บทที่ 41เกือบสี่วันแล้วที่ปิงปิงไม่ได้เจอหน้าพี่ชายหาน ยิ่งทำให้เธอคิดมากกว่าเดิม อยากรู้ว่าเรื่องเป็นยังไงบ้าง ตอนแรกเธอแปลกใจเรื่องที่กู้ม่านชิงไม่ยอมมาหาเธอ ทั้งที่เธอมั่นใจว่ายังไงก็มาแน่ ๆ เพราะเธอยังไม่ได้ให้ยารักษาเลย เธอแค่ให้ยาชะลออาการ แต่พอยาหมดฤทธิ์แล้วอาการจะหนักกว่าเดิม แต่เมื่อพ่อจ้าวบอกว่าพี่ชายหานให้กลุ่มคนใต้ดินจัดการ เธอเลยเดาว่ากู้ม่านชิงคงถูกจับขังไว้แน่นอน"เดี๋ยวพ่อจะรีบตามไป" หลิวหยางบอกลูกสาววันนี้เธอกับเล่อเล่อต้องเดินทางกลับบ้านหลิวเพราะใกล้ถึงวันหมั้นของเล่อเล่อแล้ว เลยต้องกลับไปเตรียมตัว เรื่องราวที่เกิดขึ้นเล่อเล่อรับรู้แล้ว เพราะเธอไม่สามารถปิดบังเพื่อนได้ เนื่องจากดวงตาของเธอแดงก่ำ ไม่สามารถปิดบังอะไรได้เลย เธอโดนเล่อเล่อต่อว่าพร้อมทั้งทุบตีเธอ แต่เล่อเล่อก็ยังปลอบใจเธอในทุก ๆ เรื่อง และเหมือนตอนนี้เล่อเล่อจะแค้นเคืองพี่ชายหานแทนเธอที่ไม่ยอมมาหาเธอ ก่อนหน้านี้เธอสองคนไปที่บ้านพี่ชายหานก็ไม่เจอ คนงานบอกว่าเขาไม่กลับบ้านมาสามวันแล้ว"ค่ะพ่อ... " เธอพยายามยิ้มและทำตัวเหมือนเดิม แต่จริง ๆ แล้วเธอคิดเรื่องพี่ชายหานแทบตลอดเวลา ความน้อยใจก็ยิ่งมากขึ้น จากตอ
บทที่ 42"หนึ่งดวงจิตพลัดพราก ร้อยดวงจิตหวนคืนกิเลนเลือดกลืนกิน มังกรดำคืนชีพ"นั่นคือประโยคที่เธอพูด ขณะที่ดึงมีดสั้นเล่มนั้นออกจากร่างกายของเธอ ความเจ็บปวดแผ่ไปทั่วร่างกาย ฝันแบบเดิมอีกแล้ว แต่ครั้งนี้เธอจำประโยคนั้นได้ขึ้นใจ ทั้ง ๆ ที่เธอรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้วงฝัน แต่เธอก็หนีไม่พ้น ถึงป้องกันยังไง วิ่งหนีแค่ไหนก็กลับมาที่แท่นบูชานี้เสมอ และจบลงที่เธอโดนมีดสั้นโบราณปักลงที่กลางหัวใจ...พรึบ!!!ปิงปิงนั่งหอบและเอามือจับหน้าอกซ้ายบริเวณที่ถูกแทง ปิงปิงเงยหน้ามองรอบ ๆ ถึงได้รู้ว่าเธอกำลังฝันซ้อนฝัน เพราะตอนนี้เธออยู่ที่ห้องหนังสือ และมีพี่สาวที่นั่งมองเธออย่างไม่วางตา เหมือนกำลังสงสัยว่าเธอเป็นอะไร"ปิงปิงฝัน... มันเหมือนเรื่องจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ มีดเล่มนั้นปักมาที่หัวใจปิงปิง แม้แต่ความรู้สึกความเจ็บปวดปิงปิงก็สัมผัสถึงมัน" ปิงปิงพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเต็มสองแก้ม"เด็กน้อย ไม่เป็นไรนะ มันแค่ความฝัน" พี่สาวโอบกอดเธอไว้และคอยปลอบโยนเธอ... ถ้าปิงปิงสังเกตสักนิดจะรู้ว่ามือของพี่สาวก็สั่นไม่แตกต่างจากเธอเหมือนกัน"พี่สาว... มีอะไรจะบอกปิงปิงไหมคะ" พอเธอเริ่มควบคุมสติและอารมณ์ได้ก็ถ
บทที่ 43จุนหานอุ้มเด็กอ้วนที่อยู่ ๆ ก็เป็นลมล้มพับเข้ามานอนในห้องทำงานของเขา ยังดีที่นี่มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วนจึงสามารถพาคนเป็นลมแยกไปนอนพักได้ จุนหานรู้ดีว่าพอตื่นมารับรองมีอีกเป็นร้อยคำถาม เขาต้องเตรียมตัวตอบอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน"เจออีกแล้วครับนาย" อาเหลียงนำกริชโบราณมาวางให้เจ้านายที่โต๊ะจุนหานมองกริชนั่นอย่างใช้ความคิด ทำไมมีกริชแบบเดียวกัน หรือเพราะสั่งทำขึ้นมาเพื่อถ่วงเวลาหรือยังไง"ไปเอาออกมาตรวจดูว่าแตกต่างกันไหม" จุนหานสั่งงานทันทีช่วงเวลาที่ตามเรื่องนี้ยังไม่ถึงสองเดือน แต่มีกริชโบราณแบบเดียวกันโผล่มาถึงสามเล่ม มันบังเอิญหรือมีคนต้องการถ่วงเวลาแบบที่เขาคิด"มีอะไรคืบหน้าไหม" จุนหานหันไปถามคนสนิท"เท่าที่ตามดูยังปกติทุกอย่าง มีเข้าออกบ้านตระกูลกู้เหมือนเดิม" สิ่งที่เขาคาดเดามีแนวโน้มที่จะเป็นเรื่องจริง เขาต้องเฝ้าระวังทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเขาไม่ชอบแผนนี้สักเท่าไร แต่เพราะว่าเขาก็ต้องการเวลาทำความเข้าใจเรื่องนี้ด้วย จึงทำได้แค่เฝ้าระวังไปก่อน..."อาการกู้ม่านชิงเป็นยังไงบ้าง""บางวันก็ดี บางวันก็อาละวาด คนตระกูลกู้กำลังพาไปหาหมอเพื่อรักษาครับ" "ถ้าอาการดีขึ้นก็ทยอยส่ง
บทที่ 44ปิงปิงได้อ่านหนังสือเล่มแดงของพี่ชายหานแล้ว เธอคิดว่ามันต้องมีหนังสืออีกเล่มหรือสองเล่มแน่ ๆ เพราะมันเหมือนยังไม่จบ ปิงปิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้พี่ชายหานได้ฟังทั้งหมด ไม่มีปิดบังสักเรื่อง ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่พี่ชายหานก็เชื่อเธอ เพราะเขาก็ได้เข้าไปที่ห้องหนังสือเช่นเดียวกันกับเธอ...หนังสือเล่มนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องราวบันทึกคล้าย ๆ เล่มของเธอ หนังสือบอกไว้ว่า... ก่อนที่ธิดาอักษรจะยอมเป็นเครื่องสังเวยให้จอมมาร เธอได้แบ่งดวงจิตออกเป็นร้อย ๆ ดวงเพื่อส่งไปจุติตามโลกหนังสือต่าง ๆ ที่ธิดาอักษรสร้างขึ้น หนังสือต่าง ๆ ที่ว่านี้ก็เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มิติหนึ่งที่ต่างเวลาและต่างสถานที่... เพื่อที่จะไม่ได้ดวงจิตถูกทำลายไปทั้งหมด... เหลือไว้เพียงดวงจิตเดียวในโลกนี้ซึ่งต้องใช้สังเวยให้กับจอมมาร... แต่เรื่องที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ เหมือนธิดาอักษรจะมีคนคอยช่วย นั่นคือ ธิดาบุปผา ที่มาช่วยก่อนที่ดวงจิตจะแตกสลายจากการสละญาณบารมีทั้งหมด โดยได้เก็บเศษเสี้ยวดวงจิตใส่ตะเกียงแก้วและส่งให้กับตระกูลที่เทพมังกรจะถือกำเนิด พร้อมกับบอกว่า... ธิดาอักษรจะหวนคืน..."คิดออก
บทที่ 45หลังจากได้รับคำตอบรับจากผู้อาวุโสตระกูลจ้าวแล้ว จ้าวหลิวหยางเลยพาทุกคนมาที่ตระกูลหลัก ปิงปิงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน ส่วนคนติดตามหรือคนสนิทต้องรออยู่นอกบ้านเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ตอนแรกเธอไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด แต่พอมาอยู่ท่ามกลางสายตาของคนตระกูลจ้าวหลายสิบคน จึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่บ้างปิงปิงทำความเคารพผู้อาวุโสทุกท่านตามที่พ่อจ้าวแนะนำจนครบทุกคน ตอนนี้มีคนตระกูลจ้าวหลายคนที่สนใจรอดูผลทดสอบว่าจะออกมาเป็นแบบไหนยังไงบ้าง... ปู่ทวดเรียกเธอให้เข้าไปยืนบริเวณตรงกลางซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม"จ้าวปิงปิง... มันคือพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรเลย""ปู่ทวดคะ... ให้ทุกคนอยู่ด้วยได้ไหมคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อ พี่ชายหาน และเล่อเล่ออยู่ด้วย มันจะทำให้เธออุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว"ตอนนี้อยู่ได้... แต่ถ้าผ่านการทดสอบ ต้องเข้าไปในห้องลับนั้นเพียงคนเดียว... มันคือความเชื่อและคำทำนายที่ส่งต่อให้แก่ผู้นำตระกูล""ปู่ทวดเล่าให้ฟังได้ไหมคะ""เดี๋ยวก็รู้... ลูกหลานตระกูลจ้าวล้วนเชื่อและทำตามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้""ปู่ขอถามปิงปิงหน่อยได
บทที่ 46ปิงปิงเตรียมไขกุญแจเข้าห้องอย่าทุลักทุเล... แต่ที่น่าตกใจคือประตูเปิดออกเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจเลยด้วยซ้ำ ปิงปิงเลยจุดคบเพลิงตามที่ปู่ทวดบอกแล้วถือเดินตามทางเดินเข้าไป ภายในห้องกว้างมีกลิ่นดอกไม้หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงเดินไปจนถึงที่จุดคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง เธอจึงจุดเพิ่มเพื่อที่จะได้มองเห็นรอบ ๆ แสงสว่างค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด พอทั้งห้องเริ่มสว่างก็เกิดเสียงดัง ปัง!! พร้อมกับประตูทางเข้าปิดสนิท เหมือนว่าตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในห้องนี้แล้ว...ชั่วขณะที่ปิงปิงสำรวจ ห้องนี้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร แต่พอสำรวจจนทั่วก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ เพราะว่าห้องนี้เหมือนกับลานกว้างในฝันของเธอนั่นเอง ลานกว้างที่มีแท่นบูชา... ถ้าให้เดาคงเป็นสถานที่ที่เทพธิดาอักษรจบชีวิตลงแน่นอน ปิงปิงเดินเข้าไปที่แท่นบูชาที่มีดอกเหมยกุยสีแดงขึ้นอยู่เต็มและกำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เธอค่อย ๆ เอามือลูบไล้ตามพื้นของแท่น สัมผัสดูเรื่อย ๆ สายตาก็สำรวจสิ่งของที่วางบนแท่นบูชา มีตะเกียงแก้ววางอยู่... ถัดมาเป็นหนังสือเล่มสีแดง... สิ่งสุดท้ายคือกริชโบราณแบบที่แทงเข้าไปในหัวใจของธิดาอักษร แบบเดียวกันกับท
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า
บทที่ 46ปิงปิงเตรียมไขกุญแจเข้าห้องอย่าทุลักทุเล... แต่ที่น่าตกใจคือประตูเปิดออกเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจเลยด้วยซ้ำ ปิงปิงเลยจุดคบเพลิงตามที่ปู่ทวดบอกแล้วถือเดินตามทางเดินเข้าไป ภายในห้องกว้างมีกลิ่นดอกไม้หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงเดินไปจนถึงที่จุดคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง เธอจึงจุดเพิ่มเพื่อที่จะได้มองเห็นรอบ ๆ แสงสว่างค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด พอทั้งห้องเริ่มสว่างก็เกิดเสียงดัง ปัง!! พร้อมกับประตูทางเข้าปิดสนิท เหมือนว่าตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในห้องนี้แล้ว...ชั่วขณะที่ปิงปิงสำรวจ ห้องนี้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร แต่พอสำรวจจนทั่วก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ เพราะว่าห้องนี้เหมือนกับลานกว้างในฝันของเธอนั่นเอง ลานกว้างที่มีแท่นบูชา... ถ้าให้เดาคงเป็นสถานที่ที่เทพธิดาอักษรจบชีวิตลงแน่นอน ปิงปิงเดินเข้าไปที่แท่นบูชาที่มีดอกเหมยกุยสีแดงขึ้นอยู่เต็มและกำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เธอค่อย ๆ เอามือลูบไล้ตามพื้นของแท่น สัมผัสดูเรื่อย ๆ สายตาก็สำรวจสิ่งของที่วางบนแท่นบูชา มีตะเกียงแก้ววางอยู่... ถัดมาเป็นหนังสือเล่มสีแดง... สิ่งสุดท้ายคือกริชโบราณแบบที่แทงเข้าไปในหัวใจของธิดาอักษร แบบเดียวกันกับท
บทที่ 45หลังจากได้รับคำตอบรับจากผู้อาวุโสตระกูลจ้าวแล้ว จ้าวหลิวหยางเลยพาทุกคนมาที่ตระกูลหลัก ปิงปิงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน ส่วนคนติดตามหรือคนสนิทต้องรออยู่นอกบ้านเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ตอนแรกเธอไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด แต่พอมาอยู่ท่ามกลางสายตาของคนตระกูลจ้าวหลายสิบคน จึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่บ้างปิงปิงทำความเคารพผู้อาวุโสทุกท่านตามที่พ่อจ้าวแนะนำจนครบทุกคน ตอนนี้มีคนตระกูลจ้าวหลายคนที่สนใจรอดูผลทดสอบว่าจะออกมาเป็นแบบไหนยังไงบ้าง... ปู่ทวดเรียกเธอให้เข้าไปยืนบริเวณตรงกลางซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม"จ้าวปิงปิง... มันคือพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรเลย""ปู่ทวดคะ... ให้ทุกคนอยู่ด้วยได้ไหมคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อ พี่ชายหาน และเล่อเล่ออยู่ด้วย มันจะทำให้เธออุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว"ตอนนี้อยู่ได้... แต่ถ้าผ่านการทดสอบ ต้องเข้าไปในห้องลับนั้นเพียงคนเดียว... มันคือความเชื่อและคำทำนายที่ส่งต่อให้แก่ผู้นำตระกูล""ปู่ทวดเล่าให้ฟังได้ไหมคะ""เดี๋ยวก็รู้... ลูกหลานตระกูลจ้าวล้วนเชื่อและทำตามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้""ปู่ขอถามปิงปิงหน่อยได
บทที่ 44ปิงปิงได้อ่านหนังสือเล่มแดงของพี่ชายหานแล้ว เธอคิดว่ามันต้องมีหนังสืออีกเล่มหรือสองเล่มแน่ ๆ เพราะมันเหมือนยังไม่จบ ปิงปิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้พี่ชายหานได้ฟังทั้งหมด ไม่มีปิดบังสักเรื่อง ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่พี่ชายหานก็เชื่อเธอ เพราะเขาก็ได้เข้าไปที่ห้องหนังสือเช่นเดียวกันกับเธอ...หนังสือเล่มนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องราวบันทึกคล้าย ๆ เล่มของเธอ หนังสือบอกไว้ว่า... ก่อนที่ธิดาอักษรจะยอมเป็นเครื่องสังเวยให้จอมมาร เธอได้แบ่งดวงจิตออกเป็นร้อย ๆ ดวงเพื่อส่งไปจุติตามโลกหนังสือต่าง ๆ ที่ธิดาอักษรสร้างขึ้น หนังสือต่าง ๆ ที่ว่านี้ก็เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มิติหนึ่งที่ต่างเวลาและต่างสถานที่... เพื่อที่จะไม่ได้ดวงจิตถูกทำลายไปทั้งหมด... เหลือไว้เพียงดวงจิตเดียวในโลกนี้ซึ่งต้องใช้สังเวยให้กับจอมมาร... แต่เรื่องที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ เหมือนธิดาอักษรจะมีคนคอยช่วย นั่นคือ ธิดาบุปผา ที่มาช่วยก่อนที่ดวงจิตจะแตกสลายจากการสละญาณบารมีทั้งหมด โดยได้เก็บเศษเสี้ยวดวงจิตใส่ตะเกียงแก้วและส่งให้กับตระกูลที่เทพมังกรจะถือกำเนิด พร้อมกับบอกว่า... ธิดาอักษรจะหวนคืน..."คิดออก