‘ปัง!’ประตูบ้านตระกูลเสิ่นถูกเปิดออก และกลุ่มบอดี้การ์ดชุดดําก็เดินเข้ามาลุงรองเสิ่นและคุณฉินที่เพิ่งมาถึงบ้านตกใจมากจนถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อเห็น"ที่รัก!นี่เกิดอะไรขึ้น!"คุณฉินกลัวจนซ่อนตัวอยู่หลังลุงรองเสิ่น"รปภ.ล่ะ! เรียก รปภ.!"ลุงรองเสิ่นพยายามตั้งสติ แต่เห็นว่ารปภ.บ้านตนนั้นถูกบอดี้การ์ดชุดดําคุมตัวไว้สีหน้าลุงรองเสิ่นเปลี่ยนไปอย่างมาก"พวกแกคือใคร? ต้องการทําอะไรกันแน่?!"เวลานี้เซียวตั๋วเดินเข้าประตูบ้านตระกูลเสิ่น และหลังจากเห็นเซียวตั๋ว ลุงรองเสิ่นก็กลืนน้ําลายของเขาอย่างประหม่า:"เซียว เซียวตั๋ว?"เซียวตั๋วเข้ามาดึงเก้าอี้แล้วนั่งลงลุงรองเสิ่นพูด:"คะ คุณหมายความว่ายังไง ตระกูลเสิ่นของเราไม่เคยหาเรื่องคุณนะ!"เซียวตั๋วพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม:"ประธานเสิ่น คุณไม่ได้หาเรื่องผม""งั้นคุณพาคนบุกเข้ามาในบ้านผมหมายความว่าไง!""คุณไม่ได้ทําให้ผมขุ่นเคือง แต่ลูกชายของคุณทําให้ผมขุ่นเคือง""เหวินฉวน? เหวินฉวนไปทําให้คุณขุ่นเคืองยังไง?"ลุงรองเสิ่นงุนงงเซียวตั๋วยื่นมือออกมา คนข้างๆ ก็เอาคอมพิวเตอร์ออกมาและข้างในเป็นวิดีโอกล้องวงจรปิดของโรงรถของบ้านตระกูลเสิ่น
คุณฉินรู้ว่าเธอหาเหตุผลมาเถียงไม่เจอ ทำได้แค่ร้องไห้พร้อมปกป้องเสิ่นเหวินฉวนเซียวตั๋วมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเย็นชาข้างๆลุงรองเสิ่นรู้สึกตัวว่ายังมีคนนอกเขาจึงพูดกับเซียวตั๋วว่า:"ท่านเซียว ผมรู้ว่าคุณหมายถึงอะไร แต่นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของผม คุณช่วย……"ท่านเซียวลุกขึ้น เดิมเขาก็ไม่ได้อยากจะทําให้ครอบครัวของเสิ่นม่านลำบากใจ เขาแค่กลัวว่าเสิ่นเจียนซานจะไม่มีปัญหาสืบว่าใครเป็นคนทำ เพราะงั้นก็เลยมาบอก"ถ้าเป็นเรื่องของตระกูลเสิ่น งั้นก็รบกวนประธานเสิ่นมาจัดการด้วย"เซียวตั๋วพูดเรียบๆ :"แต่ว่า ถ้าประธานเสิ่น จัดการได้ไม่ดี ผมก็ไม่ถือถ้าจะต้องเข้ามาช่วย"สีหน้าของลุงรองเสิ่นเปลี่ยนไปเล็กน้อยคำพูดเซียวตั๋วมีบางอย่างแอบแฝง เห็นได้ชัดว่าเขาอยากให้เขาลงโทษอย่างหนัก"ผมรู้ ผมรู้ ผมจะไม่ลำเอียงแน่นอน"ลุงลองเสิ่นพยักหน้าไม่หยุดเซียวตั๋วยกมือขึ้น และบอดี้การ์ดเหล่านั้นก็ออกไปเซียวตั๋วพูดอย่างเกียจคร้าน:"พวกผมขอตัว""ครับ!"หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ถอนตัวออกจากบ้านตระกูลเสิ่นเสิ่นเหวินฉวนยืนขึ้นอย่างไม่พอใจ ชี้ไปที่ผู้คนที่หายไปที่ประตูและตะโกน:"คนพวกนั้นเป็นใคร! พวกมันพูดอะไรก็
"ม่านม่านเรื่องนี้เป็นความผิดของเหวินฉวน ลุงจะพามันไปที่สถานีตํารวจเดี๋ยวนี้ ให้ตํารวจจัดการ!"เสิ่นเหวินฉวนได้ยินแบบนั้น ก็โกรธทันที:"พ่อ! พ่อจะส่งผมไปที่ให้ตํารวจได้ไง!""แกทำอะไรไว้ยังมีหน้ามาพูด? ส่งแกไปให้ตํารวจก็ถือว่าเบามากแล้ว!"หากเซียวตั๋วจัดการเรื่องนี้เอง เสิ่นเหวินฉวนไม่รอดแน่"ลุงรองค่ะ ไม่ต้องส่งให้ตำรวจหรอกคะ"เสิ่นม่านพูดเรียบเรียบ:"ที่น้องเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าป้ารองตามใจเกินไป"ลุงรองเสิ่นพยักหน้า:"ก็เป็นแม่มันตามใจมัน! ตอนนี้ถึงไม่กลัวห่าอะไรเลย!""เมื่อวานเสิ่นเหวินฉวนมาหาหนูเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการแบ่งมรดกของตระกูลเสิ่น หนูแค่ว่าเขาไปไม่กี่คําเขาก็จะฆ่าคนเพื่อระบายอารมณ์ ขาดการอบรมสังสอนจริงๆ""แบ่งมรดกอะไร?"ลุงรองเสิ่นงง ไม่รู้เรื่องนี้เลยเสิ่นเหวินฉวนหน้าแดงทันที:"เสิ่นม่าน! หุบปาก!""แกต่างหากที่ต้องหุบปาก!"ลุงรองเสิ่นตอบทันที:หลังจากรู้สึกตัวเขาเตะเสิ่นหวินฉวน:"ไอลูกเวร กูยังไม่ตายมึงก็อยากฮุบสมบัติของตระกูลเสิ่นแล้วเหรอ!""พ่อ! ผมเปล่า!"ท่าทางของเสิ่นเหวินซวนอ่อนลงเล็กน้อย แต่เขาไม่กล้ายอมรับเรื่องนี้เสิ่นม่านพูดอย่างเรียบๆ:"ลุงรองค่ะเรื่องนี้โ
เจียงฉินเข้ามาหลังจากที่ลุงรองเสิ่นออกไป เธอได้ฟังเรื่องมาคร่าวๆตรงประตูแล้ว แต่ว่าความเกลียดในตระกูลใหญ่มีไม่น้อย แต่ไม่เคยได้ยินว่าฆ่าคนในครอบครัวเลยมาก่อน"ปกติอาตั๋วทำอะไรเด็ดขาดมาโดยตลอด แต่คราวนี้เขาใจอ่อนแล้ว"เจียงฉินสงสัย:"หากเป็นเขาเมื่อก่อนหลักฐานอะไร? เข้าไปเอาคนไปขังไว้ในกล่องดำ แล้ววันต่อมาลูกพี่ลูกน้องของเธอก็น่าจะปางตายแล้ว เรื่องที่ส่งให้ตำรวจอะไรแบบนั้น ง่ายไป""กล่องดํา?"เสิ่นม่านมองไปที่เจียงฉินอย่างสงสัยนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคํานั้นเจียงฉินส่ายหัว:"น่าจะเป็นคําสแลงในแวดวงพวกเขาฉันก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหร ฟู่ฉือโจวก็ไม่เคยอธิบายกับฉัน"เสิ่นม่านเงียบเหมือนว่าคนอย่างเซียวตั๋วที่เดินบนปลายมีดทุกวันคงมีวิธีการของตัวเองไม่อย่างนั้น จะทำให้คนกลัวได้ยังไง?เจียงฉินกล่าว:"อาจเป็นไปได้ว่าอาตั๋วไม่อยากทำให้เธอลำบากใจ เพราะลุงรองของเธอก็ดีกับเธอพอควร"หลังจากพูดจบ เจียงฉินพูดอย่างหงุดหงิด:"รู้ว่าเกิดเรื่องกับเธอแต่ก็ไม่มาดูเธอก่อน ความคิดของผู้หญิงเขารู้บางไหมเนี๊ย! แข็งกระด้างซะจริง" "แค่กๆๆ! "จู่ๆ เสียงไอของฟู่ฉือโจวมาจากนอกประตูเจียงฉินนั่งอยู่ เมื่
ฟู่ฉือโจวสะกิดเจียงฉินและส่งสัญญาณให้เจียงฉินไม่ต้องพูดอะไรไปมั่วเสิ่นม่านก็ได้พูดว่า:"ออกโรงพยาบาลเถอะ ฉันไม่ชอบอยู่ในโรงพยาบาล"ในชาติที่แล้วเธอตายบนเตียงผ่าตัดเธอได้กลัวโรงพยาบาลมาก"ค่ะ"เซียวตั๋วตอบแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องพักคนไข้คนเดียวไม่นาน ก็ได้ทำเรื่องออกโรงพยาบาลเสร็จ ฟู่ฉือโจวก็ลงไปชั้นล่างเพื่อขับรถเสิ่นม่านเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกจากห้อง เธอมองไปที่ห้องพักคนไข้ของป๋อซือเหยียนสักพัก สุดท้ายก็ออกไปพร้อมกับเจียงฉินนอกโรงพยาบาล เสิ่นม่านบังเอิญไปเห็นรถของเลขาหลี่ ใบหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็สะท้อนอยู่ที่หน้าต่างเบาะหลังในตอนเย็น ป๋อซือเหยียนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลก็ได้ตื่นมา และเห็นแผ่นหลังอย่างพร่ามัวอยู่ข้างๆ"เสิ่นม่าน...... "เสียงของป๋อซือเหยียนนั้นเบามากก็เห็นแผ่นหลังนั้นหยุด พอหันกลับมากลับเป็นซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่ยิ้มหวาน"ซือเหยี่ยน ในที่สุดก็ฟื้น"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนวางน้ําร้อนไว้ข้างๆแล้วพูดว่า:"ฉันมาหาคุณหลังเลิกเรียนคุณยังไม่สบายตรงไหม? ฉันไปเรียกหมอ"เมื่อเห็นซูเฉี่ยนเฉี่ยนสีหน้าผิดหวังก็อยู่บนหน้าของป๋อซือเหยียนเสียงของเขาแหบเล็กน้อย:"เสิ่นม่านล่ะ?"รอย
"เอากุญแจรถมาให้ฉัน!"เลขาหลี่ตกตะลึง แต่เขาไม่กล้าไม่ฟังคำสั่งของป๋อซือเหยียน หยิบกุญแจออกมาอย่างลังเลในวินาทีถัดมา ป๋อซือเหยียนหยิบมันขึ้นมาแล้วออกจากโรงพยาบาลใบหน้าของเขายังคงซีดเล็กน้อย เลขาหลี่หลังอย่างใกล้ชิดเห็นป๋อซือเหยียนขึ้นรถและเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว"ประธานป๋อ! "เลขาหลี่ตะโกนอยู่ท้ายรถ แต่ป๋อซือเหยียนไม่คิดจะหยุดแม้แต่น้อย และหลังจากนั้นไม่นานก็ไม่เห็นเขาแล้วในเวลานั้น เสิ่นม่านพักอยู่บนเตียงในอพาร์ตเมนต์เพื่อพักฟื้น ฟู่ฉือโจวกําลังยุ่งอยู่ในครัว เจียงฉินกําลังช่วยให้ยุ่งอยู่ด้านข้าง เซียวตั๋วก็นั่งอยู่บนโซฟาไม่ไกลกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ฉากนี้อบอุ่นมาก และเสิ่นม่านก็ชอบความอบอุ่นเช่นนี้ชาติที่แล้วเพราะพ่อแม่เธอได้เสียไปตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเธอจะอาศัยอยู่ในบ้านของลุงรองเสิ่น แต่ทุกคนก็ต่างสวมหน้ากาก เธอไม่ได้สัมผัสความอบอุ่นของครอบครัวแบบนี้มานานแล้วถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปก็ดีรถของป๋อซือเหยียนจอดนอกอพาร์ตเมนต์ของเสิ่นม่าน และเขากดโทรหาเสิ่นม่านไม่มีคนรับสายมือป๋อซือเหยียนที่ถือโทรศัพท์ซีดเล็กน้อย เขาลงจากรถและเดินไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย"คุณครับ คุณมาหา
"เซียวตั๋ว แก……"ป๋อซือเหยียนยังจะพูดต่อ เซียวตั๋วขัดจังหวะและพูดว่า:"ดูเหมือนม่านม่านจะตื่นขึ้น ประธานป๋อไปดูแลซูเฉี่ยนเฉี่ยน ก่อนดีกว่าครับ วางล่ะ"เซียวตั๋ววางสายสีหน้าของป๋อซือเหยียนมืดและมือได้บีบโทรศัพท์จนไร้เลือด"คุณป๋อ……"รปภ.เรียกอย่างอดไม่อยู่:"หรือวันอื่น?"ป๋อซือเหยียนมอง รปภ. อย่างเย็นชา รปภ.ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อทางนั้น เสิ่นม่านตื่นขึ้นมาจากเตียงอย่างงัวเงียและหลังจากขยี้ตาแล้ว เสิ่นม่านก็ถามอย่างสงสัย:"เมื้อกี้มีคนโทรมาเหรอ?"เซียวตั๋วหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอีกครั้งและพูดเรียบ ๆ :"เปล่า คุณกําลังฝันน่ะ"เสิ่นม่านสงสัยตอนที่เธอนอนหลับเมื่อกี้ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นนี่นาเป็นไปได้ไหมว่าเธอกําลังฝันอยู่?เสิ่นม่านนวดหว่างคิ้วและเอื้อมมือไปเอาโทรศัพท์มือถือข้างเตียง เห็นว่ามีสายที่ไม่ได้รับจากป๋อซือเหยียนเสิ่นม่านขมวดคิ้วป๋อซือเหยียน……ตื่นแล้วเวลานี้เจียงฉินในครัววิ่งออกไปพร้อมกับจานและตะโกนเรียกเสิ่นม่าน:"ม่านม่าน ลุกมากินข้าว!""……ค่ะ"เสิ่นม่านวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ วันรุ่งขึ้น ทนายได้ส่งสัญญาหย่าร้างให้เสิ่นม่าน ตอนเย็นเสิ่นม่านก็กลับไปที่บ้านป๋อเพ
"คุณคิดว่าเพื่อร่วมธุรกิจกับตระกูลเสิ่น ผมถึงไม่หย่า?"ป๋อซือเหยียนเดินเข้าไปทีละก้าว เสิ่นม่านเงยหน้าขึ้นมองไปที่ป๋อซือเหยียน:"ไม่ใช่เหรอ?""ไม่แน่นอน!"ป๋อซือเหยียนเหยียดมือออกแล้วกดลงบนไหล่ของเสิ่นม่าน ดวงตาของเขาก็ได้แดงก่ำ:"คุณฟังให้ดี ผมไม่ตกลงที่จะหย่า! คุณอย่าคิดที่จะไปจากตระกูลป๋อ" "ปล่อยฉัน! "เสิ่นม่านสะบัดป๋อซือเหยียนออกและเยาะเย้ย:"ป๋อซือเหยียน อย่าบอกฉันว่าคุณไม่อยากหย่าเพราะคุณชอบฉัน" "ฉัน…… "ไม่รอให้ป๋อซือเหยียนพูด เสิ่นม่านก็ขัดจังหวะ:"ฉันเสิ่นม่านคิดว่าไม่ได้มีเสน่ห์จนสามารถทําให้ประธานป๋อมาชอบฉันได้ คุณทําให้ฉันอับอายต่อหน้าคนนอกหลายต่อหลายครั้งเพื่อซูเฉี่ยนเฉี่ยน และจัดการกับเพื่อน ๆ ของฉันตามอําเภอใจ ฉันทนการแต่งงานแบบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่ว่าคุณจะยอมหรือไม่ก็ตามฉันก็จะหย่ากับคุณ""เสิ่นม่าน! คุณเอาความมั่นใจจากไหนที่มาพูดแบบนั้นกับผม?"ป๋อซือเหยียนพูดด้วยความโกรธ:"คุณและเซียวตั๋วก็อยู่ด้วยกันแล้วไม่ใช่เหรอ สองคนความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนแบบนั้น? คุณล่ะเอาหน้าผมไปไว้ที่ไหน!""ฉันกับเซียวตั๋ว?"เสิ่นม่านดูเหมือนจะได้ยินมุกตลกอะไร:"ที่แท้คุณเห็นว่าฉันเป็นคนแบบนั
เสิ่นม่านไม่ได้ระลึกถึงอุบัติเหตุรถยนต์ในหลายปีก่อนมานานแล้ว อุบัติเหตุที่ทำให้เธอต้องสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย ในตอนนั้นเธอยังเด็ก ต่อให้โตขึ้นมาแล้ว เธอก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา แต่ตอนนี้ฮั่วหยุนเหลียนนั่งอยู่ตรงหน้าเธอและบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นแผนการที่ไตร่ตรองมาอย่างดี!"พ่อแม่ของเซียวตั๋วตายในอุบัติเหตุรถยนต์ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา ในตอนนั้นป้าเซียวที่ตั้งครรภ์อยู่รอดชีวิต เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นค้นพบ และเพื่อให้ป้าเซียวคลอดลูกได้อย่างสบายใจ คุณปู่เซียวได้ส่งป้าเซียวไปต่างประเทศ ไม่นานนัก เซียวตั๋วก็เกิดขึ้น"ตามข่าวลือ แม่ของเซียวตั๋วถูกกล่าวหาว่าเป็นภรรยาลับที่เซียวเป่ยเจิงเลี้ยงดูอยู่นอกบ้าน ซึ่งโกรธแค้นตระกูลเซียวมาโดยตลอด และปลูกฝังความคิดที่ต้องการแก้แค้นตระกูลเซียวให้แก่เซียวตั๋ว ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่คนบ้าแต่อย่างใด ครั้งหนึ่งบนเรือสำราญ เซียวตั๋วก็เคยยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงข่าวลือจากภายนอกแม่ของเซียวตั๋วไม่ใช่ภรรยาลับ แต่เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเซียวเป่ยเจิง เป็นคุณหญิงเซียวตัวจริง"คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่า ใ
เบื้องหน้าคือวิลล่าที่ดูธรรมดา แต่ทำเลที่ตั้งของที่นี่ถือว่าดีที่สุด วิลล่าในย่านนี้มีราคาขั้นต่ำขั้นสูงกว่าล้านล้านบาท คนที่สามารถอาศัยอยู่แถวนี้ได้ต้องเป็นคนร่ำรวยหรือจะต้องรวยหรือมีเกียรติแต่ว่า ที่นี่ดูเหมือนไม่ใช่ที่ที่มีคนอาศัยอยู่เป็นประจำ"ไม่นึกเลยว่าคุณฮั่วจะมีบ้านที่งดงามแบบนี้ที่นี่""นี่ไม่ใช่ของผม"น้ำเสียงของฮั่วหยุนเหลียนเรียบเฉย เสิ่นม่านยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ฮั่วหยุนเหลียนก็หยิบกุญแจออกมา เขาไอเบา ๆ สองครั้ง หน้าตาดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร จากนั้นเขาก็เปิดประตูวิลล่าเสิ่นม่านก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วพูดว่า: "ที่นี่ไม่ใช่บ้านของคุณ แล้วทำไมคุณถึงมีกุญแจล่ะ?""เพื่อนให้ผมมา"คนที่ฮั่วหยุนเหลียนเรียกว่าเพื่อนในเมืองไห่เฉิงนี้ไม่มีมากนัก เสิ่นม่านจึงนึกถึงเซียวตั๋วเป็นคนแรกฮั่วหยุนเหลียนเปิดประตูแล้วเสิ่นม่านก็เดินตามฮั่วหยุนเหลียนเข้าไป แม้วิลล่าจะดูเรียบง่ายจากด้านนอก แต่การตกแต่งภายในก็พิถีพิถันมาก แม้ในยุคนี้ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ล้ำเลิศหลังจากฮั่วหยุนเหลียนเปิดไฟ เสิ่นม่านก็มองไปรอบ ๆ เหมือนที่นี่มีคนมาทำความสะอาดอยู่เสมอ ฮั่วหยุนเหลียนไม่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก
"คุณเคยคิดเรื่องนี้อาจจะเหลือหลักฐานไหม? คุณยังสัญญากับฉันว่า จะไม่ทำเรื่องอันตรายอีกแล้ว"วันนี้เซียวตั๋วพาคนมาทั้งหมดเป็นพวกลุกฮือที่เคยติดตามเขาตลอด ซึ่งเสิ่นม่านก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในชาติก่อน เสิ่นม่านรู้ว่า เซียวตั๋วมาเเมืองไห่เฉิง แท้จริงแล้วก็คือมีเป้าหมายอื่น เป้าหมายหลักของเขาคือป๋อซือเหยียน แม้ว่าตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าเซียวตั๋วมีจุดมุ่งหมายอะไรแต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ เซียวตั๋วต้องการจะเป็นใหญ่ในเมืองไห่เฉิง และอุปสรรคคนแรกก็คือป๋อซือเหยียนแต่เธอไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องราวมากมายขนาดนี้ในชาตินี้ เส้นทางอนาคตได้ถูกปรับเปลี่ยนไป แต่เป้าหมายของเซียวตั๋วกลับไม่เปลี่ยนเลย และยังมีกลุ่มอันตรายเช่นนี้ซ่อนอยู่ด้วยหากมีสักคนที่ถูกจับได้ เซียวตั๋วอาจจะพังพินาศได้เสิ่นม่านไม่กล้าคิดถึงเรื่องในอนาคต เธอมองไปที่เซียวตั๋วตรงหน้า รอให้เซียวตั๋วอธิบายเซียวตั๋วนิ่งเงียบ เสิ่นม่านจึงถามตรงๆ "คุณมีเรื่องอื่นที่ต้องทำในเมืองไห่เฉิง ใช่ไหม?""...ใช่""ก่อนที่คุณมาเมืองนี้แต่อยู่ต่างประเทศก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ได้แล้ว ทำไมถึงต้องมาเมืองไห่เฉิงด้วย หยุนเฟยหานไม่ใช่มาเมืองหลินเฉิงแล้วกำลังรุ่
เสิ่นม่านมองป๋อซือเหยียนที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงแล้วพูดเรียบๆ ว่า: "ไม่ล่ะ รอให้เขาหายดีแล้วฉันค่อยมาอีกทีก็แล้วกัน"เสิ่นม่านเดินออกจากห้องพักคนไข้โดยไม่ลังเลเลย ในตอนนั้นเอง ป๋อซือเหยียนที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นเลขาหลี่เห็นป๋อซือเหยียนลืมตาก็ตกตะลึง"คุณป๋อ? คุณ...""ช่วยพยุงผมลุกหน่อย"เสียงของป๋อซือเหยียนแหบแห้งเลขาหลี่รีบเข้าไปช่วยพยุงป๋อซือเหยียนให้ลุกขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: "คุณป๋อครับ นี่คุณ... ใช้กลอุบายเรียกร้องความสนใจหรือครับ?"ป๋อซือเหยียนไม่พูดอะไรตอนนั้น เขาสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรกแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยส่งสัญญาณเตือนตั้งนานแล้ว เขารู้ว่าคนที่บุกเข้ามาในบ้านตระกูลป๋อในเวลานี้มีเพียงเซียวตั๋วเท่านั้น และมีเพียงเซียวตั๋วเท่านั้นที่มีความสามารถทำเช่นนี้ได้และเมื่อกลุ่มโจรบุกเข้ามา ด้วยรูปร่างของเขาสามารถหลบดาบนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น แต่เลือกที่จะรับดาบนั้นเต็มๆเขาแค่อยากรู้ว่า เสิ่นม่านจะเสียใจหรือกังวลเพราะเขาหรือไม่ป๋อซือเหยียนแสดงสีหน้าอ่อนล้าด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ แล้วพูดว่า: "คุณหลี่ ในใจของเธอ คงยังมีผมอยู่บ้างมั้ง"
"กล่องปฐมพยาบาลมาแล้วค่ะ!"แม่บ้านวางกล่องปฐมพยาบาลลงตรงหน้าเสิ่นม่าน ขณะเดียวกัน เจียงฉินและฟู่ฉือโจวก็มาถึงพอดี เมื่อเห็นความยุ่งเหยิงเต็มพื้น เจียงฉินชะงักไป ทั้งสองคนต่างรู้ชัดว่า 'โจร' ที่ว่านั้นคือใครเจียงฉินขมวดคิ้วและพูดว่า: "นั่งรถฉันไปเถอะ ไม่รู้ว่ารถพยาบาลจะมาถึงเมื่อไหร่""ตกลง"เสิ่นม่านสั่งให้ยามช่วยกันยกป๋อซือเหยียนไปที่รถของเจียงฉินที่อยู่หน้าประตูในโรงพยาบาล แพทย์รีบทำการช่วยชีวิตป๋อซือเหยียนทันที เจียงฉินนั่งอยู่กับเสิ่นม่านบนเก้าอี้ในทางเดิน และพูดว่า: "ไม่ต้องกังวลนะ เมื่อกี้หมอบอกว่าไม่ใช่จุดอันตราย""แต่ถ้าเสียเลือดมากเกินไป ก็อาจเสียชีวิตได้"เสิ่นม่านนวดขมับและถามว่า: "แล้วฟู่ฉือโจวล่ะ?""เขา... เขามีธุระต้องกลับไปก่อน""ไปหาเซียวตั๋วใช่ไหม?"เสิ่นม่านและเจียงฉินต่างรู้ว่าโจรที่บุกเข้าบ้านตระกูลป๋อวันนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเซียวตั๋วครั้งนี้เซียวตั๋วทำอะไรลงไปอย่างบุ่มบ่ามเกินไป เห็นได้ชัดว่าเป็นการตัดสินใจกะทันหัน แม้ว่าการแทงครั้งนี้จะไม่ถึงกับเอาชีวิตป๋อซือเหยียน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าในระหว่างนั้นจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นหรือไม่"ใครเป็นญาติผู้ป่ว
"ไม่มีเหตุผล ทำไมบ้านตระกูลป๋อจะถูกโจรบุกได้"เสิ่นม่านรู้ดีถึงระบบรักษาความปลอดภัยของบ้านตระกูลป๋อ นอกจากยามรักษาความปลอดภัย 20 คนแล้ว ยังมีแม่บ้านและบอดี้การ์ดอีกหลายคน ภายในบ้านตระกูลป๋อมีศาลบรรพชนของตระกูล ดังนั้นประตูหน้าและหลังจึงใช้ประตูเทคโนโลยีทั้งหมด คนทั่วไปยากที่จะเข้าไปในบ้านตระกูลป๋อได้ แล้วโจรที่ไหนจะมีฝีมือขนาดนี้ สามารถบุกเข้าประตูหลังของบ้านตระกูลป๋อได้อย่างกะทันหัน"ตำรวจคงจะมาถึงเร็วๆ นี้ พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่เพื่อสร้างความวุ่นวาย ม่านม่าน รีบไปกันเถอะ"เจียงฉินดึงแขนของเสิ่นม่านด้วยความกลัว แต่เสิ่นม่านขมวดคิ้วพูดว่า: “อย่าแจ้งตำรวจ ฉันจะเข้าไปข้างใน""คุณหนูเสิ่น คุณบ้าไปแล้วหรือ!"ฟู่ฉือโจวมองเสิ่นม่านที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ เสิ่นม่านมองประตูใหญ่ของบ้านตระกูลป๋อ หากเธอเดาไม่ผิด โจรที่อยู่ในบ้านตระกูลป๋อตอนนี้ น่าจะเป็นคนที่เธอคิดถึงเสิ่นม่านวิ่งไปที่ประตูใหญ่ของบ้านตระกูลป๋อ ขณะนี้บ้านตระกูลป๋ออยู่ในสภาพยับเยิน และในความมืด เสิ่นม่านก็ถูกจับแขนทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว: “หัวหน้า จับผู้หญิงได้คนหนึ่ง!"เสียงของโจรดึงดูดความสนใจของชายคนหนึ่งในความ
เสิ่นม่านวางสายโทรศัพท์มู่หยุนหานเดินเข้ามาถามว่า :“เกิดอะไรขึ้น?”“คุณและกู้ไป๋รู้จักคนในวงการบันเทิงบางคน ฉันมีธุระต้องไปก่อน”“แต่วันนี้มันเป็นงานสำคัญ คุณจะไปได้เหรอ?”เสิ่นม่านมองไปที่ป๋อซือเหยียนที่ยังคุยอยู่กับกู้ไป๋แล้วพูดว่า :“ฉันจะไปแบบเงียบๆ”พูดจบ เสิ่นม่านก็รีบดื่มไวน์จนหมดแล้วส่งแก้วเปล่าให้มู่หยุนหาน ก่อนจะยกกระโปรงแล้ววิ่งหนีไปในทันที เมื่อไม่มีใครสังเกตมู่หยุนหานพยายามเรียกเสิ่นม่าน แต่เสิ่นม่านวิ่งได้เร็วมาก จนในไม่ช้าเธอก็ออกมาจากประตูบ้านป๋อได้แล้วหลังจากนั้นสิบห้านาที รถสปอร์ตขับมาอย่างรวดเร็ว เสิ่นม่านมายืนที่หน้าบ้านป๋อ เจียงฉินก็ก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว: “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงกลับมาคืนดีกันอย่างเฉียบพลัน?”“ใช่ค่ะ เสิ่นม่าน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? หรือว่าป๋อซือเหยียนข่มขู่คุณ? อย่ากลัวนะ มีเซียวตั๋วอยู่ เขาไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก ” ฟู่ฉือโจวพูดสนับสนุนจากข้างๆเสิ่นม่านพูดว่า: “มันไม่ใช่การข่มขู่ แต่เราทำข้อตกลงกัน”“ข้อตกลงอะไร?”“ฉันกับป๋อซือเหยียนได้เซ็นสัญญากันแล้ว เอกสารหย่าก็เซ็นเรียบร้อย เพียงแค่แกล้งทำเป็นคู่รักที่รักกับโลกภายนอกเพื่อช่วยฟื้นฟูภ
ประธานซ่งและซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบออกจากตระกูลป๋อ ขณะที่ป๋อซือเหยียนก็ลงมาจากชั้นสอง เลขาหลี่ก็เดินเข้ามาใกล้ป๋อซือเหยียนและพูดว่า: “ประธานป๋อ ไม่เห็นแม้แต่เงาของเมิ่งจงเซิง”ป๋อซือเหยียนมองไปรอบๆ เขาเคยคิดว่านี่จะเป็นโอกาสดีในการดูตัวตนที่แท้จริงของเมิ่งจงเซิง แต่ไม่คาดคิดว่าเมิ่งจงเซิงจะยังคงไม่ให้เกียรติเลย“แม้ว่าเมิ่งจงเซิงจะไม่มา แต่กู้ไป๋ก็มา”ทันทีที่เลขาหลี่กล่าวเสร็จ กู้ไป๋ก็เดินเข้ามาทางนี้: “ประธานป๋อ ยินดีที่ได้เจอกัน”“ยินดีที่ได้เจอกัน แต่ทำไมประธานเมิ่งไม่มา?”“ประธานเมิ่งไม่มา แต่การที่ผมมาที่นี่ก็เหมือนกัน”คำพูดของกู้ไป๋มีนัยยะ ซึ่งดึงความสนใจของป๋อซือเหยียนก่อนหน้านี้กู้ไป๋เป็นเพียงนักแสดงชั้นนำของบริษัท M กรุ๊ป ในสายตาของกลุ่มนักลงทุนใหญ่ๆ เขาเป็นเพียงแค่คนทำงานในบริษัท M แต่เขากลับพูดอย่างชัดเจนว่าตนอยู่ในระดับสูงสุดของบริษัท M กรุ๊ป“คุณกู้ หมายความว่าอะไรครับ?”กู้ไป๋ยิ้มเล็กน้อย สายตาของเขามีความลึกลับบางอย่างตลอดเวลาที่ผ่านมา ธุรกิจของบริษัท M กรุ๊ป คือเมิ่งจงเซิง ไม่เคยปรากฏตัวเลย มักจะปรากฏตัวแค่ในการเต้นรำที่สวมหน้ากากครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นเข
เธอเข้าข่ายไม่ชอบที่คนอื่นพูดถึงเรื่องที่เธอเคยเป็นมือที่สาม เลขาหลี่ก็พูดอย่างอ้อมๆ แต่ความหมายก็ชัดเจนในช่วงเวลานี้ ตระกูลป๋อไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงที่เพิ่งสูญเสียลูกไปได้ จึงต้องรักษาชื่อเสียงไว้ด้วยการอยู่คู่กับภรรยาเดิม สร้างภาพลักษณ์ว่าครอบครัวมีความรักกัน เพื่อให้เศรษฐกิจของตระกูลป๋อกลับมาฟื้นตัวเมื่อประธานซ่งได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็เอ่ยห้ามซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่กำลังจะพูด: “เหนี่ยนสือ อย่าทำตัวไม่รู้เรื่องนะ”“พ่อ…”“ผมเข้าใจความกังวลของประธานป๋อ และเข้าใจว่าท่านทำไปเพื่ออนาคตของตระกูลป๋อ ถ้าประธานป๋อกับคุณหนูเสิ่นหย่ากันแล้ว จะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะแต่งงานกับลูกสาวของผม?”ป๋อซือเหยียนไม่ได้พูดอะไร เลขาหลี่ก็ตามมาอธิบายว่า: “หกเดือนครับ สัญญาระหว่างประธานป๋อกับคุณหนูเสิ่นจะสิ้นสุดในหกเดือน ดังนั้นต้องให้คุณซ่งรออีกหกเดือน”“ ไม่ ตำแหน่งคุณหญิงป๋อควรเป็นของฉัน!”“เธอหุบปากซะ!”ประธานซ่งตัดบทพูดของซูเฉี่ยนเฉี่ยนด้วยความโกรธเมื่อเห็นประธานซ่งโกรธ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก กลับถอยไปอยู่ข้างๆประธานซ่งลุกขึ้นพูดว่า: “ดี หกเดือนก็หกเดือน ผมหวังว่าประธานป๋อจะไม่ทำให้ผ