แชร์

ฉากที่ 5

ผู้แต่ง: Cirrus c.
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-19 16:48:51

บรรยากาศในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทีมบุคลากรทางการแพทย์ต่างรีบเร่งจัดการกับการคลอดก่อนกำหนดที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ใครปรารถนาจะเผชิญ แต่พวกเขาก็ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ

บัวรัตนานั่งรออยู่หน้าห้องคลอดด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความกังวล มือของเธอประสานกันแน่น พลางภาวนาขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นดำเนินไปตามเนื้อเรื่องนิยาย ชลธารจะคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัยโดยมีนรกานต์คอยดูแล แต่ครั้งนี้เธอเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงชะตากรรมด้วยตัวเอง จึงไม่อาจรู้ได้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร

ความไม่แน่นอนเข้าครอบงำจิตใจของบัวรัตนา เธอไม่อาจรู้ได้เลยว่าเหตุการณ์จะดำเนินไปในทิศทางเดิมหรือไม่ ลูกของชลธารที่คลอดก่อนกำหนดจะปลอดภัยหรือเปล่า? ภายใต้ความกังวลของอัลฟ่าสาว ยินเสียงเครื่องมือแพทย์ดังขึ้นเป็นระยะ เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความกดดัน บัวรัตนานั่งนิ่ง เฝ้ารออย่างทรมานในความไม่แน่นอนนี้

เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังขึ้นด้านหลังบัวรัตนา ทว่าเธอไม่ได้นึกสนใจในตอนแรก ด้วยคิดเพียงว่าคงเป็นญาติของผู้ป่วยคนอื่น ๆ

“ดูสิแก หน้าห้องคลอดมีแค่เจ้าสาวคนนั้น ไม่เห็นพ่อของเด็กเลย สงสัยที่เขาพูดกันคงจะเป็นเรื่องจริงเสียล่ะมั้ง” เสียงสาว ๆ ซุบซิบกันดังขึ้นเข้าหูบัวรัตนา

เพื่อนร่วมงานของชลธารที่มาถึงโรงพยาบาลต่างแสดงอาการห่วงใยและอยากรู้ว่าชลธารปลอดภัยหรือไม่ แต่ก็อดใจที่จะนินทากันไม่ได้ เรื่องที่ชลธารท้องไม่มีพ่อถูกพูดถึงกันมานานหลายเดือน จึงยากที่จะห้ามไม่ให้คนพูดถึง แม้แต่ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้

“ก็ใช่น่ะสิ ฉันบอกแกตั้งหลายครั้งแล้ว หมอนั่นเป็นโอเมก้าไม่ใช่เหรอ ท้องไม่มีพ่อก็คงไม่แปลก ควบคุมตัวเองตอนฮีตไม่ได้แบบนั้นก็สมควรแล้ว”

“อย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันเห็นโอเมก้าหลายคนก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบธารทุกคน” เพื่อนร่วมงานอีกคนเอ่ยขึ้น พยายามห้ามปรามการนินทาที่เริ่มจะลามไปไกลกว่าที่ควรจะเป็น

“แบบไหน? แบบท้องไม่มีพ่อน่ะเหรอ” ถึงแม้ว่าจะเป็นห่วงชลธารจริง ๆ แต่ความอยากรู้อยากเห็นและการนินทาก็ยังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเธอพูดคุยกันคิกคักอย่างสนุกปาก บัวรัตนาไม่มีจิตใจจะด่ากลับในตอนนี้ เธอเลือกที่จะปล่อยให้พวกนั้นพูดไปก่อน เพราะเดี๋ยวความจริงจะถูกเปิดเผยเอง โดยเธอเองนี่แหละ!

“บัว!”

ทั้งพ่อและแม่ของบัวรัตนาเดินทางมาถึงโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ เมื่อมาถึงพวกเขาก็ตรงเข้ามาหาลูกสาวทันที สีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลทำให้บัวรัตนาตัดสินใจเริ่มการแสดงของเธอทันที

“พ่อ แม่...” บัวรัตนาเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตกใจของพ่อกับแม่ที่เข้ามาถึง เธอก็รู้ทันทีว่าต้องทำอะไรต่อไป

“ไหน บอกแม่สิ เล่ามาให้หมดเลยนะ” คุณหญิงกัลยาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มืออ่อนนุ่มของผู้เป็นแม่เอื้อมไปกุมมือบัวรัตนาไว้แน่น สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าของลูกสาวที่ดูไม่ดีนัก

“คือ...ถ้าบัวพูดความจริง พ่อกับแม่สัญญานะคะ ว่าจะไม่โกรธบัว” บัวรัตนาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พยายามบีบน้ำตาให้ไหลออกมาเพื่อเสริมบทบาทที่เธอกำลังแสดง

“พูดมาเถอะบัว แม่ไม่โกรธหรอก...” แม่ของเธอปลอบใจ พลางส่งสายตาให้กำลังใจ

“บัวมีคนรักอยู่แล้วค่ะ...คือเขาคนนั้น”

“หา?!” พ่อกับแม่ของบัวรัตนาส่งเสียงอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ พวกเขาคาดไม่ถึงกับคำสารภาพที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินจากลูกสาว เพราะเธอไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟังมาก่อน ทำเอาทั้งคู่ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

“บัวแต่งงานกับคุณสองตามความต้องการของพ่อกับแม่ ก่อนหน้านี้บัวกับธารเลิกรากันไปด้วยดีแล้วนะคะ แต่บัวไม่คิดว่าครั้งสุดท้ายที่มีอะไรกัน ธารจะตั้งท้องขึ้นมา ธารเองก็คงเห็นว่าเลิกกันแล้ว คนขี้เกรงใจแบบเขาก็เลยไม่ติดต่อมาอีก แต่ก็ดันบังเอิญมาเจอกันวันนี้พอดี ก็เลยเป็นอย่างที่พ่อกับแม่เห็นค่ะ” บัวรัตนาเอ่ยออกมาอย่างเชื่องช้า พร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม การแสดงของเธอดูสมจริงจนทำให้พ่อกับแม่เชื่อสนิทใจ

เดิมทีตามเนื้อเรื่องในนิยาย บัวรัตนาต้องแต่งงานกับนรกานต์ หรือที่เธอเรียกว่า “คุณสอง” เพราะพ่อของเธอต้องการใครสักคนมาออกหน้าช่วยดูแลบริษัทแทนลูกสาวที่ออกหน้าออกตาไม่ได้ และนรกานต์ก็เป็นอัลฟ่าผู้มีหน้าตาและความสามารถ สติปัญญาของเขาจะช่วยให้บริษัทก้าวหน้าได้

ท่านชายวรชัยกับคุณหญิงกัลยาเองก็เคยผ่านการแต่งงานแบบคลุมถุงชนมาก่อน แต่พวกเขาเข้ากันได้ดีและสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงไม่เคยคิดว่าบัวรัตนาจะมีปัญหากับการทำเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ การตัดสินใจครั้งนี้กลับกลายเป็นความผิดมหันต์ที่เปลี่ยนชีวิตของบัวรัตนาไปตลอดกาล

ตอนนี้เพื่อนร่วมงานของชลธารต่างรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่ละคนต่างพากันอ้าปากค้างเมื่อได้ยินความจริงที่คาดไม่ถึง คนรักของชลธารไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นทายาทตระกูลก้องเกษมทรัพย์ ตระกูลผู้มั่งคั่งและมีชื่อเสียงโด่งดังในสังคม! ความตกใจและความไม่เชื่อปรากฏชัดในสายตาของทุกคน

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยแก นี่มันเรื่องจริงใช่ไหม แกช่วยหยิกฉันหน่อยสิ!” หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของชลธารพูดขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เธอเอาแต่สะกิดเพื่อนข้างกายไม่หยุด

“โอ๊ย! ก็ได้ยินเต็มสองหูแล้วไม่ใช่หรือไง!” เพื่อนคนนั้นตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์

“เรื่องนี้ต้องเอาไปขยายต่อ กลับกันเถอะแก” ทั้งสองคนนั้นพูดคุยกันสักพัก ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปอย่างตื่นเต้น

“สรุปแล้ว นี่คือเรื่องจริงใช่ไหม บัวไม่ได้โกหกแม่ใช่ไหม...” แม่ของบัวรัตนาทวนถามอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“บัวจะโกหกแม่ทำไมคะ ถ้าบัวไม่ได้รักกับธารจริง ๆ ก็คงไม่รีบพาเขามาโรงพยาบาลหน้าตาตื่นแบบนี้หรอกค่ะ บัวไม่ได้อยากเป็นขี้ปากใครเปล่า ๆ สักหน่อย” อัลฟ่าสาวแสร้งสูดหายใจลึกคล้ายพยายามกลั้นน้ำตา ส่งผลให้ผู้เป็นแม่ใจอ่อนยวบทันที

“แล้วหลังจากนี้ลูกจะทำยังไง?” คุณหญิงกัลยาถามด้วยความกังวล ส่วนท่านชายวรชัยเองที่ยืนเงียบไม่พูดอะไร เนื่องจากชายผู้เป็นผู้นำตระกูลก้องเกษมทรัพย์กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวหลังจากนี้ เกิดเรื่องใหญ่โตในงานแต่งแบบนี้คงต้องตามล้างตามเช็ดให้ลูกสาวอีกเยอะ แต่ไหน ๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว การโวยวายออกมากลางโรงพยาบาลก็คงไม่ใช่เรื่องดี

“พ่อกับแม่กลับไปก่อนก็ได้นะคะ บัวจะอยู่จนกว่าธารจะคลอดแล้วค่อยกลับบ้าน” บัวรัตนาจับมือนุ่ม ๆ ของแม่แน่น เธอยิ้มให้แม่ปล่อยวางและพาพ่อกลับไปก่อน ทั้งสองจึงยอมจากไปโดยดี พร้อมกับเตรียมตัวไปเคลียร์กับพวกตระกูลเจริญผลวัฒนา ป่านนี้พวกเขาคงงงเป็นไก่ตาแตกอยู่เช่นกัน

ไม่นานหลังจากพ่อและแม่กลับไป คุณหมอได้ออกมาจากห้องคลอดและกล่าวข่าวดีให้บัวรัตนาฟัง

“ญาติคนไข้ใช่ไหมครับ?” คุณหมอสูงอายุเข้ามาทักเมื่อเห็นว่าเธอเป็นคนเดียวที่อยู่หน้าห้องคลอดในตอนนี้

“ค่ะ ชลธารเป็นยังไงบ้างคะหมอ ทุกอย่างราบรื่นดีไหมคะ?”

“เรียบร้อยดีครับ ปลอดภัยทั้งคุณชลธารและเด็ก ตอนนี้หมอได้ย้ายคนไข้ไปห้องพักผู้ป่วยแล้ว ญาติเข้าเยี่ยมได้เลยนะครับ หมอต้องขอตัวก่อน” คุณหมอแจ้งผลให้บัวรัตนาทราบก่อนจะเดินจากไป

บัวรัตนาเมื่อได้ยินข่าวดีนั้น เธอก็เดินไปยังห้องพักแยกของชลธารทันที และแน่นอนว่าเธอได้แจ้งไว้ก่อนแล้วว่าขอห้อง VIP ให้กับชลธาร เพื่อให้ทุกอย่างสมกับที่เธอเตรียมจะรับเขาเข้ามาในตระกูล

อีกด้านหนึ่ง ในงานแต่งงานที่ไร้เจ้าสาว แขกในงานต่างพากันซุบซิบถึงเรื่องฉาวที่เกิดขึ้นไม่หยุด แม้ตระกูลเจริญผลวัฒนาจะพยายามแก้ข่าวแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ไม่นาน แขกในงานก็พากันทยอยกลับ เมื่อเข้าใจว่างานแต่งล่มกลางคัน ทำให้ตระกูลเจริญผลวัฒนารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

“ลูกชายฉันต้องมาเสียชื่อเพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียวเลย!”

ท่านชายปิยวัฒน์ยืนอารมณ์เสียอย่างหนัก เขาพยายามยื้อแขกในงานอยู่นาน แต่ไม่มีใครยอมฟัง เขาอุตส่าห์ไว้ใจให้ลูกชายแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนรักสมัยเรียน แต่ไม่คิดว่ามันจะจบลงเละเทะแบบอย่างนี้!

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับพ่อ ผมมีแผนเตรียมเอาไว้แล้ว รอดูหลังจากนี้ได้เลย ตระกูลก้องเกษมทรัพย์ต้องอยู่ไม่สุขแน่”

นรกานต์กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น นัยน์ตาสีดำเข้มลึกล้ำด้วยอารมณ์ที่อ่านไม่ออก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 6

    ภายในห้อง VIP ของโรงพยาบาลที่ชลธารถูกย้ายมาพักฟื้นหลังคลอด เขารู้สึกสับสนกับหลาย ๆ เรื่อง ไม่เพียงแค่ลูกของเขาจะคลอดก่อนกำหนด แต่ยังได้รับการดูแลจากแพทย์ฝีมือเยี่ยมในโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ อีกทั้งยังถูกย้ายมาอยู่ในห้อง VIP อีก เขาพยายามบอกพยาบาลว่าขอห้องธรรมดาก็พอ แต่ไม่มีใครฟังเขาเลย แล้วทีนี้เขาจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่ารักษา?ขณะที่เขากำลังคิดหนักประตูก็ถูกเปิดออก แต่ไม่ใช่แพทย์หรือพยาบาลอย่างที่เขาคิดไว้ กลับเป็นผู้หญิงหน้าตาสวยโฉบเฉี่ยว สวมชุดสีขาวที่ยังคงเป็นชุดเดียวกับที่เธอใส่ในงานแต่งงานเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาไม่เคยเจอหน้าเธอมาก่อนด้วยซ้ำ แล้วเธอคือใคร?หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่ชลธารรู้สึกว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย แม้ตั้งแต่ในงานแต่งงานแล้ว มิหนำซ้ำเธอยังอาสาพาเขามาส่งที่โรงพยาบาลอีกด้วย“ดีขึ้นหรือยังคะคุณธาร? ฉันเรียกชื่อเล่นคุณได้ไหม?”“ดะ...ได้ครับคุณ...” ชลธารตอบกลับอย่างลังเล ทิ้งจังหวะเล็กน้อยให้บัวรัตนาได้ตอบกลับ“บัวรัตนาค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่าบัวก็ได้”“คุณบัว...ทำไมถึงช่วยผมไว้เหรอครับ แล้วงานแต่งของคุณล่ะ...” ชลธ

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 7

    หลังจากวันงานแต่งผ่านพ้นไป บัวรัตนาไปกลับระหว่างบ้านและโรงพยาบาลเป็นประจำ เธอคอยดูแลชลธารเพื่อไม่ให้เขาเหงาและเดียวดาย หลายวันมานี้ พ่อของเธอเรียกให้เข้าไปคุยหลายครั้ง แต่บัวรัตนายังคงอ้างว่าเธอต้องดูแลชลธาร ความจริงคือเธออยากทำให้ทุกอย่างดูแนบเนียนที่สุดเมื่อเธอคิดว่าถึงเวลาอันสมควรแล้ว วันนี้อัลฟ่าสาวจึงยอมไปพบพ่อที่บ้านเพื่อเคลียร์เรื่องราวทั้งหมด ในใจรู้ดีว่าเธอจะต้องเผชิญกับคำตำหนิ พ่อของเธอไม่มีทางเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำไปง่าย ๆ แน่ แต่เธอรู้ว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้บัวรัตนาหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในบ้านที่เธอคุ้นเคย ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความกดดัน เธอรู้ว่าพ่อจะต้องดุด่าเธออย่างแน่นอน แต่เธอก็เตรียมตัวมาแล้วสำหรับทุกคำตำหนิ“มาแล้วเหรอ ยัยลูกตัวดี” น้ำเสียงเข้มดุดังขึ้นทันทีที่บัวรัตนาเดินเข้ามาในคฤหาสน์และมาถึงห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่พ่อของเธอชอบนั่งผ่อนคลายทุกวัน“น้ำเสียงดูไม่เอนจอยเลยนะคะคุณพ่อ เช้านี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” บัวรัตนาพูดอย่างใจเย็น เธอเดินผ่านพ่อไปนั่งลงบนโซฟาด้านข้าง สีหน้าไม่แสดงความทุกข์ร้อนใด ๆ“ก็เรื่องแกนั่นแหละ! รู้ไหม

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 9

    หลังจากเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดก็ถึงวันที่ทีมแพทย์อนุญาตให้ชลธารและเจ้าตัวน้อยกลับบ้านได้ บัวรัตนาตื่นแต่เช้ากว่าปกติ อัลฟ่าสาวรีบตรงไปยังโรงพยาบาลทันทีโดยไม่สนใจเรื่องอื่นใด นี่คือวันที่เธอเฝ้ารอมานาน วันที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับชลธารและลูกน้อยของพวกเขาเมื่อวานนี้ ผลตรวจดีเอ็นเอถูกส่งมาถึงคฤหาสน์ ท่านชายวรชัยเป็นคนแรกที่ได้เปิดอ่าน เขานิ่งเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาให้เห็น ท่าทีที่สงบนั้นช่วยให้บัวรัตนารู้สึกโล่งใจขึ้นมาก แม้พ่อของเธอจะยังคงมีข้อกังขาอยู่บ้าง แต่เมื่อได้เห็นผลตรวจแล้ว เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ ต่อให้ในใจจะยังรู้สึกไม่เต็มใจยอมรับก็ตามนอกจากนี้ พ่อของบัวรัตนายังตัดสินใจให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับบริษัทของตระกูลเจริญผลวัฒนาเพิ่ม ด้วยเหตุผลว่าทั้งสองตระกูลได้เกี่ยวดองกันแล้ว การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการป้องกันไม่ให้ตระกูลเจริญผลวัฒนาประสบปัญหาทางการเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทั้งสองฝ่ายในอนาคต พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นการจ่ายค่าปิดปากอย่างแนบเนียนนั่นแหละบัวรัตนารู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าพ่อของเธอได้ยอมรับสถานการณ์ แม้เขาจะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 8

    ก่อนที่จะออกจากบ้าน บัวรัตนาสังเกตเห็นรถหรูคันสีดำแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน เธอจำรถคันนั้นได้ดี มันเป็นคันเดียวกันกับที่เธอต้องวิ่งตามจนโดนรถชน ความทรงจำจากวันนั้นหวนกลับมา ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นความตึงเครียดในอากาศเริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อเธอรู้ว่าการเผชิญหน้ากับอดีตที่ยังค้างคาใจอาจกำลังจะเกิดขึ้น“นึกว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็คุณบัวนี่เอง กลับมาบ้านได้สักทีนะครับ” เมื่อประตูรถด้านหลังถูกเปิดออก ร่างสูงของนรกานต์ก็ก้าวขายาว ๆ ลงมาจากรถ เขายืนจ้องหน้าบัวรัตนาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยทัก“แหม ก็นึกว่ารถใครที่ไหน...วันนี้ไม่ออกไปทำงานเหรอคะ คุณสอง” บัวรัตนายืนกอดอกแน่น สายตาของเธอสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัว รองเท้าคู่ใหม่ คงจะเอาเงินที่ได้ไปปรนเปรอตัวเองตามสันดานเดิม ช่วงเวลาบ่ายแบบนี้ คงพึ่งกลับมาจากการช็อปปิ้ง บรรดาคนใช้ในบ้านต่างกรูกันมาเพื่อหยิบของจากหลังรถ“คุณเองก็ไม่ได้เข้าบริษัทนี่ครับ อ้อ ช่วงนี้คุณคงกำลังยุ่งกับลูกสินะ” นรกานต์กัดฟันพูดเรื่องนั้นออกมา ความไม่พอใจแฝงอยู่ในน้ำเสียงอย่างชัดเจน ความรู้สึกสับสนและเจ็บปวดที่เขาพยายามปิดซ่อนไว้ปะทุขึ้นมา เมื่อคิดถึงสิ่ง

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 10

    เมื่อรถจอดนิ่งสนิท คนรับใช้ก็รีบกรูกันออกมาต้อนรับพร้อมกับเปิดประตูให้ ชลธารรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยกับการปฏิบัติที่หรูหราและสุภาพเช่นนี้ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการต้อนรับแบบนี้ ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ลืมกล่าวขอบคุณแม่บ้านที่เปิดประตูให้เหล่าคนรับใช้พากันสงบปากสงบคำ แม้จะมีคำถามมากมายอยู่ในใจ แต่พวกเขารู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน พวกเขารู้เรื่องที่คุณหนูอัลฟ่าของพวกเขาทำโอเมก้าข้างนอกท้อง และวันนี้ก็เป็นวันที่บัวรัตนาออกไปรับโอเมก้าคนนั้นเข้ามาในบ้าน แม้จะมีความรู้สึกไม่อยากยอมรับ แต่เมื่อเป็นคำสั่งจากเจ้านาย พวกเขาก็ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดโดยไม่มีข้อโต้แย้งชลธารเองรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แฝงความระแวงอยู่บ้าง แต่ก็พยายามคงท่าทีสุภาพและเป็นมิตรไว้ เขารู้ว่าการเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตใหม่ของเขากับลูกน้อยเป็นไปอย่างราบรื่น“รีบพาลูกเข้าบ้านกันเถอะ แดดมันแรง” บัวรัตนาเดินเข้ามาเคียงข้างผู้มาใหม่ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใยก่อนพาเขาเดินเข้ามาภายในบ้าน ชลธารมองรอบ ๆ ด้วยความตะลึง ใจของเขาแทบไม่เชื่อสายตา

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 11

    ช่วงเวลาแรก ๆ ที่ชลธารเลี้ยงเจ้าตัวน้อย เขาแทบไม่เจอปัญหาอะไรเลย ลูกชายของเขาเลี้ยงง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่งอแงร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุ บัวรัตนาเองก็มักสละเวลามาอยู่เป็นเพื่อนและช่วยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กแทบจะตลอดเวลา หากเธอไม่อยู่บ้าน เธอก็จะให้พี่เลี้ยงเข้ามาช่วยเหลือชลธารทันที เพราะเธอไม่ต้องการให้ชลธารต้องเลี้ยงลูกคนเดียวจนร่างกายโทรมไป แม้จะมีทุกอย่างพร้อมแล้วก็ตามในช่วงวันแรก ๆ นรกานต์ไม่รู้เรื่องของชลธารและพศินเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาบังเอิญเดินผ่านห้องของชลธารในชั้นสองแล้วได้ยินเสียงอ้อแอ้ของเด็กน้อยดังลอดประตูออกมา ทำให้นรกานต์หยุดชะงัก อัลฟ่าหนุ่มยืนฟังอยู่ครู่หนึ่ง ในใจของเขาสับสนและเต็มไปด้วยความสงสัย“เสียงเด็กในห้องชั้นสอง...เป็นลูกใครกัน?” เขารำพึงกับตัวเอง ความรู้สึกในใจเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกนรกานต์ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะอดเก็บความข้องใจไว้กับตัวไม่ได้ เขาตัดสินใจเรียกคนรับใช้ที่อยู่แถวนั้นมา “ทำไมมีเสียงเด็กในห้องชั้นสอง?”คนรับใช้ที่อยู่ใกล้ ๆ มองหน้ากันเล็กน้อยด้วยความลังเล ไม่แน่ใจว่าจะตอบออกไปดีหรือไม่ แต่ในเมื่อคุณนรกานต์เป็นสามีของคุณบัวและอยู่บ้

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 12

    “งั้นตอนบ่ายนี้เราไปเดินช็อปปิ้งกันดีไหม? ยืดเส้นยืดสายจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” บัวรัตนาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของชลธารที่ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยเต็มใจกับการกินอาหารทั้งหมด เธอคิดว่าต้องใช้อะไรบางอย่างมาล่อลวงเขาบ้าง น่ารักดีจริง ๆ“จริงเหรอครับ! ไปๆ” สีหน้าที่แสนเหนื่อยหน่ายก่อนหน้านี้ถูกสลัดทิ้งไปอย่างหมดสิ้น ชลธารเด้งตัวขึ้นจากท่านั่งหลังติดเบาะ นั่งตรงและเริ่มกินอาหารตรงหน้าหลังจากที่ตั้งครรภ์ เขาก็ต้องสวมแต่ชุดคลุมท้องตลอดเวลา เสื้อผ้าตัวเก่าที่เคยชอบใส่ก็ถูกทิ้งไว้ที่บ้านเดิมของเขา และชลธารก็ไม่ได้กลับไปเอามันอีกเลย ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังคลอดทำให้เขารู้สึกว่าเสื้อผ้าเดิม ๆ คงไม่พอดีอีกแล้ว ความคิดที่ว่าเขาควรมีเสื้อผ้าแบบใหม่สักหลายชุดเริ่มเข้ามาในหัวของชลธารสักพักแล้ว และคำชักชวนของคุณบัวก็ตรงใจพอดีบัวรัตนาเห็นแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจ เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะชวนชลธารคุยไปเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้าน เรื่องลูกน้อย และเรื่องต่าง ๆ ที่ทำให้พวกเขาสนิทสนมกันมากขึ้นเมื่อช่วงบ่ายมาถึง บัวรัตนาก็พาชลธารไปเดินห้างตามที่ได้สัญญาไว้ ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันท่ามกลางบรรยากาศที่ค

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 13

    “ถือได้ไหม ธาร?” บัวรัตนาถามขึ้นด้วยความห่วงใย“ได้สิ แค่นี้เอง ไม่หนักสักหน่อย” ชลธารตอบด้วยรอยยิ้ม พยายามแสดงให้เห็นว่าเขาแข็งแรงพอที่จะช่วยถือของได้กว่าทั้งสองจะกลับมาถึงบ้านก็ค่ำมากแล้ว เวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่จะรู้ตัว เดิมทีบัวรัตนากะว่าจะพาชลธารไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นอีก แต่อีกฝ่ายยืนยันว่าอยากกลับบ้านเพราะอยู่ห่างจากเจ้าตัวเล็กมานานเกินไปแล้ว แม้จะมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ชลธารก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ทั้งสองปฏิเสธการช่วยถือของจากคนรับใช้หลังจากเดินเข้าบ้านมา จึงกลายเป็นว่าพวกเขาพากันถือถุงช็อปปิ้งต่าง ๆ เต็มสองมือ ทั้งเสื้อผ้าใหม่และของที่ซื้อมาในวันนี้ ซึ่งทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและสนิทสนมมากขึ้นขณะที่บัวรัตนากับชลธารเดินผ่านหน้าห้อง ๆ หนึ่ง บังเอิญว่าประตูห้องนั้นปิดไว้ไม่สนิทนัก ทำให้คนที่อยู่ในห้องนั้นเห็นภาพของทั้งคู่เต็มสองตา นรกานต์ที่นั่งอยู่ในห้องรีบลุกออกจากเก้าอี้ และมาชะเง้อเกาะประตูมองใบหน้ายิ้มแย้มของบัวรัตนาและชลธารด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้สายตาของอัลฟ่าหนุ่มเต็มไปด้วยความโหยหาโดยไม่รู้ตัว

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ตอนพิเศษ 1 : ฮันนิมูน (3P)

    ที่บ้านพักตากอากาศสุดหรูแบบพูลวิลล่าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ติดริมทะเลภูเก็ตซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ทั้งคนไทยและต่างชาตินิยมมาพักผ่อน แม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่นก็ตาม คนไทยที่มีฐานะส่วนใหญ่ ถ้าชื่นชอบการเที่ยวทะเล มักจะซื้อบ้านพักตากอากาศไว้ตามที่ต่าง ๆ บางคนถึงกับลงทุนหลายล้านเพื่อครอบครองที่ดินและบ้านพักริมทะเลที่ตนเองชอบนรกานต์ บัวรัตนา และชลธารเดินทางมาถึงบ้านพักตากอากาศแห่งนี้ในช่วงค่ำ เนื่องจากบัวรัตนามีงานสำคัญในช่วงกลางวันที่ต้องจัดการก่อน แม้ว่าทั้งสามคนจะตกลงกันไว้แล้วว่าจะมาฮันนีมูนที่นี่ แต่สำหรับบัวรัตนา งานก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยบ้านหลังนี้เป็นบ้านของบัวรัตนาที่เธอตัดสินใจซื้อไว้หลังจากถูกใจบ้านนี้เข้าเต็มเปา แต่ด้วยงานที่รัดตัว ทำให้เธอแทบไม่มีเวลาได้มาใช้ชีวิตในบ้านพักหลังนี้เลย ทั้งที่เธอเคยเป็นคนชอบเที่ยวทะเลมาก นอกจากนี้ บัวรัตนายังเป็นหุ้นส่วนในรีสอร์ทที่มีพูลวิลล่าหลายหลังอีกด้วยเมื่อมาถึง บัวรัตนาก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน นรกานต์มองดูเธอด้วยความเอ็นดูเล็กน้อย เพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นบัวรัตนาแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าแบบนี้บ่อยนัก งานที่เธอเผ

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 27 (จบ)

    เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กลับกลายเป็นความจริงในโลกของบัวรัตนา จากความสับสนและความไม่แน่นอนที่เคยบดบังเส้นทางของเธอไป เมื่อเวลาผ่านไป เธอได้เรียนรู้และเข้าใจตัวเองมากขึ้น รวมถึงคนสำคัญที่อยู่เคียงข้างในชีวิต ความเข้าใจนี้ทำให้เธอตระหนักว่าเธอรักทั้งนรกานต์และชลธารพร้อมกันอย่างแท้จริงความเคียดแค้นที่เคยมีต่อนรกานต์ได้ถูกลบล้างจนหมดสิ้น เมื่อบัวรัตนาเริ่มเห็นความเปราะบางในตัวเขาแทนที่ความเย่อหยิ่ง ความรู้สึกเหล่านี้เปลี่ยนเป็นความรักและความปรารถนาที่จะดูแล ส่วนชลธารที่เริ่มต้นด้วยความสบายใจ กลับค่อย ๆ พัฒนาเป็นความรักที่มั่นคงและลึกซึ้งยิ่งขึ้นการใช้ชีวิตร่วมกันทั้งสามคน แม้จะเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาและท้าทาย แต่กลับเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของพวกเขาอย่างที่ไม่เคยคาดคิด แต่ละคนมีบทบาทเฉพาะในการช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย จนทำให้ความสัมพันธ์นี้ก้าวสู่ความสมบูรณ์แบบ ความรักของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกที่แบ่งปัน แต่เป็นการหล่อหลอมให้กลายเป็นหนึ่งเดียวที่แน่นแฟ้น“ธาร อย่าลืมกระเป๋าใบนั้นนะ มันสำคัญมาก!” บัวรัตนาเอ่ยกำชับ พร้อมชี้ไปยังกระเป๋าถือขนาดกลางที่วางตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง“ทำไม

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ตอนที่ 26

    “แต่ฉันจริงจัง...”คำพูดนั้นทำให้นรกานต์รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงกลางใจ ความหนาวเย็นไหลวูบผ่านสันหลัง เขาเริ่มตระหนักว่าเขาอาจจะพูดจาไม่คิด และตอนนี้คงหาเรื่องใส่ตัวตั้งแต่เช้าเข้าให้แล้ว ความรู้สึกกังวลพลันเข้ามาครอบงำเขาอย่างรวดเร็วนรกานต์พยายามเบี่ยงเบนความเครียดด้วยการเล่นมุก เขาเอื้อมมือไปดึงแก้มบัวรัตนาเบา ๆ “อย่าคิดมากสิ คุณบัว ขำ ๆ น่า อย่าหน้าบึ้งเลย” เขาพยายามดึงรอยยิ้มจากเธอ แต่บัวรัตนากลับหัวเราะเบา ๆ เพียงชั่วครู่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น“จะว่าอะไรไหมถ้าฉันอยากจะเริ่มต้นใหม่กับคุณ?” บัวรัตนาถามขึ้น ทำให้นรกานต์ชะงักไป เขาไม่เข้าใจแน่ชัดว่าหมายความว่ายังไง“หมายความว่ายังไงนะ ผมไม่เข้าใจ” นรกานต์ขมวดคิ้ว สายตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความกังวลบัวรัตนาสูดหายใจลึก เธอรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดความในใจ “ฉันคิดดูแล้ว... ฉันไม่อยากให้เรายึดติดกับสถานะคู่แต่งงานใช้หนี้บ้า ๆ บอ ๆ นั่น ตอนนี้คุณสองก็รักฉัน ฉันก็รู้สึกดีกับคุณเหมือนกัน แต่...”“แต่...?” นรกานต์ถามต่อด้วยความสงสัย สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่สำคัญมากกำลังจะถูกพูดออกมา“แต่...อะไรล่ะ? ถ้าคุณบัวพูดแบบนี้ ฟัง

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 25

    บัวรัตนายืนฟังทุกอย่างอยู่ที่หน้าประตูห้องเลี้ยงเด็ก ทุกคำพูดของนรกานต์และชลธารสะท้อนเข้ามาในความคิดของเธออย่างชัดเจน ทั้งสองคนกำลังเปิดเผยความในใจต่อกันอย่างตรงไปตรงมาเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จและตั้งใจจะมาเล่นกับเจ้าตัวน้อยเหมือนทุกครั้ง แต่เมื่อได้ยินบทสนทนาที่แฝงความรู้สึกเจ็บปวดนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนถูกปลุกให้ตื่นจากความเชื่อเดิม ๆ ที่เคยมีมา สุดท้ายบัวรัตนาก็ตัดสินใจถอยออกมาก่อนเงียบ ๆ ปล่อยให้นรกานต์และชลธารได้คุยกันต่อตัวเธอเองก็ต้องใช้เวลานี้เพื่อพิจารณาความรู้สึกของตัวเองด้วยบัวรัตนาเดินกลับมาที่ห้องของตัวเองด้วยฝีเท้าเบาหวิว ก่อนปิดประตูลงแผ่วเบา อัลฟ่าสาวเดินไปนั่งอยู่หน้ากระจก มองดูเงาสะท้อนของตัวเองที่ปรากฏอยู่ในบานกระจกใส เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของตัวเอง รู้สึกได้ถึงความสับสนและคำถามที่ค่อย ๆ ถาโถมเข้ามาเธอครุ่นคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในชาติที่แล้ว ตอนที่เธอตัดสินใจตกลงแต่งงานกับนรกานต์ ทุกอย่างตอนนั้นมันดูเต็มไปด้วยความหวัง แต่หลังจากนั้นเธอพบว่าความรักที่เธอวาดฝันไว้นั้นกลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง การแต่งงานครั้งนั้นพังทลายลงเพราะความเชื่อผิด ๆ และความคาดหวังที่ไม่เป็นจริง

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 24

    ความทรงจำเกี่ยวกับชลธารหวนกลับมาเล่นงานนรกานต์อีกครั้ง ภาพในหัวของเขาพาให้คิดย้อนกลับไปถึงวันที่เขาขืนใจชลธาร มันไม่ใช่การกระทำที่เกิดจากความรักหรือความผูกพันใด ๆ แต่มันเต็มไปด้วยความรุนแรงและการบังคับ ความรู้สึกผิดเริ่มถาโถมเข้าใส่ เมื่อเขาตระหนักว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่คล้ายกัน การถูกบีบให้ต้องแบกรับสิ่งที่ไม่คาดคิดและความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับมันเขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ชลธารจะรู้สึกอย่างไรตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องนั้น? จะรู้สึกทุกข์ทรมานเหมือนกับที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้หรือไม่? นรกานต์ได้ยินมาว่าชลธารยังคงทำงานต่อไปแม้จะตั้งท้อง แม้ต้องแบกรับน้ำหนักของท้องที่ใหญ่ขึ้นทุกวัน เขายังคงพยายามทำงานตลอดเก้าเดือนที่ยาวนานในที่สุดนรกานต์ก็เริ่มยอมรับในความแข็งแกร่งของชลธาร ความอดทนและความพยายามของโอเมก้าคนนี้เกินกว่าที่เขาเคยประเมินไว้มาก เขาไม่เคยคิดว่าโอเมก้าที่เขาเคยมองว่าอ่อนแอ จะมีความอดทนและหัวใจที่แข็งแกร่งขนาดนี้ มันทำให้เขาเริ่มมองเห็นความผิดพลาดของตัวเองในอดีตมากขึ้น ความโกรธ ความรุนแรง และความเย่อหยิ่งที่ทำให้เขาทำลายทุกอย่าง ตอนนี้กลับมากัดกร่อนหัวใจของเขาเอง

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 23

    เวลาผ่านไปหลายเดือน เรื่องการตั้งครรภ์ของนรกานต์ยังคงเป็นความลับที่รู้กันเฉพาะในครอบครัว บัวรัตนาจัดการทุกอย่างอย่างรอบคอบ เธอให้เหตุผลกับบริษัทว่านรกานต์ต้องไปดูงานที่สาขาใหม่ในต่างจังหวัด เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยในการหายตัวไปชั่วคราวของเขา แต่ในความเป็นจริง นรกานต์ต้องอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดเนื่องจากภาวะแท้งคุกคามที่ทำให้เขาไม่สามารถทำงานหนักได้การตั้งครรภ์ทำให้ชีวิตของนรกานต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยเป็นอัลฟ่าที่ทรงพลังและทำงานเก่ง ตอนนี้เขาต้องประสบกับความยากลำบากในการเดินหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ แม้แต่การขึ้นบันไดก็กลายเป็นภาระ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะบัวรัตนาไม่เคยห่างเขา เธอมักหาเวลามาดูแล ทั้งก่อนออกไปทำงานและหลังเลิกงาน และในวันที่เธอไม่ได้เข้าบริษัท เธอก็จะใช้เวลาอยู่กับนรกานต์ให้มากที่สุดแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จะยังคงเต็มไปด้วยความซับซ้อนและความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ช่วงเวลาที่พวกเขาได้ใช้ร่วมกันก็ทำให้บัวรัตนาเริ่มคิดทบทวนหลาย ๆ อย่างในชีวิต ความผูกพันที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างการดูแลนรกานต์ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ทำให้

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 22

    แต่ก่อนที่เธอจะตอบอะไร เสียงของหมอที่เดินเข้ามาใกล้ก็ดังขึ้น เรียกสติของเธอกลับมา“ญาติคนไข้ หมอขอคุยด้วยหน่อยครับ” หมอพูดขึ้นพร้อมกับสบตากับบัวรัตนา“ค่ะคุณหมอ ฉันเป็นญาติคนไข้เองค่ะ” บัวรัตนาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีที่หมอเรียก เธอรู้สึกถึงความตึงเครียดในอากาศ ขณะที่หมอเตรียมจะบอกข่าว เธอเองก็เตรียมใจรับฟังสิ่งที่ไม่คาดคิดอยู่ในใจ“ผลการตรวจของคนไข้...” หมอเริ่มพูดช้าๆ อย่างระมัดระวัง “พบว่าคุณนรกานต์กำลังตั้งครรภ์อยู่ในระยะแรกครับ”คำพูดนั้นดังก้องในหูของบัวรัตนา ใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะควบคุมไม่อยู่ มันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดฝัน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น เธอเป็นอัลฟ่า นรกานต์ก็เป็นอัลฟ่า แล้ว...เป็นไปได้ยังไง?“หมอ...หมายความว่ายังไงคะ?” บัวรัตนาถามเสียงเบา ใจหนึ่งอยากให้คำตอบนั้นเป็นเพียงความผิดพลาด แต่อีกใจก็รู้ดีว่าหมอคงไม่พูดเล่นเรื่องแบบนี้หมอถอนหายใจเบาๆ ก่อนอธิบาย “จากการตรวจเบื้องต้น ผลเลือดของคุณนรกานต์บ่งชี้ว่าเขากำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในอัลฟ่า แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้”เธอพยายามหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อควบคุมอารมณ์ตัวเอง “แต่ว่า...เขาเป็นอัล

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 21

    หลังจากการทะเลาะกันยืดเยื้อระหว่างสามีภรรยา ความเย็นชาระหว่างพวกเขาก็กลายเป็นกำแพงสูงที่ไม่มีใครยอมก้าวข้ามใบหน้าของนรกานต์ที่เคยหล่อเหลาค่อย ๆ ดูทรุดโทรมขึ้นทุกวัน ความเครียดสะสมและความโดดเดี่ยวที่กัดกินหัวใจ ทำให้เขาซูบผอมลงและไร้เรี่ยวแรงมากขึ้นทุกที ทว่าไม่มีใครสนใจเขามากพอที่จะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น อาจเพราะเขาไม่ได้อยู่ในบ้านของตัวเองอย่างแท้จริง ใครจะมาใส่ใจหรือห่วงใยเขาได้?เช้าวันนี้ นรกานต์ตื่นขึ้นมาแต่เช้า เตรียมตัวไปทำงานเช่นทุกวัน แม้ว่าร่างกายจะรู้สึกอ่อนแรงและเวียนหัว ซึ่งอาการนี้เป็นมาหลายวันแล้ว แต่เขาไม่เคยสนใจจะดูแลตัวเอง จนกระทั่งวันนี้ เขาเดินลงบันไดด้วยความไม่มั่นคง และทันทีที่ก้าวพลาด ความหน้ามืดเข้าครอบงำ ร่างของเขาลอยวูบลงสู่บันได ความรู้สึกนั้นทำให้เขารู้ว่าตัวเองกำลังจะตกบันไดแน่แล้วโชคดีที่ชลธารเดินผ่านมาในจังหวะนั้นพอดี เมื่อเห็นเหตุการณ์เขาไม่คิดอะไรมาก รีบพุ่งเข้าไปช่วยทันที ร่างของนรกานต์ถูกพยุงไว้ในนาทีสุดท้าย“คุณ!” แต่เมื่อชลธารรู้สึกตัวว่าเขาเพิ่งช่วยใคร หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านจนเผลอปล่อยมืออย่างไม่ตั้งใจ ร่างนรกานต์หล่นกระแทกกับพื้

  • ทะลุมิติคือวิธีแก้ปัญหาครอบจักรวาล   ฉากที่ 20

    “คุณบัว คุณรักใครกันแน่?” นรกานต์ถามเสียงเข้ม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกดดันและความคาดคั้น ดวงตาของเขาจ้องบัวรัตนาอย่างไม่ลดละ รอคอยคำตอบที่เขาอยากจะได้ยินบัวรัตนาเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ก่อนจะทวนคำถามของเขาอีกครั้ง “คุณพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ” แม้จะได้ยินคำถามชัดเจน แต่เธอกลับไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเขานรกานต์กัดฟันแน่น หงุดหงิดที่บัวรัตนาไม่ตอบตรงประเด็น เขาจึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดกว่าเดิม “ธารล่ะ คุณรักเขาหรือเปล่า?”คำถามนั้นทำให้บัวรัตนานิ่งไปชั่วครู่ รู้สึกเหมือนถูกต้อนให้จนมุม เธอพยายามอ่านความรู้สึกที่แท้จริงของนรกานต์จากท่าทางที่ดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจ และยิ่งเธอไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้เขาเป็นแบบนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ“ถะ...ถามทำไม” บัวรัตนาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ความลังเลในใจของเธอแสดงออกมาชัดเจนในเวลานี้“แค่ตอบมาว่าคุณรักเขาหรือเปล่า!” นรกานต์ไม่ลดละ เขาตะคอกกลับมาเสียงดังจนบัวรัตนาสะดุ้ง น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธและความคาดหวังอยากได้ยินคำตอบทิ่มแทงบัวรัตนา ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกกดดันจนไม่อาจทนไหว“ไม่รู้! ฉันไม่รู้!” บัวตะโกนกลับด้วย

DMCA.com Protection Status