อู๋ซื่อเสแสร้งเสียจนเคยชิน ยามนี้ถูกเยว่อวิ๋นเอาความจริงมาพูดแบบตรงไปตรงมา นางพลันพูดไม่ออกได้แต่ยืนบื้อใบ้ไร้คำกล่าว ใบหน้าเห่อร้อนราวกับถูกคนตบก็ไม่ปานแน่นอนว่าอู๋ซื่อย่อมนึกอยากโต้แย้งเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง ว่าสิ่งที่เยว่อวิ๋นเอ่ยมานั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทว่านางกลับคิดไม่ออกว่าควรจะเริ่มจา
“ได้ยินหรือไม่ ได้ยินแล้วก็ไสหัวลงไปเสีย” ชิงหลัวรีบกล่าวสำทับสวีเหยาทำอะไรไม่ได้ นางได้แต่ถลึงตาใส่พวกเขาสามคน ก่อนจะสะบัดหน้าลงเกวียนไปอย่างโมโหนี่คือถูกเกลียดแล้วสินะ เยว่อวิ๋นเลิกคิ้วพลางคิดขำๆที่แท้เซี่ยฉงอวิ๋นก็ไม่ธรรมดาเลย ตกอยู่ในสภาพป่วยร่อแร่เสียขนาดนั้นยังมีดอกท้อเน่ามาติดพันได้อีก ช่า
เซี่ยต้าจวงเห็นว่านางมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ จึงเป็นฝ่ายประณีประนอม “ได้ ต่อไปเจ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วยก็มาบอกข้าแล้วกัน”เยว่อวิ๋นยิ้มรับ นางส่งต้าจวงจากไป ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าบ้านเพื่อจัดการสิ่งของที่ซื้อมาในห้องครัว สองพี่น้องกำลังช่วยกันจัดเรียงข้าวของอย่างขมักเขม้น มองบรรดาเครื่องปรุงที่ถูกวางไว้อย่า
ท่านแม่กินเก่งน้องสาวก็กินเก่ง อนาคตเขาจะต้องทำงานให้ได้วันละเท่าไรกันนะ ถึงจะพอเลี้ยงซาลาเปาพวกนางอิ่มหลังกินขนมตบท้ายเสร็จ เยว่อวิ๋นก็ต้มน้ำร้อนให้เด็กๆ อาบ เสี่ยวอวี้กับตาเป่าถูกมารดาจับถูเจ่าโต้ว[1]ที่ซื้อมาจนเนื้อตัวสะอาดเอี่ยม กลิ่นหอมที่ติดกายมาทำให้พวกเขาตื่นเต้นอย่างยิ่ง แม้แต่ต้าเป่าก็ยัง
ชายหนุ่มคิดแล้วค่อยผ่อนคลายความระแวดระวัง เยวอวิ๋นที่กำลังไล้ปลายมีดผ่านตามคางและแก้มชายหนุ่ม สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายลดการป้องกันลงแล้ว ก็ผงกศีรษะขึ้นลงอย่างพอใจนางรำคาญเจ้าสิ่งนี้บนใบหน้าเขามานานแล้ว จะป้อนอาหารหรือยาก็ล้วนลำบาก ต้องมานั่งทำความสะอาดทีหลังให้วุ่นวายอีกอย่าง…หากวัดจากความชอบที่มีต่อบ
เมื่อสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการบรรลุผล การพูดคุยก็ง่ายดายขึ้นชั่วเวลาสั้นๆ เยว่อวิ๋นกับเซี่ยฉงอวิ๋นก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อกัน โดยเฉพาะเยว่อวิ๋น นางนึกไม่ถึงเลยว่าสามีที่ชาวบ้านมองว่าโง่เขลาของนาง จะเป็นคนมีความคิดลึกซึ้งเพียงนี้แล้วที่ผ่านๆ มาคืออะไร โรคโง่งมกำเริบเป็นบางเวลางั้นหรือ ไม่สิ ไม่ถูกต
หญิงสาวฝืนบังคับมุมปากที่บิดเบี้ยวของตนให้กลับมาเป็นปกติ ก่อนจะถาม “หมอจาง ท่านกำลังทำอะไร”หมอจางโขกศีรษะรัวๆ ตอบด้วยน้ำเสียงขึงขัง “อาจารย์ ท่านไม่เพียงจะมอบตำราสมุนไพรให้ศิษย์ ยังต้องการสอนศิษย์ทำน้ำยาล้างแผลอีก บุญคุณนี้ใหญ่หลวงยิ่ง ต่อไปภายหน้าศิษย์จะต้องกตัญญูต่อท่าน ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”
“สกุลจางมีเครือข่ายอำนาจด้านการค้า เจ้ารับหมอจางเป็นศิษย์นับเป็นเรื่องดีที่มีแต่ได้ไม่มีเสีย” จี้จิ่งชวนไม่รู้เพราะเหตุใดตัวเองถึงบอกกับนางเรื่องนี้ อาจเพราะสงสารที่นางต้องแบกรับภาระมากมาย จึงอดช่วยออกความเห็นให้ไม่ได้กระมังเยว่อวิ๋นผงกศีรษะรับรู้ นางไม่สนใจครอบครัวของจางถิงสักเท่าไร การพึ่งพาคนอื่
ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร
อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา
ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ
“สงสารนางหรือ” ต้าเป่าที่ก้มหน้าได้ยินคำถามก็เงยหน้าขึ้นทันที“ไม่ขอรับ นางสมควรได้รับแล้ว” เขาจะสงสารนางได้อย่างไร สะใภ้ใหญ่จ้าวผู้นั้นมีเจตนาร้ายต่อมารดาเรื่องข่าวลือเสียหายคราวก่อนก็เป็นนางที่รับเงินสวีเหยามาใส่ร้ายท่านแม่ ตอนที่พวกเถี่ยโกว่มาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเขาก็จดชื่อนางไว้ในบัญชีแค้นแล้วต
ผู้ใหญ่บ้านเพิ่งพูดจบก็หันมาพบกับเยว่อวิ๋นยืนอุ้มเสี่ยวอวี้อยู่ ใบหน้าชายชราพลันเผยแววกระอักกระอ่วนให้เห็นวูบหนึ่ง คำพูดใดๆ ล้วนติดอยู่แค่ในลำคอแต่ยังโชคดีที่เยว่อวิ๋นนั้นสำเร็จวิชาขั้นสูงแล้ว คำพูดค่อนขอดลอยๆ ของผู้ใหญ่บ้านจึงไม่สามารถโจมตีทะลุผิวหน้าหนาๆ ของนางไปได้หญิงสาวเพียงยกมือลูบจมูกเบาๆ น
“แล้วกันไป ง่ายดายแบบนี้เลย แล้วชื่อเสียงลูกชายข้าล่ะ จ้าวฮวา คนเริ่มก่อนเป็นบ้านเจ้า ถึงตอนนี้ป้ายอุจจาระใส่ศีรษะต้าหว่างของข้าจนเหม็นแล้วคิดจะสะบัดก้นกันไปง่ายๆ งั้นหรือ ฝันไปเถอะยายแก่เจ้าเล่ห์!”“แล้วเจ้าจะเอาอย่างไร” ป้าจ้าวชักสีหน้าหงุดหงิด ต้าหว่างเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง โดนด่านิดด่าหน่อยจะเป็นอะไ
อีกทั้งสาเหตุที่นางขอให้เถี่ยโกว่กับต้าหว่างปิดบังเรื่องนี้ สาเหตุแท้จริงก็ไม่ใช่เพราะเรื่องสิ่งของเสียหน่อยสกุลฟางมีบุตรสาวถึงสามคน ส่วนบุตรชายกลับมีแค่คนเดียวเท่านั้น บิดามารดาของฟางฮัวจึงรักถนอมเขามาก ทว่าความรักที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี ฟางเฉาที่ถูกตามใจมาแต่เล็กก็เช่นกัน เขาโตมาจนอายุขนาดนี้กลั
หญิงที่อยู่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นกรีดร้องร่ำไห้สภาพน่าเวทนายิ่งนัก ทว่าหญิงสูงวัยผู้ลงมือกลับมิได้ผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ซึ่งเยว่อวิ๋นจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าสตรีสองนางนี้ไม่ใช่คนที่นางกับเซี่ยฉงอวิ๋นพูดถึงเมื่อวานนี้ฟางฮัวกับแม่สามีของนางนั่นเอง…“นางแพศยา เจ้าแต่งมาเป็นสะใภ้บ้านจ้าวเรา กินดื่มล้
เรื่องไม่เหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย ทว่าเยว่อวิ๋นที่นานทีจะเกิดเมตตาจิตไม่ได้เปิดโปงอีกฝ่ายออกไป ที่นางมาถามข่าวกับเฉียนซานก็แค่อยากจะประเมินความร้ายแรงของเรื่องนี้เท่านั้น และก็จริงดังที่คาดไว้เสียด้วยหากหลีจวินเป็นเพียงทายาทตระกูลชั้นสูงที่มาเที่ยวเล่น ตำบลซานซีทั่วไป มีหรือที่คนในพื้นที่จะไม่รู้เรื่อ