บทที่ 4-4
“เบย์! นอนท่าอะไรแบบนั้นเป็นสาวเป็นนาง”
เบอาสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันทีจากโซฟาที่เธอกำลังนอนพาดขาไปบนพนักพิงหลัง
“พี่พร ก็เบย์เมื่อยนี่คะ”
สาวน้อยอ่อนวัยกว่าขยับพื้นที่ให้พี่สาวต่างมารดานั่งลงข้างกันพรางหยิบหนังสือนิยายรักที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านชันขาวางบนเบาะ
เพียะ!!
“นี่ ว่าอีกอย่างหันไปทำอีกท่าแล้ว”
“อู้ยพี่พร ตีเจ็บเหมือนกันนะเนี่ย”
“ก็ดูสิเท้าเปื้อนยังจะยกขึ้นวางบนโซฟา แล้วนี่เตรียมตัวหรือยังจะเดินทางไปกรุงเทพเมื่อไร”
“อีกสองสามอาทิตย์ รอรินทร์อยู่ เห็นว่าทางบ้านกลัวว่าน้องคนเล็กจะอยู่ไม่สบายเลยพากันไปซื้อคอนโดให้อยู่สะแล้ว”
“อ้าว แล้วหอที่จองไว้”
ปับ!!
เบอาปิดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่เสียงดังทันทีเมื่อได้ยินคำถามของอัญาพร
“นั่นสิคะ จองไว้แล้ว จ่ายเงินไปแล้ว นี่กลายเป็นเบย์ต้องอยู่คนเดียว สงสัยต้องหารูมเมทคนใหม่”
พูดเสร็จมือคว้าขนมมันฝรั่งถุงยี่ห้อดังใส่เข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ยจนน่าหยิก
“เออ พูดถึงรินทร์ ไม่เห็นเราไปเที่ยวบ้านเขาบ้าง ไหนเมื่อก่อนไปค้างออกบ่อย”
เบอาวางถุงขนมลงบนโต๊ะเล็กตรงกลางแล้วหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาอ่านต่อ ในใจว้าวุ่นเล็กน้อยแต่กลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะ
“ที่ผ่านมาไม่สะดวกค่ะ แต่เสาร์นี้โอเคแล้วเลยว่าจะไปค่ะ”
สาวน้อยเงียบเสียงลงเมื่อพูดจบทำทีเป็นอ่านหนังสือทั้ง ๆ ที่จิตใจพาลคิดไปถึงคนร่างสูงผิวสีเข้ม ตั้งแต่เกิดเหตุช่วงปีใหม่ เธอเลี่ยงไม่ยอมไปบ้านนารินทร์ จะไปค้างก็เมื่อให้แน่ใจแล้วว่าเขาไม่อยู่ เสาร์ที่จะถึงเห็นนารินทร์ว่าพี่ชายคนโตจะไปค้างหาดใหญ่เธอเลยยอมตกลง
เบอาพับเก็บหนังสือเอี้ยวหน้ามองพี่สาวที่เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นแล้ว หลับตาลงนิ่ง เขายังคงทำให้เธอร้อนจนต้องขยับตัวขยุกขยิกเพียงแค่เขายืนอยู่ใกล้ ๆ เท่านั้น เธอไม่ชอบมันอย่างยิ่ง
อีกนิดเดียวเบอา อีกสองสามอาทิตย์เธอจะเดินทางไปเรียนต่อคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก
ซี้ดดดด!!
สายลมหน้าร้อนของภาคใต้พัดพากลิ่นดอกยางกลางป่ากระทบนาสิกขณะที่เขายืนพิงกรอบประตูระเบียงห้องนอนใหญ่
นาวินทร์อัดบุหรี่เข้าปอดก่อนจะพ่นออกมาเป็นควันขาว เขากำลังยืนคิดทบทวนถึงเรื่องราวทั้งปีที่ผ่านมา
เรื่องริมสระน้ำผ่านไปเกือบหนึ่งปีอันเป็นปีที่หนักหนาแสนทรมานสำหรับเขา เพราะยิ่งนานวันที่ไม่ได้รับการตอบสนองจากเบอา ยิ่งทำให้กายแกร่งกระหายหิวอย่างดิบเถื่อน ยิ่งเคยได้ลิ้มรสริมฝีปากและทรวงอกอวบแสนหวาน กายแกร่งยิ่งหิวโหย ถึงแม้ว่าเขาได้พบเจอเธอเรื่อย ๆ ยามมาค้างที่บ้าน แต่ไม่เคยได้อยู่ใกล้กันอีกเลย!
สายตาของสาวน้อยมีแววเหยียดหยามเมื่อมองเขา ราวกับว่าเขาคือตัวประหลาดที่เธอต้องหลีกหนีให้ไกล และพอเปิดปากพูดก็พ่นแต่คำเยาะหยันกระทบกระเทียบจนน่าโมโห
แต่เขารู้ว่าสิ่งที่เธอแสดงออกมามันไม่จริง จากประสบการณ์ที่โชกโชนทำให้เขามองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ผิวอ่อนนุ่มของเบอาจะเหยียดขยายยามเขาเข้าใกล้ แผ่นหลังบอบบางยืดสูงระแวดระวัง และที่สำคัญหน้าอกของเบอาชูชันเพียงเขาจ้องมอง
นาวินทร์หยักยิ้มสูดเจ้าควันพิษเข้าปอดอีกครั้งแล้วปล่อยออกยาวจนควันขาวอ่อนจางไปกับกระแสลม
ตอนนี้เขาจัดการชีวิตรักให้ใสสะอาดดั่งทารก และถ้าเขาเกิดความต้องการปลดปล่อยเขาจะข้ามไปอีกจังหวัด สั่งห้ามพวกเธอไม่ให้เข้ามายังหาดใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงข่าวลือ เขาไม่ใช้คนซื้อกิน ไม่ชอบวันไนท์สแตนด์ เขาชอบที่จะรู้จักกันก่อนและตกลงกันให้แน่นอน
ความมืดโรยตัวโดยรอบผืนป่าด้านหน้า เขายังยืนอยู่ตรงระเบียงห้องนอนซึ่งหันหน้าไปทางอ่างเก็บน้ำแม้ว่าบุหรี่จะหมดมวนไปสักพักแล้ว
อีกไม่กี่เดือนเบอาต้องไปเรียนต่อที่เมืองหลวงพร้อมกับน้องสาวของเขา อีกสี่ปี เขาต้องรออีกสี่ปี และเขาควรต้องทำบางอย่างเพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะไม่สูญเสียเธอไปในระหว่างนี้
บทที่ 4-5“เบย์ พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย”เบอาแทบเดินสะดุดขาเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่ดังลอดมาเบา ๆ ตรงโถงกลางทางเดินระหว่างที่เธอกำลังจะลงไปชั้นล่างไหนรินทร์บอกว่าไม่อยู่บ้าน!ในช่วงปีที่ผ่านมาเธอสามารถหลบเขาได้มาตลอด พยายามอยู่ห่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และมันได้ผล“ถ้ามีอะไรจะพูดกับฉัน ลงไปคุยกันข้างล่างดีกว่าค่ะ”“อีกสองอาทิตย์เราคงไม่ได้เจอกันแล้ว พี่มีเรื่องอยากจะพูดด้วย”เบอาลังเลไม่แน่ใจ ร่างชายหนุ่มขวางทางเดินด้านหน้าอย่างไม่ยอม ใบหน้ากร้าวแกร่งมุ่งมั่น เธอคาดว่าครั้งนี้คงหลีกไม่พ้น อีกอย่างเขาคงไม่กล้าทำรุ่มร่ามกับเธอในบ้านของพ่อแม่“ก็ได้ค่ะ พูดมาสิคะ”“ไปคุยที่ห้องพี่แล้วกัน พี่ไม่อยากให้ใครได้ยิน”สาวน้อยลากเท้าเดินตามนาวินทร์ไปยังห้องนอนใหญ่ และอันที่จริงเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าห้องนอนของเขาจะเป็นแบบไหนเขาเปิดประตูห้องออกกว้างรอจนหญิงสาวเดินเข้าไปแล้วจึงปิดประตูตามหลังโดยไม่ลืมลงกลอนปัง!!“ทำไมต้องลงกลอน!!”เบอารีบถามด้วยความตระหนก เธอถอยกรูดทันทีเมื่อร่างแกร่งเดินสาวเท้าเข้าหาจนถึงกลางห้องกว้าง ชำเลืองหาทางหนีทั้งซ้ายขวาพยายามไม่มองเตียงใหญ่ด้านหลัง“กันคนเข้ามา เ
บทที่ 4-6***ปากกว้างเย้ายวนเผยอแย้มรอคอย เธอคาดหวังถึงสิ่งที่ใกล้เกิดขึ้น เปลือกตาเธอหลุบลงมองริมฝีปากหนา ลิ้นเขาโผล่ให้เห็นเล็กน้อย จนเธอต้องการสัมผัสลิ้มลอง ตอนนี้ปากเขาจะอุ่นร้อนเหมือนปากเธอหรือเปล่า?เสียงครางต่ำลอดออกมาจากลำคอระหง ริมฝีปากนุ่มหนาของนายหัวช่างอุ่นร้อนและหนักหน่วง ดั่งเขาปลดปล่อยการสะกดกลั้นทั้งมวลมาตลอดทั้งปีโดยการบดจุมพิตบังคับให้เบอาเปิดปากรับเขาเข้าไปมือร้อนเขาสัมผัสร่างของเธอ โอบรัดกายสาวที่ดูเหมือนอวบอิ่มขึ้นจากปีก่อน เดินขยับไปข้างหน้าดันร่างสาวน้อยไม่ประสาไปยังเตียงนอนใหญ่ก้มลงตวัดร่างวางลงบนฟูกนุ่มแผ่นหลังของเบอาสัมผัสเบาะอ่อนนุ่มขณะที่เธอกำลังจมลงสู่ห้วงเสน่หา พลันคืนสติกวาดตามองเพดานด้านบนผ่านร่างแกร่งทาบทับอยู่บนร่างเธอทั้งเสียดสีและลูบไล้ไปทั่วตัว“อือ อื้อ อย่านะ อือ”เขาปิดปากเธออีกครั้งใช้ลิ้นเปิดปากเธอออก ส่งลิ้นสากกวาดไล้ในโพรงฉ่ำหวาน เขาเสาะหาไปตามไรฟัน เย้าแหย่ลิ้นน้อยของเบอามือใหญ่รวบข้อมือของเธอขึ้นสูงเหนือศีรษะ กดหัวเข่าแทรกลงตรงกลางหว่างขาแล้วดันกายแกร่งชูชันไปตรงเนินเนื้อสาวเบอาสะดุ้งเฮือก นัยน์ตาสีทองพลันลืมขึ้นพยายามเบือนหน้าหนี บาง
บทที่ 4-7**เบอาขยับตัวลุกขึ้นทันทีในขณะที่นาวินทร์เพิ่งเริ่มแกะถุงฟลอยด์ เขาไม่ทันสวมถุงยางด้วยซ้ำ เมื่อเธอพลิกตัวไปอีกด้านลงจากเตียงหางตา สีหน้าแปลกใจก่อนจะบึ้งตึงร่างโปร่งบางเตรียมออกวิ่ง เธอตั้งใจออกไปทั้งแบบนี้ไร้เสื้อผ้าติดกาย ภาวนาขอให้ตัวเองโชคดี ไม่ให้มีใครพบเธอตรงโถงกลางแต่เบอายังไม่ทันได้ก้าวขาเลยสักก้าวเมื่อร่างใหญ่ของนาวินทร์ กระแทกเธอจนล้มลงบนพื้นหน้าเตียง“บ้าจริงเบย์ จะไปไหน”เขาเกยร่างขึ้นทับเธอไว้ ล็อกข้อมือสาวน้อยไว้ดั่งเดิม“ปล่อยนะ คนบ้า บอกให้ปล่อย!”นาวินทร์แปลกใจ เขาเพียงแค่ผละออกมาเพื่อสวมถุงยางป้องกันให้เบอา แต่ไฉนเธอถึงกลับใจได้ไวขนาดนี้“ไม่ เบย์ต้องอยู่ก่อน ไปตอนนี้ไม่ได้ เรายังไม่จบเรื่อง”“ทำไมจะไม่ได้ ฉันจะไม่นอนอยู่เฉย ๆ ให้นายหัวทำต่อแล้ว ปล่อยนะ!”“เป็นบ้าอะไร!! ไม่มีทาง พี่จะเอาเบย์ให้เสร็จ”เบอาหน้าตื่นเมื่อเขาแทรกเข่าตรงกลางจัดท่าจนแน่ใจว่าไม่พลาด จึงเสียบเข้าอย่างแรงจนเบอาเบ้หน้า เขาดันเข่าเธอจนชิดหน้าอกเปิดเธอออกกว้างส่งแรงตอกลงชายหนุ่มหน้ามืดขาดการยับยั้งจิตใจ เขาส่งแรงลงไปให้เบอารับรู้ถึงทุกอย่างเมื่อสักพักเขาพยายามอย่างยิ่งยวดทะนุถนอมเบาม
บทที่ 5-1“เลือกได้หรือยังเบย์”เบอาจับกระโปรงตัวสวยออกมาจากราว ยกขึ้นส่องดูพิจารณา ตามปกติเธอไม่ค่อยใส่พวกกระโปรงอะไรพวกนี้อยู่แล้ว หากแต่เธอต้องการลองแต่งตัวแปลกไปบ้าง ในใจยังหวานล้ำยามคิดถึงเรื่องเมื่อวานนาวินทร์เป็นคนขับรถมาส่งเธอที่บ้าน ก่อนจากกันยังชะโงกหน้ามาจูบอ่อนหวานกับเธออีกครั้ง พร้อมคำมั่นว่าวันพรุ่งนี้เขาจะมาขอหมั้น“ยายเบย์!!”“คะ ค่ะได้แล้วค่ะ เบย์ขอตัวนี้”เบอายื่นกระโปรงตัวสวยส่งให้พี่สาวแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อฝันหวานถึงวันแต่งงานร้านเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองหาดใหญ่มีไม่มากนักทำให้ลูกค้าผู้หญิงต่างหลั่งไหลมาใช้บริการจนแน่นร้านเธอเห็นลูกค้ากลุ่มหนึ่งเป็นสาวสวยจัดอายุราวยี่สิบต้น ๆ สามสี่คนเลือกหาซื้อเสื้อผ้าเช่นเดียวกับเธอระหว่างรอเวลาคิดเงินเบอาจึงเลือกเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาเหลือบเห็นสาวสวยกลุ่มนั้นหยิบชุดเดรสสวยมากจนเบอาเองยังอยากได้“เธอ เอาชุดนี้สิ สวยนะ ไว้ใส่ไปดินเนอร์กับนายหัว”“อื้อ ไหนดูสิ ดูราคาก่อน”“โอ๊ย ระดับเด็กนายหัวนาวินทร์ยังต้องดูราคาอีกเหรอยัยกาแฟ”“แหมเธอ จะใช้เงินของเขาก็ควรดูสักหน่อย นายหัวจะได้ไม่ว่าเอาว่าใช้เงินเปลือง”เบอาชะงักมื
บทที่ 5-2“ว่าไงนะครับ!!”“เบอาเดินทางไปกรุงเทพแล้วครับ ไม่ทราบว่านายหัวมีธุระอะไรหรือเปล่า”นาวินทร์นั่งอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ในบ้านของเบอา เขามาตามนัดคือวันนี้เขาต้องมาพูดคุยขอหมั้นกับทางพ่อแม่ของเธอ แต่กลายเป็นว่าสาวน้อยคนนั้นหายตัวไปแล้ว“ก่อนไปเบย์ได้พูดอะไรหรือเปล่าครับ”“ไม่ค่ะ เห็นบอกแต่ว่ากำหนดการทางมหาวิทยาลัยเลื่อนขึ้นมาเลยอยากขึ้นไปเตรียมตัว”“แล้วเขาไปกับใครครับ”เดชาหันมองหน้าภรรยาด้วยความสงสัย นายหัวนาวินทร์มาถึงก็ขอพบตัวเบอาลูกสาวคนเล็กของเขาและดูจากท่าทีตอนนี้ร้อนรนชอบกล“ไปกับยัยพร พี่สาวเขาน่ะค่ะ ไม่ทราบว่านายหัวมีธุระอะไรกับเบย์หรือเปล่า ยัยเบย์ไปล่วงเกินนายหัวหรือเปล่าคะ”“เปล่าครับไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับเลย”ทิพย์ประภาและเดชาลุกขึ้นยืนพร้อมกันเมื่อนายหัวนาวินทร์ผุดลุกจากโซฟากระทันหันและเดินกลับไปไม่แม้แต่จะหันมาบอกลาอีกครั้ง“เกิดอะไรน่ะแม่”นายเดชาหันมาเอ่ยถามภรรยาซึ่งตามปกติเธอจะรู้ทุกเรื่องของลูกสาว“ไม่รู้สิคะ ไม่รู้ยัยเบย์ไปทำอะไรผิดไว้หรือเปล่า”“แม่ลองโทรดูสิ”ทิพย์ประภายังทำหน้ากังวลใจ“ไม่รู้ว่าแม่ลูกคนเล็กจะยอมเปิดปากหรือเปล่า พ่อก็รู้นิสัยลูกดี ถ
บทที่ 5-3ร่างสูงโปร่งสวมชุดทำงานออฟฟิศแบบสาวสมัยใหม่อย่างคนกรุงเทพมหานครเมืองหลวง ลงจากรถแท็กซี่เพื่อเข้าสู่ตัวอาคารคอนโดมิเนียมหลังจากเลิกงานเธอยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาอีกไม่กี่นาทีจะยี่สิบนาฬิกา เสียงถุงพลาสติกใส่กับข้าวที่ซื้อมาจากข้างออฟฟิศส่งเสียงดังขณะที่เอื้อมมือออกไปกดลิฟต์ติ๊ง!เบอาก้าวเท้าเข้าสู่ภายในตัวลิฟต์พาเธอขึ้นสู่ชั้นบนไม่สูงมากนักตามกำลังซื้อของเธอที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง แต่ก็ยังต้องผ่อนส่งกับธนาคารอีกหลายปีมากนักเธอเรียนจบมาหนึ่งปีแล้วและกำลังไปได้สวยในสายงานเกษตรซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเลือกเรียนด้านนี้จริง ๆ เธอจบมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เงินเดือนสูงพอประมาณแม้แลกกับการทำงานกับบริษัทปุ๋ยจะหนักหนาสักหน่อยเบอาก้าวออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นที่เก้าเดินเลี้ยวซ้ายไปตามโถงทางเดินยาว เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นเป็นระยะ ๆรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเมื่อนึกถึงพี่สาวอัญาพรที่ตอนนี้เข้าทำงานในโรงแรมชื่อดังของเมืองหาดใหญ่ เป็นหัวหน้าเซฟอย่างที่พี่สาวต้องการแอ๊ด!!เธอเปิดประตูเข้าห้องขนาดเล็กแบบสตูดิโอแบ่งกั้นสัดส่วน โยนกระเป๋าสะพายลงบนโซฟาเหมือนเคยตามความเคยชินก่อนจะเดินตรงไปยังครั
บทที่ 5-4ทันทีที่เบอาเหยียบเท้าย่างลงแผ่นดินเมืองหาดใหญ่ฝนเม็ดใหญ่พลันตกลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเธอลากกระเป๋าเดินทางออกจากช่องผู้โดยสารขาเข้ามองตรงไปยังอัญาพรที่ลามาชั่วคราวเพื่อแวะมารับเธอ“พี่พร!!”เบอาลากกระเป๋าวิ่งตรงไปหาพี่สาวสวมกอดด้วยความคิดถึง หอมแก้มซ้ายขวาสลับกันจนพี่สาวเธอต้องเบือนหน้าหนี“พอ ๆ แล้ว ดูสิ ไหน ไม่เจอกันหลายปีโตเป็นสาวแล้วเรา”“เบย์ก็โตเป็นสาวตั้งแต่ก่อนไปแล้วนะคะ”เบอาหยุดยืนตรงชายคาเมื่อออกมาแล้วเจอกับสายฝนที่ยังกระหน่ำ“รอนี่ล่ะ พี่ไปเอารถที่ลานแล้วจะวกมารับ”“แต่ฝนมันยังตกหนักนะพี่พร เรารอก่อนดีไหม”“ไม่ได้หรอก พี่ลามาไม่นานต้องรีบกลับแล้ว วันนี้มีงานประชุมสมาคมสวนยางภาคใต้ พวกคนใหญ่โตมากันเยอะกลัวจะทำมื้อเย็นไม่ทัน”เบอาพยักหน้ารับมองตามร่างพี่สาวที่วิ่งฝ่าฝนออกไปยังลานจอดรถ เพียงไม่นานรถเก๋งสีเทากลางเก่ากลางใหม่ก็มาจอดรับเธอตรงชายคาปัง!!“พี่พรซื้อรถใหม่เหรอคะ”“ของเพื่อน”แก้มอัญาพรแดงซ่านเล็กน้อยเมื่อตอบคำถามของน้องสาว ค่อยเลื่อนออกตัวจากสนามบินหาดใหญ่เข้าสู่ถนนหลักเพื่อตรงไปยังโรงแรมชายหาด“วันนี้ค้างในเมืองก่อน พรุ่งนี้พี่ลาไว้แล้วจะได้กลับบ้านพร้อม
บทที่ 6-1ฝนยังตกไม่หยุดตั้งแต่เบอาลงจากเครื่องบินกระทั่งถึงเวลานี้ เธอตัดสินใจเลือกอยู่แต่ในห้องเมื่อทราบว่าโรงแรมแห่งนี้เจ้าของคือนายหัวนาวินทร์ร่างสูงโปร่งยืนตรงหน้าต่างห้องพักแหวกผ้าม่านสีครีมผืนใหญ่มองออกไปภายนอก ห้องพักไม่ใหญ่มากนักเป็นแบบสองเตียงแต่สะอาดและกว้างกว่าโรงแรมทั่วไปเบอาเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากใช้เวลาชำระร่างกายนานพอสมควร ยกมือขึ้นซับน้ำจากการสระผมด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กป่านนี้นายหัวนาวินทร์คงรู้แล้วว่าเธอกลับเข้ามาในอาณาจักรของเขา ความรู้สึกวันนั้นติดตรึงเธอนานเกินไปจนไม่สามารถสลัดออกไปได้หมด เบอาสลัดศีรษะแรง ๆ ขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านไม่ อย่าไปคิดถึงมันเบย์!แต่เสียงหญิงสาวคนนั้นก็ยังติดหู เธอจำได้แม้กระทั่งเสียงทอดถอนหายใจเมื่อเธอเอ่ยชื่อนายหัวหลังจากเย็นวันนั้นเธอจึงตัดสินใจเดินทางกระทันหันเข้าสู่เมืองกรุงเทพแล้วไม่หันกลับมาอีกเลยห้าปีที่ไม่เคยเห็นแม้แต่รูปถ่าย มีเพียงชื่อและเรื่องสิ่งละอันพันละน้อยที่นารินทร์มักพูดถึงพี่ชายครื้นนนน!!เบอาสะดุ้งตกใจตื่นจากภวังค์ความหลังเมื่อท้องฟ้าร้องลั่น เธอเห็นสายฟ้าแลบผ่านตรงหน้าจึงห่อไหล่รีบปิดม่านก๊อก ก๊อก!!หญิงสาว
บทที่ 12-1** nc จบบริบูรณ์สาวน้อยหน้าหวานลูกครึ่งโปรตุเกสนอนหลับสนิทคว่ำหน้าบนหมอนใบนุ่มจนไม่รู้เลยว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนนอนกระสับกระส่ายอยู่ข้าง ๆนาวินทร์เพียรพยายามทั้งลูบตัว ทั้งกระซิบและพลิกร่าง แต่สาวสวยยังนอนพลิกร่างกลับไปคว่ำตามเดิม ลูบผ่านต้นแขนจนถึงข้อมือบางกระทั่งถึงแหวนหมั้นเพชรเม็ดเล็กพอเหมาะอย่างที่เธอชอบเขาหงายตัวลงใช้มือก่ายหน้าผากสะกดกลั้นความต้องการยามเช้าที่พุ่งทะยานแม้ว่ายามค่ำคืนจะสุขสมไปแล้วเปลือกตาของเบอายังหลับพริ้มไม่รับรู้สิ่งรอบข้างจากความเหนื่อยอ่อนจนเขาต้องลุกขึ้นจากเตียงหยิบบุหรี่ออกไปสูบมือควานหาไฟแช็กในลิ้นชักโต๊ะแต่ไม่เจอ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนตอนพาเบอาไปทานข้าวเขาได้ฝากไว้ที่เธอ จึงเดินกลับไปยังหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเดิมที่เธอชอบใช้ขึ้นมาเขาล้วงมือควานหาและพบว่ามันอยู่ที่ก้นกระเป๋าเพราะน้ำหนักของไฟแช็กแบบซิปโป ขณะที่กำลังหยิบพลันนิ้วไปโดนแผงยาบางอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันออกมานาวินทร์หรี่ดวงตาคมกริบลงเมื่อเห็นแผงยาชัด ๆ ท่ามกลางแสงยามเช้าที่เริ่มสาดเข้ามาในห้อง เม็ดสีชมพูสวยบนแผงมีลูกศรชี้ว่าควรเริ่มทานจากเม็ดไหนไปถึงเม็ดไหนยาคุม!
บทที่ 11-3เขาหันกลับไปมองเห็นสาวน้อยออกมายืนอยู่ด้านข้างตัวรถห่มด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวเหมือนเดิม สีของผ้าห่มขาวโพลนตัดกับสีของผืนป่ายามโพล้เพล้นายหัวนาวินทร์ยังเดินขึ้นบันไดบ้านต่อจนถึงร่างของไอ้สิงห์ จากนั้นเดินเลยไปยังครัวที่ทำใหม่ปลดถังแก๊สออกมาลากจนถึงกลางบ้านเทน้ำมันเบนซินโดยรอบตัวและเทเป็นทางจนเกือบถึงประตูบ้านก็หมดเสียก่อน ยืนมองร่างที่เริ่มเย็นชืดของไอ้สารเลวอีกครั้ง“ไม่ต้องกังวลไอ้สิงห์ เดี๋ยวตัวมึงก็ร้อนแล้ว”เขาหยิบซิบโปออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดใส่เศษกระดาษนิตยสารที่หยิบมาจากในบ้านแล้ววางให้ตรงกับคราบน้ำมันเบนซินที่เริ่มระเหยจากนั้นจึงปิดประตูบ้านแล้วลงมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุดวิ่งกลับไปที่รถบรึ้ม!!นาวินทร์สะดุ้งเมื่อเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังขึ้นพร้อมกับเสียงไม้บ้านแตกลั่นเขาหันไปมองบ้านหลังเล็กที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อไว้พักผ่อนกับสาวๆ แต่บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เกือบจะทำให้เขาเสียเบอาไป“พี่วินทร์”นาวินทร์เดินกลับมาที่รถสวมกอดเบอาไว้แน่น โน้มใบหน้าลงหอมศีรษะ“ขึ้นรถเถอะ พี่จะพาไปบ้านพี่”“แต่ว่า..”“อย่าเพิ่งดื้อนะคนดี ใจพี่จะไม่ไหวแล้ว”เบอาเงยหน้ามองชายร่า
บทที่ 11-2เอี๊ยดดดด!!นาวินทร์หักหลบรถกระบะเก่าที่สวนกับเขากลางทางขณะที่กำลังออกจากถนนเข้าท้ายสวนเห็นลาง ๆ เป็นผู้ชายสองคนมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของคนนั่งฝั่งข้างคนขับอีกหนึ่งคนเขาขับรถต่อไปอีกสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าถนนสายนี้เป็นทางส่วนบุคคลเข้าท้ายสวนของเขาโดยเฉพาะ และมีไม่กี่คนที่รู้ทางนี้เอี๊ยด!!นาวินทร์เหยียบเบรกกะทันหันเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกขนาบข้าง หล่อนดูเหมือนจะนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมสีน้ำตาลอ่อนพระเจ้า!! ระยำ ไอ้ห่าเอ้ย!!เขาหักรถเลี้ยวกลับทันที ระยะทางที่เขาขับสวนกับรถคันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานแต่ใจเขากลัวเหลือเกินว่าจะไปไม่ทันนาวินทร์เหลือบตามองผู้ชายร่างสูงผอมเกร็งผิวคล้ำที่เดินสวนออกมาบนไหล่ทางเล็ก มันเดินออกมาจากบ้านท้ายสวน สบตาตื่นตระหนกของไอ้หมอนั่นด้วยตาแข็งกร้าว แต่เขาไม่หยุดรถเวลามันกระชั้นชิดเกินไป ถ้าเขาหยุดรถถามมันตอนนี้ เบอาอาจถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเขาจอดรถดับเครื่องก่อนที่จะถึงทางเข้าบ้าน ตั้งใจไม่ให้คนร้ายอีกคนรู้ตัว เปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบปืนสั้นออกมา เปิดดูกระสุนในรังปืนแล้วหมุนปิดขึ้นไกนกค้างไว้นาวินทร์ลงจากรถกระบะคันเก่าสีดำ เดินอาดไม่กลัวเกรงสิ่งใดตั
บทที่ 11-1บ้านหลังเล็กหรือกระท่อมที่นาวินทร์มักเรียกดูเรียบร้อยดี กลิ่นสีทาไม้เปลี่ยนจากสีไม้แดงเป็นสีไม้โอ๊ก เตียงใหญ่เขาสั่งให้เปลี่ยนใหม่เช่นกันพร้อมกับฟูกที่นอนเขาเดินออกไปดูในห้องน้ำ ช่างขาประจำทำงานดีเหมือนเคย อ่างอาบน้ำสุดหรูติดตั้งถูกต้องและงานเนี้ยบจากนั้นจึงเดินออกมาทางห้องครัวที่ทำเพิ่ม ใจคิดไปว่าบางวันอาจชวนสาวน้อยทำบาร์บีคิวนั่งเล่นนอกบ้านบ้างรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มยามนึกไปถึงดวงหน้างามของเบอา เธอคงบ่นบ้างเวลาให้ทำกับข้าวเพราะเป็นงานที่เธอไม่ถนัด แต่เขาจะคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง ยิ่งถ้าให้สาวน้อยลองนั่งบนเคาน์เตอร์ครัวหลังใหม่ขนาดความสูงกำลังพอดีแล้วมีเขาที่อยู่ตรงกลางมั่นโยกคลึงบ่อย ๆ เบอาคงจะชอบงานครัวมากขึ้นนาวินทร์ปิดประตูบ้านใส่กุญแจแล้วเดินลงบันได เวลาเย็นของป่าสวนยางมืดเร็วขนาดยังไม่ทันห้าโมงครึ่งก็เกิดเงาแสงสีอ่อนทอดยาวผ่านใบไม้ของต้นยางมายังลานจอดรถบรื้น!ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขับรถออกจากลานจอดของบ้านหลังเล็กกลางป่าท้ายสวน กลับรถวนจนล้อสะบัดเข้าสู่เลนถนนลูกรังสีแดงฝ่าสวนยางออกไปยังถนนใหญ่เพื่อไปยังสวนข้างเคียง ไปหาสาวน้อยของเขา“ไอ้ห่า ไหนว่ะ”“
บทที่ 10-4ยามเย็นของอำเภอเล็ก ๆ ขอบชายแดนสุดของภาคใต้ เบอาขับรถกลับจากอำเภอไปยังทางที่คุ้นเคยโดยไม่คิดเอะใจอารมณ์ยังขุ่นมัวจากเรื่องเมื่อบ่ายจนไม่ต้องการเห็นหน้านายหัวตัวต้นเรื่อง เสียงเอะอะโวยวายเมื่อเธอโทรศัพท์ไปบอก นึกภาพใบหน้าคมเข้มของนายหัวอารมณ์ฉุนเฉียวให้ยิ้มกริ่มในหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มองไปยังเบาะด้านข้าง นอกจากเสียตัวเป็นดอกเบี้ย เธอยังต้องเอาใจซื้อของขวัญวันเกิดให้เขาอีกยายเบย์ เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆจากวันนั้นในบ้านริมทะเลเธอเริ่มรู้สึกแล้วว่านายหัวนาวินทร์มีใจให้เธอ เขาให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครอีกตลอดระยะสัญญาสัญญาที่ทำกันไว้หนึ่งปีแม้ดูเหมือนว่าจะนานเกินพอแต่เบอากลับไม่คิดเช่นนั้น หนึ่งปีมันช่างสั้นเหลือเกินและเธอเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุดเป็นความทรงจำไว้ในยามที่ต้องจากกันหน้าหวานคมลูกครึ่งอมยิ้ม เมื่อวันก่อนพาเธอไปทานข้าวร้านเดิมมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเจ๊ศศิคงจะเที่ยวเอาไปเป่าประกาศ และในที่สุดเธอก็ได้ทานอาหารรสจืดสมใจแต่นายหัวกลับทำหน้าปุเลี่ยนเพราะรสชาติชืดเกินไปเธอมองไปยังข้างทางที่มีแต่ป่าสวนยางสุดลูกหูลูกตาในแถบนี้ล้วนส่วนใหญ่เป็นของนายหัวที่แบ่งให้ค
บทที่ 10-3แพรวนภากำเช็คในมือแน่น จำนวนเงินสองล้านมากโขสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ เธอลงทุนกับนายหัวไว้มากเกินกว่าจำนวนที่นายหัวเซ็นเช็คมาให้ ทั้งแรงกายแรงใจ ร่างกายของเธอพร้อมสำหรับนายหัวคนเดียวสาวร่างอวบหยิบเช็คใส่กระเป๋าสะพาย หลังจากลุกขึ้นจากโต๊ะแผนกบัญชีของโรงแรมชื่อดัง แพรวนภาไม่แน่ใจว่าคนในแผนกนี้จะสงสัยที่มาของเช็คใบนี้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายหัวถึงสั่งจ่ายเงินเป็นจำนวนมากผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ที่เธอไม่พบกับนายหัวอีกเลย เขาเหมือนหายไปจากตัวเมืองหาดใหญ่จนน่าแปลกใจ เธอพาร่างเดินผ่านโถงทางเข้ากระทั่งพบกับคนรู้จักคุ้นเคย“อ้าว แพรว ไม่เจอกันนาน”ใบหน้าอย่างคนใต้ของแพรวนภาค่อนข้างตกใจเมื่อเจอกับแฟนเก่าสมัยช่วงที่เธอเลิกลากับนายหัว ผู้ชายเลวที่ตบตีเธอสารพัดและยังปอกลอกเงินที่นายหัวให้มาจนเกลี้ยงเธอจึงพยายามเดินเลี่ยงแต่มือแข็งสีเข้มดึงไว้ ใบหน้าหล่อแต่เหี้ยมโหดยิ้มกริ่ม“จะรีบไปไหน ทำเป็นคนไม่รู้จักกันไปได้”แพรวนภารู้สึกขยะแขยงเต็มทน เธอสลัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุม มองหน้าเหี้ยมที่แฝงความหื่นกาม“ต้องการอะไร!”“ไม่เห็นยาก ดูก็รู้ว่าต้องการอะไร”“ฉันไม่มีเงินให้แกหรอกไอ้สิงห์”“โอ๊ะโ
บทที่ 10-2เธอสังเกตว่าเขาไม่ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม นั่งใช้ข้อศอกเท้าบนหัวเข่าใบหน้าครุ่นคิดแล้วจึงยืดร่างขึ้นนั่งตรงเอี้ยวใบหน้ามองเธอตรง ๆ“แพรวเอาของใช้ส่วนตัววางไว้ในบ้านริมทะเล ในตู้เสื้อผ้า”แพรวนภาหน้าแดงซ่านจากพวงแก้มลงสู่ลำคอ อับอายจากคำพูดเชิงตำหนิ สาวร่างอวบกำลังคิดหาคำพูดแก้ตัว เธอยื่นมือออกไปจับต้นขาอุ่นร้อนบีบเบา ๆ“แพรวขอโทษค่ะ แพรวคิดสั้นไปหน่อย คิดแค่ว่าวันหลังไปอีกจะได้ไม่ต้องเตรียมของไปเยอะ”สายตาคมกล้าหลุบตาลงมองมือนุ่มนิ่มเล็บตกแต่งทันสมัยจากการทำสีผิดไปจากสาวน้อยอีกคน เขาขยับตัวให้มือของแพรวเลื่อนลงจากตัก“ฉันทิ้งมันไปแล้ว เพราะมันก็ไม่กี่ชิ้น แล้วจะจ่ายเงินชดใช้ให้”เธอกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาเรียวคมเฉียงขึ้นมีน้ำรื้นขึ้น ชักมือกลับมาวางไว้บนตัก“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ นายหัวไม่ต้องให้แพรว แพรวได้เงินจากนายหัวมาเยอะแล้วค่ะ”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองเธออีกครั้ง จ้องสบตาเธอให้แพรวนภาเข้าใจไม่ผิดในสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้“ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ หลังจากนี้ฉันคงไม่ได้มาหาเธออีก ส่วนงานที่โรงแรมฉันไม่ขัดข้องที่เธอจะทำต่อไปเพราะเธอทำมันได้ดี”แพรวนภาสะอึก ท
บทที่ 10-1“พี่วินทร์แวะร้านขายยาให้เบย์ด้วยนะคะก่อนจะถึงโรงแรม”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองอย่างแปลกใจแต่ไม่ถามอะไรเมื่อเห็นร้านขายยาตรงข้างหน้าพอดีจึงจอดรถเทียบทางเท้า มองตามร่างบางที่เข้าร้านขายยาไปสักพักใหญ่จึงเห็นเธอเดินออกมาจากร้านพร้อมถุงในมือ ดูแล้วไม่ใช่ยาจำนวนมากปัง!“ไปกันเถอะค่ะ”นาวินทร์เคลื่อนล้อรถออกจากริมทาง เหลือบตามองมือของเบอาที่เอายาใส่กระเป๋าสะพายไปอย่างรวดเร็ว“ซื้อยาอะไรมาน่ะ”“ก็ยาของผู้หญิงค่ะ ไม่มีอะไร เออ วันนี้เบย์จะกลับไปบ้านเลยนะคะ แล้วพี่วินทร์ก็นัดเบย์มาแล้วกันว่าจะทำสัญญาวันไหน”“สัญญา?”“อ้าว ก็สัญญาเงินกู้ฉบับใหม่ไงคะ”เอี๊ยดดด!!เบอาใช้มือบางยันร่างของตัวเองที่คอนโซลรถเมื่อจู่ ๆ นาวินทร์หักรถเข้าทาง เธอเอี้ยวหน้ามองด้วยความสงสัย“พี่วินทร์จอดทำไมคะ”“ยังจะถามอีก แล้วห่วงอะไรกับสัญญาเงินกู้”“อ้าว ก็มันมีการเปลี่ยนแปลงนี่คะ ต้องยึดเวลาไปอีกสองปี”“ฮึ ที่แท้ก็ถวายตัวให้พี่เพราะสัญญานี่เองใช่ไหม ต้องลงรายละเอียดด้วยไหมว่าต้องเอากันกี่ครั้งต่อวันในสัญญา”“พี่วินทร์!!”หน้าหวานคมแดงซ่านเป็นลูกตำลึง ยกมือขึ้นทุบบ่านาวินทร์สองครั้ง“พี่วินทร์จะเอายังไง! ไม่ทำก
บทที่ 9-3 18+“เบย์จะกลับบ้าน ถอยไป!”“ไปตอนนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้พี่จะไปส่ง”“พี่ไม่ต้องไปส่งก็ได้ เบย์จะเดินไปเอง แล้วถ้าเจอใครก็ขอโบกรถเข้าอำเภอ”เขาคว้าต้นแขนของเบอาไว้กระชากกลับ อกแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ถูก ทั้งรู้สึกผิด ทั้งเจ็บปวด ทั้งกลัวว่าเธอจะไม่กลับมาอีกเหมือนเมื่อห้าปีก่อน“ไม่! พี่ไม่ให้ไป”เบอาฉุนขาด เธอหันหน้ากลับมาจ้องเขาเต็มตา ความรู้สึกอัดแน่นท่วมท้นอยู่ข้างในและร้องไห้ไปแล้ว แต่เธอจะไม่ปล่อยให้เขาได้เห็นน้ำตาของเธอเด็ดขาด“นายหัวมีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน”“สิทธิ์!!”เขากระชากเธอเข้ามาแนบกายแน่นขึ้น ชะโงกหน้าลงมองสาวน้อยที่สู้ตาไม่ถอย เธอโกรธจัดและเขาก็เช่นกัน เขากำลังจะถูกทิ้งอีกครั้ง“บอกให้ว่าสิทธิ์อะไร สิทธิ์ของการเป็นผัวยังไงล่ะ”“ฮึ ผัว ผัวงั้นเหรอ! งั้นเบย์คงมีผัวร่วมกับคนอื่นเยอะเกินไปนายหัวว่ายังงั้นไหม ปล่อย!!”“ให้ตายสิเบย์ ฟังพี่ก่อน เบย์จะให้พี่ทำยังไงก็พูดมาสิ อย่าทำแบบนี้ อย่าเดินจากไปอีก”“ทำยังไง? ทำไมนายหัวจะต้องทำด้วยคะ เบย์เป็นเพียงลูกหนี้เท่านั้น นายหัวไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ กลับไปเราจะเขียนสัญญาให้ละเอียด ต่อไปก็นัดกันที่โรงแรมแล้วกันค่ะ เบย์จะได