นับตั้งแต่การแข่งขันออกแบบแฟชั่นในครั้งนั้น วินนี่เฟรด ซี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยขี้ขลาดและมีเมตตาต่อทุกคนได้กลายเป็นอดีตไปแล้ววินนี่เฟรดลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง จิตใจของเธอชัดเจนขึ้นแล้ว และเธอได้รู้ว่า การแสดงความเมตตาต่อผู้อื่นหมายถึงการโหดร้ายต่อตัวเองเธอไม่พอใจฮิลารี ไวท์อย่างยิ่ง ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงเลวทราม ที่ฉวยโอกาสการไปเรียนต่อต่างประเทศจากเธอ ด้วยกลอุบายที่อันต่ำทราม และยังกลับมาพร้อมการดูถูกเหยียดหยามและเยาะเย้ยเธอจากเหตุการณ์ในตอนนั้น ถึงคราวของวินนี่เฟรดที่จะให้ฮิลารีได้ลิ้มรสของความเจ็บปวดบ้าง"มิสเตอร์ มิคาเอล ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ” วินนี่เฟรดหันไปหามิคาเอลและพูดอย่างเคร่งขรึม มิคาเอลสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “บอกมาได้เลย มิสซี” “วินิ...มิส ซี...” ฮิลารีตื่นตระหนกและรีบเรียกวินนี่เฟรดทันทีวินนี่เฟรดซึ่งกำลังจะพูดขึ้นก็หยุดชะงัก เธอรู้สึกลังเลเล็กน้อยอย่างไรก็ตาม ไทร์ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว เขาจึงพูดต่อทันที “มิสเตอร์มิคาเอล ตัวแทนจากกุชชี่ผู้นี้ มีบุคลิกที่แย่มาก”มิคาเอลรีบตอบกลับ “มิสเตอร์ซัมเมอร์ เชิญพูดต่อเลย”ใบหน้าของฮิลา
ยังมีเวลาจนถึงสัปดาห์แฟชั่น ในช่วงเวลานี้ วินนี่เฟรดได้ปรับปรุงและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เธอยังใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นเพื่อนที่ดีกับมิคาเอลอีกด้วย เพราะในอนาคต มิคาเอลสามารถทำให้วินนี่เฟรดมีโอกาสมากมายที่จะเรียนรู้ในขณะที่อยู่ในอิตาลีเมื่อถึงเวลานั้น วินนี่เฟรดจะสามารถเป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้อย่างแน่นอนนี่เป็นความฝันของวินนี่เฟรดเสมอมา เธอเคยคิดว่าความฝันของเธอเป็นเรื่องตลกและอยู่ไกลเกินกว่าจะเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้วินนี่เฟรดได้เริ่มก้าวแรกสู่เส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์นี้อย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับคนที่ไล่ตามความฝันเช่นเธอ มันช่างคุ้มค่าที่จะรู้สึกภูมิใจและตื่นเต้นทั้งสามคนมีช่วงเวลาที่ดีในมื้อกลางวันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยิ่งไปกว่านั้น ในการรับประทานอาหารกลางวันมื้อนี้ พวกเขาแต่ละคนได้รับสิ่งที่ต้องการวินนี่เฟรดเริ่มไล่ตามความฝันของเธอ มิคาเอลประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างไทร์ และเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบเพชรเม็ดงามเช่นวินนี่เฟรดสำหรับไทร์แล้ว ถ้าวินนี่เฟรดมีความสุข เขาก็มีความสุขเช่นกันในวันรุ่งขึ้น วินนี่เฟร
ไอริสคิดว่า เธอทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท เธอคิดว่าเธอคือฮีโร่ของซีกรุ๊ป เธอยังถูกจับเพราะเห็นแก่ซีกรุ๊ปอีกด้วย เธอไม่เคยคิดว่า จะไม่มีใครในซีกรุ๊ปมารับเธอเลย หลังจากที่เธอได้รับการปล่อยตัว มันทำให้เธอโกรธมากรถเบนซ์ของทราวิส มารออยู่ที่ชั้นล่างภายในบ้านของไอริสแล้ว ทันทีที่ไอริสเข้ามาถึง เธอก็เริ่มตะโกนใส่ทราวิสทันที “ทราวิส เจนเซ่น ทำไมนายถึงไม่ไปรับฉัน? นายหนีไปอยู่ที่ไหนมา?”การได้เห็นไอริสทำตัวอวดฉลาด ทำให้ทราวิสรู้สึกรังเกียจเธอยิ่งนัก ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาจะสรรหาวิธีต่าง ๆ และมอบของขวัญให้เธอเพื่อทำให้เธอมีความสุข แต่ตอนนี้ ทราวิสเพียงแค่ยิ้มอย่างเย็นชาในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง ในที่สุดฉันก็สามารถบอกลาผู้หญิงที่น่ารังเกียจคนนี้ได้ วันนี้จะเป็นวันสิ้นสุดของซีกรุ๊ป!การได้เห็นทราวิสเงียบแต่กลับยิ้มออกมา ทำให้ไอริสหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม เธอผลักเขาและตะคอกใส่ทันที “ทำไมนายไม่พูดอะไร ฉันทนทุกข์ทรมานมากอยู่ในนั้นคนเดียว แล้วทำไม นายกลับไม่มีแผนที่จะซื้อของขวัญให้ฉันเพื่อปลอบโยนฉันบ้าง?”ทราวิสตอบเธออย่างไม่ใส่ใจ “ไปที่บริษัทกันก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องอื่น ๆ ในภายหลัง”ใช่
ภายในห้องประชุม บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาในตอนแรกก็หยุดนิ่งทันที ไม่มีใครเข้าใจว่าทราวิสหมายถึงอะไรสถานการณ์นี้คืออะไร? ครอบครัวของเราขาดเงินมากที่สุดตอนนี้ แต่ทำไมทราวิส เจนเซ่น ต้องการให้เราชดใช้เงินยี่สิบล้านนั้นก่อนที่จะให้เรากู้เงินสามสิบล้านนั้นเหรอ?จอร์จรีบถามทันที “ทราวิส คุณหมายความว่ายังไง? ทำไมฉันรู้สึกว่าฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูด?”ริมฝีปากของทราวิสเหยียดยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันสีขาวมุก เขาไม่ตอบเพราะประตูห้องประชุมกำลังถูกผลักออกโดยใครบางคนผู้มาใหม่คนนี้คือฟอร์ด เจนเซ่นลุงคนที่สามของทราวิส ข้างหลังของเขามีชายร่างกำยำสองคนในชุดดำ พวกเขามีหน้าตาที่คุกคามและเห็นได้ชัดว่าเป็นนักเลงมืออาชีพทันใดนั้น ทั้งครอบครัวก็จ้องไปที่ฟอร์ด พวกเขาสับสนและงุนงงอยู่ข้างในจอร์จรีบเดินเข้าไปหาฟอร์ดทันที และชายวัยหกสิบปีก็พูดอย่างถ่อมตนว่า “ผู้จัดการเจนเซ่น ทำไมคุณไม่บอกเราก่อนว่าคุณจะมา เราจะได้รอที่ทางเข้าเพื่อต้อนรับคุณ”ฟอร์ดสวมรอยยิ้มอย่างเป็นทางการและกล่าว มิสเตอร์ซี คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้น”“ไม่เลย ไม่เลย มันไม่เป็นอะไร” จอร์จนั่งลงอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดต่อ “ผู้จัดการเ
ไอริสรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวเมื่อได้ยินคำว่า 'การดำเนินการทางกฎหมาย' เธอตบหน้าผากของเธออย่างกะทันหันสองครั้ง และดูเหมือนเธอจะกลายเป็นคนละคนทันที เธอโอบแขนของทราวิสและพูดอย่างร่าเริงว่า “ทราวิส นายกับคุณลุงคนที่สามของเราคงร่วมมือกันเล่นตลกกับฉันใช่ไหม? นายคิดว่าฉันอารมณ์เสีย นายเลยจงใจทำแบบนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจฉันใช่ไหม? ทราวิส ฉันไม่อารมณ์เสียแล้ว เลิกเล่นได้แล้ว!”ทราวิสเหวี่ยงมือของไอริสออกไปทันที เขาไม่อ่อนโยนกับเธอเหมือนเมื่อก่อน เขาพอแล้วกับผู้หญิงที่เย่อหยิ่งและเลวทรามคนนี้ ในตอนนี้ที่ดินในเซาท์ฮิลล์เพลนส์ปลอดภัยในมือของเขาแล้ว และในที่สุดเขาก็สามารถเป็นอิสระจากผู้หญิงคนนี้ได้! ในตอนนั้นเอง ทราวิสรู้สึกมีชีวิตชีวามาก!"ปล่อย!" ทราวิสเหวี่ยงมือของไอริสออกไปอย่างไร้เยื่อใย “เธอประสาทหรือยังไง? เธอคิดว่าฉันไม่เหนื่อยที่ต้องเล่นตลกกับเธอเหรอ? และได้โปรดหยุดพูดว่า 'คุณพ่อของเรา', 'คุณลุงสามของเรา' และอะไรก็ตาม เพราะฉันไม่เคยร่วมเพศและตกลงที่จะแต่งงานกับเธอ ไอริส ซี ผู้หญิงที่เย่อหยิ่งและเลวทรามอย่างเธอ ต้องการจะแต่งงานกับตระกูลเจนเซ่นของเราและกลายเป็นนายหญิงเหรอ? เธอหลงตัวเองเกิ
ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ วินนี่เฟรดได้คว้าตัวเธอไว้ทันที วินนี่เฟรดพยายามดิ้น แต่ก็ไร้ประโยชน์ “พวกนายกำลังจะทำอะไร? ฉันไม่รู้จักพวกนายด้วยซ้ำ ถ้านายกล้าทำอะไรกับฉัน ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ” แบลค เซอเพนท์ ไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับคำพูดนั้นเลย เขาหยิบมีดพับออกมาแล้วชี้ขอบปลายคมกริบไปที่วินนี่เฟรด ทำท่าทางเหมือนฟันอากาศช้า ๆ “มันจะดีกว่าถ้าเธอไม่ขยับ ไม่อย่างนั้น มือฉันอาจจะเผลอไปผ่าใบหน้าสวย ๆ ของเธอ และนั่นจะเป็นความอัปยศได้เลยเช่นกัน” วินนี่เฟร็ดตกใจอย่างมากและหยุดเคลื่อนไหว “พวกนายเป็นใคร? คิดจะทำอะไรน่ะ?” ทันใดนั้น เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นด้านหลัง แบลค เซอเพนท์ “วินนี่เฟรด ซี เธอคิดว่าพวกเขาต้องการอะไร? พวกเขาอยู่ที่นี่เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเพื่อสอนบทเรียนอันมีค่าให้กับผู้หญิงสารเลวอย่างเธอไง” ข้างหลังชายคนนั้น ฮิลารี เธอดูแต่งตัวไม่เรียบร้อยได้เดินไปสวมรองเท้าส้นสูงของเธออย่างเย่อยิ่ง เธอเอนตัวพิงร่างกายของ แบลค เซอเพนท์ ราวกับงูเลื้อยไปมาและกล่าวว่า “บราเธอร์เซอเพนท์ คุณต้องสั่งสอนบทเรียนดี ๆ ให้ยัยนั่น! ให้เธอได้ลิ้มรสชีวิตในนรก!” แบลค เซอเพนท์ หัวเราะและบีบร่างกายของฮิลารีอ
ทันใดนั้น อารมณ์ต่าง ๆ ก็ได้เข้ามาครอบงำจิตใจของวินนี่เฟรด มีความตื่นตระหนก หวาดกลัว ตื่นเต้น และสับสน… อารมณ์ต่าง ๆ ปะปนกันไป ทำให้จิตใจของวินนี่เฟรดว่างเปล่าและสะท้อนด้วยเสียงหึ่งไปทั่ว เธอไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีก! วินนี่เฟรดรู้จักชายคนนี้มาก่อนแล้ว เธอไม่เพียงแต่รู้จักเขาเท่านั้น แต่เธอยังคุ้นเคยกับเขาอย่างมากอีกด้วย ความทรงจำที่ฝังอยู่นับไม่ถ้วนผุดขึ้นในใจเธอราวกับน้ำท่วมฉับพลัน การเผชิญหน้าของพวกเขา ความคุ้นเคยของพวกเขา ความรักของพวกเขา และในขณะนั้น พวกเขาก็หมั้นกัน ความทรงจำแต่ละอย่างเป็นความรู้สึกสิ้นหวังที่บีบคั้นหัวใจ! ผู้ชายคนนี้ที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเธอคือ คริส ฮิลล์! ชายผู้หมั้นหมายกับวินนี่เฟรดเมื่อหกปีก่อน แต่ได้ยกเลิกไปเมื่อเรื่องอื้อฉาวของวินนี่เฟรดเกิดขึ้น เขายังเป็นรักแรกของวินนี่เฟรดอีกด้วย “คริส นาย… นายมาที่นี่ทำไม?” วินนี่เฟรดใช้เวลานานมากก่อนที่เธอจะสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้งหลังจากตกใจ คริสดูหน้าเหมือนกับตอนนั้นเลย เขาสวมรอยยิ้มนั้นที่สามารถสะกดให้ผู้หญิงทุกคนหลงใหล “ฉันมาที่นี่เพื่อทำธุระแต่บังเอิญเจอเธอ! พวกกวนประสาทเหล่านี้ พวกเขากล้าทำเรื่องน่ารังเกียจเช่
วินนี่เฟรดและไทร์ไม่สนใจที่จะชวนคริสกลับบ้านไปร่วมทานอาหารเย็นด้วยกัน คริสมีเหตุผลพอที่จะขับรถออกไปหลังจากบอกลา ขณะที่ครอบครัวสามคนได้เดินกลับเข้าบ้าน ไทร์ยังคงเงียบโดยไม่ถามอะไรเธอเลย ในที่สุด วินนี่เฟรดก็อดไม่ได้ “ไทร์ นั่นคืออดีตคู่หมั้นของฉัน การพบกันของเราในวันนี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ” เมื่อไทร์และวินนี่เฟรดเคยประสบหลายสิ่งหลายอย่างมาด้วยกัน รากฐานของความสัมพันธ์ของพวกเขาก็มั่นคง ดังนั้นวินนี่เฟรดไม่ได้คิดที่จะปิดบังอะไรกับไทร์เลย ไทร์ยังคงดูสงบมากและพยักหน้า “ฉันรู้ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงถ้ามันเป็นอดีตไปแล้ว” “ใช่ มันเป็นอดีตไปแล้ว” เมื่อพูดออกไปแล้วแล้วบรรยากาศกลับอึดอัดอีกครั้ง ทั้งสามคนเดินกลับบ้านอย่างเงียบ ๆ หลังอาหารเย็น ไทร์ต้องการออกไปข้างนอก โดยบอกว่าเขาต้องการไปซื้อบุหรี่ เมื่อมาถึงโรงยิมบริเวณข้างล่างตึก สีหน้าของไทร์ดูเหมือนจะมืดมน ในฐานะราชาแห่งตำหนักราชันย์เรย์น ไทร์ได้สัมผัสกับความตายนับไม่ถ้วนเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและสถานะในปัจจุบัน นอกเหนือจากความสามารถทางร่างกายของเขาแล้ว สัมผัสที่หกที่อธิบายไม่ได้ของเขายังช่วยให้เขารอดชีวิตจากประสบการณ์ใกล้ตายได้อ