ดั่งร้ายรักมาเฟียร้าย
ตอนที่3
ไม่มีทางเป็นไปได้
"หน้าบูดมาเลยเป็นอะไรยัยหนูท่อ?"หลินหลินเอ่ยถามกับเพื่อนสนิททันทีเมื่อหนูนาเดินมานั่งลงที่โต๊ะไม้ใต้ตึกด้วยท่าทีที่อารมณ์ไม่ดี
"ก็ไอ้โอมมันแย่งที่จอดรถฉันน่ะสิฉันกำลังจะขับรถเข้าไปจอดแต่ไม่รู้ว่าไอ้โอมมันมาจากไหนไม่รู้พุ่งเข้าไปจอดแทนที่ฉันเฉยเลยแบบที่ไม่เกรงใจแถมมันยังบอกอีกนะว่ามันไม่เห็นรถฉัน สีเขียวกระแทกตาแบบนั้นมันจะไม่เห็นได้อย่างไงตามันบอดสีหรือไงกัน"หนูนาพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด
"สรุปคือทะเลาะกับโอมมาใช่ไหม?"หลินหลินถาม
"ก็ใช่นะสิเจอหน้ามันและพาให้อารมณ์เสียได้ตลอดเวลาเลย"
"ฉันว่าเธอควรชินก็ทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอกันอยู่แล้วนี่"หลินหลินพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติก็มันก็ปกติจริงๆนี่น่า
"ฉันก็ไม่อยากทะเลาะแต่มันก็กวนประสาทฉันตลอดเลยแล้วมันทำให้อารมณ์เสียเข้าใจไหม"
"หรือว่าที่โอมมันชอบกวนประสาทเธอบ่อยๆเพราะว่ามันชอบเธอหรือเปล่ายัยหนูท่อ"หลินหลินเอ่ยบอก
"แบบนั้นอะนะที่เรียกว่าชอบ?"
"ใช่ไงแบบเหมือนอยากให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาอะไรประมาณนี้"
"ไม่มีทางที่มันจะชอบฉันเพราะฉันพึ่งเห็นว่ามันลงสตอรี่ไอจีไปกินข้าวกับสาวอยู่เลย"
"โอมมันอาจจะไม่กล้ามาจีบเธอตรงๆก็ได้มั่ง"
"พอแล้วยัยหลินฮุ่ยหยุดชงได้แล้วมันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน"หนูนาส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงว่าเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน
"โอเคไม่ชงก็ได้"หลินหลินไหวไหล่อย่างไม่สนใจนัก
"แล้วยัยลูกแก้วล่ะยังไม่มาอีกเหรอ?"หนูนาถามถึงถึงเพื่อนสนิทอีกคน
"เดี๋ยวก็คงมามั่ง นั่นไงเดินมานู้นแล้ว"หลินหลินพยักพเยิดไปทางด้านหลังของหนูนาว่าลูกแก้วเดินมาแล้ว
"เดินยิ้มมาแต่เช้าอารมณ์ดีอะไรจ๊ะยัยลูกแก้ว?"หนูนาเอ่ยถาม
"ฉันก็ยิ้มปกตินะไม่มีมีอะไรเลย"ลูกแก้วเอ่ยตอบพร้อมกับหย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆกับหนูนา
"วันนี้เพื่อนฉันแต่ละคนมากันคนละอารมณ์จริงๆคนหนึ่งก็หน้าบูดอารมณ์เสียมาแต่เช้าอีกคนก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดีมาเลย"หลินหลินเอ่ยบอกและมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนสลับไปมา
"หนูนาอารมณ์เสียใครมาอีกล่ะอย่าบอกนะว่าโอม...นี่ตีกันตั้งแต่วันเปิดเทอมเลยเหรอ?"ลูกแก้วถาม
"ถูกต้องโป๊ะเชะเลยเธอเดาได้ถูกต้องเลยลูกแก้ว"หลินหลินเอ่ยบอกพร้อมกับดีดนิ้วดังเป๊าะ
"ทะเลาะกันทุกวันไม่เบื่อหรือไงฮะหนูนา?"ลูกแก้วเอ่ยถาม
"เบื่อมากแต่ช่างเถอะขึ้นไปเรียนกันดีกว่าใกล้ได้เวลาแล้ว"หนูนาเปลี่ยนเรื่องก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะไม้ ลูกแก้วกับหลินหลินที่เห็นเพื่อนลุกก็ลุกตามเช่นกันจากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปขึ้นเรียนกันตามปกติ
ภายในรถ
"โอ๊ยทำไมถนนเส้นนี้มันถึงได้รถติดแบบนี้นะ"หนูนาบ่นออกมาพร้อมกับกลอกตาไปมาด้วยความหงุดหงิดในขณะที่นั่งอยู่ภายในรถมานานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่ขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้า
วันนี้ตอนเย็นหลังจากที่หนูนาเธอเลิกเรียนเสร็จเธอก็ขับรถมุ่งตรงมาที่ห้างสรรพสินค้าทันทีเพื่อมารับกระเป๋าที่พรีออเดอร์ไปพอรับกระเป๋าเสร็จเธอก็รีบขับรถออกจากห้างทันทีเพราะว่าไม่อยากรถติดแต่สุดท้ายก็ติดติดเหมือนเดิม
"ปวดตูดชะมัด...เฮ้อ"หนูนาถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งที่ต้องมานั่งรอรถติดไฟแดงแบบนี้
"หรือเราจะไปทางลัดดีนะคงจะถึงคอนโดเร็วกว่า"หนูนากำลังใช้ความคิดกับตัวเองเมื่อเห็นว่าซอยข้างหน้าเป็นทางลัดที่ไม่ต้องทนรอรถติดแล้วก็ถึงคอนโดเธอเร็วกว่ามานั่งรอรถติดอยู่แบบนี้แต่ทางลัดที่ว่ามันเป็นเส้นทางที่เปลี่ยวและน่ากลัวมากตอนกลางวันพอขับผ่านได้อยู่หรอกนะแต่ตกกลางนี่สิถนนเส้นนั้นไม่มีไฟสักดวงทั้งมืดทั้งน่าวังเวงแต่ถ้าไม่ไปเส้นนั้นวันนี้เธอคงไม่ถึงคอนโดแน่
"เอาวะไปก็ไปก็แค่รีบๆขับให้เร็วที่สุด"หนูนาคิดได้แบบนั้นเธอก็เลี้ยวรถเข้าไปในซอยทันทีมือบางเอื้อมไปกดเครื่องเล่นเพลงเพื่อทำให้บรรยากาศภายในรถมันไม่เงียบเหงาจนเกินไป
ปากบางฮัมเพลงไปมาอย่างสนุกสนานทำเหมือนไม่มีอะไรแต่ภายในใจเธอกับเริ่มหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อยเพราะถนนเส้นนี้มีเพียงแค่รถเธอคันเดียวที่ขับอยู่ คิดถูกหรือคิดผิดก็ไม่รู้ที่เธอขับมาเส้นนี้
หนูนากลืนน้ำลายลงคอและไล่สายตามมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างข้างทางตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมีเพียงแค่แสงไฟจากหน้ารถเธอเท่านั้นที่ยังพอเป็นแสงสว่างได้
หนูนาละสายตากลับมามองที่ถนนข้างหน้าเช่นเดิมก่อนที่ตากลมโตจะเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ
กรี๊ดดดดดด!!!
เอี๊ยดดดดดด!!!
หนูนาเบรกรถอย่างกะทันหันเมื่อจู่ๆก็มีคนสองคนพุ่งตัวออกมาจากป่าข้างทางแล้วกระโดดมาขวางหน้ารถเธอเอาไว้เป็นผู้ชายหนึ่งส่วนอีกคนก็เป็นผู้หญิงและตะโกนพูดภาษาอะไรออกมาสักอย่างที่เธอฟังไม่รู้เรื่องเลยถ้าเดาไม่ผิดคือภาษาจีนใช่ไหม
"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!"(ภาษาจีนกวางตุ้ง)
"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!"(ภาษาจีนกวางตุ้ง)
หนูนาสะดุ้งตัวขึ้นด้วยความตกใจมือบางรีบกดปุ่มล็อกรถทันทีเมื่อจู่ๆทั้งสองคนก็ทุบมือลงบนฝากระโปรงหน้ารถของเธออย่างแรง
"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!"(ภาษาจีนกวางตุ้ง)
"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!"(ภาษาจีนกวางตุ้ง)
"กรี๊ดดด!...นะ...นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ยมาทุบรถฉันทำไมกัน"หนูนากรีดร้องออกมาอย่างเสียงดังเมื่อจู่ๆผู้ชายคนนั้นก็เดินเข้ามาทุบที่กระจกรถฝั่งที่เธอนั่งส่วนผู้หญิงยืนทุบอยู่ที่ฝากระโปรงหน้ารถเธอ
ปึก ปึก ปึก
"โรคจิตหรือไงมาทุบรถคนอื่น"หนูนาตะโกนอยู่ภายในรถจะขับหนีก็ไม่ได้เพราะกลัวจะขับเหยียบทั้งสองคนนี้
"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!"(ภาษาจีนกวางตุ้ง)
"ช่วยด้วยช่วยผมเราด้วย(ภาษาอังกฤษ)"
"ชะ...ช่วยด้วยเหรอ?"หนูนาพึมพำเบาๆเพราะอยู่ๆผู้ชายคนนั้นก็พูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษมือหนายังคงทุบกระจกรถของเธอไปด้วยพร้อมกับสีหน้าที่ดูหวาดกลัวแต่ใครจะกล้าช่วยล่ะสถานที่น่ากลัวแบบนี้เป็นโจรมาหลอกเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้เธอก็กลัวเป็นนะ
"ช่วยด้วยช่วยพวกเราด้วยเปิดประตูรถให้เราขึ้นไป บอกให้เปิดประตูรถไงเล่า!(ภาษาอังกฤษ)"ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นด้วยความโมโหพร้อมกับทุบกระจกรถของหนูนาแรงขึ้นแรงขึ้นจนเธอเริ่มกลัวจนแทบจะหยุดหายใจ
ปึก ปึก ปึก
ทั้งสองคนทุบรถหนูนาแรงขึ้นเมื่อเห็นว่าหนูนาไม่ยอมเปิดประตูรถให้ก่อนที่ทั้งสองคนจะหยุดชะงักไปเมื่อเห็นแสงไฟจากรถอีกคันขับเข้ามาจอดที่ด้านหลังของทั้งสองคน
หนูนายกมือขึ้นมาบังแสงไฟจากรถตู้ที่ขับเข้ามาจอดที่ด้านหน้ารถของเธอพร้อมกับเปิดไฟสูงด้วยก่อนที่ประตูรถตู้จะถูกเปิดออกมาพร้อมกับชายฉกรรจ์สี่ห้าคนที่วิ่งลงมาจากรถ
ชายหญิงคู่นั้นเมื่อเห็นชายฉกรรจ์วิ่งลงมาจากรถก็เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจและพยายามที่จะวิ่งหนีแต่ก็ถูกชายฉกรรจ์จำตัวไว้ก่อน ทั้งสองคนพยายามดีดดิ้นเพื่อให้ชายฉกรรจ์ปล่อยพร้อมทั้งตะโกนร้องออกมาอย่างเสียงดัง
หนูนานั่งมองเหตุการณ์อยู่ภายในรถก่อนที่จะเห็นชายร่างสูงใหญ่ที่น่าเกรงขามเดินลงมาจากรถตู้ ตากลมโตของเธอเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นชายร่างสูงคนนั้นคือคนที่เธอเดินชนเขาที่หน้าห้องน้ำที่ร้านอาหารนี่
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่4ครั้งนี้จะปล่อยไปก่อนคาร์ลเดินลงมาจากรถและเดินก้าวขาไปยังคนสองคนที่เขาตามหาตัวมานานซึ่งตอนนี้กำลังถูกคนของเขาจับเอาไว้อยู่ คาร์ลจ้องมองคนทรยศทั้งสองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาก่อนที่จะเลื่อนสายตามองไปที่รถMini cooperสีเขียวที่จอดอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง"ไอ้อวี่หานมึงปล่อยกูสิวะ!(ภาษาจีนกวางตุ้ง)"เฟิงอี้ตะโกนบอกพร้อมกับพยายามดีดดิ้นเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการถูกจับตัวไว้"นะ...นายคะยะ...อย่าทำอะไรเจียอิ่งเลยนะคะ นายเจียอิ่งกลัวแล้ว ฮึก!(ภาษาจีนกวางตุ้ง)"เจียอิ่งร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน"..."คาร์ลละสายตาจากรถMini cooperสีเขียวเมื่อได้ยินเสียงของคนทรยศเอ่ยพูดแต่คาร์ลกลับไม่ได้สนใจในเสียงนั่นเลยก่อนจะหันหน้าไปหาเจก"เจก""ครับนาย"เจกพยักหน้าแล้วหันไปสั่งลูกน้องให้พาตัวเฟิงอี้กับเจียอิ่งขึ้นรถ"ไม่กูไม่ไปปล่อยกูบอกให้ปล่อย!"เฟิงอี้ตะโกนออกมาพร้อมกับขืนตัวไว้ไม่ยอมให้ลูกน้องของคาร์ลพาตัวเขาไปเด็ดขาด"กรี๊ดดดด!ปล่อยฉันนะฉันไม่ไปปล่อย!"เจียอิ่งเองก็พยายามดีดดิ้นตัวเพื่อให้พ้นจากการถูกจับ"กูบอกให้ปล่อยไงวะ!"ตุบ! ตุบ!"โอ๊ย/โอ๊ย"เฟิ
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่5เหมือนมีคนมองอยู่ตลอดเวลา"นายจะปล่อยเธอไปจริงๆเหรอครับ?"เจกเอ่ยถามกับเจ้านายอีกครั้งเมื่อหญิงสาวขับรถไปแล้ว"สืบประวัติเธอมาให้กูแล้วให้คนของเราคอยจับตาดูเธอไว้ทุกฝีก้าวแล้วรายงานกู"คาร์ลเอ่ยบอก"ได้ครับนาย"เจกพยักหน้ารับถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลของเจ้านายเท่าไรที่ให้ตามดูหญิงสาวคนนั้นแต่เขารู้ว่าเจ้านายของเขาคงต้องมีเหตุผลอะไรแน่"อืม...แล้วศพของเฟิงอี้ให้คนของเราจัดการให้เรียบร้อย"คาร์ลเอ่ยบอกพร้อมกับจ้องมองร่างไร่วิญญานของลูกพี่ลูกน้องของตัวเองนิ่ง"ได้ครับนายแล้วเออ...นายครับแล้วเจียอิ่งจะทำอย่างไงกับเธอดีครับ?"เจกเอ่ยถาม"ส่งเธอกลับไปหาลี่มี่ให้เธอกลับไปอยู่ในที่ของเธอ"คาร์ลเอ่ยสั่งเสียงเรียบก่อนจะเดินหมุนตัวขึ้นรถไป"ได้ครับนาย"เจกพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ลี่มี่คือแม่เล้าที่ดูแลซ่องโสเภณีที่คาร์ลเจ้านายของเขาคอยดูแลและคุ้มครองอยู่ เจกไม่อยากจะนึกว่าถ้าเจียอิ่งกลับไปอยู่ในซ่องนั้นจะเป็นอย่างไงเธอคงต้องกลับไปตกขุมนรกแบบเก่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่เจ้านายของเขาคอยเลี้ยงดูปูเสื่อเธออย่างดีไม่ต้องทำงานหนัก คอยรับใช้แค่เจ้านายของเขาคนเดียวแต่เธอดันคิดทรยศกั
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่6เรื่องผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยฮ่องกงคฤหาสน์ตระกูลเหยาตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าหนักทั้งสองข้างของมาเฟียหนุ่มที่ก้าวเท้าเดินเข้ามาภายในคฤหาสน์ของตระกูลหลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จคาร์ลก็บินกลับมาที่ฮ่องกงทันทีภายในเมื่อคืนทันที เท้าหนาก้าวเดินมุ่งตรงไปยังห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ที่ตอนนี้กำลังมีคนนั่งรออยู่"คาร์ลกลับมาแล้วเหรอลูก?"วีด้าฉีกยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นลูกชายกลับมาแล้ว"ครับ"คาร์ลเอ่ยตอบพร้อมกับเดินไปหย่อนสะโพกนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผู้เป็นแม่อย่างวีด้าและไมเคิลผู้เป็นพ่อ"แกกลับมาคนเดียว?"ไมเคิลเอ่ยถามกับลูกชายพร้อมกับยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม"แล้วป๊าหวังจะให้ใครกลับมากับผมล่ะเฟิงอี้หลานชายสุดที่รักของป๊างั้นเหรอ?"คาร์ลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบและจ้องมองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาเย็นชาอย่างไม่กะพริบตา"เฟิงอี้อยู่ไหน?"ไมเคิลเอ่ยถามถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฟิงอี้หลานชายของเขา"ตายแล้ว"คาร์ลตอบออกมาด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาผิดกับวีด้าที่มีท่าทีตกใจเล็กน้อย"แกฆ่าเฟิงอี้?"ไมเคิลถามย้ำอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่วูบไหวเ
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่7เลิกคิดสักทีคฤหาสน์ตระกูลซือ"ไอ้คาร์ลมันบินกลับมาแล้วเหรอ?"จางเหว่ยเอ่ยถามกับลูกน้องคนสนิทอย่างเจาเมื่อเจาได้มารายงานว่าคาร์ลบินกลับมาจากประเทศไทยแล้วจางเหว่ยหรือซือ จางเหว่ยเป็นผู้นำมาเฟียแห่งตระกูลซือ ตระกูลซือของเขากับตระกูลเหยาเราทั้งสองตระกูลไม่ค่อยจะลงรอยกันหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นศัตรูกัน ตระกูลซือและตระกูลเหยาทั้งสองตระกูลเป็นศัตรูกันมานานตั้งแต่สมัยรุ่นทวดจนมาถึงรุ่นเหลนอย่างพวกเขา ถ้ามีตระกูลซือที่ไหนที่นั่นต้องไม่มีตระกูลเหยา"ครับนาย"เจาพยักหน้าจางเหว่ยสั่งให้คนของเขาค่อยติดตามดูความเคลื่อนไหวของคาร์ลตลอดเวลาเพื่อจะได้มีโอกาสที่จะกำจัดคาร์ลทิ้งไปถ้าคาร์ลตายไปก็จะไม่มีผู้นำตระกูลเหยาและตระกูลซือของเขาก็จะขึ้นมาเป็นใหญ่แทนตระกูลเหยา"มันบินไปไทยทำไม?"จางเหว่ยถาม"คนของเรารายงานมาว่าคุณคาร์ลบินไปไทยเพื่อไปดูบริษัทที่ตั้งอยู่ที่ประเทศไทยครับ""งั้นเหรอ?""ครับนาย...แต่มีอีกเรื่องคนของเรารายงานมาว่าที่คุณคาร์ลบินไปประเทศไทยไม่ใช่แค่ไปดูบริษัทอย่างเดียวแต่ตามล่าคนทรยศด้วยครับ"เจาเอ่ยรายงานในเรื่องที่ได้รู้มา"คนทรยศใครกันที่กล้าทรยศมัน?"จางเหว่ยเอ่
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่8พบเจอกับคนที่ไม่อยากเจอฮ่องกงPenthousesของคาร์ล"วันนี้นายจะเข้าไปที่บริษัทหรือเปล่าครับ?"เจกเอ่ยถามกับเจ้านายในขณะเจ้านายกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ภายในห้องอาหาร"ไม่"คาร์ลตอบ"แล้วนายจะเข้าไปที่โกงดังไหมครับ?""ดึกๆค่อยไป"คาร์ลตอบ"ครับนาย...เออนายครับเรื่องเซ็นสัญญาที่ท่าเรือประเทศไทยทางฝั่งนู้นคุณสิบทิศตกลงแล้วนะครับที่จะเซ็นสัญญากับเราแล้วนะครับนาย"เจกบอก"อืมดี...เดี๋ยวมึงก็จองตั๋วเครื่องบินด้วยอาทิตย์หน้ากูจะบินไปประเทศไทย"คาร์ลบอก"ได้ครับนาย"เจกพยักหน้ารับโกงดังสินค้า"สวัสดีครับนายคุณลี่หยางกับคุณไฉรออยู่ที่ด้านบนห้องรับรองหนึ่งครับ"ลูกน้องที่ยืนเฝ้าประตูหน้าโกงดังเอ่ยบอกพร้อมกับค้อมศีรษะเล็กน้อยให้กับคาร์ล"อือ"คาร์ลรับคำในลำคอก่อนจะเดินผ่านหน้าลูกน้องไปโดยมีเจกค่อยเดินตามหลังมาติดๆ"ไม่ต้องเข้าไปรออยู่ข้างนอก"คาร์ลเอ่ยบอกเจกเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องรับรอง"ครับนาย"เจกพยักหน้าก่อนที่คาร์จะเปิดประตูเข้าไปในห้องรับรองแกร๊ก"มาช้า"ลี่หยางหรือ(ถัง ลี่หยาง)พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าคาร์ลเดินเข้ามาในห้อง"..."คาร์ลไม่ตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆกับ
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่9 เจอกันอีกแล้ว"กำลังจะลงไปแล้ว...รู้แล้วฉันก็รีบอยู่นี้ไงแค่นี้ก่อนนะหลินหลินจะลงไปแล้ว"หนูนากดวางสายจากหลินหลินทันทีเมื่อคุยจบเพราะว่าหลินหลินโทรมาหาเธอมากกว่าสามสายแล้วเพื่อบอกว่าจอดรถรออยู่ที่หน้าคอนโดของเธอนานมากแล้วให้เธอรีบลงไปเร็วๆสักทีวันนี้เธอกับหลินหลินมีนัดกันออกไปสังสรรค์ตามประสาสาวโสดกันโดยมีเพื่อนต่างคณะอีกสองคนไปร่วมแจมด้วยส่วนลูกแก้วตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับคู่หมั้นอย่างเจ้าสมุทรที่บ้านก็ไม่ค่อยออกไปไหนเลย"ลืมอะไรอีกหรือเปล่านะ อ๊ะ...ลืมฉีดน้ำหอม"หนูนายืนเช็กความเรียบร้อยอยู่ที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งและนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมฉีดน้ำหอมก่อนจะยกขวดน้ำหอมราคาแพงฉีดเข้าไปที่ตามจุดชีพจรต่างๆจากนั้นจึงเดินไปปิดแอร์ปิดไฟให้เรียบร้อยและเดินออกจากห้องไป"กว่าจะมานะยัยหนูท่อฉันนั่งรอจนก้นฉันจะบานอยู่แล้ว"เสียงหวานของหลินหลินเอ่ยบ่นกับเพื่อนสนิทอย่างหนูนาทันทีเมื่อหนูนาเปิดประตูรถเข้ามานั่ง"ช้านิดช้าหน่อยทำบ่นไปได้"หนูนาพูดพร้อมกับจับสายเบลท์มาคาดไปด้วย"ก็เธอช้าอะ""ก็ถ้าเธอยังนั่งบ่นอยู่แบบนี้มันก็ยิ่งช้าไปอีกนะหลินหลินออกรถไปได้แล้ว""รู้แล้วน่า"หลินห
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้าย ตอนที่10ผู้ชายคนเดิม"ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" หนูนาพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเธอรู้สักมึนๆหัวแล้วรู้สึกอยากจะอ้วกมากเลยตอนนี้ หลังจากที่นั่งดื่มเข้าไปหลายแก้ว เธอก็อยากจะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาสักหน่อยเพื่อจะรู้สึกสดชื่นขึ้นมา"ฉันไปเป็นเพื่อนไหม?"ข้าวตูถามขึ้น"ไม่ต้องหรอกฉันไปคนเดียวได้ห้องน้ำอยู่แค่นี้เองเธอดูยัยหลินหลินกับบะหมี่เถอะสภาพไม่ไหวไม่น่าไหวนะ"หนูนาเอ่ยบอกพร้อมกับมองไปที่ร่างบางของเพื่อนทั้งสองคนที่ออกไปเต้นกันอย่างสนุกสนาน"โอเครีบไปรีบมาแล้วกัน"ข้าวตูบอกก่อนที่หนูนาจะพยักหน้าอย่างเข้าใจพร้อมกับคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาและหมุนตัวเดินไปที่ห้องน้ำ"ทำไมคนเยอะขนาดนี่นะเนี่ย"หนูนาบ่นอุบเมื่อเดินมาหน้าห้องน้ำแล้วเห็นมีแต่คนต่อแถวเข้าห้องน้ำกันเยอะมาก"ปวดฉี่กันมาจากไหนเนี่ยอ้วกจะแตกอยู่แล้ว"หนูนารู้สึกหงุดหงิดมาก จะขึ้นไปเข้าห้องน้ำที่ด้านบนก็ไม่ไหวเพราะตอนนี้เธอรู้สึกพะอืดพะอมจนอยากจะอ้วกเต็มที่แล้วและสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นประตูทางออกด้านหลังของคลับก่อนที่จะตัดสินใจเดินตรงไปที่ประตูทางออกเพราะเธอจะกลั้นไม่อยู่แล้ว"อ้วกกก"หนูนาโก่งคออาเจียนออกม
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่11ทางเลือกคอนโดของคาร์ลตุ้บ!"โอ๊ย"หนูนาร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อเธอถูกโยนลงมาที่โซฟาอย่างแรง"เปิดตาเธอแล้วก็ออกไปได้แล้ว"คาร์ลเอ่ยสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่"ครับนาย"ลูกน้องพยักหน้าและทำตามที่เจ้านายสั่งก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกจากห้องไป"..."เมื่อถูกเปิดตาออกหนูนาก็รีบมองไปรอบๆด้วยความตื่นตระหนกเธอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดหวั่นเนื้อตัวเธอสั่นเทาไปด้วยความกลัวตอนนี้ในที่ที่เธออยู่คือห้องคอนโดหรูแห่งหนึ่งที่ไหนสักทีในห้องทุกตกแต่งไปด้วยสไตล์ยุโรปเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นเป็นสีทองและสีขาวที่ทำให้ดูหรูหราคงไม่ต้องบอกว่าเจ้าของห้องมีรสนิยมที่ดีมากแค่ไหนและห้องนี่คือห้องของผู้ชายที่ชื่อคาร์ลงั้นเหรอ?แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่เธอจะต้องมาสนใจ สิ่งที่หนูนาควรจะสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือเขาพาเธอมาที่นี่ทำไมกัน"ที่นี่คอนโดฉัน"คาร์ลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเมื่อเห็นสายตาของหนูนาที่มองไปรอบๆห้องด้วยความสงสัย"ละ...แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?"หนูนาถามออกไปด้วยความกลัว กลัวจนถึงที่สุด"กลัวเหรอ?"คาร์ลถามพร้อมกับเดินไปหยิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์พร้อมกับแก้วสอ
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่95แค่หนึ่งฤทัย (จบบริบูรณ์)ที.เอ็น.เอส.กรุ๊ป จำกัดก๊อก ก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตครับนาย"เสียงเคาะประตูห้องทำงานของคาร์ลดังขึ้นพร้อมกับเสียงของเจกลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้ามาภายในห้อง คาร์ลละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเจกลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา"มีอะไร?"คาร์ลถามขึ้น"มีคนมาหานายครับ"เจกเอ่ยบอกแล้วยิ้มออกมา"ใคร?"คาร์ลเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยก่อนที่ประตูห้องทำงานจะถูกเปิดเข้ามา"เซอร์ไพรส์"วีด้าเปิดประตูห้องทำงานของลูกชายเข้ามาพร้อมกับพูดขึ้น สายตาคมของคาร์ลเหลือบไปมองที่ด้านหลังของผู้เป็นแม่ก็เห็นก็เห็นว่าผู้เป็นแม่ไม่ได้มาคนเดียวแต่พาไมเคิลผู้เป็นพ่อมาด้วยเจกที่เห็นนายหญิงใหญ่กับนายใหญ่เดินเข้ามาในห้องก็รีบค้อมศีรษะทันทีเพื่อทำความเคารพก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป"ม๊า ป๊ามาทำอะไรกันที่นี่"คาร์ลถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ได้ตกใจที่เห็นพวกท่านมา"ก็มาเยี่ยมลูกไงจ๊ะ ม๊าพาป๊ามาด้วยนะ"วีด้าเอ่ยบอกและพาไมเคิลผู้เป็นสามีไปนั่งลงที่โซฟากลางห้องทำงาน"อย่างงั้นเหรอครับ?"คาร์ลถามขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วไปนั่
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่94กระชับรักNC+++คอนโดของคาร์ล"ไหนบอกว่าจะไม่ดื่มเยอะไงหนูนา?"คาร์ลพูดขึ้นเมื่อวางหนูนาลงบนเตียงนอนก่อนที่ลุกขึ้นแล้วเดินไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้หนูนา"อื้อ...เฮียคาร์ลเหรอ?"หนูนาลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาโดนตัวเธอ"ฟื้นตัวแล้วหรือไง ไหนบอกกับเฮียว่าจะไม่ดื่มเยอะไง?""เฮียคาร์ลของนา"หนูนาลุกขึ้นมานั่งและจ้องมองคาร์ลด้วยสายตาหยาดเยิ้มอย่างไม่วางตา"มองเฮียแบบนั้นทำไม?""อึก...ก็เฮียคาร์ลของนาหล่อ นาก็อยากมองไงคะ"หนูนาตอบพร้อมกับยิ้มหวานออกมา"ปากหวานจังเลยนะตอนเมาเนี่ย"คาร์ลยิ้มออกมาเล็กน้อยให้หนูนา"จุ๊ๆ ไม่ใช่แค่ปากหวานนะคะ ปากนาก็เก่งด้วย"หนูนายกนิ้วขึ้นมาจรดที่ริมฝีปากของตัวเองและส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะลุกออกจากเตียงแล้วมายืนมองคาร์ล"ลุกขึ้นยืนทำไมหนูนาเดี๋ยวก็ล้มจนได้"คาร์ลรีบลุกขึ้นจากเตียงและมาจับตัวหนูนาที่ยืนเซไปเซมา"เฮียคาร์ลขา"หนูนายกแขนขึ้นมาคล้องคอของคาร์ลเอาไว้ก่อนที่จะโน้มใบหน้าไปจูบที่ริมฝีปากหนา"หึ จะเอาอะไร?"คาร์ลยกยิ้มขึ้นที่มุมปากพร้อมกับมือหนาที่นวดเฟ้นอยู่ที่บั้นท้ายกลมกลึงของเธอ นี่เธอกำลังยั่วเขาชัดๆ"อืม..."หนูนา
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่93โงหัวไม่ขึ้นร้านอาหารจีนครืดดดดเสียงประตูห้องอาหารถูกเลื่อนเปิดออกทำให้บุคคลทั้งสองคนที่นั่งรอกันอยู่ภายในห้องอาหารหันไปมองที่ประตูเป็นสายตาเดียวกัน"สาย"ไฉพูดขึ้นเมื่อเห็นคาร์ลเปิดประตูห้องอาหารเข้ามาก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นสาวน้อยหน้าตาเหมือนตุ๊กตายืนอยู่ที่ด้านหลังของคาร์ล"ก็มาแล้วอย่าบ่นให้มาก"คาร์ลเอ่ยบอกแล้วเดินจูงมือหนูนาเข้ามาในห้องอาหารก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งลงวันนี้ไฉเพื่อนสนิทอีกคนของคาร์ลบินมาที่ประเทศไทยก็เลยนัดชวนให้ลี่หยางกับคาร์ลมาทานข้าวด้วยกันและก็บอกให้คาร์ลพาหนูนามาด้วยเพราะอยากจะทำความรู้จัก"ขอบคุณค่ะเฮียคาร์ล"เสียงหวานเอ่ยบอกแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ก่อนที่หนูนาจะหันไปทักทายกับลี่หยาง ลี่หยางยิ้มรับและทักทายหนูนากลับเช่นกัน"นี่เหรอเมียไอ้คาร์ล?"ไฉหันไปถามกับลี่หยางที่นั่งเยื้องอยู่ข้างๆ"อืม"ลี่หยางพยักหน้า"สวัสดีครับผมไฉนะครับเป็นเพื่อนกับคาร์ลกับลี่หยางมัน"ไฉเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับยื่นมือออกไปเพื่อจะจับมือกับหนูนาแต่คาร์ลเป็นคนยื่นมือมาจับกับเขาแทน"อะไรของมึงเนี่ยไอ้คาร์ล?"ไฉมองหน้าคาร์ลอย่างไม่เข้าใจ"ทักทายแต่ปากพอมือไม
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่92เรียกเฮียสิคะที.เอ็น.เอส.กรุ๊ป จำกัดก๊อก ก๊อก ก๊อก"เข้ามา"เสียงทุ้มของคาร์ลเอ่ยอนุญาตให้คนที่เคาะประตูห้องทำงานเข้ามาได้แกร๊กเสียงประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้ามาโดยที่คาร์ลไม่ได้สนใจว่าใครเป็นคนเปิดเพราะเขามัวแต่สนใจเอกสารที่ตรวจอยู่ตรงหน้า"นี่เที่ยงแล้วนะคะยังไม่หยุดทำงานอีกเหรอ?"เสียงหวานใสเอ่ยถามขึ้นจึงทำให้คาร์ลเงยหน้าจากกองเอกสารตรงหน้าขึ้นมามองตามเสียง ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นแฟนสาวตัวเล็กของตัวเขายืนอยู่"มาได้อย่างไงเนี่ย?""ขับรถมาค่ะแล้วก็เอาเสบียงกลางวันมาฝาก"หนูนาเอ่ยบอกพร้อมกับยกถุงผ้าสีฟ้าที่ใส่กล่องอาหารที่เธอทำมาให้คาร์ลทานขึ้นมาโชว์ให้คาร์ลดู"ทำไมจะมาไม่บอกจะได้ให้เจกไปรับ""ไม่เป็นไรค่ะฉันขับรถมาเองได้"หนูนาตอบ"ไม่อยากให้ขับรถเองมันอันตราย"คาร์ลปิดแฟ้มเอกสารลงก่อนที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานและเดินตรงไปหาหนูนาแข็งแกร่งโอบเอวเล็กมากอดไว้ ใบหน้าคมโน้มลงไปหอมที่แก้มใสของเธออย่างที่ชอบทำเป็นประจำ"หอมจังทำไมตัวเมียฉันถึงหอมแบบนี้นะ""หอมทุกวันไม่เบื่อเหรอคะ?"หนูนาถามออกไปพร้อมกับยิ้มออกมาตั้งแต่ที่เราเปิดใจคบกันมาเป็นแฟนคาร์ลก็หอมแก้มเธอ
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่91สัญญา"เป็นไงสำเร็จไหม?"จางเหว่ยเดินออกมาจากห้องแล้วเดินมานั่งลงที่โซฟาพร้อมกับเอ่ยถามกับเจาถึงงานที่ให้เจาไปทำ"เออ...คือว่า"เจาก้มหน้าลงพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอย่างไงดี"มึงก้มหน้าทำไมไอ้เจามีอะไรก็พูดมา!""คะ...คือว่าคนที่เราส่งให้ไปจัดการคุณคาร์ลพวกมันตายหมดแล้วครับนาย""ตายหมดแล้วมึงอย่าบอกกูนะว่าไอ้คาร์ลมันยังไม่ตาย!?""ครับนายคุณคาร์ลยังไม่ตายแต่คุณหนูนาเธอโดนยิงแต่ว่าอาการตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ"เจาเอ่ยรายงานถึงเรื่องที่เกิด"ใครจะเป็นอย่างไงก็ช่างหัวมันคนที่กูสนคือไอ้คาร์ลว่าทำไมมันยังไม่ตายฮะ!"จางเหว่ยลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงไปหาเจา"..."เจาได้แต่ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด"มึงทำงานพลาดไอ้เจา!"จางเหว่ยตะโกนออกมาเสียงดังอย่างเดือดดาลเมื่อรู้ว่าคาร์ลยังไม่ตายทำไมคาร์ลมันถึงได้หนังเหนียวตายยากตายเย็นขนาดนี้ก็ไม่รู้"นายผมขอโทษครับ นายให้โอกาสผมอีกสักครั้งนะครับ"เจารีบนั่งลงคุกเข่าตรงหน้าผู้เป็นเจ้านายอย่างรู้สึกผิด"มึงโง่หรือไง คิดว่าไอ้คาร์ลมันจะยอมให้มึงมีโอกาสไปฆ่ามันอีกหรือไง โง่!"จางเหว่ยเดินมานั่งลงที่โซฟาด้วยอารมณ์โกรธเกรี
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่90ผู้หญิงคนนี้คนเดียวเท่านั้นโรงพยาบาลห้องผ่าตัดร่างสูงของคาร์ลได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดด้วยสีหน้าที่มีแต่ความกังวล คาร์ลได้แต่ยืนชะเง้อเข้าไปในห้องผ่าตัดในใจตอนนี้มีแต่ความกลัวปกคลุมไปทั่วในชีวิตคาร์ลไม่เคยคิดจะกลัวอะไรเลยแต่พอเป็นหนูนาทำให้คาร์ลรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขากลัว กลัวว่าจะสูญเสียหนูนาไปซึ่งเขายอมไม่ได้ถ้าเป็นแบบนั้น"ไอ้คาร์ล!"เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้คาร์ลหันไปมองตามเสียงก่อนที่จะเห็นลี่หยางกับเฟย์เฟย์เดินเข้ามา"ลี่หยาง เฟย์เฟย์มาได้อย่างไง?"คาร์ลถามขึ้นและพาตัวเองเดินไปนั่งลงเก้าอี้"ก็เจกโทรไปบอกกูก็เลยนั่งเครื่องบินส่วนตัวมากับเฟย์เฟย์ นูน่าเป็นอย่างไงบ้าง?"ลี่หยางเอ่ยถามถึงหนูนาด้วยความเป็นห่วง"ยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัดเลย"คาร์ลเอ่ยบอกพร้อมกับถอนหายใจออกมา"เข้าไปนานหรือยัง?""ชั่วโมงหนึ่งเห็นจะได้"คาร์ลตอบ"แล้วเฮียคาร์ลเป็นอย่างไงบ้างคะเจ็บตรงไหนหรือเปล่าเสื้อเฮียคาร์ลเปื้อนเลือดเต็มไปหมดเลย?"เฟย์เฟย์เดินมานั่งลงข้างๆกับคาร์ลแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงตอนที่รู้ข่าวว่าคาร์ลโดนลอบทำร้ายใจเธอก็อยู่ไม่สุขเลยเ
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่89หัวใจเหมือนแตกสลายหลังจากที่คาร์ลกับหนูนาปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว คาร์ลก็ขับเรือพาหนูนามาที่เกาะส่วนตัวอีกเกาะหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากเกาะแรกมากเท่าไหร่หนูนาตาลุกวาวโดยความตื่นเต้นเมื่อมาถึงเกาะ บ้านพักสวยๆที่ตั้งอยู่บนหาดทรายสีขาวกับน้ำทะเลสีฟ้าใสแถมด้านหลังเกาะยังมีป่าสีเขียวชอุ่มที่ดูอุดมสมบูรณ์มันทำให้หนูนารู้สึกหลงรักเกาะนี่ขึ้นมาทันทีเลย"สวยไหม?"คาร์ลถามขึ้นและเดินมากอดที่ด้านหลังของหนูนาเอาไว้"สวยค่ะ สวยมากเลย"หนูนาหันไปยิ้มให้คาร์ลและหันกลับมามองเกาะอีกครั้ง"ลงไปข้างล่างกัน"คาร์ลปล่อยกอดออกจากหนูนาแล้วเดินลงไปจากเรือก่อน คาร์ลหันกลับมาพร้อมกับยื่นมือไปให้หนูนาจับ"ขอบคุณค่ะ"หนูนาเอื้อมมือไปจับมือของคาร์ลไว้แน่นก่อนที่คาร์ลจะดึงมือเธอไปอย่างไม่แรงมากหนักแต่มันก็แรงพอที่จะทำให้ตัวหนูนาล้มไปบนตัวของคาร์ลได้"ว๊าย! คุณคาร์ลเล่นอะไรของคุณเนี่ยฉันตกใจหมดถ้าเกิดฉันตกน้ำไปจะทำอย่างไง"หนูนาใช้มือตีไปที่หน้าอกของคาร์ลอย่างไม่แรงมากหนัก เขาทำเธอใจหายใจคว่ำหมด"ฉันไม่ปล่อยให้เมียตัวเองตกน้ำง่ายๆหรอกนะ"คาร์ลเอ่ยบอกพร้อมกับแขนแกร่งที่โอบเอวเล็กเอาไว้ก
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่88ไม่มีทางปล่อยไปไหนอีกเช้าวันต่อมาแสดงแดดในยามเช้าพร้อมกับคลื่นทะเลสีฟ้าครามทำให้หนูนาเธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก หนูนายืนมองวิวทะเลอยู่ตรงหน้าต่างห้องนอนของตัวเอง บรรยากาศแบบนี้น่าใส่บิกินี่ถ่ายรูปชะมัดเลยแกร๊กเสียงปลดล็อกลูกบิดประตูห้องดังขึ้นทำให้หนูนารีบหันไปมองที่ประตูทันทีก็เห็นว่าคาร์ลเดินเข้ามาในห้อง"ตื่นแล้วเหรอ?""โทรศัพท์มือถือฉันอยู่ไหนฉันขอคืน"หนูนายื่นมือแบไปตรงหน้าของคาร์ลเพื่อจะขอโทรศัพท์มือถือของเธอคืน"ฉันว่าเธอไม่จำเป็นต้องใช้นะ""แต่ฉันต้องบอกเพื่อนวันนี้ฉันขาดเรียนเพื่อนต้องโทรหาฉันหยิกๆแน่""ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงฉันจัดการให้เรียบร้อยแล้วรวมถึงเรื่องการเรียนด้วย""หมายความว่าอย่างไง?"หนูนาขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความงุนงงในคำพูดของคาร์ล"ก็อย่างที่บอกนั่นแหละไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นฉันไม่ปล่อยให้เมียตัวเองขาดเรียนแล้วเรียนไม่จบหรอกนะ""หยุดพูดแบบนี้สักทีได้ไหมมันน่ารำคาญ!"หนูนามองคาร์ลอย่างไม่พอใจที่เขาเอาแต่พูดคำว่าเมียออกมาอยู่นั่นแหละ"ไปกินข้าวกันสายแล้วเธอคงหิว พอกินข้าวเสร็จเดี๋ยวฉันจะพาไปเที่ยว""ไม่ไป ฉันอยากจะกลับบ
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้ายตอนที่87ชินอ้ายเตอ(ที่รัก)หลังจากที่หนูนาทานอาหารเสร็จคาร์ลก็มายกถาดอาหารแล้วเดินออกไปจากห้องทันทีพร้อมกับล็อกประตูห้องที่ด้านนอกด้วย"จะขังลืมกันหรือไงแค่นี้ต้องล็อกห้องด้วย"หนูนาบ่นพึมพำแล้วเดินไปนั่งลงที่เตียงนอนอย่างเบื่อหน่าย กระเป๋าเธอกับโทรศัพท์ก็หายไปไหนไม่รู้แต่จะหายไปไหนได้มันก็อยู่กับคาร์ลนั่นแหละแกร๊กเสียงปลดล็อกลูกบิดประตูห้องดังขึ้นทำให้หนูนารีบหันไปมองที่ประตูทันทีก็เห็นว่าคาร์ลเดินเข้ามาพร้อมกับถุงกระดาษถุงหนึ่ง"ไปอาบน้ำสิ...นี่เสื้อผ้า"คาร์ลเดินเข้ามาในห้องแล้ววางถุงกระดาษลงบนที่นอน"..."หนูนาไม่สนใจเธอเอาแต่นั่งถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย"เป็นอะไร?""ฉันอยากกลับบ้าน""ได้สิ""คุณพูดจริงเหรอ?"หนูนาเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจเธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่าคาร์ลจะยอมตอบตกลงกับเธอง่ายๆ"อือ"คาร์ลรับคำในลำคอ"ถ้างั้นก็พากลับเลยสิ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่""ไม่ได้""ก็ไหนคุณบอกจะพาฉันกลับไงแล้วมาบอกว่าไม่ได้มันหมายความว่าอย่างไง!""ก็ตอนนี้ยังไม่ได้"คาร์ลบอกอย่างใจเย็น"ทำไม!""ก็ยังง้อเมียไม่สำเร็จเพราะฉะนั้นเธอก็ยังกลับบ้านไม่ได้หนูนา""ฉันบอกคุณกี่รอ