โจวหว่านหรูจ้องมองไปที่ไป๋อี๋ซินซึ่งยามนี้กำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้าประตูวังหลวง ข้างกายนางมีเด็กชายผู้หนึ่งที่ดูแล้วสีหน้าไม่สู้ดีเท่าใดนัก โจวหว่านหรูพิจารณามองไป๋อี๋ซินอย่างละเอียด กลับพบว่ายามนี้ไป๋อี๋ซินไม่มีท่าทีหยิ่งผยอง หรือยั่วยวนหยางจิ่งเลยแม้แต่น้อยเมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็รู้สึกว่าทุกสิ่งมันค่อนข้างจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่เรื่องของหยางเฉิงในครั้งนั้น หยางจิ่งหันไปยิ้มให้ไป๋อี๋ซินคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“มารอพบข้ามีเรื่องใดหรือ เหตุใดไม่ส่งจดหมายผ่านหวังซุนมา”ไป๋อี๋ซินยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย“หม่อมฉันเพียงอยากมาลาพระองค์เพคะ และอยากขอบคุณที่พระองค์ทรงทำให้หม่อมฉันได้เห็นความจริงหลายอย่าง หม่อมฉันช่างโง่งมยิ่งนัก หลงรักคนผิด จนเกือบพาน้องชายที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวต้องตกตายไปด้วย”หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองนางคนทั้งสองมองกันและกันอยู่เนิ่นนาน หยางจิ่งจึงยิ้มออกมาเล็กน้อยชาติที่แล้วนางหักหลังเขา หลอกลวงเขา เขาไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับนางเลยแม้แต่น้อย แต่ในชาตินี้เขากลับได้มองเห็นความจริงอีกด้านหนึ่งของไป๋อี๋ซินชาติก่อนก็เป็นเพียงเรื่องของชาติก่อน ชาตินี้เขาและนาง
ยามนี้เข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อนแล้ว อากาศยังคงอบอ้าวมากขึ้นกว่าเดิม โจวหว่านหรูสั่งให้เย่หยวนนำน้ำแข็งมาวางเอาไว้ในห้องของนางเพิ่มอีกหน่อย นางไม่ค่อยชอบอากาศที่ร้อนเช่นนี้เลย แม้จะมีน้ำแข็งเพื่อช่วยคลายความร้อน แต่นางก็รู้สึกว่าอากาศภายในเรือนดูอบอ้าวอยู่ดี นางจึงเอื้อมมือไปหยิบพัดมาถือเอาไว้ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เย่หยวนที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเจ้านายตนทันที"คุณหนูจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ"โจวหว่านหรูโบกพัดในมือไปมา ก่อนจะเอ่ย"จะไปนั่งเล่นที่ศาลารับลมริมสระบัวเสียหน่อย"โจวหว่านหรูเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ศาลารับลมทันที ระหว่างทางนางพบเข้ากับเฉินป๋อเหวินที่เดินเข้ามาพอดี"หวานหว่าน""อ้าว เจ้ากลับมาจากค้าขายแล้วหรือ""อืม ขออภัยเจ้าด้วย เดิมทีกลับมาหลายวันแล้วแต่ในจวนมีเรื่องวุ่นวายเล็กน้อย ข้าจึงไม่ได้มาพบเจ้า"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"ข้าไม่โกรธเจ้าหรอก""นี่เจ้ากำลังจะไปที่ใด""ไปนั่งเล่นที่ศาลารับลม""ดีเลย วันนี้ข้านำแตงโมเนื้อหวานฉ่ำมาฝากเจ้าหลายลูกเลย นำมาฝากท่านลุงท่านป้าด้วย เช่นนั้นข้าเข้าไปทำความเคารพท่านลุงท่านป้าเสียหน่อยจะดีกว่า""ไม่ต้องหรอก
เขาจ้องมองดอกมู่ตานในมือที่ยามนี้แห้งลงไปแล้วคราหนึ่ง เขาไม่เข้าใจตนเองเช่นกันว่า เหตุใดจึงเกิดความรู้สึกเช่นนี้กับโจวหว่านหรูนับตั้งแต่ถูกเจียงหย่งหลางทารุณ ความรู้สึกในจิตใจของเขาทั้งหมดก็ด้านชา เขาไม่เคยเชื่อในความรักใด ๆ บนโลกใบนี้อีกต่อไป แม้กระทั่งพี่น้องร่วมสายเลือดยังเข่นฆ่าสังหารกันได้ แล้วความรักเฉกเช่นชายหญิงเล่าจะยั่งยืนจริงหรือในใจของเขามีเพียงการได้บัลลังก์มาอยู่ในมือของตน ผู้คนจะต้องยอมศิโรราบก้มหัวให้เขา ราษฎรแคว้นเยี่ยนอยู่อย่างสงบสุขไม่ต้องหวาดกลัวไฟสงครามอีก ใจของเขาด้านชาเสียจนไม่คิดว่าจะมีใครมาทำให้เขาเกิดความรู้สึกได้อีกแต่นางทำได้เจียงหมิงเจ๋อส่งเสียงหัวเราะในลำคอคราหนึ่ง เมื่อคิดถึงท่าทีที่รังเกียจของโจวหว่านหรู อีกทั้งแววตาที่มองเขาด้วยความหวาดกลัว แต่เขากลับรู้สึกว่านางน่าสนใจ จากความน่าสนใจกลับกลายเป็นความรู้สึกที่ไม่ควรเกิด ในรถม้าวันนั้นเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดนาง มันทำให้จิตใจของเขาปั่นป่วน จนยากจะควบคุม เขาพบเจอหญิงงามมามากมาย แต่ทว่าสตรีที่งดงามและชวนค้นหาเช่นโจวหว่านหรูนั้นเขาไม่เคยพบมาก่อนแต่ทว่านางเป็นสตรีต่างแคว้น ซ้ำยังเป็นแคว้นที่หวังจะทำสงครามโจ
กองกำลังทหารของแคว้นเป่ยฉินใช้เวลาร่วมเดือนก็เดินทางมาถึงชายแดนแคว้นเยี่ยน เมื่อมาถึงแม่ทัพใหญ่โจวก็จัดการวางแผนเตรียมพร้อมการรบทันที ชายแดนแคว้นเยี่ยนอยู่ห่างจากชายแดนแคว้นเป่ยฉินไม่มากเท่าใดนัก เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ให้เหล่าทหารพักเอาแรงสักหนึ่งวัน เมื่อถึงเวลารุ่งเช้าอีกวันต่อมา แม่ทัพใหญ่โจวก็นำกองกำลังแคว้นเป่ยฉินบุกประชิดชายแดนแคว้นเยี่ยนในทันทีสงครามปะทุอย่างดุเดือด ชาวบ้านชายแดนทั้งสองแคว้นต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่าน การบุกโจมตีอย่างกะทันหันของกองทัพแคว้นเป่ยฉิน ทำให้ทหารชายแดนแคว้นเยี่ยนระส่ำระสาย เจียงหมิงเจ๋อที่ทราบข่าวว่าแคว้นเป่ยฉินยกทัพมาระรานแคว้นเยี่ยน เขาก็ขมวดคิ้วมุ่นคราหนึ่งมิใช่ว่าก่อนหน้านี้เขาได้ส่งจดหมายขอเจรจาสงบศึกไปแล้วมิใช่หรือ!!!หรือว่าตาแก่หลิงไท่มันบ้าอำนาจไม่ยอมเลิกราข้าอุตส่าห์ไม่อยากยุ่งกับพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับมายุ่งกับข้าเสียได้นี่!!!เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงหันไปเอ่ยกับฟ่านเฉียนในทันที"ข้าจะออกไปดูเสียหน่อย เจ้าเตรียมกำลังไพร่พลให้พร้อม แล้วออกเดินทางทันที""พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"เจียงหมิงเจ๋อไม่รอช้า เขารีบมุ่งหน้ามาที่ชายแดนในเวลาอันรวดเ
หยางจินจินยกมือขึ้นเกาศีรษะตนก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ยามนี้ใบหน้าของนางมอมแมมไม่น้อย หยางจิ่งที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินเข้าไปจูงมือน้องสาวของตนออกมาจากกลุ่มทหารในทันที เหล่าทหารที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจรีบคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว"จินเอ๋อร์ เจ้ามาได้เช่นไรกัน"หยางจินจินเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ย"ก็ข้าขอติดตามมาแล้ว แต่ท่านพี่ไม่ให้ข้าตามมาด้วย ข้าจึงต้องแอบติดตามมากับเหล่าทหาร"หยางจิ่งถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดตามใบหน้าให้น้องสาวตนคราหนึ่ง"หนทางนับแต่นี้อันตราย เจ้าเป็นสตรีที่อยู่แต่ในวังหลวง ชายแดนลำบากไม่น้อย เจ้าทนไม่ได้หรอก""ข้าทนได้เจ้าค่ะ หวานหว่านก็ไปด้วย ข้าจะอยู่กับนางไม่รบกวนท่านพี่แน่นอน ข้าสัญญา"หยางจิ่งจ้องหยางจินจินคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ที่เจ้าแอบตามพี่มา เพราะอยากพบหน้าเจียงหมิงเจ๋ออีกครั้งใช่หรือไม่"หยางจินจินที่ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าก็พลันปราศจากรอยยิ้มไปในทันที หยางจิ่งเอ่ยไม่ผิด นางอยากมาเห็นหน้าเขาอีกสักครา อยากเห็นหน้าของคนใจร้ายผู้นั้นอีกเป็นครั้งสุดท้าย"จินเอ๋อร์"เสียงเรียกของหยางจิ่งทำให้หยางจินจินพลันได้สติ นางจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย"ข้าอยา
"บุก!!!"ยังไม่ทันที่เจียงหมิงเจ๋อจะได้มองโจวหว่านหรูให้ถนัดตา หยางจิ่งก็ออกคำสั่งให้ทหารแคว้นเป่ยฉินและแคว้นฉีบุกเข้าโจมตีชายแดนแคว้นเยี่ยนในทันที เขาไม่อาจขัดคำสั่งของเสด็จพ่อได้ ทำได้เพียงโจมตีแคว้นเยี่ยนเพียงเท่านั้นเจียงหมิงเจ๋อส่งเสียงหึในลำคอ ก่อนจะสั่งให้เหล่าทหารเทน้ำมันลงไปที่กำแพงเมือง ก่อนจะจุดไฟเผาทันที กองเพลิงขยายเป็นวงกว้างแผดเผาทหารที่กำลังจะบุกขึ้นตีกำแพงเมืองจนส่งเสียงร้องโอดครวญ โจวหว่านหรูที่เห็นไฟตรงหน้าก็รู้สึกร้อนเหลือเกิน ภาพวันเก่าที่นางเผาตนเองสะท้อนกลับมาในห้วงความจำอีกครา โจวหว่านหรูสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามตั้งสติตนจะมากลัวเช่นนี้ไม่ได้!!!เหล่าทหารสองแคว้นต่างสู้รบกันจนชุลมุนวุ่นวาย หิมะบนพื้นกลายเป็นสีแดงฉานเนื่องจากกองโลหิตที่ซ่านกระเซ็นอาบนองไปทั่วทั้งหย่อมหญ้า โจวหว่านหรูจ้องมองไปที่เจียงหมิงเจ๋อ ก่อนจะยกคันธนูขึ้นมา เจียงหมิงเจ๋อปรายตามองนางคราหนึ่ง ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก เขาสั่งให้ฟ่านเฉียนนำธนูมาเช่นเดียวกัน โจวหว่านหรูจ้องเจียงหมิงเจ๋ออย่างไม่ละสายตาเจ้ายิงท่านพ่อข้า ข้าก็จะยิงเจ้าเช่นเดียวกัน!!!เจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูยิงคันธนูเล็งเป้าไปที่อีกฝ
หยางจิ่งและโจวอวี้หานได้รับบาดเจ็บไม่น้อย โจวหว่านหรูและหยางจินจินต่างช่วยกันทำแผลให้พวกเขา เหล่าทหารที่บาดเจ็บล้มตายไปก็มาก สงครามไม่เคยส่งผลดีต่อผู้ใดเลยจริง ๆโจวอวี้หานมองดูหยางจินจินที่กำลังทำแผลให้เขาคราหนึ่ง นางดูจะไม่ถนัดเท่าใดนัก"องค์หญิง""หืม""ทรงรัดแน่นไป กระหม่อมจะตายเพราะพระองค์รัดแผลแน่นนี่แหละพ่ะย่ะค่ะ"หยางจินจินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตาใส่โจวอวี้หานคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ปากมาก ข้าตั้งใจทำแผลให้ท่านเลยนะ"หยางจินจินชะงักไปคราหนึ่งเมื่อได้รู้ว่าตนเองเอ่ยสิ่งใดออกไป โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“ทรงตั้งใจจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ"หยางจินจินแกล้งเบือนหน้าหันไปมองทางอื่น ก่อนจะเอ่ย"ถามมาก"หลังจากที่กลับมาจากการล่องเรือในครั้งนั้น นางก็ได้พบกับโจวอวี้หานบ่อยครั้ง เขาชอบนำของสวยงามและของกินมาให้นาง แรกเริ่มนางไม่ชอบหน้าเขาเลยเพราะเขาชอบมองนางด้วยสายตาที่หวานซึ้ง แต่เมื่อได้พบเจอกันทุกวันนางก็รู้สึกได้ว่าเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง จากนั้นนางก็จะคอยนับวันรอว่าโจวอวี้หานจะนำสิ่งใดมาให้นางอีกในแต่ละครั้งที่พบเจอกันแต่ในใจของนางยังไม่อาจตัดขาดจากเจียงหมิงเ
"ฝ่าบาท เสด็จออกไปยามนี้อันตรายยิ่งนักนะพ่ะย่ะค่ะ"ฟ่านเฉียนเอ่ยเตือนเจียงหมิงเจ๋อด้วยความเป็นห่วง เจียงหมิงเจ๋อไม่เอ่ยตอบสิ่งใด ยามนี้เขาสวมชุดสีดำทั้งชุด อีกทั้งยังมีผ้าโพกศีรษะและปิดบังใบหน้าเอาไว้อย่างมิดชิด "ฝ่าบาท""ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้เข้าไปในเขตแดนของแคว้นเป่ยฉิน เพียงจะไปตรวจดูสถานการณ์โดยรอบเท่านั้น เจ้าเองก็เตรียมตัวให้ดี ข้าจะให้เจ้าติดตามไปด้วย นำองครักษ์ลับติดตามไปมากหน่อย""พ่ะย่ะค่ะ"ฟ่านเฉียนพยักหน้าคราหนึ่ง เจียงหมิงเจ๋อไม่รอช้า เขารีบมุ่งหน้าออกจากวังหลวงแคว้นเยี่ยนอย่างลับ ๆ ในทันทีชายแดนแคว้นเยี่ยนยามนี้มีกองกำลังทหารคุ้มกันอย่างเข้มงวด เจียงหมิงเจ๋อและฟ่านเฉียนกำลังนั่งอยู่ในเกวียนส่งสินค้า ดูเผิน ๆ แล้วเหมือนพวกเขาคือพ่อค้าที่ทำการค้าขายทั่วไป ไม่มีผู้ใดสงสัยหรือมองออกเลยแม้แต่น้อยทางเบื้องหน้าจะมีทางแยกอยู่สองทาง ทางหนึ่งคือเส้นทางที่ตัดเข้ามายังดินแดนแคว้นเป่ยฉิน ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งจะเป็นเส้นทางที่สามารถตัดไปยังแคว้นฉีได้ แต่ทว่าทางนั้นค่อนข้างมีป่าไผ่รกครึ้ม อีกทั้งเส้นทางยังคดเคี้ยวเนื่องจากเป็นป่าเขาเสียส่วนใหญ่เจียงหมิงเจ๋อกระโดดลงจากเกวียนสินค้า ก่อน
ค่ำคืนนี้ช่างเหน็บหนาวนัก แต่ทว่าภายในตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนนั้นกลับคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งปรารถนาเจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูแต่งงานกันมาร่วมปีแล้ว แต่ทว่ายังคงไม่มีบุตร อาจเพราะได้รับพิษในครานั้น ทำให้การมีบุตรไม่ใช่เรื่องง่ายบนเตียงใหญ่ เจียงหมิงเจ๋อกำลังตระกองกอดร่างบางระหงตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบดขยี้อย่างเร่าร้อนราวกับคนเอาแต่ใจ ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของนางและเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามัน ยามนี้ร่างกายของคนทั้งสองเปลือยเปล่า กลิ่นหอมกำยานอ่อน ๆ ยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้ลุกโหมมากยิ่งขึ้น เจียงหมิงเจ๋อผละริมฝีปากออกจากนาง แล้วจึงจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาเรื่อย สองมือหนาใหญ่บีบขยำดอกบัวงามทั้งสองข้างของนางอย่างเต็มไม้เต็มมือ พร้อมกับครอบริมฝีปากกลืนกินจุกบัวสีหวานอย่างลำพองใจ โจวหว่านหรูส่งเสียงครางกระเส่าพลางบิดกายเร่า ๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่าน กายสาวถูกบุรุษตรงหน้าลูบคลำเชยชมอย่างไม่ยอมลดละ เจียงหมิงเจ๋อสอดแทรกแท่งหยกสวรรค์เข้าไปในกายของนาง ก่อนจะขยับกายอย่างช้า ๆ แล้วเร่
ยามนี้เจียงหมิงเจ๋อและโจวหว่านหรูกำลังเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินเพื่อมุ่งหน้าออกจากวังหลวง ฉับพลันนางก็หันมาเอ่ยถามเขา“เจียงหมิงเจ๋อ ท่านเอ่ยสิ่งใดฝ่าบาทจึงเห็นด้วยง่ายดายเช่นนี้ ข้าคิดว่าจะไม่ทรงเห็นด้วยเสียอีก”เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมามองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ โจวหว่านหรูหนังตากระตุกรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าเริ่มจะออกอาการเจ้าเล่ห์ใส่นางอีกแล้ว“อย่ามองข้าแบบนี้สิ”“ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ข้าเอ่ยเพียงว่า ขอเพียงมีเจ้าข้างกาย และครอบครัวของเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ใต้หล้านี้ข้ายกให้แคว้นเป่ยฉินทั้งหมด ข้าขอมีเพียงแคว้นเยี่ยนและมีเจ้าก็พอ”โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย“ท่านทำได้จริง ๆ หรือ”“ทำได้สิ คนอย่างข้าไม่เคยเอ่ยวาจาโป้ปด”“แต่ท่านเคยแกล้งป่วยนะ”“โจวหว่านหรู เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ที่ข้าทำเพราะความอยู่รอดเพียงเท่านั้น”โจวหว่านหรูจ้องมองเจียงหมิงเจ๋อด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย“หากไม่เชื่อ ข้าคงไม่เลือกท่าน”เจียงหมิงเจ๋อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้าง โจวหว่านหรูพลันใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขา“เจ้าจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกข้า
โจวหว่านหรูเดินทางกลับมาที่แคว้นเป่ยฉิน หยางจิ่งที่ได้รู้ข่าวว่าโจวหว่านหรูกลับมาถึงแล้ว ก็รีบมาพบนางในทันทีสตรีตรงหน้ายามนี้งดงามเป็นสาวงามสะพรั่งแล้ว โจวหว่านหรูหันมามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เขาเล็กน้อยหลายปีที่ไม่ได้พบกัน มันทำให้นางเข้าใจหัวใจตนเองได้อย่างชัดเจนแล้วนางไม่อาจกลับไปรักเขาเฉกเช่นเดิมได้อีก แม้ในใจของนางจะไม่สามารถตัดขาดจากหยางจิ่งได้อย่างสนิทใจ แต่ทว่านางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเขาแล้ว นางไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังติดค้างสิ่งใดกับนางอยู่ บางคราทุกสิ่งที่มันเปลี่ยนไปแล้วย่อมไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก จะคงไว้เพียงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตที่จะให้จดจำแม้จะดูเหมือนสตรีที่เห็นแก่ตัว แต่โจวหว่านหรูคิดเสมอว่าในเมื่อนางมีชีวิตอีกชาติหนึ่งแล้ว นางควรมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่นางต้องการคราก่อนนางยังไม่แน่ใจในหัวใจของตนเองมากเท่าใดนัก แต่เมื่อได้หลับฝันไปตื่นหนึ่ง ได้รู้ความจริงบางอย่าง ใจของนางก็เริ่มชัดเจนขึ้นหยางจิ่งคือรักแรกของนางส่วนเจียงหมิงเจ๋อคือคนที่นางเลือก เพราะไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้เขาคือคนที่ทำเพื่อนางมากที่สุด“หวานหว่าน เจ้ากลับมาแล้ว”หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำ
เช้าวันต่อมา โจวหว่านหรูควบม้ามุ่งหน้าไปยังทิศทางของประตูวังหลวง ระหว่างทางนั้นนางมองเห็นหยางจิ่งที่ยืนมองนางอยู่ที่ด้านหน้าประตู เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด ดูแล้วช่างงดงามสง่าราวกับเทพเซียน นางสั่งให้ม้าหยุด ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า และเดินตรงเข้ามาหาเขา หยางจิ่งยิ้มให้นางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"แต่งเป็นบุรุษเช่นนี้นับว่าไม่เลวเลย"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"อืม"หยางจิ่งจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ย"หวานหว่าน เจ้าจะกลับมาเมื่อใด"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่งด้วยแววตาที่อ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหนึ่งปี สามปี หรือห้าปี ข้าอยากจะไปทำตามความฝัน ท่องไปในยุทธภพ"หยางจิ่งจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขาอยากยื่นมือไปดึงรั้งนางใจจะขาด แต่ทว่าอีกใจก็ไม่อยากทำลายสิ่งที่นางถวิลหา ตั้งแต่ได้รู้ว่านางตั้งใจจะไปท่องเที่ยวทั่วทั้งใต้หล้า เขาก็ตกใจไม่น้อย เดิมทีคิดจะพานางเข้าวัง แต่งนางเป็นชายาเอก แต่ทว่านางกลับปฏิเสธเขาข้ายังไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ใดในยามนี้"ข้าจะรอเจ้า ต่อให้รอทั้งชีวิต ข้าก็จะรอ"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โจวหว่านห
ที่ตำหนักมังกรสวรรค์แคว้นเยี่ยนยามนี้มีเหล่าทหารกำลังผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยาม โจวหว่านหรูรีบตรงมาที่แห่งนี้ทันทีที่ได้ทราบเรื่องราวจากหยางจินจินแท้จริงแล้วนางไม่ได้ฝัน เป็นเขาจริง ๆ ที่ช่วยนาง เขาป้อนโลหิตให้นางดิื่มเพื่อระงับพิษไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนาง"ข้าอยากพบเจียงหมิงเจ๋อ"เหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามปรายตามองนางคราหนึ่ง แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด โจวหว่านหรูที่กำลังร้อนใจ พลันจ้องมองสตรีนางหนึ่งที่เดินออกมาจากตำหนักมังกรสวรรค์ นางสวมชุดเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้างดงามไม่น้อย นางจ้องมองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้าก็คือโจวหว่านหรูกระมัง"โจวหว่านหรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง สตรีนางนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าคือพระสนมเอกของฝ่าบาท ยามนี้ฝ่าบาทคงกำลังรอพบเจ้าอยู่ เจ้าเข้าไปเถิด"ฟ่านฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปไม่แม้แต่จะมองนางอีก โจวหว่านหรูไม่รอช้ารีบเข้าไปด้านในทันที เมื่อมาถึงนางก็พบกับเจียงหมิงเจ๋อที่กำลังเอนกายนอนพิงขอบเตียง ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวราวกับคนป่วยไข้ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามา เขาจึงหันไปมองคราหนึ่ง ก่อนที่แววตาจะฉาย
หยางจิ่งนั้นยามนี้กำลังเดินออกมาจากตำหนักเหลียนฉง เมื่อออกมาก็ได้พบกับโจวอวี้หาน เฉินป๋อเหวิน รวมถึงหยางจินจินที่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก เขามีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้ามาได้เช่นไรกัน"โจวอวี้หานยิ้มให้หยางจิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ข้าเป็นห่วงน้องเล็กจึงรีบติดตามมาสมทบกับเจ้า เฉินป๋อเหวินและหยางจินจินก็เป็นห่วงนางเช่นกัน จึงขอติดตามข้ามาด้วย"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าอยากให้เจ้าช่วยดูนางสักระยะ ข้ามีเรื่่องต้องไปจัดการ”โจวอวี้หานที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที"เรื่องใดหรือ"หยางจิ่งถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"สมุนไพรที่ใช้ถอนพิษไม่เพียงพอ ข้าจำต้องขึ้นเขาไปเก็บมันมา""ข้าไปกับท่านด้วย"หยางจิ่งหันไปจ้องมองเฉินป๋อเหวินคราหนึ่ง ก่อนจะพบว่าในดวงตาของเฉินป๋อเหวินดูเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหึงหวงอันใดกัน เขาจึงเอ่ยกับเฉินป๋อเหวินด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรมากกว่าเดิม"ทางไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขา ข้าได้ยินว่ามันทั้งหนาวเหน็บและอันตรายไม่น้อย กลับมาแล้วอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้า...""ต่อให้ต้องตาย
เจียงหมิงเจ๋อปรายตามองหยางจิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้น เหล่าทหารแคว้นเยี่ยนของเขาก็พุ่งเข้าสังหารทหารแคว้นฉีในทันที อู๋เจี๋ยตื่นตระหนกไม่น้อย เพียงมองอาภรณ์ที่สวมใส่เขาก็พอคาดเดาได้ไม่ยากว่าผู้มาใหม่นี่คือใครฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเช่นนั้นหรือ!!!เจียงหมิงเจ๋อจ้องมองอู๋เจี๋ยคราหนึ่ง ก่่อนจะเอ่ย"เจ้าสินะ ที่ขโมยศีรษะของเจียงหย่งหลางส่งไปให้ฮ่องเต้แคว้นเป่ยฉิน ศีรษะของพี่ชายข้าก็เสียบประจานอยู่ที่หน้าประตูชายแดนดี ๆ เจ้ากลับไร้มรรยาทเอาหัวเขาไปเที่ยวเล่น ช่างบังอาจนัก!!!"อู๋เจี๋ยตกใจไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าแผนการทั้งหมดของเขาจะถูกล่วงรู้ได้รวดเร็วเช่นนี้เขารู้ว่ายามนี้ไม่อาจต่อกรได้แล้ว เจียงหมิงเจ๋อพาทหารแคว้นฉู่ที่ยามนี้รวมเป็นหนึ่งกับแคว้นเยี่ยนบุกเข้ามาเพื่อจัดการเขา มันเป็นไปได้เช่นไรไม่ใช่ว่าเจียงหมิงเจ๋อต้องสังหารหยางจิ่งหรอกหรือ!!!อู๋เจี๋ยไม่รั้งรอ เขารีบควบม้าคิดจะหนี เจียงหมิงเจ๋อยกยิ้มมุมปาก มีหรือที่เขาจะปล่อยศัตรูให้รอดไปได้ ใครที่มันคิดรุกรานเขา เขาไม่เคยเก็บเอาไว้เจียงหมิงเจ๋อคว้าคันธนูมาจากฟ่านเฉียน ก่อนจะยกขึ้นเล็งไปที่อู๋เจี๋ย ลูกธนูพุ่งฝ่าอากาศก่อนจะทะลุเข้าไปที่กลางอกข
โจวหว่านหรูสวมชุดเกราะเตรียมออกรบ ในมือของนางถือดาบยาวที่ส่องประกายวาววับ ก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้าและพุ่งทะยานออกไปที่ประตูชายแดนในทันที โดยมีหยางจิ่งและโจวอวี้หานเป็นผู้นำทัพ ยามนี้แขนของท่านพ่อนางดีขึ้นมากแล้ว เมื่อภัยมาถึงด้วยนิสัยของท่านพ่อย่อมไม่อาจอยู่เฉยได้ด้านหยางจินจินนั้นคอยดูแลเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บและถูกหามกลับเข้ามา ใจของนางสั่นไหวไม่น้อยหยางจิ่งที่ควบม้ามายังสนามรบ เมื่อได้มองเห็นกองกำลังทหารเรือนแสนที่แคว้นฉียกทัพมาก็จ้องมองด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะมองไปที่อู๋เจี๋ยซึ่งเป็นผู้นำทัพออกรบอู๋เจี๋ยจ้องมองหยางจิ่งอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน ก่อนจะปรายตามามองโจวหว่านหรูคราหนึ่ง ในใจนึกเสียดายที่ไม่อาจนำสาวงามนางนี้มาครอบครองได้ หากเขารบชนะศึกในครานี้และหยางจิ่งพ่ายแพ้ เขาจะลากตัวนางกลับแคว้นฉีและทรมานให้สาแก่ใจโจวหว่านหรูจ้องมองอู๋เจี๋ยด้วยแววตาเกลียดชัง"ไม่คิดว่าคนแคว้นฉีจะตีสองหน้าได้เก่งกาจปานนี้ อาศัยช่วงที่ทัพของข้าอ่อนไหว ตลบหลังได้อย่างหน้าไม่อาย"หยางจิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ อู๋เจี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ว่าแคว้นฉีขอ
หยางจิ่งรีบเข้ามากอดโจวหว่านหรูทันที ก่อนจะเอ่ย"เจ้ากลับมาแล้ว รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใด ข้าแทบจะพลิกแผ่นดินตามหาเจ้า"โจวหว่านหรูไม่ได้ขัดขืนหยางจิ่ง ยังคงปล่อยให้เขากอดนางอยู่เช่นนั้น"ข้าเหนื่อยแล้ว"นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เช่นนั้นเรากลับเป่ยฉินกันเถิด"หยางจิ่งกำลังจะพาโจวหว่านหรูเดินไปยังรถม้า แต่ทว่านางกลับรั้งมือของเขาเอาไว้ หยางจิ่งหันกลับมามองนางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"มีสิ่งใดหรือ"โจวหว่านหรูจ้องมองหยางจิ่ง ก่อนจะเอ่ย"ข้าหายไปแคว้นเยี่ยนตั้งหลายวัน ท่านไม่สงสัยข้าเลยหรือ"หยางจิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือมาลูบศีรษะของนางอย่างรักใคร่"ข้าไม่สนใจ และไม่ติดใจเรื่องใดทั้งสิ้น ข้ารู้ว่าคนเช่นเจ้าหากถูกเอาเปรียบเจ้ายอมตายดีกว่า จริงหรือไม่"โจวหว่านหรูยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าให้เขา หยางจิ่งชะงักไปชั่วขณะ เขารู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ของนางเขาไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว แต่วันนี้นางกลับยิ้มให้เขาอีกคราโจวหว่านหรูก้าวขึ้นมานั่งบนรถม้า ก่อนจะหันมามองหยางจินจินที่นั่งอยู่ หยางจินจินก็ห