“รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะคุณเพชร?”หลังจากที่เอายามาให้เพชรไพลินแล้วก็นั่งคุยงานกันต่ออยู่พักหนึ่งลลิตาก็ถามขึ้น จะว่าถามด้วยความเป็นห่วงก็ไม่เชิง หรือจะถามไปเพราะมารยาทก็ไม่น่าจะใช่ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคนตรงหน้าคือแฟนเก่าของอธิติ จริงหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ…แต่ซาร่าบอกว่าเพชรไพลินทิ้งอธิติไปแต่งงาน ทำให้เขาเสียในจนเสียศูนย์นี่สินะผู้หญิงที่เคยได้ครอบครองหัวใจไอ้เฮียอี้!“ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณคุณหลินอีกครั้งนะคะ จะว่าไป…เรามาคุยแบบกันเองดีไหม? สนิทกันไว้จะได้ทำงานกันง่ายขึ้น เรียกพี่เรียกน้องกันดีไหม?”“จะดีเหรอคะ?”“กับหัวหน้าคนเก่าก็ได้ยินมาว่าทุกคนเรียกพี่กัน…ทำไมจะไม่ดีล่ะ พี่เรียกหลินแบบนี้ ส่วนหลินเรียกพี่เพชรดีไหม?”“ก็ได้ค่ะพี่เพชร” สิ่งหนึ่งที่ลลิตารับรู้ได้ก็คือเพชรไพลินไม่ใช่คนมีพิษมีภัย ออกจะน่ารักและเป็นกันเอง ไม่ถือตัว ไม่วางมาดว่าเป็นเจ้านายด้วย มันไม่มีเหตุผลเลยที่ลลิตาจะต้องไม่ชอบหน้า แต่ไม่รู้ทำไม…อยู่ ๆ มันก็รู้สึกไม่สนิทใจแล้วก็วางตัวไม่ถูก“พี่อยากให้หลินช่วยรวบรวมแล้วก็ทำโน้ตข้อมูลของลูกค้ากับทุกแผนกที่เราต้องประสานงานให้หน่อยนะ เป็นไปได้พี่ขอวันนี้เลย แต่ถ้ามันเยอะจ
16 เขาไม่ผิดที่ไม่ได้รักเรด ร็อกเก็ตปิดคลับดังย่านทองหล่อเพื่อเลี้ยงฉลองพนักงานเนื่องในโอกาสที่ทุกคนเหนื่อยมาทั้งปี อีกทั้งยังถือโอกาสเลี้ยงต้อนรับหัวหน้าฝ่ายประสานงานคนใหม่ คนทำงานร่วมสองร้อยคนกำลังดื่มด่ำกับแอลกอฮอล์และครื้นเครงกับเสียงดนตรี อาหารก็มีมากมายให้เลือกกิน จะสั่งเท่าไรก็ได้ไม่มีอั้น ลลิตาไม่ได้ลุกขึ้นเต้นเหมือนคนอื่น ๆ เธอนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะโดยมีพิชญะนั่งเป็นเพื่อน สองคนคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวพิชญะเป็นผู้ชายที่ใจดีและอบอุ่นโดยแท้จริง เขาคอยมองและคอยให้ความสะดวกสบายกับลลิตาอยู่ตลอด คอยยื่นทิชชูให้เธอเช็ดปาก คอยรินเบียร์ให้เพิ่ม ตักอาหารให้เธอบ้างในบางครั้ง นั่งเว้นระยะห่างจากเธอพอประมาณเพื่อความเหมาะสม เขามีสมาธิจดจ่ออยู่กับเธอ ขณะที่เธอเอาแต่มองเพชรไพลินที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกับระดับดาวและจิรกิตอยู่เป็นระยะพอรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ก็อดจะให้ความสนใจไม่ได้ หลายครั้งที่ลลิตาเอาแต่ถามตัวเองว่าเธอนั้นอิจฉาเพชรไพลินหรือยังไงกัน?“วันนี้หลินดื่มหนักมากเลย ดูเหมือนจะเมาแล้วด้วย” พิชญะนึกเป็นห่วงที่ลลิตาดื่มเอา ๆ แววตาก็ดูเหมือนมีเรื่องกังวลถึงเวลานี้จ
“ขอร้อง…ขอให้เพชรได้อธิบาย อี้มาถึงที่นี่ก็เพื่อ…”“ฉันไม่ได้มาหาเธอ! ถอยไปสักที!” เขาจะมารับลลิตากลับบ้าน ปกติเขาไม่ใช่พวกคนชอบใส่อารมณ์ ไม่ใช่คนที่จะหัวร้อนได้ง่าย ๆ แต่พอได้เจอเพชรไพลินเข้าหาแบบหน้าไม่อายทั้งที่เขาต่อว่าเธอไปหลายคำ แถมยังได้มาเห็นลลิตาใกล้ชิดกับพิชญะแบบนี้ ดูเหมือนว่าจะยับยั้งอารมณ์เอาไว้ไม่ได้“พอยท์…พาหลินออกไปสูดอากาศหน่อยได้ไหม?” ลลิตาเองก็ไม่อยากเห็นภาพคนรักเก่างอนง้อกัน หันไปขอพิชญะแล้วชายหนุ่มก็ไม่ปฏิเสธ คว้ามือเล็กแล้วพาลุกออกไปจากตรงนั้นทันที“อย่าทำแบบนี้กับเพชรเลยนะอี้ ให้เพชรได้อธิบายได้ไหม?” เพชรไพลินพยายามยื้ออธิติเอาไว้ เธอมองเขาด้วยสายตาเว้าวอน ขณะที่เขาเอาแต่มองลลิตาที่เดินออกไปจากร้านพร้อมพิชญะ“เวรเอ๊ย!” อธิติสบถออกมาอย่างรำคาญใจ “บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้มาหาเธอ! แล้วก็ไม่อยากฟังคำอธิบายอะไรด้วย! เลิกข้องเกี่ยวกันไปตั้งนานแล้ว…จะยังมาให้เจอหน้าอีกทำไมวะ?! น่ารำคาญฉิบหาย!”คำพูดทุกคำของอธิติส่งตรงไปยังทุกคนไม่ใช่แค่เพียงเพชรไพลิน ในเวลานี้ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงกำลังจ้องไปมองที่เขา ได้ยินหมดทุกคำพูด ได้เห็นสายตาที่บ่งบอกว่าเขาช่างไร้เยื่อใยกับเพชรไพลิน
17 ตามไม่ทันแทนที่อธิติจะพาลลิตากลับบ้าน เขาเลือกจะพาเธอซึ่งเมาไม่สร่างมายังคอนโดมิเนียมหรูที่ซื้อเอาไว้เก็งกำไร ราคาเริ่มต้นของห้องชุดระดับลักชูรีก็อยู่ที่สี่สิบห้าล้านเท่านั้นเอง ควักกระเป๋าจ่ายสดแบบไม่ต้องเสียเวลาผ่อน เงินแค่นั้นไม่ทำให้ขนหน้าแข่งเขาร่วง อุ้มคนตัวเล็กที่สะลึมสะลือลงจากรถแล้วพาขึ้นมาถึงบนห้อง เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าลลิตารู้เรื่องทุกอย่างถึงได้โกรธแบบนั้น แล้วก็คงรู้จากซาร่า ซึ่งมันแปลว่าซาร่าไม่ได้ฟังสิ่งที่เขาพูดไปเลยแม้แต่น้อยเห็นทีต้องจัดการ!“อื้อ! เจ็บ…” ลลิตานิ่วหน้า เอามือถูแขนที่เป็นรอยแดง ทำหน้าบูดหน้าบึ้งลืมตาขึ้นมาในตอนที่อธิติพาเธอมาวางลงบนเตียงในห้องนอน“เจ็บตรงไหน?” ชายหนุ่มถาม เขายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แล้วรอยแดงนี่มันมาจากไหนกัน“ตรงแขน เฮียหยิกหลินทำไม? หลินเจ็บ!”“เดี๋ยว…เฮียหยิกตอนไหน? เฮียยังไม่ได้ทำอะไรเลยหลิน” เขาช่วยเธอลูบรอยแดง พยายามจัดท่าจัดทางให้คนเมานอนดี ๆ สงสัยเธอคงจะโดนมดหรือยุงกัดมา หรือไม่ก็คงไปเดินชนอะไรเข้าตอนอยู่ที่ร้าน แต่แล้วมาหาว่าเขาหยิกเนี่ยนะ?“หยิกหลินทำไม? ที่บอกจะทำโทษ…คือทำให้หลินเจ็บเหรอเฮียอี้?”“ไม่ใช่สักหน่อย อย่างอแงไ
“หลินรู้ว่าเฮียแค่อยากเอาหลินไปวัน ๆ” ลลิตาเอ่ยเสียงเรียบ“พอแล้ว…ไม่ชวนทะเลาะแล้วได้ไหม?”“ไม่ได้ชวนทะเลาะ เราสองคนมาเจอกันแบบนี้ มีความสัมพันธ์แบบนี้ก็เพื่อจะทำเรื่องนั้น แค่อยากจะบอกว่าหลินเองก็แค่อยากเอากับเฮียไปวัน ๆ เหมือนกัน แต่เฮียรู้ใช่ไหม…ว่ามันคงต้องมีสักวันที่หลินเบื่อ”“หลิน”“มันใกล้แล้วเฮีย…ใกล้ถึงเวลาที่หลินจะเบื่อเต็มทนแล้ว” เธอน่ะหรือจะเบื่อเขา? รักขนาดนี้แล้วจะเบื่อเขาได้ยังไง คำว่าเบื่อที่พูดไปมันไม่ได้หมายความตามนั้น มันคือเบื่อที่แปลว่าเจ็บจนอยากพอ เบื่อที่แปลว่าไม่อยากเสียใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว มีแค่ลลิตาเท่านั้นที่รู้ว่าเธอไม่ได้แค่อยากมีเซ็กซ์กับอธิติไปวัน ๆ เธอหวังมากกว่านั้นเยอะ เป็นหวังที่ไม่กล้าหวัง หวังทั้ง ๆ ที่ไม่ควรจะหวังเลยด้วยซ้ำ “ถึงตอนนั้น ถ้าหลินบอกว่าเบื่อ ถ้าหลินบอกว่าจะหยุดความสัมพันธ์นี้แล้วไปมีแฟน เฮียต้องยอมให้หลินไปจริง ๆ นะ”“อืม ถ้าถึงวันนั้น…เฮียจะยอม แต่ในเมื่อมันยังมาไม่ถึง…เราก็อย่าเพิ่งพูดถึงมันเลย”“อืม” ลลิตาพยักหน้าตอบรับก่อนจะโน้มรอบคอแกร่งเข้ามาจูบแล้วถอนออกมาสบตา “เริ่มเลยไหม? เฮียพาหลินมาที่นี่เพื่อเอาไม่ใช่เหรอ?”“ทำไมต้องพูดแ
18 เรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้การจะทำให้อธิติรักมันยากเกินความสามารถของลลิตา ทำให้เขาหลงก็คงยากไม่ต่างกัน รักกับหลงมันมีแค่เส้นบาง ๆ ที่กั้นอยู่ ทำให้เขาเสพติดเธอจนถอนตัวไม่ขึ้นหรือ…เห็นทีจะมีแค่เธอนี่แหละที่เสพติดเขาอยู่ฝ่ายเดียว แม้ว่าอธิติจะหมกมุ่นกับเรื่องเซ็กซ์ แต่ลลิตาก็อดคิดไม่ได้ว่าหากวันหนึ่งเขาไปเจอผู้หญิงคนอื่นที่ให้สิ่งที่ต้องการได้ เขาก็คงไปคลั่งเธอคนนั้นแทนแล้วจะเอาชนะผู้ชายคนนี้ได้ยังไงกัน?ลลิตานอนเอาคางเกยหลังมือมองอธิติที่จมดิ่งอยู่ในการหลับใหล เล่นบทสวาทผสมด้วยสงครามประสาทกับเธอไปสองยก เขาก็หลับเป็นตาย ส่วนเธอที่สร่างเมาแล้วก็นอนไม่หลับ กำลังครุ่นคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี นับวันมีแต่จะรักเขามากขึ้นเรื่อย ๆ นับวันก็ยิ่งเสพติดเขาจะเหมือนคนบ้า จากที่ไม่คิดว่าจะเสียน้ำตาให้ ตอนนี้เธอร้องไห้เพราะเขาเป็นว่าเล่นจริงอย่างที่พิชญะและซาร่าพูดไว้ว่าอธิติไม่ผิดเลยที่เขาไม่รักเธอ ทุกอย่างเธอกับเขาตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก เขาบอกเธอตั้งแต่วันแรกก่อนจะเริ่มความสัมพันธ์ว่าอย่าเอาใจลงมาเล่น เขาบอกเธอไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วว่าไม่รักเธอ เขาดีกับเธอ เอาใจใส่เธอ หยอกล้อเธอก็เพราะม
“เฮียยอมให้อดีตบงการชีวิต ดีกว่าให้คนอื่นมาชี้นิ้วสั่งให้ทำงั้นทำงี้ พอทำให้ไม่ได้ดั่งใจแล้วก็ทิ้งไป มันเจ็บหลิน…เฮียไม่อยากเสียใจเพราะความรักจนเสียศูนย์เหมือนที่เคยเป็น”“เพราะกลัวเจ็บก็เลยไม่กล้ารักใครอีกงั้นเหรอ?”“…”“เพราะกลัวทำตามที่คนอื่นคาดหวังไม่ได้ ก็เลยยอมทำตัวเป็นพวกโหลยโท่ยเพื่อที่จะได้ไม่มีใครมาคาดหวังงั้นสินะ?”“…”“เฮียแม่ง…ทั้งเห็นแก่ตัวแล้วก็ขี้แพ้ แค่เพราะผู้หญิงคนเดียวที่ทิ้งเฮียไป เฮียยอมทิ้งความสุขไป! พี่เพชรเขาไม่ได้รักเฮียสักนิด…เพราะถ้าเขารัก เขาก็คงไม่ทิ้งเฮียไปหรอก แล้วทำไมเฮียจะต้องเป็นแบบนี้เพราะคนที่ไม่รักเฮียด้วย?! เฮียไม่อยากมีความสุขเหรอ? ไม่อยากมีความรักดี ๆ กับคนที่เขารักเฮียหรือไง?”“มีสิ ตอนนี้เฮียก็มีความสุขดี เฮียมีเธอไง…รู้ไหมว่าเธอน่ะเป็นหนึ่งในความสุขของเฮีย”“…” ได้ยินคำนั้นแล้วลลิตาก็นิ่งไปทันที อธิติไม่ได้หันมาสบตา…แต่เขาคว้าเอามือเธอไปกุมไว้พร้อมยกขึ้นจูบหลังมือหนึ่งครั้ง“เฮียชอบเวลาที่อยู่กับเธอนะ อยากให้เป็นงี้ไปตลอดแต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้”“…” ก็รักหลินสิ รักหลินสักทีเถอะเฮียอี้ แล้วเราสองคนจะได้มีความสุขกันไปตลอดไง อยากจะพูดคำนั้นออกไปใจจ
19 ปล่อยให้ความคิดทำร้ายหัวใจบ้านทั้งหลังเงียบสงบเพราะไม่มีใครอยู่นอกจากอธิติ ลลิตาเดินขึ้นมายังชั้นสอง หยุดตรงหน้าประตูห้องเพื่อเรียกสติและความกล้า เธอตั้งใจจะทำอย่างที่ซาร่าแนะนำ เพื่อนพูดถูก…อย่างน้อยเธอควรได้ฟังจากปากเขา ให้เขาพูดออกมาเลยว่าไม่รักเธอ แบบนั้นมันอาจช่วยให้เธอตัดใจได้ง่ายกว่า หรือถ้าหากเขาได้ยินจากปากว่าเธอรัก บางทีมันอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้“เข้า ๆ เออ! แบบนั้นแหละ! เก็บตัวหน้าก่อน! แจ๋ว! เดี๋ยวกูเอาตัวแทงค์มันเอง! ตายแล้ว ๆ ไปต่อ!”รวบรวมความกล้าได้ลลิตาก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง สิ่งแรกที่ได้เห็นคืออธิติที่กำลังเล่นเกมอยู่อย่างเมามัน เขาไม่ได้หันมามองเธอ…เพราะตามัวแต่จ้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออาจเห็นผ่านทางหางตาแล้วแต่ไม่สนใจ ยังคงพูดภาษาเกมกับเพื่อนที่คุยกันผ่านแอปพลิเคชันดิสคอร์ดต่อไป“เฮีย…” ลลิตาเดินไปหยุดที่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ เรียกเขาทั้ง ๆ ที่เขายังคงสวมหูฟังอยู่“เอาตัวนั้นก่อน! ฆ่าตัวซัพพอร์ตก่อน! ตายแล้ว ๆ แจ่มเพื่อน! ซัดตัวล้วงมันต่อเลย”“เฮียอี้” พอเห็นว่าเขาไม่สนใจลลิตาเลยแง้มหูฟังเขาออกเล็กน้อย ครั้งนี้เขาถึงได้หันมาเห็น“รอแ
บทส่งท้ายในที่สุดวันที่ลลิตาและอธิติรอคอยก็มาถึง เป็นวันงานแต่งงานของเขาและเธอ ซึ่งแม้ว่าทั้งสองจะมีเชื้อสายจีนแต่ก็เลือกจะจัดงานตามความสะดวก เป็นพิธีแบบผสมผสานไม่ได้ตรงตามแบบแผนใด ๆ ช่วงเช้าจัดเป็นพิธีหมั้น มีการสวมแหวนและมอบสินสอด ส่วนช่วงบ่ายจนถึงเย็นก็เป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในสวนดอกไม้เจ้าบ่าวในชุดสูทสีน้ำเงินยืนรอเจ้าสาวอยู่ที่ซุ้มดอกไม้ เขาเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเพลงบรรเลงเริ่มดังขึ้น หัวใจมันเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เขาที่เคยผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิตจนล้มเลิกความคิดเรื่องแต่งงานไปแล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่าสุดท้ายจะอยากแต่งงานกับใครสักคนขึ้นมาอีกครั้ง และไม่คิดเช่นกันว่าคนคนนั้นจะเป็นลลิตา น้องสาวที่เขาเห็นหน้าเห็นตามาตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยคิดว่าจะรักเธอในรูปแบบนี้มาตั้งแต่แรกเขาไม่เคยคิดว่าชีวิตจะอยู่โดยมีเธอเข้ามาเป็นแรงผลักดันไม่เคยคิดเลยว่าอยู่ ๆ จะอยากเป็นเสาหลักค้ำชูใครจนกระทั่งเขาได้ตกหลุมรักเธอเข้าเต็มหัวใจถามว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เขารักเธอได้มากมายขนาดนี้ อธิติตอบไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าเริ่มรักเธอในฐานะผู้ชายคนหนึ่งตอนไหน ไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรถึงรัก รู้เพียงแต่ว่า…ไม่มีเธออยู่เคียงข
“คิดว่าเฮียรู้ไม่ทันเหรอว่าเธอแกล้ง?”“หลินแกล้งเฮียบ้างไม่ได้เหรอ? ทีเฮียชอบแกล้งหลินล่ะ?” ลลิตาเชิดหน้าพร้อมรอยยิ้มอย่างคนท้าทาย แต่สุดท้ายก็ต้องนิ่วหน้าเสียวเมื่ออธิติล้วงลึกเข้าไปถึงจุดสั่นไหว “อื้อ…เฮียอี้!”“เปียกเฉย…แค่อมให้เฮียก็ทำให้เธอเสียวได้เหรอ?”“คิดว่าตัวเองอยากเป็นคนเดียวหรือไง?”“บอกเฮียสิว่าเธออยากมากแค่ไหน” สองคนจ้องตากันและกัน เรียวนิ้วของอธิติสอดลึกเข้าถึงโพรงอุ่น ตวัดเกี่ยวกระทำความเสียวซ่านให้คนตัวเล็ก แล้วเธอก็ร่อนโยกสู้เรียวนิ้วเขาเป็นจังหวะ“อ๊ะ! โคตรอยากเลย…ฮึก! เฮียขา…หลินอยากโดนเฮียกระแทกแรง ๆ”“แรงแค่ไหน?”“แรงที่สุด…ฮึก! เฮียอี้…เอาหลินหน่อย…อ๊าห์! เอาหลินทีเฮียอี้” ไม่มีเหตุผลให้ลลิตาต้องเขินอาย อีกไม่กี่วันคนตรงหน้าก็จะได้ชื่อว่าเป็นสามีเธอแล้ว ความต้องการมันบังคับให้เธอร้องขอ โอบรอบคอเขามาประกบปากจูบ จูบแล้วก็จูบอีกทว่ามันยังไม่หนำใจ เหมือนได้เท่าไรก็ไม่พอ“ไม่อยากให้เฮียเลียให้ก่อนเหรอ?”“ฮึก! ไม่ต้องแล้ว…ใส่มาเลยได้ไหม? หลินต้องการเฮียจนจะทนไม่ไหวแล้ว อ๊ะ! อ๊าห์!” พูดไม่ทันขาดคำอธิติก็มอบสิ่งที่ลลิตาโหยหาให้เธอ ถลกชุดลูกไม้บาง ๆ ขึ้นแล้วเอาความเป็นเ
30 ที่รักกลับมาถึงคอนโดมิเนียมลลิตาก็เข้าครัวไปทำมื้อเย็น ส่วนอธิติก็เข้าห้องทำงานไปเคลียร์งานของตัวเอง ช่วงนี้เขาต้องทำงานหนักเพราะมีเกมใหม่ที่กำลังสร้าง ทำงานไปได้สักพักลลิตาก็มาเรียกให้ไปกินข้าว ดูเหมือนว่าความพยายามของลลิตาจะเริ่มแสดงผล เพราะข้าวอบกุ้งวันนี้รสชาติดีกว่าครั้งก่อน ข้าวสุกทุกเม็ด รสชาติไม่เค็มโดดแล้ว ถือว่าเป็นเมนูที่อร่อยใช้ได้“อร่อยไหม?” หญิงสาวเอ่ยถาม เธอชอบใจและมีความสุขทุกครั้งที่เห็นอธิติกินอาหารฝีมือเธอ“อะไรที่เธอทำก็อร่อยทั้งนั้นแหละ ถึงเธอเอาดินเอาโคลนมาให้กิน…เฮียก็ว่าอร่อย”“เวอร์! ใครจะเอาดินเอาโคลนมาให้สามีกิน”“…” เมนูแรกที่เธอทำก็เหมือนเอาโคลนมาผัด อธิตินึกอยากจะพูดคำนั้นแต่ไม่กล้า เขาไม่ใช่พ่อบ้านใจกล้าและไม่ชอบเวลาเมียงอนด้วย อีกอย่าง…คืนนี้เขายังอยากให้เธอง้ออยู่“ยังงอนหลินอยู่อีกเหรอ? หลินบอกแล้วไงว่าที่พูดไปว่าขาดทุนอะ มันไม่ได้หมายความว่าอยากไปนอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่เฮีย…ขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อใจกันอีกเหรอ?”“ใครจะไปรู้ ต่อไปถ้าเจอใครมาทำเหมือนว่าเคยนอนกับเฮียอีก…เธอจะไม่พูดเรื่องนั้นขึ้นมาอีกเหรอ?” ที่จริงเขาหายโกรธหายงอนไปตั้งแต่ที่ได้ยินคำว่า
ลลิตาไม่ใช่แม่ศรีเรือนที่ชอบทำงานบ้านหรือทำกับข้าวเก่ง อาจต้องพูดว่าเธอแทบจะทำอาหารไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อรู้ตัวว่าจะต้องแต่งงานและเป็นแม่ของลูกในสักวัน เธอก็พยายาม…เริ่มทำงานบ้านให้ติดเป็นนิสัย เริ่มเข้าครัวฝึกทำอาหาร ซึ่งคนแรกและคนเดียวที่ต้องเป็นหนูทดลองชิมอาหารฝีมือเธอก็คือว่าที่คุณสามีหลังเลิกงานทั้งสองคนมักจะแวะซุปเปอร์เพื่อซื้อของเข้าบ้าน อธิติชอบทุกครั้งที่ได้มาซื้อของกับลลิตาแบบนี้ เขาจะคอยโอบเอว โอบไหล่เธอแบบที่ไม่ปล่อยให้เดินห่างจากกาย ไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหนเขาก็จะรีบตามติดเหมือนเป็นเงาตามตัว“วันก่อนที่หลินทำข้าวอบกุ้งให้กิน เฮียชอบไหม? อยากกินอีกไหม?” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่สองคนกำลังเดินเลือกซื้ออาหารสด“ข้าวอบกุ้งเหรอ?” อธิติจำได้ดีข้าวอบกุ้งที่เม็ดข้าวยังแข็งเพราะไม่สุกดี รสชาติก็เค็มจนแทบกลืนไม่ลง พูดได้เลยว่าลลิตาไม่เหมาะกับงานในบ้านเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะเห็นถึงความพยายามเขาเลยกินมันจนหมดไม่เหลือสักเม็ด ชมเธอครั้งแล้วครั้งเล่าว่ามันอร่อยสุด ๆ“หรืออยากกินสปาเก็ตตีขี้เมาแบบวันนั้นอีก?”“เฮียกินอะไรก็ได้ เธอทำอะไรให้กินเฮียก็กินได้ทั้งนั้นแหละ” อธิติคิดแล้วคิดอีกว่าค
29 จากคู่นอนเป็นคู่รักนับจากวันที่อธิติได้สร้างเรื่องเซอร์ไพรซ์กับคนที่บ้านจนถึงวันนี้ก็นับเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว เขาและลลิตาย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดมิเนียมหรูราคาหลายสิบล้านที่ซื้อไว้เก็งกำไร ตอนนี้ลลิตาได้ลาออกจากลุคแล้วกลับเข้ามาทำงานที่เรด ร็อกเก็ตในตำแหน่งหัวหน้าแผนก Project Coordinator ที่ว่างอยู่หลังจากที่เพชรไพลินย้ายกลับไปอยู่อเมริกา ซึ่งทีแรกอธิติไม่ต้องการให้ลลิตาทำงานอะไรเลย เขาอยากให้เมียนอนสบาย ๆ อยู่ที่บ้าน แต่พอเธอยืนกรานว่ายังไงก็ยังอยากออกไปทำงาน เขาก็เสนอให้เธอมาเป็นเลขาของเขา ซึ่งก็อีกเช่นกัน…เธอปฏิเสธ สุดท้ายอธิติก็ต้องยอมตามใจให้ลลิตาไปทำงานในตำแหน่งที่อยากทำตลอดหนึ่งเดือนมานี้สองคนผัวเมียต้องปรับตัวเข้าหากันอย่างมากมาย เพราะไม่เคยได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนี้มาก่อน เถียงกันได้ทุกวัน มีเรื่องให้ต้องทะเลาะกันได้ตลอด แต่พอถึงเวลาเข้านอนก็นอนกกนอนกอดกันแบบไม่เหลือที่เว้นว่าง ส่วนใหญ่เรื่องที่ทะเลาะก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องความไม่เป็นระเบียบของอธิติ เรื่องที่เขาไม่ยกฝาชักโครกบ้าง เรื่องเขาถอดกางเกงในม้วนเป็นเล็กแปดแล้วไม่ยอมใส่ไว้ใน
อธิติจูงมือลลิตาเข้ามาในบ้าน ทีแรกลลิตาบอกว่ายังไม่พร้อมให้อธิติมาเจอป๊าม้าตอนนี้ แต่ฝ่ายชายไม่ยอม เขาบอกว่าถ้าเว้นระยะเวลาอาจทำให้ผู้ใหญ่คิดว่าเขาไม่ให้เกียรติ เข้ามาแล้วก็เห็นกิตติคุณกับวรรณวิมลนั่งทำหน้ากลุ้มใจอยู่ที่โซฟา ส่วนกวินกานต์ก็นั่งอ่านบัญชีอยู่ที่โต๊ะกินข้าวซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน“ป๊า…ม้า…เฮียอี้อยากมาคุยด้วย” ลลิตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่ไม่ทันที่คนเป็นพ่อแม่จะได้ตอบอะไร อธิติก็เข้าไปคุกเข่าตรงหน้าพวกท่านแล้ว“ผมขอโทษเจ๊กกับโกวครับ ที่ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาหรือทำเหมือนไม่ให้เกียรติ ที่มานี่ก็เพื่อจะบอกว่าผมรักและอยากดูแลหลินจริง ๆ และผมเชื่อว่าผมเองสามารถทำให้หลินมีความสุขได้แน่นอน เราสองคนรักกันจริง ๆ ครับ” อธิติยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงเพื่อให้ผู้ใหญ่ยอมรับได้ เลยได้แต่พูดในสิ่งที่คิดเท่านั้น“ถ้าขึ้นตั้งท้อง…โกวว่ามันเกินไปหน่อยนะอี้ สองคนรักกันแล้วทำไมไม่บอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ โกวไม่เคยรู้เลยว่าหลินมีแฟน อยู่ ๆ ก็ท้องขึ้นมาซะอย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหน โต ๆ กันแล้วทำไมเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้?” วรรณวิมลรู้สึกผิดหวังเมื่อได้รู้ว่าลูกสาวคนเล็กท้องก่อนแต่ง
28 ยังไงเธอก็คือคนที่เฮียรักเหมือนเดิมบรรยากาศภายในห้องอาหารอึมครึมและเงียบงันเมื่อทุกคนได้ยินตรงกันว่าอธิติทำให้ลลิตาตั้งท้องอยู่ในเวลานี้ นับว่ายิ่งกว่าเรื่องเซอร์ไพรซ์ คงต้องบอกว่ามันคือเรื่องช็อกที่ทำเอาทุกคนตั้งรับไม่ทัน แม้แต่ลลิตาเองก็ยังตั้งรับกับสิ่งที่อธิติพูดไม่ทัน ใครจะไปคิดว่าเขาจะบ้าเลือดกุเรื่องท้องขึ้นมาเพื่อเอาชนะผู้ใหญ่แบบนั้นผลัวะ!!!วินาทีที่ทุกคำกำลังอึ้ง อ้ายฉิงก็ลุกจากเก้าอี้เข้าไปตบหัวลูกชายอย่างแรงจนหน้าคว่ำ“ม้าทนแกได้ทุกอย่างนะอี้! แต่เรื่องนี้ทนไม่ได้จริง ๆ แกบอกว่าทำหลินเขาท้องอย่างนั้นเหรอ?! สองคนไปรักกันตอนไหน?! แล้วไปทำอีท่าไหนหลินถึงท้องได้?!”“ถ้าจะต้องลงลึกถึงเรื่องท่า…ผมว่ามันจะมากไปหน่อยนะม้า”พลั่ก!!!ครั้งนี้เป็นนพชัยที่ทนความหน้ามึนของลูกชายคนรองไม่ไหว ตบเข้าที่ขมับไปอีกหนึ่งที แต่ดูเหมือนว่าอธิติจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย“ไอ้ลูกบ้า! จนถึงขนาดนี้แล้วแกยังจะมีหน้ามาล้อเล่นอีกเหรอ?!”“เรื่องจริงเหรอหลิน? นี่แกท้องจริง ๆ เหรอ?” กิตติคุณเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวของเขาจะไปลงเอยกับอธิติได้ แสดงว่าที่ผ่านมาที่สองคนสนิทกัน มันมากอะไรมากกว่าที่เห
ทีแรกอธิติจะพาลลิตาไปส่งที่บ้านท้ายซอย แต่แล้วทั้งสองคนก็ได้รับข้อความว่าให้ไปเจอที่ร้านอาหารจีนร้านประจำที่สองครอบครัวชอบไปด้วยกัน พอมาถึงก็เห็นว่าทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่แล้ว“ทำไมมาด้วยกันล่ะ…ไปไหนกันมาเหรอ?” กันต์ธีร์เอ่ยทักทาย ขณะที่อธิติกับลลิตาแยกตัวไปนั่งตรงข้ามกัน ทั้งที่ตอนแรกก็เดินเคียงคู่กันมาแท้ ๆ“เคี้ยวหมูกรอบในปากให้หมดก่อนไหม แล้วค่อยถาม” ลลิตาแยกเคี้ยวใส่เพื่อน“หมดแล้ว” กันต์ธีร์รีบเคี้ยวงับ ๆ แล้วกลืน “ตกลงไปไหนกันมา? ทำไมมาด้วยกัน?”“กูไปรับหลินมาจากออฟฟิศ มึงมีปัญหาอะไรไอ้เฟย?” เป็นอธิติที่ตอบ แล้วคำตอบของเขาก็ทำให้ลลิตาเบิกตาโต ไม่คิดว่าเขาจะตอบออกมาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวแบบนั้น ส่วนคนอื่น ๆ บนโต๊ะก็หันมองกันอย่างแปลกใจ ก็เข้าใจว่าสองคนสนิทกัน…แต่ถึงกับไปรับจากออฟฟิศเพื่อมาที่นี่มันก็แปลก ๆ“อ่าว ๆ อย่าเพิ่งตีกัน ๆ ที่วันนี้เราสองครอบครัวนัดมากินข้าวก็เพราะมีเรื่องสำคัญอยากคุย” นพชัยปรามลูกชาย“เรื่องเที่ยวสิ้นปีเหรอป๊า?” กันต์ธีร์ถามพลางใช้ตะเกียบคีบสามชั้นตุ๋นเข้าปาก “ล็อกวันเดินทางได้เลย ผมจะได้ลางาน”“เรื่องเที่ยวเอาไว้ก่อน ที่จะคุยวันนี้มันสำคัญก
27 เซอร์ไพรซ์!ขับรถออกจากออฟฟิศของลุคมาได้สักพัก อธิติก็เริ่มเปิดเพลงซึ่งเพลงแรกที่เปิดขึ้นมาทำเอาลลิตาที่มองออกไปนอกกระจกรถ ต้องหันกลับมามองหน้าเขา มันเป็นเพลงที่เธอเคยบอกเขาว่าชอบแต่เขากลับบอกว่ามันไม่เพราะเลยสักนิด“อะไรเนี่ยเฮีย…ไม่ชอบเพลงนี้ไม่ใช่เหรอ?” แปลก ๆ เขาบอกว่าจะตามตื๊อหรือตามง้อมันก็ดี เพราะเธออยากเห็นว่าคนอย่างเขามีความพยายามแค่ไหน แต่มันก็ควรทำให้มันพอดี เขาควรจะเป็นตัวเองสิ ไม่ใช่มาเอาใจกันจนเวอร์แบบนี้“ใครบอก?”“เฮียไง ตอนนั้นที่หลินบอกว่าชอบเพลงนี้แล้วเอาให้เฮียฟัง เฮียบอกว่าไม่ชอบ”“แต่ตอนนี้ชอบแล้ว พอได้ฟังอีกครั้งมันก็เพราะดี เหมือนที่เมื่อก่อนเฮียไม่รักเธอ…แต่ตอนนี้โคตรรักเลย” อธิติหันมาสบตาลลิตาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันกลับไปมองทางข้างหน้า จังหวะนั้นเขาแอบยื่นมือหนาไปวางบนหลังมือเล็ก ๆ ที่เธอวางมือบนหน้าตักตัวเอง ยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเมื่อเธอไม่ขยับหนีมือเขา “มือเธอนิ่มดีจัง”“อย่ามาเนียน…ใครให้จับ?”“ปากบอกไม่ให้จับ แต่ก็ไม่ยอมดึงมือออก…เอาจริงเธอก็เป็นคนปากแข็งเหมือนกันนะ” ได้ทีก็เหมือนจะเอาใหญ่ รั้งมือเล็กย้ายมาวางบนหน้าขาตัวเอง สอดสวมห้านิ้วของกันและกันไว้แน่