การอาบน้ำนอกจากช่วยให้เนตราสดชื่น ยังขจัดเมฆหมอกที่รบกวนจิตใจในหลายวันนี้มลายหายไปด้วย เธอเข้าใจจุดประสงค์ของชวินทร์แล้ว
เขาต้องการปกป้องฉัตรบรรณ แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นถูกที่ถูกเวลา เขาจึงเล่นตามน้ำ สวมรอยว่าเป็นแฟนเธอ จนเลยเถิดถึงขนาดมีอะไรกัน ...นำความร้าวรานมาสู่เธออีกครา
เสียงกดออดหน้าบ้านดึงสติกลับสู่ปัจจุบัน เธอรีบสวมชุดอยู่บ้านสบายๆ ออกมาดูแขกในยามสาย สุชัจจ์ยืนยิ้มพร้อมในมือมีถุงของใบเขื่อง
“พี่เดาถูกจริงๆ ว่าดาวยังไม่กลับไปทำงาน”
“ไม่เป็นไร คุณแปงบอกแล้วว่าสบายใจเมื่อไรค่อยไป”
เนตราเคยโกหกเขาว่าเริ่มเบื่องานเพราะทำมาตั้งหกปีแล้ว เลยอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อจะตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือหางานใหม่
“วันนี้พี่อาร์มไม่เข้าออฟฟิศเหรอคะ”
สุชัชจ์ทำงานบริษัทรถยนต์อยู่ในตำแหน่งฝ่ายขายอาวุโส
“จะเข้าบ่ายๆ นะจ๊ะ พี่เอาขนมจากญี่ปุ่นมาฝาก”
ก่อนเกิดอุบัติเหตุ สุชัชจ์ไปญี่ปุ่นกับบริษัท เขายังไลน์มาถามเธอเลยว่าอยากได้เครื่องสำอางไหม
“ขอบคุณค่ะ”
แฟนเธอเป็นคนน
“เธอจะโทรไปหาใครก็โทรเลย ฉันจะได้บอกทุกคนเรื่องของเรา”เขาแสยะยิ้ม“ไม่มีเรื่องของเรา”“เรื่องหัวหินแล้วก็เช้าวันนั้นที่ตลาด ไม่คิดเหรอว่ามันอาจจะช้าเกินไป”เนตราหน้าซีด ในสมองคำนวณสิ่งที่เกิดขึ้นประจำทุกเดือนอย่างกังวล“ปฏิเสธหมอนั่นไปซะ มันไม่ใช่คนใจดีพอจะเลี้ยงลูกคนอื่นหรอก”“พี่อาร์มไม่เลวเหมือนคุณ!”“พนันกันไหมล่ะ จะให้ผมบอกหรือให้ดาวบอก”เขากอดอกยียวน เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นต่อ“ชั่วที่สุด”อยากบริภาษให้แรงกว่านี้ แต่สมองตื้อไปหมด“ผมยอมรับผลของการกระทำ ดาวล่ะ”อาจจะผิดจากที่คิดได้เมื่อครู่ แต่เขารู้สึกสบายใจได้เปลาะหนึ่ง เธอจะไม่ตอบตกลงแต่งงานกับสุชัจจ์ในเร็ววันนี้แน่“ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ!”“บางทีดาวอาจจะได้เห็นทั้งหน้าผมทั้งหน้าลูกตลอดชีวิตเลยก็ได้”ชวินทร์หัวเราะ สตาร์ทรถออกไปอาการปวดหัวกลับมาอีกครา เธอเดินไปมาในบ้านเหมือนหนูติดจั่น ชวินทร์
“โน้ต อย่านะ!”เนตรากอดแขนชวินทร์ไว้แน่น สุชัจจ์ได้ที ดีดตัวลุกขึ้นเหวี่ยงหมัดหวังโจมตีใบหน้า เธอมาขวางไว้จึงโดนลูกหลงเต็มๆ ร่วงลงไปกองกับพื้น“ดาว!”สองหนุ่มอุทานพร้อมกัน ชวินทร์อยู่ใกล้กว่า ปรี่เข้าประคองร่างเล็กที่ใบหน้าช้ำไปข้างหนึ่ง มีเลือดซึม บริเวณมุมปาก“พี่อาร์มพอก่อนค่ะ อย่าใช้กำลัง”ในปากเธอร้าวเหมือนจะแตก ส่วนที่โดนลูกหลงชาวาบแล้วค่อยทวีความปวด มือใหญ่คลำรอยบนแก้มทะนุถนอม ตาเข้ม กัดฟันกรอด ฮึดฮัดจะลุกขึ้นเอาคืน เนตราเกาะแขนเขาแน่นเป็นตุ๊กแก“พอแล้วโน้ต อย่ามีเรื่องกันอีกเลย โอ้ย!”เธอเสียงอู้อี้ แล้วยกมือลูบแก้ม เพราะแขนเขาไหวมากระทบส่วนที่ปวด ชวินทร์ชะงักกึก“เจ็บมากเหรอ เดี๋ยวพาไปโรงพยาบาลนะ ยัยบ้าเอ๊ย! เอาตัวมาขวางทำไม”ปากบ่น แต่สุชัจจ์เห็นความอาทรในดวงตาชายหนุ่ม“อย่ามาทำตัวอันธพาลแถวนี้”ประกอบกับท่าทีตัดพ้อของหญิงสาว เขาไม่ใช่คนโง่จนคิดไม่ออก“มาว่ากันได้ยังไง ฉันเอายามาให้นะ หมอนี่ต่างหากที่กวนตีนก
“จะซื้ออะไรหนักหนา”เนตราบ่นคนหยิบอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งใส่ตะกร้าหิ้ว หลังพาไปโรงพยาบาลเขาเลี้ยวรถเข้าร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านเธอ“อาหารอ่อนๆ ไง ปากตุ่ยอย่างนี้จะทำอะไรได้ กินอย่างนี้แหละ เอาเข้าไมโครเวฟง่ายดี หรือจะให้ฉันมาทำกับข้าวให้ล่ะ”เธอค้อน พอสารภาพรักแล้วชวินทร์ไม่อายเลยที่จะแสดงสิทธิ์ ในโรงพยาบาลก็ทีแล้ว นั่งเบียดชิดกระแซะ เข้าห้องไปฟังหมอซักอาการเธอด้วย“จะกินนมแบบไหน นมวัวหรือถั่วเหลือง เอาไว้แก้หิว”เขาเคาะนิ้วลังเลระหว่างแพ็คนมยูเอชที“ไม่ต้องซื้อของตุนเยอะหรอก พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานแล้ว”เธอหยิบนมถั่วเหลืองหนึ่งแพ็ค คิดได้ว่าที่มีในบ้านเหลือไม่กี่กล่อง สำรองเอาไว้นิดก็ดี“พักอีกก็ได้ เดี๋ยวฉันบอกแปงให้”ชวินทร์บอกเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับเนตราแล้วไม่เล็กเลย“ฉันขาดงานมาหลายวันแล้ว ที่ออฟฟิศคงยุ่ง เกรงใจคุณแปง”“ที่พูดน่ะ ดูตัวเองด้วย ปากแตกอย่างนี้น่ะนะ แปงมันคงไม่ใจดำให้คนเจ็บทำงานหรอก”“ปากฉันเจ็
“อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิครับแม่ ผู้หญิงเขาเสียหายนะ”เขาร้องหลังจากหยุดไอค่อกแค่ก“ตาโน้ตยิ่งทำอะไรห่ามๆ อยู่ด้วย ดูตอนไปกับเลขาฯลูกสิ”ฉัตรบรรณรีบเผ่นขึ้นรถไปทำงาน ถ้าอยู่นานกว่านี้แม่ต้องจับพิรุธได้ แน่ใจเลยว่าคนที่ชวินทร์จะพาเข้าบ้านคือเนตราแสดงว่าสองคนนี้ตกลงกันได้แล้ว หรือชวินทร์จะหลอกอะไรเลขาฯเขาอีก ฉัตรบรรณครุ่นคิดจนมาถึงที่ทำงาน และเนตราก็นั่งอยู่หน้าห้อง“ทำไมแก้มช้ำ”เธอแต่งหน้าบางๆ แต่วันนี้ปล่อยผม เขาจึงสังเกตเห็นความผิดปรกติ“ใครทำอะไรดาว! โน้ตเหรอ”“เปล่าค่ะ อุบัติเหตุน่ะ ดาวซุ่มซ่ามเอง”เนตรารีบส่ายศีรษะ“แน่ใจนะ”“คุณแปงคิดเหรอคะว่า โนะ...คุณโน้ตจะทำร้ายผู้หญิง”ต่อหน้าเขาเธออยากเรียกชวินทร์อย่างให้เกียรติว่าเป็นญาติเจ้านาย ไม่อยากทำตัวตีเสมอเร็วเกินไป“ไม่รู้สิ ช่วงนี้มันบ้าๆ ไม่อยู่กับร่องกับรอย ดาวก็เห็น”ฉัตรบรรณกับลูกน้องสบตากันอย่างเข้าอกเข้าใจ“ดาวสบายใจแล้วใ
“ค่ะ”สุชัจจ์ใช้สายตาค้นคว้า ไปสู่ก้นบึ้งของใจคนตรงหน้า“ไม่คิดว่าเร็วไปเหรอ ที่จะเลือกผู้ชายคนนั้น หนังสือเล่มเดิม จุดจบเหมือนเดิม”ตลอดมาระหว่างเขาและเธอ ไม่ได้ทำให้เนตราซึ้งในความรักเขาหรือไร“ถ้าไม่มีเขาเข้ามา เรายังจะเป็นเหมือนเดิมไหม”“ดาวผิดเองค่ะ ดาวขอโทษ”เขาใช้นิ้วลูบถุงกำมะหยี่ ทะนุถนอมเหมือนกับที่ครั้งหนึ่งมันเคยอยู่บนนิ้วหญิงสาว“การรักใครสักคนไม่ผิดหรอก ดาวไม่ต้องขอโทษ พี่แค่เป็นห่วงดาว”“แต่ดาวทำให้พี่เสียเวลาตั้งนาน”หากเนตราใจแข็งกว่านี้สักนิด เรื่องอย่างเมื่อวานนี้คงไม่เกิดขึ้น เธอไม่ได้รักสุชัจจ์ตั้งแต่แรก“ดาวเห็นแก่ตัว รั้งพี่อาร์มไว้”“ถ้าพี่ไม่มีใจ อะไรก็รั้งพี่ไว้ไม่ได้หรอก”ยิ่งฟัง เธอยิ่งรู้สึกผิด“ขอโทษค่ะ”เนตราไม่รู้จะเอ่ยคำใด นอกเหนือคำนี้ เธอเคยคิดเกลียดชวินทร์ แต่ตอนนี้เกลียดตัวเองมากกว่าที่ทำคนดีๆ อย่างสุชัจจ์เสียใจ เนตราเป็นผู้หญิงใจร้ายเหลือเกิน
“เราเรียนคณะเดียวกันในมหาลัย ดาวเคยมาบ้านนี้ตอนงานเลี้ยงวันเกิดผมไง แม่จำได้ไหม”รัชนีจำไม่ค่อยได้ เนื่องจากเพื่อนลูกชายมีเยอะ และสวยกว่าเนตรามากไป เหตุไฉนจึงมาเลือกคนนี้ ความสงสัยยังไม่ได้รับการคลี่คลาย บ้านชวินทร์ก็ได้ต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ“คุณแม่ให้เอาผ้าไหมกาบบัวจากอุบลฯมาให้ค่ะ ท่านได้มาจากคนรู้จักเลยคิดถึงคุณป้า เห็นบอกว่าเจอกันในงานกาล่าครั้งที่แล้วคุณป้าบอกอยากได้ผ้าไหมสีชมพู”ดุลยามาพร้อมของกำนัลห่อใหญ่ พ่วงด้วยเจมิลลาและฉัตรบรรณ ที่หน้าไม่ค่อยเต็มใจนัก“มีไวน์ผลไม้ไทยๆ มาฝากคุณลุงด้วยค่ะ”เรื่องของเรื่องก็คือฉวีวรรณโทรไปเล่าให้เจมิลลาฟังเรื่องมื้อค่ำกับคนพิเศษของชวินทร์ เจมิลลาที่สนิทกันกับดุลยาเม้าท์ต่อ ลางสังหรณ์ในใจเธอทำงานทันที จึงได้ยุให้เพื่อนลากคู่หมั้นมาดูหน้าคนพิเศษของอดีตแฟน“ลำบากหนูแจงหิ้วมาแย่เลย”ด้วยความที่อยู่ในวงสังคมเดียวกัน พ่อแม่คุ้นเคยกันดี รัชนีจึงมองดุลยาเหมือนลูกหลาน“ไม่เป็นไรค่ะ อ้าว! โน้ต วันนี้พาใครมาเอ่ย”เธอยกมือแตะริมฝี
“สวยใช่ไหมล่ะ ฝีมือแม่เขา”ชีวันพยักหน้าไปทางภรรยา ที่อยู่ตรงหน้าคือมะปรางสีส้มสดคว้านเม็ดด้านนอกริ้วเป็นลายวางอวดโฉมบนจานของหวาน“อวดเมียอยู่ได้ พ่อไม่เบื่อหรือไง”ชวินทร์ใช้ส้อมจิ้มมะปรางเข้าปาก แบบไม่เสียดายความสวย“ก็เขามีดีนะสิถึงต้องอวด”ชีวันหัวเราะลงคอ ภรรยาค้อนน้อยๆ ให้“หนูดาวล่ะชอบทำอาหารไหม มาเรียนกับแม่เขาได้นะ”“ดาวพอทำอาหารได้ค่ะ แต่ไม่ค่อยเก่ง ไว้วันหลังจะมาขอเรียนกับคุณแม่ ถ้าท่านจะกรุณา”เธอส่งสายตานอบน้อมให้รัชนี“ฉันน่ะสอนได้เสมอ ว่าแต่หนูเถอะจะมีเวลาไหม งานในครัวผู้หญิงบางคนสมัยนี้มองว่าน่าเบื่อ ซื้อกินเองง่ายกว่า”รัชนีเปรยอย่างไว้ตัวนิดๆ“เดี๋ยวฉันไปรับดาวมาเรียนกับคุณแม่ก็ได้ วันอาทิตย์นี้ดีไหม”“โห...ทุ่มทุนสร้างว่ะ ทีชวนไปไหนวันหยุดไม่เคยไป นี่ถึงขนาดไปรับไปส่ง”ฉัตรบรรณอดแซวไม่ได้“ดาวเพิ่งหายป่วย ฉันไม่อยากให้ขับรถมากนัก จะไปรับส่งที่ทำงานเขาก็ไม่เอา”
เช้าวันจันทร์เป็นวันที่ยุ่งที่สุดของสัปดาห์ เนตรามาออฟฟิศเร็วกว่าปรกติเพื่อคัดแยกอีเมล์และเตรียมการประชุมเธอดื่มกาแฟไปอึกใหญ่ ก่อนสำรวจตารางงานในวันนี้ของเจ้านายในไอแพดอีกครั้ง โทรศัพท์มือถือดังขึ้นและเป็นเบอร์แปลก“เนตราใช่ไหม ฉันรัชนี แม่ชวินทร์”ความหนาวจากที่ใดก็ไม่รู้เข้ามาเยือนกายเธออย่างกะทันหัน หายใจได้ไม่ทั่วท้อง“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอหน่อย เย็นนี้ว่างไหม”“คะ...ค่ะ”เนตราตอบแบบแทบไม่รู้ตัว รัชนีพูดชื่อร้านอาหารในห้างใกล้ที่ทำงาน และนัดเวลา“ฉันจะรอ”เธอวางโทรศัพท์ลง ผ่อนลมหายใจยาว รัชนีมีเรื่องอะไรจะคุยกันหนอ แล้วเธอควรบอกชวินทร์ไหม ยังไม่ทันได้ให้คำตอบกับตัวเอง ฉัตรบรรณก็เข้ามาเสียแล้ว สมองเธอจึงปรับเข้าโหมดการทำงาน เป็นสุดยอดเลขาฯของเขาจนจบวันอันแสนยาวนาน เนตราลองส่งไลน์หาชวินทร์ ยังไม่มีสถานะอ่าน ชวินทร์คงทำงานยุ่งๆ อยู่เหมือนกัน ไม่เป็นไร เธอจะลองจัดการเรื่องนี้ดูเอง แล้วค่อยบอกเขาทีหลังรัชนีนั่งรอเธออยู่แล้วในร้านอาหาร นางแต่งตัวเรียบๆ แต่ดูออกเลยว
“แล้วนี่ละพี่”ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้ามาพร้อมโทรศัพท์มือถือเครื่องคุ้นตา“ทั้งไลน์ที่ส่งให้คุณเจมี่ คุณแจง ทั้งรูปถ่าย”ฉัตรบรรณรับมาสไลด์ดูช้าๆ ชัดๆ พร้อมกับคิ้วที่ค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน ภิรมย์เหงื่อแตกอ้าปากพะงาบๆ“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะคุณแปง คือ...”“รูปนี้ของผมกับดาวมาอยู่ในกล้องพี่ได้ยังไง”ชายหนุ่มเปิดรูปที่เขาปลอบเนตรดาวในวันที่เธอร้องไห้“...พี่เซฟรูปมาจากที่เขาแชร์กันมา”โธ่เอ๋ย! เธอน่าจะตั้งรหัสโทรศัพท์ตั้งแต่แรก เป็นผลจากความกลัวจำไม่ได้ ประมาทว่าจะไม่มีใครยุ่งกับของตัว“แล้วในไลน์ล่ะ”ฉัตรบรรณกดไปดูแอปพลิเคชั่นแชทสุดฮิตในทันใด แชทกลุ่มเจมิลลากับดุลยาปักหมุดไว้บนสุด เขาไล่สายตาตามบทสนทนาทุกบรรทัด ดุลยาเป็นตัวเสี้ยม ภิรมย์เป็นลูกคู่ ช่วยกันวางแผนบงการให้เจมิลลาไปทำเรื่องต่างๆ“ยังมีที่ไปปั่นเฟซอีกค่ะ”เจ้านายกดปิดหน้าจอ เพราะข้อมูลเพียงแค่นี้ก็เพียงพอต่อการตัดสินใจแล้ว“พี่ไปเซ็นใบลาออกที่เอชอาร์ได
ชื่อสายเรียกเข้าจากจอมือถือทำดุลยาสะดุ้ง เธอสูดหายใจลึกรวบความกล้าส่งเสียงรับ“ไงคะโน้ต”“คุณแสบมากนะ ทำร้ายคนที่ผมรัก”...คนที่ผมรัก ยิ่งทำใจดุลยาร้อนรุ่ม แต่เธอไม่ใช่เด็กสาวอ่อนวัย จนกรีดร้องเก็บอารมณ์โกรธเกรี้ยวไว้ไม่อยู่“แจงไม่ได้ทำอะไรนะ แค่อยู่ในเหตุการณ์เฉยๆ เจมี่ต่างหากเป็นคนลงมือ เขาหึงคุณแปง”“แล้วใครล่ะที่คอยยุเขา คุณไม่ใช่เหรอ”“อย่ามากล่าวหากันนะ!”ดุลยาไม่เคยทำอะไรผิด ทุกอย่างเพราะสถานการณ์บังคับ หรือไม่ก็กดดันจนเธอต้องตัดสินใจทำอย่างนั้น หญิงสาวหาเหตุผลเข้าข้างตนเองได้เสมอ“ไปสอบสวนเจมี่โน่น”“ผมทำแน่”เขาย้ำเยือกเย็น แต่ดุลยาใจดีสู้เสือทำไม่กลัว“แล้วคุณจะได้รู้ว่าเจมี่เพ้อเจ้อขนาดไหน เขาน่ะเด็กเลี้ยงแกะตัวจริง เรียกร้องความสนใจ รู้เรื่องความแสบของเจมี่สมัยอยู่อเมริกาไหม”“ผมไม่อยากฟังจากคุณ จะคุยกับเจ้าตัวเอง”อย่างน้อยดุลยาก็ปล่อยพิษที่เรียกว่าความค้างคาใจไว้ให้เขาแล้ว
เนตรากะพริบตาปริบๆ เห็นเท้าตนกำลังยืนอยู่บนพื้นที่นุ่มมาก สีขาวและบางเบาเรี่ยข้อเท้า ราวอยู่บนเมฆ ลมอ่อนพัดโชย กลิ่นสดชื่นเหมือนฝนตกใหม่ เธอกำลังก้าวขาไปข้างหน้าเรื่อยๆ ตรงหน้าปรากฎคนคู่หนึ่ง“พ่อคะ...แม่”เธอวิ่งถลาเข้าไปหา เหมือนเวลาเด็กอนุบาลมีพ่อแม่มารับหลังเลิกเรียน ท่านทั้งสองโอบกอดเนตราอย่างอบอุ่น น้ำตาเธอไหลพรากอย่างไม่อาย“หนูคิดถึงพ่อแม่ที่สุด”หญิงสาวบอกอู้อี้กับปกเสื้อพ่อ ซึ่งชื้นด้วยน้ำตา จำได้ว่าตัวนี้สวมให้กับมือก่อนนำร่างท่านบรรจุโลง“พ่อกับแม่ไม่ได้ไปไหน เราอยู่กับลูกเสมอในความทรงจำ”แม่ยิ้มละไม มือลูบศีรษะเธอด้วยความรัก“หนูอยากอยู่กับพ่อแม่”การที่ได้เห็นทั้งสองแบบนี้ แสดงว่าชีวิตเธอดับไปแล้วแน่ และที่นี่คงเป็นสวรรค์ แม้ไม่มีนางฟ้า เทวดา ไม่มีทิพยวิมาน แต่ขอแค่มีพ่อแม่ลูก แค่นั้นก็พอแล้ว“ยังจ้ะดาว ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”เนตราเงยหน้ามองแม่แบบเหวอๆ ท่านยกนิ้วแตะริมฝีปาก“หนูต้องเจอเรื่องต่างๆ อีกเยอะแยะ เข้มแข็
จนสักพักคนเริ่มซา ดุลยาจึงเดินเชิดหน้ากลับไปลานจอดรถ ทิ้งให้ภิรมย์กับเจมิลลาอยู่บนชั้นสอง โดยไม่สนใจเลยฉัตรบรรณรู้เรื่องเนตรดาวจากผู้จัดการฝ่ายบุคคล แต่รู้แค่เพียงเธอตกบันได ยังไม่รู้เรื่องคำสั่งไล่ออก เพราะผู้จัดการเกรงอำนาจฉวีวรรณ เนื่องด้วยรู้ว่าเงินทุนในบริษัทมาจากมารดาเจ้านาย ฉวีวรรณคือผู้ชี้เป็นชี้ตายที่แท้จริงมีไม่กี่ครั้งในชีวิตที่หัวใจชวินทร์เต้นแรงจนรู้สึกเหมือนจะหลุดจากขั้ว ไม่ใช่ด้วยความยินดี แต่ด้วยความกลัว ฉัตรบรรณโทรมาบอกว่าเนตราตกบันไดศีรษะฟาดพื้น“แม่งเอ๊ย!”ชายหนุ่มสบถให้รถคันหน้าที่บีบแตรยามเขาขับแซง เนตราก็ซุ่มซ่ามเหลือเกิน หกล้มหัวฟาดถึงสองหน คราวนี้จะความจำเสื่อมอีกหรือเปล่า แต่ชวินทร์ไม่รอแล้ว ตั้งใจจับแต่งงานเสียเลย เธอจะได้ไม่อยู่ไกลสายตาจนเกิดเหตุแบบนี้ดุลยาขับรถไปจอดร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอเลือกร้านเงียบๆ ห่างไกลผู้คน กะเวลาสักประมาณยี่สิบนาทีแล้วก็โทรหาฉัตรบรรณ“ครับ คุณแจง”เขารับสายในทันทีทันใด เธอทำเสียงอ่อนๆ“คุณแปงว่าหรือเปล่าคะ แจงมีเรื่องจะสารภาพค่ะ”
เนตรามองของในกล่องกระดาษสลับกับโต๊ะทำงานโล่งโจ้ง หกปีที่ผ่านมากับการทำงานที่นี่ เธอมีสมบัติน้อยชิ้นขนาดนี้เชียวหรือ แต่ที่น้อยกว่านั้นคือเพื่อนร่วมงาน เนตราเข้าใจว่าทุกคนเกรงอำนาจฉวีวรรณจึงได้แต่แอบดูเธอเก็บของอยู่ห่างๆ“รีบเก็บของเร็วจัง ฉันคิดว่าเธอจะย่องมาเก็บดึกๆ เสียอีก เหมือนที่ชอบย่องทำอะไรลับหลังคนอื่น”ตัวเป้งๆ มากันครบ ทั้งดุลยา ภิรมย์ เจมิลลา แขกไม่ได้รับเชิญทั้งนั้น“ไปแล้วขอให้ไปลับ อย่ากลับมานะ”ดุลยาส่งยิ้มหวานเคลือบยาพิษ“เราได้เจอกันอีกแน่ ในงานแต่งฉันกับโน้ต”ในเมื่ออีกฝ่ายแสดงตัวตัวแท้จริงว่า ...ฉันเป็นนางร้ายนะจ๊ะ เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นนางเอก จึงกวนกลับเสียเลย“คิดเหรอว่าจะได้แต่ง”“ไม่ได้คิดแต่มีคนมาขอแล้ว”ชวินทร์เคยพูดกับเธอแล้วนะ ถือว่าเนตราไม่ได้โกหก“หน้าด้าน! โกหก!”พอเอ่ยถึง “คนที่ว่า” อีกฝ่ายรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร ยิ่งเพิ่มความฉุนหนัก“ยังดีกว่าคนที่ชอบยุแยงคนอื่นไปทั่วอย่างเธอละ
“แจงทำผิดเหรอคะ”“แล้วทำไมไม่เล่าด้วยล่ะ ว่าสาเหตุที่เมาจนมีอะไรกับดาวมันมาจากที่คุณนอกใจผม”ชวินทร์เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่แฉฝ่ายหญิง แต่ดูที่เธอทำสิ“เราเลิกกันแล้วนะคะ โน้ตจะรื้อฟื้นเรื่องขึ้นมาทำไม”“หยุดปล่อยข่าวเรื่องดาวซะ ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการคุณ”“โน้ตจะทำอะไรแจงเหรอคะ”เธอเหยียดยิ้มท้าทายให้กระจก“บริษัทที่อยากจะขายให้จีนใจจะขาดนั่น ถ้าเขารู้ปัญหาที่ซุกไว้จะเป็นยังไงนะ”ฉัตรบรรณเคยเล่าให้ฟังเรื่องกิจการบ้านดุลยา เพราะเจมิลลาเคยถูกขอให้ช่วยเหลือ แต่เขาแนะนำให้คู่หมั้นปฏิเสธ ด้วยไม่ไว้ใจในรายงานผลประกอบการประจำปีของบริษัท กลัวจะเป็นการตกแต่งตัวเลข“คุณจำได้ไหมว่าผมมีเพื่อคนจีนหลายคนสมัยเรียนโท บางคนก็กลับไปทำกิจการหนังสือพิมพ์ของที่บ้าน”“อย่ามาขู่แจงเลยค่ะ อยากทำอะไรก็ทำไป”ชวินทร์เคยอ่อนโยนมากกว่านี้ เขาทั้งรัก ทั้งหลงเธอ สาเหตุที่เลิกกันไปเพราะดุลยาเลือกนรธิป เธอเคยอยู่เหนือเขา แล้ววันนี้ชวินทร์กลับมาข
หากนี่เป็นค่ำคืนปรกติ เวลานี้ชีวันควรอยู่ห้องทำงาน ส่วนรัชนีต้องดูโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น แต่ค่ำนี้เธอขอให้เขานั่งรอคุยกับลูกด้วยกัน พร้อมกับเรื่องราวแต่หนหลังของเนตราถูกเล่าใหม่ซึ่งชีวันรับฟังอย่างสงบเขารอฆ่าเวลาด้วยการกางหนังสือพิมพ์กรอบบ่ายอ่าน ผิดกับอีกคนที่ผุดลุกผุดนั่ง หนักเข้าก็เตือนให้สามีส่งไลน์บอกลูกชายให้รับกลับ เพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ชวินทร์ตอบกลับไลน์มาเพียง“ครับ”ชวินทร์กลับถึงบ้านเกือบสี่ทุ่ม ทันทีที่เดินเข้าประตูบ้าน คนรับใช้ก็มาแจ้งทันทีว่าพ่อกับแม่รออยู่ในห้องนั่งเล่น“คิดว่าจะไม่กลับบ้านเสียแล้ว”รัชนีประชด ชวินทร์เข้าไปใกล้ ยิ้มสู้ รู้ว่าจะโดนเรื่องอะไร“กินข้าวมาแล้วหรือยัง”ผู้เป็นพ่อถามเพื่อลดบรรยากาศกดดันที่รัชนีสร้าง“กินข้าวกับดาวมาแล้วครับ”“แม่นั่นฟ้องอะไรลูกบ้างล่ะ”รัชนีหรี่ตาประเมินลูกชาย“เปล่านี่ครับ”เขาเลิกคิ้ว“แล้วคุณแม่มีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับผม”&ldq
เสียงแตรรถไม่คุ้นหูดังหน้าบ้าน มือเนตรากำลังเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่มชะงัก มองไปทางประตูรั้ว รถสปอร์ตชวินทร์จอดอยู่“ไหนว่าจะอยู่ปราจีนฯเป็นอาทิตย์”“เร่งทำงานให้เสร็จแทบตาย คิดถึง”เขาแสดงมันออกมาโดยการรวบตัวเธอไปกอดแล้วจุมพิตหน้าผากนวลเนียน“ดาวล่ะ คิดถึงโน้ตไหม”ริมฝีปากท่าจะเคลื่อนลงมาหาริมฝีปากเธอ ถ้าไม่ใช้มือยันจมูกเขาไว้ก่อน“พอเลย เข้าบ้านก่อน อายชาวบ้านเขา”“จะอายทำไม เราเคยทำอะไรมากกว่านี้มาแล้ว”ชวินทร์ส่งสายตาทะเล้น เธอรีบแกะมือยาวๆ เป็นปลาหมึกออก เดินนำเข้าบ้านไป เขาขับรถมาจอดในรั้ว“หิว กินข้าวหรือยัง”“ยัง เพิ่งเลิกงาน”ชายหนุ่มถือวิสาสะเปิดสำรวจตู้เย็นทำเหมือนเป็นบ้านตัวเอง“เดี๋ยวทำมาม่าผัดไข่ให้กิน”เขาลำเลียงของออกมามี ไข่ ไส้กรอก แล้วเอื้อมมือหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากชั้นไม้ติดผนังเหนือตู้เย็น“ไม่มีผักสดนะ”เธอมองบนโต๊ะกินข้าว บอกเขาที่กำลังนั่งย่อตัวหาอะไร
ร้านอาหารที่เพื่อนนัดเป็นร้านกินดื่มบรรยากาศรีสอร์ต ปอ ส้ม ฟลุ๊คนั่งรออยู่แล้ว โดยมีแพรวที่อยู่ต่างจังหวัดเฟซไทม์มาคุยร่วมวงด้วย“ฉันมีเรื่องจะถามดาว”ปอเอ่ยต่อหน้าจานปลาช่อนลุยสวนที่เพิ่งเสิร์ฟ เนตราหน้าเหลอหลาชี้เข้าตัวเอง“เป็นคำถามที่ทุกคนค้างคาใจ”คุยเล่นกันอยู่ดีๆ เข้าโหมดซีเรียสได้ยังไงไม่รู้“ฟลุ๊ค ขอมือถือ”“ทำไมต้องเป็นของฉันล่ะ”เจ้าตัวหยิบโทรศัพท์แนบอก หวงแหน“ก็มือถือแกหน้าจอใหญ่สุดอ่ะ ฉันไม่แอบอ่านที่แกไปเม้นท์ในอินสตราแกรมสาวๆ หรอก”เมื่อไม่ให้ดีๆ ปอก็แย่งมาเสียเลย โดยเจ้าของเครื่องยังบ่นอุบอิบ“นี่...”เพื่อนยื่นมาถือมาตรงหน้า เป็นอินสตราแกรมของชวินทร์ ปรากฏรูปถ่ายด้านหลังของเธอในร้านสะดวกซื้อ ใต้รูปมีข้อความ พาแฟนมาซื้อของตุน มีความคิดเห็นและกดถูกใจล้นหลาม เนตรามองมือถือสลับกับหน้าทุกคน“รูปนี้ตีลังกาดูยังไงก็เป็นดาว”แพรวที่แม้จะอยู่ต่างจังหวัดแต่ไม่เคยพลาดข่าวสารทางโซเชียลจากเมืองกรุ