บรรยากาศเช้านี้ดูสดใสกว่าทุกวัน ราวกับเป็นวันแห่งฤกษ์งามยามดีสำหรับดาวเหนือ หญิงสาวตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า นับเป็นครั้งแรกเลยดีกว่าที่เธอตื่นเร็วมากขนาดนี้ แล้วยังรู้สึกตื่นเต้นประหนึ่งตนเองเป็นหญิงสาวที่เพิ่งแต่งงาน
ใช่แล้ว ดาวเหนือรู้สึกแบบนั้นจริงๆ การได้เข้ามาอยู่ในบ้านของคนที่ชอบมันช่างเป็นอะไรที่มีความสุขดีแท้ และเพื่อเป็นการเอาใจสามีในอนาคต และเพื่อไม่ให้เขาหลุดมือไปไหน เธอจึงยอมลงทุนตื่นตั้งแต่ไก่โห่ไปจ่ายตลาดมาทำอาหารให้กับเขา
วันนี้ดาวเหนือเลือกสวมชุดเดรสสีครีมยาวถึงตาตุ่ม แต่งหน้าจัดเต็มสีปากแดงฉูดฉาด เธอพร้อมมากกับการไปตลาดครั้งแรก พกความมั่นใจไปเกินร้อย
และครั้งนี้ ก็เป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน
การไปตลาดได้สร้างรอยจารึกไว้ในหัวใจของเธอ...
“กรี๊ดด ขับรถดีๆ ไม่เป็นกันหรือไงย๊ะ!”
“หยี๋ แล้วนี่อะไรอีก อะไร!”
“เฮ้ยไม่นะ ฮืออ ทิวเขาช่วยด้วยยยย!!”
ใช่แล้ว การไปผจญภัยตลาดครั้งนี้ไม่ได้สวยหรูเลย กลับกลายเป็นดั่งฝันร้ายให้ผวาทุกครั้งยามนึกถึง...
ทิวเขาตื่นมาในเวลาปกติของทุกๆ เช้า เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกมาเข้าครัวเพื่อทำอะไรทาน เมื่อออกมาก็ถึงกับแปลกใจ ครัวที่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อย บัดนี้เหมือนรังหนูดีๆ ที่เอง ข้าวของเกลื่อนกลาดจากการถูกรื้อ ทิวเขาถอนใจ เขารู้ทันที่ว่าคุณหนูจอมป่วนก่อเรื่องเข้าให้แล้ว
“ไปไหนของเขาแล้วล่ะ เพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่งเอง คงไม่ไปมอเร็วขนาดนี้หรอกมั้ง”
แกร็ก
พูดไม่ทันขาดคำ เสียงประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัว
“คุณเป็นใคร เข้ามาที่ห้องผมได้ไง” ทิวเขาทำเสียงเข้มพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฮือออ ทิวเขาช่วยดาวเหนือด้วย”
“ดาวเหนือเหรอ นี่คุณไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย”
จะไม่ให้เขาพูดแบบนั้นได้อย่างไรก็ดูสภาพของเธอในตอนนี้เถอะ หัวฟูกระเซอะกระเซิง ใบหน้าก็ดำกระด่าง เสื้อผ้าเลอะเทอะไปหมด
“ก็หมา... โอ้ย ซี้ดดด หมาบ้าที่ตลาดน่ะสิ เป็นผู้ชายอะไรไม่ให้เกียรติผู้หญิงเอาซะเลย”
ดาวเหนือกลับมาถึงห้องด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเศษผัก ชุดสีครีมที่ใส่ไปก็กลายเป็นสีตุ่นมอมแมม ใครที่มองมาก็คิดว่าไม่ต่างจากคนเร่ร่อน ทิวเขายิ้มขำกับสภาพที่เห็น ยิ่งได้ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายเล่าก็ยิ่งขำหนักกว่าเดิม เขาเดินเข้าไปช่วยเธอถือของที่ไปจ่ายตลาดมาเอากลับไปไว้ยังเคาน์เตอร์ที่ห้องครัว
จากทีแรกจะโกรธก็โกรธไม่ลงเสียแล้ว
“ขำอะไรเล่า นี่ดาวเหนือเจ็บอยู่นะ”
“ก็ขำให้กับความเฟอะฟะของคุณไง ใครเขาสอนให้ใส่ชุดแบบนี้ไปจ่ายตลาด ไหนจะหน้านี่อีก คุณรีบไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวผมทำอาหารให้ทานเอง”
“จริงเหรอ งื้ม ขออร่อยๆ เลยนะคะ”
ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบกระเขยงปลายเท้าขึ้น แหงนหน้าเข้าไปใกล้ทิวเขา ก่อนที่เธอจะ...
จุ๊บ!
“เฮ้ยคุณ ทำบ้าอะไรเนี่ย!”
ทิวเขาโวยวายขณะยกมือถูแก้มตัวเอง เขาไม่ได้รังเกียจปากเธอขนาดนั้น เพียงแต่ตกใจจนทำตัวไม่ถูกนั่นแหละ
“แหมมม...ก็จูบสุดที่รักไงคะ”
ยิ่งฟัง ทิวเขาชักหน้ามืด เธอนี่มันตัวร้ายกาจเสียจริง
“ฮ่าฮ่า จะรอทานฝีมือของสุดหล่อนะคะ”
ดาวเหนือทำท่าทะเล้นใส่ทิวเขาก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำ
ทิวเขามองคนตัวเล็กหายเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อสักครู่เขายังเห็นน้ำตาเธออยู่เลย แล้วไหงตอนนี้ถึงได้เห็นรอยยิ้ม และเสียงร้องเพลงดังออกมาจากห้องน้ำด้วยเล่า
ให้ตาย ผู้หญิงอะไรแปลกชะมัด และความแปลกนั้นก็ทำให้เขาเลิกขุ่นเคืองใจ มีรอยยิ้มขึ้นมาแทน
ทิวเขาตั้งสติก่อนจะลุกขึ้นมาสำรวจสิ่งที่อีกฝ่ายไปจ่ายตลาดมา
“ใช้ได้นี่ เลือกของได้ดีเลย”
เขาเริ่มลงมือทำอาหารด้วยความชำนาญ ไม่มีอะไรที่คนอย่างเขาจะทำไม่เป็นอยู่แล้ว เมนูในวันนี้ได้แก่ ผัดผักใส่เนื้อหมู กับต้มจืดสักชาม สำหรับเขาแล้วการกินอาหารเช้าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะแบบนั้นเขาถึงได้ทำอาหารเองทุกวัน
แต่ในระหว่างนั้น...
“ทิวเขา ทิวเขา!!”
“อะไรอีกล่ะครับ”
“ช่วยไปหยิบผ้าเช็ดตัว กับชุดในห้องให้หน่อยได้ไหมคะ”
“หือ? คุณจะให้ผมไปหยิบให้เนี่ยนะ”
“ก็ตอนนี้ออกไปไม่ได้ไง หรือจะให้แก้ผ้าออกไปเอาเองล่ะ”
เจอประโยคนั้นลอยมา ทิวเขาถึงกับใจเต้นแรง เขาเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนี้ทำได้อย่างที่พูด จึงฝืนใจตกปากรับคำ
“รอก่อนล่ะกัน”
ทิวเขาไม่มีทางเลือกได้แต่ทำตามที่อีกฝ่ายร้องขอ เขาค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องของหญิงสาว สายตาของเขาสอดส่องไปมาก็เห็นชุดที่อีกฝ่ายเตรียมไว้พร้อมกับผ้าเช็ดตัว เมื่อได้ของที่ถูกต้องมาแล้วก็ตั้งท่าหมุนตัวเอาของไปให้ตัวป่วน
ทว่า...
“เฮ้ย คุณ”
เมื่อหันหลังมาเขาก็ต้องตกใจเพราะสิ่งที่อยู่ข้างหน้าคือดาวเหนือตัวแสบที่บอกไม่มีผ้าขนหนู บัดนี้ออกมายืนตรงหน้าเขาด้วยผ้าขนหนูที่รัดหน้าอกไว้ผืนสั้นๆ
“ทิวเขาจะตกใจทำไมล่ะคะ คนกันเอง”
หื้อ...มีหน้ามาถาม เขาเป็นผู้ชายนะ เธอไม่คิดจะอายบ้างหรืออย่างไรกัน
“คุณเป็นผู้หญิงนะครับ มันดูไม่งาม”
“ไม่งาม? ให้ตาย ทิวเขาเป็นคนแรกเลยนะที่พูดแบบนี้น่ะ รู้ไหม ผู้ชายเกือบทั้งมหาลัยเขาอยากได้ดาวเหนือกันขนาดไหน”
เธอเดินเข้าไปใกล้อีกนิด พร้อมทั้งยกแขนเรียวทั้งสองข้างขึ้นไปคล้องคอของเขา โดยที่ปากของเธอนั้นยังคงกล่าวยั่วยวนอีกฝ่ายไม่หยุด สายตากระต่ายน้อยเจ้าเล่ห์ของดาวเหนือก้มต่ำไปยังกางเกงของเขา อะไรๆ ที่เคยมองไม่เห็นยามปกติ เวลานี้มันนูนฟ้องขึ้นมาเด่นชัดเลยเชียว เธอรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังอดทนข่มความเป็นชายไว้ในใจอยู่
'อาการแบบนี้ แผนฉันสำเร็จแล้วสินะ'
ดาวเหนือคิดในใจ ขณะสบสายตาทิวเขาที่เผลอจ้องตอบพอดี
“คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้”
ดาวเหนือสะดุ้งเล็กน้อยในยามที่อีกฝ่ายใช้ฝ่ามือจับเข้ามายังเอวของเธอ ทิวเขาเห็นท่าทีของเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคงจะไม่เคย ที่ทำมานี่คงจะอวดเก่งสินะ
“หึ”
ทิวเขายักยิ้มที่มุมปาก สายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นดาวเหนือไม่เคยเห็นมาก่อน พอได้เห็นก็ทำเอาเธอถึงกับกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ ไหนจะมือร้อนๆ ที่เริ่มจะบีบเค้นเอวเธอนั่นด้วย จากใจกล้าอยากลองเล่นของเสียหน่อย กลายเป็นฝ่ายปอดแหกเสียเอง
บ้าเอ้ย ไม่คิดว่าพอเขาเล่นด้วย เธอกลับไม่กล้าดันต่อเสียอย่างนั้น
จากที่บอกว่าเขามันเด็กน้อย พอเอาเข้าจริงแล้วกลับเป็นเธอเสียเองที่ดีแต่ปาก
“ระ...เราออกไปกินข้าวกันดีกว่าเนอะ เดี๋ยวจะสายเอา”
จบประโยคเธอก็รีบคว้าเสื้อผ้าจากในมือเขา แล้วรีบโบกมือไล่เขาออกไปทันที ทิวเขามองเธอนิดหนึ่งก่อนที่เขาจะยอมออกไปแต่โดยดี พอประตูปิดลงแล้ว ดาวเหนือทรุดนั่งบนเตียง ตบอกตัวเองเบาๆ
“โอ๊ยย เสียหน้าชะมัด!”
เมื่อมีข่าวแพร่กระจ่ายออกไปว่าดาวเหนือมาทำงานในคาเฟ่ ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้ามาเต็มร้านแทบไม่มีที่ยืน ในทุกวันก็จะมีแต่แฟนคลับดาวเหนือเป็นส่วนใหญ่
“พี่เมฆ ผมว่าคนมันเยอะไปหรือเปล่าครับ”
“แบบนี้สิดี ร้านเราไม่มีลูกค้าผู้ชายมานานแล้วนะ”
“เฮ้อ...”
“เอาน่า ทำไปเถอะเราน่ะ” เมฆตบบ่าทิวเขาก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “เออพี่มีอะไรจะถาม”
“ครับ?”
เมฆเขยิบเข้าไปใกล้ทิวเขามากขึ้น เอามือป้องปากกระซิบให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
“นี่พี่รู้ได้ยังไง!!”
“เบาๆ สิวะ ว่าแต่จริงไหมล่ะ”
“ก็จริงแหละครับ”
“เอาเว้ยๆ น้องพี่มันจะมีแฟนแล้วเว้ย”
“พี่นี่ก็ว่าไปเรื่อย มันไม่มีอะไรหรอกครับ ผมขอไปเสิร์ฟโต๊ะนั้นก่อนนะ”
“เออๆ จะคอยดูแล้วการ” เมฆพูดด้วยท่าทีทะเล้น ก่อนจะยอมปล่อยให้ทิวเขาทำงานต่อ
“น้ำส้ม เค้กเวลเวทได้แล้วครับ ทานให้อร่อยนะครับ” ทิวเขายิ้มให้ลูกค้าเล็กน้อย
“เอ่อคือ พี่คะ”
“ครับ มีอะไรให้ช่วยครับ”
“พี่มีแฟนหรือยังคะ”
เจอคำถามแบบนี้เขาควรตอบยังไงดี แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะตอบไปตามความจริง
“ยังครับ” ถึงแม้ทิวเขาจะไม่อยากคุยเรื่องนี้แต่ถ้าลูกค้าถามก็ต้องตอบไปตามมารยาท
“หนูขอจีบพี่ได้ไหมคะ นี่ค่ะของขวัญ หนูนั่งพับหัดทำช็อคโกแลตหัวใจทั้งวันทั้งคืนเลยนะคะ”
ทิวเขามองขวดโหลแก้วทรงสูง ภายในบรรจุช็อคโกแลตไว้จนเต็มขวด เขาลอบถอนใจนิดหน่อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่แฝงความชัดเจนในความรู้สึก
“อย่าเลยครับ พี่ยังไม่อยากมีใคร ขอโทษนะครับ” ทิวเขาปฏิเสธไปตามตรง ก่อนจะขอตัวเดินกลับมายังเคาน์เตอร์ประจำของตนเอง
ในทางกลับกัน ผิงผิงที่เข้าร้านมาพอดีก็เห็นว่ามีรุ่นน้องมาสารภาพทิวเขา เธอรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าอะไร
'อย่าเลยครับ ผมยังไม่อยากมีใคร ขอโทษนะครับ'
นั่นล่ะ คือประโยคปฏิเสธประจำตัวของทิวเขาเลย ผิงผิงยิ้มนิดๆ อย่างคิดอะไรออก จึงเดินเข้าไปหาน้องคนที่สารภาพทันที
“สวัสดีจ้ะ ชอบพี่ทิวเขาเหรอ”
“คะ?” อีกฝ่ายถึงแม้จะงุนงงแต่ก็เดาได้ไม่ยาก “พี่เป็นเพื่อนพี่เขาเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ เราคงจะเจอเพื่อนพี่ได้ไม่นานสินะเลยไม่รู้”
“ค่ะ หนูมาที่นี่ได้สี่ห้าครั้งเองค่ะ”
“อ่อ อย่าไปถือสาเพื่อนพี่เลยน้า มันก็อย่างงี้แหละ”
“ค่ะ หนูเข้าใจ”
“ให้พี่ช่วยจีบไหม”
“จะช่วยหนูเหรอคะ ทำไม”
“พี่มองตาเราพี่ก็รู้เลย ว่าเราน่ะเป็นคนจริงใจขนาดไหน พี่ชื่อผิงผิงนะจ้ะ น้อง…”
“น้ำฝนค่ะ หนูชื่อน้ำฝน”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะจ้ะ”
ผิงผิงแลกช่องทางติดต่อกันอีกนิดหน่อยก่อนจะลุกเดินไปหาทิวเขา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ดาวเหนือต้องเข้างานพอดี
“สวัสดีค่ะพี่ดาวเหนือ”
เอากองไว้ตรงนั้นแหละ”
ดาวเหนือเมินใส่ผิงผิงก่อนจะมุ่งไปใส่เสื้อกันเปื้อน การกระทำของดาวเหนือถึงแม้จะไม่ถูกใจผิงผิงนัก แต่เธอก็ทำเป็นยิ้มกลับ
'เฮอะ มั่นไปให้นานเถอะ เดี๋ยวแกก็ต้องถอยอยู่ดี'
ผิงผิงนึกสนุกไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ดาวเหนือเข้ามาทำงานในคาเฟ่แล้วเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ที่ผ่านมาเมฆเห็นว่าทั้งดาวเหนือและทิวเขาต่างก็ทำงานกันอย่างหนัก แถมยอดขายยังสูงขึ้นถึงสามเท่าตัว เมื่อเห็นเช่นนี้เมฆจึงมีความคิดเพิ่มวันหยุดพิเศษให้พวกเขาสักหน่อยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ“หน้าบานเลยนะคะพี่เมฆ เป็นไง ฝีมือฉันเองแหละ” ดาวเหนือพูดด้วยความภูมิใจเต็มเปี่ยม“แน่นอนสิน้องดาวเหนือ นี่มันสถิติสูงสุดที่เคยทำมาเลยนะ ต้องขอบคุณน้องดาวเหนือเลยที่มาช่วย”“ว่าแต่วันหยุดจะไปไหนกันล่ะ”“ดาวเหนือยังไม่รู้เลยค่ะ” หญิงสาวทำเป็นกระซิบกระซาบ “กะว่าจะชวนทิวเขาไปเดทสักหน่อยค่ะ”“ฮ่า ฮ่า พี่เอาใจช่วย”“หื้อ...น่ารักตลอดเลยพี่เมฆเนี่ย”“คุยอะไรกันครับ” ทิวเขาเห็นทั้งสองคุยกันหัวเราะคิกคักอดไม่ได้ที่จะถามไถ่“เปล่านี่ ใช่ไหมพี่เมฆ”“อ๋อ...ใช่ๆ”ทิวเขาหรี่ตาลงเล็กน้อย เขามองทั้งคู่ด้วยสายตาที่เหมือนกำลังจับผิดอะไรใครสักอย่าง แต่ก็ไม่เห็นพิรุธชัดอะไร จึงเปลี่ยนมาคุยกับเจ้าของ“ผมเคลียร์เคาน์เตอร์เสร็จแล้วนะครับพี่เมฆ เดี๋ยวผมกลับก่อนนะครับ”“เดินทางดี เที่ยวให้สนุกนะ”“ไปก่อนนะพี่เมฆ” ดาวเหนือโบกมือให้เจ้าของร้าน“โชคดีๆ”“รอด้วยสิทิวเขา!”เธอตะโกน
ผู้หญิงสวยหุ่นดี แต่งตัวเซ็กซี่ หน้าอกใหญ่ สะโพกกลม และไหนจะขาที่เรียวยาว สวยไปหมดนั่นอีกสิ่งเหล่านี้ประกอบเข้าเป็นผู้หญิงที่ชื่อดาวเหนือ คนที่เขาคิดไว้ว่าจะไม่มีวันสนใจ แต่ทำไมเวลานี้ ใจเขาต้องเต้นแรงเมื่อเธอบอกว่าจะไปกับเพื่อนต่อแล้วครู่เดียว ทิวเขาก็ได้เห็นรูปที่เธอส่งมา เขาเปิดดูทันทีด้วยความรีบร้อน ซึ่งก็ไม่รู้อีกว่ากลายเป็นคนอยากรู้อยากเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ภาพที่เห็น คือผับหรูที่มีแต่แสงสลัว และกลุ่มคนที่ยืนเบียดกันจนแน่นขนัด ดาวเหนืออยู่กลางวงล้อมของเพื่อนชายทั้งสาม ท่าทางสนุกสุดเหวี่ยง เธอแอ่นสะโพกไปด้านหลังเฉียดชนกับเพื่อน ส่วนมือวางแหมะที่หน้าอกของเพื่อนอีกคนโดยไม่คิดที่จะหวงเนื้อหวงเนื้อเลยสักนิดขัดใจ! ใช่ มันแทบทนมองต่อไม่ได้ในใจของทิวเขาอัดแน่นไปด้วยคำถามหลากหลายอย่างทำไมเธอถึงกล้าไปกับผู้ชายยามดึกแบบนี้?ทำไมถึงไม่รีบกลับมาพักผ่อน?คิ้วเข้มทั้งสองขมวดติดกันอย่างไม่เคยเป็น อีกใจก็นึกอยากจะไปตาม อีกใจก็คิดว่าทำไมเขาต้องไปตามเธอด้วยล่ะ นี่เขากำลังเป็นอะไรเนี่ย“นอนซะทิวเขา ก็แค่คนเที่ยวเก่งจนติดนิสัย จะไปใส่ใจด้วยทำไม”เวลาผ่านไปเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงชายหนุ่มรูปงามที่มีน
ปกติแล้วดาวเหนือจะชื่นชอบในการมองท้องฟ้ายามแดดออกเป็นที่สุด เพราะเจ้าตัวคิดว่ามันช่างสวยงาม ละมุมไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน แต่สำหรับวันนี้แล้ว ท้องฟ้าในสายตาเธอกลับไม่สวยเอาเสียเลยเป็นเวลาห้าโมงเย็น หญิงสาวเดินออกจากห้องนอนด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยสดใสนัก เธอเดินหน้าบึ้งไปยังห้องครัวหวังจะหายาแก้อาการปวดหัวกินสักหน่อย ดูๆ ไปแล้ว เหมือนเธอกำลังจะมีไข้“ลมอะไรหอบเธอกลับมา”ไม่ต้องหันไปมองเธอก็สามารถเดาได้เลยว่านั่นคือใครก็นังแม่เลี้ยงตัวดียังไงล่ะ!“ไง ยังไม่ตายอีกเหรอ” ดาวเหนือตอบด้วยอารมณ์หงุดหงิด บอกตามตรง จากที่แย่พออยู่แล้ว มาตอนนี้เธอรู้สึกเลยว่ามันน่าหัวเสียสุดๆ“ก่อนจะพูดอะไรดูสภาพตัวเองบ้างเถอะ”อีกฝ่ายเบ้ปากมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเออ มันก็จริง ดาวเหนือไม่แปลกใจหรอกกับคำพูดของยัยแม่เลี้ยง เพราะตั้งแต่เมื่อคืนเธอก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เครื่องสำอางก็ยังเช็ดออกไม่หมดเลยด้วยซ้ำ“รีบๆ กลับไปในที่ของเธอได้แล้ว อีกสักพักพ่อเธอก็จะกลับมาแล้ว”“ที่ของฉันน่ะเหรอ” ดาวเหนือแค่นหัวเราะ พลางปรายตามองคนพูดแบบหัวจรดเท้าบ้าง“ก็นี่ไง...ที่ของฉัน ส่วนที่เธอเหยียบใต้เท้าก็อาณาเขตของฉัน แล้วมีสิทธิ์อะไรมาแห
“แม่!!!”ดาวเหนือสะดุ้งตื่นกลางดึก เธอหันมองรอบๆ บริเวณที่ตัวเองอยู่ จึงรู้ว่านี่คือห้องของธามเพื่อนสนิทของเธอเองและก่อนที่ดาวเหนือจะตั้งสติอะไรได้ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับธามที่รีบวิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง“เป็นอะไรดาวเหนือ ฝันร้ายเหรอ”ร่างเล็กนั่งคดตัวกอดเข่าทั้งสองข้างเอาไว้แนบอก ตาทั้งสองข้างบวมเปล่ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“ไม่เป็นไรนะ ธามอยู่ตรงนี้แล้ว”ธามเห็นท่าทีของเพื่อนไม่ดีนักจึงเอื้อมแขนไปดึงตัวเธอเข้ามาโอบกอด คำพูดเขาก็ออกจะอบอุ่นเมื่อต้องปลอบคนกำลังฝันเสีย“ฮึก ไม่เหลืออะไรแล้ว กูไม่เหลือใครแล้ว”ธามกอดเธอไว้แน่น ใช้มือแปะๆ หลังของเธอเป็นการตอกย้ำว่าเพื่อนคนนี้จะไม่หายไปไหนและยังคงอยู่ข้างเธอเสมอ“ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ ฮือ ไม่มีใครรักเลย ทำไมทุกคนต้องทิ้งไปด้วย”“ไม่เป็นไรนะ ดาวเหนือยังมีธาม มีณัฐ มีพู่กัน คนเรามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด เป็นเรื่องธรรมดา”“คนที่เกลียดรวมถึงพ่อด้วยไหม ทำไมอะ ดาวเหนือไม่น่ารักเหรอ หรือไม่ดีตรงไหนกัน”หญิงสาวยังคงร้องไห้ออกมาไม่หยุด เธอเข้าใจว่ามีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียด แต่พ่อของเธอทำไมไม่รักเธอเลย ทำไมชอบทำร้ายจิต
ทิวเขามาถึงสถานบันเทิงเพียงแค่ไม่กี่นาที วันนี้เขาสวมใส่กางเกงยีนส์ขาดเข่าที่ไม่เคยใส่ กับเสื้อยืดสีดำที่ใส่เป็นประจำวันก่อนที่เข้ามาได้ก็เพราะผิงผิงพาเข้า แต่ครั้งนี้เขามาคนเดียวจึงคิดว่าควรแต่งตัวให้สมกับสถานที่สักหน่อยก็คงจะดูกลืนไปกับนักเที่ยวคนอื่นๆ ได้ทิวเขาไม่รอช้ารีบเข้าไปด้านใน เสียงเพลงดังกระหึ่มด้วยจังหวะเพลงร็อค ชายหนุ่มไม่ชอบเสียงดังที่ชวนหูหนวก มันทำให้เขารู้สึกถึงพลังด้านลบที่ไม่ดีต่อร่างกาย อาจเป็นเพราะนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ด้วยล่ะมั้ง ที่ทำให้เขาสนใจตัวเองมากกว่าจะมาเที่ยวเล่นเพราะความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวซึ่งแน่นอน ชีวิตเขามันต่างกับอีกคนที่หายหน้าหายตาไปเลยตั้งแต่วันนั้น...“อยู่ไหนของเขานะ”ทิวเขาบ่นกับตัวเองขณะเดินสอดส่องมองหาดาวเหนือ บอกตามตรงถ้าเขาไม่รู้สึกผิดก็อย่าหวังว่าเธอจะได้รับความสนใจจากเขา ผู้หญิงก๋ากั๋นแบบนั้น รู้อยู่หรอกว่าเอาตัวรอดได้ แต่ที่เขามา มันก็แค่...อยากเคลียร์เรื่องวันนั้น!ร่างสูงโปร่งเดินเบียดกลุ่มนักเต้นไปจนถึงกลางลานไฟที่คอยกระพริบยิบๆ ทำเอาเขาปวดกระบอกตาไม่น้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมคนพวกนี้ถึงชอบมาเที่ยวกันนัก ที่แบบนี้หาความสุขได้จริงหรื
“ไม่ ฉันไม่อยู่!”ดาวเหนือมองทิวเขาด้วยความประหลาดใจ คนที่ยืนตรงหน้านี้ใช่ผู้ชายที่คอยรังเกียจไล่เธออยู่ทุกวันจริงหรือ เขาเพิ่งพูดว่า ขอชดเชย... แบบนี้หมายความว่ายังไง ไม่ชอบหน้า แต่อยากให้อยู่ต่อ?บอกเลย เธอตามเกมผู้ชายคนนี้ไม่ทัน“ไม่คิดสักหน่อย ก่อนจะปฏิเสธเหรอครับ”ทิวเขาบอกเธอด้วยคำสุภาพ แล้วพอเขาทำตาอ้อนมา ใจดาวเหนือก็เต้นแรงเชียว เธอไม่เคยเห็นแววตาแสนออดอ้อนเช่นนี้มาก่อนเลยก็ยังอยากจะย้ำคำเดิม ทิวเขาในโหมดนี้...มันใช่ตัวตนของเขาจริงหรือ?!“นี่นายป่วยหรือเปล่า วันก่อนด่าฉันแทบไม่ไว้หน้า มาวันนี้กลับมาอ้อนวอน ฉันงงไปหมดแล้ว”ไม่คิดว่าเธอจะต้องมาตั้งคำถามนี้เลย คนอย่างทิวเขา เท่าที่เคยสัมผัสอยู่ร่วมห้องกันมา เขาเอาแต่หนี และคิดว่าเธอคงเหมือนเชื้อโรค พอนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วย เขาก็ทำเป็นตกใจ รีบหลบหน้า ก่อนจะคว้าชามกลับเข้าห้องไปเสียเฉยๆหรือไม่บางครั้งที่เธอใส่เพียงผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำหลังอาบเสร็จ ทิวเขาจะทำเป็นตื่นตะลึง แล้วเขาก็หลบเข้าห้องปิดประตูใส่หน้าเธอเสียงดังสนั่นเนี่ย! เขาทำกับเธอแบบนี้ทุกครั้งที่อยู่ห้องนี้แล้วหนนี้คืออะไร? เขาคิดอะไรอยู่กันแน่นะ“ผมสบายดี แต่ถ้าจะ
ดาวเหนือสะดุ้งตกใจ จู่ๆ ทิวเขาก็ลืมตา เขาพูดมาเหมือนรู้ว่าถูกเธอทำอะไรอยู่“ทำไมไม่ทำต่อล่ะครับ”“ทะ...ทำอะไร”“ก็คุณขโมยจูบผมไง”“บ้า!”ดาวเหนือร้องเสียงสูงขึ้นมาเลย เขาแกล้งหลับใช่ไหม เธอจะบ้าตาย ถึงจะเป็นผู้หญิงลั้ลลาลุยดะมาเจ็ดย่านน้ำ แต่ก็ใช่ว่าถูกรู้ทันแล้วมันจะไม่เขินนะเอาไงต่อดี?!“ผมชอบจูบของคุณนะ”“ชอบ?”“ใช่” ทิวเขายิ้มนิด ขยับตัวเข้ามาใกล้เธออีกหน่อย “จูบที่มีกลิ่นหอมจากริมฝีปากสีชมพู มันทำให้ผมตื่น”“อะ...อะไรตื่น!”พอเธอทำเสียงตระหนกอย่างนั้น ทิวเขาก็หัวเราะเบาๆ“ตาผมไงครับ ตื่นเพราะคุณมาปลุก”“อ้อ...คงปลุกให้ตื่นจนนอนไม่หลับล่ะสิท่า”“ไม่ใช่ปลุกแบบนั้นครับ ผมหมายถึง...ปลุกน้องชาย”“หือ!”ตั้งแต่เกิดมาดาวเหนือสาบานได้เลย เธอไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนรุกแรงเงียบแบบนี้มาก่อนเลย พออยากให้เธออยู่ต่อ เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยหรือไหนว่าไม่ชอบกันไง?!“ฝีปากทิวเขาก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย พูดอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอ”“แล้วชอบหรือเปล่าล่ะครับ”“ชะ...ชอบอะไรอีกละ”“ก็ชอบตัวผม ชอบแก้มผม และก็ชอบ...น้องชายผม”“บ้าาา!”ดาวเหนือหน้าแดงก่ำ หูตาเหล่อไปหมด ทิวเขาร้ายมาก เขากำลังทำให้เธอใจแตก ทั้ง
ชายหนุ่มก้มหน้าลงประทับจูบลงบนริมฝีปากของดาวเหนือ สัมผัสที่อ่อนนุ่ม ปากประกบปาก เป็นอะไรที่เหมือนอยู่ในเทพนิยาย ดาวเหนือคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงที่มีเจ้าชายรูปงามมาจุมพิตไม่ใช่แต่ปากชนกันธรรมดา เสือซ่อนเล็บอย่างทิวเขาแทรกลิ้นชอกซอนเข้าในโพรงปาก กระหวัดดูดดึงกับลิ้นของเธอ เขาชำนาญเหมือนคนเคยทำบ่อย ในขณะที่เธอ ผู้ผ่านศึกจูบมาหลายครั้งกลับเหมือนไก่อ่อนไปเลยเชียว!ร่างบางส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ เธอพอใจกับจูบของเขามาก ทิวเขากำลังทำให้ดาวเหนือพบกับคำว่า น้องสาวหลั่งน้ำ...เพียงเพราะโดนผู้ชายจูบ!“อ้าาา...เป็นยังไงบ้าง กับคำตอบของผม”ทิวเขาถอนจูบ เขาหอบนิดๆ เมื่อต้องสบตาขึ้นมองดูเธอ“คำตอบดีมากเลย ฉันชอบ”ดาวเหนือตอบอย่างกับคนเลื่อนลอย เธอกำลังเมาจูบของเขา จูบที่นำพาเธอไปสู่สรวงสวรรค์ที่มีเรื่องน่าตื่นเต้นรออยู่“พร้อมที่จะไปต่อไหม”เขาถาม ส่วนเธอน่ะเหรอ แทบอยากจะกรีดร้องเมื่อตอบไปว่า“ขอสองเลยนะ”“หือ...”ทิวเขาหัวเราะเบาๆ ใบหน้าเขาแดงระเรื่อขึ้นมาทันใด และเธอก็ได้ตามที่ขอ ชายหนุ่มรีบก้มหน้าลงประกบปากจูบเธออีกครั้ง หนนี้เขาเติมความเร่าร้อนลงไปด้วยลีลาการจูบของเขาช่างมีเสน่ห์ ปลายลิ้นรุกล้ำเข
7 ปีต่อมา...ทิวเขาซึ่งอยู่ในชุดสีเขียวเข้มเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ร่างกายเหนื่อยล้าไม่ใช่น้อย แต่เขาก็ภาคภูมิใจที่วันนี้ได้ช่วยคนไข้ไว้ได้อีกคนแล้ว“วันนี้มีคิวผ่าตัดอีกไหม”“ไม่มีแล้วค่ะคุณหมอ”“หมดเวรของผมแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ทิวเขาขับรถออดี้คันหรูออกจากโรงพยาบาลเอกชนที่ตนทำงานอยู่ วันนี้ภรรยาคนสวยของเขาโทรมาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เสียงที่เอ่ยออกมานั้นดูจริงจังเสียจนเขานั้นอยากจะกลับบ้านเสียตอนนั้นเลย ถ้าไม่ติดว่ายังเหลือเคสผ่าตัดสุดท้าย ป่านนี้เขาคงได้อยู่กับภรรยาไปแล้วรถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าไปในคฤหาสน์เพราะเขาต้องมารับภรรยาที่บ้านพ่อตาเสียก่อน“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่”“ไหว้พระเถอะลูก” คุณนายสร้อยฟ้ากล่าว พลันยิ้มแย้มด้วยความเอ็นดูลูกเขยที่ว่านอนสอนง่าย ทิวเขาเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวนี้ได้สามปีแล้ว และไม่มีครั้งไหนที่เขาจะหนักใจเมื่อก้าวเข้ามาสู่ความหรูหราร่ำรวยของครอบครัวภรรยา“ดาวเหนืออยู่ไหนเหรอครับ”“นู้นจ้ะ อยู่ที่สวนเลย”“ครับ งั้นผมขอตัวไปหาเขาก่อนนะครับ”ทิวเขาเดินเข้าไปในสวน ดอกกุหลาบหลากสีบานสะพรั่ง สวยสดงดงาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่สวยงามกว่าดอกไม้เหล่านั้น
“พ่อกับคุณสร้อย รู้จักกันตั้งแต่ก่อนที่พ่อจะคบกับแม่ของลูกเสียอีก เวลาที่มีปัญหาพ่อก็มักจะมีคุณสร้อยนี่แหละคอยอยู่ข้างๆ คุณสร้อยเป็นคนที่คอยหาลูกค้าให้พ่อมาตลอด แล้วอีกอย่างก็เป็นคนติสท์ ที่บ้านทิ้งมรดกไว้ให้เป็นพันล้าน แต่ชอบเที่ยวทำอะไรตามความรู้สึก จนผ่านไปเจ็ดปีนั่นล่ะ พ่อก็รู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้จึงได้ตามจีบจนเธอยอมใจอ่อนแต่งงานกับพ่อ”“เดี๋ยวนะคะ พ่อกำลังจะบอกว่า คุณสร้อยเป็นคนดีเหรอคะ แล้วทำไมหนูถึงเจอแต่เรื่องไม่ดีกับผู้หญิงคนนี้ละ”“พ่อบอกแล้ว เธอน่ะเป็นคนติสท์แตก แต่เอาเข้าจริง ก็เอ็นดูหนูมากนะลูก แค่ชอบแกล้งแรงไปหน่อย”ดาวเหนือตัวชาไปครึ่งซีก พ่อบอกว่า 'แค่แกล้ง' มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร หน้าตา สีหน้า ปากคอที่เลาะร้ายเช่นนั้นน่ะเหรอ คิดเอ็นดูเธอ?!“คุณจะไปบอกทำไมคะว่าฉันเอ็นดูแก ดาวเหนือไม่มีทางเชื่อหรอกว่าฉันไม่ได้ร้าย”“ก็มันคือเรื่องจริง คุณทำไปก็เพราะหวังดีกับแก แล้วจะให้ผมนิ่งเฉยให้ลูกเข้าใจผิดอีกทำไมกัน”“เฮ้อ...คุณก็เป็นซะแบบนี้ ดูเอาเถอะ หน้าดาวเหนือแย่ขนาดไหน”พ่อหันมองลูกสาว ดาวเหนืออาการย่ำแย่จริง หน้าขาวจนไร้สีเลือด คงตกใจไม่น้อยกับความจริงในหลายๆ เรื่อง“เพ
16 ปีที่แล้วบริษัทนำเข้าดาวเคียงฟ้าเป็นบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่ เมื่อเกิดข่าวอื้อฉาวขึ้นที่ถูกสร้างโดยเฟคนิวส์ก็โดนถล่มอย่างหนัก ถึงแม้จะมีหลักฐานมาพิสูจน์แต่เพราะพลังโซเชียลมีเดียที่เป็นดั่งมีดสองคมก็ยังคงโจมตีเข้ามาไม่หยุด“คุณนี คุณหยุดที่ผมได้ไหม ผมขอร้อง”“ไม่ บริษัทคุณจะล้มละลายวันนี้พรุ่งนี้ใครจะไปรู้ ฉันไม่ทนอยู่สภาพแบบนี้หรอกนะ”“เรารักกันไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณพูดออกมาแบบนี้”“เมื่อไหร่จะหายโง่สักที ที่ฉันอยู่ก็เพราะเงินของแกทั้งนั้นแหละ ตอนนี้แกไม่มีเงินให้ฉันแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป หลบ!!”สองสามีภรรยาที่แต่งงานกันมาเข้าปีที่เจ็ด พวกเขาเกิดปากเสียงกันเมื่อคนเป็นภรรยาทราบมาว่าสามีของเธอกำลังตกต่ำ เสียงเด็กร้องสลับกับเสียงฟ้าร้องไปมา สามีของเธอนิ่งไปทันทีที่เธอพูดจบ นัยน์ตาของเขาแดงก่ำจากพิษรักที่กำลังถูกทรยศ“แล้วลูกล่ะ คุณไม่รักลูกเหรอ”“ใครอยากมีก็เลี้ยงไปสิ ฉันไม่ได้อยากให้มันเกิดมาสักหน่อย”มณี หรือแม่ของดาวเหนือพูดออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย ที่ผ่านมาเธอไม่ได้รักลูกจริงเลย มณีเพียงแสร้งทำดีเพื่อให้สามีหลงเธอจนหัวปักหัวปรำต่างหากแต่ในวันนี้ มันคือฟางเส้นสุดท้ายของคน
ทางด้านทิวเขาเมื่อเขาเข้าไปในโกดังร้างได้ ก็ได้เห็นแสงสว่างเดียวจากโคมไฟดวงหนึ่ง ส่องแสงสว่างไปยังทางมืดมิดเบื้องหน้า เขากลั้นใจชั่วอึดหนึ่ง ก่อนจะย่างเดินไปตามทางบังคับนั้นอย่างช้าๆ“ดาวเหนือ!”เขาตะโกนเรียกชื่อคนรัก สักประเดี๋ยวก็มีเสียงตอบกลับมา เสียงนั้นฟังแทบไม่ได้ศัพท์ ราวกับมีสิ่งใดขวางกั้นจนทรมานพอฟังอีกครั้ง ทิวเขาก็ใจเต้นระทึกลั่นอก ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ เสียงอู้อี้ก็ยิ่งดังขึ้น จนกระทั่ง...“ทิวเขา!!”เป็นดาวเหนือเองที่ส่งเสียงตอบกลับมา ทิวเขาตาเบิกโพลงกลับภาพที่เห็น ดาวเหนือถูกจับมัดแขนมัดขารวบรัดไว้กับเก้าอี้ มีผ้าผืนเก่าปิดปากไว้ เธอพยายามดิ้นรน ทั้งร้อง ทั้งเรียกหาแต่เขาอยู่เช่นนั้น“มาแล้วเหรอ ทิวเขาสุดที่รัก”ผิงผิงเดินไขว้หลังยิ้มแย้มออกมาจากมุมมืด เธอมาหยุดยืนคั่นกลางระหว่างทิวเขากับดาวเหนือ หันหน้ามาหาชายหนุ่มที่รักหมดหัวใจมากไปกว่านั้น ทิวเขายังเห็นผู้ชายอีกคนเดินตามออกมาด้วย ทว่าสีหน้าที่มองมายังดาวเหนือไม่ได้มีแววเย็นชาเหมือนอย่างผิงผิงแม้แต่นิด“ผิง ทำแบบนี้ทำไม ปล่อยดาวเหนือเดี๋ยวนี้”“เฮอะ ตลกสิ้นดี มาถึงก็ทำตัวเป็นพระเอกน้ำเน่าเลยนะ มาบอกให้ปล่อยงั้นเหรอ ฝันไ
ดาวเหนือลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ ละทิ้งเตียงนอนที่อุดอู้มาทั้งวัน เดินไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดลิ้นชักเพื่อดูของด้านในนิดหน่อย แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจ ยกมือตบหน้าผากหลังจากของใช้ที่ต้องการร่อยหรอไปหลายอย่างเลยเชียว“อ้าว หมดแม้กระทั่งผ้าอนามัยเลยเหรอเนี่ย” หญิงสาวคว้านมือเข้าไปด้านในสุดอย่างเสียอารมณ์ “เฮ้อ...ออกไปซื้อดีไหมนะ”ดาวเหนือคิดสักประเดี๋ยวหนึ่ง ก็เกิดอยากออกไปเซเว่น ร้านสะดวกซื้อที่ว่าอยู่ซอยถัดไปนี่เอง คงไม่เป็นไรหรอกมั้งถ้าเธอจะออกไปก่อนที่ทิวเขาจะกลับมา“เอาละ รีบไปรีบกลับก็แล้วกัน”หญิงสาวเดินออกมาจากหอพักด้วยกางเกงขายาวสวมใส่เสื้อฮู้ดธรรมดา เมื่อมาถึงเซเว่นดาวเหนือก็หายห่วง จัดการมองหาของที่ต้องการเธอซื้อของรวมถึงผลไม้และอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปสำหรับทำอาหารทานมื้อเย็น แต่เธอไม่ใช่คนทำหรอกนะ คนทำตัวจริงยังไม่กลับมาจากมหาวิทยาลัยนั่นเลยดาวเหนือเดินกลับทางเดิมที่เธอเดินมา สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าและมีบ้านคนเพียงแค่ไม่กี่หลัง ก็นี่มันทางผ่านเฉยๆ นี่เนอะ ถ้ากลับทางถนนใหญ่คนเยอะก็จริง แต่เดินไกลกว่า มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ไม่มีเสียด้วย เธอไม่ยอมเดินไกลกว่าเพราะอยากกลับไปให้ทันก่อนที่ทิวเข
เช้าวันนี้ทิวเขาออกไปเรียนคนเดียว จุดมุ่งหมายของเขามีเพียงผิงผิง ที่คาดว่าฝ่ายนั้นจะอยู่ใต้ตึกของคณะ ผิงผิงเป็นเพื่อนสาวคนเดียวที่เขาสนิทด้วย แต่ตอนนี้ เธอยังเป็นคนเดียวที่คอยทำให้เขาไม่สบายใจ โดยเฉพาะเรื่องล่าสุด ที่ทำให้ทิวเขาต้องนอนไม่หลับมาทั้งคืน“ผิง เราขอคุยด้วยหน่อย”“มีอะไรหรือเปล่าทิวเขา นั่งก่อนสิ นี่กำลังคุยกับเพื่อนๆ สนุกเลย”“เรามีเรื่องต้องคุยกับผิงตอนนี้ มาคุยกันหน่อยเถอะ”ทิวเขาไม่เคยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแกมหงุดหงิดมาก่อน หากเรื่องที่ว่าไม่เกี่ยวข้องกับน้องผู้หญิงคนนั้น เขาคงจะลืมทุกเรื่องไปแล้วทิวเขาเดินนำผิงผิงมายังมุมลับตาคน ใต้บันไดไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน เพราะจุดนี้เป็นเพียงมุมเชื่อมต่อไปอีกอาคารหนึ่งเท่านั้น ผิงผิงมองสถานที่แวบหนึ่ง ก่อนจะหันมาสบตากับทิวเขา สีหน้าของเขาบึ้งตึงตั้งแต่เจอกันแล้ว“มีอะไรเหรอทิวเขา”“เรื่องทั้งหมด ผิงเป็นคนทำใช่ไหม”“เรื่องอะไร?” ผิงผิงขมวดคิ้วมุ่น ก่อนที่เธอจะพลันคิดได้ หรือว่า...ทิวเขาจะรู้อะไรเข้า“ผิงรู้ดีแก่ใจ ทั้งเรื่องฝน เรื่องในห้องน้ำ และยังไม่รวมที่อื่นอีก”“ทิวเขา...”“คราวนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าเรื่องอะไร”ผิงผิงกัดริมฝีปากตัวเ
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าอ่อนๆ ลอดเข้ามาจากทางหน้าต่างฝั่งระเบียง ผ้าม่านสีขาวปิดไว้มิดชิดก็จริง แต่ก็ไม่อาจปิดกั้นแสงแดงเข้ามาได้ ร่างบางที่นอนหมดเรี่ยวแรงบนเตียงค่อยๆ ขยับลุกขึ้น เสมองไปยังอีกคนที่นอนไม่ห่างกัน หรือจะเรียกให้ถูก เธอนอนทับตัวเขาเสียมากกว่าโดยมีอ้อมแขนเขากอดรัดไว้ตลอดจนรุ่งเช้ามาถึงดาวเหนือลุกลงจากเตียงเดินกายเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ เธอไม่มีความอายเมื่ออยู่กับเขา และยังชินเสียอีกด้วยเมื่อต้องแก้ผ้าเดินผ่านหน้าเขาไปไม่รู้ต่อกี่ครั้ง“ดาวเหนือตื่นเร็วจัง”เสียงเอ่ยทักเบาๆ ทำให้ร่างบางชะงักเท้า ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินกลับมายังคนที่นอนกึ่งนั่งบนเตียง“รีบตื่นทำไม เหนื่อยไม่ใช่เหรอ นอนต่อเถอะ”เธอแหย่เขาด้วยรอยยิ้ม และคนถูกแกล้งก็ยิ้มออกมาทันใดพร้อมกับตวัดแขนดึงเอวเธอให้เข้ามาชิดอกแกร่ง ริมฝีปากของคนเพิ่งตื่นนอนจรดหน้าผากหญิงสาว กระซิบคำน่ารัก“อยากฟินเหมือนเมื่อคืนต่อจัง สักรอบดีไหม”“บ้าน่าพอเถอะ”เธอกลั้นยิ้มไว้แทบแย่ หมู่นี้ทิวเขาชักจะร้ายขึ้นทุกวัน คำพูดคำจาก็ล่อแหลมกลั่นแกล้งเธอให้พลาดท่าให้ไม่รู้ต่อกี่ครั้ง และไหนจะความอบอุ่นในอ้อมแขนเช่นนี้อีก บอกเลย ไม่หลงก็คงไม่
“แย่เลย ขอโทษนะที่ถาม”ไม่หรอก ผมดีใจจะตาย”ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ดาวเหนือก็มองออกว่ามันตรงข้ามกับความรู้สึกของเขา“ผมเห็นทั้งเพื่อน พี่ น้อง หลายคนที่ไปแล้วได้ดี แต่ก็มีบางคนที่อาจจะโชคร้ายได้ครอบครัวไม่ดี แบบนั้นน่ะ ไม่ถูกเลือกมันดีที่สุดแล้ว”“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ทิวเขาพูดเยอะขนาดนี้” ดาวเหนือเอียงคอมองแฟนหนุ่มด้วยความชื่นชม“ทิวเขาเคยคิดอยากเจอพ่อแม่ตัวจริงไหม”“เคยนะ จริงๆ ตอนนี้ก็ยังคงอยากเจอท่านอยู่ ผมอยากจะถามทำไมถึงเลือกที่จะทิ้งผม ทำไมถึงไม่มาหาผมบ้าง ตอนนี้สบายดีไหม ทำอะไรอยู่ ไม่มีใครไม่อยากเจอพ่อแม่ตัวเองหรอกนะ”“นั่นน่ะสิ คงมีแต่ดาวเหนือเองนี่แหละ”คำพูดที่ออกมาจากปากเธอทำเอาทิวเขาต้องหันกลับมามองหน้าอย่างแปลกใจ เท่าที่รู้มา เหมือนเธอจะไม่ถูกกับพ่อ แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะไม่ถูกกันถึงขนาดไม่อยากเจอหน้ากันเลย“เมื่อก่อนครอบครัวดาวเหนือก็เหมือนครอบครัวคนอื่น ดาวเหนือมีทุกอย่างที่เพียบพร้อม เงิน ทอง ครอบครัวที่แสนสุขใครเห็นก็อิจฉา แต่แล้ววันหนึ่งทั้งสองก็เกิดทะเลาะ ตอนนั้นดาวเหนืออายุแค่ห้าขวบเลยไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก แต่สิ่งหนึ่งที่รู้คือพ่อชอบเอาผู้หญิงคนอื่นมาที่บ้าน”
ในที่สุดช่วงปิดเทอมก็มาถึง ถึงแม้จะเป็นปิดเทอมสั้นแต่สำหรับดาวเหนือแล้วเวลานี้มันคือสวรรค์ เป็นเวลาเดือนกว่าๆ แล้วที่เธอและทิวเขาคบกันมา ช่วงแรกที่ทุกคนรู้ว่าทั้งสองคบกันก็มีข่าวซุบซิบมากมายแต่ไม่ใช่ข่าวดีหรอกนะ บ้างก็ว่าทิวเขาไม่ได้รักเธอจริง บ้างก็ว่าทิวเขารักเธอเพราะเงิน บ้างก็ว่าเธอไปข่มขู่ทิวเขาเฮ้อ ไปกันใหญ่แล้วถ้าคิดว่านี่หนักแล้ว ไม่เลย...บางคนพูดกันถึงขนาดว่าทิวเขาขายตัวให้ดาวเหนือเลยก็มี เธอทนไม่ไหวจึงได้โพสรูปคู่ลงในไอจีพร้อมกับประโยคแคปชั่นแซะๆ ไปเรื่องถึงได้เงียบลง ดาวเหนือไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมถึงได้มีคนสนใจเรื่องไร้สาระกันขนาดนี้“ดาวเหนือ มากินข้าวครับ” ทิวเขาเรียกเธอที่เอาแต่นอนอยู่บนเตียงไม่ไปไหน“วันนี้ทำอะไรทานคะสุดหล่อ”ทิวเขาส่ายหน้าอย่างเอ็นดู “พอได้แล้ว แซวอยู่ได้”“แหมม ทำเป็นเบื่อที่ถูกแซว แสดงว่ามีสาวๆ มาแซวบ่อยใช่ไหม”“เฮ้ย! มีที่ไหนกัน ไม่มีเลย”“เชอะ อย่าให้รู้ว่ามีนะแม่จะตีเข่าใส่เลย” ดาวเหนือทำทีเป็นโหดใส่เพื่อข่มขู่แต่มีหรือคนถูกขู่จะกลัว เขามองเธอเป็นแฟนสาวที่น่ารักเสมอ ทิวเขาวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่ดึงรวบตัวแม่เสือสาวเข้ามาในอ้อมกอด ริมฝีปากบรรจงจ