เซียวตั๋วพูด “จองห้องที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นไว้แล้ว คุณหนูเสิ่น เชิญขึ้นรถ”“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”ตอนบ่าย ป๋อซือเหยียนมีนัดเลี้ยง เลขาหลี่ขับรถผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเอ ป๋อซือเหยียนมองเห็นนักศึกษาที่เดินผ่านไปมาในมหาวิทยาลัย ภาพเสิ่นม่านก็ปรากฏในหัว“จอดรถ”ป๋อซือเหยียนพูดขึ้นอย่างไม่คาดคิดแม้แต่เขาเองก็แปลกใจว่าทำไมถึงสั่งจอดรถเลขาหลี่จอดรถและถาม “ประธานป๋อ ต้องการรับซูเฉี่ยนเฉี่ยนไปด้วยไหมครับ?”ป๋อซือเหยียนเงียบเลขาหลี่ถามอีกครั้ง “จะให้โทรหาคุณหญิงไหมครับ?”ป๋อซือเหยียนมองกระจกอย่างเย็นชา เลขาหลี่จึงหยุดพูดทันทีที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยเอ หวังถิงเห็นรถหรูของป๋อซือเหยียนก่อน จึงเรียกซูเฉี่ยนเฉี่ยน “เฉี่ยนเฉี่ยน นั่นไม่ใช่รถแฟนเธอเหรอ? เขามารับเธอใช่ไหม?”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจำเลขทะเบียนรถได้เมื่อมองไกลๆ ฟังหวังถิงพูด หน้าเธอก็แดงขึ้นหลิวจิงจิงพูดอย่างอิจฉา “แฟนเธอมารับแล้ว เธอบอกว่าจะกินข้าวกับพวกเรา ครั้งหน้าเธอต้องเลี้ยงนะ!”“ไม่ต้องล้อเล่นแล้ว ฉันไปก่อนนะ พวกเธอไปกินข้าวกันเถอะ”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนวิ่งไปอย่างมีความสุขป๋อซือเหยียนไม่ได้มาหาเธอนานแล้วซูเฉี่ยนเฉี่ยนเคาะกระจกหลัง
“ดูสิ มีอะไรที่คุณชอบกินบ้าง”เซียวตั๋วส่งเมนูให้เสิ่นม่านเสิ่นม่านดูคร่าว ๆ “สั่งทั้งหมดที่ฟู่ฉือโจวบอกมา!”เซียวตั๋วยิ้มฟู่ฉือโจวพูดขึ้น “บอกแล้วว่าเซียวตั๋วเลือกไม่ผิด ทั้งหมดที่พูดไปเป็นสิ่งที่คุณหนูชอบ!”เสิ่นม่านสงสัยมองเซียวตั๋ว แต่เขาไม่อธิบายอะไร“ขอโทษนะคะคุณผู้ชาย ห้องครัวเพิ่งแจ้งมาว่าไม่มีเต้าหู้ปูแล้ว สามารถเปลี่ยนเป็นเมนูที่ราคาเท่ากันได้ คุณลองดู...”พนักงานบริการพูดอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะทำให้เซียวตั๋วไม่พอใจฟู่ฉือโจวขมวดคิ้ว “อะไรนะ? ฉันจองล่วงหน้าแล้ว ทำไมไม่มี?”เขามักจะเป็นคนจัดการงานแบบนี้ ไม่เคยมีข้อผิดพลาด นี่มันจะไม่เหมือนการตบหน้าเขาหรอกเหรอ?“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ เต้าหู้ปูถูกจองไปก่อนแล้ว ห้องครัวทำผิดพลาด เราสามารถชดเชยด้วยอาหารสองจาน ได้โปรดให้อภัยด้วย”“นี่ไม่ใช่เรื่องชดเชย จองไปที่ไหน? ฉันจะไปคุยกับพวกเขา!”ฟู่ฉือโจวทำท่าจะลุกขึ้น เสิ่นม่านพูด “พอเถอะ ไม่จำเป็นต้องกินเต้าหู้ปู ฉันไม่ชอบอาหารทะเลอยู่แล้ว”เต้าหู้ปูนี้เป็นของที่ป๋อซือเหยียนชอบ เธอจึงชอบตามไปด้วยจริง ๆ แล้ว เธอไม่ชอบกลิ่นอาหารทะเล“เพราะรู้ว่าเธอไม่ชอบกลิ่นคาว เซียวตั๋วจึงตั้
ประธานหวังมองป๋อซือเหยียนอย่างสงสัยนี่คือข่าวดีมาก คนอื่น ๆ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ได้ยินข่าวนี้แล้วป๋อซือเหยียนขมวดคิ้ว ตั้งแต่เช้านี้ เขาไม่ได้ติดต่อเสิ่นม่านเลย“ท่านประธานหวัง ดื่มกันเถอะ”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรู้ว่าป๋อซือเหยียนกำลังคิดถึงเสิ่นม่าน พยายามกดความรู้สึกและรินเหล้าให้เขาป๋อซือเหยียนลุกขึ้นทันที เดินออกจากห้องจัดเลี้ยง“อ้าว? ป๋อซือเหยียน!”ทุกคนในห้องตกใจ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนหน้าซีดที่ดินนั้น จะเป็นพื้นที่สีเขียวได้ยังไง?ในห้องน้ำ เสิ่นม่านเพิ่งล้างมือเสร็จ เห็นโทรศัพท์บนอ่างล้างมือกำลังดัง เมื่อเห็นว่าผู้โทรคือป๋อซือเหยียน เธอก็รับสาย “มีอะไร?”“คุณอยู่ไหน?”ป๋อซือเหยียนน้ำเสียงไม่ค่อยดีเสิ่นม่านไม่รู้ว่าตัวเองทำให้เขาโกรธเรื่องอะไร “ฉันกำลังกินข้าวกับเพื่อน มีอะไรรอให้ฉันกลับไปคุยคืนนี้”ตอนนั้น เสียงอ่อนหวานของซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ดังมาจากปลายสาย “ซือเหยียน กลับเถอะ ทุกคนรออยู่”เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เสิ่นม่านวางสายทันทียังมีหน้ามาถามว่าเธออยู่ไหน แล้วตัวเองออกไปกับชู้!เสิ่นม่านเก็บโทรศัพท์ เดินออกจากห้องน้ำซูเฉี่ยนเฉี่ยนกำลังจะปิดประตูห้องจัดเลี้ยง เมื่อเงยหน
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกลับมาห้องจัดเลี้ยง เพราะสีหน้าไม่ดี ทำให้คนรอบ ๆ สังเกตเห็นป๋อซือเหยียนเห็นสีหน้าไม่ดีของเธอ ถาม “ไม่สบายตรงไหน?”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพูดเบาๆ “ป๋อซือเหยียน ฉัน...ฉันเหมือนจะเห็นเสิ่นม่าน”“เสิ่นม่าน?”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้า เธอพูดอย่างยากลำบาก “ไม่ใช่แค่เห็นเสิ่นม่าน ฉันยังเห็นผู้ชายสองคนที่งานประมูล คนหนึ่ง...ดูใกล้ชิดกับเสิ่นม่านมาก”เซียวตั๋ว?ชื่อนี้โผล่ในหัวของป๋อซือเหยียนทันทีป๋อซือเหยียนตาวาวขึ้น เขาลุกขึ้นและเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงซูเฉี่ยนเฉี่ยนตามติด คนในห้องไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“อยู่ตรงหน้า”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนนำทางป๋อซือเหยียนเปิดประตู เห็นเซียวตั๋วกับฟู่ฉือโจวกำลังดื่มกันฟู่ฉือโจวเห็นป๋อซือเหยียนเข้ามาก็ตกใจ “ป๋อซือเหยียน?”ไม่เห็นเสิ่นม่าน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมีสีหน้าลำบาก แต่เร็ว ๆ นี้ก็เห็นจานชามที่สามบนโต๊ะ “ป๋อซือเหยียน จานชามยังอยู่ที่นี่”ป๋อซือเหยียนเห็นจานชามที่สาม ตาก็ยิ่งเย็นลง “เสิ่นม่านอยู่ไหน?”“เสิ่นม่าน?”ฟู่ฉือโจวสงสัย “ป๋อซือเหยียน ภรรยานายอยู่ที่ไหนแล้วจะมาถามเราทำไม?”“อย่ามาแกล้งโง่ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเห็นเสิ่นม่านอยู่ที่นี่ เธออยู่ไหน?”
ผู้เฒ่าเซียวรักหลานสาวคนนี้มาก“ขอโทษค่ะ คุณหนูเจียง! ฉันไม่ได้ตั้งใจ! ฉัน...”“พอได้แล้ว!”เจียงฉินขมวดคิ้วและหันไปพูดกับป๋อซือเหยียน “อ๋อ เป็นป๋อซือเหยียนนี่เอง นายดูแลเมียน้อยของนายหน่อยนะ เป็นแค่นักเรียนยากจนที่พึ่งพาคนรวย แล้วยังกล้ามาหาเรื่องฉันอีกเหรอ?”เมื่อได้ยินคำว่าเมียน้อย ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรู้สึกทนไม่ไหว เธอกำลังจะตอบโต้ แต่ป๋อซือเหยียนหยุดเธอไว้ สีหน้าของป๋อซือเหยียนก็ดูย่ำแย่เช่นกันซูเฉี่ยนเฉี่ยนกลัวจนไม่กล้าพูดอีก“เป็นการเข้าใจผิดของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเอง ขอโทษทุกคนสำหรับความไม่สะดวก ฉันจะจ่ายค่าอาหารนี้เอง ขอร้องอย่าโกรธกันเลย”“ไม่จำเป็น! ตระกูลเจียงไม่ได้ขาดเงิน”เจียงฉินไม่ไว้หน้าป๋อซือเหยียน “เรื่องวันนี้ ฉัน เจียงฉิน จะจำเอาไว้ ส่งแขก!”บอดี้การ์ดเชิญป๋อซือเหยียนและซูเฉี่ยนเฉี่ยนออกจากห้องจริง ๆ แล้วป๋อซือเหยียนสามารถจัดการได้ แต่ครั้งนี้เขาผิดเองเมื่อออกจากห้อง สีหน้าของป๋อซือเหยียนย่ำแย่“ซือเหยียน...ฉัน... ฉันไม่ได้...”“พอเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก”ป๋อซือเหยียนกดความโกรธและพูดกับซูเฉี่ยนเฉี่ยนอย่างอ่อนโยนซูเฉี่ยนเฉี่ยนรู้สึกผิดเธอไม่เคยผิดพลาดแน
‘แกร๊ก’เสิ่นม่านได้ยินเสียงเปิดประตู แสงไฟสลัวส่องเข้ามาในห้อง“เสิ่นม่าน”ป๋อซือเหยียนเสียงต่ำเสิ่นม่านแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินป๋อซือเหยียนย้ำเสียงดังขึ้น “เสิ่นม่าน!”เสิ่นม่านขมวดคิ้ว แต่ยังไม่ลืมตา “ดึกดื่น จะมาปลุกฉันทำไม?”“ลุกขึ้น!”ป๋อซือเหยียนเสียงเต็มไปด้วยความโกรธเสิ่นม่านก็โกรธเหมือนกัน ลุกขึ้น “ป๋อซือเหยียน คุณกินยาผิดตัวหรือไง?”ทันใดนั้น ป๋อซือเหยียนก็กระโจนเข้ามา เสิ่นม่านตกใจ แต่ทันใดนั้นเขาก็กดเธอลงบนเตียงแสงไฟสลัวที่ประตูส่องเข้าร่างป๋อซือเหยียน ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกเสิ่นม่านหายใจติดขัด แต่พยายามใจเย็น “คุณต้องการอะไร?”“คุณไปไหนมาคืนนี้?”“ฉันไปกินข้าวกับเพื่อน”“เพื่อนไหน?”เสิ่นม่านขมวดคิ้ว “ฉันไม่มีหน้าที่ต้องบอกนาย อย่าลืมว่า เราแค่ใช้ประโยชน์จากกันและกัน”“งั้นเหรอ?”ป๋อซือเหยียนหัวเราะอย่างเยือกเย็นเสิ่นม่านรู้สึกไม่ดี แต่ป๋อซือเหยียนก็เริ่มถอดชุดนอนของเธอ “คุณเป็นภรรยาของผมตามกฎหมาย คุณไม่ต้องทำหน้าที่ภรรยาหน่อยเหรอ?”“ป๋อซือเหยียน! คุณมันบ้าไปแล้ว!”ป๋อซือเหยียนแรงเยอะมาก เกือบจะฉีกเสื้อของเธอ เสิ่นม่านทนไม่ไหว จึงตบเขาไปหนึ่งที‘เ
ในชาติที่แล้วหลังจากแต่งงานกับป๋อซือเหยียน เธอเชื่อคำของคุณย่า พยายามทำอาหารเพื่อเอาใจเขา แต่สุดท้ายป๋อซือเหยียนไม่เคยชิมอาหารของเธอสรุปแล้ว เพราะป๋อซือเหยียนรักซูเฉี่ยนเฉี่ยนมากกว่าอาหารเช้าเสร็จ ป๋อซือเหยียนเห็นไม่มีส่วนของเขา ขมวดคิ้ว “ของผมล่ะ?”“อยากกินทำเองสิ”เสิ่นม่านไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิดป๋อซือเหยียนโกรธ “เสิ่นม่าน!”เสิ่นม่านไม่สนใจ กินขนมปังเองเธอไม่ต้องพยายามเอาใจป๋อซือเหยียนอีกแล้ว“ฉันกินเสร็จแล้ว”เสิ่นม่านกินเสร็จเก็บจานไปครัว แล้วหยิบกระเป๋าเตรียมออกไปป๋อซือเหยียนถาม “จะไปไหน?”“มีเรียนตอนเช้า”“ลาหยุดซะ”“ป๋อซือเหยียน คุณบ้าไปแล้วหรือไง?”เสิ่นม่านทนไม่ไหวตั้งแต่เช้านี้ ป๋อซือเหยียนดูแปลก ๆให้เลขาหลี่หยุดงาน ให้เธอทำอาหารเช้า ตอนนี้จะให้ขอลางานหลังจากนั้น ป๋อซือเหยียนพูดช้า ๆ “เรื่องที่ดินนั้นคือยังไง”สุดท้ายก็มาถามเรื่องนี้เสิ่นม่านคิดว่าเขาจะไม่ถามซะแล้วไม่แปลกที่เขาแปลก ๆ ในวันนี้ เพราะผลประโยชน์เสิ่นม่านพูด “ฉันขายที่ดินนั้นไปแล้ว”“ขายให้ใคร?”“เป็นอิสระของฉัน ไม่จำเป็นต้องบอกคุณ”“เสิ่นม่าน!”ป๋อซือเหยียนเสียงเย็น “คุณรู้ไหมว
รอบนี้เสิ่นม่านไม่มีข้อแก้ตัว จึงทำได้เพียงทำตามในสิ่งที่ป๋อซือเหยียนพูด“ก็ได้ เดินก็เดิน”ยังไงก็ไม่ได้ใช้เงินของเธออยู่แล้ว จะชอปยังไงก็ได้!เสิ่นม่านไม่ทันสังเกตเห็นมุมปากของป๋อซือเหยียนที่ยกขึ้นน้อยๆ อย่างไม่รู้ตัวเมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้า เสิ่นม่านมองการจัดวางรอบๆ ไม่นานเธอก็จะสร้างย่านการค้าขนาดใหญ่ขึ้นมา ดังนั้นการสำรวจและทำการบ้านถือว่าจำเป็นมากทันใดนั้น เสิ่นม่านรู้สึกว่ามือของตนถูกจับไปครู่หนึ่ง เธอจึงหันศีรษะกลับไปโดยสัญชาตญาณ แล้วมองป๋อซือเหยียนที่เพิ่งซื้อชานมกลับมาข้างๆ ด้วยสายตาจับผิด แล้วถามว่า “คุณทำอะไรน่ะ?”“จับมือ ถ่ายรูป”กล่าวจบ ป๋อซือเหยียนก็ส่งสายตาชี้ไปยังบุคคลถือกล้องคล้ายปาปารัซซี่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลคนหนึ่งถึงแม้เสิ่นม่านจะรู้สึกยุ่งยาก แต่ก็ยอมทำตามหลังจากนั้น ป๋อซือเหยียนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดกล้องถ่ายรูปเสิ่นม่านกล่าว “คุณจะทำอะไรอีกเนี่ย?”“เซลฟี่”“…”เสิ่นม่านปั้นหน้านิ่งต่อหน้ากล้อง ป๋อซือเหยียนเห็นดังนั้นจึงถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ยิ้มไม่เป็นหรือไง?”เสิ่นม่านอยากยิ้ม แต่หลังจากเห็นป๋อซือเหยียนที่อยู่ในกล้องแล้วกลับยิ้มอย่างไ