วันต่อมาฟ้ายังไม่ทันสว่าง กลับมีข่าวเสื่อมเสียของเยี่ยนหลินและหลงกุ้ยดังยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง เนื่องจากคนรักของหลงกุ้ยได้มาที่บ้านเพื่อเอาอาหารเช้ามาส่งให้คนรัก เมื่อเปิดประตูเข้าไปกลับเจอทั้งสองร่างนอนกอดก่ายกันด้วยร่างกายที่เปล่าเปลือย ทำให้หญิงสาวร้องเรียกและทุบตีคนรักด้วยความโมโห“กรี๊ด! นี่มันเรื่องบ้าอะไรพี่หลงกุ้ย มีฉันเป็นคนรักแล้วพี่ยังกล้าเอานังบ้านี่มากกกอดอีกเหรอ สารเลว!”“อะไรกันเม่ยอิน เสียงดังทำไม ไม่กลัวชาวบ้านแห่กันมารึยังไง” หลงกุ้ยงัวเงียตื่นขึ้นมา เอ่ยถามอย่างไม่พอใจ“ทำไมฉันต้องกลัว คนที่กลัวคือนังนั่นมากกว่า หน็อย ตอนแรกทำที่มาขอคำปรึกษาว่าจะทำยังไงให้พี่ซีหานมาสนใจ จนต้องว่าจ้างให้พี่วางยาเพื่อนตัวเอง สุดท้ายเป็นยังไงล่ะ มากกกอดกันเอง ชั่วจริง ๆ”เม่ยอินไม่ใช่จะยอมโดนหลักหลังอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ เพราะความแค้นที่โดนหักหลังถูกแย่งคนรัก หญิงสาวคว้าชุดของเยี่ยนหลินถือออกมาหน้าบ้านและตะโกนเรียกชาวบ้านเสียงดัง“ทุกคนมานี่เร็ว มาดูหลานสาวของป้าเมิ่งเสียคนหน้าไม่อายแย่งพี่หลงกุ้ยไปจากฉัน งานแต่งก็ไม่มีแต่กลับมอบร่างกายให้ผู้ชายเชยชม!” เม่ยอินทั้งตะโกนทั้งกวักมือร้องเรียกชาวบ
ชาวบ้านยืนมองและฟังในสิ่งที่นางเมิ่งเสียพูดออกมา ทุกคนต่างก็คิดว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว มีบางคนรีบวิ่งไปที่บ้านใหญ่เซียวเพราะคิดว่าคงยังไม่มีใครออกไปจัดร้าน“นั่นสินะ พี่ชุยหลายก็ไม่อยู่ เจ้าใหญ่บ้านชุยจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง แต่นางเมิ่งเสีย ฉันว่าก่อนที่จะหลับหูหลับตาคร่ำครวญสงสารหลานสาวตัวเอง ฉันว่าหล่อนลองเปิดตาให้กว้างและมองดูก่อนว่าคนที่มีความสัมพันธ์กันหลานสาวคือใคร ดีแค่ไหนแล้วที่เม่ยอินกับหลงกุ้ยยังไม่ได้แต่งงานกัน ไม่งั้นก็คงโดนข้อหาคบชู้ไปแล้ว”นางหว่านซื่อเบะปาก นี่คิดจะบีบน้ำตาและโยนความผิดให้เจ้าใหญ่บ้านชุยเหรอ ไม่คิดว่าสองป้าหลานคิดวางแผนชั่วยัดเยียดหลานสาวให้ลูกเลี้ยงโดยมีเจ้าหลงกุ้ยช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่เจ้าหลงกุ้ยเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าใหญ่บ้านชุย ถ้ามีเพื่อนแบบนี้อย่ามีดีกว่านางเมิ่งเสียชะงักกับคำบอกเล่าของนางหว่านซื่อ เมื่อมองหน้าฝ่ายชายชัด ๆ เธอร้องกรี๊ดขึ้นมา“เจ้าหลงกุ้ย! ฉันจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าแกข่มเหงหลานสาวของฉัน” พอไม่เป็นไปตามแผน นางเมิ่งเสียจึงคิดที่จะหาคนรับผิดชอบ“ก่อนจะว่าผมข่มแหง ไม่ใช่ว่าหลานสาวของน้าหรอกเหรอ ที่แก้ผ้ายั่วยวนผม ผมนั่ง
“ผมผ่านเรื่องวันนั้นมาได้เพราะฟางเซียนบุกเข้าไปช่วยผมออกมา”เมื่อพูดถึงตรงนี้ใบหน้าของชายหนุ่มเกิดแดงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ทำให้คนที่ผ่านน้ำร้อนมาก่อนเช่นชุยหลาย จะไม่รู้เชียวเหรอว่าลูกชายคงประทับใจยายหนูฟางเซียนเข้าแล้ว เขาเองไม่ติดขัดหากทั้งสองจะแต่งงานกัน ต่อให้ฟางเซียนจะบ้านจนแค่ไหน ขอแค่ลูกชายรัก เขาก็พร้อมนะอ้าแขนรับเข้ามาเป็นคนในตระกูลชุย“จบเรื่องนี้พ่อจะจัดการให้ แต่ต้องคุยกันก่อนนะ”ถ้าฟางเซียนไม่เห็นด้วยค่อยตอบแทนเป็นอย่างอื่น ไม่นานชุยหลายและทุกคนมาถึงบ้านของหลงกุ้ย โดยให้อาโจวรออยู่หน้าบ้านและให้พี่น้องบ้านลู่ไปตามสองแฝดมาที่นี่“ในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้แล้วก็ให้หลานสาวของเธอแต่งเข้าบ้านของอาหลงก็แล้วกัน เมิ่งเสีย” ชุยหลายเดินเข้ามา และปรายตามองชายหญิงคู่หนึ่งที่มีเพียงผ้านวมห่อหุ้มร่างกาย“พี่หลาย! / ลุงเขย!” สองป้าหลานเรียกชื่อของชุยหลายเสียงดัง ไม่คิดว่าเขาจะกลับมาจังหวะนี้พอดี“อืม ฉันเอง เธอกล้ามากเลยนะเมิ่งเสีย ฉันห้ามแล้วไม่ใช่หรือไงเรื่องการแต่งงานของเจ้าใหญ่ การปลูกเรือนจะต้องตามใจผู้อยู่”“ฉัน…ฉันเปล่านะพี่ชุยหลาย เรื่องนี้ฉันไม่รู้เรื่อง” เธอรู้แล้วว่าสา
นี่คงเป็นนิสัยของชุยหลายที่ทุกคนมองว่าเด็ดขาด เมื่อตัดสินใจอะไรลงไปแล้ว ต่อให้มีความผูกพันเขาพร้อมที่จะตัดทิ้ง เช่นเดียวกับเรื่องนี้ ที่เขาพร้อมจะตัดขาดหลังจากรู้ความจริงทั้งหมด“ไม่จริง! ทั้งสองคนเป็นลูกของพี่ ฉันกล้ายืนยัน” นางเมิ่งเสียร้องไห้ฟูมฟาย ต่อให้ตกใจยังไงเธอไม่มีทางยอมรับความจริง จะฆ่าเธอให้ตายเธอก็ไม่มีทางพูด“หยุดซะทีเมิ่งเสีย เธอทำลายชีวิตฉันไม่พอยังทำลายชีวิตของอาหลายและลูกๆ อีกเหรอ ต่อให้เธอไม่กล้าที่จะยอมรับความจริงแต่ใบตรวจของหมอคงไม่โกหกหรอกใช่ไหม” อาโจวตวาดเสียงดัง และชูผลการตรวจของหมอให้ทุกคนได้เห็นหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ในที่นี้ด้วยจึงขอเอามาดู และความจริงครั้งนี้ทำให้เขาตกใจไม่น้อยเพราะสองแฝดไม่ใช่ลูกของบ้านชุย“เมิ่งเสีย ฉันว่าเรื่องนี้ควรจะตกลงกันในครอบครัวนะ อย่าให้เรื่องอื้อฉาวหลุดมาถึงคนอื่นเลย”“ช่างมันเถอะครับท่านผู้นำ วันนี้ผมต้องการหย่าและให้สามแม่ลูกออกไปจากชีวิตผมเสียที สิบเจ็ดปีผมสูญเสียมามากพอแล้ว” ชุยหลายไม่คิดที่จะยื้ออะไรอีก เพราะนั่นเท่ากับเป็นการเสียเวลาทำมาหากินของเขาและลูกทั้งสอง“ขอบใจมากนะอาหลาย ขอบใจที่ช่วยเลี้ยงลูกของฉันมาทั้งสองคนนานขนาดนี
“อาหลาน น้องเป็นยังไงบ้าง” เซียวจ้ายซวนตาแดงก่ำ คนบ้านนั้นช่างเลือกเวลามารังแกดีนัก มาตอนที่เขาไม่อยู่ ส่วนเจ้าใหญ่ก็อยู่ที่ร้าน“น้องไม่เป็นอะไรแล้ว แค่ฟกช้ำเล็กน้อย พี่อย่าคิดว่าน้องเป็นลูกพลับนิ่มสิ ฝ่ายพี่สะใภ้ก็สะบักสะบอมยิ่งกว่าน้องเสียอีก แถมยังได้เงินค่าปรับและค่าเสียหายมาไม่น้อย จริงไหมอาหาน เสี่ยวฮวา”นางหลินหลานยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ส่งมาให้ทั้งสองคน เซียวจ้ายซวนจนใจกับภรรยารักมาก ตัวเองเจ็บตัวแท้ ๆ มันน่าภูมิใจตรงไหนกัน“เอาเถอะ ไม่เจ็บมากก็แล้วไป เรื่องย้ายไปอยู่ในอำเภอพ่อไม่มีความคิดเห็น แต่พ่อขอเสนอแนะเล็กน้อย หากเรื่องที่คิดจะย้ายไปอำเภอเพียงเพราะต้องการหนีบ้านรองพ่อไม่เห็นด้วย ไม่ว่าอยู่ที่ไหน คนมันคิดจะหาเรื่องมันก็ตามไปได้ทุกที่ สุดท้ายถ้าไม่ย้ายไปต่างมณฑลก็ต้องเจอกันอยู่ดี”“จริงของพี่ซวนนะเสี่ยวฮวา ตอนนี้การค้ากำลังไปได้ดี พ่อไม่ห้ามที่ลูกทั้งสองคนจะไปหาลู่ทางในอำเภอ สำหรับพ่อแค่นี้พอแล้ว อย่างน้อยก็มีเงินให้เจ้าใหญ่สู่ขอสะใภ้เข้าบ้าน ส่วนเจ้าใหญ่จะขยายร้านในอำเภอหรือเปล่าลองถามกันเอาเอง และพ่อกับพี่ซวนตกลงกันแล้วว่าสองบ้านจะร่วมลงทุนทำสวนผลไม้ ที่บนเขายังไม่มีใครจับจ
“ส่วนเรื่องวัตถุดิบ ในอำเภอหนูมีโกดังอยู่ พี่ใหญ่เคยไปแล้ว พรุ่งนี้หนูจะเอาวัตถุดิบทุกอย่างไปเก็บไว้ที่นั่น และจะเอาตู้แช่ออกมาไว้ด้วยกันของเน่าเสีย”“ร้านผัดไทยพี่ว่าเสี่ยวฮวาอย่าปิดเลย พี่ทำได้ เพียงแค่ใส่ซอสตามสัดส่วนที่น้องบอกเท่านั้นไม่ใช่หรือไง อีกทั้งยังมีฟางเซียนมาช่วยขายอีก และพี่คิดว่าจะจ้างคนในหมู่บ้านเพิ่มสักคนช่วงที่น้องและทุกคนไม่อยู่ บอกเลยว่าพี่เสียดาย”ชุยซีหานเขาเสียดายลูกค้าถ้าร้านผัดไทยต้องปิดร่วมอาทิตย์ ไม่สู้เขาขายแทนน้องสาวไปก่อน น้องจะไม่ขาดรายได้“หนูกลัวพี่ใหญ่จะเหนื่อย มันไม่สนุกนะพี่ที่ต้องยืนหน้าเตา เดี๋ยวก็หมดหล่อกันพอดี”“อย่าห่วงเรื่องนั้น เมื่อก่อนทำงานในไร่ยังเหนื่อยกว่านี้อีก ลูกค้าที่ตั้งใจมาซื้อจะได้ไม่มาเสียเที่ยว เชื่อเถอะว่าพี่ทำได้ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้พี่จะขายแทนน้องเอง ตอนที่น้องกับพี่หย่งเสียนเข้าอำเภอ ดีไหม แล้ว...แล้วค่อยให้ฟางเซียนมาช่วยพี่ห่อให้ลูกค้า”พอพูดประโยคถัดไปใบหูของชายหนุ่มแดงเถือก ทำเอาทุกคนที่นั่งมองพากันหัวเราะ จากเครียด ๆ กลายเป็นใบหน้าของแต่ละคนมีรอยยิ้มขึ้นมาแทน“ขอบใจมากนะเสี่ยวฮวา เจ้าใหญ่” นางหลินหลานเอ่ยขอบคุณลูกทั้งสอ
วันต่อมาเซียวหย่งเสียนและชุยเหมยฮวาหลังจากช่วยทุกคนจัดร้านเสร็จแล้ว ทั้งสองรีบไปหาเถ้าแก่ต้วนหรือลุงต้วนที่ทั้งสองเคารพ แม้จะเป็นคู่ค้ากัน แต่การวางตัวของเขานั้นเป็นที่น่าเคารพทำให้สองสามีภรรยานับถือลุงต้วนมาก แต่พอมาหาที่ร้านคนดูแลบอกว่าท่านไปธุระต่างเมือง อีกหนึ่งเดือนหรือครึ่งเดือนถึงจะกลับ“เถ้าแก่เซียว มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า แจ้งผมได้เลยนะครับ”“พอดีผมและภรรยาอยากหาซื้อร้านเพื่อขายผัดไทย เลยจะมาถามลุงต้วนว่าท่านพอจะแนะนำที่ไหนบ้างหรือเปล่า”“รีบไหมครับ นายท่านมีร้านค้าหลายร้านให้เช่า และมีอยู่ร้านหนึ่งทำเลดีเหมาะจะเปิดร้านอาหาร ผมจะลองโทรสอบถามเจ้านายให้นะครับ”“ไม่รีบครับ ตั้งใจจะดูร้านไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถูกใจ และอีกสองวันผมกับภรรยาจะไม่อยู่ไปต่างเมืองประมาณอาทิตย์หนึ่ง ถ้าสินค้าตัวไหนขาดหรือหมด ไปแจ้งที่ร้านหรือว่าที่บ้านชุยได้เลยนะครับ ซีหานจะจัดการให้ ส่วนเรื่องร้านรอผมกลับมาค่อยมาสอบถามอีกที”ชุยเหมยฮวายิ้มกว้างความฝันที่จะเปิดร้านผัดไทยของเธอใกล้จะเป็นความจริงแล้ว ส่วนในไร่ตอนแรกจะปลูกข้าวโพด แต่ตอนนี้ทั้งสองบ้านคิดปลูกเป็นอย่างอื่นที่ใช้ในเรื่องการค้าแทนระหว่างทางที่จะ
“แม่แน่ใจจะว่าจะทำอาหารที่ชื่อผัดไทยแข่งกับนังเหมยฮวา” โจเหม่ยอีเอ่ยถามน้ำเสียงเธอไม่ค่อยมั่นใจว่าแม่จะทำได้“ใช่ ฉันจะขายแข่งกับนังเหมยฮวา นังเด็กนั่นกล้าดียังไงย้อนฉันอย่างไม่ไว้หน้า และที่สำคัญบ้านใหญ่เซียวกล้าดียังไงที่ความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าบ้านโจของเรา คนจนย่อมอยู่อย่างคนจนสิ”นางกวงเอ่ยอย่างแค้นเคือง ต่อให้บ้านโจไม่ได้ร่ำรวย แต่ความเป็นอยู่ดีกว่าบ้านใหญ่เซียวมาก แต่แล้วอยู่ ๆ บ้านชุยและบ้านใหญ่เซียวนึกบ้าดันค้าขายอาหารขึ้นมา กลายเป็นว่าอาหารที่ขายนั้นกลับขายดีทุกอย่าง เท่าที่เธอคำนวณต้นทุนและกำไร แม้จะได้ไม่มากแต่ถ้าขายวันละร้อยห่อ อย่างน้อยกำไรอย่างต่ำวันละสิบหยวน หนึ่งเดือนก็สามร้อยหยวน แบบนี้ใครไม่อยากขายบ้าง แค่ผัดไทยมันจะยากอะไรกัน“แล้วแม่แน่ใจนะว่าจะขายได้ แม่ให้พ่อไปเช่าที่ปากทางแล้ว จ่ายเป็นเดือนนะแม่เงินตั้งหลายหยวน ถ้าเกิดขายไม่ดีขึ้นมาเราไม่แย่เหรอ”โจเหม่ยอีไม่มีความมั่นใจในตัวแม่เลย ขนาดทำอาหารกินทุกวันเธอยังคงคิดว่ารสชาติปกติ ไม่ได้อร่อยเหมือนผัดไทยที่นังเหมยฮวาขาย ต่อให้ไม่ชอบหน้ากันยังไงเธอยอมรับเรื่องความอร่อยด้วยใจจริง ยังจ้างให้เด็กในหมู่บ้านซื้อมาให้กินตั้งห
ถ้าจะไม่พูดถึงเซียวหมิงหย่วนก็คงไม่ได้ ตอนนี้เธอเองก็แต่งงานกับลู่จื่อฉี และกำลังท้องลูกคนแรก แต่กว่าที่ทั้งสองคนจะตกลงปลงใจกันได้ ชุยเหมยฮวาเธอทั้งช่วยเข็นช่วยดันไม่น้อยเพราะลู่จื่อฉีมักคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสม อีกทั้งอาสะใภ้รองคอยกีดกันอยากให้ลูกสาวได้คนที่มีหน้ามีตากว่านี้ ส่วนเซียวเจี้ยนซูก็แต่งกับพนักงานของร้านเหมยฮวา เธอและสามีเคยบอกว่าจะให้สูตรอาหารเพื่อให้ทั้งสองคนได้มีกิจการเป็นของตัวเอง แต่สองพี่น้องบอกว่าแค่นี้พวกเขาก็พอใจแล้วส่วนไร่ผลไม้ของสองตระกูลเริ่มผลิดอกออกผล แต่บางอย่างก็ต้องรอให้เต็มวัยก่อนจะเก็บผลผลิตไปขายได้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ชุยเหมยฮวาพูดไว้ ชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า ไม่มีหนี้สินมีเพียงกิจการเล็ก ๆ แค่นี้ก็พอแล้ว เพราะนี่คือความสุขที่แท้จริง“ในที่สุดสองแสบก็หลับเสียที”เซียวหย่งเสียนแทบจะปาดเหงื่อเมื่อต้องเอาลูกน้อยทั้งสองคนเข้านอน หน้าที่นี้เขาขอทำเองตั้งแต่ลูกเกิด ชายหนุ่มรู้สึกว่าแค่ภรรยาต้องอุ้มทองและเจ็บท้องคลอดก็พอแล้ว อะไรที่ทำได้เขายินดีที่จะทำ“เหนื่อยไหมคะ ทำงานเสร็จกลับมาบ้านยังต้องช่วยหนูเลี้ยงลูกอีก” ไม่ใช่ไม่เห็นใจสามีที่เหนื่อยจากงานแล้วต้อ
การใช้ชีวิตใจฐานะของพ่อและแม่ดำเนินไปอย่างมีความสุข แม้ว่าเซียวหย่งเสียนจะต้องไปดูร้านทั้งสองแทนภรรยาก็ตาม เมื่อเสร็จงานเขาก็จะรีบกลับมาหาลูกและภรรยา จนภาพพวกนี้ชินตากับลูกน้องและคนในครอบครัวเด็กน้อยทั้งสองคนเติบโตทุกวันจนอายุครบสามขวบ ความซนและความแสบไม่มีใครเกินใครเหมือนกับวันนี้“แม่ฮะ วันนี้พ่อจีบฉาว” เซียวคุนหยางหรือว่าหยางหยางวิ่งตัวกลมเข้ามาฟ้องแม่คนสวยของตัวเอง“หยุดเลยนะหยางหยาง พ่อยังไม่ได้ทำอย่างที่ลูกพูดสียหน่อย อยากให้พ่อโดนแม่ไล่มานอนนอกห้องหรือยังไง”คราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้วช่างหาเรื่องให้เขาเสมอ ไม่รู้ได้ความแสบมายังไง“ไหนหยางหยางลองเล่าให้แม่ฟังสิครับ ว่าพ่อของลูกจีบสาวที่ไหน”“จีบที่ร้านที่อาเจี้ยนซูดูแลอยู่ฮะ ฉาวสวยมาก”ชุยเหมยฮวาหันมองหน้าสามีตาเขียว ก่อนจะมาตั้งใจฟังลูกชายเล่าต่อ“ฉาวชื่อ ป้าเจียงเย่วฮะ ป้าเอาบัญชีมาให้พ่อแทนลุงฉงซาน ฮ่า ๆ”นั่นปะไร เชื่อได้ที่ไหนกับความกวนของลูกชาย ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นพ่อกับลูกหรือว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันแน่“เป็นยังไงบ้างคะ วันนี้ร้านขนมตกแต่งเสร็จหรือยัง”นอกจากร้านอาหาร เธอเริ่มที่จะสร้างร้านขนมอีกด้วย ตอนนี้จึงเหลือเพียงตกแต่ง
บทส่งท้ายความสุขของครอบครัวเซียวหย่งเสียนมารอที่ห้องพักนานแล้ว ยังไม่เห็นภรรยารักตามเข้ามา ใจเขาเริ่มกระวนกระวายอีกครั้ง แต่ไม่นานพยาบาลและเจ้าหน้าที่เข็นคนป่วยเข้ามา“ตอนนี้คนไข้ยังไม่ตื่นนะคะ รออีกสักหน่อย แต่ปลอดภัยแล้วค่ะ” ดูจากสีหน้าของคนเป็นสามีพยาบาลวัยกลางคนจึงบอกด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณมากครับ”เซียวหย่งเสียนหันมาขอบคุณพยาบาล ก่อนจะเดินไปยืนข้างภรรยารักที่กำลังนอนอยู่ สายตาที่มองช่างอ่อนโยน ยากจะหาสิ่งใดเปรียบ จนนางหลินหลานอดที่จะปลื้มใจความรักของทั้งสองคนได้“เดี๋ยวแม่ขอไปดูหลานก่อนนะ แล้วจะรีบกลับมา ลูกจะไปด้วยไหม” ในเมื่อลูกสะใภ้ยังไม่ตื่น เจ้าหน้าที่คงยังไม่พาหลานทั้งสองคนมา เธอจึงขอไปดูด้วยตัวเองก่อน“ไม่ดีกว่าครับแม่ ผมขออยู่กับเสี่ยวฮวาดีกว่า เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอใคร”นางหลินหลานพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปดูหลานรักทั้งสองคน“หิวน้ำ” เสียงอันอิดโรยของชุยเหมยฮวาดังขึ้น ทำให้เซียวหย่งเสียนตื่นตัวอีกครั้งและรีบไปรินน้ำใส่แก้วแล้วนำมาป้อนภรรยารัก“ค่อย ๆ กินนะครับ เดี๋ยวสำลัก”“ขอบคุณมากค่ะ หนูอิ่มแล้ว”เซียวหย่งเสียนวางแก้วไว้ตรงโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้ามาแทรกตัวข
เจ้าใหญ่ นั่งก่อนเถอะ เสี่ยวฮวาอยู่กับหมอแล้วไม่เป็นอะไรหรอก” นางหลินหลานอดที่จะบ่นลูกชายไม่ได้ เธอมองตามไปมาตอนนี้เริ่มจะหน้ามืดแล้วเหมือนกัน“ผมเป็นห่วงครับแม่ เสี่ยวฮวาเข้าไปนานแล้ว หมอยังไม่ออกมาบอกเลย ผม...ผมกลัว”แค่ได้ยินเสียงที่เจ็บปวดของภรรยารัก เขาแทบจะไม่อยากให้คลอดลูกแล้ว ถ้าเป็นไปได้เขาขอเจ็บแทบดีกว่า แค่เห็นน้ำตาเธอเขาก็ใจสลายแทน“เจ้าใหญ่มานั่งนี่”เธอกวักมือเรียกให้ลูกชายมานั่ง เซียวหย่งเสียนไม่อยากขัดจึงเดินมานั่งข้าง ๆ นางหลินหลานจึงจับมือลูกชายมาตบหลังมือเบา ๆ และพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน“ฟังแม่นะ ลูกผู้หญิงทุกคนเมื่อแต่งงานย่อมต้องเจอเหตุการณ์นี้ แม้ว่าจะเจ็บปวดสักแค่ไหน แต่เมื่อเห็นหน้าลูกย่อมหายเจ็บและรู้สึกว่าคุ้มค่ามากหากเทียบกับความเจ็บที่เจอมา เสี่ยวฮวาคนนี้ย่อมต้องผ่านมันไปได้ เธอรู้ดีว่ามีครอบครัวและสามีที่ดีเช่นลูกรออยู่ เธอไม่มีทางไปไหนแน่นอน”เซียวหย่งเสียนได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของแม่ แผ่นหลังของชายหนุ่มเย็นไปหมด แม่พูดเช่นนี้เท่ากับท่านรับรู้มาตลอดว่าชุยเหมยฮวาไม่ใช่คนเดิม เขาจึงหันมองหน้าแม่อย่างตื่นตกใจ“แม่รู้...”“อย่าลืมว่าพ่อของลูกกับพ่อของเสี่ยวฮ
“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ท้องได้สองเดือนแล้ว” คุณหมอกล่าวหลังจากตรวจเสร็จ ชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็มาเสียทีตอนนี้ครอบครัวเขาสมบูรณ์แล้วจากนั้นคุณหมอจึงบอกวิธีการดูแลคนท้องให้กับสองสามีฟังอย่างละเอียด แต่มีเหรอที่เซียวหย่งเสียนจะไม่ถามเรื่องการแสดงความรักกับภรรยา“ยังคงปฏิบัติได้เหมือนเดิมค่ะ เพียงแค่รอให้พ้นช่วงสามเดือนแรกไปก่อน แต่หลังจากนั้นยังคงต้องระวังความรุนแรงสักเล็กน้อย จนกว่าจะใกล้กำหนดคลอด”คุณหมอใบหน้าเกิดริ้วแดง ไม่คิดว่าสามีคนไข้ท่านนี้จะถามออกมาตรงๆหลังจากรับยาบำรุงสองสามีภรรยาจึงกลับมาที่ร้านเพื่อบอกข่าวดีแก่ทุกคน“เสี่ยวฮวา น้องกำลังท้องอยู่นะ เดินเหินระวังด้วยสิ” เซียวหย่งเสียนปวดหัวมากกับความดื้อรั้นของภรรยารัก“พี่หย่งเสียน หนูท้องนะไม่ได้ป่วยพี่จะไม่ให้หนูทำอะไรเลยไม่ได้ ฮือ...พี่ไม่รักหนูแล้วใช่ไหม พี่เลยดุหนูตลอด หนูแค่เดินมาหาทุกคนเท่านั้นเอง” ชุยเหมยฮวาน้ำเสียงสะอื้นตอบกลับ เธอไม่รู้อารมณ์ตัวเองเหมือนกัน เพียงแค่โดนดุเล็กน้อยเธอก็น้ำตาซึมแล้ว“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง ไม่ใช่พี่ไม่รักหนู แต่เพราะรัก พี่จึงเป็นห่วง ครั้
ชุยเหมยฮวายิ้มรับก่อนจะพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ไม่ใช่เพราะฉันคนเดียวหรอกป้า แต่ทุกคนต่างหากที่ร่วมด้วยช่วยกันจนมีวันนี้ ฉันเองก็ต้องขอบคุณพี่หย่งเสียนที่ยอมแต่งกับหญิงร้ายกาจเช่นฉัน พอวันหนึ่งที่ฉันคิดได้จึงรู้ว่าอะไรและใครสำคัญที่สุด ฉันเลยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่รัก”ชาวบ้านได้แต่ยิ้มให้ จากนั้นชุยเหมยฮวาจึงเดินดูความเรียบร้อยในส่วนอื่น ๆ ก่อนจะเดินมาหาสามีที่ยังนั่งดื่มกินกับเจ้าบ่าวและกลุ่มของเพื่อนที่มาจากในอำเภอและในหมู่บ้าน“พี่หย่งเสียน หนูจะเข้าไปหาพี่สะใภ้ พี่เองก็อย่าแกล้งพี่ใหญ่มากล่ะ เดี๋ยวจะเมาแล้วไม่ได้เข้าหอ”“พี่ไม่แกล้งพี่สัญญา เพราะคืนนี้พี่ต้องเข้าหอด้วยเหมือนกัน”เมื่อเจอการหยอกล้อของสามีใบหน้าของหญิงสาวจึงแดงขึ้นเพราะความเขินอายและรีบเดินจากไปทันทีชุยเหมยฮวาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้อีกสักพักก่อนจะกลับไปจัดการอาหารที่บ้านใหญ่เซียวเพราะเดี๋ยวจะมีชาวบ้านมาขนไปที่บ้านชุย เพื่อนำไปแจกจ่าย และรอสามีรักกลับมาเข้าหอกับเธอเหมือนพี่ชายและพี่สะใภ้วันเวลาผ่านไปจนวันที่รอคอยของชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมาถึงเสียที ภัตตาคารเซียวเหมยเปิดทำการแล้ว พิธีเปิดในวันนี้เซียวจ้า
หลังจากจัดการเรื่องต่าง ๆ เสร็จสิ้น ทุกคนจึงดำเนินชีวิตอย่างปกติเช่นทุกวัน เซียวเจี้ยนซูไปช่วยงานที่ร้านเหมยฮวา เซียวหมิงหย่วนไปช่วยที่ร้านขายข้าวเหนียวหมูทอดของพ่อแม่สามี ตอนนี้บ้านชุยก็สร้างเสร็จแล้ว สองพ่อลูกบ้านชุยจึงย้ายกลับบ้านของตัวเอง แม้จะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วแต่ทั้งสองบ้านยังไม่ได้เลี้ยงฉลอง ทุกคนจึงเห็นว่าควรจะจัดงานแต่งของชุยซีหานและฟางเซียนเสียทีจะได้เลี้ยงพร้อมกันทีเดียวตอนนี้น้ำซอสปรุงอาหารเริ่มทยอยส่งขายแล้ว พร้อมกับลูกชิ้นชนิดต่าง ๆ ของชุยซีหาน ผลตอบรับทั้งสองอย่างดีเกินคาด ส่วนที่ดินที่สองครอบครัวซื้อไว้ ส่วนหนึ่งปลูกผลไม้ ส่วนหนึ่งนำมาเลี้ยงไก่เลี้ยงหมู ซึ่งเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ไม่น้อย ส่วนสองพี่น้องบ้านลู่ คนหนึ่งเป็นหัวหน้าคนงานในไร่โดยมีหวางห่าวสามีของกู้จิงคอยมาช่วยอีกแรง เวลาว่างก็จะมาช่วยที่ร้านเช่นเดิม อีกคนช่วยดูงานในโรงงานลูกชิ้นขนาดเล็กของบ้านชุย เพียงแค่นี้ค่าแรงทั้งสองคนแต่ละเดือนมากจนใครได้ยินก็ต่างตกใจในที่สุดวันแต่งงานของชุยซีหานและฟางเซียนมาถึง บรรยากาศในหมู่บ้านแทบจะติดผ้าสีแดงทั้งหมด วันนี้บ้านชุยและบ้านเซียวเลี้ยงฉลองนอกจากงานแต่งของชุยซีหานแล้วยังเล
ชุยเหมยฮวาแทบจะกระโดดปรบมือให้กับน้องสามีคนนี้เหลือเกิน เธอรู้มาตลอดว่าเนื้อแท้ของสองพี่น้องบ้านรองไม่ใช่คนเลว อาจจะหลงผิดไปบ้าง แต่ในเมื่อคิดปรับปรุงตัวเธอก็พร้อมจะให้อภัย ส่วนเรื่องของเซียวเจี้ยนซูจะโทษเขาฝ่ายเดียวคงไม่ถูก เพราะชุยเหมยฮวาคนเก่าเป็นฝ่ายตามตื๊อเขาเอง“ฉันรักพี่หย่งเสียนมาก่อน ในอดีตนังเหมยฮวาไม่ได้รักพี่หย่งเสียน มันรักพี่เจี้ยนซู มันไม่เหมาะที่จะเป็นเมียพี่” เจียวมิ่งยังคงดึงดัน แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดก็ตาม“เหมาะหรือไม่ ผมเป็นคนตัดสินใจไม่เกี่ยวกับคุณ ครั้งนี้ผมจะยอมจบเรื่องแต่โดยดี ถ้ามีครั้งต่อไป คุณได้เป็นภรรยาของชายคนใดคนหนึ่งแน่ ในเมื่อรู้จักผมดีไม่ใช่เหรอ ย่อมรู้ว่าผมพูดจริงทำจริง”พูดจบเขาจูงมือภรรยาและชวนทุกคนออกจากห้องเพื่อไปกินอาหารที่ร้านเป็นการตอบแทน“พี่หย่งเสียนมีงานให้เราสองคนทำบ้างไหม”เซียวเจี้ยนซูเอ่ยถามโดยมีเซียวหมิงหย่วนพยักหน้าตาม ตอนนี้ทั้งสองพี่น้องอยากทำงานเก็บเงินมาก เพราะเงินในบ้านที่เคยมีพ่อเอาไปเล่นการพนันแทบจะไม่เหลือแล้ว“ได้สิ พี่เจี้ยนซูฝึกงานกับพี่ฉงซานไปก่อนนะ ฉันกับพี่หย่งเสียนตั้งใจจะเปิดร้านอาหารอีกแห่ง ตอนนี้ซื้อที่
“ฉันจะเปิดเข้าไปดูถ้าเป็นพี่หย่งเสียนจริง ฉันยินดีที่จะหย่าให้ถ้าเขาอยากอยู่กับอดีตคนรัก เมื่อฉันมาทีหลัง ฉันพร้อมจะหลีกทาง” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นหากไม่รู้แผนการมาก่อนคงใจสลายไม่น้อย เพราะรูปร่างของชายหนุ่มที่นอนคว่ำหน้าไม่ต่างจากสามีของเธอ“พี่หย่งเสียน! พี่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง พี่ตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ” ชุยเหมยฮวาเล่นเต็มที่ ทำเอาเซียวหมิงหย่วนอยากจะปรบมือให้พี่สะใภ้เสียเหลือเกินเจียวมิ่งแอบอมยิ้ม ก่อนจะแกล้งบิดขี้เกียจและทำเสียงงัวเงีย “ใครมารบกวนเราค่ะพี่หย่งเสียน” พอเห็นว่าเข้าตามแผนก็รีบปรับสีหน้าเป็นตกใจ และปลุกชายหนุ่มที่นอนข้างกัน“พี่หย่งเสียน ตื่นเถอะ ภรรยาพี่มา”“เกิดอะไรขึ้น ทำไมภรรยาผมมา ในเมื่อผมไม่มีภรรยาเสียหน่อย” ในเมื่อทุกอย่างลุล่วงเขาจึงแกล้งลืมตาและส่งเสียง ก่อนจะหันมาเจอหน้ากับทุกคน จึงทำให้เจียวมิ่งร้องลั่นห้อง“กรี๊ด! แกไม่ใช่พี่หย่งเสียน แกมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง”“เอ้า... ผมนอนของผมอยู่ดี ๆ คุณนั่นแหละเป็นใคร มานอนแก้ผ้าทำไมในห้องผม หรือว่าคุณต้องการทำมิดีมิร้าย ต่อให้ผมหน้าตาแบบนี้แต่ผมก็เลือกนะ” ชายหนุ่มพูดตามความคิด ถ้าเขาเป็นพี่หย่งเสี