ออร่าของคนคนหนึ่งไม่สามารถปลอมแปลงได้ มีเพียงร่างที่ทรงพลังอย่างแท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถเปล่งออร่าอันแข็งแกร่งออกมาได้ เมื่อไทร์พูดคำเหล่านั้น ร่างกายทั้งหมดของเขาก็ถูกกดดันอย่างมาก ถึงขั้นที่แม้แต่พยัคฆ์ผู้สง่างามของครอบครัวซัมเมอร์อย่างเพอร์รี่ก็ยังรู้สึกตกใจ ชายคนนั้นตกใจ เขาคิดว่าไทร์ยังคงเป็นเศษขยะสกปรก ๆ ที่จะร้องไห้และขอความเมตตาหลังจากการถูกไล่ออกจากบ้านของครอบครัวซัมเมอร์เมื่อสิบปีก่อน เขาไม่เคยคิดว่าไทร์จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่ปีนี้ไปได้ อย่างไรก็ตาม ความตกใจเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น ไม่นานหลังจากนั้น เพอร์รี่ก็กลับเป็นปกติ “แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณประสบอะไรในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ ผมต้องบอกว่าคุณโตขึ้นแล้วจริง ๆ แต่คุณเพิ่งโตขึ้นเท่านั้น” เพอร์รี่ดึงบุหรี่ในมือออก “ผมต้องยอมรับว่าในบรรดาห้าพยัคฆ์ผู้กล้าหาญแห่งตระกูลซัมเมอร์ ผมกลัวความตายมากที่สุด แต่ไทร์ ผมไม่เชื่อว่าคุณจะจัดการกับผมได้ คุณเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลซัมเมอร์ ดังนั้นคุณควรรู้ดีว่าการต่อต้านครอบครัวซัมเมอร์ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด ครอบครัวซัมเมอร์ต้องการเพียงไขกระดูกของค
ไทร์ถึงกับอึ้ง เขาไม่เคยคิดว่าวินนี่เฟรดจะคิดแบบนั้น ผู้หญิงไม่ชอบให้ผู้ชายเป็นวีรบุรุษหรือไง? “พูดตามตรง ฉันไม่ชอบนิสัยแบบนี้ของครอบครัวปู่ย่าตายายของฉันเลย พวกเขาทั้งหมดเป็นเหมือนลูกบอลแห่งเปลวเพลิงที่ต้องการจัดการทุกอย่างด้วยหมัดของพวกเขาเท่านั้น ศตวรรษที่ 21 แล้ว และผ่านไป 20 ปีแล้ว พวกเขายังทำตัวเหมือนกะลาสีเรือ นี่คือสังคมที่ชอบด้วยกฎหมาย การเรียกตำรวจเมื่อมีบางสิ่งเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ควรทำ ดังนั้น ไทร์ ฉันคิดว่านายทำถูกต้องแล้ว” “อย่างงั้นเหรอ?” ไทร์กำลังยิ้ม แต่เขารู้สึกหมดหนทางและขมขื่นอยู่ข้างใน มันดูเหมือนว่าภรรยาของเขายังบริสุทธิ์เกินไป พวกเขาเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้ออาหารเสริมและเครื่องสำอางบางอย่างให้กับคุณยาย ป้า และลุงของวินนี่เฟรด หลังจากนั้น พวกเขาก็เลือกของขวัญอื่น ๆ ให้อีกมากมาย เมื่อพวกเขาซื้อของเสร็จแล้ว ทั้งสองก็พร้อมที่จะขึ้นรถแท็กซี่ไปที่บ้านโคล อย่างไรก็ตาม พวกเขาบังเอิญเดินผ่านร้านหยก และบังเอิญว่า คุณยายของวินนี่เฟรดชอบหินหยก เธอจึงตัดสินใจเข้าไปเลือกซื้อ ผู้ช่วยของร้านหยกต้อนรับวินนี่เฟรดและไทร์อย่างกระตือรือร้น ขณะที่พวกเขากำลังจดจ่ออ
ในขณะนั้น การต่อสู้ของไทร์และแคลร์เรียกได้ว่าเป็น ‘ความบ้าคลั่ง’! วินนี่เฟรดและเบนจามินตะลึงเมื่อมองดูพวกเขา ผู้ช่วยร้านดูตื่นเต้นขณะที่พวกเขาเก็บห่อสินค้าให้ไทร์และแคลร์ พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วเพราะกลัวจะล้าช้า เมื่อพวกเขาบรรจุของเสร็จและฉีกป้ายราคาออกเพื่อสแกนราคาลงในคอมพิวเตอร์ ผู้ช่วยร้านค้าเหล่านี้ไม่สนใจว่าลูกค้าจะทำสิ่งนี้ด้วยความฉุนเฉียวหรือไม่ เมื่อป้ายราคาถูกดึงออกแล้วและราคาถูกสแกนเข้าไปในคอมพิวเตอร์แล้ว ถือว่าข้อตกลงการซื้อขายนี้เสร็จสมบูรณ์ นี่เป็นกฎของร้านขายเครื่องประดับของครอบครัวคอลลินส์ หากใครเสียใจที่ซื้อและต้องการคืนสินค้า นั่นก็ขึ้นอยู่กับสถานะของพวกเขา พวกเขาแค่ต้องดูว่าพวกเขาสามารถที่จะกล้ารุกรานทำแบบนี้กับครอบครัวคอลลินส์ได้หรือไม่ ในไม่ช้า ไทร์และแคลร์ก็ซื้อสินค้ามากที่สุดในร้าน นี่เหมือนเป็นเกมท่าทายหลอกล่อกันไปมาแล้วยังคงดำเนินต่อไปและในตอนนี้ก็ถึงจุดสูงสุดของเหตุการณ์แล้ว ไทร์หันกลับมาและชี้ไปที่ตู้อื่น “ฉันต้องการทุกอย่างในแถวบนสุด” แคลร์กัดฟันก่อนจะชี้ไปทางเดียวกัน “สองแถวที่ด้านล่างเป็นของฉัน” “เราจะห่อเหล่านั้นให้พวกคุณทันที” ผู้ช่ว
ในเมืองริเวอร์วิลล์ ตระกูลคอลลินส์ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในตระกูลที่ได้รับความนับถือมากที่สุดในขณะเดียวกัน วิลเลียม คอลลินส์ ซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลคอลลินส์ ก็มีความหยิ่งผยองอย่างแน่นอนคนธรรมดาอย่าง แคลร์ โจนส์ และ เบนจามิน โกลด์ฟิลด์ ไม่กล้าต่อต้านตระกูลคอลลินส์ และตอนนี้เนื่องจากคำวิงวอนของพวกเขาไม่ได้ผล พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเป็นสิ่งที่เจ็บปวดแต่ต้องยอมรับเท่านั้น ในที่สุด ในสภาพที่ถูกเหยียบย่ำ ทั้งสองออกจากร้านขายเครื่องประดับพร้อมกับเครื่องประดับหยกกองใหญ่อยู่ในมือทันทีที่พวกเขาเดินออกจากประตู เบนจามิน โกลด์ฟิลด์ ก็เตะ แคลร์ โจนส์ ทำให้เธอล้มลง “นังสารเลว เธอเสียเงินของฉันไปหมดแล้ว หย่ากันเถอะ”ท่ามกลางในร้าน วิลเลียม คอลลินส์ เปลี่ยนการแสดงออกทางสีหน้าเย่อหยิ่งของเขาในขณะที่เขาหันไปยิ้มให้ ไทร์ ซัมเมอร์ และ วินนี่เฟรด ซี “บราเธอร์ไทร์และพี่สะใภ้ของฉัน มันหายากมากที่พวกคุณจะมาเยี่ยมเมืองริเวอร์วิลล์ ทำไมฉันจะไม่แสดงเป็นเจ้าภาพต้อนรับและพาพวกคุณไปดูรอบ ๆ ได้กันล่ะ?”วินนี่เฟรด ซี ยังคงสับสนกับทัศนคติในการเยินยอของ วิลเลี่ยม คอลลินส์ อยู่ พวกเขาเคยเดทกันเพี
ทันทีที่คริสตินพูดออกมา พอล โคล ก็ปิดปากเงียบ อันที่จริง ฮอลลี่ โคล อยู่ในวัย 40 ปลายๆ แล้วแต่เธอยังโสดอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงเป็นนแบบนี้เพราะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตระกูลโคล“คุณย่าอย่าอารมณ์เสียเลยนะ มันไม่ดีต่อร่างกายของคุณ” สตีเฟน โคล รีบพูดอย่างรวดเร็ว“เมื่อมองไปที่ป้าของฉันก็ดูเหมือนมีสีหน้าน่ากลัวขึ้นเล็กน้อย พูดตามตรง อันที่จริงเธอเป็นคนค่อนข้างอ่อนโยน” เขากล่าวเสริมออกมาว่า “นอกจากนี้ มันเป็นเรื่องของโชคชะตาด้วย บางทีเวลาของเธออาจยังไม่มาถึงที่จะมีคู่ครอง” “เธออ่อนโยนงั้นเหรอ?” คริสตินเลิกคิ้วมอง สตีเฟน โคล ก่อนจะหันไปมอง เบรนท์ โคล และพอล โคล “พวกนายบอกว่าเธออ่อนโยนเหรอ?”“สตีเฟน โคล พูดถูก พี่สาวคนโตของฉันเป็นคนอ่อนโยนจริง ๆ” เบรนท์ โคล พูดอย่างรวดเร็วออกไป ส่วน พอล โคล ก็พยักหน้าพร้อมการสูดหายใจอย่างรุนแรง“ฉันคิดว่าบางทีพวกนายอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับความหมายของคำว่าอ่อนโยนนะ” ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงจากในครัว ไม่นานหลังจากนั้น ฮอลลี่ โคล คนที่ตัวสูงและร่างใหญ่ก็ได้รีบวิ่งเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับผ้ากันเปื้อนที่เอวของเธอ “เกิดอะไ
“ฉันเข้าใจแล้ว” แมทธิว คอลลินส์ ยกกำปั้นขึ้นด้วยสีหน้าหน้าที่ดุดัน“ไทร์ ซัมเมอร์ เป็นคนขี้ขลาดที่ไร้ประโยชน์ นายควรทำให้ฉันภูมิใจและไม่ทำให้ฉันอายในภายหลัง” สตีเฟน โคล เตือน ขณะที่ แมทธิว คอลลินส์ ฟังแล้วหัวเราะคิกคักออกมาและพูดมาว่า “นั่นคือจุดแข็งของฉัน”ในตอนบ่าย สตีเฟน โคล ได้คิดที่จะชวน ไทร์ ซัมเมอร์ และวินนี่เฟรดไปเที่ยวรอบ ๆ เมือง เนื่องจากวินนี่เฟรด ซี รู้อยู่ในใจว่า สตีเฟน โคล และแมทธิว คอลลินส์ คิดจะทำไม่ดี เธอจึงตัดสินใจยอมให้ทำต่อไปและหาความจริงด้วยตัวเธอเองเมื่อพวกเขาเดินกันอยู่บนท้องถนน สตีเฟน โคล พยายามสร้างโอกาสให้ แมทธิว คอลลินส์ แสดงคุณสมบัติที่ดีของเขาเพื่อชดเชยความอึดอัดที่เขาก่อขึ้นเมื่อเขามอบของขวัญให้เธอก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อนคนนั้นเป็นคนที่น่าดูถูกเหยียดหยามอย่างสมบูรณ์ซึ่งเป็นคนไม่รู้เลยว่าจะทำให้ผู้หญิงชอบได้แบบไหน แมทธิวยังสามารถตัดบทสนทนาที่เขามีกับวินนี่เฟรดได้ ดังนั้น วินนี่เฟรด ซี มีการแสดงออกที่น่ากลัวจากสีหน้าของเธอตลอดการเดินทางในขณะเดียวกัน ไทร์ ซัมเมอร์ ก็ถอนหายใจพร้อมกับสังเกตดูทั้งสองคน อันที่จริงแล้ว เขารู้สึกว่ามันเป็นความผิดครั้งใ
ในฐานะผู้หญิงที่อ่อนแอ ไม่มีทางที่ วินนี่เฟรด ซี จะเอาชนะแรง สตีเฟน โคล ได้ ดังนั้นเขาจึงลากเธอออกจากโรงยิม อย่างไรก็ตาม ไทร์ ซัมเมอร์ ไม่ได้เดินตามพวกเขาไป เขายืนนิ่งโดยไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดอยู่ลึก ๆเสียงตะโกนรอบ ๆ ตัวเขาดังขึ้น ทุกคนคิดว่าไทร์เป็นคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าสู้กับแมทธิวในสังเวียน แมทธิวเองก็ตะโกนโวยวายมาจากสังเวียนเช่นกัน แม้ว่าไทร์ยังคงยืนนิ่ง เขาหันไปมองที่แมทธิวอย่างครุ่นคิด เมื่อสบตากัน ไทร์สังเกตว่าดวงตาของแมทธิวเปลี่ยนเป็นสีแดงเดือดด้วยความโกรธ“ไทร์ ซัมเมอร์ ฉันไม่อยากจะทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับนาย อันที่จริง ฉันจะต่อสู้ด้วยมือเดียวยังได้เลย” ฝูงชนส่งเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่ง กระนั้น ไทร์ก็ยังคงไม่ขยับกล้ามเนื้อแม้แต่นิด“คนขี้ขลาดไร้ประโยชน์ นายกลัวงั้นเหรอ?” รีบขึ้นมาสิและเข้ามาในสังเวียน นายเป็นลูกผู้ชายไหมเนี่ย?”“ถูกต้อง บราเธอร์แมทธิวบอกแล้วว่าจะสู้ด้วยมือเดียว นายยังกลัวงั้นเหรอ?”“งั้นทำไมไม่ใช้ขาเดียวล่ะ บราเธอร์แมทธิว?”แมทธิวยกกำปั้นขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “แน่นอนฉันจะยืนอยู่นิ่ง ๆ ได้เลยล่ะ มาที่นี่สิ ไทร์ ซัมเมอร์ ขึ้นมา...”
ชายหนุ่มร่างเตี้ยและผิวดำที่มีสร้อยทองเส้นใหญ่พันรอบคอเดินออกมาจากมุมห้อง เขาคือ วิลเลียม คอลลินส์“บราเธอร์ไทร์ นายน่าทึ่งจริง ๆ นั่นเป็นความกล้าหาญสูงส่งเลยทีเดียว หมัดนั้นบ้าไปแล้ว มันดูยอดเยี่ยมยิ่งกว่าที่ เฉียวฟง ยอดคนผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ทำแบบนี้ในนิยายเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ซะอีก บราเธอร์ไทร์ นายเป็นเหมือนพระเจ้าสำหรับฉัน”ไทร์รู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่วิลเลียมพยายามจะทำให้ถูกชื่นชอบด้วยการยอมทำตามหรือเชื่อฟังตลอดเวลา เขาหยุดคิดถึงเวลาที่วิลเลียมโยนโซ่ทองลงในหม้อไฟไม่ได้เลย เหตุการณ์นั้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจของไทร์ราวกับเป็นคาถาที่ไม่มีวันแตกสลาย เมื่อไทร์นึกถึงสิ่งเหล่านี้ เลือดของเขาก็เดือดพล่านไทร์สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วละสายตาจากวิลเลียม และหันไปมองที่มุมถนนที่อยู่ไกลออกไป “เจด เธอคิดว่าฉันสนุกกับการเล่นซ่อนหากับเธอหรือเปล่า?” สตรีผู้สง่างามปรากฏตัวขึ้นทันทีจากด้านหลังวิลเลียม จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ เจด ลอเรล? อันที่จริงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าราชินีแห่งอัญมณีจากเมืองคานห์นั้นเซ็กซี่และน่าดึงดูดมากขนาดนี้แม้ว่าเธอจะอายุเกิน 30 ปีแล้ว แต่เธอก็รักษารูปลักษณ์และร่างกายของเธอไว้ไ
เมื่อไทร์ได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ราวกับว่าเขารู้มาตลอด “ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไทร์พึมพำกับตัวเองก่อนจะตอบว่า “ผ่อนคลาย ทำสิ่งที่พวกนายต้องทำต่อไป แค่ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “แต่บราเธอร์ไทร์” เดรก ทัคเกอร์กล่าว “ฉันจะจัดการเอง” ในตอนท้ายของการโทร เดรกไม่กล้าพูดอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงวางสายเท่านั้น ในยุคนี้ ที่วิธีการกระจายข้อมูลได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี ข้อมูลต่าง ๆ สามารถแพร่กระจายไปทั่วประเทศได้ทันที บุคคลสำคัญของเมืองคานห์มีการติดต่อทางธุรกิจกับเมืองไพร์มไม่น้อยและหลายคนยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ดังนั้น เมื่อข่าวการเสียชีวิตของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์แพร่กระจายไปทั่วเมืองไพร์ม เมืองคานห์ก็จะได้รับข่าวคราวเช่นกัน หลังจากการโทรครั้งแรกจากเดรก ไทร์ยังได้รับสายจากบุคคลอื่น เช่น โนอาห์ ลี, แซคเคอรี่ สมิธ, โดนัลด์ ลูอิส, และเจด ลอเรล อย่างต่อเนื่อง แต่ละคนต่างก็ดูวิตกกังวลและเป็นห่วงไทร์ เหตุการณ์นี้ร้ายแรงเกินไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตายของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ คาร์สัน ยอร์ก ไทร์ได้ให้คำตอบกับบุคคลสำคัญในเมืองคานห์เหล่านี้แบบเดี
ถึงตอนนี้ มีเพียงคาร์สัน ยอร์ก ไทร์ ซัมเมอร์และเจมสัน ซิงค์ ซึ่งรับผิดชอบการเทไวน์ข้าง ๆ พวกเขาเท่านั้น ที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร “ไทร์ อย่าไปสนใจเธอเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบนั้นเสมอมา คุณป้าเควลซ์ของคุณจะให้ความกระจ่างแก่เธอเอง ถ้าเธอพยายามจะรบกวนคุณอีก ผมจะเป็นคนดูแลเธอเอง” คาร์สันกล่าว ไทร์ยิ้มและตอบ “ไม่เป็นไรคุณลุงยอร์ก” “มาเถอะ วันนี้เราใช้โอกาสดี ๆ นี้เพื่อดื่มกัน” คาร์สันหันไปหาเจมสัน “เจมสัน ไปที่ห้องเก็บไวน์และหยิบไวน์ขวดเก่าที่ฉันเก็บไว้มา คืนนี้ไทร์และฉันจะดื่มจนกว่าเราจะเมากันไปข้างหนึ่ง” เจมสันพยักหน้าทันทีก่อนจะรีบไปที่ห้องเก็บไวน์ เมื่อเขาจากไป มีเพียงคาร์สันและไทร์เท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร ในขณะนั้น คาร์สันที่ยิ้มแย้มแจ่มใสในตอนแรก ใบหน้าของเขาแสดงถึงความจริงจังออกมาชั่วครู่ก่อนที่รอยยิ้มของเขาจะกลับคืนมา เพียงชั่วพริบตานั้น ไทร์ก็เข้าใจความหมายของเขาทันที คาร์สันขยับแก้วไวน์ต่อหน้าเขา เขาใช้ไวน์หนึ่งหยดจากแก้วของเขาเขียนลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วว่า 'หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง' ขณะที่เขาเขียน เขาพูดต่อว่า “ไทร์ ผมต้องขอบคุณคุณ ที่รักษาป้าเควลซ์ของคุณให้หายดี
ไทร์ ซัมเมอร์และคอนนี่ ยอร์กจึงนั่งลงด้วยกัน ในขณะที่พ่อบ้านเจมสันยืนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาเพื่อรินเครื่องดื่ม “พี่ชายที่รัก คุณแม่ของฉันดีกับคุณมาก ฉันมักจะขอให้เธอทำอาหารเหล่านี้ แต่เธอไม่ทำอาหารให้ฉันเลย เมื่อคุณอยู่ที่นี่ เธอกำลังแสดงทักษะการทำอาหารทั้งหมดของเธอให้คุณเห็น ในที่สุดฉันก็สามารถได้ทานอาหารเหล่านี้” จะว่าไปแล้ว คอนนี่ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของเธอเลย เธอคว้าปีกไก่จากบนโต๊ะแล้วเคี้ยวมันทันที สีหน้าของคาร์สัน ยอร์กมืดลงในทันทีและเขาก็ตะคอกเธอ “ดูเธอทำ แขกของเธอยังไม่ได้เริ่มรับทานเลย แต่เธอกำลังกินอาหารด้วยมือเปล่า วางมันลงเดี๋ยวนี้ มารยาทของเธออยู่ไหนหมด?” เธอไม่สะทกสะท้านกับคำดุว่าของพ่อของเธอ คอนนี่ยังคงเคี้ยวไก่ของเธอต่อไป เธอคว้าอีกอันหนึ่งใส่ในชามของไทร์ และเคี้ยวในขณะที่เธอพูดว่า “พี่ชายที่รัก คุณก็กินด้วยสิ ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก” ไทร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย พฤติกรรมของหญิงสาวคนนี้แตกต่างจากใบหน้าที่งดงามของเธอ คาร์สันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรกับลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจ “ไทร์ คุณไม่ต้องไปสนใจเธอ เธอไม่เป็นกุลสตรีเอาซะเลย” เขาส่งสายตา
ไทร์ ซัมเมอร์รู้สึกหนาวไปที่กระดูกสันหลังของเขา ผู้หญิงสมัยนี้ตรงไปตรงมาขนาดนี้ได้ยังไง? อันที่จริง ตั้งแต่ที่ วินนี่เฟรดเข้ามาในชีวิตเขา ไทร์ก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่นอีกเลย แต่ถ้าเขาได้พบกับคอนนี่ ยอร์กก่อนวินนี่เฟรด บางทีเขาอาจจะถูกดึงดูดโดยผู้หญิงที่สวยและงดงามคนนี้แทน ถึงแม้ว่า ไทร์จะได้พบกับหญิงสาวผู้มั่งคั่งและเจ้าหญิงผู้งดงามมากมายและเขายังได้พบกับคนดังระดับโลกมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครที่สวยได้เท่าคอนนี่ผู้นี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่แกะสลักและสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไทร์มีเพียงแค่วินนี่เฟรดเท่านั้น รถคาดิลแลคของเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ยอร์ก ในขณะที่ เจย์ เบลด ถูกทิ้งให้ยืนแข็งทื่ออยู่เช่นนั้น เขายังคงตะลึงงันในขณะที่เขาจ้องไปที่รถคาดิลแลคที่พุ่งออกไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เปลวเพลิงแห่งความโกรธแผดเผาหัวใจของเขา ลูกน้องของเข้าเดินเข้ามาหาเขาและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “บราเธอร์เจย์ คุณโอเคไหม?” ผัวะ… เจย์ปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของลูกน้อง ชายผู้นั้นรู้สึกได้ถึงตะคริวที่หน้าท้องและเขาก็ล้มลงกับพื้นแล้วจับหน้าท้องเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด “แม่ง
เมื่อพูดถึงคาร์สัน ยอร์ก ใบหน้าของเจย์ เบลดก็กระตุกเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยซาร์แห่งเมืองไพร์ม แต่เขาก็ต้องเกรงกลัวคาร์สัน ยอร์ก ที่เป็นราชาแห่งเซาท์ริเวอร์อยู่มาก ในเวลานี้ เขาตาบอดอย่างสิ้นเชิงเพราะความรักที่เขามีต่อคอนนี่ ยอร์ก เขาเห็นไทร์เป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เมื่อคาร์สันเชิญไทร์ไปทานอาหารเย็น เจย์รู้สึกว่าตำแหน่งของเขาถูกคุกคาม เมื่อจิตนาการถึงคอนนี่และไทร์ ที่กำลังมีความสุขอยู่ด้วยกัน มันบีบคั้นหัวใจของเขาและจุดประกายความโกรธของเขา เขาไม่สามารถทนเห็นมันได้ “ไทร์ ซัมเมอร์! ฉันไม่สนใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าแกยังกล้าที่จะเข้ามาเหยียบเมืองไพร์มอีก ฉันจะฆ่าแก!” เมื่อมองดูท่าทางที่คุกคามของเจย์ ไทร์กลับคิดว่ามันไร้สาระ “ฉันไม่ได้สนใจมิสยอร์กของนาย ขอร้องเถอะเจย์ อย่ามายุ่งกับฉัน” ไทร์ไม่สนใจคนเหล่านี้ในขณะที่เขากลับไปที่รถคาดิลแลคของเขา พวกเขาโชคดีที่เป็นคนของคาร์สัน ยอร์ก ถ้าไม่เช่นนั้น ไทร์จะไม่เมตตาพวกเขาอย่างแน่นอน “ฉันไม่สน ว่าแกจะสนใจเธอหรือเปล่า แต่เธอต้องการแต่งงานกับแก และนั่นคือความกังวลของฉัน! ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย กลับเมือง
“นายบอกว่า ระหว่างนายกับคอนนี่ ยอร์ก ไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ? ทำไมพ่อของเธอถึงชวนนายไปที่นั่น? ไม่น่าแปลกใจที่นายจะมั่นใจมาก ๆ ว่าบริษัทต่าง ๆ ในเมืองไพร์มจะต้องมาอ้อนวอนเรา ใครจะรู้ว่านายกำลังคิดที่จะทยานขึ้นไปด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลยอร์ก” ไทร์ ซัมเมอร์ขมวดคิ้ว วินนี่เฟรดแสดงออกถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ไม่เหมือนวินนี่เฟรดคนเดิม เธอกลายเป็นคนไร้เหตุผล บางทีคอนนี่ ยอร์กอาจจะโดดเด่นเกินไป ด้วยหน้าตาที่ดูดีและภูมิหลังของตระกูลที่โดดเด่นของเธอ ที่ทำให้วินนี่เฟรดต้องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งห่วงใยผู้ชายของเธออย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่าไทร์ ซัมเมอร์ มีจุดที่ลบไม่ออกอยู่ในหัวใจของวินนี่เฟรด ซี “ฉันจะโกรธถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ต่อไป วินนี่เฟรด” วินนี่เฟรดถอนหายใจและเปลี่ยนทัศนคติของเธอในทันใด เธอหัวเราะ "ฉันแค่ล้อเล่น! แต่ว่าแบลร์กับฉัน เราจะไม่ไปกับนาย คาร์สัน ยอร์ก อาจจะต้องการเชิญนายคนเดียวเท่านั้น” “เขาไม่ใช่คนแบบนั้น” ไทร์ตอบตามสัญชาตญาณ แต่แล้ว จู่ ๆ ความตระหนักก็แวบเข้ามาในใจของเขา เฉกเช่นแสงแวววาบจากสวรรค์ หรือเพื่อให้แม่นยำยิ่งขึ้น สัมผัสที่หก ที
เสียงฟ้าร้องดังก้องอยู่ข้างนอก ท่าทางของวินนี่เฟรดมืดมนลง ไทร์ถึงกับพูดไม่ออก เขายกมือขึ้นตามสัญชาตญาณด้วยเสียงฟ้าร้องฉับพลันและเขาก็เอามือลงหลังจากนั้น ในขณะนั้น เกรแฮม เดวิสโทรมา เพื่อแจ้งว่าลูกค้าจากเมืองไพร์มมาถึงแล้วและกำลังรออยู่ที่ชั้นล่าง วินนี่เฟรดจ้องเขม็งไปที่ไทร์ก่อนจะเดินออกจากออฟฟิศไป ไทร์นั่งลงบนเก้าอี้ของวินนี่เฟรด จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรไปหาฮวน เยตส์ ในอีกด้านหนึ่งของการโทรวิดีโอ ฮวนกำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการผ่อนคลาย ในที่ดินของเขาที่แฟนทั้งสองคนมอบให้แก่เขา “ฮวน ภรรยาของฉันมีอาการหึงหวง ฉันควรจะทำยังไงดี?" ไทร์ถาม บนหน้าจอ ฮวนตกใจเล็กน้อย “นายท่าน ท่านลืมคำแนะนำของผมไปแล้วเหรอ?” “ไสหัวไปซะ” ถ้าหากพวกเขาอยู่ใกล้กัน ไทร์จะทำให้ฮวนต้องพ่ายแพ้อย่างที่เขาจะไม่มีวันลืม เมื่อเห็นท่าทางบูดบึ้งของไทร์ ฮวนรู้ดีว่าเขาควรจะเข้าข้างเจ้านายของเขาและหุบปาก “นายท่าน ถ้าเธอหึงหวง แสดงว่าเธอห่วงใย ยิ่งความหึงหวงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งห่วงใยมากเท่านั้น! ท่านจะต้องพูดจาหวาน ๆ กับเธอ แล้วสาบานด้วยชีวิตของท่านว่าท่านไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเธอ หลังจ
เชลดอน เฮย์ส และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองออกไปตามที่ได้รับคำสั่ง จากนั้น ความเงียบสงัดก็เกิดขึ้นภายในสำนักงาน ไม่เพียงแค่เชลดอนที่ประหลาดใจเท่านั้น แต่คอนนี่ ยอร์กซึ่งอยู่นอกสนามก็ตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเช่นกัน จนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยเห็นใครที่มีพลังมากพอที่จะส่งเจย์ เบลด บินออกไปได้ด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว "คุณเป็นใคร?" เธอมองไทร์ ซัมเมอร์อย่างระมัดระวัง พูดตามตรง เธอสนใจไทร์ ที่หล่อเหลาได้ถึงเพียงนี้ "เธอเป็นใคร?" ไทร์ถามกลับ คอนนี่ตรงไปตรงมากับความตั้งใจของเธอ “ฉันคือ คอนนี ยอร์ก ลูกสาวของคาร์สัน ยอร์ก ธิดาของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์ ฉันมาเพื่อตามหาไทร์ ซัมเมอร์ เพื่อแต่งงานกับเขา” อะไรนะ? ไทร์รู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก ลูกสาวของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ ต้องการแต่งงานกับเขา? นี่เป็นเรื่องตลกที่น่ารังเกียจแบบไหน? เดี๋ยวก่อน แล้วใครคือ ราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ อีก? คาร์สัน ยอร์ค? ไทร์รับรู้ได้อย่างฉับพลัน เขาเป็นสามีของป้าเควลช์ไม่ใช่เหรอ? ผลงานชิ้นเอกของพระเจ้าคนนี้คือลูกสาวที่ไร้ค่าของเฮเธอร์ เควลซ์? "ออกไปเถอะ ฉันไม่เห็นด้วย” ไทร์ตอบอย่างตรงไปตรงมาหลังจา
อะไรนะ?” วินนี่เฟรดเกือบทำกาน้ำชาในมือของเธอหก เธอมองไปที่คอนนี่ ยอร์ก ด้วยความงุนงงและพยายามทำความเข้าใจกับคำที่เธอเพิ่งได้ยิน ผู้หญิงคนนี้กล้ามาก! เธอกล้าแสดงความรักในที่สาธารณชนกับชายที่แต่งงานแล้วต่อหน้าภรรยาของเขาได้ยังไง? ความไร้เดียงสาของคอนนี่มันไร้สาระเกินไป "มิสยอร์ก มันไม่ตลกนะคะ” ทัศนคติที่จริงใจของวินนี่เฟรดหายไปทันที ความประทับใจที่ดีของเธอที่มีต่อคอนนี่ลดลง ในทางกลับกัน คอนนี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มิสวินนี่เฟรด ฉันมาที่นี่วันนี้ด้วยความตั้งใจจริง ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจที่จะแต่งงานกับไทร์ ซัมเมอร์ ช่วยหย่ากับเขาด้วย แน่นอน ฉันจะชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เป็นยังไง? เพียงพอสำหรับคุณไหม?” วินนี่เฟรดกำลังต่อสู้เพื่อระงับความโกรธของเธอ แต่ข้อเสนอของคอนนี่ที่จะจ่ายให้เป็นฟางเส้นสุดท้าย เธอกำลังคิดอะไรอยู่? การจ่ายเงินให้เพื่อแลกกับสามี? “กรุณาเคารพการแต่งงานของเราด้วย มิสยอร์ก” น้ำเสียงของวินนี่เฟรดเย็นชา ถึงยังไงคอนนี่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง "มิสวินนี่เฟรด เหตุผลที่คุณปล่อยไทร์ไปไม่ได้ เป็นเพราะลูกสาวของคุณใช่ไหม? ไม่เ