แชร์

เสียหาย

ผู้เขียน: อิ่น เยว่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-29 16:17:28

หลังจากร่วมทานข้าวเย็นกับพ่อแม่ และแขกอย่างม่านชิงชิงเสร็จแล้ว เหว่ยเฟิงและป๋อหลินก็เข้าห้องส่วนตัวที่ใช้หลับนอนด้วยกันมาแรมปี

“เฟิงเอ๋อร์” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้อ่อนโยนที่สุด “เมื่อวานซืน คุณออกไปไหนมาเหรอ”

เหว่ยเฟิงเงยหน้าจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ เธอรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังถามถึงเรื่องอะไร แววตาของเธอฉายแววลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดความจริง

“ฉันไปเจอหลิวกู้หย่งมาค่ะ” เธอตอบเสียงเบา

หัวใจของป๋อหลินกระตุกวูบ แต่เขาก็ยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉย “ทำไมล่ะ”

“เขาขอพบฉันค่ะ” เหว่ยเฟิงอธิบาย “ฉันจึงไปเพื่อบอกกับเขาว่าฉันแต่งงานแล้ว และขอให้เขาเลิกติดต่อฉัน ไม่ต้องมาพบกันอีก”

ฉินป๋อหลินเงียบไปครู่หนึ่ง เขาจ้องมองดวงตาของหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณา ซึ่งเหว่ยเฟิงไม่ได้มีแววตาที่โกหกแต่อย่างใด

“ผมเชื่อใจคุณนะ เฟิงเอ๋อร์”

เหว่ยเฟิงถอนหายใจอย่างโล่งอก พลางเดินเข้าไปกอดเขาแน่น

“ขอบคุณนะคะ ป๋อหลิน”

ฉินป๋อหลินโอบกอดเธอตอบ ความรู้สึกผิดที่เคยกัดกินใจเขาเริ่มจางหายไป เขาคิดถึงรูปถ่ายที่ได้รับมา มันก็ตรงกับสิ่งที่เหว่ยเฟิงเล่าทุกอย่าง เขาเริ่มรู้สึกโง่เขลาที่เคยสงสัยในตัวเธอ

“อะไรกัน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ใส่ร้าย

    ดูเหมือนว่าบรรยากาศภายในบ้านเช้านี้ ดูเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งทั้งสองคนที่มีประเด็นกันต่างเก็บตัวเงียบ ไม่พูดคุยกันแม้แต่คำเดียว และความเงียบงันนี้เป็นเหมือนกำแพงหนาที่กั้นกลางระหว่างพวกเขาเอาไว้อย่างชัดเจน ทั้งยังสวนทางกับม่านชิงชิงที่รู้สึกยินดีกับความบาดหมางของคนทั้งคู่ยิ่งนักพอทานข้าวเช้ากับพ่อแม่แล้ว ฉินป๋อหลินก็มาเดินตรวจงานอยู่ที่ไร่คนเดียว เพราะวันนี้เหว่ยเฟิงยืนกรานว่าจะไม่ออกไปทำงานพร้อมกันกับเขา ทว่าขณะที่ฉินป๋อหลินดูองุ่นอยู่นั้นก็ได้ยินคนงานในไร่พูดคุยกันถึงเรื่องที่ม่านชิงชิงจ้างคนงานคนหนึ่งให้เข้าใกล้เหว่ยเฟิง เช่นนั้นแล้วเจ้าตัวจึงหยุดยืนฟัง“ฉันบอกแกแล้วไง ว่าอย่าไปยุ่งกับเมียของนายท่าน เดี๋ยวนายท่านก็เพ่งเล็งจนทำงานที่นี่ไม่ได้พอดี” เสียงคนงานคนหนึ่งดังขึ้น“แต่คุณหนูชิงชิงให้เงินฉันเยอะนี่นา ถึงออกจากที่นี่ไปก็สามารถตั้งตัวได้สบาย ๆ” คนงานที่ชื่อหลี่หมิงตอบกลับฉินป๋อหลินได้ยินอย่างนั้นก็กำหมัดแน่น เขาไม่รอช้า รีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นทันที ภาพที่เขาเห็นทำให้เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ม่านชิงชิงกำลังพูดคุยกับคนงานที่ชื่อว่าหลี่หมิง และยื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ฉันไม่ได้ทำ

    ฉินป๋อหลินทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยว หลักฐานการยักยอกเงินที่เขาเพิ่งตรวจพบในบัญชีรายรับรายจ่าย ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกทรยศหักหลัง“ใครกันที่กล้าทำแบบนี้!” เขาคำรามลั่น ความโกรธทำให้ห้องทำงานที่เคยเงียบสงบสั่นสะเทือนขึ้นมาทันทีความเงียบในห้องทำงานของฉินป๋อหลินถูกทำลายลงด้วยเสียงเคาะประตูแผ่วเบา หวังหลิงเฟย พนักงานบัญชีที่เขาไว้ใจที่สุด ก้าวเข้ามาในห้องด้วยสีหน้ากังวล“นายท่าน” หวังหลิงเฟยพูดเสียงสั่น “ผมมีเรื่องสำคัญจะรายงานครับ”“ว่ามา” ป๋อหลินตอบ น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเครียด“ผมตรวจสอบบัญชีตามที่นายท่านสั่ง...แล้วพบว่ามีเงินจำนวนหนึ่งหายไปครับ” หวังหลิงเฟยพูดเสียงเบา “และหลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่...คุณนายเหว่ยเฟิงครับ”คำพูดของหวังหลิงเฟยเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของฉินป๋อหลิน เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เหว่ยเฟิง ภรรยาที่เขารักและเชื่อใจ จะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร“หลักฐานอะไร?” เขาถามเสียงเครียดหวังหลิงเฟยยื่นเอกสารให้ฉินป๋อหลินดู เป็นสำเนาใบเสร็จและรายการโอนเงินที่ถูกแก้ไขอย่างแนบเนียน ฉินป๋อหลินตรวจสอบเอกสารเหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   รอยร้าวในใจ

    ณ โรงพยาบาล บรรยากาศรอบตัวเธอราวกับหยุดนิ่ง ขณะที่เธอรอฟังผลวินิจฉัยจากแพทย์ และคำพูดของหมอเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ“คุณพ่อของคุณเป็นโรคหัวใจครับ เขาเป็นมานานแล้ว” หมอบอกอย่างใจเย็น แต่เหว่ยเฟิงรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมา “เราแนะนำให้คุณเหว่ยทำบอลลูนหัวใจเพื่อเปิดเส้นเลือดที่ตีบมาหลายครั้งแล้ว แต่คนไข้กลับบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด”เหว่ยเซินปฏิเสธการรักษาอย่างหนักแน่น แม้แพทย์จะอธิบายถึงความจำเป็น เขาก็ยังคงยืนกรานว่าแค่เหนื่อยเกินไปและอยากพักผ่อนเท่านั้น เบื้องหลังท่าทีดื้อดึงนั้นคือความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยไม่อยากให้ลูก ๆ ต้องลำบากเรื่องค่ารักษาพยาบาล แม้แต่ประกันชีวิตเขาก็ไม่เคยทำ เพราะคิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ชายผู้นี้รักและห่วงใยทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้นก็แต่สุขภาพของตนเองเมื่อเหว่ยเฟิงรู้ความจริงว่าพ่อป่วยหนัก เธอรู้สึกเหมือนถูกทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่ ความเสียใจและความกลัวถาโถมเข้ามาในใจ เธอไม่สามารถจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่มีพ่อได้เลย“พ่อคะ ทำไมพ่อไม่บอกหนูเลย ถ้าพ่อบอกหนูสักคำ หนูจะคอยมาดูแลพ่อ หนูขอโทษนะคะที่ลูกคนนี้ไม่เอาไหนเลย พ่อป่วยเป็นอะไรก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจ พ่อช่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   จุดจบของความอดทน

    ทันทีที่ฉินป๋อหลินลืมตาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องพักผู้ป่วย เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ขยับร่างกายไม่ได้ จำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่หลายสัปดาห์ ซึ่งทุกครั้งที่เขาพยายามจะติดต่อหาเหว่ยเฟิง ก็จะถูกขัดขวางโดยหวังซู่หลินแม่ของเขาทุกครั้งไป“ป๋อหลิน ตอนนี้อย่าเพิ่งไปไหนเลยนะลูก” หวังซู่หลินพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยเลศนัย “แม่จะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง เดี๋ยวแม่จะส่งคนของเราไปดูแลเหว่ยเฟิงให้นะลูก”ฉินป๋อหลินขมวดคิ้ว เขาไม่ไว้ใจแม่ของเขาเลย แต่ในสภาพที่ร่างกายบาดเจ็บเช่นนี้ เขาเองก็คงทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะหมอสั่งไม่ให้เขาขยับร่างกายมากเพื่อลดอาการบาดเจ็บและหวังซู่หลินจึงฉวยโอกาสนี้ส่งฉินป๋อหลินไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลในเมืองอื่น โดยส่งม่านชิงชิงไปคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เธออ้างว่าโรงพยาบาลในเมืองนั้นมีแพทย์เฉพาะทางที่เก่งกว่า แต่ความจริงแล้ว เธอเพียงแค่ต้องการกีดกันฉินป๋อหลินออกจากเหว่ยเฟิงในช่วงเวลาที่เธออ่อนแอที่สุดก็เพียงเท่านั้นภายใต้เงาของความโศกเศร้า เหว่ยเฟิงและเหว่ยหยวนต้องเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าที่พ่อทิ้งไว้เบื้องหลัง พวกเขาจัดการงานศพด้วยมือของตัวเอง มีเพียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ไร้จุดหมาย

    หนึ่งสัปดาห์หลังจากวันที่เหว่ยเฟิงและเหว่ยหยวนจากไป ร่างกายของฉินป๋อหลินก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว จนตอนนี้เขาสามารถขยับตัวและเดินเหินเองได้แล้ว แม้จะยังมีความเจ็บปวดอยู่บ้างก็ตาม แต่ความคิดถึงเหว่ยเฟิงกลับท่วมท้นมากขึ้นทุกวันฉินป๋อหลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดเบอร์ของเหว่ยเฟิงด้วยหัวใจที่เต้นรัว เขาหวังอย่างเต็มที่ว่าเธอจะรับสาย หรืออย่างน้อยก็ให้เขาได้ยินเสียงของเธออีกครั้ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง โทรศัพท์ถูกตัดและไม่สามารถติดต่อได้ เหว่ยเฟิงปิดเครื่องโทรศัพท์!“ไปไหนของเขา”เมื่อไม่สามารถติดต่อภรรยาได้ ชายหนุ่มก็รู้สึกกระวนกระวายใจ อยากที่จะกลับบ้านไปหาเธอเต็มที หากหมอและม่านชิงชิงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าให้เขาใจเย็น ๆ เหว่ยเฟิงโทรศัพท์ของเธออาจจะแบตหมด หรือยุ่งกับงานในไร่อยู่ก็เป็นได้หลังจากที่ฉินป๋อหลินฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บจนดีขึ้น เขาไม่รอช้าที่จะกลับมายังไร่องุ่นทันที แม้ว่าม่านชิงชิงจะพยายามขัดขวางและทัดทานอย่างไรก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเขาได้ระหว่างที่เขาเริ่มที่จะขยับตัวได้ ระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นฉินป๋อหลินรีบเริ่มการตรวจสอบเรื่องการยักยอกเงินอย่างจริงจัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ดูแลตัวเอง

    ฉินป๋อหลินรีบมาหาเหว่ยเฟิงที่ห้องนอนของพวกเขาทันที แต่เขาก็ต้องกับความเงียบสงัดปกคลุมห้องนอนที่เคยอบอุ่น ซึ่งทุกอย่างดูว่างเปล่า ไร้ชีวิตชีวา ราวกับจิตวิญญาณของบ้านได้หายไปพร้อมกับการจากไปของเธอเขาหยิบจดหมายที่เหว่ยเฟิงทิ้งไว้ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ตัวอักษรที่คุ้นเคย บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความผิดหวัง คำพูดของเธอทิ่มแทงหัวใจเขา เธอจากไปแล้ว จากไปพร้อมกับความรักที่เขาเคยคิดว่ามั่นคงเขาเป็นทำลายทุกอย่างลงด้วยมือของเขาเอง เขาชะล่าใจเกินไป คิดว่าแค่บอกว่าเธอจะเป็นภรรยาเพียงคนเดียวของเขาก็เพียงพอแล้ว เขาไม่เคยถามเธอว่าเธอต้องการอะไร เขาไม่เคยพยายามเข้าใจความรู้สึกของเธอเลยเขาคิดว่าแค่ทำดีกับเธอมันก็เพียงพอแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดว่าแม้แต่คนที่สดใสร่าเริงอย่างเหว่ยเฟิงก็ต้องการการปกป้องจาก ผู้เป็นสามีของเธอ“ผมขอโทษ เฟิงเอ๋อร์” ฉินป๋อหลินพึมพำกับตัวเอง เสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปฉินป๋อหลินไม่รอช้าที่คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา กดหมายเลขภายในของเลขาธิการลี่“ลี่” เสียงของป๋อหลินแหบพร่า แทบจะจำเสียงตัวเองไม่ได้“ครับ ท่านประธาน” เสียงของลี่ตอบกลับมาอย่างสุภาพ“เตรียมประชุมด่วน เด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   พบเจออีกครั้งหนึ่ง

    ตอนนี้เหว่ยเฟิงทำงานเป็นพนักงานบริหารกองทุนที่ธนาคารแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ชีวิตเธอเต็มไปด้วยความเร่งรีบและวุ่นวาย จากตอนเช้าจนถึงเย็น ทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะวิ่งตามเธอไม่ทัน โทรศัพท์ไม่เคยเงียบ อีเมลเข้ามาเป็นระลอกไม่หยุดหย่อน เอกสารกองเป็นภูเขารอให้เธอจัดการการตัดสินใจทุกครั้งล้วนมีผลกระทบต่อการลงทุนของลูกค้าและอนาคตของพวกเขา ซึ่งทำให้เธอต้องรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้นทุกวันที่ออฟฟิศ เพื่อนร่วมงานของเธอต่างก็เป็นคนที่มีความสามารถสูง ทุกคนมุ่งมั่นแข่งขันกันเพื่อความก้าวหน้า เหว่ยเฟิงเองก็ไม่ใช่คนที่จะนั่งเฉย ๆเธอเป็นที่ยอมรับในทีมทั้งที่เข้ามาทำงานได้ไม่นาน อีกทั้งด้วยไหวพริบและความสามารถในการวิเคราะห์การลงทุนที่ยอดเยี่ยม ทุกครั้งที่มีการประชุม หัวหน้าและลูกค้าต่างก็เชื่อมั่นในคำแนะนำของเธอ“เหว่ยเฟิง เรามีลูกค้ารายใหญ่เข้ามาในวันนี้ เขาต้องการคำปรึกษาเรื่องการลงทุนในกองทุนใหม่ที่เราจะเปิดตัว”“เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปคุยกับเขาตอนนี้เลย” เหว่ยเฟิงตอบเสียงเรียบ พลางปิดแฟ้มงานที่เพิ่งตรวจสอบเสร็จห้องประชุมเต็มไปด้วยบรรยากาศเคร่งเครียด ลูกค้าคนสำคัญนั่งอยู่ตรงข้ามกับเหว่ยเฟิง สายต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ผมจะเชื่อทุกอย่างที่คุณพูด 1/2

    เหว่ยเฟิงรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน เธอจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา นี่มัน...ฉินป๋อหลินจริง ๆ น่ะหรือ? สามีที่เธอจากมาโดยไม่ได้ร่ำลา ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอในห้องประชุมแห่งนี้หัวใจของเธอเต้นระรัว ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในใจ ความโกรธ ความเสียใจ ความคิดถึง และเหนือสิ่งอื่นใด ความสับสน เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เจอเขาอีกครั้ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เธอพยายามจะลืมเขาและเริ่มต้นชีวิตใหม่ฉินป๋อหลินมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยนและจริงจัง ต่างจากแววตาเย็นชาที่เธอเห็นครั้งสุดท้ายก่อนจากมา มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งแหลมคมทิ่มแทงเข้าไปในใจ“เหว่ยเฟิง ผมตามหาคุณมาตลอด” เสียงของเขาแผ่วเบา แต่หนักแน่นและจริงใจ “ผมรู้ว่าผมทำผิดไป ผมอยากขอโทษ และผมอยากให้คุณกลับไปที่ไร่องุ่นกับผม”คำพูดของเขาเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจ เธออยากจะตะโกนใส่เขา ว่าเขาไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้หลังจากที่เขาทำกับเธอไว้ แต่ริมฝีปากกลับแข็งทื่อ พูดไม่ออก“ทำไมคะ” ในที่สุดเธอก็ถามออกมาได้ เสียงของเธอสั่นเครือ “ทำไมตอนนี้คุณถึงมาตามฉันกลับไป”“เพราะผมรักคุณ” ป๋อหลินตอบอย่างไม่ลังเล “ผมรู้ว่าผมทำผิดพลาดไปมากมาย ผมละเลยควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ฉันก็รักคุณค่ะ

    “คืนนี้เป็นของเรา” ป๋อหลินพูดเบา ๆ ขณะที่เขากอดเธอไว้แน่นเสียงหัวใจของทั้งคู่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน เสียงกระซิบและเสียงหัวเราะเบา ๆ ก่อเกิดเป็นบทเพลงแห่งความรักที่พวกเขาร่วมบรรเลงอย่างสมบูรณ์ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความรักและความสุข ลืมความทุกข์โศกและความสูญเสียในอดีต เหลือเพียงความรักที่แท้จริงและความผูกพันที่ไม่มีวันจางหายเช้าวันหนึ่ง เหว่ยเฟิงรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยสบายตัวนัก เธอมีอาการคลื่นไส้และเวียนศีรษะเล็กน้อย ตอนแรกเธอคิดว่าอาจเป็นเพราะทำงานหนักเกินไป แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปหาหมอในเมืองเมื่อผลตรวจออกมา เหว่ยเฟิงแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เธอตั้งครรภ์! ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในใจ ทั้งความดีใจ ความตื่นเต้น และความกังวลเล็ก ๆ เธอจะบอกข่าวดีนี้กับฉินป๋อหลินอย่างไรดีนะ?เขาจะตื่นเต้นดีใจกับข่าวดีนี้หรือเปล่าและทันทีที่กลับถึงบ้าน เหว่ยเฟิงก็ตรงไปหาฉินป๋อหลินที่กำลังจัดการเอกสารอยู่ในห้องทำงาน“ป๋อหลินคะ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณค่ะ” เหว่ยเฟิงพูดเสียงแผ่วฉินป๋อหลินเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยความเป็นห่วง “มีอะไรหรือ เฟิงเอ๋อร์? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”เหว่ยเฟิงสูดหายใจเ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   แสงสว่าง

    และมาวันนี้ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาถึง ในที่สุดฉินหลงเจ๋อก็จากไปอย่างสงบจากโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย แม้ความโศกเศร้าจะเกาะกุมหัวใจ ฉินป๋อหลินและเหว่ยเฟิงก็พยายามยิ้มให้กันพวกเขาเข้าใจดีว่าตอนนี้ฉินหลงเจ๋อจากไปอย่างสงบ ปราศจากความเจ็บปวดทรมาน และที่สำคัญที่สุด ท่านจากไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข“พ่อคงไม่อยากเห็นพวกเราเศร้านักหรอกค่ะ” เหว่ยเฟิงเอ่ยเสียงแผ่ว ปลอบประโลมฉินป๋อหลินที่ยังคงมีน้ำตาคลอหน่วยฉินป๋อหลินพยักหน้ารับ “ใช่แล้วเฟิงเอ๋อร์ พ่อคงอยากให้พวกเรามีความสุข”หลังจากนั้นฉินป๋อหลินก็รับช่วงต่อธุรกิจไร่องุ่นหยางกวงแทนบิดาอย่างเต็มตัว เขาและเหว่ยเฟิงก็ช่วยกันทำงานร่วมกันอย่างมุ่งมั่นและขยันขันแข็งวันเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า ไร่องุ่นที่เคยเจอปัญหาและความท้าทายกลับเริ่มเติบโตและประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นด้วยความร่วมมือของสองสามีภรรยา ทำให้พวกเขากลายเป็นคู่รักที่แข็งแกร่ง ทั้งในเรื่องงานและชีวิตครอบครัวยามเช้าในไร่องุ่นเต็มไปด้วยความสดชื่น แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านใบไม้เขียวขจี เหว่ยเฟิงและฉินป๋อหลินเดินเคียงข้างกันท่ามกลางแปลงองุ่นที่กำลังสุกงอม มือของทั้งสองจับกันไว้แน่น สายลมเบา ๆ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ให้อภัย

    เมื่อเหว่ยเฟิงและฉินป๋อหลินเดินทางมาถึงโรงพยาบาลจิตเวช ภาพของม่านชิงชิงที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เธอแทบจำไม่ได้ หญิงสาวที่เคยงดงามและเย่อหยิ่ง บัดนี้เหลือเพียงร่างกายที่ผ่ายผอมและดวงตาที่ว่างเปล่าหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเหว่ยเฟิงกับฉินป๋อหลินอย่างเลื่อนลอย ไม่มีวี่แววของความเกลียดชังหรือความอาฆาตใด ๆ หลงเหลืออยู่“เธอจำฉันได้หรือไม่” เหว่ยเฟิงเอ่ยถามเสียงเบาม่านชิงชิงส่ายหน้าช้า ๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม “ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ ฉันจำอะไรไม่ได้จริง ๆ”เหว่ยเฟิงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเวทนา นี่คือผลลัพธ์ของความแค้นที่ม่านชิงชิงเคยปลูกฝังไว้ในใจ“ม่านชิงชิง ฉันให้อภัยเธอ” เหว่ยเฟิงเอ่ยออกมาจากใจม่านชิงชิงมองเหว่ยเฟิงด้วยความประหลาดใจ เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำเหล่านี้จากปากของใครสักคน“ขอบคุณ” ม่านชิงชิงกระซิบ ถึงแม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่เหว่ยเฟิงพูดก็ตามที“ฉันสงสารม่านชิงชิงจังค่ะ ป๋อหลิน ถึงเธอจะเคยทำร้ายฉันยังไง ฉันก็ไม่เคยโกรธเธอเลย” เหว่ยเฟิงเอ่ยกับสามี ระหว่างเดินทางกลับบ้านด้วยกัน“ทุกอย่างมันเกิดจากการกระทำของเธอเอง ไม่มีใครทำเธอเลย”“นั่นสิคะ”การไปเยี่ยมม่านชิงชิงครั้งนี้ทำให้เหว่ยเฟิงได้เรียนรู้

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   กรรมตามสนอง

    ข่าวการจับกุมชายฉกรรจ์ที่บ้านพักท้ายไร่แพร่กระจายไปทั่วเมืองต้าหลี่อย่างรวดเร็ว การสอบปากคำของพวกเขาชี้ชัดไปที่ม่านชิงชิงในฐานะผู้บงการอยู่เบื้องหลังการพยายามลักพาตัวและทำร้ายเหว่ยเฟิง ตำรวจไม่รอช้าออกหมายจับเธอทันทีขณะเดียวกันตำรวจก็มาแจ้งกับฉินป๋อหลิน ถึงการตามตัวหาม่านชิงชิงตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์แล้ว ก็พบว่าบ้านหลังนั้นถูกธนาคารยึดทรัพย์ และถูกศาลฟ้องล้มละลายพอทุกคนได้ฟังเช่นนั้นก็ตกใจเช่นกัน พร้อมกับปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดหวังซู่หลินเองที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ได้ฟังที่ตำรวจแจ้งก็ร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ ไม่คิดเลยว่าม่านชิงชิงจะหลอกลวงนางได้ในวันเดียวกันนั้น ม่านชิง ๆ ก็ได้ข่าวว่าตำรวจจะนำกำลังมาจับกุม ม่านชิงชิงรู้ตัวทันทีว่าเธอไม่มีทางหนีรอดจากเรื่องนี้ได้อีกต่อไป เธอรู้ว่าไม่สามารถปฏิเสธความผิดที่ตัวเองก่อไว้ได้ ทุกอย่างกำลังพังทลายลงตรงหน้าในห้องที่เงียบงัน ม่านชิงชิงทำการเก็บข้าวของเท่าที่จำเป็นอย่างลวก ๆ ตอนนี้เธอไม่มีเวลามากนัก เพราะตำรวจอาจมาถึงตัวเธอได้ทุกเมื่อ“ฉันจะทำยังไงดี... ฉันจะหนีไปไหนได้บ้าง?” ม่านชิงชิงพึมพำกับตัวเองเสียงสั่น ขณะเร่งก้าวเด

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   เมื่อแผนการล้มเหลว

    เหว่ยเฟิงมาถึงบ้านพักท้ายไร่ตามที่ม่านชิงชิงนัดหมายโดยบอกว่าจะขอปรับความเข้าใจ เพราะเธอนั้นจะขอยอมแพ้กับรักครั้งนี้แล้ว ทั้งเจ้าตัวยังบอกอีกว่าจะยอมถอยกลับไปปักกิ่งตอนแรกเหว่ยเฟิงมีความลังเลว่าจะไปตามที่ม่านชิงชิงเอ่ยปากร้องขอดีหรือไม่ แต่ในที่สุดเธอก็ตกลงที่จะไปตามนัดด้วยอยากไปเคลียร์ใจกันให้จบเช่นนั้นเหว่ยเฟิงจึงเดินเข้าไปในบ้านพักท้ายไร่เพียงลำพัง“ม่านชิงชิง ฉันมาแล้ว”แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากภายใน เหว่ยเฟิงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอตัดสินใจผลักประตูเข้าไปช้า ๆภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้เธอแทบหยุดหายใจ ชายฉกรรจ์ร่างกำยำหลายคนยืนออกันอยู่กลางห้อง พวกเขาทั้งหมดจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย“นี่มันอะไรกัน!?” เหว่ยเฟิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เธอพยายามตั้งสติ ถอยหลังไปช้า ๆ แต่ก็สายเกินไป ชายฉกรรจ์คนหนึ่งพุ่งเข้ามาจับตัวเธอไว้แน่น“ปล่อยฉันนะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน!” เหว่ยเฟิงดิ้นรนสุดแรง แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของชายฉกรรจ์ได้ เธอรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่กำลังกัดกินหัวใจ เธอตะโกนสุดเสียง“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!”ทว่าเสียงของหญิงสาวจมหายไปในความเงียบงันของบ้านพักท้ายไร่ท

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   กำจัดเหว่ยเฟิงด้วยกัน

    “ม่านชิงชิง พอได้แล้ว!” ฉินป๋อหลินที่เดินเข้ามาในห้องของหญิงสาวพูดเสียงเข้ม “ผมรู้นะว่าคุณกำลังคิดจะทำอะไรโง่ ๆ ผมจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายเหว่ยเฟิงอีกแล้ว”ม่านชิงชิงหน้าถอดสี เธอไม่คิดว่าฉินป๋อหลินจะรู้ทันแผนการของเธอ เธอพยายามแก้ตัว “คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่...”“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” ฉินป๋อหลินขัดจังหวะ “ผมรู้จักคุณดีพอ ม่านชิงชิง ผมเคยหลงเชื่อคำพูดของคุณ แต่ตอนนี้ผมตาสว่างแล้ว ผมจะไม่ยอมให้คุณมาทำลายความสุขของผมกับเหว่ยเฟิงอีก”ม่านชิงชิงกำมือแน่นด้วยความโกรธและผิดหวัง เธอไม่คิดว่าฉินป๋อหลินจะปกป้องเหว่ยเฟิงขนาดนี้ เธอรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังพังทลายลงต่อหน้าต่อตา“แล้วคุณจะเสียใจ” เธอพูดเสียงสั่น “เหว่ยเฟิงจะต้องหายไปจากที่นี่...”“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ฉินป๋อหลินตวาดเสียงดังคำพูดของฉินป๋อหลินเหมือนคมมีดกรีดลึกเข้าไปในใจของม่านชิงชิง เธอรู้สึกหวาดกลัวเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องสู้เพื่ออนาคตของตัวเอง ม่านชิงชิงจึงรีบหันหลังวิ่งหนีไป ทิ้งให้ฉินป๋อหลินยืนอยู่คนเดียวฉินป๋อหลินรู้ดีว่าสิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการกลับไปพูดกับแม่อย่างจริงจัง เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าเขาจะไม่ยอมให้ม่านชิงชิงอยู่ในบ้านน

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   เสแสร้ง

    ฉินหลงเจ๋อยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เขาดีใจที่ได้เห็นเธออีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน“พ่อดีใจที่ลูกกลับมา ไม่ว่าใครหน้าไหนจะพูดอะไรก็ตาม แต่เธอเป็นลูกสะใภ้คนเดียวที่พ่อยอมรับ” เขาพูดเสียงสั่นเครือเหว่ยเฟิงได้ยินประโยคของท่านแล้วก็ก้มลงจูบมือที่เหี่ยวย่นจนเหลือแต่กระดูก “พ่อไม่ต้องคิดเรื่องของเราสองคนนะคะ หนูจะอยู่ดูแลพ่อที่นี่เองค่ะ”ในเวลานั้น เหว่ยเฟิงไม่สนใจว่าใครในไร่จะคิดอย่างไรกับเธอ เธอรู้แค่ว่าเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยฉินหลงเจ๋อ พ่อสามีที่เธอรักและเคารพ เธอจะอยู่เคียงข้างเขาจนถึงวินาทีสุดท้าย แม้ว่ามันจะหมายถึงการต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและความไม่แน่นอนในอนาคตก็ตามฉินป๋อหลินที่เห็นบิดามีเหว่ยเฟิงคอยดูแล ชายหนุ่มจึงได้เดินย้อนกลับไปที่ห้องครัวเพื่อสั่งงานคนรับใช้เกี่ยวกับเรื่องอาหารของบิดาที่จะนำมาเสิร์ฟให้ท่าน ส่วนเหว่ยเฟิงนั้นอาสาดูแลเช็ดตัวให้พ่อสามี ในขณะที่เหว่ยเฟิงเปิดประตูห้องเพื่อออกมาเตรียมของใช้นั่นเอง หวังซู่หลินที่ยืนรออยู่หน้าห้องก็จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังราวกับจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้หวังซู่หลินรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง คนที่เ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   หวนกลับไปที่เดิม

    ภายในคฤหาสน์ตระกูลฉินอันโอ่อ่า ทุกอย่างดูสงบสุขจากภายนอก แต่ภายในนั้น หวังซู่หลินกำลังเก็บงำความลับเอาไว้เธอปิดบังเรื่องการแยกกันอยู่ของฉินป๋อหลินกับเหว่ยเฟิงจากฉินหลงเจ๋อผู้ซึ่งกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งตับระยะสุดท้ายจนกว่าจะแน่ใจว่าป๋อหลินและเหว่ยเฟิงได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะยุติชีวิตคู่กันจริง ๆหากทั้งสองคนหย่าขาดจากกันโดยสมบูรณ์ แม้แต่ฉินหลงเจ๋อก็ไม่อาจก้าวก่ายหรือเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของพวกเขาได้อีกต่อไปแต่ความลับมักไม่ถูกเก็บงำไว้ได้นาน ในคฤหาสน์ใหญ่โตเช่นนี้ ข่าวคราวก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว แม้หวังซู่หลินจะพยายามปิดบังความจริงมากเพียงใด แต่เธอก็ไม่อาจควบคุมทุกอย่างได้ความจริงที่ว่าป๋อหลินและเหว่ยเฟิงกำลังจะหย่าร้างกัน ค่อย ๆ เล็ดลอดออกไปทีละน้อย จนในที่สุดก็มาถึงหูของฉินหลงเจ๋อ ผู้ซึ่งกำลังอ่อนแอทั้งกายและใจฉินหลงเจ๋อที่กำลังนอนซมอยู่บนเตียงด้วยโรคร้าย ได้รับรู้ความจริงอันน่าตกใจว่า ภรรยาของเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจากไปของเหว่ยเฟิง ลูกสะใภ้ที่เขารักและเอ็นดู“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ซู่หลิน!” เสียงของฉินหลงเจ๋อดังขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แ

  • ดั่งสายลมแห่งรัก   ผมจะเชื่อทุกอย่างที่คุณพูด 2/2

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เหว่ยเฟิงตอบรับพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆหลังจากที่เธอขึ้นรถ ฉินป๋อหลินก็ขับพาเธอไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักของหญิงสาวเท่าไหร่ เห็นเธอบอกว่าร้านนี้เป็นร้านโปรดของเหว่ยเฟิงที่เธอมักจะแวะมาทุกเช้าก่อนเข้าออฟฟิศฉินป๋อหลินรู้ดีว่าเหว่ยเฟิงชอบดื่มกาแฟในยามเช้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะมุมสงบในร้านกาแฟ กลิ่นหอมของกาแฟอุ่น ๆ ลอยฟุ้งไปทั่วบรรยากาศ“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม เฟิงเอ๋อร์?” เขาถามขึ้นหลังจากจิบกาแฟคำแรก แม้คำถามจะฟังดูธรรมดา แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้รู้ว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไรบ้างในช่วงที่ผ่านมาเหว่ยเฟิงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “ก็พอได้นอนบ้างค่ะ”การสนทนาดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความจริงใจจากทั้งสองฝ่าย หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ ฉินป๋อหลินก็ไปส่งเหว่ยเฟิงที่ออฟฟิศของเธอทั้งสองขึ้นรถพร้อมกันอีกครั้ง เส้นทางจากร้านกาแฟไปยังออฟฟิศก็ไม่ได้ไกลนัก แต่บรรยากาศในรถนั้นเต็มไปด้วยความเงียบงันที่ไม่ได้อึดอัด แต่เป็นความสงบที่ทั้งคู่นั้นใช้เวลาไตร่ตรองถึงสิ่งที่อยู่ในใจเหว่ยเฟิงรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน เธอไม่เคยคิดว่าฉินป๋อหลิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status