“เอาแบบนี้ไหมน้า หนูจะให้น้าเบิกค่าแรงล่วงหน้า แล้วจัดการแยกบ้านซะ โดยที่น้าต้องกลับไปปรึกษากับสามีก่อน ตอนนี้พ่อหนูและพ่อสามีกำลังจะเช่าซื้อที่ดินบนเขามาทำสวนผลไม้ น้าไม่ต้องกลัวว่าสามีน้าจะไม่มีงานทำ ถ้าไม่เลือกงานหนูยินดีที่จะช่วยถ้าตกลงกันได้แล้วก็มาบอก แต่อยากให้น้าและสามีทำทีเหมือนคนตกงาน และบอกว่าฉันกลับมาแล้วเลยไม่ต้องการจ้างใครอีก เหตุผลนี้ถ้าน้าและสามีของน้าจะแยกบ้านหนูว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทุกคนเห็นด้วยกับหนูไหม”จากประสบการณ์บ้านเฟิง ชุยเหมยฮวาจึงเลือกที่จะช่วยนางกู้จิงและสามี เพราะเธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมแบบที่เซียวหร่านอิงน้องสามีพบเจอ เหตุการณ์ของน้ากู้จิงยังไม่ร้ายแรงเท่า“เหมยฮวาพูดถูกต้องแล้ว ฉันว่าเธอต้องกลับไปปรึกษาอาห่าวก่อนดีกว่า อีกทั้งอาห่าวเองช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานก่อสร้าง เถ้าแก่ที่รับเหมาเลยต้องพักงานลูกน้องที่บ้านอยู่ไกลไม่ใช่เหรอ”“ใช่แล้วพี่ชุยหลาย ตอนนี้สามีต้องเข้ามาช่วยงานในไร่แทน ตอนแรกแม่สามีและพี่ชายทั้งสองคนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ รายได้ขาดไปไม่น้อย แต่พอฉันมาทำงานกับซีหาน ทุกคนจึงทำสีหน้าดีขึ้น”“นี่ก็เป็นเรื่องดีนะครับ ตอนนี้จัดการเรื่องแย
ชุยเหมยฮวาสรุปออกมา เธอไม่อยากให้พี่ชายเหนื่อยเพราะเธอจนเกินไป แบบนี้นี่แหละดีแล้ว อีกหน่อยพี่ใหญ่ต้องแต่งภรรยาเข้าบ้านจะได้มีเงินเก็บเพราะวันหนึ่งพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้จะต้องมีลูก“อืม เอาอย่างนั้นก็ได้”เมื่อได้บทสรุปทั้งหมดจึงนั่งกินมื้อเย็นกันย่างอร่อย ก่อนจะแยกย้ายกันบ้านใครบ้านมันวันถัดมาสองสามีภรรยายังคงมาช่วยทุกคนจัดร้านเหมือนเดิม กู้จิงมาพร้อมกันสามี เมื่อคืนทั้งสองคนนั่งปรึกษากันและเห็นด้วยกับชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียน วันนี้หวางห่าวจึงเดินมาพร้อมกับภรรยา“ถ้าน้าตัดสินใจเรียบร้อยแล้วก็ดำเนินตามแผนเลย ส่วนเรื่องแบบบ้านจบเรื่องแยกบ้านของพวกน้า ค่อยมาเอาแบบไปให้เถ้าแก่ตีราคาดู แล้วอย่าลืมมาเอาเงินไปซ่อมแซมบ้านของน้ากู้จิงก่อนล่ะ ส่วนจะใช้คืนกันยังไงค่อยมาคุยกัน เพราะยังไงน้าทั้งสองคนต้องทำงานกับพวกเราอีกนาน”ชุยเหมยฮวายิ้มให้ เธอไม่ได้คิดมากกับเงินที่ให้สองคนนี้ยืม ต่อให้ผ่อนคืนเดือนละสิบหยวนเธอก็ไม่มีปัญหา“ขอบใจมากนะเหมยฮวา หย่งเสียน น้ากับอาจิงจะรีบไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย แล้วจะรีบมาบอก แต่ปัญหาอาจจะตามมาเล็กน้อยเพราะแม่คงให้พี่สะใภ้หรือคนในบ้านหวางมาถามเรื่องอาจิงโดนออก
“ชั้นสองหนูจะทำเป็นห้องพัก และอีกสองห้องจะทำเป็นห้องนั่งกินอาหารแบบส่วนตัว พี่เห็นด้วยไหม หนูเชื่อว่าต่อไปเราต้องรับพนักงานเพิ่ม หากพี่เหนื่อยพี่จะได้มานอนพักผ่อนได้ไงคะ”ชุยเหมยฮวาหันมายิ้มหวานและบอกรายละเอียดในส่วนของชั้นสองว่าเธอต้องการใช้พื้นที่ทำอะไร เซียวหย่งเสียนนั่งฟังตาปริบ ๆ แต่พอเห็นว่าภรรยารักเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว ความคิดเจ้าเล่ห์ที่จะเอาเปรียบภรรยาเกิดขึ้นในหัวอย่างเฉียบพลัน“เสี่ยวฮวา พี่คิดว่าตอนนี้เราทำความสะอาดและจัดของเสร็จแล้ว เหลือแค่ชั้นสอง ถ้าเรียบร้อยเราเข้ามิติไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วค่อยกลับบ้านดีไหมครับ”“พี่หย่งเสียน อย่ามาทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบนั้นนะ อย่าคิดว่าหนูไม่รู้ถึงความต้องการพี่สิ นี่มันกลางวันไม่ใช่กลางคืนเสียหน่อย กินไม่รู้จักอิ่มจริง ๆ”แม้จะแกล้งทำหน้าดุและถลึงตาใส่สามีจอมมึน แต่การกระทำนี้กลับสร้างความเอ็นดูแก่สามีอย่างเซียวหย่งเสียน นี่ถ้าเขาไม่เกรงใจกลัวภรรยารักจะโกรธ เขาคงจับเธอกินเสียเดี๋ยวนี้“ใครใช้ให้เมียพี่ทั้งสวยและน่ากินแบบนี้ล่ะ พี่อดใจไหวก็ต้องไปบวชแล้วไหม อ้อ…ที่สำคัญเมียพี่อร่อยมากด้วย จับตรงไหนเต็มไม้เต็มมือไปหมด” เซียวหย่งเสียนทำท่า
แม้จะรู้ว่าเสียมารยาท แต่เขาเลือกที่จะถามคำถามนี้ เขารู้มาว่าพนักงานสาวที่ยังไม่มีคนรักหรือว่ายังไม่แต่งงาน มักจะชอบปีนเตียงเถ้าแก่ร้าน เขาจึงไม่อยากให้เกิดเรื่อง ใครจะมองว่าเขาเสียมารยาทเขาไม่สนขอเพียงอะไรที่ทำให้ภรรยาสบายใจและไม่ทำให้ภรรยารักเสียใจทีหลังก็พอ และที่สำคัญช่วงเปิดร้านแรก ๆ อาจจะมีพนักงานเพียงสองคนก่อน และเขาเองก็ต้องช่วยด้วย จึงไม่อยากให้เกิดเรื่อง“แต่งแล้วค่ะ สามีฉันรออยู่ที่หัวมุมถนน” แม้จะแปลกใจแต่ก็ยังตอบตามความเป็นจริง“เอาอย่างนี้ คุณเดินไปตามสามีคุณมาเถอะ ร้านของผมไม่จำเป็นต้องเป็นหญิงสาว ต่อให้เป็นชายถ้าทำงานได้ผมและภรรยาก็ไม่ขัด”เซียวหย่งเสียนบอกกล่าวให้หญิงสาวเดินไปตามสามี ดีเสียอีกสามีภรรยาทำงานด้วยกันเขาจะได้สบายใจ หญิงสาวที่มาสมัครงานจึงเดินไปตามสามีด้วยรอยยิ้ม“อาเย่ว ทำไมน้องกลับมาเร็ว หรือว่าร้านนั้นเขาไม่รับ” ฉงซานไม่ยอมเดินไปกับภรรยาเพราะกลัวว่าเถ้าแก่ร้านจะไม่รับเธอเข้าทำงาน ส่วนตัวเขาค่อยไปหางานที่ใช้แรงงานทำแทน“เปล่าค่ะ ผู้ชายคนเมื่อครู่นี้เขาคือเถ้าแก่เจ้าของร้าน เขาให้น้องมาตามพี่เพราะร้านของเถ้าแก่รับทั้งหญิงและชาย เมื่อครู่นี้เขาถามน้องด้วย
ชุยเหมยฮวาไม่ได้ต้องการคนเก่ง เธอรู้ดีว่าต่อให้เก่งแค่ไหน แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์ก็ยากที่จะควบคุม ไม่สู้เอาคนที่ขยันซื่อสัตย์ไม่ดีกว่าเหรอ เพราะทุกอย่างมันสอนได้ทั้งนั้นเจียงเย่วและฉงซานมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ไม่คิดว่าเจ้านายคนใหม่จะใจดีและไม่คิดมากเรื่องที่สามีภรรยาทำงานด้วยกัน“ขอบคุณมากนะคะที่รับเราเข้าทำงาน”“ยินดีค่ะ ส่วนเรื่องเงินเดือน คนละสี่สิบหยวนพอไหวไหม อาหารกินที่ร้านสามมื้อ”ในอำเภอแบบนี้ไม่น่าจะน้อยเกินไป เธอตั้งใจว่าอีกสักสามเดือนค่อยเพิ่มเงินเดือนให้ก็แล้วกัน เพราะยังไงร้านนี้ต้นทุนมีเพียงแค่แรงคนงานเท่านั้นสองสามีภรรยาจับมือกันด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าเจ้านายทั้งสองคนจะให้เงินเดือนมากขนาดนี้ ต่อให้จ่ายค่าเช่าที่พัก เธอและสามียังเหลือเงินอีกมาก แถมค่าอาหารก็ไม่ต้องจ่ายอีก ทำไมเจ้าของร้านทั้งสองคนใจดีแบบนี้“เอาล่ะ อีกสามวันร้านนี้จะเปิด ทั้งสองคนเตรียมตัวให้พร้อม หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันยาวนาน” เซียวหย่งเสียนกล่าวปิดท้ายเมื่อพูดคุยและตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดต่างก็แยกย้ายเพื่อรอให้ถึงวันเปิดร้าน“ดูท่าเถ้าแก่จะรักเถ้าแก่เนี้ยมากนะพี่” เจียงเย่วคุยกับสามีระหว่างเดินกลับห้
กวงสือทักทายอย่างเป็นกันเอง เขาอยากได้เซียวหย่งเสียนมาทำงานด้วยเพราะความสามารถและฝีมือการต่อสู้ของชายหนุ่มไม่ด้อยไปกว่าใคร แต่เพราะเซียวหย่งเสียนไม่ชอบทางเดินนี้เลยทำให้ทั้งสองคนเริ่มห่างหายกัน“ครับพี่ ผมแต่งงานแล้ว วันนี้ที่ผมมาเพราะมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ ผมคิดว่าหากต้องการตามหากลุ่มคนทำงานสายมืด ผมควรจะมาหาพี่”เซียวหย่งเสียนแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ใช่คนพูดเยอะ ในเมื่อเปิดประเด็นแล้วจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง และยังให้ลู่จื่อฉีบอกถึงลักษณะท่าทางของกลุ่มนักเลงพวกนั้นกวงสือรับฟังแต่โดยดี แต่พอบอกถึงลักษณะกลุ่มคนพวกนั้นคล้ายกับจะเป็นลูกน้องเก่าของเขาเอง ที่ทำผิดกฎเขาเลยไล่ออกไปเมื่อหลายเดือนก่อน“คนที่นายพูดถึงฉันคิดว่าเป็นลูกน้องเก่าฉันเอง พวกนั้นโดนไล่ออกไปเมื่อหลายเดือนก่อน นายรู้ดีต่อให้ฉันทำการค้าด้านมืดและรับงานสีเทา แต่เรื่องรังแกเด็กและผู้หญิงพวกฉันไม่ทำ”“ผมเข้าใจครับ ตอนแรกตั้งใจจะสืบด้วยตัวเอง แต่อีกสองวันผมและภรรยากำลังจะเปิดร้าน เลยไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้น อีกทั้งผมเฝ้าสังเกตมาหลายวันแล้วแต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหว เลยคิดว่าผมเข้ามาขอความช่วยเหลือจากพี่ดีกว่า”“อืม ยังดีที่น
“ถ้ามันไม่หยุด ฉันพร้อมที่จะเล่นงานมันกลับ นายไม่เชื่อก็คอยดู ไม่ว่าในอดีตเสี่ยวฮวาจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เธอคือเมียฉัน เธอคือผู้หญิงคนที่สามที่ฉันรัก คนแรกคือแม่ คนที่สองคือน้องเล็ก และคนสุดท้ายคือเสี่ยวฮวา”“อ้าว พี่บอกว่าพี่ชีวิตนี้พี่รักผู้หญิงเพียงสามคน แล้วพอเหมยฮวาและพี่มีลูกสาวพี่จะไม่รักหรือยังไง”ลู่จื่อฉีไม่อยากให้คนที่เป็นทั้งเจ้านายและเขาเคารพเหมือนพี่ชายต้องคิดมาก จึงเปลี่ยนเรื่องคุย ต่อให้เซียวเจี้ยนซูจะวางแผนร้ายยังไง เขาคือหนึ่งในคนที่จะเล่นงานกลับด้วยเหมือนกัน เขาและน้องชายเป็นเด็กกำพร้า ตอนนี้จึงคิดเพียงแค่บ้านใหญ่เซียวและบ้านชุยคือครอบครัว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาคิดร้ายคนในครอบครัวของเขา“ไอ้นี่ ลูกสาวใครบ้างไม่รัก แต่คงต้องรอหน่อย เสี่ยวฮวาขอเวลาให้ร้านอยู่ตัวก่อนแล้วถึงจะยอมมีลูกน้อย ฉันเองก็พยายามอยู่ทุกคืนเผื่อว่าเธอจะใจอ่อนขึ้นมาบ้าง แล้วนายล่ะ อายุก็ไม่น้อยแล้ว นายอายุเท่ากับซีหานไม่ใช่เหรอ ไม่คิดจะมีครอบครัวบ้างหรือไง”“พี่นี่พูดไม่คิดอีกแล้ว ผมและน้องเป็นเด็กกำพร้า บ้านจน จะมีหญิงใดมาเหลียวแล”“นายดูฉันเป็นตัวอย่างฉันเองก็จน แต่ใครจะคิดว่าได้เมียดีแบบ
หญิงสาวชะงักเล็กน้อยกับการกระทำของคนเป็นสามี แม้จะแต่งงานกันแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หมาป่าเช่นเซียวหย่งเสียนทำแบบนี้ แต่หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงกับสิ่งเธอสัมผัสอยู่ หย่งเสียนน้อยเริ่มแข็งตัวและกระตุกเป็นจังหวะทำเอาใจของเธอเต้นตามไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นจะมาทำอะไรกันตรงนี้ไม่ได้อยู่ดี ก่อนจะพาสามีจอมหน้ามึนเข้ามิติ เพื่อทำให้หย่งเสียนน้อยสงบ“คนนิสัยไม่ดี!” เธอทำได้เพียงแต่บ่นแต่ก็คล้อยตามสามีด้วยความเต็มใจในที่สุดวันเปิดร้านก็มาถึง เช้าวันนี้ร้านหน้าหมู่บ้านปิดทั้งสามร้านเพื่อมาช่วยในร้านเปิดใหม่ของชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียน แม้จะเป็นร้านขายผัดไทยแต่ก็มีคนมาร่วมงานไม่น้อย วันนี้ชุยเหมยฮวาจึงเปิดให้กินฟรี เพื่อโฆษณาร้านของตัวเองชุยหลายและเซียวจ้ายซวนให้เถ้าแก่ต้วนเป็นคนจุดประทัดหน้าร้านเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย และหวังว่าร้านของลูกจะทำการค้าได้เจริญรุ่งเรืองเหมือนเถ้าแก่ต้วนนอกจากจะมีเถ้าแก่ต้วนมาเป็นแขกผู้มีเกียรติ ยังมีบรรดาพ่อค้าทั้งหลายที่ให้ความนับถือนายท่านต้วนมาร่วมงานด้วยเพราะเถ้าแก่ต้วนบอกว่านี่คือร้านของหลานสาวและหลานเขยนอกจากได้ยินเสียงชมเชยไม่ขาด ยังมีเถ้าแก่บางคนที่ต้องกา
ถ้าจะไม่พูดถึงเซียวหมิงหย่วนก็คงไม่ได้ ตอนนี้เธอเองก็แต่งงานกับลู่จื่อฉี และกำลังท้องลูกคนแรก แต่กว่าที่ทั้งสองคนจะตกลงปลงใจกันได้ ชุยเหมยฮวาเธอทั้งช่วยเข็นช่วยดันไม่น้อยเพราะลู่จื่อฉีมักคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสม อีกทั้งอาสะใภ้รองคอยกีดกันอยากให้ลูกสาวได้คนที่มีหน้ามีตากว่านี้ ส่วนเซียวเจี้ยนซูก็แต่งกับพนักงานของร้านเหมยฮวา เธอและสามีเคยบอกว่าจะให้สูตรอาหารเพื่อให้ทั้งสองคนได้มีกิจการเป็นของตัวเอง แต่สองพี่น้องบอกว่าแค่นี้พวกเขาก็พอใจแล้วส่วนไร่ผลไม้ของสองตระกูลเริ่มผลิดอกออกผล แต่บางอย่างก็ต้องรอให้เต็มวัยก่อนจะเก็บผลผลิตไปขายได้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ชุยเหมยฮวาพูดไว้ ชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า ไม่มีหนี้สินมีเพียงกิจการเล็ก ๆ แค่นี้ก็พอแล้ว เพราะนี่คือความสุขที่แท้จริง“ในที่สุดสองแสบก็หลับเสียที”เซียวหย่งเสียนแทบจะปาดเหงื่อเมื่อต้องเอาลูกน้อยทั้งสองคนเข้านอน หน้าที่นี้เขาขอทำเองตั้งแต่ลูกเกิด ชายหนุ่มรู้สึกว่าแค่ภรรยาต้องอุ้มทองและเจ็บท้องคลอดก็พอแล้ว อะไรที่ทำได้เขายินดีที่จะทำ“เหนื่อยไหมคะ ทำงานเสร็จกลับมาบ้านยังต้องช่วยหนูเลี้ยงลูกอีก” ไม่ใช่ไม่เห็นใจสามีที่เหนื่อยจากงานแล้วต้อ
การใช้ชีวิตใจฐานะของพ่อและแม่ดำเนินไปอย่างมีความสุข แม้ว่าเซียวหย่งเสียนจะต้องไปดูร้านทั้งสองแทนภรรยาก็ตาม เมื่อเสร็จงานเขาก็จะรีบกลับมาหาลูกและภรรยา จนภาพพวกนี้ชินตากับลูกน้องและคนในครอบครัวเด็กน้อยทั้งสองคนเติบโตทุกวันจนอายุครบสามขวบ ความซนและความแสบไม่มีใครเกินใครเหมือนกับวันนี้“แม่ฮะ วันนี้พ่อจีบฉาว” เซียวคุนหยางหรือว่าหยางหยางวิ่งตัวกลมเข้ามาฟ้องแม่คนสวยของตัวเอง“หยุดเลยนะหยางหยาง พ่อยังไม่ได้ทำอย่างที่ลูกพูดสียหน่อย อยากให้พ่อโดนแม่ไล่มานอนนอกห้องหรือยังไง”คราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้วช่างหาเรื่องให้เขาเสมอ ไม่รู้ได้ความแสบมายังไง“ไหนหยางหยางลองเล่าให้แม่ฟังสิครับ ว่าพ่อของลูกจีบสาวที่ไหน”“จีบที่ร้านที่อาเจี้ยนซูดูแลอยู่ฮะ ฉาวสวยมาก”ชุยเหมยฮวาหันมองหน้าสามีตาเขียว ก่อนจะมาตั้งใจฟังลูกชายเล่าต่อ“ฉาวชื่อ ป้าเจียงเย่วฮะ ป้าเอาบัญชีมาให้พ่อแทนลุงฉงซาน ฮ่า ๆ”นั่นปะไร เชื่อได้ที่ไหนกับความกวนของลูกชาย ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นพ่อกับลูกหรือว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันแน่“เป็นยังไงบ้างคะ วันนี้ร้านขนมตกแต่งเสร็จหรือยัง”นอกจากร้านอาหาร เธอเริ่มที่จะสร้างร้านขนมอีกด้วย ตอนนี้จึงเหลือเพียงตกแต่ง
บทส่งท้ายความสุขของครอบครัวเซียวหย่งเสียนมารอที่ห้องพักนานแล้ว ยังไม่เห็นภรรยารักตามเข้ามา ใจเขาเริ่มกระวนกระวายอีกครั้ง แต่ไม่นานพยาบาลและเจ้าหน้าที่เข็นคนป่วยเข้ามา“ตอนนี้คนไข้ยังไม่ตื่นนะคะ รออีกสักหน่อย แต่ปลอดภัยแล้วค่ะ” ดูจากสีหน้าของคนเป็นสามีพยาบาลวัยกลางคนจึงบอกด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณมากครับ”เซียวหย่งเสียนหันมาขอบคุณพยาบาล ก่อนจะเดินไปยืนข้างภรรยารักที่กำลังนอนอยู่ สายตาที่มองช่างอ่อนโยน ยากจะหาสิ่งใดเปรียบ จนนางหลินหลานอดที่จะปลื้มใจความรักของทั้งสองคนได้“เดี๋ยวแม่ขอไปดูหลานก่อนนะ แล้วจะรีบกลับมา ลูกจะไปด้วยไหม” ในเมื่อลูกสะใภ้ยังไม่ตื่น เจ้าหน้าที่คงยังไม่พาหลานทั้งสองคนมา เธอจึงขอไปดูด้วยตัวเองก่อน“ไม่ดีกว่าครับแม่ ผมขออยู่กับเสี่ยวฮวาดีกว่า เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอใคร”นางหลินหลานพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปดูหลานรักทั้งสองคน“หิวน้ำ” เสียงอันอิดโรยของชุยเหมยฮวาดังขึ้น ทำให้เซียวหย่งเสียนตื่นตัวอีกครั้งและรีบไปรินน้ำใส่แก้วแล้วนำมาป้อนภรรยารัก“ค่อย ๆ กินนะครับ เดี๋ยวสำลัก”“ขอบคุณมากค่ะ หนูอิ่มแล้ว”เซียวหย่งเสียนวางแก้วไว้ตรงโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้ามาแทรกตัวข
เจ้าใหญ่ นั่งก่อนเถอะ เสี่ยวฮวาอยู่กับหมอแล้วไม่เป็นอะไรหรอก” นางหลินหลานอดที่จะบ่นลูกชายไม่ได้ เธอมองตามไปมาตอนนี้เริ่มจะหน้ามืดแล้วเหมือนกัน“ผมเป็นห่วงครับแม่ เสี่ยวฮวาเข้าไปนานแล้ว หมอยังไม่ออกมาบอกเลย ผม...ผมกลัว”แค่ได้ยินเสียงที่เจ็บปวดของภรรยารัก เขาแทบจะไม่อยากให้คลอดลูกแล้ว ถ้าเป็นไปได้เขาขอเจ็บแทบดีกว่า แค่เห็นน้ำตาเธอเขาก็ใจสลายแทน“เจ้าใหญ่มานั่งนี่”เธอกวักมือเรียกให้ลูกชายมานั่ง เซียวหย่งเสียนไม่อยากขัดจึงเดินมานั่งข้าง ๆ นางหลินหลานจึงจับมือลูกชายมาตบหลังมือเบา ๆ และพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน“ฟังแม่นะ ลูกผู้หญิงทุกคนเมื่อแต่งงานย่อมต้องเจอเหตุการณ์นี้ แม้ว่าจะเจ็บปวดสักแค่ไหน แต่เมื่อเห็นหน้าลูกย่อมหายเจ็บและรู้สึกว่าคุ้มค่ามากหากเทียบกับความเจ็บที่เจอมา เสี่ยวฮวาคนนี้ย่อมต้องผ่านมันไปได้ เธอรู้ดีว่ามีครอบครัวและสามีที่ดีเช่นลูกรออยู่ เธอไม่มีทางไปไหนแน่นอน”เซียวหย่งเสียนได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของแม่ แผ่นหลังของชายหนุ่มเย็นไปหมด แม่พูดเช่นนี้เท่ากับท่านรับรู้มาตลอดว่าชุยเหมยฮวาไม่ใช่คนเดิม เขาจึงหันมองหน้าแม่อย่างตื่นตกใจ“แม่รู้...”“อย่าลืมว่าพ่อของลูกกับพ่อของเสี่ยวฮ
“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ท้องได้สองเดือนแล้ว” คุณหมอกล่าวหลังจากตรวจเสร็จ ชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็มาเสียทีตอนนี้ครอบครัวเขาสมบูรณ์แล้วจากนั้นคุณหมอจึงบอกวิธีการดูแลคนท้องให้กับสองสามีฟังอย่างละเอียด แต่มีเหรอที่เซียวหย่งเสียนจะไม่ถามเรื่องการแสดงความรักกับภรรยา“ยังคงปฏิบัติได้เหมือนเดิมค่ะ เพียงแค่รอให้พ้นช่วงสามเดือนแรกไปก่อน แต่หลังจากนั้นยังคงต้องระวังความรุนแรงสักเล็กน้อย จนกว่าจะใกล้กำหนดคลอด”คุณหมอใบหน้าเกิดริ้วแดง ไม่คิดว่าสามีคนไข้ท่านนี้จะถามออกมาตรงๆหลังจากรับยาบำรุงสองสามีภรรยาจึงกลับมาที่ร้านเพื่อบอกข่าวดีแก่ทุกคน“เสี่ยวฮวา น้องกำลังท้องอยู่นะ เดินเหินระวังด้วยสิ” เซียวหย่งเสียนปวดหัวมากกับความดื้อรั้นของภรรยารัก“พี่หย่งเสียน หนูท้องนะไม่ได้ป่วยพี่จะไม่ให้หนูทำอะไรเลยไม่ได้ ฮือ...พี่ไม่รักหนูแล้วใช่ไหม พี่เลยดุหนูตลอด หนูแค่เดินมาหาทุกคนเท่านั้นเอง” ชุยเหมยฮวาน้ำเสียงสะอื้นตอบกลับ เธอไม่รู้อารมณ์ตัวเองเหมือนกัน เพียงแค่โดนดุเล็กน้อยเธอก็น้ำตาซึมแล้ว“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง ไม่ใช่พี่ไม่รักหนู แต่เพราะรัก พี่จึงเป็นห่วง ครั้
ชุยเหมยฮวายิ้มรับก่อนจะพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ไม่ใช่เพราะฉันคนเดียวหรอกป้า แต่ทุกคนต่างหากที่ร่วมด้วยช่วยกันจนมีวันนี้ ฉันเองก็ต้องขอบคุณพี่หย่งเสียนที่ยอมแต่งกับหญิงร้ายกาจเช่นฉัน พอวันหนึ่งที่ฉันคิดได้จึงรู้ว่าอะไรและใครสำคัญที่สุด ฉันเลยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่รัก”ชาวบ้านได้แต่ยิ้มให้ จากนั้นชุยเหมยฮวาจึงเดินดูความเรียบร้อยในส่วนอื่น ๆ ก่อนจะเดินมาหาสามีที่ยังนั่งดื่มกินกับเจ้าบ่าวและกลุ่มของเพื่อนที่มาจากในอำเภอและในหมู่บ้าน“พี่หย่งเสียน หนูจะเข้าไปหาพี่สะใภ้ พี่เองก็อย่าแกล้งพี่ใหญ่มากล่ะ เดี๋ยวจะเมาแล้วไม่ได้เข้าหอ”“พี่ไม่แกล้งพี่สัญญา เพราะคืนนี้พี่ต้องเข้าหอด้วยเหมือนกัน”เมื่อเจอการหยอกล้อของสามีใบหน้าของหญิงสาวจึงแดงขึ้นเพราะความเขินอายและรีบเดินจากไปทันทีชุยเหมยฮวาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้อีกสักพักก่อนจะกลับไปจัดการอาหารที่บ้านใหญ่เซียวเพราะเดี๋ยวจะมีชาวบ้านมาขนไปที่บ้านชุย เพื่อนำไปแจกจ่าย และรอสามีรักกลับมาเข้าหอกับเธอเหมือนพี่ชายและพี่สะใภ้วันเวลาผ่านไปจนวันที่รอคอยของชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมาถึงเสียที ภัตตาคารเซียวเหมยเปิดทำการแล้ว พิธีเปิดในวันนี้เซียวจ้า
หลังจากจัดการเรื่องต่าง ๆ เสร็จสิ้น ทุกคนจึงดำเนินชีวิตอย่างปกติเช่นทุกวัน เซียวเจี้ยนซูไปช่วยงานที่ร้านเหมยฮวา เซียวหมิงหย่วนไปช่วยที่ร้านขายข้าวเหนียวหมูทอดของพ่อแม่สามี ตอนนี้บ้านชุยก็สร้างเสร็จแล้ว สองพ่อลูกบ้านชุยจึงย้ายกลับบ้านของตัวเอง แม้จะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วแต่ทั้งสองบ้านยังไม่ได้เลี้ยงฉลอง ทุกคนจึงเห็นว่าควรจะจัดงานแต่งของชุยซีหานและฟางเซียนเสียทีจะได้เลี้ยงพร้อมกันทีเดียวตอนนี้น้ำซอสปรุงอาหารเริ่มทยอยส่งขายแล้ว พร้อมกับลูกชิ้นชนิดต่าง ๆ ของชุยซีหาน ผลตอบรับทั้งสองอย่างดีเกินคาด ส่วนที่ดินที่สองครอบครัวซื้อไว้ ส่วนหนึ่งปลูกผลไม้ ส่วนหนึ่งนำมาเลี้ยงไก่เลี้ยงหมู ซึ่งเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ไม่น้อย ส่วนสองพี่น้องบ้านลู่ คนหนึ่งเป็นหัวหน้าคนงานในไร่โดยมีหวางห่าวสามีของกู้จิงคอยมาช่วยอีกแรง เวลาว่างก็จะมาช่วยที่ร้านเช่นเดิม อีกคนช่วยดูงานในโรงงานลูกชิ้นขนาดเล็กของบ้านชุย เพียงแค่นี้ค่าแรงทั้งสองคนแต่ละเดือนมากจนใครได้ยินก็ต่างตกใจในที่สุดวันแต่งงานของชุยซีหานและฟางเซียนมาถึง บรรยากาศในหมู่บ้านแทบจะติดผ้าสีแดงทั้งหมด วันนี้บ้านชุยและบ้านเซียวเลี้ยงฉลองนอกจากงานแต่งของชุยซีหานแล้วยังเล
ชุยเหมยฮวาแทบจะกระโดดปรบมือให้กับน้องสามีคนนี้เหลือเกิน เธอรู้มาตลอดว่าเนื้อแท้ของสองพี่น้องบ้านรองไม่ใช่คนเลว อาจจะหลงผิดไปบ้าง แต่ในเมื่อคิดปรับปรุงตัวเธอก็พร้อมจะให้อภัย ส่วนเรื่องของเซียวเจี้ยนซูจะโทษเขาฝ่ายเดียวคงไม่ถูก เพราะชุยเหมยฮวาคนเก่าเป็นฝ่ายตามตื๊อเขาเอง“ฉันรักพี่หย่งเสียนมาก่อน ในอดีตนังเหมยฮวาไม่ได้รักพี่หย่งเสียน มันรักพี่เจี้ยนซู มันไม่เหมาะที่จะเป็นเมียพี่” เจียวมิ่งยังคงดึงดัน แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดก็ตาม“เหมาะหรือไม่ ผมเป็นคนตัดสินใจไม่เกี่ยวกับคุณ ครั้งนี้ผมจะยอมจบเรื่องแต่โดยดี ถ้ามีครั้งต่อไป คุณได้เป็นภรรยาของชายคนใดคนหนึ่งแน่ ในเมื่อรู้จักผมดีไม่ใช่เหรอ ย่อมรู้ว่าผมพูดจริงทำจริง”พูดจบเขาจูงมือภรรยาและชวนทุกคนออกจากห้องเพื่อไปกินอาหารที่ร้านเป็นการตอบแทน“พี่หย่งเสียนมีงานให้เราสองคนทำบ้างไหม”เซียวเจี้ยนซูเอ่ยถามโดยมีเซียวหมิงหย่วนพยักหน้าตาม ตอนนี้ทั้งสองพี่น้องอยากทำงานเก็บเงินมาก เพราะเงินในบ้านที่เคยมีพ่อเอาไปเล่นการพนันแทบจะไม่เหลือแล้ว“ได้สิ พี่เจี้ยนซูฝึกงานกับพี่ฉงซานไปก่อนนะ ฉันกับพี่หย่งเสียนตั้งใจจะเปิดร้านอาหารอีกแห่ง ตอนนี้ซื้อที่
“ฉันจะเปิดเข้าไปดูถ้าเป็นพี่หย่งเสียนจริง ฉันยินดีที่จะหย่าให้ถ้าเขาอยากอยู่กับอดีตคนรัก เมื่อฉันมาทีหลัง ฉันพร้อมจะหลีกทาง” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นหากไม่รู้แผนการมาก่อนคงใจสลายไม่น้อย เพราะรูปร่างของชายหนุ่มที่นอนคว่ำหน้าไม่ต่างจากสามีของเธอ“พี่หย่งเสียน! พี่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง พี่ตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ” ชุยเหมยฮวาเล่นเต็มที่ ทำเอาเซียวหมิงหย่วนอยากจะปรบมือให้พี่สะใภ้เสียเหลือเกินเจียวมิ่งแอบอมยิ้ม ก่อนจะแกล้งบิดขี้เกียจและทำเสียงงัวเงีย “ใครมารบกวนเราค่ะพี่หย่งเสียน” พอเห็นว่าเข้าตามแผนก็รีบปรับสีหน้าเป็นตกใจ และปลุกชายหนุ่มที่นอนข้างกัน“พี่หย่งเสียน ตื่นเถอะ ภรรยาพี่มา”“เกิดอะไรขึ้น ทำไมภรรยาผมมา ในเมื่อผมไม่มีภรรยาเสียหน่อย” ในเมื่อทุกอย่างลุล่วงเขาจึงแกล้งลืมตาและส่งเสียง ก่อนจะหันมาเจอหน้ากับทุกคน จึงทำให้เจียวมิ่งร้องลั่นห้อง“กรี๊ด! แกไม่ใช่พี่หย่งเสียน แกมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง”“เอ้า... ผมนอนของผมอยู่ดี ๆ คุณนั่นแหละเป็นใคร มานอนแก้ผ้าทำไมในห้องผม หรือว่าคุณต้องการทำมิดีมิร้าย ต่อให้ผมหน้าตาแบบนี้แต่ผมก็เลือกนะ” ชายหนุ่มพูดตามความคิด ถ้าเขาเป็นพี่หย่งเสี