Home / LGBTQ+ / ดลรวีที่รัก / บทที่ ๒๕ คาดการณ์ (๕๐%)

Share

บทที่ ๒๕ คาดการณ์ (๕๐%)

last update Last Updated: 2024-12-31 18:00:43

เพราะตอนนี้ที่สำนักงานตำรวจพระนครขาดผู้กำกับ ภาระงานส่วนใหญ่ของลูกพี่ไกรวิชญ์ถึงตกมาอยู่ในมือเขานายตำรวจพดุงกิตติ์ ชยธาดา ซึ่งมันไม่ใช่ตัวเขาเลยสักนิด! เขารู้ว่าไอ้ไกรมันทำผิดก็ต้องโดนโทษตามกฎหมายแต่นี้มันคล้ายกับการโยนขี้ชัด ๆ ดีหน่อยที่มันตั้งใจจะมอบตัวจึงจัดการงานเอาไว้จนเหลือส่วนน้อยแล้ว แต่คำว่า ‘น้อย’ ของคนเรามันไม่เท่ากัน และเขาซึ่งต้องก้มหน้าทำงานงก ๆ กับเอกสารกองพะเนิน ในตอนเย็นจึงต้องมารบกวนบ้านก้องภัชรกุล เพราะที่สน.ไม่มีใครจะให้บ่นให้ฟัง เนื่องจากเจ้าคนฟังมันกำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์สบายใจเฉิบอยู่ ณ โต๊ะทานข้าวชั้นสอง

พูนในเครื่องแบบตำรวจนอนฟุบหลอมเหลวไปกับโต๊ะไม้ ส่งเสียงโอดโอยด้วยความเหนื่อยล้า แล้วก็เชื่อเขาเลยว่าไอ้ไกรมันจะปิดบังเรื่องพวกนี้เอาไว้ ถึงมันจะนานมากมากกว่า ๑๐ ปีทั้งยังไม่ใช่ความผิดของเจ้าตัวเต็มประดาก็ตามทีเถอะ แต่หากมองในมุมไอ้ไกรเรื่องพวกนี้ก็ไม่ควรเอาไปพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอยู่ดี

“เฮ้อ”

“เอ็งถอนหายใจมาจะสิบรอบแล้วนะไอ้พูน”

“ก็มันเหนื่อย เอ็งทำงานแบบนั้นเข้าไปได้ยังไงทุกวันวะ”

“มันชินมือไปแล้ว”

Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๕ คาดการณ์ (๑๐๐%)

    “คุณดลรวี วันนี้เราไปกินร้านอะไรดีครับ?”อาจารย์ชาวญี่ปุ่นวันนี้มาในเสื้อสูทแขนยาวเต็มยศอีกเช่นเคยทั้งยังใส่เสื้อกั๊กเอาไว้ด้านในเพิ่มความอบอุ่น เจ้าตัวกระชับแว่นเปิดสมุดจดเล่มน้อยขึ้นมาพูดจาเจื้อยแจ้วถึงชื่อร้านที่เขาเองก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง สุดท้ายเพราะความที่เขาอยากกินอะไรเบา ๆ จึงมาจบที่ร้านข้าวต้มร้านแห่งนี้เป็นร้านเล็ก ๆ สร้างขึ้นจากไม้เป็นส่วนใหญ่ ข้าวของเครื่องใช้ดูเก่าแก่และมีอายุมานาน รวมไปถึงคุณตาเจ้าของร้านที่ดูเหมือนจะเป็นคนญี่ปุ่นมาก่อน เจ้าตัวพอได้เจอคนชาติเดียวกันอย่างอาจารย์ดันกิก็จิตใจดีแถมเครื่องใส่นู่นนี่ให้ยกใหญ่จนจากชามถ้วยน้อยตอนนี้พูนไปด้วยเนื้อหมูผักสับและกระเทียมเจียวจนมองไม่เห็นเนื้อข้าวที่อยู่ด้านใต้กลิ่นหอมของชาที่ใส่แทนน้ำเปล่าโชยมา ชวนให้ด้วงรู้สึกผ่อนคลายจากความอ่อนล้าสะสมที่ไม่รู้ตัวเองไปเอามาจากไหน นายสถานีค่อย ๆ หยิบช้อนกระเบื้องขึ้นตักเนื้อข้าวขึ้นเป่าอย่างละเมียดละไมเป็นภาพอันน่ามองสำหรับดันกิเป็นอย่างมาก“ผมหวังว่าร้านนี้จะถูกปากคุณนะครับ”“มีร้านไหนที่คุณแนะนำแล้วผมไม่ชอบบ้างล่ะครับ”

    Last Updated : 2025-01-01
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๖ ยินดี (๕๐%)

    ในคราวแรกเนื่องจากเขาและพี่ไกรต้องออกไปทำงานจึงไม่ได้จ้างอาจารย์เจ้ามาสอนตลอดทั้งสัปดาห์แม้กันต์ธีร์จะต้องการก็ตามเพราะอย่างไรเจ้าตัวก็ถือเป็นคนนอก คนที่อยู่บ้านมีเพียงแม่และลุงแดงพ่อบ้านมีอายุจึงไม่เป็นที่วางใจเท่าไรนัก แต่ในเมื่อตอนนี้พี่ต้องอยู่บ้านตลอดตามคำสั่งศาลพวกเขาจึงตกลงกับครูอุ่นอีกครั้งเรื่องมาสอนทั้งสัปดาห์และหยุดวันอาทิตย์แทนจนกว่าจะจบหนังสือม.๑ ที่หลานรักจำต้องเข้าใจก่อนเลื่อนระดับชั้นทีแรกเขาบอกปากเปียกปากแฉะว่าอยากให้ทั้งอาจารย์ทั้งศิษย์หยุดพักสองวันเสาร์-อาทิตย์ แต่เหมือนยิ่งสนิทยิ่งเข้ากันเป็นปี่ขลุ่ยพูดจาน้ำไหลไฟดับเกลี้ยกล่อมเขาให้ตามใจจนได้ ดังนั้นเมื่อถึงเวลามื้อเที่ยงวันเสาร์เขาจึงอาสาเป็นคนเอาสำรับอาหารไปให้ทั้งสองซึ่งกำลังเรียนอยู่บริเวณโถงชั้นล่างศิษย์อาจารย์นั่งพูดคุยในขณะที่ก้มหน้ามองตัวอักษรในกระดาษ หลานคนเก่งเมื่อได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจบ้าง ถามเมื่อสงสัยบ้าง เป็นบรรยากาศการเรียนการสอนที่ชวนให้อบอุ่นหัวใจ“กันต์ พักมาทานมื้อเที่ยงก่อนมา อาจารย์ก็ด้วยนะครับ”“คร้าบ”“ถ้าคุณไม่ลงมาผมคงลืมเวลาไปแล้วนะเนี่ย”

    Last Updated : 2025-01-02
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๖ ยินดี (๑๐๐%)

    “เครื่องแบบไม่มีที่เป็นแขนยาวสำหรับหน้าหนาวเหรอครับ?”“พวกเราใส่แบบเดียวกันตลอดทั้งปี ไม่มีแยกตามฤดูกาลหรอกครับ”“แบบนี้ก็ไม่ดีน่ะสิ”“ฮ่า ๆ ประเทศนี้ถ้าหนาวมาทีก็ถือว่าบุญส่งแล้วครับ ปกติร้อนเกือบทั้งปี”ด้วงรู้สึกว่าตัวเองตอบคำถามไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่าไรเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนทั้งตอนนี้คุณอุ่นยังเป็นคนเริ่มบทสนทนาอยู่ฝ่ายเดียว เขากลัวอีกฝ่ายจะตั้งแง่สงสัย อย่างน้อยเขาก็ควรเป็นฝ่ายถามกลับไปบ้าง“ถุงหอมที่ให้ไปเป็นยังไงบ้างครับ?”“หอมผ่อนคลายมากเลยครับ ผมห้อยติดกระเป๋าไว้ตลอดเลย”ว่าแล้วอาจารย์แกก็ยกกระเป๋าถือขึ้นมาให้เขาดู บริเวณโลหะข้อต่อหูกระเป๋ามีตาข่ายถุงหอมห้อยอยู่ ด้วงเห็นแล้วก็สะกิดใจ ทั้งที่มันแขวนให้เขาเห็นมาตลอดแต่กลับไม่ได้สังเกตเลย สงสัยต่อจากนี้เขาควรใส่ใจคุณอุ่นให้มากกว่าที่เป็นอยู่เสียแล้ว“ขอบคุณที่เดินมาส่งถึงหน้าบ้านอีกแล้วนะครับ”“ผมก็ขอบคุณที่ให้ผมเดินมาส่งเช่นกันครับ”ก่อนที่อาจารย์เจ้าจะไป ด้วงก็บังเอิญสังเกตไปยังสีท้องฟ้าวันนี้ แล้วจึงหันมาแอบมองนาฬิกาข้อมือของอาจารย์ ไหน ๆ

    Last Updated : 2025-01-03
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๕๐%)

    ‘แม่พึ่งถักแล้วซักเสร็จ ลูกเอาไปใส่ด้วยนะ’แม่บอกเขามาเช่นนั้นพร้อมมอบผ้าพันคอไหมพรมสีเทามาให้ ปกติแล้วบ้านเราไม่ค่อยมีของพวกนี้เท่าไรนักเพราะหน้าหนาวประเทศไทยก็ใช่ว่าจะหนาวมากมาย เผลอ ๆ บางวันร้อนเหมือนเตาถ่าน ทว่าวันนี้เพียงตื่นมาก็ต้องขนลุกซู่เพราะลมหวิวที่แทรกเข้ามาตามช่องไม้ เขาจึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะรับมันมานายสถานีหลังทานข้าวต้มมื้อเช้าเสร็จก็ผูกผ้าพันคอเดินลงมาสวมรองเท้าคู่ใจออกจากบ้านตามปกติ บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างอึมครึมพิกล ทั้งมือเขายังรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ทุกครั้งที่ขยับ อาจเพราะความเย็นกัดผิวก็เป็นได้ เขาหวังว่าเจ็ดโมงที่สถานีจะมีคนต้มน้ำอุ่นเอาไว้จิบคลายความหนาวเดินไปเรื่อยจู่ ๆ ก็รู้สึกหิวทั้งที่พึ่งกินมา จะว่าไปเมื่อเช้าแทบไม่ได้แตะอะไรไปเท่าไรนัก ข้าวในถ้วยก็น้อยนิดแต่กว่าจะฝืนกินจนหมดก็นานโข กินอะไรไม่ลงแบบนี้ค่อนข้างส่งผลร้ายต่อร่างกายหลายด้านเลยเชียวยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนเขาก็ดันฝันถึงเรื่องเดิม ๆ จนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกอีกแล้ว ตอนแรกคิดว่าอาจเพราะชอบนอนคุดคู้เอาหน้าซุกผ้าห่มจนหายใจไม่ออกแต่มันไม่ใช่เลย ที่ฝันร้ายนั่นกลับม

    Last Updated : 2025-01-04
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๑๐๐%)

    “ขี้เกียจทำงานแล้ว...เฮ้อ”เสียงบ่นอิดออดนั่นออกมาจากปากเพื่อนเพียงคนเดียวของไกรวิชญ์อย่างเจ้าพูนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะทำงาน ไกรวิชญ์ซึ่งชินชากับนิสัยนั้นแล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปหลังไม่ได้แตะปากกากับกระดาษมานานหลักเดือนพันโทหรี่ตามองคุณพ่อตำรวจทำงานไฟลุกด้วยหน้าตาอันเรียบเฉย ถ้าเป็นเขาโดนหักเงินเดือนคงไม่มานั่งตั้งใจทำงานเกินค่าจ้างแบบนี้หรอก ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้งเป็นการพ่นความเครียดที่ไม่มีอยู่จริงออกมา‘เมื่อไหร่จะจับพวกมันให้หมดสักที รู้ไหมพวกฉันกังวลแค่ไหน!?’‘ทำงานให้มันดี ๆ หน่อย!’‘ถ้าจะชักช้ายืดยาดแบบนี้ก็ไม่ต้องเป็นหรอกตำรวจน่ะ!!’พูนได้ยินเสียงโวยวายของชาวบ้านแว่วมาจากทางด้านนอกก็เอือมระอา ในตอนที่ไกรมันไม่อยู่ก็เป็นเขาที่บากหน้าออกไปรับคำดุด่าว่ากล่าวแทน เอาเข้าจริงใช่ว่าพวกเขาตลอดทั้งเดือนที่พยายามสืบหากันมาก็ทยอยจับมาได้เรื่อย ๆ แต่เพราะนี่เป็นข่าวใหญ่ที่ยังลงสื่อวิทยุและหนังสือพิมพ์ทางการ ไม่แปลกที่ผู้คนจะให้ความสนใจและเพ่งเล็งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างพวกเขาขนาดนี้“เมื่อวานก็มา พวกป้

    Last Updated : 2025-01-05
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๕๐%)

    “แหม ถือร่มมารับเลยนะครับ”“ก็ฝนตกมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับ”แผนซึ่งมาโบกธงเจอหน้าคนรักของเพื่อนพอดีจึงถือโอกาสสนทนาระหว่างด้วงมันกลับมาจากห้องน้ำ หลังจากวันที่ไอ้ด้วงเป็นลม อาจารย์คนนี้คล้ายจะประคบประหงมเป็นพิเศษเพราะรถไฟพึ่งออกและยังอยากตากลมเย็นจึงนั่งบนเก้าอี้รอไอ้ด้วงเป็นเพื่อนอาจารย์ชาวญี่ปุ่น เรื่องราวที่เขาเข้าใจกับที่เกิดขึ้นมันย้อนแย้งกันไปคนละทิศละทาง แต่อย่างไรก็โต ๆ กันแล้ว หากเพื่อนเขาตัดสินใจแบบไหนเขาก็ตามนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหรอกเพียงแต่...เขาในฐานะเพื่อนจริง ๆ ก็คอยจับสังเกตมาตลอด เคยลองเซ้าซี้ทว่ามันกลับเอาแต่บอกว่าไม่มีอะไร ไม่นู่น ไม่นี่จนเขาเหนื่อยหน่าย ทำได้เพียงมองเมียงกลัวมันจะเป็นอะไรเข้าในสักวัน และก็เป็นไปตามคาดจริง ๆ ไม่รู้มันไปเอาความเครียดมาจากไหนเยอะแยะจนแต่ละวันน้อยครั้งนักที่จะเห็นมันยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ขนาดคนรักเจ้าตัวมาพูดคุยด้วยก็ยังคงทำหน้านิ่งเฉย ต่างจากสมัยยังเป็นเพื่อนผู้โดยสารลิบลับ“ขอโทษที่ต้องให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไรครับ”แผนโบกมือลาเจ้าเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายของวันเพรา

    Last Updated : 2025-01-06
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๑๐๐%)

    เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมนักโทษที่หลบหนีได้ทั้งหมด แม้มันจะเหลือเพียงส่วนน้อยแล้วก็ตามแต่อย่างไรเพื่อความปลอดภัยของผู้คนในเขตนั้น ๆ เมื่อได้เบาะแสอะไรมาพวกเขาจึงต้องเอามาร่วมพิจารณา ยิ่งไปกว่านั้นคดีที่ค้างคาอยู่ก็ยังต้องนำมาพูดถึงเป็นลำดับไปสำหรับการวางแผนในอนาคตอีก“ขอบคุณทุกคนมาก กลับบ้านได้”เป็นไกรวิชญ์ที่กล่าวประโยคนั้น แม้เพื่อนร่วมงานสน.นี้จะขยันขันแข็งกันขนาดไหน แต่เขาก็เข้าใจหัวอกบางคนที่มีลูกมีเมียอยู่บ้าน หากเขารั้งไว้คงจะไม่เป็นการดีนัก“ไอ้ไกร วันนี้ไม่ใช่เวรเอ็งไม่ใช่เหรอ?”พูนกลับมาจากโต๊ะประชุมพร้อมเพื่อนในขณะที่เขาเก็บของลงกระเป๋า แต่ไกรมันกลับนั่งลงหยิบสำนวนขึ้นมาเปิดไปมาเสียอย่างนั้น“ขอทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน”“ขี้เกียจบ้างเถอะพ่อคุณ”“ไว้ค่อยทีหลัง”“แบบนี้น้องไม่ห่วงแย่แล้วรึ?”“ด้วงจะมาห่วงอะไรฉัน”“ใช่ว่าเขามีชิ้นแล้วจะเมินเอ็งสักหน่อย”“ช่างฉันเถอะน่ะ”เพราะรำคาญเสียงจ้อกแจ้กของเพื่อนจึงบอกปัดไป ก่อนจะต่างฝ่ายต่างโบกมือลา ไกรวิชญ์จึงได้กลับมาตั้งสมาธิก

    Last Updated : 2025-01-07
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๕๐%)

    เสียงพื้นรองเท้ากระทบฝนยังคงไม่หายไปแม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบหนึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ไกรวิชญ์ได้รับโทรศัพท์มาจากแม่เลี้ยงแล้วก็ตาม แน่นอนว่าเขาไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังคงสวมเครื่องแบบตำรวจวิ่งตามหาไปทั่วอยู่อย่างนั้น รวมไปถึงอาจารย์ชาวญี่ปุ่นด้วยเช่นกันชายสองคนวิ่งกลับมาเจอกัน ณ หน้าจุดนัดพบหน้าบ้านเมื่อแยกกันไปหาคนละทางแต่ยังไม่พบวี่แววของคนน้องแม้สักนิด ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ทั้งนายตำรวจและอาจารย์เป็นห่วงขึ้นไปอีก“ผม...ขอโทษ”ดันกิกล่าวขออภัยด้วยใจรู้สึกผิด หากเขาไม่ทำแบบนั้นบางทีคุณดลรวีคงจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยหรือไม่หากเขาทำหน้าหนาตามมาส่งสักหน่อยเรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้“คำนั้นเอาไว้พูดหลังหาด้วงเจอก็แล้วกัน”ไกรวิชญ์พูดด้วยความร้อนรน พลางมองหาเบาะแสที่เขาอาจพลาดไป เมื่อสักครู่เขาแยกไปดูยังเส้นทางอื่นที่น้องชายสามารถเดินกลับบ้านได้แต่ก็ไม่เจอ จึงคิดจะวกกลับไปดูอีกครั้งยังทางเข้าหลักหน้าหมู่บ้านเป็นครั้งที่สองนายตำรวจก้าวขาเดินออกไปโดยไม่ได้บอกกล่าวอาจารย์ที่อาสาตามหาเจ้าน้องด้วยกัน ทว

    Last Updated : 2025-01-08

Latest chapter

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๑๐๐%)

    วันนี้เป็นวันที่ไกรวิชญ์อารมณ์ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี ไม่ว่าเรื่องอะไรหรือปัญหาแบบไหนล้วนผ่านไปได้ด้วยดีเหลือเกินนายตำรวจในผ้านุ่งเปลือยท่อนบนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ เสียงพรูลมหายใจเพราะความโล่งสบายถูกขับออกมาเมื่อเจ้าของห้องเดินมาพาดผ้าขนหนูกับราวไม้ในห้องตอนนี้เรียกได้ว่าเขาได้โอกาสกลับมาแล้วได้ไหมนะ... ตลอดมาด้วงปฏิเสธเขาตัวโยน ทั้งเขายังเผลอทำอะไรไม่ยั้งคิดลงไปตั้งหลายครั้ง ไม่รู้ป่านนี้เขาจะได้รับการให้อภัยแล้วรึยัง*ก๊อก ก๊อก*‘ผมเอง’เพียงแค่สองพยางค์ไกรวิชญ์ละมือจากราวผ้าเช็ดตัวเดินไปเปิดประตูให้ในทันทีโดยลืมไปว่าตัวเองลืมสวมเสื้อ แต่ด้วงนั้นไม่ได้คิดอะไรเดินเข้ามาแบบสบายใจพร้อมกล่าวหัวข้อการสนทนา โดยเป็นไกรวิชญ์เองที่ล่กเอื้อมมือไปหยิบเสื้อที่พาดอยู่มาสวมแทบไม่ทัน“พี่รู้เรื่องครูอุ่นเขารึยัง?”“หมายถึงเรื่องที่เขาเป็นทหารเหรอ?”“ใช่”ไกรวิชญ์เก็บสีหน้าเพราะเหมือนด้วงจะเข้ามาคุยเรื่องอนาคตการเรียนของลูกชายเขา ไกรวิชญ์จึงเดินไปเร่งไฟตะเกียงหัวเตียงให้สว่างพอที่จะทำการสนทนาอย่างเป็นกิจจะล

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๕๐%)

    การกระทำที่ไม่เป็นตัวเองล้วนเกิดมาจากความกลัวภายใต้จิตสำนึกโดยที่เจ้าของร่างไม่อาจควบคุมได้ เหมือนกับการพยายามเปล่งเสียงตะโกนขอร้องความช่วยเหลือในกล่องมืดที่ไร้ซึ่งผู้คน น้องชายเขาคงเป็นเช่นนี้มาตลอด บอกใครไม่ได้เพราะกลัว หนีไม่ได้เพราะใจยังห่วง ทว่ากลับอ่อนแอจนไม่อาจมีแรงยืนหยัด ดังนั้นหนทางเดียวคือการสร้างเกราะ กีดกันทุกอย่างที่จิตใต้สำนึกสั่งให้เอาออกไปจากชีวิต‘แค่พูดคำไม่กี่คำ...’นั่นคือสาเหตุว่าทำไมน้องชายถึงได้ปฏิเสธเขาหนักหนา ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลและสถานการณ์อันบีบคั้นส่งผลให้เด็กคนนั้นจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้รักกันไม่ได้เพราะกลัวมารดาจะเป็นอันตรายรักกันไม่ได้เพราะกลัวทำครอบครัวคนอื่นแตกแยกรักกันไม่ได้เพราะกลัวหลานชายที่กำเนิดมาจะผิดหวังมันเป็นปัญหาลูกโซ่ที่สืบเนื่องมาจากคำขู่ไม่กี่คำในวัยเยาว์ ค่อย ๆ ซึมลึกลงไปยังก้นบึ้ง แตกหน่อออกผลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างเงียบ ๆ กัดกินจิตใจเป็นอาหาร ประหนึ่งมีดคมที่ค่อย ๆ เฉือนเนื้อออกไปทีละนิดอย่างประณีตบรรจงเสียงร่ำไห้ที่เขาได้ยินเหมือนมันเป็นความโศกเศร้าตลอดร่วมสิบปี

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๑๐๐%)

    สองชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นตำรวจคนหนึ่งเป็นอาจารย์พากันมานั่งรอรับยาหน้าโรงพยาบาล เพราะหลังจากเมื่อคืนที่ตากฝนกันไปร่วมชั่วโมงก็พลอยทำให้เชื้อหวัดลงปอดไอกะด้อกะเดี้ย น้ำมูกไหลจมูกแดงไปตาม ๆ กันไกรวิชญ์รู้เรื่องจากปากอาจารย์เจ้าว่าวันนั้นได้ทำอะไรกับน้องชายเขาไปบ้างก็มีน้ำโห กล้าทำกับผิวอันบอบบางแบบนั้นไปได้อย่างไรถึงมันจะเป็นการแสดงเพื่อให้ด้วงเลิกกับตัวเองก็เถอะดันกิเองเมื่อจัดการศัตรูที่เข้ามาและฝังกลบดินไปแล้วก็หันมามองเขม่นใส่นายตำรวจคนที่คุณดลรวีหลงนักหลงหนาแล้วมาใช้เขาเป็นตัวแทนเพื่อตัดใจ“ผมโคตรอยากต่อยคุณเลย”“เอาเข้าจริงผมก็อยากต่อยคุณเหมือนกัน”“…”“…”“สนใจมาแลกกันคนละหมัดไหม?”“ผมก็คิดอยู่แต่แบบนั้นคุณดลรวีน่าจะไม่ชอบ”“ผมก็ว่างั้น”‘ขอเชิญหมายเลข ๒๒๓ รับยาที่ช่องเจ็ดค่ะ’ ดันกิถอนหายใจออกมาพลางลุกขึ้นไปรับยาพร้อมถือกระเป๋าติดตัวไปด้วย เมื่อรับยาเสร็จทีแรกที่คุยกับไกรวิชญ์เขาว่าจะขึ้นไปเยี่ยมคุณดลรวีด้วยกัน แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้วคนที่ไม่สามารถปกป้องเจ้าตัวได้อย่างเขาไม่มีสิทธิ์ไ

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๕๐%)

    เสียงพื้นรองเท้ากระทบฝนยังคงไม่หายไปแม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบหนึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ไกรวิชญ์ได้รับโทรศัพท์มาจากแม่เลี้ยงแล้วก็ตาม แน่นอนว่าเขาไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังคงสวมเครื่องแบบตำรวจวิ่งตามหาไปทั่วอยู่อย่างนั้น รวมไปถึงอาจารย์ชาวญี่ปุ่นด้วยเช่นกันชายสองคนวิ่งกลับมาเจอกัน ณ หน้าจุดนัดพบหน้าบ้านเมื่อแยกกันไปหาคนละทางแต่ยังไม่พบวี่แววของคนน้องแม้สักนิด ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ทั้งนายตำรวจและอาจารย์เป็นห่วงขึ้นไปอีก“ผม...ขอโทษ”ดันกิกล่าวขออภัยด้วยใจรู้สึกผิด หากเขาไม่ทำแบบนั้นบางทีคุณดลรวีคงจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยหรือไม่หากเขาทำหน้าหนาตามมาส่งสักหน่อยเรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้“คำนั้นเอาไว้พูดหลังหาด้วงเจอก็แล้วกัน”ไกรวิชญ์พูดด้วยความร้อนรน พลางมองหาเบาะแสที่เขาอาจพลาดไป เมื่อสักครู่เขาแยกไปดูยังเส้นทางอื่นที่น้องชายสามารถเดินกลับบ้านได้แต่ก็ไม่เจอ จึงคิดจะวกกลับไปดูอีกครั้งยังทางเข้าหลักหน้าหมู่บ้านเป็นครั้งที่สองนายตำรวจก้าวขาเดินออกไปโดยไม่ได้บอกกล่าวอาจารย์ที่อาสาตามหาเจ้าน้องด้วยกัน ทว

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๑๐๐%)

    เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมนักโทษที่หลบหนีได้ทั้งหมด แม้มันจะเหลือเพียงส่วนน้อยแล้วก็ตามแต่อย่างไรเพื่อความปลอดภัยของผู้คนในเขตนั้น ๆ เมื่อได้เบาะแสอะไรมาพวกเขาจึงต้องเอามาร่วมพิจารณา ยิ่งไปกว่านั้นคดีที่ค้างคาอยู่ก็ยังต้องนำมาพูดถึงเป็นลำดับไปสำหรับการวางแผนในอนาคตอีก“ขอบคุณทุกคนมาก กลับบ้านได้”เป็นไกรวิชญ์ที่กล่าวประโยคนั้น แม้เพื่อนร่วมงานสน.นี้จะขยันขันแข็งกันขนาดไหน แต่เขาก็เข้าใจหัวอกบางคนที่มีลูกมีเมียอยู่บ้าน หากเขารั้งไว้คงจะไม่เป็นการดีนัก“ไอ้ไกร วันนี้ไม่ใช่เวรเอ็งไม่ใช่เหรอ?”พูนกลับมาจากโต๊ะประชุมพร้อมเพื่อนในขณะที่เขาเก็บของลงกระเป๋า แต่ไกรมันกลับนั่งลงหยิบสำนวนขึ้นมาเปิดไปมาเสียอย่างนั้น“ขอทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน”“ขี้เกียจบ้างเถอะพ่อคุณ”“ไว้ค่อยทีหลัง”“แบบนี้น้องไม่ห่วงแย่แล้วรึ?”“ด้วงจะมาห่วงอะไรฉัน”“ใช่ว่าเขามีชิ้นแล้วจะเมินเอ็งสักหน่อย”“ช่างฉันเถอะน่ะ”เพราะรำคาญเสียงจ้อกแจ้กของเพื่อนจึงบอกปัดไป ก่อนจะต่างฝ่ายต่างโบกมือลา ไกรวิชญ์จึงได้กลับมาตั้งสมาธิก

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๕๐%)

    “แหม ถือร่มมารับเลยนะครับ”“ก็ฝนตกมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับ”แผนซึ่งมาโบกธงเจอหน้าคนรักของเพื่อนพอดีจึงถือโอกาสสนทนาระหว่างด้วงมันกลับมาจากห้องน้ำ หลังจากวันที่ไอ้ด้วงเป็นลม อาจารย์คนนี้คล้ายจะประคบประหงมเป็นพิเศษเพราะรถไฟพึ่งออกและยังอยากตากลมเย็นจึงนั่งบนเก้าอี้รอไอ้ด้วงเป็นเพื่อนอาจารย์ชาวญี่ปุ่น เรื่องราวที่เขาเข้าใจกับที่เกิดขึ้นมันย้อนแย้งกันไปคนละทิศละทาง แต่อย่างไรก็โต ๆ กันแล้ว หากเพื่อนเขาตัดสินใจแบบไหนเขาก็ตามนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหรอกเพียงแต่...เขาในฐานะเพื่อนจริง ๆ ก็คอยจับสังเกตมาตลอด เคยลองเซ้าซี้ทว่ามันกลับเอาแต่บอกว่าไม่มีอะไร ไม่นู่น ไม่นี่จนเขาเหนื่อยหน่าย ทำได้เพียงมองเมียงกลัวมันจะเป็นอะไรเข้าในสักวัน และก็เป็นไปตามคาดจริง ๆ ไม่รู้มันไปเอาความเครียดมาจากไหนเยอะแยะจนแต่ละวันน้อยครั้งนักที่จะเห็นมันยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ขนาดคนรักเจ้าตัวมาพูดคุยด้วยก็ยังคงทำหน้านิ่งเฉย ต่างจากสมัยยังเป็นเพื่อนผู้โดยสารลิบลับ“ขอโทษที่ต้องให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไรครับ”แผนโบกมือลาเจ้าเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายของวันเพรา

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๑๐๐%)

    “ขี้เกียจทำงานแล้ว...เฮ้อ”เสียงบ่นอิดออดนั่นออกมาจากปากเพื่อนเพียงคนเดียวของไกรวิชญ์อย่างเจ้าพูนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะทำงาน ไกรวิชญ์ซึ่งชินชากับนิสัยนั้นแล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปหลังไม่ได้แตะปากกากับกระดาษมานานหลักเดือนพันโทหรี่ตามองคุณพ่อตำรวจทำงานไฟลุกด้วยหน้าตาอันเรียบเฉย ถ้าเป็นเขาโดนหักเงินเดือนคงไม่มานั่งตั้งใจทำงานเกินค่าจ้างแบบนี้หรอก ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้งเป็นการพ่นความเครียดที่ไม่มีอยู่จริงออกมา‘เมื่อไหร่จะจับพวกมันให้หมดสักที รู้ไหมพวกฉันกังวลแค่ไหน!?’‘ทำงานให้มันดี ๆ หน่อย!’‘ถ้าจะชักช้ายืดยาดแบบนี้ก็ไม่ต้องเป็นหรอกตำรวจน่ะ!!’พูนได้ยินเสียงโวยวายของชาวบ้านแว่วมาจากทางด้านนอกก็เอือมระอา ในตอนที่ไกรมันไม่อยู่ก็เป็นเขาที่บากหน้าออกไปรับคำดุด่าว่ากล่าวแทน เอาเข้าจริงใช่ว่าพวกเขาตลอดทั้งเดือนที่พยายามสืบหากันมาก็ทยอยจับมาได้เรื่อย ๆ แต่เพราะนี่เป็นข่าวใหญ่ที่ยังลงสื่อวิทยุและหนังสือพิมพ์ทางการ ไม่แปลกที่ผู้คนจะให้ความสนใจและเพ่งเล็งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างพวกเขาขนาดนี้“เมื่อวานก็มา พวกป้

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๕๐%)

    ‘แม่พึ่งถักแล้วซักเสร็จ ลูกเอาไปใส่ด้วยนะ’แม่บอกเขามาเช่นนั้นพร้อมมอบผ้าพันคอไหมพรมสีเทามาให้ ปกติแล้วบ้านเราไม่ค่อยมีของพวกนี้เท่าไรนักเพราะหน้าหนาวประเทศไทยก็ใช่ว่าจะหนาวมากมาย เผลอ ๆ บางวันร้อนเหมือนเตาถ่าน ทว่าวันนี้เพียงตื่นมาก็ต้องขนลุกซู่เพราะลมหวิวที่แทรกเข้ามาตามช่องไม้ เขาจึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะรับมันมานายสถานีหลังทานข้าวต้มมื้อเช้าเสร็จก็ผูกผ้าพันคอเดินลงมาสวมรองเท้าคู่ใจออกจากบ้านตามปกติ บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างอึมครึมพิกล ทั้งมือเขายังรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ทุกครั้งที่ขยับ อาจเพราะความเย็นกัดผิวก็เป็นได้ เขาหวังว่าเจ็ดโมงที่สถานีจะมีคนต้มน้ำอุ่นเอาไว้จิบคลายความหนาวเดินไปเรื่อยจู่ ๆ ก็รู้สึกหิวทั้งที่พึ่งกินมา จะว่าไปเมื่อเช้าแทบไม่ได้แตะอะไรไปเท่าไรนัก ข้าวในถ้วยก็น้อยนิดแต่กว่าจะฝืนกินจนหมดก็นานโข กินอะไรไม่ลงแบบนี้ค่อนข้างส่งผลร้ายต่อร่างกายหลายด้านเลยเชียวยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนเขาก็ดันฝันถึงเรื่องเดิม ๆ จนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกอีกแล้ว ตอนแรกคิดว่าอาจเพราะชอบนอนคุดคู้เอาหน้าซุกผ้าห่มจนหายใจไม่ออกแต่มันไม่ใช่เลย ที่ฝันร้ายนั่นกลับม

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๖ ยินดี (๑๐๐%)

    “เครื่องแบบไม่มีที่เป็นแขนยาวสำหรับหน้าหนาวเหรอครับ?”“พวกเราใส่แบบเดียวกันตลอดทั้งปี ไม่มีแยกตามฤดูกาลหรอกครับ”“แบบนี้ก็ไม่ดีน่ะสิ”“ฮ่า ๆ ประเทศนี้ถ้าหนาวมาทีก็ถือว่าบุญส่งแล้วครับ ปกติร้อนเกือบทั้งปี”ด้วงรู้สึกว่าตัวเองตอบคำถามไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่าไรเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนทั้งตอนนี้คุณอุ่นยังเป็นคนเริ่มบทสนทนาอยู่ฝ่ายเดียว เขากลัวอีกฝ่ายจะตั้งแง่สงสัย อย่างน้อยเขาก็ควรเป็นฝ่ายถามกลับไปบ้าง“ถุงหอมที่ให้ไปเป็นยังไงบ้างครับ?”“หอมผ่อนคลายมากเลยครับ ผมห้อยติดกระเป๋าไว้ตลอดเลย”ว่าแล้วอาจารย์แกก็ยกกระเป๋าถือขึ้นมาให้เขาดู บริเวณโลหะข้อต่อหูกระเป๋ามีตาข่ายถุงหอมห้อยอยู่ ด้วงเห็นแล้วก็สะกิดใจ ทั้งที่มันแขวนให้เขาเห็นมาตลอดแต่กลับไม่ได้สังเกตเลย สงสัยต่อจากนี้เขาควรใส่ใจคุณอุ่นให้มากกว่าที่เป็นอยู่เสียแล้ว“ขอบคุณที่เดินมาส่งถึงหน้าบ้านอีกแล้วนะครับ”“ผมก็ขอบคุณที่ให้ผมเดินมาส่งเช่นกันครับ”ก่อนที่อาจารย์เจ้าจะไป ด้วงก็บังเอิญสังเกตไปยังสีท้องฟ้าวันนี้ แล้วจึงหันมาแอบมองนาฬิกาข้อมือของอาจารย์ ไหน ๆ

DMCA.com Protection Status