แชร์

พายุเริ่มก่อตัว

ผู้เขียน: อิ่น เยว่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-29 16:13:07

เวลาผ่านไปเกือบปี นับตั้งแต่วันที่เขาแต่งงานกับเหว่ยเฟิง ฉินป๋อหลินได้ใช้เวลากับเหว่ยเฟิงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้เห็นด้านต่าง ๆ ของเธอที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน

เหว่ยเฟิงไม่ใช่แค่หญิงสาวที่ฉลาดและมีไหวพริบ เธอเป็นคนจริงใจ ตรงไปตรงมา และมีความเข้มแข็งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางอ่อนโยน

ยิ่งเขาได้รู้จักเธอมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้เธอ เหว่ยเฟิงเป็นคนที่หัวแข็งก็จริงแต่เธอเป็นคนว่าง่าย ไม่เคยเรียกร้องความสนใจจากเขา ไม่งี่เง่าโดยไร้เหตุผล และนั่นทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่กับเธอ

“ผมมีความสุขที่สุดเลย”

แสงจันทร์สาดผ่านม่านโปร่งบางเข้ามาในห้องนอน สาดส่องผิวเนื้อเปลือยเปล่าของฉินป๋อหลินและเหว่ยเฟิงที่กำลังนอนกอดกันกลมบนเตียงกว้าง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่และไออุ่นจากร่างกายของทั้งคู่ผสมผสานกันจนอบอวลไปทั่วทั้งห้อง

“ฉันก็รู้สึกมีความสุขอย่างที่คุณกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้ค่ะ”

เหว่ยเฟิงซบหน้าลงบนแผ่นอกกว้างของฉินป๋อหลิน ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มือเรียวลูบไล้แผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาอย่างแผ่วเบา

ฉินป๋อหลินกระชับอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   หยามเกียรติ

    พอสองสามีภรรยาพยุงฉินหลงเจ๋อเข้าบ้านก็เห็นว่าหวังซู่หลินกำลังนั่งพูดคุยกับแขกสาวอย่างเป็นกันเองเหว่ยเฟิงเองมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธออดกังวลไม่ได้ว่าการมาของม่านชิงชิงรอบนี้จะนำพาปัญหาอะไรมาสู่ไร่องุ่นแห่งนี้บ้างและความกังวลของเหว่ยเฟิงก็เป็นจริงอย่างรวดเร็ว เมื่อม่านชิงชิงเริ่มแสดงธาตุแท้ออกมาทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในไร่องุ่นในเวลาแค่ไม่กี่วัน โดยที่เธอทำตัวราวกับเป็นเจ้าของที่แห่งนี้ สั่งคนงานไปทั่วราวกับเป็นนางพญา และที่ร้ายไปกว่านั้น เธอผูกมิตรกับแม่ของฉินป๋อหลินอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งสองร่วมมือกันกลั่นแกล้งเหว่ยเฟิงสารพัด หากหญิงสาวก็ไม่ได้ปริปากบ่นหรือเล่าให้ฉินป๋อหลินฟัง เพราะแค่งานในไร่ก็ปวดหัวมากพอแล้ว เธอจึงพยายามเก็บความรู้สึกอึดอัดเอาไว้ในใจเฮ้อ ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหนวันหนึ่ง ขณะที่เหว่ยเฟิงกำลังเก็บองุ่นอยู่ ม่านชิงชิงก็เดินเข้ามาพร้อมกับแม่ของฉินป๋อหลิน“นี่เธอ ทำงานให้มันดี ๆ หน่อยสิ เก็บองุ่นแบบนี้เดี๋ยวก็ทำองุ่นเสียหายหมดหรอก” ม่านชิงชิงพูดเสียงดัง ทำให้คนงานคนอื่น ๆ หันมามองเหว่ยเฟิงรู้สึกโกรธ แต่พยายามข่มอารมณ์ไว้ “ฉันทำอย่างระมัดระวั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   คำสัญญาที่ว่างเปล่า

    บ้านพักคนงานที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากคฤหาสน์ตระกูลฉินราวกับเป็นโลกคนละใบ กลายเป็นที่พักพิงใจของเหว่ยเฟิงในยามนี้ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ตลอดทาง พรั่งพรูออกมาทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในห้องเล็ก ๆ ที่คุ้นเคย เสียงสะอื้นของเธอทำให้เหว่ยเซินที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงสะดุ้ง“เฟิงเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นลูก?” เหว่ยเซินรีบซ่อนขวดยาที่อยู่ในมือลงใต้เตียงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นไปประคองลูกสาวที่กำลังร้องไห้โฮเหว่ยเฟิงโผเข้ากอดบิดาแน่น ราวกับเด็กน้อยที่ต้องการหาที่ปลอดภัยเธอเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนเช้าให้พ่อฟัง เสียงสะอื้นของเธอทำให้เหว่ยเซินรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย เขาไม่เคยเห็นลูกสาวอ่อนแอเช่นนี้มาก่อน“ไม่เป็นไรนะลูก พ่ออยู่ตรงนี้” เหว่ยเซินลูบผมลูกสาวแผ่วเบา พยายามปลอบโยนเธอด้วยคำพูดที่อบอุ่น“หนูไม่อยากกลับไปที่นั่นอีกแล้วค่ะพ่อ” เหว่ยเฟิงพูดเสียงสั่นเครือเหว่ยเซินถอนหายใจ เขาเข้าใจความรู้สึกของลูกสาวดีว่าคนในตระกูลฉินนั้นไม่ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับลูกสาวของเขา“เฟิงเอ๋อร์ พ่อรู้ว่ามันยากสำหรับลูก แต่ลูกต้องเข้มแข็งไว้นะ” เหว่ยเซินพูดอย่างหนัก“พ่อจะอยู่ข้าง ๆ ลูกเสมอนะ” เหว่ยเซินยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ข่าวลือ

    ความรักของเขาที่มีต่อเธอนั้นมั่นคง แต่เขาก็ช่างไม่ใส่ใจความรู้สึกของเธอเลยแม้แต่น้อย เขาคิดว่าแค่การให้คำมั่นสัญญาว่าเธอจะเป็นภรรยาคนเดียวของเขาก็เพียงพอแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอต้องการมากกว่านั้น เธอต้องการให้เขาเข้าใจเธอ ให้เขารับฟังเธอ ให้เขาอยู่เคียงข้างเธอและแล้วค่ำคืนนั้น เหว่ยเฟิงก็พยายามอย่างหนักเพื่อข่มตาให้หลับ แต่ภาพของม่านชิงชิงและคำพูดไร้เยื่อใยของป๋อหลินยังคงตามหลอกหลอน เธอเฝ้าหวังว่าสักวันเขาจะเข้าใจความรู้สึกของเธออย่างแท้จริง ว่าสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดไม่ใช่แค่คำสัญญาว่าเธอจะเป็นภรรยาคนเดียวของเขา แต่คือการปกป้องและความเข้าใจจากเขาต่างหากเหว่ยเฟิงเดินเข้ามาในร้านกาแฟมีชื่อในเมืองต้าหลี่ ซึ่งตกแต่งด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น พลางมองหาคนที่นัดเธอมาพบในวันนี้ พอเห็นแล้วว่านั่งตรงไหน จึงเดินตรงไปยังโต๊ะที่ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งรออยู่ พร้อมกับเอ่ยทักทาย“กู้หย่ง ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรให้ฉันต้องมาพบกับนายอีกงั้นเหรอ” “ผมอยากจะมาขอบคุณเหว่ยเฟิง ที่ให้คำแนะนำเรื่องการลงทุนเมื่อครั้งก่อน ตอนนี้ผมสามารถจัดการปัญหาทางการเงินได้แล้วนะ” ไม่สิต้องบอกว่ามีคนเสนอเงินก้อนโตให้เขาต่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   เสียหาย

    หลังจากร่วมทานข้าวเย็นกับพ่อแม่ และแขกอย่างม่านชิงชิงเสร็จแล้ว เหว่ยเฟิงและป๋อหลินก็เข้าห้องส่วนตัวที่ใช้หลับนอนด้วยกันมาแรมปี“เฟิงเอ๋อร์” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้อ่อนโยนที่สุด “เมื่อวานซืน คุณออกไปไหนมาเหรอ”เหว่ยเฟิงเงยหน้าจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ เธอรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังถามถึงเรื่องอะไร แววตาของเธอฉายแววลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดความจริง“ฉันไปเจอหลิวกู้หย่งมาค่ะ” เธอตอบเสียงเบาหัวใจของป๋อหลินกระตุกวูบ แต่เขาก็ยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉย “ทำไมล่ะ”“เขาขอพบฉันค่ะ” เหว่ยเฟิงอธิบาย “ฉันจึงไปเพื่อบอกกับเขาว่าฉันแต่งงานแล้ว และขอให้เขาเลิกติดต่อฉัน ไม่ต้องมาพบกันอีก”ฉินป๋อหลินเงียบไปครู่หนึ่ง เขาจ้องมองดวงตาของหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณา ซึ่งเหว่ยเฟิงไม่ได้มีแววตาที่โกหกแต่อย่างใด“ผมเชื่อใจคุณนะ เฟิงเอ๋อร์”เหว่ยเฟิงถอนหายใจอย่างโล่งอก พลางเดินเข้าไปกอดเขาแน่น“ขอบคุณนะคะ ป๋อหลิน”ฉินป๋อหลินโอบกอดเธอตอบ ความรู้สึกผิดที่เคยกัดกินใจเขาเริ่มจางหายไป เขาคิดถึงรูปถ่ายที่ได้รับมา มันก็ตรงกับสิ่งที่เหว่ยเฟิงเล่าทุกอย่าง เขาเริ่มรู้สึกโง่เขลาที่เคยสงสัยในตัวเธอ“อะไรกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ใส่ร้าย

    ดูเหมือนว่าบรรยากาศภายในบ้านเช้านี้ ดูเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งทั้งสองคนที่มีประเด็นกันต่างเก็บตัวเงียบ ไม่พูดคุยกันแม้แต่คำเดียว และความเงียบงันนี้เป็นเหมือนกำแพงหนาที่กั้นกลางระหว่างพวกเขาเอาไว้อย่างชัดเจน ทั้งยังสวนทางกับม่านชิงชิงที่รู้สึกยินดีกับความบาดหมางของคนทั้งคู่ยิ่งนักพอทานข้าวเช้ากับพ่อแม่แล้ว ฉินป๋อหลินก็มาเดินตรวจงานอยู่ที่ไร่คนเดียว เพราะวันนี้เหว่ยเฟิงยืนกรานว่าจะไม่ออกไปทำงานพร้อมกันกับเขา ทว่าขณะที่ฉินป๋อหลินดูองุ่นอยู่นั้นก็ได้ยินคนงานในไร่พูดคุยกันถึงเรื่องที่ม่านชิงชิงจ้างคนงานคนหนึ่งให้เข้าใกล้เหว่ยเฟิง เช่นนั้นแล้วเจ้าตัวจึงหยุดยืนฟัง“ฉันบอกแกแล้วไง ว่าอย่าไปยุ่งกับเมียของนายท่าน เดี๋ยวนายท่านก็เพ่งเล็งจนทำงานที่นี่ไม่ได้พอดี” เสียงคนงานคนหนึ่งดังขึ้น“แต่คุณหนูชิงชิงให้เงินฉันเยอะนี่นา ถึงออกจากที่นี่ไปก็สามารถตั้งตัวได้สบาย ๆ” คนงานที่ชื่อหลี่หมิงตอบกลับฉินป๋อหลินได้ยินอย่างนั้นก็กำหมัดแน่น เขาไม่รอช้า รีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นทันที ภาพที่เขาเห็นทำให้เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ม่านชิงชิงกำลังพูดคุยกับคนงานที่ชื่อว่าหลี่หมิง และยื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ฉันไม่ได้ทำ

    ฉินป๋อหลินทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยว หลักฐานการยักยอกเงินที่เขาเพิ่งตรวจพบในบัญชีรายรับรายจ่าย ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกทรยศหักหลัง“ใครกันที่กล้าทำแบบนี้!” เขาคำรามลั่น ความโกรธทำให้ห้องทำงานที่เคยเงียบสงบสั่นสะเทือนขึ้นมาทันทีความเงียบในห้องทำงานของฉินป๋อหลินถูกทำลายลงด้วยเสียงเคาะประตูแผ่วเบา หวังหลิงเฟย พนักงานบัญชีที่เขาไว้ใจที่สุด ก้าวเข้ามาในห้องด้วยสีหน้ากังวล“นายท่าน” หวังหลิงเฟยพูดเสียงสั่น “ผมมีเรื่องสำคัญจะรายงานครับ”“ว่ามา” ป๋อหลินตอบ น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเครียด“ผมตรวจสอบบัญชีตามที่นายท่านสั่ง...แล้วพบว่ามีเงินจำนวนหนึ่งหายไปครับ” หวังหลิงเฟยพูดเสียงเบา “และหลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่...คุณนายเหว่ยเฟิงครับ”คำพูดของหวังหลิงเฟยเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของฉินป๋อหลิน เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เหว่ยเฟิง ภรรยาที่เขารักและเชื่อใจ จะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร“หลักฐานอะไร?” เขาถามเสียงเครียดหวังหลิงเฟยยื่นเอกสารให้ฉินป๋อหลินดู เป็นสำเนาใบเสร็จและรายการโอนเงินที่ถูกแก้ไขอย่างแนบเนียน ฉินป๋อหลินตรวจสอบเอกสารเหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   รอยร้าวในใจ

    ณ โรงพยาบาล บรรยากาศรอบตัวเธอราวกับหยุดนิ่ง ขณะที่เธอรอฟังผลวินิจฉัยจากแพทย์ และคำพูดของหมอเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ“คุณพ่อของคุณเป็นโรคหัวใจครับ เขาเป็นมานานแล้ว” หมอบอกอย่างใจเย็น แต่เหว่ยเฟิงรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมา “เราแนะนำให้คุณเหว่ยทำบอลลูนหัวใจเพื่อเปิดเส้นเลือดที่ตีบมาหลายครั้งแล้ว แต่คนไข้กลับบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด”เหว่ยเซินปฏิเสธการรักษาอย่างหนักแน่น แม้แพทย์จะอธิบายถึงความจำเป็น เขาก็ยังคงยืนกรานว่าแค่เหนื่อยเกินไปและอยากพักผ่อนเท่านั้น เบื้องหลังท่าทีดื้อดึงนั้นคือความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยไม่อยากให้ลูก ๆ ต้องลำบากเรื่องค่ารักษาพยาบาล แม้แต่ประกันชีวิตเขาก็ไม่เคยทำ เพราะคิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ชายผู้นี้รักและห่วงใยทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้นก็แต่สุขภาพของตนเองเมื่อเหว่ยเฟิงรู้ความจริงว่าพ่อป่วยหนัก เธอรู้สึกเหมือนถูกทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่ ความเสียใจและความกลัวถาโถมเข้ามาในใจ เธอไม่สามารถจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่มีพ่อได้เลย“พ่อคะ ทำไมพ่อไม่บอกหนูเลย ถ้าพ่อบอกหนูสักคำ หนูจะคอยมาดูแลพ่อ หนูขอโทษนะคะที่ลูกคนนี้ไม่เอาไหนเลย พ่อป่วยเป็นอะไรก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจ พ่อช่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   จุดจบของความอดทน

    ทันทีที่ฉินป๋อหลินลืมตาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องพักผู้ป่วย เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ขยับร่างกายไม่ได้ จำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่หลายสัปดาห์ ซึ่งทุกครั้งที่เขาพยายามจะติดต่อหาเหว่ยเฟิง ก็จะถูกขัดขวางโดยหวังซู่หลินแม่ของเขาทุกครั้งไป“ป๋อหลิน ตอนนี้อย่าเพิ่งไปไหนเลยนะลูก” หวังซู่หลินพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยเลศนัย “แม่จะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง เดี๋ยวแม่จะส่งคนของเราไปดูแลเหว่ยเฟิงให้นะลูก”ฉินป๋อหลินขมวดคิ้ว เขาไม่ไว้ใจแม่ของเขาเลย แต่ในสภาพที่ร่างกายบาดเจ็บเช่นนี้ เขาเองก็คงทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะหมอสั่งไม่ให้เขาขยับร่างกายมากเพื่อลดอาการบาดเจ็บและหวังซู่หลินจึงฉวยโอกาสนี้ส่งฉินป๋อหลินไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลในเมืองอื่น โดยส่งม่านชิงชิงไปคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เธออ้างว่าโรงพยาบาลในเมืองนั้นมีแพทย์เฉพาะทางที่เก่งกว่า แต่ความจริงแล้ว เธอเพียงแค่ต้องการกีดกันฉินป๋อหลินออกจากเหว่ยเฟิงในช่วงเวลาที่เธออ่อนแอที่สุดก็เพียงเท่านั้นภายใต้เงาของความโศกเศร้า เหว่ยเฟิงและเหว่ยหยวนต้องเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าที่พ่อทิ้งไว้เบื้องหลัง พวกเขาจัดการงานศพด้วยมือของตัวเอง มีเพียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ฉันก็รักคุณค่ะ

    “คืนนี้เป็นของเรา” ป๋อหลินพูดเบา ๆ ขณะที่เขากอดเธอไว้แน่นเสียงหัวใจของทั้งคู่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน เสียงกระซิบและเสียงหัวเราะเบา ๆ ก่อเกิดเป็นบทเพลงแห่งความรักที่พวกเขาร่วมบรรเลงอย่างสมบูรณ์ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความรักและความสุข ลืมความทุกข์โศกและความสูญเสียในอดีต เหลือเพียงความรักที่แท้จริงและความผูกพันที่ไม่มีวันจางหายเช้าวันหนึ่ง เหว่ยเฟิงรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยสบายตัวนัก เธอมีอาการคลื่นไส้และเวียนศีรษะเล็กน้อย ตอนแรกเธอคิดว่าอาจเป็นเพราะทำงานหนักเกินไป แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปหาหมอในเมืองเมื่อผลตรวจออกมา เหว่ยเฟิงแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เธอตั้งครรภ์! ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในใจ ทั้งความดีใจ ความตื่นเต้น และความกังวลเล็ก ๆ เธอจะบอกข่าวดีนี้กับฉินป๋อหลินอย่างไรดีนะ?เขาจะตื่นเต้นดีใจกับข่าวดีนี้หรือเปล่าและทันทีที่กลับถึงบ้าน เหว่ยเฟิงก็ตรงไปหาฉินป๋อหลินที่กำลังจัดการเอกสารอยู่ในห้องทำงาน“ป๋อหลินคะ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณค่ะ” เหว่ยเฟิงพูดเสียงแผ่วฉินป๋อหลินเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยความเป็นห่วง “มีอะไรหรือ เฟิงเอ๋อร์? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”เหว่ยเฟิงสูดหายใจเ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   แสงสว่าง

    และมาวันนี้ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาถึง ในที่สุดฉินหลงเจ๋อก็จากไปอย่างสงบจากโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย แม้ความโศกเศร้าจะเกาะกุมหัวใจ ฉินป๋อหลินและเหว่ยเฟิงก็พยายามยิ้มให้กันพวกเขาเข้าใจดีว่าตอนนี้ฉินหลงเจ๋อจากไปอย่างสงบ ปราศจากความเจ็บปวดทรมาน และที่สำคัญที่สุด ท่านจากไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข“พ่อคงไม่อยากเห็นพวกเราเศร้านักหรอกค่ะ” เหว่ยเฟิงเอ่ยเสียงแผ่ว ปลอบประโลมฉินป๋อหลินที่ยังคงมีน้ำตาคลอหน่วยฉินป๋อหลินพยักหน้ารับ “ใช่แล้วเฟิงเอ๋อร์ พ่อคงอยากให้พวกเรามีความสุข”หลังจากนั้นฉินป๋อหลินก็รับช่วงต่อธุรกิจไร่องุ่นหยางกวงแทนบิดาอย่างเต็มตัว เขาและเหว่ยเฟิงก็ช่วยกันทำงานร่วมกันอย่างมุ่งมั่นและขยันขันแข็งวันเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า ไร่องุ่นที่เคยเจอปัญหาและความท้าทายกลับเริ่มเติบโตและประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นด้วยความร่วมมือของสองสามีภรรยา ทำให้พวกเขากลายเป็นคู่รักที่แข็งแกร่ง ทั้งในเรื่องงานและชีวิตครอบครัวยามเช้าในไร่องุ่นเต็มไปด้วยความสดชื่น แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านใบไม้เขียวขจี เหว่ยเฟิงและฉินป๋อหลินเดินเคียงข้างกันท่ามกลางแปลงองุ่นที่กำลังสุกงอม มือของทั้งสองจับกันไว้แน่น สายลมเบา ๆ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ให้อภัย

    เมื่อเหว่ยเฟิงและฉินป๋อหลินเดินทางมาถึงโรงพยาบาลจิตเวช ภาพของม่านชิงชิงที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เธอแทบจำไม่ได้ หญิงสาวที่เคยงดงามและเย่อหยิ่ง บัดนี้เหลือเพียงร่างกายที่ผ่ายผอมและดวงตาที่ว่างเปล่าหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเหว่ยเฟิงกับฉินป๋อหลินอย่างเลื่อนลอย ไม่มีวี่แววของความเกลียดชังหรือความอาฆาตใด ๆ หลงเหลืออยู่“เธอจำฉันได้หรือไม่” เหว่ยเฟิงเอ่ยถามเสียงเบาม่านชิงชิงส่ายหน้าช้า ๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม “ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ ฉันจำอะไรไม่ได้จริง ๆ”เหว่ยเฟิงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเวทนา นี่คือผลลัพธ์ของความแค้นที่ม่านชิงชิงเคยปลูกฝังไว้ในใจ“ม่านชิงชิง ฉันให้อภัยเธอ” เหว่ยเฟิงเอ่ยออกมาจากใจม่านชิงชิงมองเหว่ยเฟิงด้วยความประหลาดใจ เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำเหล่านี้จากปากของใครสักคน“ขอบคุณ” ม่านชิงชิงกระซิบ ถึงแม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่เหว่ยเฟิงพูดก็ตามที“ฉันสงสารม่านชิงชิงจังค่ะ ป๋อหลิน ถึงเธอจะเคยทำร้ายฉันยังไง ฉันก็ไม่เคยโกรธเธอเลย” เหว่ยเฟิงเอ่ยกับสามี ระหว่างเดินทางกลับบ้านด้วยกัน“ทุกอย่างมันเกิดจากการกระทำของเธอเอง ไม่มีใครทำเธอเลย”“นั่นสิคะ”การไปเยี่ยมม่านชิงชิงครั้งนี้ทำให้เหว่ยเฟิงได้เรียนรู้

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   กรรมตามสนอง

    ข่าวการจับกุมชายฉกรรจ์ที่บ้านพักท้ายไร่แพร่กระจายไปทั่วเมืองต้าหลี่อย่างรวดเร็ว การสอบปากคำของพวกเขาชี้ชัดไปที่ม่านชิงชิงในฐานะผู้บงการอยู่เบื้องหลังการพยายามลักพาตัวและทำร้ายเหว่ยเฟิง ตำรวจไม่รอช้าออกหมายจับเธอทันทีขณะเดียวกันตำรวจก็มาแจ้งกับฉินป๋อหลิน ถึงการตามตัวหาม่านชิงชิงตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์แล้ว ก็พบว่าบ้านหลังนั้นถูกธนาคารยึดทรัพย์ และถูกศาลฟ้องล้มละลายพอทุกคนได้ฟังเช่นนั้นก็ตกใจเช่นกัน พร้อมกับปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดหวังซู่หลินเองที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ได้ฟังที่ตำรวจแจ้งก็ร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ ไม่คิดเลยว่าม่านชิงชิงจะหลอกลวงนางได้ในวันเดียวกันนั้น ม่านชิง ๆ ก็ได้ข่าวว่าตำรวจจะนำกำลังมาจับกุม ม่านชิงชิงรู้ตัวทันทีว่าเธอไม่มีทางหนีรอดจากเรื่องนี้ได้อีกต่อไป เธอรู้ว่าไม่สามารถปฏิเสธความผิดที่ตัวเองก่อไว้ได้ ทุกอย่างกำลังพังทลายลงตรงหน้าในห้องที่เงียบงัน ม่านชิงชิงทำการเก็บข้าวของเท่าที่จำเป็นอย่างลวก ๆ ตอนนี้เธอไม่มีเวลามากนัก เพราะตำรวจอาจมาถึงตัวเธอได้ทุกเมื่อ“ฉันจะทำยังไงดี... ฉันจะหนีไปไหนได้บ้าง?” ม่านชิงชิงพึมพำกับตัวเองเสียงสั่น ขณะเร่งก้าวเด

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   เมื่อแผนการล้มเหลว

    เหว่ยเฟิงมาถึงบ้านพักท้ายไร่ตามที่ม่านชิงชิงนัดหมายโดยบอกว่าจะขอปรับความเข้าใจ เพราะเธอนั้นจะขอยอมแพ้กับรักครั้งนี้แล้ว ทั้งเจ้าตัวยังบอกอีกว่าจะยอมถอยกลับไปปักกิ่งตอนแรกเหว่ยเฟิงมีความลังเลว่าจะไปตามที่ม่านชิงชิงเอ่ยปากร้องขอดีหรือไม่ แต่ในที่สุดเธอก็ตกลงที่จะไปตามนัดด้วยอยากไปเคลียร์ใจกันให้จบเช่นนั้นเหว่ยเฟิงจึงเดินเข้าไปในบ้านพักท้ายไร่เพียงลำพัง“ม่านชิงชิง ฉันมาแล้ว”แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากภายใน เหว่ยเฟิงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอตัดสินใจผลักประตูเข้าไปช้า ๆภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้เธอแทบหยุดหายใจ ชายฉกรรจ์ร่างกำยำหลายคนยืนออกันอยู่กลางห้อง พวกเขาทั้งหมดจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย“นี่มันอะไรกัน!?” เหว่ยเฟิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เธอพยายามตั้งสติ ถอยหลังไปช้า ๆ แต่ก็สายเกินไป ชายฉกรรจ์คนหนึ่งพุ่งเข้ามาจับตัวเธอไว้แน่น“ปล่อยฉันนะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน!” เหว่ยเฟิงดิ้นรนสุดแรง แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของชายฉกรรจ์ได้ เธอรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่กำลังกัดกินหัวใจ เธอตะโกนสุดเสียง“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!”ทว่าเสียงของหญิงสาวจมหายไปในความเงียบงันของบ้านพักท้ายไร่ท

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   กำจัดเหว่ยเฟิงด้วยกัน

    “ม่านชิงชิง พอได้แล้ว!” ฉินป๋อหลินที่เดินเข้ามาในห้องของหญิงสาวพูดเสียงเข้ม “ผมรู้นะว่าคุณกำลังคิดจะทำอะไรโง่ ๆ ผมจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายเหว่ยเฟิงอีกแล้ว”ม่านชิงชิงหน้าถอดสี เธอไม่คิดว่าฉินป๋อหลินจะรู้ทันแผนการของเธอ เธอพยายามแก้ตัว “คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่...”“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” ฉินป๋อหลินขัดจังหวะ “ผมรู้จักคุณดีพอ ม่านชิงชิง ผมเคยหลงเชื่อคำพูดของคุณ แต่ตอนนี้ผมตาสว่างแล้ว ผมจะไม่ยอมให้คุณมาทำลายความสุขของผมกับเหว่ยเฟิงอีก”ม่านชิงชิงกำมือแน่นด้วยความโกรธและผิดหวัง เธอไม่คิดว่าฉินป๋อหลินจะปกป้องเหว่ยเฟิงขนาดนี้ เธอรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังพังทลายลงต่อหน้าต่อตา“แล้วคุณจะเสียใจ” เธอพูดเสียงสั่น “เหว่ยเฟิงจะต้องหายไปจากที่นี่...”“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ฉินป๋อหลินตวาดเสียงดังคำพูดของฉินป๋อหลินเหมือนคมมีดกรีดลึกเข้าไปในใจของม่านชิงชิง เธอรู้สึกหวาดกลัวเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องสู้เพื่ออนาคตของตัวเอง ม่านชิงชิงจึงรีบหันหลังวิ่งหนีไป ทิ้งให้ฉินป๋อหลินยืนอยู่คนเดียวฉินป๋อหลินรู้ดีว่าสิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการกลับไปพูดกับแม่อย่างจริงจัง เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าเขาจะไม่ยอมให้ม่านชิงชิงอยู่ในบ้านน

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   เสแสร้ง

    ฉินหลงเจ๋อยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เขาดีใจที่ได้เห็นเธออีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน“พ่อดีใจที่ลูกกลับมา ไม่ว่าใครหน้าไหนจะพูดอะไรก็ตาม แต่เธอเป็นลูกสะใภ้คนเดียวที่พ่อยอมรับ” เขาพูดเสียงสั่นเครือเหว่ยเฟิงได้ยินประโยคของท่านแล้วก็ก้มลงจูบมือที่เหี่ยวย่นจนเหลือแต่กระดูก “พ่อไม่ต้องคิดเรื่องของเราสองคนนะคะ หนูจะอยู่ดูแลพ่อที่นี่เองค่ะ”ในเวลานั้น เหว่ยเฟิงไม่สนใจว่าใครในไร่จะคิดอย่างไรกับเธอ เธอรู้แค่ว่าเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยฉินหลงเจ๋อ พ่อสามีที่เธอรักและเคารพ เธอจะอยู่เคียงข้างเขาจนถึงวินาทีสุดท้าย แม้ว่ามันจะหมายถึงการต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและความไม่แน่นอนในอนาคตก็ตามฉินป๋อหลินที่เห็นบิดามีเหว่ยเฟิงคอยดูแล ชายหนุ่มจึงได้เดินย้อนกลับไปที่ห้องครัวเพื่อสั่งงานคนรับใช้เกี่ยวกับเรื่องอาหารของบิดาที่จะนำมาเสิร์ฟให้ท่าน ส่วนเหว่ยเฟิงนั้นอาสาดูแลเช็ดตัวให้พ่อสามี ในขณะที่เหว่ยเฟิงเปิดประตูห้องเพื่อออกมาเตรียมของใช้นั่นเอง หวังซู่หลินที่ยืนรออยู่หน้าห้องก็จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังราวกับจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้หวังซู่หลินรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง คนที่เ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   หวนกลับไปที่เดิม

    ภายในคฤหาสน์ตระกูลฉินอันโอ่อ่า ทุกอย่างดูสงบสุขจากภายนอก แต่ภายในนั้น หวังซู่หลินกำลังเก็บงำความลับเอาไว้เธอปิดบังเรื่องการแยกกันอยู่ของฉินป๋อหลินกับเหว่ยเฟิงจากฉินหลงเจ๋อผู้ซึ่งกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งตับระยะสุดท้ายจนกว่าจะแน่ใจว่าป๋อหลินและเหว่ยเฟิงได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะยุติชีวิตคู่กันจริง ๆหากทั้งสองคนหย่าขาดจากกันโดยสมบูรณ์ แม้แต่ฉินหลงเจ๋อก็ไม่อาจก้าวก่ายหรือเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของพวกเขาได้อีกต่อไปแต่ความลับมักไม่ถูกเก็บงำไว้ได้นาน ในคฤหาสน์ใหญ่โตเช่นนี้ ข่าวคราวก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว แม้หวังซู่หลินจะพยายามปิดบังความจริงมากเพียงใด แต่เธอก็ไม่อาจควบคุมทุกอย่างได้ความจริงที่ว่าป๋อหลินและเหว่ยเฟิงกำลังจะหย่าร้างกัน ค่อย ๆ เล็ดลอดออกไปทีละน้อย จนในที่สุดก็มาถึงหูของฉินหลงเจ๋อ ผู้ซึ่งกำลังอ่อนแอทั้งกายและใจฉินหลงเจ๋อที่กำลังนอนซมอยู่บนเตียงด้วยโรคร้าย ได้รับรู้ความจริงอันน่าตกใจว่า ภรรยาของเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจากไปของเหว่ยเฟิง ลูกสะใภ้ที่เขารักและเอ็นดู“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ซู่หลิน!” เสียงของฉินหลงเจ๋อดังขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ผมจะเชื่อทุกอย่างที่คุณพูด 2/2

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เหว่ยเฟิงตอบรับพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆหลังจากที่เธอขึ้นรถ ฉินป๋อหลินก็ขับพาเธอไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักของหญิงสาวเท่าไหร่ เห็นเธอบอกว่าร้านนี้เป็นร้านโปรดของเหว่ยเฟิงที่เธอมักจะแวะมาทุกเช้าก่อนเข้าออฟฟิศฉินป๋อหลินรู้ดีว่าเหว่ยเฟิงชอบดื่มกาแฟในยามเช้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะมุมสงบในร้านกาแฟ กลิ่นหอมของกาแฟอุ่น ๆ ลอยฟุ้งไปทั่วบรรยากาศ“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม เฟิงเอ๋อร์?” เขาถามขึ้นหลังจากจิบกาแฟคำแรก แม้คำถามจะฟังดูธรรมดา แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้รู้ว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไรบ้างในช่วงที่ผ่านมาเหว่ยเฟิงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “ก็พอได้นอนบ้างค่ะ”การสนทนาดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความจริงใจจากทั้งสองฝ่าย หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ ฉินป๋อหลินก็ไปส่งเหว่ยเฟิงที่ออฟฟิศของเธอทั้งสองขึ้นรถพร้อมกันอีกครั้ง เส้นทางจากร้านกาแฟไปยังออฟฟิศก็ไม่ได้ไกลนัก แต่บรรยากาศในรถนั้นเต็มไปด้วยความเงียบงันที่ไม่ได้อึดอัด แต่เป็นความสงบที่ทั้งคู่นั้นใช้เวลาไตร่ตรองถึงสิ่งที่อยู่ในใจเหว่ยเฟิงรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน เธอไม่เคยคิดว่าฉินป๋อหลิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status