันหาเรื
9ชีวิตที่สงบสุขเช้าวันนี้ดินฟ้าอากาศช่างสดใสเป็นใจให้ออกกำลัง เช็ดถูบ้านเรือน แดดไม่แรง ไม่มีใบหน้าของใครคอยรบกวนสายตา ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่เธอเข้ามาในนิยายเรื่องนี้หลู่ปินปินยื่นผ้าให้เกาม่านอี้เช็ดน้ำบนใบหน้า หลังจากเธอเพิ่งล้างหน้าเสร็จ หญิงสาวลุกเดินไปมองกระจกพินิจมองร่างกายตนเองในตอนนี้ ได้เวลาออกกำลังกายลดน้ำหนักแล้วครั้งก่อนเธอต้องผอมเพราะตรอมใจ แต่ครั้งนี้เธอจะผอมและแข็งแรงไปด้วย หากแข็งแรงแม้แต่เย่หมิงเสวียนก็รังแกเธอไม่ง่ายเหมือนเดิมแล้ว“พี่ม่านอี้ วันนี้จะทำอะไรหรือคะ”“ทำความสะอาดบ้านกับออกกำลังกายสักหน่อย”“ออกกำลังกาย?”“ใช่ ลดน้ำหนักสักหน่อย โชคดีจริง ๆ ได้เธอมาอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นเหงาตายเลย”“โชคดีของฉันมากกว่าค่ะ ที่ได้พี่ช่วยเหลือ”หญิงสาวทั้งสองยืนพูดคุยกันอยู่หน้ากระจก เด็กสาวคนนี้น่าเอ็นดูไม่น้อยเลย ทั้งรู้ความ เฉลียวฉลาด รู้ว่าเมื่อใด
9ชีวิตที่สงบสุขเธอคิดไว้อยู่แล้วว่าคงเป็นเพราะอี้จินเฉิง สาวใช้เลยไม่ได้นำอาหารไปให้ เธอเปลี่ยนเส้นเรื่องเลือกพระเอกใหม่ดังนั้นบางเรื่องที่เคยเกิดเลยไม่เกิดขึ้น แต่บางเรื่องที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้น เหมือนเรื่องของหลู่ปินปิน“อาเฉิง ที่เธอพูดจริงหรือเปล่า”อี้จินเฉิงทำหน้าเศร้าทันทีทั้งที่เมื่อครู่ยังกรอกตามองบนใส่เธออยู่เลย ดวงตาคู่สวยคลอปริ่มไปด้วยม่านน้ำบางใส หากจะให้พูดตรง ๆ เธอแสร้งตีหน้าเศร้าเพราะสามีไม่ยอมเข้าข้าง หากเขาเข้าข้างเธอเหมือนชาติก่อนอี้จินเฉิงก็จะกลายเป็นคุณนายน้อยของตระกูลเย่แทนเธอ“พี่ม่านอี้ ฉันขอโทษนะคะ ฉันคิดว่าพี่จะมากินอาหารกับพวกเราที่เรือนใหญ่เลยไม่ได้ให้คนจัดอาหารไปส่งพี่ที่เรือนเล็ก พี่หมิงเสวียนฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ”“อาเฉิง หากเธอทำผิดพลาดแบบนี้อีกฉันจะลงโทษเธอ อาอี้เธอไม่ต้องกังวลแม้จะต้องหย่ากัน เธอก็ยังเป็นคุณนายน้อยของพี่เสมอ”เกาม่านอี้แทบจะเบ้ปากมื่อได้ยินคำพูดเมื่อ
10เรื่องอันตราย“พี่ม่านอี้”น้ำเสียงแผ่วอ่อนโยนร้องเรียกเธออยู่ด้านหลัง แต่เมื่อเรียกแล้วก็ไม่กล้าพูด มุมริมฝีปากสีซีดยกขึ้นเล็กน้อย เธอนึกเอ็นดูเด็กสาวคนนี้คงเป็นห่วงเธอแต่ไม่กล้าพูดเตือนถึงได้มีท่าทีลังเลอย่างนี้ เกาม่านอี้ได้นัดหมายกับผู้บัญชาการเอาไว้ว่าจะไปเจอเขาที่อาคารเก่าไม่มีร้านค้า เพื่อให้เขาสอนป้องกันตัว หลู่ปินปินคงกลัวว่าหากเย่หมิงเสวียนรู้เข้าเธออาจลำบาก แต่เธอกลัวเสียที่ไหนในเมืองใครจะมีอำนาจไปมากกว่าพี่อวี้เจินของเธออีก อีกทั้งตอนนี้เธอกับเย่หมิงเสวียนก็หย่ากันแล้ว“เธอมีอะไรก็พูดเถอะ ไม่ต้องกลัวหรอก ที่นี่ไม่มีคนอื่น”“พี่จะไปหาผู้บัญชาการจริงหรือคะ”“เธอไม่ต้องห่วงหรอก พี่รู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ตอนนี้เย่หมิงเสวียนคนนั้นไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากอี้จินเฉิงหรอก ไม่ต้องห่วงไป”“ค่ะ ฉันเชื่อพี่”แม้ใจจะยังกังวลแต่ในเมื่อผู้มีพระคุณยืนยันหนักแน่นเธอก็ไม่มีเหตุผลให้ขัดใจ เธอยิ้มใ
บทนำย้อนกลับไปที่บทนำหญิงสาวลืมตาขึ้นพยายามหรี่ตามองภาพตรงหน้าให้ชัดเจน ยิ่งพยายามกลับยิ่งรู้สึกว่ามันพร่าเลือน เพ่งมองอย่างดีจึงรู้ว่าเธอกำลังมองมันผ่านบางสิ่งบางอย่าง ฝ่ามืออวบอิ่มดึงผ้าคลุมหน้าผืนสีแดงบางพริ้วออกจากหัวเชื่องช้า ก่อนหยิบมาดูด้วยความงุนงง“นี่มันอะไรกันอีกละเนี่ย ไม่ใช่ว่าฉันตายไปแล้วหรอ”เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเธอถูกตัวละครตัวหนึ่งลวงไปฆ่า ทั้งที่ตอนนั้นเธออยู่ในนิยายของตนเองแท้ ๆ แต่เมื่อถึงตอนจบของนิยายเธอกลับไม่ได้หลุดออกไปจากนิยายเรื่องนี้ กลับกันนิยายยังคงดำเนินต่อไปทั้งที่มันควรจะจบเมื่อถึงบทสุดท้ายเธอเป็นนักเขียนที่ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือชะตากลั้นแกล้งถึงได้ทะลุมิติเข้าไปเป็นนางเอกในนิยายของตัวเอง นิยายเรื่องนี้ของเธอนางเอกมีชีวิตรักที่รันทดมากทั้งที่ครอบครัวมั่งมีมากแท้ ๆ เธอก็แค่เขียนเพราะมันขายได้ แต่เมื่อได้หลุดเข้ามาเป็นนางเอกถึงได้รู้ว่าตัวละครของเธอเจ็บช้ำร่างกายจิตใจมากแค่ไหนเพราะเธอไม่ได้ฝืนชะตาปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามเส้นเรื่องอย่างที่ควรจะเป็น ถึงอย่างไรพระเอกก็ต้องกลับมาตามง้อนางเอกและอยู่กันอย่างมีความสุขเมื่อเขารู้ว่าเธอท้อง มันควรจะเป็นแบบน
บทนำย้อนกลับไปที่บทนำ“อาอี้” เสียงแหบพร่าร่ำเรียกผู้เป็นภรรยา เขาทำใจอยู่นานกว่าจะทำใจได้ว่าต้องร่วมหอกับเธอ เดิมทีแสร้งรักไม่เท่าไรแต่ร่วมหอเขาต้องทำใจอยู่นานเพื่อให้เธอตายใจว่าเขารักด้วยใจจริง“พี่หมิงเสวียน” เกาม่านอี้แสร้งขานรับเดินไปหาเขาเชื่องช้า เก็บใบหน้าเบื่อหน่ายเอาไว้ แสดงรอยยิ้มใสซื่อให้เขาเห็นประคองเขาเดินไปยังโต๊ะกลางห้องที่ตั้งใจรินเหล้าไว้ให้เขา“อาอี้เหนื่อยหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ พี่หมิงเสวียนต่างหากที่เหนื่อย ดื่มหน่อยสิคะฉันเตรียมเหล้านี้ไว้ให้พี่เองเลย” น้ำเสียงอ่อนโยนพูดพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นมาจ่อริมฝีปากเขา ฝืนใจแค่ไหนเย่หมิงเสวียนก็ไม่ปริปากพูดเขา พยักหน้ายิ้มให้แล้วเทเหล้าเข้าปากจนหมดแก้ว“พี่ดีใจจริง ๆ รู้หรือเปล่าที่อาอี้ยอมแต่งงานกับพี่” เย่หมิงเสวียนจ้องหน้าภรรยาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล สองมือประคองใบหน้าอิ่มของเธอไว้ตั้งใจจะจุมพิตแล้วพาเธอไปที่เตียง ใบหน้าโน้มใกล้เรื่อย ๆ แต่ไม่ทันได้แตะริมฝีปากเย่หมิงเสวียนก็ฟุบหน้าลงกับไหล่ของเธอ“หลับไปซะ อิหลัวชั่ว กล้าพูดนะว่าดีใจ แกน่ะเสียใจสุด ๆ เลยที่ได้แต่งกับอาอี้ ชั่วจริง ๆ” หลี่ม่านม่านในร่างเกาม่านอี้บ่นพึมพำทั้งที่
บทนำย้อนกลับไปที่บทนำ“พี่หมิงเสวียนอย่าตำหนิน้องอวี่เลยค่ะ เธอยังเด็กอีกทั้งเธอก็ไม่ได้มีงานอะไรให้ทำ จะตื่นสายบ้างก็ไม่เป็นไรมั้งคะ”คำพูดนี้ไม่ได้ช่วยพูดแก้ต่างแม้แต่น้อย ดูเหมือนเป็นการยั่วโทสะของสาวน้อยอย่างเย่หมิงอวี่มากกว่า เธอไม่ชอบเกาม่านอี้อยู่แล้ว พอเธอช่วยพูดจึงดูเหมือนเป็นการว่ากล่าวเสียดสี“เธอไม่ต้องยุ่ง ฉันจะทำหรือไม่ทำงานก็ไม่เกี่ยวกับเธอ”“พี่แค่ไม่อยากให้พี่หมิงเสวียนตำหนิน้องอวี่เท่านั้น”“เรื่องของฉัน ไม่ต้องรบกวนเธอเป็นห่วง”“อาอวี่ อาอี้เป็นพี่สะใภ้ของเธอ ทำอะไรต้องให้เกียรติเธอ”เย่หมิงอวี่หน้างอสะบัดหน้าหนีเมื่อถูกพี่ชายตำหนิเรื่องที่เธอโต้เถียงเกาม่านอี้เมื่อครู่ เรื่องที่ตระกูลเย่กำลังมีปัญหาทุกคนในบ้านรู้ดี เพราะต้องใช้เกาม่านอี้เย่หมิงอวี่ถึงได้ยอมอ่อนลง ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการหนังสืออนุญาตผ่านทางของเกาม่านอี้ ตระกูลเย่คงไม่ยอมอ่อนถึงขนาดนี้แต่ก็มีบ้างที่จะลืมตัวแล้วเอ่ยตำหนิแสดงกิริยาไม่ชอบเธอจนเห็นได้ชัดเจน ถึงอย่างนั้นเกาม่านอี้ก็ไม่ได้สนใจ ขอเพียงสามีรักเธอ เธอก็พอใจมากแล้วบรรยากาศบนโต๊ะอาหารสงบลงเล็กน้อยเมื่อเย่หมิงเสวียนใช่สายตาบอกแม่กับน้องสาวให้สง
10เรื่องอันตราย“พี่ม่านอี้”น้ำเสียงแผ่วอ่อนโยนร้องเรียกเธออยู่ด้านหลัง แต่เมื่อเรียกแล้วก็ไม่กล้าพูด มุมริมฝีปากสีซีดยกขึ้นเล็กน้อย เธอนึกเอ็นดูเด็กสาวคนนี้คงเป็นห่วงเธอแต่ไม่กล้าพูดเตือนถึงได้มีท่าทีลังเลอย่างนี้ เกาม่านอี้ได้นัดหมายกับผู้บัญชาการเอาไว้ว่าจะไปเจอเขาที่อาคารเก่าไม่มีร้านค้า เพื่อให้เขาสอนป้องกันตัว หลู่ปินปินคงกลัวว่าหากเย่หมิงเสวียนรู้เข้าเธออาจลำบาก แต่เธอกลัวเสียที่ไหนในเมืองใครจะมีอำนาจไปมากกว่าพี่อวี้เจินของเธออีก อีกทั้งตอนนี้เธอกับเย่หมิงเสวียนก็หย่ากันแล้ว“เธอมีอะไรก็พูดเถอะ ไม่ต้องกลัวหรอก ที่นี่ไม่มีคนอื่น”“พี่จะไปหาผู้บัญชาการจริงหรือคะ”“เธอไม่ต้องห่วงหรอก พี่รู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ตอนนี้เย่หมิงเสวียนคนนั้นไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากอี้จินเฉิงหรอก ไม่ต้องห่วงไป”“ค่ะ ฉันเชื่อพี่”แม้ใจจะยังกังวลแต่ในเมื่อผู้มีพระคุณยืนยันหนักแน่นเธอก็ไม่มีเหตุผลให้ขัดใจ เธอยิ้มใ
9ชีวิตที่สงบสุขเธอคิดไว้อยู่แล้วว่าคงเป็นเพราะอี้จินเฉิง สาวใช้เลยไม่ได้นำอาหารไปให้ เธอเปลี่ยนเส้นเรื่องเลือกพระเอกใหม่ดังนั้นบางเรื่องที่เคยเกิดเลยไม่เกิดขึ้น แต่บางเรื่องที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้น เหมือนเรื่องของหลู่ปินปิน“อาเฉิง ที่เธอพูดจริงหรือเปล่า”อี้จินเฉิงทำหน้าเศร้าทันทีทั้งที่เมื่อครู่ยังกรอกตามองบนใส่เธออยู่เลย ดวงตาคู่สวยคลอปริ่มไปด้วยม่านน้ำบางใส หากจะให้พูดตรง ๆ เธอแสร้งตีหน้าเศร้าเพราะสามีไม่ยอมเข้าข้าง หากเขาเข้าข้างเธอเหมือนชาติก่อนอี้จินเฉิงก็จะกลายเป็นคุณนายน้อยของตระกูลเย่แทนเธอ“พี่ม่านอี้ ฉันขอโทษนะคะ ฉันคิดว่าพี่จะมากินอาหารกับพวกเราที่เรือนใหญ่เลยไม่ได้ให้คนจัดอาหารไปส่งพี่ที่เรือนเล็ก พี่หมิงเสวียนฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ”“อาเฉิง หากเธอทำผิดพลาดแบบนี้อีกฉันจะลงโทษเธอ อาอี้เธอไม่ต้องกังวลแม้จะต้องหย่ากัน เธอก็ยังเป็นคุณนายน้อยของพี่เสมอ”เกาม่านอี้แทบจะเบ้ปากมื่อได้ยินคำพูดเมื่อ
9ชีวิตที่สงบสุขเช้าวันนี้ดินฟ้าอากาศช่างสดใสเป็นใจให้ออกกำลัง เช็ดถูบ้านเรือน แดดไม่แรง ไม่มีใบหน้าของใครคอยรบกวนสายตา ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่เธอเข้ามาในนิยายเรื่องนี้หลู่ปินปินยื่นผ้าให้เกาม่านอี้เช็ดน้ำบนใบหน้า หลังจากเธอเพิ่งล้างหน้าเสร็จ หญิงสาวลุกเดินไปมองกระจกพินิจมองร่างกายตนเองในตอนนี้ ได้เวลาออกกำลังกายลดน้ำหนักแล้วครั้งก่อนเธอต้องผอมเพราะตรอมใจ แต่ครั้งนี้เธอจะผอมและแข็งแรงไปด้วย หากแข็งแรงแม้แต่เย่หมิงเสวียนก็รังแกเธอไม่ง่ายเหมือนเดิมแล้ว“พี่ม่านอี้ วันนี้จะทำอะไรหรือคะ”“ทำความสะอาดบ้านกับออกกำลังกายสักหน่อย”“ออกกำลังกาย?”“ใช่ ลดน้ำหนักสักหน่อย โชคดีจริง ๆ ได้เธอมาอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นเหงาตายเลย”“โชคดีของฉันมากกว่าค่ะ ที่ได้พี่ช่วยเหลือ”หญิงสาวทั้งสองยืนพูดคุยกันอยู่หน้ากระจก เด็กสาวคนนี้น่าเอ็นดูไม่น้อยเลย ทั้งรู้ความ เฉลียวฉลาด รู้ว่าเมื่อใด
8หย่ากันเถอะจางอวี้เจินตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนจะโน้มตัวจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับเธอ แววตามีแต่ความอ่อนโยนใจดี คำพูดนี่ก็เพียงเพื่อหยอกล้อเธอเท่านั้น ไม่ได้คิดกล่าวโทษเธอแต่อย่างใด“พี่ควรจะรีบมาเพราะถ้าพี่มาช้ากว่านี้ฉันคงต้องกลับก่อน”“นี่พี่ก็วางงานทุกอย่างแล้วรีบมาหาเธอแล้วนะ ถ้าอยากเจอกันให้เร็วกว่านี้มีแต่เธอต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับพี่แล้วล่ะ”“พี่อวี้เจิน”“พี่เย้าเล่น ม่านม่านให้คนตามพี่ทำไมหรือ”“มาค่ะ มานั่งก่อน”ผู้บัญชาการมณฑลถามอย่างสงสัย ดีใจอยู่ที่เธออยากเจอแต่ก็สงสัยว่าอะไรทำให้เธออยากเจอเขาในตอนนี้ หญิงสาวพยักหน้าแล้วฉวยข้อมือเขาจูงมานั่งคุยกัน“พี่งานยุ่งมากไหมคะ”“ก็พอสมควร”“นั่นสิ ช่วงนี้พี่ต้องตามคนค้าของเถื่อน ไหนจะพวกติดต่อขายสมบัติชาติให้ญี่ปุ่นอีก พี่จะไม่ยุ่งได้ยังไงกัน มีแต่ฉันหาเรื
8หย่ากันเถอะ“อาเสวียนแย่แล้วลูก” ฉินรั่วหนานหันไปประคองมือลูกชายไว้ สีหน้าแววตาเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอเชื่อสนิทใจเพราะก่อนนี้ลูกชายก็ถูกยิงตอนไปช่วยเธอ เกาม่านอี้รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เห็นใบหน้านี้จากอีกฝ่าย แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้มากจึงต้องทำหน้าเศร้าเมื่อสองแม่ลูกนั่นหันมามองบรรยากาศรอบข้างเริ่มเคร่งเครียด ถึงอย่างไรเธอก็แต่งเข้าบ้านมาแล้วจะไล่ไปก็ไม่ได้ อีกทั้งเธอยังเป็นเจ้าของหนังสืออนุญาตอีก ฉินรั่วหนานแม้จะไม่ชอบเธอมากก็ยังเข้าใจสถานการณ์ดี ตอนนี้ตระกูลเย่ยังต้องการพึ่งพิงเส้นสายของตระกูลเกา“ท่านหลิว มีวิธีแก้หรือเปล่าคะ เราจะทำอย่างไรกันดี”“นั่นสิครับ ท่านหลิวมีวิธีแก้หรือเปล่า อาอี้เป็นภรรยาของผมจะทำอย่างนั่นได้ยังไงกัน”เย่หมิงเสวียนพูดจบก็หันไปมองเกาม่านอี้ด้วยสีหน้าอึดอัดใจ เอื้อมมือไปกุมมือเธอเพื่อปลอบใจที่ถูกคนกล่าวเช่นนี้ เกาม่านอี้นึกอยากสะบัดมือเขาแรง ๆ แล้วรีบว
8หย่ากันเถอะ“อาเสวียนแย่แล้วลูก” ฉินรั่วหนานหันไปประคองมือลูกชายไว้ สีหน้าแววตาเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอเชื่อสนิทใจเพราะก่อนนี้ลูกชายก็ถูกยิงตอนไปช่วยเธอ เกาม่านอี้รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เห็นใบหน้านี้จากอีกฝ่าย แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้มากจึงต้องทำหน้าเศร้าเมื่อสองแม่ลูกนั่นหันมามองบรรยากาศรอบข้างเริ่มเคร่งเครียด ถึงอย่างไรเธอก็แต่งเข้าบ้านมาแล้วจะไล่ไปก็ไม่ได้ อีกทั้งเธอยังเป็นเจ้าของหนังสืออนุญาตอีก ฉินรั่วหนานแม้จะไม่ชอบเธอมากก็ยังเข้าใจสถานการณ์ดี ตอนนี้ตระกูลเย่ยังต้องการพึ่งพิงเส้นสายของตระกูลเกา“ท่านหลิว มีวิธีแก้หรือเปล่าคะ เราจะทำอย่างไรกันดี”“นั่นสิครับ ท่านหลิวมีวิธีแก้หรือเปล่า อาอี้เป็นภรรยาของผมจะทำอย่างนั่นได้ยังไงกัน”เย่หมิงเสวียนพูดจบก็หันไปมองเกาม่านอี้ด้วยสีหน้าอึดอัดใจ เอื้อมมือไปกุมมือเธอเพื่อปลอบใจที่ถูกคนกล่าวเช่นนี้ เกาม่านอี้นึกอยากสะบัดมือเขาแรง ๆ แล้วรีบวิ่งออกไปจากบ้านหลังนี้ เ
7เรื่องผิดคาด“ปินปิน ต่อไปเธอก็นอนกับฉันที่นี่แหละ อีกไม่กี่วันเราจะได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น เธอคงมีอิสระกว่านี้ ที่นี่คนมากเกินไปเธออาจจะทำตัวไม่ถูก”“ค่ะคุณนายน้อยเย่”หลู่ปินปินพยักหน้ารับคำ เด็กสาวนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่กล้าเทียบเสมอผู้มีพระคุณ แม้สงสัยบางอย่างก็ไม่กล้าที่จะถามจึงคิดได้ว่าขอเพียงเป็นคำสั่งของผู้มีพระคุณ เธอยินดีทำตามทั้งนั้นเดิมทีก็ไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเส้นเรื่องหลัก แต่นึกแล้วก็สงสัยจึงอยากพาเธอมาคอยอยู่เป็นเพื่อนที่เรือนเล็ก รออยู่เฉย ๆ อีกไม่กี่วันก็จะครบหนึ่งเดือนตามนัดแล้ว ระหว่างนี้ก็แค่แสร้งทำท่าทางรักใคร่กับเย่หมิงเสวียนให้อี้จินเฉิงรู้สึกว่าเธอยังคงมีคู่แข่งอยู่เสมอ ภายหน้าจะทำอะไรเพื่อขับไล่เธอเหมือนเนื้อหาในนิยาย“คุณเย่ ทานนี่หน่อยนะคะ ฉันเป็นคนทำเอง”“ขอบคุณอาเฉิง อาอี้ลองชิมนี่หน่อยพี่จำได้ว่าเธอชอ
7เรื่องผิดคาดเย่หมิงเสวียนพาเกาม่านอี้ขึ้นรถ อี้จินเฉิงเดินตามมาไม่ห่างแต่ไม่กล้าพูดอะไร ทั้งสามนั่งด้านหลังเว้นที่วางเบาะข้าคนขับไว้ให้หลู่ปินปินที่กำลังจะแวะรับ เย่หมิงเสวียนนั่งตรงกลางซ้ายมีเกาม่านอี้ ขวามีอี้จินเฉิง รับเด็กสาวที่หน้าร้านขายเครื่องประดับ จากนั้นก็ตรงกลับบ้านกันทั้งหมดเย่หมิงเสวียนแสร้งเอาใจเกาม่านอี้ตลอด พูดคุยด้วยท่าทางเอ็นดูแสนดีดังเช่นตอนแต่งงานใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่เธอคาดเดาไม่ได้ในเมื่อเธอเป็นคนเลือกนิสัยพื้นฐานให้กับเขาเอง แต่ก็ตามน้ำทำตัวเป็นคนโง่ต่อไป อีกไม่กี่วันเธอจะได้เลิกเห็นหน้าเขาเสียทีครั้งก่อนหลังแต่งงานได้หนึ่งเดือนก็ถูกสามีไล่ไปอยู่เรือนเล็ก อีกทั้งเขายังทำร้ายร่างกายเธอ เพราะทะเลาะหึงหวงกันตามเส้นเรื่อง ครั้งนี้เธอต้องการจากไปเพื่อให้เส้นเรื่องเปลี่ยนแปลง จะได้ทำอะไรไม่ต้องสนใจเย่หมิงเสวียน“อาเสวียน ทำไมจึงกลับมาเร็วอย่างนี้”“ลูกพาอาอี้กลับมาพักผ่อน อ
7เรื่องผิดคาดเย่หมิงเสวียนรีบหยิบกางเกงมาสวม ไม่ได้กลัวว่าเธอรู้สึกแย่เพียงกลัวเธอจะขอคืนใบอนุญาตก็เท่านั้น หากเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตขึ้นมาตระกูลเย่อาจมีปัญหาได้“พี่หมิงเสวียน จะตามเธอไปหรือคะ”“ปล่อยก่อน หากเธอไม่พอใจขึ้นมาตระกูลเย่อาจมีปัญหาเรื่องสำนักงานได้”อี้จินเฉิงรีบฉวยข้อมือเขาไว้ไม่ให้ออกวิ่งตามภรรยาออกไป แต่เขากลับสะบัดมือให้เธอปล่อย คนที่แสร้งทำแสนดีมาตลอดจึงรีบปล่อยอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่หย่าขาดจากเกาม่านอี้ทั้งที่ก็ไม่ได้รักชอบเธอ อีกทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยบอกเธอเลยอี้จินเฉิงเองก็ไม่กล้าถามเพราะกลัวถูกกล่าวว่าวุ่นวายไร้เหตุผล เย่หมิงเสวียนวิ่งตามออกไป เธอจึงไม่ลังเลที่จะรีบวิ่งตามออกไปด้วยเกาม่านอี้เดินช้าลงเมื่อมาถึงชั้นล่าง เธอต้องการให้ด้านบนตามลงมาทันก่อนจะเดินไปถึงที่จอดรถด้านข้าง จางอวี้เจินจึงเดินช้าตามไปด้วย ไม่พูดอะไรออกมาอย่างที่ตกลงกันไว้ร