ลลิตามาสายไปครึ่งชั่วโมง พอมาถึงภัตตาคารอาหารจีนซึ่งเป็นสถานที่นัดเธอก็รีบเข้ามาในห้องวีไอพีที่เป็นห้องแบบปิด แล้วก็เพิ่งได้เห็นว่ามันไม่ได้มีแค่ครอบครัวของเธอที่มากินข้าวเย็นในวันนี้ แต่มีครอบครัวของอธิติมาด้วย มากันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา…มากันครบทุกคนไม่เว้นแต่กันต์ธีร์ คุณหมอผู้ไม่ค่อยมีเวลาว่าง“หลินมาแล้ว มา ๆ มานั่งข้างโกว” อ้ายฉิงที่มีศักดิ์เป็นเหมือนพี่สาวฝ่ายพ่อเห็นลลิตาเป็นคนแรกก็รีบกวักมือเรียกให้ไปนั่งข้าง ๆ ซึ่งเป็นที่เดียวที่ว่างอยู่ แล้วมันก็ช่างเหมาะเจาะ เพราะที่นั่งตรงข้ามก็คืออธิติที่นั่งทำหน้ามึน ทำเหมือนไม่มีและไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น“ทำไมมาสายนักล่ะหลิน ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนานมันไม่ดีนะรู้ไหม?” กิตติคุณเอ่ยกับลูกสาว“รถติดน่ะป๊า” ลลิตาทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยที่ถูกสอนต่อหน้าคนหมู่มาก แต่พอเห็นอาหารจีนหน้าตาน่ากินตรงหน้าก็รีบคว้าตะเกียบขึ้นมาทันที“หลินยังทำงานในกรุงเทพอยู่อีกเหรอ? แปะนึกว่าย้ายกลับมาทำงานที่โรงงานน้ำแข็งแล้วเสียอีก” นพชัยชวนคุย“หลินยังทำงานอยู่ที่บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ค่ะแปะ กะว่าจะทำยาว ๆ เลย”“ที่โรงงานตอนนี้ก็มีแค่หยกเป็นคนช่วยนี่แหละเฮีย ไอ้ครั้นจะไปหวังอะไร
13 ก็รักไปแล้วทั้งใจมาถึงโรงแรมอธิติก็คว้าตัวลลิตาเข้ามากระหน่ำจูบ โอบอุ้มเธอขึ้นอุ้มแล้วโถมสัมผัสอันดุเดือดเลือดพล่านเข้าใส่ ไม่มีคำพูดคำจาใด ๆ ไม่ต้องรอให้หญิงสาวได้ตั้งตัวอะไรทั้งนั้น เขาไม่รอให้เธอได้โทรคุยกับไอ้พอยท์อะไรนั่นด้วย ปลุกเร้าอารมณ์ทั้งของตัวเองและของเธอจนได้ที่ เพียงเท่านั้นก็วาดลวดลายรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัวทันทีเขาโกยกินเธอจนแทบจะกลืนเข้าไปทั้งตัว สอดใส่แล้วกระทุ้งกระแทกจนลลิตาสั่นสะเทือนไปทั้งร่าง บางครั้งเขาก็ทำรุนแรงจนเธอต้องร้องเจ็บแถมจุก พอรู้ตัวว่าพลั้งมือทำแรงไปก็ปลอบโยนเธอด้วยสัมผัสแสนแผ่วเบา ก็คงต้องบอกว่าจะเป็นแบบไหนลลิตาก็ชอบทั้งนั้น แบบรุนแรงก็ชอบเพราะมันถึงใจเธอดี แต่เบา ๆ ค่อย ๆ ทำก็พาให้หวามไหวซาบซ่านจนต้องร้องขอให้ทำอีกซ้ำ ๆจะไม่ให้เธอเสพติดอธิติงอมแงมจนถอนตัวไม่ขึ้นได้ยังไง ในเมื่อเขารู้ใจเธอไปเสียหมด เขารู้ว่าเธอชอบให้ขยี้ตรงไหน รู้ว่าต้องลากลิ้นเลียยังไงถึงจะทำให้เธอเสียวจนเสร็จหลายรอบติดต่อกัน เขารู้แม้กระทั่งจุดไหนในร่างกายเธอที่มันเสียวมากที่สุด ดูเหมือนว่าเขาจะรู้กระบวนการทำงานในร่างกายเธอหมด ทว่าอย่างเดียวที่ไม่รู้ก็คือหัวใจเธอมันร้องเรี
วันนี้อธิติแต่งตัวผิดแผกไปจากทุกวัน ลลิตาหันไปมองเขาที่กำลังขับรถครั้งแล้วครั้งเล่า เขาสวมสูทลำลองสีกรม ด้านในเป็นเสื้อยืดคอกลมสีขาว มีการเซตผมเบา ๆ แถมยังฉีดน้ำหอมมาด้วย ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเขาแต่งตัวแบบนี้เลย“ที่บอกว่ามีธุระ…ธุระอะไรเหรอเฮีย?” อยู่ ๆ ก็อดสงสัยไม่ได้ ถึงจะชอบที่เขาแต่งตัวแบบนี้ก็เถอะ แต่พอเขาหล่อผิดหูผิดตาก็นึกหวงขึ้นมาแปลก ๆ“เรื่องงานน่ะ”“งาน?” แบบนี้ยิ่งน่าประหลาดใจ อธิติไม่มีงาน เขาไม่เคยทำงานแล้วจะบอกว่าธุระเรื่องงานได้ยังไง “อย่าบอกนะว่าเฮียจะเข้ากรุงเทพมาสมัครงาน?”“หืม?” เขาหลุดปากพูด เพราะขับรถเพลิน ๆ ก็เลยตอบไปโดยไม่ได้ตั้งใจ “เปล่า ไม่ได้จะไปสมัครงาน แต่หมายถึงงานแต่งเพื่อน”“งานแต่งงานของเพื่อน? เพื่อนที่ไหน? เพื่อนที่ไปเรียนเมืองนอกด้วยกันเหรอ?”“ใช่ เพื่อนห่าง ๆ กะจะแวะไปแป๊บเดียว” ถามว่าทำไมเขาถึงต้องปิดบังเรื่องหน้าที่การงานที่แท้จริง คำตอบก็คงเป็นอะไรง่าย ๆ ทำนองว่าเขาก็แค่ขี้เกียจเล่า จะให้เล่าว่าตอนอยู่เมืองนอกเขาสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาแล้วก็ขายให้บริษัทใหญ่ได้เงินมาร้อยล้าน จากนั้นก็ใช้เงินที่ได้มาลงทุนพัฒนาเกมแล้วก็ขายต่อได้เงินมาอีกหลายร้อยล้
14 เรื่องที่ไม่ได้บอก“จริง ๆ มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของแก”มีเวลาสิบนาทีก่อนจะถึงเวลาเข้างาน ซาร่าเลยลากตัวลลิตามาคุยที่สวนบนชั้นดาดฟ้าของตึก ตอนนี้คลายข้อสงสัยไปได้แล้วหนึ่งข้อ เรื่องที่ลลิตาไม่ได้เป็นแค่พี่น้องกับอธิติ แต่มันก็ยังมีข้อสงสัยอีกเป็นโขยงตามมา“ฉันไม่ได้จะปิดบัง แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเล่า อย่างที่แกว่า…มันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ฉันก็ไม่อยากให้แกคิดไปเองว่าฉันกับเฮียอี้คบกัน”“ไม่ได้คบ? หมายความว่าไงวะไอ้หลิน…ฉันเห็นแกกับเฮียอี้จูบกันในรถ” ถ้าสองคนไม่ใช่แฟนกันแล้วมันจะเป็นอะไรได้อีก พี่น้องแถวบ้านมันจูบกันได้ด้วยหรือ? ซาร่าไม่มีทางที่จะคาดถึงได้ว่ามันจะมีความสัมพันธ์รูปแบบอื่น“ฉันไม่ได้คบกับเฮียอี้จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่ได้คิดจะให้ความหวังพอยท์ด้วย ซาร่า…ฉันแค่รู้สึกดีที่พอยท์ชอบฉัน แล้วก็คิดว่าถ้าเราไปกันได้ หรือถ้าวันนึงฉันเกิดชอบพอยท์ขึ้นมาแล้วเขาขอฉันคบเป็นแฟน ฉันก็พร้อมจะเป็นแฟนกับเขา แต่แค่ตอนนี้ฉันยังไม่ได้ชอบเขาก็เท่านั้น”“เดี๋ยวไอ้หลิน แกอย่าลากไอ้พอยท์เข้ามาเกี่ยวดิวะ ฉันยังไม่ได้พูดถึงเรื่องไอ้พอยท์เลย ตอนนี้ฉันคุยกับแกในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ฐานะญาติ
หัวหน้าฝ่ายประสานงานคนใหม่ยืนยิ้มหวานต่อหน้าบรรดาพนักงาน วันนี้เธอมาทำงานเป็นวันแรกในชุดสูทกระโปรงสีขาว ผมตรงยาวถึงกลางหลังถูกมัดเป็นหางม้า ด้านหน้าเก็บเรียบจนแทบไม่มีปอยผมหลุดลงมาสักเส้น ชื่อของเธอคือเพชรไพลิน ดีกรีความเก่งและประสบการณ์ทำงานมีมากมาย อดีตเคยทำงานที่บริษัทใหญ่ในอเมริกาเพิ่งหย่ามาหมาด ๆ คิดถึงบางคน คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนเลยตั้งใจว่าจะกลับมาอยู่เป็นการถาวร“ยินดีที่ได้รู้จักและได้ร่วมงานกับทุกคนนะคะ แล้วก็…เรียกชื่อเพชรเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” เพชรไพลินเอ่ยแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้ม พอเสียงปรบมือต้อนรับของเหล่าพนักงานเงียบลงระดับดาวกับจิรกิตก็เดินเข้ามาสมทบ“วันนี้มีหัวหน้าฝ่ายเข้าใหม่ แถมยังเป็นวันศุกร์ พราวกับจิเห็นตรงกันว่าเราน่าจะไปฉลองกันนะคะ” ระดับดาวว่า แล้วเสียงเฮก็ดังขึ้นมาทันที มีใครบ้างที่จะไม่ชอบดื่มฟรีกินฟรี“ผมปิดคลับเลี้ยงนะ ทุกคนต้องไปกันให้ได้นะ บอกเมียบอกลูกว่าขอหนึ่งวัน” บอสจิคนเก่งเสริม“ผมยังไม่มีเมียครับบอส หาอยู่…เล็งเอาไว้คนหนึ่ง แถว ๆ นี้แหละครับ” ไอ้พี่อั๋นจากแผนกไอทีที่พาน้อง ๆ ในทีมมายืนมุงดูคนสวยพูดขึ้น เพียงเท่านั้นเสียงแซวก็ดังขึ้นมาอีก“ใครครับพี่ ใช่น้
15 ไม่ใช่ความบังเอิญไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พี่ชายแถวบ้านซึ่งลลิตานอนด้วยไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละสี่ครั้งจะมีชื่อจริงตรงกับเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่หลังจากเธอบ่นเรื่องสมัครงานกับเขาเมื่อปีก่อนแล้ววันต่อมาก็ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทนี้ทันที แล้วก็ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดด้วยที่ครั้งนั้นเธอเคยได้ยินพี่ที่ฝ่ายบุคคลเรียกเธอว่าเด็กเส้นเมื่อคืนนั้นที่อธิติถามลลิตาว่าเธอจะเชื่อไหมหากเขาบอกว่ามีเงินเจ็ดร้อยกว่าล้านในบัญชี เขาไม่ได้พูดมันเล่น ๆ แล้วเมื่อเช้าที่บอกว่าจะเก็บเรื่องเอาท์ติ้งกับเรื่องโบนัสไปคิด เขาก็หมายถึงตามนั้นจริง ๆ อธิติคือประธานบริษัทที่ลลิตาทำงาน เขามีทรัพย์สินมูลค่าพันล้านอยู่ในมือ เขาไม่ใช่ผู้ชายโหลยโท่ยที่เล่นเกมอยู่บ้านไปวัน ๆคำถามแรกคือ…เขามีเวลามากมายที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แล้วทำไมถึงไม่เคยพูด? คำถามต่อมาคือ…เขาเห็นเธอเป็นคนแบบไหนถึงได้ปิดบัง? หรือกลัวว่าพอเธอรู้ว่าเขาคือผู้ชายที่นอกจากหล่อแถมยังรวยแล้วเธอจะเกาะเขาไม่ปล่อย?ลลิตารู้สึกเหมือนโดนตบหน้า ฉาดแรกคือตอนที่ได้รู้ว่าเขาคือท่านประธานผู้สูงศักดิ์ ฉาดที่สองก็คือตอนที่ได้รู้ว่าเขาเคยรักใครมาก่อน ใช่…
“รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะคุณเพชร?”หลังจากที่เอายามาให้เพชรไพลินแล้วก็นั่งคุยงานกันต่ออยู่พักหนึ่งลลิตาก็ถามขึ้น จะว่าถามด้วยความเป็นห่วงก็ไม่เชิง หรือจะถามไปเพราะมารยาทก็ไม่น่าจะใช่ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคนตรงหน้าคือแฟนเก่าของอธิติ จริงหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ…แต่ซาร่าบอกว่าเพชรไพลินทิ้งอธิติไปแต่งงาน ทำให้เขาเสียในจนเสียศูนย์นี่สินะผู้หญิงที่เคยได้ครอบครองหัวใจไอ้เฮียอี้!“ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณคุณหลินอีกครั้งนะคะ จะว่าไป…เรามาคุยแบบกันเองดีไหม? สนิทกันไว้จะได้ทำงานกันง่ายขึ้น เรียกพี่เรียกน้องกันดีไหม?”“จะดีเหรอคะ?”“กับหัวหน้าคนเก่าก็ได้ยินมาว่าทุกคนเรียกพี่กัน…ทำไมจะไม่ดีล่ะ พี่เรียกหลินแบบนี้ ส่วนหลินเรียกพี่เพชรดีไหม?”“ก็ได้ค่ะพี่เพชร” สิ่งหนึ่งที่ลลิตารับรู้ได้ก็คือเพชรไพลินไม่ใช่คนมีพิษมีภัย ออกจะน่ารักและเป็นกันเอง ไม่ถือตัว ไม่วางมาดว่าเป็นเจ้านายด้วย มันไม่มีเหตุผลเลยที่ลลิตาจะต้องไม่ชอบหน้า แต่ไม่รู้ทำไม…อยู่ ๆ มันก็รู้สึกไม่สนิทใจแล้วก็วางตัวไม่ถูก“พี่อยากให้หลินช่วยรวบรวมแล้วก็ทำโน้ตข้อมูลของลูกค้ากับทุกแผนกที่เราต้องประสานงานให้หน่อยนะ เป็นไปได้พี่ขอวันนี้เลย แต่ถ้ามันเยอะจ
16 เขาไม่ผิดที่ไม่ได้รักเรด ร็อกเก็ตปิดคลับดังย่านทองหล่อเพื่อเลี้ยงฉลองพนักงานเนื่องในโอกาสที่ทุกคนเหนื่อยมาทั้งปี อีกทั้งยังถือโอกาสเลี้ยงต้อนรับหัวหน้าฝ่ายประสานงานคนใหม่ คนทำงานร่วมสองร้อยคนกำลังดื่มด่ำกับแอลกอฮอล์และครื้นเครงกับเสียงดนตรี อาหารก็มีมากมายให้เลือกกิน จะสั่งเท่าไรก็ได้ไม่มีอั้น ลลิตาไม่ได้ลุกขึ้นเต้นเหมือนคนอื่น ๆ เธอนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะโดยมีพิชญะนั่งเป็นเพื่อน สองคนคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวพิชญะเป็นผู้ชายที่ใจดีและอบอุ่นโดยแท้จริง เขาคอยมองและคอยให้ความสะดวกสบายกับลลิตาอยู่ตลอด คอยยื่นทิชชูให้เธอเช็ดปาก คอยรินเบียร์ให้เพิ่ม ตักอาหารให้เธอบ้างในบางครั้ง นั่งเว้นระยะห่างจากเธอพอประมาณเพื่อความเหมาะสม เขามีสมาธิจดจ่ออยู่กับเธอ ขณะที่เธอเอาแต่มองเพชรไพลินที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกับระดับดาวและจิรกิตอยู่เป็นระยะพอรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ก็อดจะให้ความสนใจไม่ได้ หลายครั้งที่ลลิตาเอาแต่ถามตัวเองว่าเธอนั้นอิจฉาเพชรไพลินหรือยังไงกัน?“วันนี้หลินดื่มหนักมากเลย ดูเหมือนจะเมาแล้วด้วย” พิชญะนึกเป็นห่วงที่ลลิตาดื่มเอา ๆ แววตาก็ดูเหมือนมีเรื่องกังวลถึงเวลานี้จ
บทส่งท้ายในที่สุดวันที่ลลิตาและอธิติรอคอยก็มาถึง เป็นวันงานแต่งงานของเขาและเธอ ซึ่งแม้ว่าทั้งสองจะมีเชื้อสายจีนแต่ก็เลือกจะจัดงานตามความสะดวก เป็นพิธีแบบผสมผสานไม่ได้ตรงตามแบบแผนใด ๆ ช่วงเช้าจัดเป็นพิธีหมั้น มีการสวมแหวนและมอบสินสอด ส่วนช่วงบ่ายจนถึงเย็นก็เป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในสวนดอกไม้เจ้าบ่าวในชุดสูทสีน้ำเงินยืนรอเจ้าสาวอยู่ที่ซุ้มดอกไม้ เขาเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเพลงบรรเลงเริ่มดังขึ้น หัวใจมันเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เขาที่เคยผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิตจนล้มเลิกความคิดเรื่องแต่งงานไปแล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่าสุดท้ายจะอยากแต่งงานกับใครสักคนขึ้นมาอีกครั้ง และไม่คิดเช่นกันว่าคนคนนั้นจะเป็นลลิตา น้องสาวที่เขาเห็นหน้าเห็นตามาตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยคิดว่าจะรักเธอในรูปแบบนี้มาตั้งแต่แรกเขาไม่เคยคิดว่าชีวิตจะอยู่โดยมีเธอเข้ามาเป็นแรงผลักดันไม่เคยคิดเลยว่าอยู่ ๆ จะอยากเป็นเสาหลักค้ำชูใครจนกระทั่งเขาได้ตกหลุมรักเธอเข้าเต็มหัวใจถามว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เขารักเธอได้มากมายขนาดนี้ อธิติตอบไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าเริ่มรักเธอในฐานะผู้ชายคนหนึ่งตอนไหน ไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรถึงรัก รู้เพียงแต่ว่า…ไม่มีเธออยู่เคียงข
“คิดว่าเฮียรู้ไม่ทันเหรอว่าเธอแกล้ง?”“หลินแกล้งเฮียบ้างไม่ได้เหรอ? ทีเฮียชอบแกล้งหลินล่ะ?” ลลิตาเชิดหน้าพร้อมรอยยิ้มอย่างคนท้าทาย แต่สุดท้ายก็ต้องนิ่วหน้าเสียวเมื่ออธิติล้วงลึกเข้าไปถึงจุดสั่นไหว “อื้อ…เฮียอี้!”“เปียกเฉย…แค่อมให้เฮียก็ทำให้เธอเสียวได้เหรอ?”“คิดว่าตัวเองอยากเป็นคนเดียวหรือไง?”“บอกเฮียสิว่าเธออยากมากแค่ไหน” สองคนจ้องตากันและกัน เรียวนิ้วของอธิติสอดลึกเข้าถึงโพรงอุ่น ตวัดเกี่ยวกระทำความเสียวซ่านให้คนตัวเล็ก แล้วเธอก็ร่อนโยกสู้เรียวนิ้วเขาเป็นจังหวะ“อ๊ะ! โคตรอยากเลย…ฮึก! เฮียขา…หลินอยากโดนเฮียกระแทกแรง ๆ”“แรงแค่ไหน?”“แรงที่สุด…ฮึก! เฮียอี้…เอาหลินหน่อย…อ๊าห์! เอาหลินทีเฮียอี้” ไม่มีเหตุผลให้ลลิตาต้องเขินอาย อีกไม่กี่วันคนตรงหน้าก็จะได้ชื่อว่าเป็นสามีเธอแล้ว ความต้องการมันบังคับให้เธอร้องขอ โอบรอบคอเขามาประกบปากจูบ จูบแล้วก็จูบอีกทว่ามันยังไม่หนำใจ เหมือนได้เท่าไรก็ไม่พอ“ไม่อยากให้เฮียเลียให้ก่อนเหรอ?”“ฮึก! ไม่ต้องแล้ว…ใส่มาเลยได้ไหม? หลินต้องการเฮียจนจะทนไม่ไหวแล้ว อ๊ะ! อ๊าห์!” พูดไม่ทันขาดคำอธิติก็มอบสิ่งที่ลลิตาโหยหาให้เธอ ถลกชุดลูกไม้บาง ๆ ขึ้นแล้วเอาความเป็นเ
30 ที่รักกลับมาถึงคอนโดมิเนียมลลิตาก็เข้าครัวไปทำมื้อเย็น ส่วนอธิติก็เข้าห้องทำงานไปเคลียร์งานของตัวเอง ช่วงนี้เขาต้องทำงานหนักเพราะมีเกมใหม่ที่กำลังสร้าง ทำงานไปได้สักพักลลิตาก็มาเรียกให้ไปกินข้าว ดูเหมือนว่าความพยายามของลลิตาจะเริ่มแสดงผล เพราะข้าวอบกุ้งวันนี้รสชาติดีกว่าครั้งก่อน ข้าวสุกทุกเม็ด รสชาติไม่เค็มโดดแล้ว ถือว่าเป็นเมนูที่อร่อยใช้ได้“อร่อยไหม?” หญิงสาวเอ่ยถาม เธอชอบใจและมีความสุขทุกครั้งที่เห็นอธิติกินอาหารฝีมือเธอ“อะไรที่เธอทำก็อร่อยทั้งนั้นแหละ ถึงเธอเอาดินเอาโคลนมาให้กิน…เฮียก็ว่าอร่อย”“เวอร์! ใครจะเอาดินเอาโคลนมาให้สามีกิน”“…” เมนูแรกที่เธอทำก็เหมือนเอาโคลนมาผัด อธิตินึกอยากจะพูดคำนั้นแต่ไม่กล้า เขาไม่ใช่พ่อบ้านใจกล้าและไม่ชอบเวลาเมียงอนด้วย อีกอย่าง…คืนนี้เขายังอยากให้เธอง้ออยู่“ยังงอนหลินอยู่อีกเหรอ? หลินบอกแล้วไงว่าที่พูดไปว่าขาดทุนอะ มันไม่ได้หมายความว่าอยากไปนอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่เฮีย…ขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อใจกันอีกเหรอ?”“ใครจะไปรู้ ต่อไปถ้าเจอใครมาทำเหมือนว่าเคยนอนกับเฮียอีก…เธอจะไม่พูดเรื่องนั้นขึ้นมาอีกเหรอ?” ที่จริงเขาหายโกรธหายงอนไปตั้งแต่ที่ได้ยินคำว่า
ลลิตาไม่ใช่แม่ศรีเรือนที่ชอบทำงานบ้านหรือทำกับข้าวเก่ง อาจต้องพูดว่าเธอแทบจะทำอาหารไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อรู้ตัวว่าจะต้องแต่งงานและเป็นแม่ของลูกในสักวัน เธอก็พยายาม…เริ่มทำงานบ้านให้ติดเป็นนิสัย เริ่มเข้าครัวฝึกทำอาหาร ซึ่งคนแรกและคนเดียวที่ต้องเป็นหนูทดลองชิมอาหารฝีมือเธอก็คือว่าที่คุณสามีหลังเลิกงานทั้งสองคนมักจะแวะซุปเปอร์เพื่อซื้อของเข้าบ้าน อธิติชอบทุกครั้งที่ได้มาซื้อของกับลลิตาแบบนี้ เขาจะคอยโอบเอว โอบไหล่เธอแบบที่ไม่ปล่อยให้เดินห่างจากกาย ไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหนเขาก็จะรีบตามติดเหมือนเป็นเงาตามตัว“วันก่อนที่หลินทำข้าวอบกุ้งให้กิน เฮียชอบไหม? อยากกินอีกไหม?” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่สองคนกำลังเดินเลือกซื้ออาหารสด“ข้าวอบกุ้งเหรอ?” อธิติจำได้ดีข้าวอบกุ้งที่เม็ดข้าวยังแข็งเพราะไม่สุกดี รสชาติก็เค็มจนแทบกลืนไม่ลง พูดได้เลยว่าลลิตาไม่เหมาะกับงานในบ้านเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะเห็นถึงความพยายามเขาเลยกินมันจนหมดไม่เหลือสักเม็ด ชมเธอครั้งแล้วครั้งเล่าว่ามันอร่อยสุด ๆ“หรืออยากกินสปาเก็ตตีขี้เมาแบบวันนั้นอีก?”“เฮียกินอะไรก็ได้ เธอทำอะไรให้กินเฮียก็กินได้ทั้งนั้นแหละ” อธิติคิดแล้วคิดอีกว่าค
29 จากคู่นอนเป็นคู่รักนับจากวันที่อธิติได้สร้างเรื่องเซอร์ไพรซ์กับคนที่บ้านจนถึงวันนี้ก็นับเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว เขาและลลิตาย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดมิเนียมหรูราคาหลายสิบล้านที่ซื้อไว้เก็งกำไร ตอนนี้ลลิตาได้ลาออกจากลุคแล้วกลับเข้ามาทำงานที่เรด ร็อกเก็ตในตำแหน่งหัวหน้าแผนก Project Coordinator ที่ว่างอยู่หลังจากที่เพชรไพลินย้ายกลับไปอยู่อเมริกา ซึ่งทีแรกอธิติไม่ต้องการให้ลลิตาทำงานอะไรเลย เขาอยากให้เมียนอนสบาย ๆ อยู่ที่บ้าน แต่พอเธอยืนกรานว่ายังไงก็ยังอยากออกไปทำงาน เขาก็เสนอให้เธอมาเป็นเลขาของเขา ซึ่งก็อีกเช่นกัน…เธอปฏิเสธ สุดท้ายอธิติก็ต้องยอมตามใจให้ลลิตาไปทำงานในตำแหน่งที่อยากทำตลอดหนึ่งเดือนมานี้สองคนผัวเมียต้องปรับตัวเข้าหากันอย่างมากมาย เพราะไม่เคยได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนี้มาก่อน เถียงกันได้ทุกวัน มีเรื่องให้ต้องทะเลาะกันได้ตลอด แต่พอถึงเวลาเข้านอนก็นอนกกนอนกอดกันแบบไม่เหลือที่เว้นว่าง ส่วนใหญ่เรื่องที่ทะเลาะก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องความไม่เป็นระเบียบของอธิติ เรื่องที่เขาไม่ยกฝาชักโครกบ้าง เรื่องเขาถอดกางเกงในม้วนเป็นเล็กแปดแล้วไม่ยอมใส่ไว้ใน
อธิติจูงมือลลิตาเข้ามาในบ้าน ทีแรกลลิตาบอกว่ายังไม่พร้อมให้อธิติมาเจอป๊าม้าตอนนี้ แต่ฝ่ายชายไม่ยอม เขาบอกว่าถ้าเว้นระยะเวลาอาจทำให้ผู้ใหญ่คิดว่าเขาไม่ให้เกียรติ เข้ามาแล้วก็เห็นกิตติคุณกับวรรณวิมลนั่งทำหน้ากลุ้มใจอยู่ที่โซฟา ส่วนกวินกานต์ก็นั่งอ่านบัญชีอยู่ที่โต๊ะกินข้าวซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน“ป๊า…ม้า…เฮียอี้อยากมาคุยด้วย” ลลิตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่ไม่ทันที่คนเป็นพ่อแม่จะได้ตอบอะไร อธิติก็เข้าไปคุกเข่าตรงหน้าพวกท่านแล้ว“ผมขอโทษเจ๊กกับโกวครับ ที่ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาหรือทำเหมือนไม่ให้เกียรติ ที่มานี่ก็เพื่อจะบอกว่าผมรักและอยากดูแลหลินจริง ๆ และผมเชื่อว่าผมเองสามารถทำให้หลินมีความสุขได้แน่นอน เราสองคนรักกันจริง ๆ ครับ” อธิติยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงเพื่อให้ผู้ใหญ่ยอมรับได้ เลยได้แต่พูดในสิ่งที่คิดเท่านั้น“ถ้าขึ้นตั้งท้อง…โกวว่ามันเกินไปหน่อยนะอี้ สองคนรักกันแล้วทำไมไม่บอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ โกวไม่เคยรู้เลยว่าหลินมีแฟน อยู่ ๆ ก็ท้องขึ้นมาซะอย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหน โต ๆ กันแล้วทำไมเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้?” วรรณวิมลรู้สึกผิดหวังเมื่อได้รู้ว่าลูกสาวคนเล็กท้องก่อนแต่ง
28 ยังไงเธอก็คือคนที่เฮียรักเหมือนเดิมบรรยากาศภายในห้องอาหารอึมครึมและเงียบงันเมื่อทุกคนได้ยินตรงกันว่าอธิติทำให้ลลิตาตั้งท้องอยู่ในเวลานี้ นับว่ายิ่งกว่าเรื่องเซอร์ไพรซ์ คงต้องบอกว่ามันคือเรื่องช็อกที่ทำเอาทุกคนตั้งรับไม่ทัน แม้แต่ลลิตาเองก็ยังตั้งรับกับสิ่งที่อธิติพูดไม่ทัน ใครจะไปคิดว่าเขาจะบ้าเลือดกุเรื่องท้องขึ้นมาเพื่อเอาชนะผู้ใหญ่แบบนั้นผลัวะ!!!วินาทีที่ทุกคำกำลังอึ้ง อ้ายฉิงก็ลุกจากเก้าอี้เข้าไปตบหัวลูกชายอย่างแรงจนหน้าคว่ำ“ม้าทนแกได้ทุกอย่างนะอี้! แต่เรื่องนี้ทนไม่ได้จริง ๆ แกบอกว่าทำหลินเขาท้องอย่างนั้นเหรอ?! สองคนไปรักกันตอนไหน?! แล้วไปทำอีท่าไหนหลินถึงท้องได้?!”“ถ้าจะต้องลงลึกถึงเรื่องท่า…ผมว่ามันจะมากไปหน่อยนะม้า”พลั่ก!!!ครั้งนี้เป็นนพชัยที่ทนความหน้ามึนของลูกชายคนรองไม่ไหว ตบเข้าที่ขมับไปอีกหนึ่งที แต่ดูเหมือนว่าอธิติจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย“ไอ้ลูกบ้า! จนถึงขนาดนี้แล้วแกยังจะมีหน้ามาล้อเล่นอีกเหรอ?!”“เรื่องจริงเหรอหลิน? นี่แกท้องจริง ๆ เหรอ?” กิตติคุณเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวของเขาจะไปลงเอยกับอธิติได้ แสดงว่าที่ผ่านมาที่สองคนสนิทกัน มันมากอะไรมากกว่าที่เห
ทีแรกอธิติจะพาลลิตาไปส่งที่บ้านท้ายซอย แต่แล้วทั้งสองคนก็ได้รับข้อความว่าให้ไปเจอที่ร้านอาหารจีนร้านประจำที่สองครอบครัวชอบไปด้วยกัน พอมาถึงก็เห็นว่าทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่แล้ว“ทำไมมาด้วยกันล่ะ…ไปไหนกันมาเหรอ?” กันต์ธีร์เอ่ยทักทาย ขณะที่อธิติกับลลิตาแยกตัวไปนั่งตรงข้ามกัน ทั้งที่ตอนแรกก็เดินเคียงคู่กันมาแท้ ๆ“เคี้ยวหมูกรอบในปากให้หมดก่อนไหม แล้วค่อยถาม” ลลิตาแยกเคี้ยวใส่เพื่อน“หมดแล้ว” กันต์ธีร์รีบเคี้ยวงับ ๆ แล้วกลืน “ตกลงไปไหนกันมา? ทำไมมาด้วยกัน?”“กูไปรับหลินมาจากออฟฟิศ มึงมีปัญหาอะไรไอ้เฟย?” เป็นอธิติที่ตอบ แล้วคำตอบของเขาก็ทำให้ลลิตาเบิกตาโต ไม่คิดว่าเขาจะตอบออกมาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวแบบนั้น ส่วนคนอื่น ๆ บนโต๊ะก็หันมองกันอย่างแปลกใจ ก็เข้าใจว่าสองคนสนิทกัน…แต่ถึงกับไปรับจากออฟฟิศเพื่อมาที่นี่มันก็แปลก ๆ“อ่าว ๆ อย่าเพิ่งตีกัน ๆ ที่วันนี้เราสองครอบครัวนัดมากินข้าวก็เพราะมีเรื่องสำคัญอยากคุย” นพชัยปรามลูกชาย“เรื่องเที่ยวสิ้นปีเหรอป๊า?” กันต์ธีร์ถามพลางใช้ตะเกียบคีบสามชั้นตุ๋นเข้าปาก “ล็อกวันเดินทางได้เลย ผมจะได้ลางาน”“เรื่องเที่ยวเอาไว้ก่อน ที่จะคุยวันนี้มันสำคัญก
27 เซอร์ไพรซ์!ขับรถออกจากออฟฟิศของลุคมาได้สักพัก อธิติก็เริ่มเปิดเพลงซึ่งเพลงแรกที่เปิดขึ้นมาทำเอาลลิตาที่มองออกไปนอกกระจกรถ ต้องหันกลับมามองหน้าเขา มันเป็นเพลงที่เธอเคยบอกเขาว่าชอบแต่เขากลับบอกว่ามันไม่เพราะเลยสักนิด“อะไรเนี่ยเฮีย…ไม่ชอบเพลงนี้ไม่ใช่เหรอ?” แปลก ๆ เขาบอกว่าจะตามตื๊อหรือตามง้อมันก็ดี เพราะเธออยากเห็นว่าคนอย่างเขามีความพยายามแค่ไหน แต่มันก็ควรทำให้มันพอดี เขาควรจะเป็นตัวเองสิ ไม่ใช่มาเอาใจกันจนเวอร์แบบนี้“ใครบอก?”“เฮียไง ตอนนั้นที่หลินบอกว่าชอบเพลงนี้แล้วเอาให้เฮียฟัง เฮียบอกว่าไม่ชอบ”“แต่ตอนนี้ชอบแล้ว พอได้ฟังอีกครั้งมันก็เพราะดี เหมือนที่เมื่อก่อนเฮียไม่รักเธอ…แต่ตอนนี้โคตรรักเลย” อธิติหันมาสบตาลลิตาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันกลับไปมองทางข้างหน้า จังหวะนั้นเขาแอบยื่นมือหนาไปวางบนหลังมือเล็ก ๆ ที่เธอวางมือบนหน้าตักตัวเอง ยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเมื่อเธอไม่ขยับหนีมือเขา “มือเธอนิ่มดีจัง”“อย่ามาเนียน…ใครให้จับ?”“ปากบอกไม่ให้จับ แต่ก็ไม่ยอมดึงมือออก…เอาจริงเธอก็เป็นคนปากแข็งเหมือนกันนะ” ได้ทีก็เหมือนจะเอาใหญ่ รั้งมือเล็กย้ายมาวางบนหน้าขาตัวเอง สอดสวมห้านิ้วของกันและกันไว้แน่