“ฉันเข้าใจแล้ว” แมทธิว คอลลินส์ ยกกำปั้นขึ้นด้วยสีหน้าหน้าที่ดุดัน“ไทร์ ซัมเมอร์ เป็นคนขี้ขลาดที่ไร้ประโยชน์ นายควรทำให้ฉันภูมิใจและไม่ทำให้ฉันอายในภายหลัง” สตีเฟน โคล เตือน ขณะที่ แมทธิว คอลลินส์ ฟังแล้วหัวเราะคิกคักออกมาและพูดมาว่า “นั่นคือจุดแข็งของฉัน”ในตอนบ่าย สตีเฟน โคล ได้คิดที่จะชวน ไทร์ ซัมเมอร์ และวินนี่เฟรดไปเที่ยวรอบ ๆ เมือง เนื่องจากวินนี่เฟรด ซี รู้อยู่ในใจว่า สตีเฟน โคล และแมทธิว คอลลินส์ คิดจะทำไม่ดี เธอจึงตัดสินใจยอมให้ทำต่อไปและหาความจริงด้วยตัวเธอเองเมื่อพวกเขาเดินกันอยู่บนท้องถนน สตีเฟน โคล พยายามสร้างโอกาสให้ แมทธิว คอลลินส์ แสดงคุณสมบัติที่ดีของเขาเพื่อชดเชยความอึดอัดที่เขาก่อขึ้นเมื่อเขามอบของขวัญให้เธอก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อนคนนั้นเป็นคนที่น่าดูถูกเหยียดหยามอย่างสมบูรณ์ซึ่งเป็นคนไม่รู้เลยว่าจะทำให้ผู้หญิงชอบได้แบบไหน แมทธิวยังสามารถตัดบทสนทนาที่เขามีกับวินนี่เฟรดได้ ดังนั้น วินนี่เฟรด ซี มีการแสดงออกที่น่ากลัวจากสีหน้าของเธอตลอดการเดินทางในขณะเดียวกัน ไทร์ ซัมเมอร์ ก็ถอนหายใจพร้อมกับสังเกตดูทั้งสองคน อันที่จริงแล้ว เขารู้สึกว่ามันเป็นความผิดครั้งใ
ในฐานะผู้หญิงที่อ่อนแอ ไม่มีทางที่ วินนี่เฟรด ซี จะเอาชนะแรง สตีเฟน โคล ได้ ดังนั้นเขาจึงลากเธอออกจากโรงยิม อย่างไรก็ตาม ไทร์ ซัมเมอร์ ไม่ได้เดินตามพวกเขาไป เขายืนนิ่งโดยไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดอยู่ลึก ๆเสียงตะโกนรอบ ๆ ตัวเขาดังขึ้น ทุกคนคิดว่าไทร์เป็นคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าสู้กับแมทธิวในสังเวียน แมทธิวเองก็ตะโกนโวยวายมาจากสังเวียนเช่นกัน แม้ว่าไทร์ยังคงยืนนิ่ง เขาหันไปมองที่แมทธิวอย่างครุ่นคิด เมื่อสบตากัน ไทร์สังเกตว่าดวงตาของแมทธิวเปลี่ยนเป็นสีแดงเดือดด้วยความโกรธ“ไทร์ ซัมเมอร์ ฉันไม่อยากจะทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับนาย อันที่จริง ฉันจะต่อสู้ด้วยมือเดียวยังได้เลย” ฝูงชนส่งเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่ง กระนั้น ไทร์ก็ยังคงไม่ขยับกล้ามเนื้อแม้แต่นิด“คนขี้ขลาดไร้ประโยชน์ นายกลัวงั้นเหรอ?” รีบขึ้นมาสิและเข้ามาในสังเวียน นายเป็นลูกผู้ชายไหมเนี่ย?”“ถูกต้อง บราเธอร์แมทธิวบอกแล้วว่าจะสู้ด้วยมือเดียว นายยังกลัวงั้นเหรอ?”“งั้นทำไมไม่ใช้ขาเดียวล่ะ บราเธอร์แมทธิว?”แมทธิวยกกำปั้นขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “แน่นอนฉันจะยืนอยู่นิ่ง ๆ ได้เลยล่ะ มาที่นี่สิ ไทร์ ซัมเมอร์ ขึ้นมา...”
ชายหนุ่มร่างเตี้ยและผิวดำที่มีสร้อยทองเส้นใหญ่พันรอบคอเดินออกมาจากมุมห้อง เขาคือ วิลเลียม คอลลินส์“บราเธอร์ไทร์ นายน่าทึ่งจริง ๆ นั่นเป็นความกล้าหาญสูงส่งเลยทีเดียว หมัดนั้นบ้าไปแล้ว มันดูยอดเยี่ยมยิ่งกว่าที่ เฉียวฟง ยอดคนผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ทำแบบนี้ในนิยายเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ซะอีก บราเธอร์ไทร์ นายเป็นเหมือนพระเจ้าสำหรับฉัน”ไทร์รู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่วิลเลียมพยายามจะทำให้ถูกชื่นชอบด้วยการยอมทำตามหรือเชื่อฟังตลอดเวลา เขาหยุดคิดถึงเวลาที่วิลเลียมโยนโซ่ทองลงในหม้อไฟไม่ได้เลย เหตุการณ์นั้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจของไทร์ราวกับเป็นคาถาที่ไม่มีวันแตกสลาย เมื่อไทร์นึกถึงสิ่งเหล่านี้ เลือดของเขาก็เดือดพล่านไทร์สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วละสายตาจากวิลเลียม และหันไปมองที่มุมถนนที่อยู่ไกลออกไป “เจด เธอคิดว่าฉันสนุกกับการเล่นซ่อนหากับเธอหรือเปล่า?” สตรีผู้สง่างามปรากฏตัวขึ้นทันทีจากด้านหลังวิลเลียม จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ เจด ลอเรล? อันที่จริงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าราชินีแห่งอัญมณีจากเมืองคานห์นั้นเซ็กซี่และน่าดึงดูดมากขนาดนี้แม้ว่าเธอจะอายุเกิน 30 ปีแล้ว แต่เธอก็รักษารูปลักษณ์และร่างกายของเธอไว้ไ
มาร์คัสรู้สึกราวกับว่าเขาถูกส่งจากสวรรค์ลงไปนรกในทันใดก่อนหน้านี้ เจดสัญญาอย่างมั่นใจว่าเธอจะสามารถหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อปกป้องครอบครัวคอลลินส์ได้จากสถานการณ์อันตรายที่พวกเขาเผชิญ ดังนั้น มาร์คัสไม่เคยสิ้นหวัง เพราะเจดไม่เคยทำให้เขาผิดหวังกับความพยายามของเธอแต่คราวนี้ เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่งเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เจดพามาช่วยปกป้องเขา ตามลักษณะและรูปร่างของไทร์แล้ว เขาดูไม่เหมือนนักสู้ผู้เชี่ยวชาญเลยมาร์คัสไม่สามารถโทษความรู้สึกผิดหวังของเขาเองได้ คนอื่นในครอบครัวคงจะมีปฏิกิริยาในลักษณะเดียวกัน กระนั้น มาร์คัสเป็นคนที่เคยผ่านความยากลำบากมามากมาย เขาเชื่อในหลักการที่ว่าไม่ควรตัดสินหนังสือจากปกแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเชื่อใจในตัวไทร์มากนัก แต่เขาก็แน่ใจว่าจะไม่แสดงท่าทางมันออกมา “ใครก็ตามที่ปรากฏตัวเป็นแขกอยู่ตอนนี้ มานั่งเถอะ หนุ่มน้อยซัมเมอร์” มาร์คัสกล่าวออกไปแบบนั้น เจดและวิลเลียมถึงกับละทิ้งความกลัวเมื่อพวกเขาได้ยินว่ามาร์คัสพูดกับไทร์ยังไง ในฐานะเจ้าแห่งตำหนักราชันย์เรย์น เขาสามารถฆ่าตระกูลคอลลินส์ได้อย่างง่ายดายเป็นสิบครั้งด้วยการดีดนิ้วเท่านั้นเองมาร์คัส คอลลินส์ จะเรียกเขาว่าเป็
เมื่อได้ยินความคิดเห็นที่หยาบคายของไทร์ มาร์คัสก็เริ่มเดือดด้วยใบหน้าที่มีเหงื่อเย็นเยียบ เพราะไอรอนนั้นเป็นคนที่เขาพยายามอย่างมากที่จะจ้างมา หากไอรอนถูกทำให้ขุ่นเคืองด้วยคำพูดของไทร์และตามมาด้วยความโกรธแล้วล่ะก็ ครอบครัวคอลลินส์จะมีปัญหาใหญ่ในวันนี้อย่างแน่นอน“หนุ่มน้อยซัมเมอร์ นายไม่ควรหยาบคายกับท่านไอรอน” มาร์คัสกล่าวเมื่อถึงจุดนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่มาร์คัสจะต้องปฏิบัติต่อไทร์ด้วยความเคารพ เนื่องจากเขาไม่ได้นึกถึงและให้ความสำคัญกับไทร์มากนักตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จึงมีน้ำเสียงข่มขู่และตำหนิอของเขาออกมาจากคำพูด ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่เจด เขาคงจะไล่ ไทร์ออกจากบ้านไปแล้วในทางกลับกัน เจดเริ่มตัวสั่นและมีเสียหายใจแรงด้วยความกลัว ‘ไทร์ ซัมเมอร์ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระเจ้า นายพูดกับเขาแบบนี้ได้ยังไงกัน มาร์คัส?’ เธอคิดในใจกับตัวเองเธอพูดเสียงดังออกมา “พี่ใหญ่ หุบปาก! นายไม่สามารถดูหมิ่นมิสเตอร์ซัมเมอร์ได้”มาร์คัสรู้สึกเหมือนกับว่าเจดปกป้องไทร์มากเกินไป มาร์คัสขมวดคิ้ว ในขณะเดียวกัน ไอรอนเริ่มหัวเราะอย่างดังออกมา เขาเดินไปหาไทร์และมองลงมาที่เขาอย่างเย่อหยิ่ง“หนุ่มน้อย นายเพิ่งบอกว
ในความเงียบเกิดความเงียบสงัด—แม้แต่เข็มที่ตกลงสู่พื้นก็ยังได้ยินอย่างชัดเจนขณะที่สมองของมาร์คัสว่างเปล่าไปสามวินาที เจดก็ดูตกตะลึง แม้แต่ลีโอก็ดูตกใจเล็กน้อยนี่…นี่ไม่ใช่การพูดเกินจริงไปหน่อยเหรอ?แม้แต่ไอรอน ซึ่งนอนอยู่บนพื้นอย่างไม่ขยับเขยื้อนเมื่อครู่นี้ ก็ดูเหมือนจะลืมตาขึ้นในขณะที่เขาเคลื่อนตัวยืดขาออกไปด้านนอก‘ตุบ-ตุบ'… เสียงของหัวใจเต้นมาร์คัสรีบคุกเข่าลงกับพื้นและคำนับไทร์ “มิสเตอร์ซัมเมอร์ ฉัน มาร์คัส คอลลินส์ โง่เขลาที่ไม่รู้จักความสามารถของคุณ โปรดยกโทษให้ฉันด้วย มิสเตอร์ซัมเมอร์ ฉันขอร้องให้คุณช่วยพวกเรา ครอบครัวคอลลินส์ด้วยเถอะ!”ไทร์ลุกขึ้นจากโซฟา หรี่ตาขณะที่มองไปทางลีโอ สายตาของเขาทำให้ลีโอรู้สึกเหมือนถูกสัตว์ป่าจ้องกระโจน ในขณะที่หมัดของไอรอนนั้นไม่สามารถต่อยลีโอออกไปได้เลย แต่การเหลือบมองเพียงครั้งเดียวของไทร์ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถอยกลับโดยไม่รู้ตัวลีโอเริ่มพูดด้วยท่าทีหวาดกลัว “ฉันเป็นคนมาจากทางเหนือ…”ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจที่จะข่มขู่ไทร์ด้วยภูมิหลังของเขา แต่ทว่า ก่อนที่ลีโอจะได้พูดจบประโยค ไทร์ก็เริ่มลงมือแล้วบูม…หมัดเข้าที่หน้าอกของลีโออย่างรว
ขณะที่ไทร์พึมพำกับตัวเอง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ยและมีแววตาที่เย็นชา ในทางกลับกัน เจดยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น ใบหน้าของเธอขาวซีดด้วยความกลัวและตัวของเธอเริ่มสั่นในขณะเดียวกัน มาร์คัสรู้สึกประหม่ามากจนหัวใจของเขาเหมือนกำลังจะเต้นรัว ๆ ออกมาทะลุจากอก“ตกลง ฉันตกลงที่จะช่วยเธอ ฉันจะอยู่ที่นั่นเมื่อถึงเวลาการแข่งขันเรือมังกร!” เมื่อพูดอย่างนั้นออกไป ไทร์ก็เดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับ หลังจากที่เขาเดินจากไป ในที่สุดเจดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ“เจด มิสเตอร์ซัมเมอร์เกี่ยวอะไรกับตระกูลซัมเมอร์ฝั่งแดนเหนือด้วย? ทำไมเขาถึงมีปฏิกิริยาอย่างมากเมื่อเธอพูดถึงห้าพยัคฆ์ผู้กล้าแห่งตระกูลซัมเมอร์ฝั่งแดนเหนือ?” มาร์คัสถามเจดหันกลับมามองมาร์คัสอย่างเศร้า ๆ “พี่ใหญ่ ฉันจะทวนสิ่งที่พูดก่อนหน้านี้ให้ฟังอีกครั้งนะ จะดีกว่าถ้านายรู้เรื่องบางอย่างน้อยลง เว้นแต่นายจะไม่กลัวตาย!” มาร์คัสทำท่าตกตะลึง ไม่กล้าถามเธอต่ออีกเลยเมื่อไทร์เดินออกจากคฤหาสน์ของครอบครัวคอลลินส์ มันก็เป็นเวลาค่ำแล้ว เขาเรียกแท็กซี่เพื่อพาเขากลับไปที่บ้านของครอบครัวโคลเมื่อเขามาถึงบ้าน อาหารเ
แม้ว่าใบหน้าของเจคอบจะแดงกล่ำในขณะที่เขายืนอยู่ใกล้ ๆ เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรเพื่อป้องกันตัวเอง พอลพูดถูก ถ้าหากครอบครัวต้องพึ่งพาผู้หญิง ครอบครัวนั้นจะดูเป็นยังไง?เมื่อหกปีที่แล้ว เมื่อมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นกับวินนี่เฟรด คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านั้นแล้ว สำหรับครอบครัวของพวกเขา ถ้าเจคอบมีความกล้าหาญมากกว่านี้ ในช่วงหกปีที่ผ่านมาที่วินนี่เฟรดและแบลร์ต้องทนกับสายตาที่เยาะเย้ยและคำพูดอันดูถูกเหยียดหยามจากตระกูลซีแม้ว่าเจคอบจะรู้สึกแย่มากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่มีความกล้าพอที่จะท้าทายครอบครัวของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงยอมรับทุกสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นไว้เอง แม้แต่ภรรยาของเขา เฮเลน โคล ยังมีบุคลิกที่แน่วแน่มากกว่าเขาเสียอีกผู้ชายแบบไหนที่ไม่สามารถปกป้องภรรยาและลูกสาวของตัวเองได้? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพอล พ่อตาของเขาจึงปฏิบัติต่อเขาอย่างหยาบคาย ในบางครั้งแม้แต่เจคอบเองก็ยังดูถูกตัวเอง“ฉันจะไปดูการแข่งขันบนเรือดอกไม้” พอลกล่าวพร้อมกับมองคริสตินอย่างไม่พอใจ “เธอสามารถอยู่ที่นี่เพื่อชมเทศกาลแข่งเรือมังกรต่อไป บังเอิญว่า เบรนท์เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการรักษาความปลอดภัยของเรือดอกไม้ในปีนี้ เขา