บทที่ 10 จูบเลยมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มเกิดขึ้นภายในงานแต่งงาน โดยเฉพาะพศินผู้เป็นพ่อ เมื่อได้เห็นลูกสาวมีความสุข เขาก็ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว จะมีก็แต่สหรัฐที่รู้สึกขัดใจด้วยหลงคิดว่าการแต่งงานบ้าน ๆ เรียบง่ายไม่มีพิธีใหญ่โตจะทำให้สองพ่อลูกแสดงธาตุแท้ออกมา ทว่าความเป็นจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้นทำไมพวกเขาถึงได้ดูพอใจกับงานเล็ก ๆ อย่างนี้ในเมื่อด้วยฐานะและชื่อเสียงของชายหนุ่ม สามารถจัดงานแต่งงานที่แสนยิ่งใหญ่อลังการให้กับหล่อนได้ไม่ยาก แต่นอกจากพิมพ์พธูจะไม่เรียกร้องแล้วเธอยังดูมีความสุขกว่าที่คิดเธอยิ้มระรื่นออกมาได้อย่างไรกัน ในเมื่อต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเฉดหัวเขาทิ้งอย่างไม่ไยดี หรือเพราะหล่อนต่ำต้อยจนหาทางเลือกให้กับชีวิตไม่ได้แล้ว การที่เขายอมแต่งงานด้วย มันไม่ใช่โอกาสที่จะเข้ามาทักทายชีวิตที่แสนลำเค็ญของหล่อนได้บ่อยนักยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ..สหรัฐอยากจะรู้นักว่าในใจของผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ดวงตาคมเข้มจ้องถมึงทึงไปยังเจ้าสาว กระทั่งคนถูกมองรู้ตัว เธอจึงเอ่ยถาม"มีอะไรหรือเปล่าคะ อยากให้ฉันทำอะไรหรือเปล่า""เปล่า"เขาตอบด้วยน้ำเสียงกดต่ำ และมองหล
บทที่ 11 คืนเข้าหอตลอดทางเดินจากหน้าบ้านไปยังห้องหอถูกโปรยด้วยกลีบดอกไม้นานาพรรณที่มีขึ้นแค่บนเกาะนี้เท่านั้น เธอควงแขนเจ้าบ่าวเดินไปเรื่อย ๆโดยประเพณีการส่งตัวเข้าหอของเกาะนี้ จะไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในเขตตัวบ้านของบ่าวสาวทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่บุพการี ด้วยเป็นความเชื่อว่าบ้านของคู่แต่งงานใหม่ ควรจะมีแค่เขาสองคนเท่านั้นพศินผู้เป็นพ่อและชาวบ้านต่างพากันยืนรออยู่ข้างนอก พร้อมโบกมือส่งยิ้มให้บ่าวสาว พิมพ์พธูได้แต่ส่งยิ้มแห้งเหือด เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เพราะการเข้าหอ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหลังจากนี้มันจะมีอะไรเกิดขึ้น มันเหมือนกับว่าเธอกับสามีกำลังป่าวประกาศให้ทุก ๆ คนได้รู้ว่า...'ขอตัวไปมีเซ็กซ์กันก่อนนะ' อะไรทำนองนั้น และแน่นอนว่ามันค่อนข้างน่าอาย หน้าสวยจู่ ๆ ก็แดงเรื่อ เธอปิดเปลือกตาพร้อมสะบัดหน้า ทำท่าราวกับว่ากำลังรู้สึกจั๊กจี้อย่างไรอย่างนั้น"เป็นอะไรไป ทำไมยิ้มหลอนแบบนี้""ใครยิ้มหลอนกัน คุณไม่เห็นเหรอว่าทุกคนกำลังยิ้มหน้าบานให้กับการเข้าหอของเรามากแค่ไหน"เธอกระซิบกระซาบตอบกลับ กระทั่งเดินมาจนถึงห้องหอที่อยู่สุดปลายทางเดิน บ่าวสาวหันมาหาทุกคนอีกครั้งแล้วโบกมือราวกับนาง
บทที่ 12 ไม่อยากเสียศักดิ์ศรี 🔥🔥🔥ริมฝีปากหนาประกบจูบลงมาโดยไม่ทันให้ตั้งตัว เขาถอดเสื้อที่ยังคาอยู่ของตนเองออกเพราะทนให้มันเกะกะต่อไปไม่ไหว เรียวลิ้นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่นเล็กของหญิงสาว ชอนไชไล่ต้อนลิ้นน้อย ๆ ของพิมพ์พธู รสจูบที่แนบแน่นและลึกซึ้งขนาดนี้ ชวนให้หวนนึกถึงเรื่องในอดีต มือใหญ่เลื่อนมากอบกุมอกอวบแล้วบีบเล่นเบา ๆ ด้วยความมันมือ และไม่ลืมที่จะเอาปลายนิ้วไล่เขี่ยวนกับยอดถันชูชันสีหวานเขารู้ดีและจดจำได้อย่างแม่นยำว่าจุดอ่อนของพิมพ์พธูอยู่ตรงไหนบ้าง ชายหนุ่มเลื่อนตัวต่ำลงไปหลังถอนริมฝีปากออกจากปากอิ่ม จนใบหน้ามาหยุดลงตรงทรวงอกเต่งตึง"อยากให้ฉันเลียให้มั้ย"เขาช่างกล้าถามคำถามนี้ออกมา เธอไม่กล้าตอบออกไป หากแต่ในใจอยากให้ชายหนุ่มทำตามมากกว่าที่พูดเสียอีก สหรัฐยกยิ้มอย่างพอใจเพราะเพียงแค่เห็นแววตาที่จ้องมองมาอย่าเว้าวอนของเธอ ก็รู้แล้วว่าคำตอบคืออะไรเขาไม่รอช้า...ครอบครองตุ่มไตนั้นด้วยริมฝีปากของตนเอง พร้อมตวัดลิ้นเลียไปรอบ ๆ โดยเน้นไปที่ส่วนชูชันเป็นพิเศษเพื่อให้ฐานตูมเด้งสู้มือ"อ๊ะ..."หญิงสาวไม่อาจทนไหว เธอปลดปล่อยเสียงครางหวานออกมาเมื่อหน้าอกถูกปรนเปรอพร้อมกันทั้งส
บทที่ 13 เช้าหวานชื่นพิมพ์พธูลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว ข้างกายของหญิงสาวไม่มีใครอยู่เลย ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบห้อง ไม่มีวี่แววของสามี หล่อนชันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยร่างที่ยังเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง สายตาที่มองลงบนผ้าปูยับยู่ยี่ มันเศร้าสร้อยจนน่าสงสารยามเช้าอันหวานชื่นของคู่แต่งงานใหม่ไม่มีทางจะเกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แก่ใจ อาจเพราะเมื่อคืนได้รับความอ่อนโยนมากมายจากเขา จึงหลงคิดไปว่าเช้าวันใหม่จะต้องมีอะไรดี ๆ อย่างแน่นอนจากนี้ไปชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไรกันนะสหรัฐตั้งใจจะทำอะไรกับเธอต่อกันแน่คนตัวเล็กลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อทำหน้าที่ของภรรยาต่อ เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ที่ใดและกำลังทำอะไรอยู่ หากแต่หน้าที่ที่ต้องคอยปรนนิบัติสามีในฐานะภรรยา ก็จะพยายามทำให้ไม่ขาดตกบกพร่องจะได้ไม่ถูกอีกฝ่ายต่อว่าในภายหลังก๊อก ก๊อก ก๊อก!!"นายหญิง นายหัวให้มาตามไปกินข้าวค่ะ"ป้าชื่นมาเคาะประตูเรียกตามคำสั่งของสหรัฐ เมื่อได้ยินเสียง หล่อนจึงแง้มประตูห้องน้ำเปิดออกมาแล้วตะโกนตอบกลับไป"ค่ะป้าชื่น เดี๋ยวหนูออกไปค่ะ"ร่าง
บทที่ 14 เดินไปพร้อมกัน 🔥พิมพ์พธูรีบลุกขึ้นจากตัวเขา ใบหน้าที่ซุกลงกับแผงอกเมื่อครู่จนได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของอีกฝ่าย มันดังเป็นจังหวะเดียวกับการเต้นของหัวใจเธอ สำหรับเธออาจเพราะหวั่นไหว แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วคงเป็นเพราะกำลังโกรธทะลุปรอทความอดทนต่างหาก"ทำบ้าอะไร อยากตายเหรอฮะ!"ร่างสูงตวาดลั่นเมื่อยันตัวลุกขึ้นมาได้ มือใหญ่บีบเข้าที่ต้นแขนเล็กของหญิงสาวด้วยความโกรธ"ฉันขอโทษค่ะ ฉันแค่พยายามจะขึ้นเรือให้ได้ก็เท่านั้น"หญิงสาวพยายามข่มความสั่นของตัวเองไว้ เธอจำไม่ได้เลยว่าเคยถูกเขาตวาดรุนแรงแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน"ด้วยการวิ่งแล้วกระโดดเนี่ยนะ คิดบ้างมั้ยว่าถ้าฉันไม่มารับ แล้วเกิดลื่นหน้าทิ่มหรือล้มหัวฟาดขึ้นมาจะเป็นยังไง ในหัวเนี่ยมันมีหรือเปล่าสมอง หรือว่าคิดเป็นแต่เรื่องทำร้ายจิตใจผู้ชาย""คุณรัฐ!"หญิงสาวใกล้จะหมดความอดทนเต็มที แต่ก็พยายามสงบจิตสงบใจเอาไว้เพราะรู้ว่าที่อีกฝ่ายกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเจ็บในสิ่งที่หล่อนเคยทำ"ไปนั่งเฉย ๆ หยุดสร้างเรื่องอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะล่ามเธอเอาไว้ในห้องนอนไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย!""ฉันไม่ใช่หมานะคะ ที่คุณนึกอยากจะล่ามก็ล่ามได้ ฉัน
บทที่ 15 พ่อสามีสหรัฐพาเธอขับรถต่อเพื่อไปยังบ้านของเขาที่อยู่บนฝั่ง ซึ่งเป็นบ้านที่บิดาใช้อาศัยอยู่กับภรรยาใหม่รุ่นราวคราวลูก และเพราะเหตุผลนี้...ชายหนุ่มจึงไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย ถ้าไม่จำเป็น เขาชอบอยู่บนเกาะมากกว่าด้วยมันคือสถานที่ของมารดาที่เขารัก"เราแวะซื้ออะไรไปเป็นของไหว้คุณพ่อหน่อยดีมั้ยคะ""ไม่จำเป็น เพราะถึงเธอไหว้ไป พ่อฉันก็ไม่รับไหว้หรอก"แค่คำพูดของเขาก็ทำเอาหญิงสาวคิดหนักแล้ว ว่าจะรับมืออย่างไรดีคนลูกยังแทบเอาชีวิตไม่รอด คนพ่อจะไปเหลืออะไร ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง อย่างน้อยวิวข้างทางคงพอทำให้สงบจิตใจได้บ้าง ทว่าหันมองไปทางอื่นได้ไม่ถึงหนึ่งนาที เสียงเข้มของสหรัฐก็ดังขึ้น"ฉันหิว หยิบขนมข้างหลังมาแกะให้หน่อย"เธอไม่ได้ตอบรับแต่ก็ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย มือเล็กแกะถุงขนมออกแล้วยื่นส่งให้แก่ชายหนุ่ม เขาหันมองซองขนมแล้วขมวดคิ้วยุ่ง"ไม่มีตาเหรอฮะ เห็นมั้ยว่าฉันขับรถอยู่ แล้วฉันจะหยิบขนมกินยังไง""ก็รอขับเสร็จก่อนแล้วค่อยกินไม่ได้เหรอคะ บ้านพ่อคุณอยู่ไกลนักหรือไง"เธอเถียงกลับ ไม่เข้าใจเลยว่าเขาต้องการให้ทำอะไรกันแน่ คนอะไรจะโมโหได้ทั้งวี่ทั้งวันแบบนี้ ไม่เหนื่อยบ้าง
บทที่ 16 ตีทะเบียน"เราจะไปไหนกันต่อเหรอคะ"เสียงหวานเอ่ยถามเมื่อขับรถออกมาจากบ้านบิดาของเขาได้สักพัก แต่ร่างสูงไม่ยอมพูดอะไรเลย เอาแต่ทำหน้าโมโหอย่างเดียวเท่านั้น"ไปอำเภอ""ไปทำไมคะ"ในใจเต้นระส่ำไม่น้อย เธอหวังว่าคงจะไม่ใช่แบบที่คิดหรอกนะ"ไปขอเข้าห้องน้ำ ฉันปวดท้อง""ระ...เหรอคะ"ทั้งที่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่กลับแอบใจแป้วราวกับกำลังเสียดาย"เธอเชื่อเหรอ ใครบ้างจะไปอำเภอเพื่อขอเข้าห้องน้ำ ฉันไปทำธุระต่างหาก"สหรัฐชำเลืองมองหน้าสวยที่เริ่มยู่ พร้อมส่ายหน้าช้า ๆจะซื่อไปไหน…"ธุระอะไรเหรอคะ?"ชายหนุ่มกลอกตาไปมาด้วยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกอย่างไรดีไม่ให้ดูเสียฟอร์มมากจนเกินไป คนรอฟังก็ลุ้นคำตอบจนเหงื่อผุดที่กรอบไรผม ทั้งที่แอร์ในรถเย็นเยียบ"อำเภอเขามีไว้ทำอะไรล่ะ""คุณคงไม่ได้จะพาฉันไปจดทะเบียนสมรสหรอกใช่มั้ยคะ"“……”ไม่มีการตอบรับใด ๆ แต่นั่นก็ทำให้คนตัวเล็กหน้าเริ่มขึ้นสีด้วยความเขินอาย ร่างกายร้อนผ่าวพลางจินตนาการไปก่อนแล้วว่ากำลังจรดปากกาเซ็นลายมือชื่อลงบนกระดาษแสนสำคัญ"ฉันดีใจนะที่รู้ว่าเธอยังมีสมอง แล้วนึกได้ว่าฉันกำลังจะพาไปทำอะไร""จะดีเหรอคะ จดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องใหญ่นะ
บทที่ 17 เป็นห่วง (1)เมื่อพากันกลับมาถึงเกาะพิมพ์พธูก็เดินแยกจากเขาเข้าบ้านไปทันที ปล่อยให้อีกฝ่ายจัดการคุยธุระกับลูกน้องที่มารอคุยเรื่องงานกันตามลำพัง เธออยากจะไปเยี่ยมบิดาในวันนี้ ทว่าชายหนุ่มก็ไม่อนุญาตแล้วพาเธอกลับมา หญิงสาวหลบเข้ามาอยู่ในห้องนอนคนเดียว เมื่อมองออกไปไม่ว่าจะทางไหนก็รู้สึกถึงความเหงาและอ้างว้างการแก้แค้นของเขา คงเป็นการทำให้เธอไม่เหลือใครเลยสินะ ในตอนนี้พิมพ์พธูรู้สึกได้ว่าเธอมีแค่ตัวเองเท่านั้น ร่างเล็กนั่งกอดเข่าของตัวเองไว้บนโซฟาตัวยาวกลางห้อง หน้าสวยหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก่อนที่น้ำตาที่เริ่มรื้นขึ้นจะไหลลงจากหน่วยตา เสียงประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาพร้อมร่างสูงของคนใจร้าย"เข้ามาทำอะไรในนี้"สหรัฐเดินตามเข้ามาหลังจากคุยงานกับลูกน้องเสร็จ เขามองพิมพ์พธูด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจนักซึ่งมันก็หน้าตาปกติของเขานั่นแหละ ที่ได้เห็นทุกครั้งเมื่ออยู่กับเธอ"ถ้าฉันเข้ามาในนี้ไม่ได้ แล้วฉันอยู่ตรงไหนได้บ้างคะ""อยู่ในที่ที่ฉันจะมองเห็น"เขาตอบกลับทันควันแบบไม่มีคิดไตร่ตรอง คำตอบนั้นทำเอาคนฟังใจเต้นแรง แม้จะพยายามบอกกับตัวเองว่าห้ามคิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ ต่อให้จะรักเขามากเพ
ตอนพิเศษ ของขวัญที่แสนพิเศษหลายปีต่อมา…“เอ้า ดื่ม!”เสียงโหวกเหวกโวยวายตามประสาผู้ชายขี้เมาดังขึ้น ธีรภัทร์ชูแก้วเหล้าไปตรงหน้าเพื่อนทั้งสี่คน ที่นัดมาดื่มสังสรรค์กันที่บ้านด้วยตัวเขาเองไม่อยากจะออกไปดื่มกินที่ไหน“พวกเราต้องกินให้เต็มที่นะเว้ย เพราะตั้งแต่ไอ้ภีมแต่งงานมีเมียเนี่ย มันเหมือนพระเข้าไปทุกวัน นอนเร็ว งดเที่ยว จนเพื่อนฝูงแทบจะจำหน้ามันไม่ได้แล้ว”เสียงหัวเราะร่วนอย่างสนุกสนานดังขึ้นอีกครั้ง“ถามจริงเถอะครับไอ้คุณภีม เมียเด็กของมึงนี่ โหดมากเหรอวะ มึงถึงได้ทำตัวเป็นลูกเสือแรกเกิดอยู่ในโอวาทเมียเสียเหลือเกิน”เสียงแซวของกันต์เพื่อนรักดังขึ้นอีกหน“มึงเมาก็กลับบ้านไปนอนไป”ธีรภัทร์ส่ายหน้าให้ ก่อนจะกระดกเหล้าในแก้วดื่มพรวดลงคอ ตั้งแต่มาถึงบ้านแต่ละคนไม่หยุดล้อเลียนเขาเรื่องเขมมิกาเลย เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบสายตาจับผิดของพวกเพื่อน ๆ“มองอะไรกัน กูไม่ได้กลัวเมีย”“พวกกูก็ไม่ได้พูดสักคำว่ามึงกลัวเมีย”เหมือนจะร้อนตัวรีบบอกออกไป แต่นั่นกลายเป็นว่าเขายอมรับแล้วสินะว่าเขามันคนกลัวเมีย“กู…”ไม่ทันได้ปฏิเสธ ก็ต้องกลืนทุกอย่างลงคอไป เมื่อร่างบางระหงเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน ใบหน้าของเ
บทที่ 30 จบบริบูรณ์ NCอาการของเขมมิกาดีขึ้นตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักตามร่างกาย มีเพียงร่องรอยฟกช้ำเท่านั้น อีกทั้งได้บุรุษพยาบาลดีทำให้สภาพจิตใจของเธอเองก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเช่นกันก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องผู้ป่วยดังขึ้นพอเป็นพิธี ก่อนที่ร่างสูงสง่าของเจ้าสัวธนาจะเดินเข้ามา ในมือของท่านมีกระเช้าของเยี่ยมติดมือไปมาด้วย มากไปกว่านั้นใบหน้าเกรงขามดุดันเวลานี้กลับประดับไปด้วยรอยยิ้มใจดีสองคู่รักหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก ธีรภัทร์ถึงขั้นขยี้ตาตัวเองด้วยไม่นึกไม่ฝันว่าจะเห็นบิดาที่นี่“สวัสดีค่ะ”มือเล็กยกขึ้นไหว้ ภาพจำในคืนดินเนอร์ยังตราตรึงไม่หาย ก็จะให้ลืมง่าย ๆ ได้อย่างไร ในเมื่อพ่อของว่าที่สามีทำหล่อนร้องไห้กลับบ้าน แถมนั่งน้ำตาแตกนานอยู่หลายชั่วโมง“เป็นยังไงบ้าง”เจ้าสัวธนาวางกระเช้าของเยี่ยมลงบนโต๊ะข้างเตียง เอ่ยถามด้วยใบหน้าปกติอย่างที่สุด ราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางแคลงใจกันมาก่อน“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ มะรืนก็น่าจะกลับบ้านได้แล้วค่ะ”เขมมิกาตอบพลางชำเลืองสายตามองคนตัวสูงด้านข้าง“พักให้หายดีก่อน แล้วค่อยกลับ ค่ารักษาพยาบาลเดี๋ยวพ่อจ่ายเอง”“คะ?”พะ พ่ออย
บทที่ 29 พี่มาช่วยแล้ว“กรี๊ด!!!”เสียงกรีดร้องของเขมมิกาดังขึ้นเมื่อชายฉกรรจ์หน้าเหี้ยมสองคนกระโจนเข้ามาแล้วลากเธอกลับขึ้นไปบนเตียง หมายจะปลุกปล้ำทำลายเธอ ที่ตรงมุมห้องหญิงสาวอีกคนที่คิดว่าเดินจากไปแล้วกำลังยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่ออัดคลิปวิดีโอ“ปล่อยนะ ปล่อยนะไอ้พวกชั่ว ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที”เขมมิกาพยายามปัดป้องไม่ให้ไอ้พวกคนชั่วข่มเหงเธอได้ ปากเล็กตะโกนร้องเรียกให้คนช่วย เวลานี้ในสถานที่แบบนี้ใครกันจะมาช่วยเธอได้ น้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าไหลพรากอาบสองแก้มบวมช้ำ ในใจคิดถึงแต่หน้าชายคนรัก‘พี่ภีมขา ช่วยขิมด้วย..’แควก! แควก!“กรี๊ด!!! ปล่อยนะ ปล่อย!”เสียงเสื้อผ้าขาดวิ่นจากการถูกกระชากดังขึ้น พร้อมเสียงกรีดร้องของเขมมิกา มือเล็กยกขึ้นปกปิดส่วนสงวนของตนเอง ร่างเล็กสั่นเทิ้มด้วยความกลัวจนสุดขีด เขมมิกาถดกายไปจนสุดขอบเตียงนอน แผ่นหลังเล็กแนบไปกับฝาบ้าน ดวงตากลมโตสั่นระริกส่ายหน้าไปมางันงก ตั้งแต่เกิดมาหล่อนไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้มาก่อนทำไมมนุษย์ถึงต่ำช้ากับมนุษย์ด้วยกันได้ลงคอ…หนึ่งในชายโฉด กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ยกมือข้างที่ถือเศษชิ้นส่วนเสื้อผ้าของหญิงสาวขึ้นมาสูดดมก่
บทที่ 28 แม่นกต่อ 2“ขิมขับเข้าไปอีกหน่อยนะลูก ห้องพักของแม่อยู่ในซอยข้างหน้านี้แหละจ้ะ”เอมอรชี้ไปที่ปากทางเข้าซอยเล็กแคบ ที่ดูยังไงรถของเธอก็เข้าไปไม่ได้“รถขิมน่าจะเข้าไปไม่ได้นะคะ ซอยเล็กขนาดนี้ เราคงต้องลงเดินแล้วล่ะค่ะ”เขมมิกาจอดรถตรงปากทางเข้า หล่อนชะโงกหน้ามองถนนเล็กน้อย ตรงนี้มันทั้งมืดทั้งเปลี่ยว ก่อนจะหันมามองมารดาที่เริ่มเมาได้ที่ หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองทางเข้าซอยอีกครั้งปล่อยแม่เดินกลับเข้าบ้านไปตามลำพังคงจะไม่ได้ มันอันตรายเกินไป ในใจก็คิดไปถึงการหาที่อยู่ใหม่ให้ผู้เป็นแม่ หญิงสาวตัดสินใจดับเครื่องยนต์แล้วเดินลงจากรถ อ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่ง ก่อนจะประคองร่างหนักอึ้งของมารดาออกมา“ไหวมั้ยคะ แม่ระวังหัวค่ะ ค่อย ๆ นะคะ เดี๋ยวขิมไปส่งที่บ้านนะ”“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกลูก กลับไปพักเถอะ อีกนิดเดียวเอง แม่เดินไปเองได้”เอมอรยกมือโบก ทำท่าจะดันร่างเล็กของลูกสาวออก ก่อนจะขาอ่อนแรงเดือดร้อนเขมมิกาต้องรีบประคองช่วย พาหิ้วปีกเดินเข้าซอยเล็กอย่างทุลักทุเล ข้างหน้ามีแสงไฟสลัว ๆ จากหลอดไฟนีออนของบ้านคน เดินไปอีกนิดก็เจอสะพานไม้เก่าข้ามคูคลอง ได้กลิ่นน้ำเน่าลอยแตะจมูก สภา
บทที่ 27 แม่นกต่อ 1“เอางี้ดีกว่า แม่ไม่อยากคลาดกับขิมอีก เดี๋ยวแม่นั่งรอแถว ๆ นี้ก็ได้ หรือถ้าขิมกลัวอายคนอื่นเดี๋ยวแม่ไปนั่งรอตรงป้ายรถเมล์ก็ได้นะลูก ดะ.. ดูนี่สิ แม่เพิ่งได้ค่าแรงมา วันนี้ให้แม่ได้เลี้ยงข้าวลูกสักมื้อเถอะนะ”เอมอรล้วงเงินในกระเป๋าผ้าออกมานับรวมเหรียญแล้วได้เงินสามร้อยหกสิบแปดบาท ซึ่งเป็นค่าแรงที่หล่อนบอกว่า แบ่งเก็บไว้จากการทำงานสามวัน ใบหน้าอิดโรยพยายามยิ้มกว้างอวดเงินในมืออย่างภาคภูมิใจ“ก็ได้ค่ะ แต่แม่รอตรงป้ายรถเมล์หรือรอตรงนี้ไม่ได้หรอก อากาศร้อนแบบนี้ได้เป็นลมเป็นแล้งกันพอดี ฝั่งโน้นมีร้านสปา ขิมว่าแม่ไปนอนรอให้เขานวดตัวให้สักสามชั่วโมงดีกว่าค่ะ เดี๋ยววันนี้ขิมจะขอลาหัวหน้าขอกลับก่อน บ่ายสามเดี๋ยวขิมไปรับนะคะ หรือถ้าแม่หิวแม่หาอะไรรองท้องก่อนได้เลยนะคะ”“อื้อ ได้ ๆ เอาตามนี้ละกัน”เอมอรพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของลูกสาว เขมมิกาหยิบธนบัตรจากกระเป๋าเงินส่งให้ผู้เป็นแม่สองพันเงินจำนวนนี้ทำเอมอรตาลุกวาว ในใจก็เริ่มคิดว่าบางทีเขมมิกาก็อาจช่วยให้หล่อนไม่ลำบากได้เช่นกันคล้อยหลังเขมมิกา เอมอรก็ล้วงโทรศัพท์มือถือที่ซ่อนไว้ใต้เสื้อออกมาก่อนจะพิมพ์ข้อความรายงานความคื
บทที่ 26 สารภาพรัก 2 NC“พี่รักขิมนะ”เสียงทุ้มกระซิบบอกรักซ้ำ ๆ คนตัวเล็กในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมอง น้ำตามากมายไหลอาบสองแก้มแดงเรื่อ ธีรภัทร์ก้มลงจูบซับสองเปลือกตาอย่างรักใคร่“พี่ภีมรักขิมจริง ๆ หรือคะ”เพราะเขาไม่เคยบอก และเธอก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้ยินคำคำนี้ออกจากปากชายหนุ่ม ผู้ชายที่ตั้งกำแพงความสัมพันธ์ตั้งแต่วันแรกที่มาเหยียบที่นี่“ถ้าไม่จริงพี่คงไม่พาเธอไปเปิดตัวกับคุณพ่อ และก็คงไม่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่าจะเลือกเธอ”การกระทำของเขาสำคัญกว่าคำพูดเสมอ ถึงแม้จะรู้แบบนั้น แต่เขมมิกาก็อยากจะได้รับคำยืนยันจากปากของเขาอยู่ดี“พี่รักขิม”“…”“รักขิมคนเดียว”ธีรภัทร์โน้มใบหน้าลงมาอีกครั้ง สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดกันและกัน เขมมิกาหลับตาพริ้มปล่อยตัวปล่อยใจรับจูบอ่อนหวานจากเขา เรียวลิ้นสากชำแรกเข้ามาในโพรงปากเล็ก วงแขนแข็งแรงกอดรัดเอวบางแนบแน่น มือข้างหนึ่งบีบขยำเต้าอวบหนักสลับเบาปลุกเร้าอารมณ์คนในอ้อมกอด ก่อนจะใช้มือเพียงข้างเดียวปลดกระดุมเสื้อทั้งหมด ก่อนจะสอดมือไปปลดตะขอบราเซียและเปลื้องทุกอย่างออกในคราเดียวกัน นิ้วโป้งบีบบี้เม็ดทับทิมสีเรื่อจนเขมมิกาเสียวสะท้านไปทั้งร่าง ส่งเสียงค
บทที่ 25 สารภาพรัก 1“ไหน ๆ ก็ตัดชุดให้คนอื่นใส่มานักต่อนักแล้ว หาเวลาว่างตัดชุดให้ตัวเองบ้างสิ”หลังจากบนโต๊ะอาหารเงียบไปหลายอึดใจ เจ้าสัวธนาก็เริ่มชวนคริมาพูดคุยอีกครั้ง“คะ?”“ภีม ช่วงนี้งานที่บริษัทก็ไม่ค่อยยุ่งแล้ว มีเวลาก็ไปวัดตัวให้เรียบร้อย กว่าจะถึงฤกษ์ที่ซินแสให้มาก็อีกหลายเดือน หนูครีมรอได้ใช่ไหมลูก”“คุณพ่อครับ!!”ธีรภัทร์ปรายสายตาไปทางบิดาเมื่อรู้ความหมายในสิ่งที่เจ้าสัวต้องการสื่อ ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านจะใช้วิธีนี้มามัดมือชก มือข้างหนึ่งของเขากุมมือเขมมิกาแน่น“หรือว่าช้าไป จันพรุ่งนี้เธอนัดซินแสให้เข้ามาพบฉันหน่อย หนุ่มสาวสมัยนี้ใจร้อนจริงเชียว หนูครีมอย่า...”เพล้ง!เมื่อบิดาไม่คิดไว้หน้ากัน ความอดทนอดกลั้นก็จบลง ธีรภัทร์ปัดแก้วน้ำลงพื้น เสียงของมันดังพอที่จะทำให้ทุกคนหยุดพูดและหันมามอง“ลุกขึ้น!”เขาใช้มือข้างที่กุมมือเขมมิกากระตุกรั้งให้หญิงสาวลุกขึ้นยืน“พี่ภีมคะ”ท่าทีแบบนี้ของเขาไม่บ่อยนักที่จะได้เห็น ทว่าก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เคยมี เขมมิการู้ดีว่าเวลานี้อารมณ์ของเขาถึงจุดเดือดแล้ว นอกจากห้ามปรามไม่ได้ เธอยังต้องทำตัวเป็นพวกเดียวกันกับเขาอีกด้วยธีรภัทร์กระชากแขนเล็ก
บทที่ 24 แขกคนสำคัญคฤหาสน์ที่ปรากฏตรงเบื้องหน้าใหญ่โตโอ่อ่าสมฐานะตระกูลที่มั่งคั่งอันดับต้น ๆ ของประเทศ เขมมิกายืนนิ่งไม่ไหวติง รอให้ธีรภัทร์ก้าวลงจากรถมาหยุดยืนเคียงข้างกัน มือใหญ่หงายฝ่ามือออกให้เธอได้จับ พร้อมพยักหน้าให้กำลังใจเมื่อสัมผัสได้ถึงเหงื่อชื้นของฝ่ามือเล็ก“พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ”เขาบีบมือหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะพาเขมมิกาเดินเคียงคู่เข้าบ้านไปด้วยกันขาเรียวสั่นเล็กน้อยขณะก้าวผ่านพ้นประตูบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับคนละโลกกับที่เธอมา หน้าเล็กแหงนขึ้นเล็กน้อยมองแชนเดอเลียร์เหนือศีรษะแสงระยิบระยับจากคริสตัลนับพันกระทบนัยน์ตาจนแทบพร่าเลือนนี่บ้านคนหรือวังกันแน่...หญิงสาวกระตุกเกร็งเล็กน้อยเมื่อหันสายตาไปสบกับพวกแม่บ้านที่ยืนรอต้อนรับชายหนุ่ม เขาคงรับรู้ได้ถึงความประหม่าของเขมมิกาเมื่อฝ่ามือหนาบีบแน่นขึ้นจนเธอต้องเงยหน้ามองเขา“ไม่ต้องกลัวนะขิม มีพี่อยู่ด้วย”“ค่ะ พี่ภีม”เขาใช้มืออีกข้างซับเม็ดเหงื่อบนจมูกเล็กให้ ก่อนจะพาหญิงสาวไปยังชั้นสองของบ้าน ด้วยเวลานี้บิดาของเขามักจะขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานก๊อกๆ ก๊อกๆ“เข้ามา”เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของเสียงทรงอำนาจ ชายหนุ่มก็เปิดปร
บทที่ 23 เงินสำคัญกว่า“กะ แกเป็นแม่ของเขมมิกาเหรอ”คริมาจิกหัวถามซ้ำด้วยไม่อยากจะเชื่อ แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนยันหนักแน่นหล่อนก็ไม่มีอะไรต้องคลางแคลงใจ“ใช่จ้ะ ฉันเนี่ยแหละ แม่ของเขมมิกา”แหงล่ะ ลูกสาวที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย มันจะมีแม่ที่มีสภาพเป็นนางฟ้านางสวรรค์ได้อย่างไรล่ะ“คุณจันบอกให้ฉันมาหาคุณที่นี่ คุณจะให้เงินฉันหากฉันบอกว่าตัวเองเป็นใคร”เอมอรรีบพูดถึงเรื่องเงินทันที คริมาแสยะยิ้มดูถูก กอดอกมองสภาพน่าสมเพชของอีกฝ่าย“แกทำงานอะไร”“เอ่อ… ฉันไม่ได้ทำงานมาหลายปีแล้วจ้ะ”ตั้งแต่เลิกรากับสามีใหม่อย่างชัยณรงค์ เอมอรก็ถูกเตะกลับมายังประเทศไทย หล่อนเร่ร่อนไม่ได้ทำงานทำการเป็นหลักแหล่ง นอกจากรับจ้างล้างจานตามร้านอาหารตามสั่งโต้รุ่ง กวาดถนน ได้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้ตัวเองมีเงินซื้อข้าวครบสามมื้อ......และซื้อเหล้า“แล้วได้ติดต่อกับลูกสาวบ้างหรือเปล่า”“ไม่ได้ติดต่อเลยจ้ะ ฉันไม่ได้ติดต่อกับยัยขิมมาหลายปีแล้ว”เอมอรรีบส่ายหน้า เรื่องลูกสาวถือเป็นของแสลงที่หล่อนไม่อยากยุ่งเกี่ยว กลัวว่าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ“แสดงว่าแกคงไม่รู้เลยสินะ ว่าตอนนี้ลูกส