Beranda / รักโบราณ / ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา / ความโหดร้ายของเมืองซีจวง

Share

ความโหดร้ายของเมืองซีจวง

Penulis: l3oonm@
last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-07 01:06:38

เรื่องที่ใต้เท้าหานกังวลก็เกิดขึ้นจนได้ เพราะราคาข้าวสาร เนื้อแห้งที่เพิ่มขึ้นสูงจนคนโลภแอบเก็บเสบียงไว้ขายเอง ส่วนที่แจกจ่ายก็เพียงแจกจ่ายออกไปแค่น้อยนิด เรื่องนี้เกิดขึ้นในหลายหมู่บ้านนัก

ซูเจินนางแจ้งเรื่องที่ได้รับรู้มาจากเสี่ยวมี่ทันที พร้อมทั้งบอกที่ซ่อนของเสบียงที่ถูกยักยอกไป ใต้เท้าหานก็ไม่รอช้า เขาให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง

ยังดีที่ท่านเจ้าเมืองจินเจียมิใช่คนโลภเขาจึงไม่ได้แอบเก็บเสบียงไว้เอง เมื่อรู้เรื่องจากคนที่ใต้เท้าหานส่งมาแจ้งก็เข้าไปตรวจสอบทันที

หัวหน้าหมู่บ้านและขุนนางท้องถิ่นไม่น้อยที่ถูฏลงโทษไปใช้แรงงานถึงสามปี เพราะชาวบ้านจำนวนไม่น้อยโกรธแค้นที่ถูกยักยอกเสบียงในส่วนของตน จนเกือบจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้น

ยิ่งเป็นราชโองการตัดสินโทษจากฮ่องเต้ด้วยแล้ว เจ้าเมืองจินเจียก็ไม่กล้าละเลยต่างจัดการเรื่องอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวจะมีความผิดติดตัวไปด้วย

หัวหน้าหมู่บ้านและขุนนางท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยที่ถูกลงโทษต้องก็ต้องประหลาดใจ เพราะไม่รู้ว่าใต้เท้าหานสายตากว้างไกลเช่นนี้ พวกเขาออกเดินทางไปเมืองอื่นแล้วแท้ๆ ตอนที่พวกเขาจัดการเรื่องนี้ ไม่คิดว่าแม้แต่ที่ซ่อนเสบียง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ตั้งโรงทาน

    ตอนกลางดึก ซูเจินนางออกจากจวนท่านเจ้าเมืองไปยังจวนหลังใหม่ที่เช่าไว้ โดยมีหลันฮวาที่ช่วยปกปิดการมีอยู่ของตัวนาง นางออกมาพร้อมกับบิดาซึ่งเขาไม่มีทางปล่อยให้นางไปเพียงลำพังอย่างแน่นอนภายในจวนท่านเจ้าเมือง แม้แต่เป็นเวลามืดค่ำแล้ว องครักษ์และบ่าวไพร่ จึงคงทำหน้าที่เวรยามกันอย่างแข่งขัน เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้สองพ่อลูกไม่น้อย“ท่านพ่อ ท่านว่าในจวนเจ้าเมืองเหมือนกลัวบางอย่างจะหายไปหรือไม่เจ้าคะ” ซูเจินเอ่ยถามบิดา เมื่อทั้งสองออกมาพ้นเขตจวนท่านเจ้าเมืองแล้ว“พ่อก็คิดเห็นเช่นเจ้า มีอย่างที่ใด ให้เวรยามเดินกันเพ่นพ่านเช่นนี้ หากมิกลัวว่าจะถูกพวกเราพบเจอสิ่งใดเข้า”“หากจะบอกว่าเป็นโรงเก็บเสบียงด้านหลังเห็นทีจะไม่ใช่เจ้าค่ะ แม้แต่ก่อนที่ลูกจะมาที่เรือนหลังนี้ ลูกเดินไปที่โรงเก็บมาแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีคนอยู่เฝ้าสักคน”ก่อนที่ซูเจินนางจะมาเรือนหลังที่เช่าไว้ นางได้ไปที่โรงเก็บของเพื่อนำเสบียงบางส่วนมาใส่เพิ่มไว้ด้านในตามแผนการที่พวกเขาได้พูดคุยกันไว้“เรื่องนี้ไว้ค่อยปรึกษาท่านใต้เท้าหานก็แล้วกัน” เพราะซูเต๋อก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่เกินความสามารถของตนเช่นกันสองพ่อลูกเร่งนำเสบียงออกมาเต็มจนเต็มโร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ตกหลุมพราง

    ท่านเจ้าเมืองกังแสร้งทำสีหน้าลำบากใจ เพราะว่าภายในห้องโถงยังมีขุนนางสำคัญอยู่ถึงสองคนแต่เมื่อหันกลับมามองที่ใต้เท้าหานก็พบว่าเขามิได้มีท่าทีสนใจเรื่องที่พ่อบ้านมารายงานตน จึงได้เอ่ยขอตัวขึ้น“ข้าน้อยขอตัวสักครู่ขอรับ”“ไปเถิด เช่นนั้นข้าสองคนจะออกไปดูเจินเออร์ว่านางกลับมาแล้วหรือยัง” ความจริงทั้งคู่อยากจะหาทางปลีกตัวออกไปพบซูเจินที่กำลังตั้งโรงทาน“ได้ ได้ ขอรับ”ท่านเจ้าเมืองสาวเท้าเดินอย่างเร่งรีบไปที่ห้องรับรองข้างห้องตำราทันที เมื่อเข้าไปถึงได้ฟังเรื่องราวจากอันธพาลที่เลี้ยงดูไว้ก็เกิดโทสะ ขว้างปาข้าวของภายในห้องจนเสียงดังออกมาด้านนอก“ไป ข้าอยากจะเห็นนักว่าผู้ใดบังอาจขัดคำสั่งข้าเช่นนี้” เจ้าเมืองกังเดินนำหน้าออกจากประตูจวน พร้อมทั้งร้องสั่งให้นำรถม้าออกทันทีกว่าเขาจะเดินทางมาถึง ใต้เท้าหานและซูเต๋อก็เดินทางมาช่วยซูเจินนางแจกจ่ายเสบียงแก่ชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว“ขอบพระคุณนายท่านเจ้าค่ะ” หญิงชรารับถุงเสบียงพร้อมเอ่ยขอบคุณเสียงสั่นที่เรือนของนางไม่มีอาหารเหลืออยู่แล้ว สามีก็มาล้มป่วยลงไปอีกคน นับว่าอาหารที่ได้ครั้งนี้เพียงพอให้ทั้งคู่ที่รอบุตรชายเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากพี่สาวที่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เป็นเพียงเด็กทารก

    ซูเจินตื่นขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดของผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อเธอลืมตาขึ้น จึงคิดจะเอ่ยปลอบคนที่ร้องไห้อยู่ คงไม่มีใครนอกจากเสี่ยวชิงเพราะตัวเธอสูญเสียคุณพ่อคุณแม่ไปตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษา แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หัวคิ้วของซูเจินก็ขมวดเข้าหากันแน่นไม่ ไม่ถูกต้อง ทำไมเธอจึงรู้สึกเหมือนถูกกอดรัดไว้อย่างแน่น ความรู้สึกที่เริ่มจะหายใจไม่ออกทำให้ ซูเจินร้องประท้วงออกมา“อุแว้” ซูเจินเงียบเสียงลง พร้อมทั้งเสียงของสตรีที่ร้องคร่ำครวญเมื่อครู่ก็หยุดลงเช่นกัน ซูเจินร้องใหม่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของเธอ“อุแว้” ดวงตาของซูเจินเบิกกว้าง เธอรู้แล้วว่าเสียงร้องของเด็กน้อยเมื่อครู่เป็นเสียงร้องของเธอเองมันเหมือนจะยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีก เมื่อสตรีตรงหน้าเปลี่ยนท่าทางที่กอดเธออยู่ เป็นอุ้มออกดูเพื่อจะดูว่าให้แน่ใจเช่นกันสิ่งที่ซูเจินเห็นทำให้นางกรีดร้องออกมาเสียงดัง แข่งกับสตรีที่อุ้มเธออยู่ในความรู้สึกของเธอ เหมือนเธอกำลังโวยวายอย่างบ้าคลั่ง แต่เสียงที่เปล่งออกมาเป็นเพียงเสียงของเด็กน้อยที่ร้องลั่นปานจะขาดใจ“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วลูก” เสียงของสตร

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-20
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   รสชาติก็ไม่ได้แย่

    จิ่วเม่ยกับชุยเต๋อจึงได้มาใช้แซ่ของมารดาชุยเต๋อคือ แซ่ซู เรื่องนี้นับว่าสร้างแปลกใจให้ซูเจินที่นอนนิ่งฟังเรื่องราวต่างๆ อยู่ไม่น้อยเพราะตัวนางก็แซ่ซู นามเจิน มาภพใหม่ยังได้ใช้ชื่อแซ่เดิมอีก ซูเจินนางผนวกเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว นางข้ามมิติมาอยู่ในยุคโบราณในร่างของเด็กทารกที่มีความทรงจำเดิมอยู่ครบถ้วนหมู่บ้านที่นางอยู่ คือ หมู่บ้านตงหยาน เมืองเหอหนาน แคว้นต้าเยี่ยน เหมือนว่านางอยู่ที่ป่าของเหอหนาน เพียงย้อนกลับมาในพันปีที่แล้วจิ่วเม่ยมีชาวบ้านช่วยเก็บของของนางพากลับไปที่เรือนเดิมที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ข้าวของของนางมีไม่มาก เก็บไม่ถึงเค่อ (1เค่อ = 15 นาที) ก็เสร็จเรียบร้อยเรือนของท่านปู่ท่านย่าของนางที่ท้ายหมู่บ้านมิได้ทรุดโทรมทั้งยังมีห้องมากถึงห้าห้อง นางไห่ซื่อจึงอยากได้มาครอบครองมากนัก นางอยากยกให้ชุยฟงบุตรชายของนาง ที่ปีหน้าก็จะต้องลูกสะใภ้เข้าเรือนแล้ว แต่ก็ต้องคืนให้จิ่วเม่ยไปเสียก่อน“ขอบคุณทุกท่านมากเจ้าค่ะ บุญคุณที่ช่วยข้าในครั้งนี้ ข้าจะไม่ลืมเจ้าค่ะ” จิ่วเม่ยคุกเข่าลงต่อหน้าชาวบ้าน เมื่อพวกเขามาส่งนางที่เรือน“นับว่าสวรรค์เมตตาเจ้าแล้วอาเม่ยที่หลุดพ้นแม่สามีเช่นนั้นมาได้ เมื

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-20
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เหล่าแมลงเต็มตัวนาง

    นางไม่มีเมล็ดข้าวที่จะใช้ปลูก ป้าหวงจึงได้แบ่งจากที่เรือนของนางมาให้ แต่จิ่วเม่ยก็ไม่กล้าเอาเปล่าๆ ป้าหวงจึงได้คิดเงินนางเพียงสองตำลึงเท่านั้นนับว่าไม่มาก เมื่อเทียบกับที่นาของจิ่วเม่ยที่เพิ่มมาอีกเกือบสิบหมู่ ตอนนี้นางจึงมีที่ทำนาถึงสิบหกหมู่ หากจะให้นางทำผู้เดียวคงไม่ไหว ชาวบ้านจึงได้มาช่วยนางทำนาในครั้งนี้ด้วยแต่ต้องรอให้ชาวบ้านจัดการแปลงของตนเองเรียบร้อยเสียก่อน จิ่วเม่ยนางให้ค่าแรงพวกเขาคนละสามสิบอิแปะ เท่ากับราคาค่าจ้างในเมือง เพียงแต่ไม่มีอาหารให้เท่านั้น“ไม่ต้อง เจ้าเก็บเงินไว้ดูลูกเถิด” ป้าหวงและชาวบ้านต่างตำหนินาง“ไม่ได้เจ้าค่ะ พวกท่านช่วยเหลือข้าบ่อยครั้ง แต่ข้าไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนพวกท่านได้เลย” จิ่วเม่ยมองพวกเขาทุกคนอย่างซาบซึ้ง“เช่นนั้นก็ให้เพียงยี่สิบอิแปะพอ ข้าวกลางวัน พวกข้าจะจัดการกันเอง” เมื่อป้าหวงเอ่ยเช่นนี้ ชาวบ้านที่เหลือต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยในหมู่บ้านหากไม่ใช่พวกเห็นแก่ตัวที่อยู่ไม่กี่เรือน พวกเขาต่างช่วยเหลือกันอยู่แล้ว จึงไม่คิดอยากจะได้เงินจากสองแม่ลูกที่น่าสงสารเช่นนี้ ในเมื่อจิ่วเม่ยนางไม่ยอม ทุกคนจึงได้ทำอย่างที่ป้าหวงว่าซูเจินน้อยมองพวกเขาพ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ถูกเสี่ยวมี่จัดการ

    เสียงร้องของไห่กวงที่วิ่งจากท้ายหมู่บ้านไปจนเรือนของตระกูลชุยที่กลางหมู่บ้าน ปลุกให้ชาวบ้านที่ต่างเข้านอนไปแล้วลุกขึ้นออกมาดูอย่างสงสัย“นั่นมันน้องชายนางไห่ซื่อมิใช่หรือ” หนึ่งในชาวบ้านที่ออกมาดูมองไปที่ไห่กวงที่วิ่งผ่านหน้าไป“มาทำอันใดยามนี้” พวกเขาต่างเดินตามไปอย่างสงสัย“ท่านพี่ ท่านพี่ เปิดประตูเร็วเข้า” ไห่กวงตะโกนร้องเรียกพี่สาวอยู่ที่หน้าเรือนนางไห่ซื่อลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างแปลกใจ นางคุยกับน้องชายไว้แล้วว่า พรุ่งนี้นางจะพาชาวบ้านไปที่เรือนของจิ่วเม่ย เพื่อให้พวกเขาเห็นกับตา ว่าทั้งคู่ลอบนัดพบกัน“นั่นเสียงอากวงมิใช่รึ” ต้าหลางลุกตามเมียขึ้นมานั่ง ก่อนที่จะเดินออกจากเรือนเพื่อไปดูพอเปิดประตูเรือนเท่านั้น นางไห่ซื่อก็กรีดร้องออกมา เมื่อเห็นผึ้งบินอยู่รอบตัวน้องชาย ใบหน้าของเขาเริ่มจะบวมเป็นหัวหมูแล้วเสี่ยวมี่เห็นนางไห่ซื่อ ก็สั่งให้ผึ้งที่บินล้อมไห่หวง บินไปต่อยที่ปากของนางทันที“โอ๊ยยย” นางไห่ซื่อกรีดร้องออกมาอย่างเสียขวัญ ทั้งปัดป้องและวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในเรือน“เกิดเรื่องอันใดขึ้น” ชาวบ้านไปตามลุงหวงที่เป็นผู้นำหมู่บ้านมา เพราะไห่กวงไม่ใช่คนในหมู่บ้าน หากเกิดเรื่องร้ายก

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ข่าวของซูเต๋อ

    ผ่านมาเกือบเดือนผลผลิตในนาข้าวของจิ่วเม่ยก็ดูจะงอกงามกว่าของผู้อื่นมากนัก ของชาวบ้านที่มาช่วยนางทำนาก็ดีไม่แพ้ของนางมีเพียงซูเจินที่รู้ว่า แมลงต่างๆ ทั้งหนู มิได้กินผลผลิตในนาข้าวของเรือนนาง แม้แต่ของชาวบ้านที่ช่วยเหลือจิ่วเม่ยก็ได้รับการละเว้นคงมีแต่ของตระกูลชุยที่ปีนี้แทบจะไม่เหลือผลผลิตให้เก็บเกี่ยว หากถึงช่วงเก็บเกี่ยวก็คงได้แต่เก็บไว้กิน มิอาจจะนำไปขายแลกเงินได้ผ่านมาอีกสองเดือนซูเจินน้อยที่ถูกนำไปที่นาด้วยก็ถูกจับให้นั่งรอที่ใต้ต้นไม้เช่นเดิม ตอนนี้ไม่ใครกังวลเป็นห่วงนางมากแล้ว เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาทำให้รู้ว่านางเป็นเด็กที่รู้เรื่องเพียงใดซูเจินนางจะคลานไปรอบๆ อย่างสนใจ และหยุดมองพวกเขาทำงาน เด็กน้อยจะคลานอยู่ไม่ห่างทำให้พวกเขาทำงานได้อย่างเต็มที่แต่แปลกที่เด็กคนอื่นมาเล่นกับนาง นางจะไม่ค่อยเล่นด้วย ได้แต่มองพวกเขาเล่นเท่านั้น แต่หากมีเด็กคนใดที่รังแกนาง ไม่ต้องให้ซูเจินนางลงมือ เสี่ยวอี่ก็สั่งให้พวกมดไปกัดเด็กคนนั้นแล้ว ยังดีที่มดเพียงสองสามตัวเท่านั้นที่กัดพอซูเจินนางอายุได้เกือบขวบ ข่าวของชูเต๋อก็ส่งมาถึงหมู่บ้าน สงครามสิ้นสุดลงแล้ว และเขากำลังเดินทางกลับมา ลุงหวงกับป

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-22
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ท่านพ่อกลับมาแล้ว

    ซูเจินก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย สัตว์ป่าที่สิ้นอายุขัยยังมีอีกไม่น้อย หากนางอยากกินเนื้อก็แค่บอกเสี่ยวเตี๋ยก็พอหวงไฉเมื่อเห็นว่าตกลงกันได้แล้ว เขาก็ลงมือชำแหละเนื้อกวางทันที ฝีมือของหวงไฉทำให้ซูเจินจ้องมองอย่างสนใจ แม้แต่เลือดกวางก็ถูกเก็บเอาไว้ เนื้อถูกส่วนเขาชำแหละออกมาแทบไม่เหลือติดกระดูกเลยเขากวางหวงไฉก็รับปากว่าจะนำไปขายที่ร้านยาให้นาง เพราะเขากวางที่สมบูรณ์เช่นนี้ได้ราคาไม่น้อยเลยทีเดียว หนังกวางก็ถูกถลกออกมาได้ไร้ที่ติในตอนแรกหวงไฉก็คิดจะนำไปขายให้จิ่วเม่ย แต่นางจะเก็บไว้ทำรองเท้าให้สองพ่อลูกมากกว่า เรื่องนี้จึงไม่ได้ขัดนางเนื้อกวางถูกชำแหละออกมาได้มากถึงเกือบหนึ่งร้อยชั่ง (1ชั่ง=500กรัม) จิ่วเม่ยให้ป้าหวงเลือกไปสิบชั่ง ส่วนเรือนอื่นนางเก็บไว้ให้เรือนละสองชั่ง ก็อีกสิบชั่ง ตัวนางที่อยู่เพียงสองคนแม่ลูกเก็บไว้สิบชั่งเช่นกัน ก่อนจะให้หวงไฉออกหน้านำที่เหลือไปขายให้นาง“ขายชั่งละหกสิบอิแปะเจ้าเห็นเป็นเช่นไร” หากขายในเมืองเนื้อที่สดใหม่อย่างน้อยต้องได้ชั่งละหนึ่งร้อยอิแปะแต่เพราะนางไม่อาจจะเดินทางไปขายได้ อีกทั้งก็อยากจะแบ่งให้ชาวบ้านในราคาที่ไม่แพง ราคาหกสิบอิแปะจึงนับว่าเหมาะสม

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-22

Bab terbaru

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ตกหลุมพราง

    ท่านเจ้าเมืองกังแสร้งทำสีหน้าลำบากใจ เพราะว่าภายในห้องโถงยังมีขุนนางสำคัญอยู่ถึงสองคนแต่เมื่อหันกลับมามองที่ใต้เท้าหานก็พบว่าเขามิได้มีท่าทีสนใจเรื่องที่พ่อบ้านมารายงานตน จึงได้เอ่ยขอตัวขึ้น“ข้าน้อยขอตัวสักครู่ขอรับ”“ไปเถิด เช่นนั้นข้าสองคนจะออกไปดูเจินเออร์ว่านางกลับมาแล้วหรือยัง” ความจริงทั้งคู่อยากจะหาทางปลีกตัวออกไปพบซูเจินที่กำลังตั้งโรงทาน“ได้ ได้ ขอรับ”ท่านเจ้าเมืองสาวเท้าเดินอย่างเร่งรีบไปที่ห้องรับรองข้างห้องตำราทันที เมื่อเข้าไปถึงได้ฟังเรื่องราวจากอันธพาลที่เลี้ยงดูไว้ก็เกิดโทสะ ขว้างปาข้าวของภายในห้องจนเสียงดังออกมาด้านนอก“ไป ข้าอยากจะเห็นนักว่าผู้ใดบังอาจขัดคำสั่งข้าเช่นนี้” เจ้าเมืองกังเดินนำหน้าออกจากประตูจวน พร้อมทั้งร้องสั่งให้นำรถม้าออกทันทีกว่าเขาจะเดินทางมาถึง ใต้เท้าหานและซูเต๋อก็เดินทางมาช่วยซูเจินนางแจกจ่ายเสบียงแก่ชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว“ขอบพระคุณนายท่านเจ้าค่ะ” หญิงชรารับถุงเสบียงพร้อมเอ่ยขอบคุณเสียงสั่นที่เรือนของนางไม่มีอาหารเหลืออยู่แล้ว สามีก็มาล้มป่วยลงไปอีกคน นับว่าอาหารที่ได้ครั้งนี้เพียงพอให้ทั้งคู่ที่รอบุตรชายเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากพี่สาวที่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ตั้งโรงทาน

    ตอนกลางดึก ซูเจินนางออกจากจวนท่านเจ้าเมืองไปยังจวนหลังใหม่ที่เช่าไว้ โดยมีหลันฮวาที่ช่วยปกปิดการมีอยู่ของตัวนาง นางออกมาพร้อมกับบิดาซึ่งเขาไม่มีทางปล่อยให้นางไปเพียงลำพังอย่างแน่นอนภายในจวนท่านเจ้าเมือง แม้แต่เป็นเวลามืดค่ำแล้ว องครักษ์และบ่าวไพร่ จึงคงทำหน้าที่เวรยามกันอย่างแข่งขัน เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้สองพ่อลูกไม่น้อย“ท่านพ่อ ท่านว่าในจวนเจ้าเมืองเหมือนกลัวบางอย่างจะหายไปหรือไม่เจ้าคะ” ซูเจินเอ่ยถามบิดา เมื่อทั้งสองออกมาพ้นเขตจวนท่านเจ้าเมืองแล้ว“พ่อก็คิดเห็นเช่นเจ้า มีอย่างที่ใด ให้เวรยามเดินกันเพ่นพ่านเช่นนี้ หากมิกลัวว่าจะถูกพวกเราพบเจอสิ่งใดเข้า”“หากจะบอกว่าเป็นโรงเก็บเสบียงด้านหลังเห็นทีจะไม่ใช่เจ้าค่ะ แม้แต่ก่อนที่ลูกจะมาที่เรือนหลังนี้ ลูกเดินไปที่โรงเก็บมาแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีคนอยู่เฝ้าสักคน”ก่อนที่ซูเจินนางจะมาเรือนหลังที่เช่าไว้ นางได้ไปที่โรงเก็บของเพื่อนำเสบียงบางส่วนมาใส่เพิ่มไว้ด้านในตามแผนการที่พวกเขาได้พูดคุยกันไว้“เรื่องนี้ไว้ค่อยปรึกษาท่านใต้เท้าหานก็แล้วกัน” เพราะซูเต๋อก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่เกินความสามารถของตนเช่นกันสองพ่อลูกเร่งนำเสบียงออกมาเต็มจนเต็มโร

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ความโหดร้ายของเมืองซีจวง

    เรื่องที่ใต้เท้าหานกังวลก็เกิดขึ้นจนได้ เพราะราคาข้าวสาร เนื้อแห้งที่เพิ่มขึ้นสูงจนคนโลภแอบเก็บเสบียงไว้ขายเอง ส่วนที่แจกจ่ายก็เพียงแจกจ่ายออกไปแค่น้อยนิด เรื่องนี้เกิดขึ้นในหลายหมู่บ้านนักซูเจินนางแจ้งเรื่องที่ได้รับรู้มาจากเสี่ยวมี่ทันที พร้อมทั้งบอกที่ซ่อนของเสบียงที่ถูกยักยอกไป ใต้เท้าหานก็ไม่รอช้า เขาให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองยังดีที่ท่านเจ้าเมืองจินเจียมิใช่คนโลภเขาจึงไม่ได้แอบเก็บเสบียงไว้เอง เมื่อรู้เรื่องจากคนที่ใต้เท้าหานส่งมาแจ้งก็เข้าไปตรวจสอบทันทีหัวหน้าหมู่บ้านและขุนนางท้องถิ่นไม่น้อยที่ถูฏลงโทษไปใช้แรงงานถึงสามปี เพราะชาวบ้านจำนวนไม่น้อยโกรธแค้นที่ถูกยักยอกเสบียงในส่วนของตน จนเกือบจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นยิ่งเป็นราชโองการตัดสินโทษจากฮ่องเต้ด้วยแล้ว เจ้าเมืองจินเจียก็ไม่กล้าละเลยต่างจัดการเรื่องอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวจะมีความผิดติดตัวไปด้วยหัวหน้าหมู่บ้านและขุนนางท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยที่ถูกลงโทษต้องก็ต้องประหลาดใจ เพราะไม่รู้ว่าใต้เท้าหานสายตากว้างไกลเช่นนี้ พวกเขาออกเดินทางไปเมืองอื่นแล้วแท้ๆ ตอนที่พวกเขาจัดการเรื่องนี้ ไม่คิดว่าแม้แต่ที่ซ่อนเสบียง

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ตั้งโรงทาน

    ซูเจินนางไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางกลับมาที่จวนแล้ว เพียงแต่รู้ว่าหวังกงกงมิได้ลงโทษอันใด นางก็เลิกสนใจเรื่องของเด็กน้อยไม่รู้ความอย่างเยี่ยนเฟยหยางทันทีขุนนางไม่น้อยในเมืองหลวงที่ต้องการมาเยี่ยมซูเต๋อถึงที่เรือน แต่ก็ถูกปฏิเสธไป เพราะเขาต้องเตรียมตัวออกเดินทางไปทิศตะวันตกของแคว้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าในตอนนี้ภายในจวนตระกูลซู มีบ่าวในจวนเพิ่มมาอีกหลายสิบคน แต่ละคนล้วนถูกซูเจินนางให้หลันฮวาตรวจสอบเสียก่อน หากมีคนใดที่ดูไม่น่าไว้วางใจ หรือดูเหมือนจะเป็นหนอนจากตระกูลอื่นเข้ามาสืบข่าวในจวน ต่างถูกขายทิ้งออกไปทันทีทาสที่ซื้อมาแทบไม่อยากเชื่อว่าตระกูลซู มีวิธีคัดพวกเขาออกจากกลุ่มคนได้อย่างไร เมื่อนำความกลับไปบอกนายของตนที่ส่งมา พวกเขาก็ล้วนแต่แปลกใจแม้แต่ฮ่องเต้ยังไม่ส่งคนของเขาเข้ามาปะปนกับกลุ่มคนที่ตระกูลซูไม่ซื้อตัวมา เพียงแค่นี้พวกเขาก็น่าจะคิดได้แล้ว กลับคิดไม่ได้เมื่อเป็นเช่นนั้น ทาสที่ถูกขายทิ้งออกไปจึงไม่รู้เลยว่ามีบางอย่างติดตามเขากลับไปด้วย เรื่องนี้เป็นเสี่ยวเตี๋ยที่จัดการ เพราะนางไม่อาจให้จิ่วเม่ยและซูจ้านที่ต้องอยู่เรือนได้รับอันตรายต่อให้มีสัตว์ในปกครองของพวกเข

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ถูกส่งไปค่ายทหาร

    ทั้งสามเบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะรอยช้ำที่เกิดขึ้นบวมแดงไม่น้อย ไม่รู้ว่าซูเจินนางใช้แรงมากเพียงใดฮ่องเต้เม้มปากแน่น หากทั้งสามไม่ได้ทำคงมีเพียงเด็กน้อยตัวแสบเสียแล้ว แต่พระองค์จะเอ่ยเรื่องนี้ออกมาเช่นไร ถ้าตรัสออกมาไม่เท่ากับเปิดเผยตัวตนของซูเจินหรือ หากนางไม่พอใจแคว้นเยี่ยนคงถึงคราวเคราะห์อย่างแน่นอน“เหลวไหล เจ้าล้มลงเองและโทษผู้อื่นอย่างนั้นหรือ” ฮ่องเต้แสร้งตวาดออกมาเสียงดัง ก่อนจะให้องครักษ์พาตัวบุตรชายกลับตำหนัก ทั้งยังให้ตามหมอมาดูอาการเยี่ยนเฟยหยางมองเสด็จพ่อของเขาอย่างไม่อยากเชื่อว่าพระองค์จะตัดสินเช่นนี้ เขาสะบัดตัวออกจากขันทีข้างกายที่เข้ามาประคอง พร้อมทั้งวิ่งกลับไปที่ตำหนักของเสด็จย่าทันที“หึ เจินเออร์ เจ้าก็ทำรุนแรงไม่น้อยเลยทีเดียว” ฮ่องเต้เอ่ยออกมาเสียงเบา พระองค์ไม่ได้ตำหนิซูเจิน แต่เพราะไม่อยากให้ผู้ใดรู้ถึงการมีอยู่ของนางที่นี่“หม่อมฉันยอมรับผิดที่ทำรุนแรงเกินไป แต่องค์ชายห้าดูแคลนท่านพ่อของหม่อมฉัน ทั้งยังดูหมิ่นหวังกงกงไม่น้อย เรื่องนี้หม่อมฉันมิอาจทนฟังได้เพคะ” ซูเจินเอ่ยตอบเสียงเบา ในน้ำเสียงของนางดูแข็งกร้าวอยู่ไม่น้อยนางไม่ใช่คนในภพนี้ จึงไม่เกรงกลัวอำนา

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เยี่ยนเฟยหยาง

    ใต้เท้าหานก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปนั่งรถม้าคันเดิมของเขา ระยะทางจากจวนตระกูลซูมาถึงประตูวังหลวงใช้เวลาเพียงจิบถ้วยชา (15 นาที) เท่านั้น“เจินเออร์ เจ้าลงมาจากรถม้าแล้วหรือยัง” หวังกงกงไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน เขากระซิบถามขึ้นด้วยเสียงเบาซูเจินเดินเข้าไปดึงชายเสื้อของหวังกงกง “ท่านปู่หวังข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ”“เอ่อ จับชายเสื้อปู่ไว้ด้วยเล่า จะได้รู้ว่าเจ้าอยู่ตรงใด” หวังกงกงเอียงหน้าไปพูดเสียงเบาหากมีผู้อื่นนอกจากพวกเขายืนอยู่ด้วยคงได้แต่สงสัย ว่าหวังกงกงกระซิบพูดกับผู้ใด คงได้คิดว่าเขาเสียสติไปแล้วอย่างแน่นอนหวังกงกงเดินนำทุกคนไปยังห้องทรงอักษรของฮ่องเต้ ตลอดทางมีคนให้ความสนใจกับทั้งสองคนที่เข้ามาไม่น้อย และพอจะรู้ว่าหวังกงกงถูกส่งออกไปนอกวัง เพียงแต่ไม่รู้ว่าออกไปจัดการเรื่องอันใดภายในห้องทรงอักษร ฮ่องเต้ไล่ให้ข้ารับใช้ทั้งหมดออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว พระองค์กำลังนั่งรอพวกเขาอยู่เพียงลำพัง“กระหม่อมหานเหล่ย ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมซูเต๋อ ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ” “ลุกขึ้นเถิด แล้วบุตรีของเจ้าเล่า” ฮ่องเต้มองหาซูเจิน เพราะคนที่พระองค์ต้องการพบตัวมิใช่ซูเต๋อหรือใต้เท้าหาน“เอ่อ คุณหนูซู” ห

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   มีปู่เพิ่มอีกคน

    “ข้าก็คิดว่าเรื่องอันใด จะไปอยากอันใดเจ้าค่ะ ท่านมีเส้นไหมจากหนอนในมิติ ข้าจะลองนำมาทำให้ท่านเอง”“เจ้าทำได้หรือ” ซูเจินเด้งขึ้นมาจากที่นอนอย่างตื่นเต้น“เหอะ นายหญิงท่านดูถูกพลังของข้าเกินไปแล้ว”“ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น ข้าเพียงดีใจเกินไปหน่อย”“ท่านร่างแบบมาให้ข้าก็พอเจ้าค่ะ รับรองว่าข้าจะทำออกมาให้ท่านอย่างดี อีกอย่างเส้นไหมที่หนอนในมิติสร้างขึ้นนับว่าพิเศษกว่าด้านนอก ไว้ท่านได้ลองใช้ก็จะรู้เองเจ้าค่ะ” หลันฮวาโอ้อวดอีกหลายประโยคระหว่างรอให้ซูเจินนางวาดแบบให้นางซูเจินมีพื้นทางด้านการวาดรูปมาก่อน ไม่นานนางก็วาดแบบฟูกนอน ผ้าห่ม หมอนออกมา ทั้งยังบอกด้วยว่าด้านในควรใช้สิ่งใดยัดไว้ภายในมิติมีต้นนุ่นที่ซูเจินนางเรียกอยู่ไม่น้อย เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เวลานี้ซูเจินนางทนรอที่จะได้นอนที่นอนนุ่มๆ ของนางไม่ไหวแล้ววันต่อมาเมื่อออกเดินทางหวังกงกงก็ต้องตกใจ เมื่อม้าของตระกูลซูทั้งสี่ตัวตอนนี้เป็นม้าสายพันธุ์เดียวกันไม่ผิดอย่างแน่นอน เขาไม่รู้ว่าซูเจินนางนำมาเปลี่ยนตอนไหน และม้าอีกสามตัวไปอยู่ที่ใดแล้วแต่เรื่องนี้ก็ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจ เพราะไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเอ่ยถามออกมาได้ซ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เดินทางเข้าเมืองหลวง

    เรื่องนี้สองพ่อลูกรู้จากใต้เท้าหานอยู่แล้วจึงไม่ได้ตกใจเช่นเดียวกับท่านเจ้าเมือง ที่ดูเหมือนตาของเขาจะเบิกกว้างไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว“ต้องออกเดินทางเมื่อใดขอรับ”“หากไม่เป็นการรบกวนใต้เท้าเกินไป ข้าน้อยอยากจะออกเดินทางให้เร็วที่สุดขอรับ” “หวังกงกงพอจะบอกได้หรือไม่ ว่าข้าน้อยต้องอยู่ในเมืองหลวงนานเพียงใด”“เรื่องนี้เกินความสามารถของข้าน้อยเช่นกัน” หวังกงกงทำหน้าหนักใจ เพราะเรื่องนี้ฮ่องเต้ก็ไม่ได้บอกกล่าวเขาไว้เช่นกัน“เช่นนั้นข้าน้อยขอเวลาเตรียมตัวสองวันขอรับ” ซูเต๋อตัดสินใจพาจิ่วเม่ยและซูจ้านไปด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะต้องอยู่เมืองหลวงนานเพียงใด เขาไม่อยากทิ้งสองแม่ลูกไว้ที่หมู่บ้าน“ได้ขอรับ” หวังกงกงยิ้มอย่างพอใจ ที่ซูเต๋อว่าง่ายเช่นนี้ในตอนแรกเขาคิดว่าจะเสียเวลาพูดคุยอีกนาน เพราะรู้ว่าตระกูลซูมีถึง นายหญิงแห่งพฤกษา กลัวว่าพวกเขาจะเล่นตัว ไม่ยอมติดตามไปอย่างว่าง่าย ถึงจะเคยพบเห็นซูเต๋อในวังหลวงมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้พูดคุยมาก่อนในยามนั้นซูเต๋อเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเดินเข้าวังหลวงเนื้อตัวยังสั่นเทา จึงคิดว่าเมื่อมีตำแหน่งที่ใหญ่โตขึ้นจะเป็นเช่นเดียวกับขุนนางผู้อื่นที่หลงในอำนาจซูเต๋อ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หวังกงกงเดินทางมารับด้วยตนเอง

    ซูเต๋อส่ายหัวก่อนจะดูบุตรสาวของเขา เขารู้ว่าคงเป็นพลังของหลันฮวาที่ปกปิดตัวตนของซูเจินนางไว้“เจินเออร์ อย่าเล่นเช่นนี้” “ไม่เล่นแล้วเจ้าค่ะ ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านปู่ตกใจ” ยิ่งเป็นซูเจินปรากฏกายออกมาจากความว่างเปล่าใต้เท้าหานก็ล้มหงายหลังทันที ยังดีที่ซูเต๋ออยู่ใกล้และรับเขาไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มกระแทกพื้นไปเสียก่อน“เจ้าทำได้อย่างไร ไม่ ไม่ ข้ารู้แล้ว เจ้าเป็นนายหญิงแห่งพฤกษาอย่างแท้จริง” กว่าที่สติเขาจะกลับมาได้เช่นเดิมก็ต้องดื่มชาไปเสียหลายแก้วพวกเขาคุยกันต่ออีกหลายประโยคก่อนที่สองพ่อลูกจะขอตัวกลับที่พัก เพื่อให้ใต้เท้าหานที่เดินทางมาอย่างเร่งรีบได้พักผ่อนใต้เท้าหานอยู่ที่เมืองเหอโจวต่ออีกเพียงแค่สองวัน เพื่อตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงภายในเมืองด้วยตาตนเอง ก่อนจะนำเรื่องกลับไปรายงานให้ฮ่องเต้รับทราบส่วนขุนนางที่แอบฟังเรื่องที่เขาพูดคุยกับซูเต๋อ สอบสวนแล้ว เขายังไม่ทันได้ยินเรื่องอันใดก็ถูกผึ้งต่อยเข้าเสียก่อน ใต้เท้าหานคุมตัวกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อให้ฮ่องเต้ทรงตัดสินพระทัยด้วยพระองค์เอง“อาเต๋อ หากได้เรื่องเช่นไร ข้าจะรีบส่งข่าวให้เจ้าทันที เจินเออร์ปู่หวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีกในไม่ช้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status