Share

บทที่ 212

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เงินหนึ่งตำลึงเพียงพอสำหรับครอบครัวธรรมดาให้อยู่ได้ครึ่งเดือน

อย่าเห็นว่าซาลาเปาที่นักการมักขายให้กับนักโทษจะมีราคาสูง แต่เมื่อเทียบกับราคาข้างนอกแล้วก็ยังต่ำกว่าอยู่มาก

ไม่คิดว่า เสื้อหนึ่งตัวจะสามารถขายได้หนึ่งตำลึง ดังนั้นจางเอ้อร์จึงพยักหน้ายอมรับทันที

แต่กู้หว่านเยว่ไม่ใช่คนหัวอ่อน

ว่ากันว่าของหายากมีค่า ในเมืองชิงหนิวแห่งนี้หรือแม้แต่เมืองใกล้เคียงอีกหลายแห่ง นางเป็นเจ้าเดียวที่ขายเสื้อผ้าฝ้าย หากขายให้กับตระกูลสูงศักดิ์ เสื้อชิ้นหนึ่งอาจมีราคาได้มากกว่ายี่สิบตำลึง

เงินหนึ่งตำลึง น้อยเกินไปแล้ว

“เจ้าของร้าน ขอเพิ่มราคาอีกหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ?”

“ก็ได้ ห้าตำลึงเล่า? ข้าซื้อเสื้อเจ้าห้าตำลึงเงินต่อหนึ่งตัว”

กู้หว่านเยว่ส่ายหัว

“เสื้อผ้าฝ้ายนี้เป็นของใหม่ ในเมืองชิงหนิวไม่อาจหาซื้อได้ หากถูกผู้สูงศักดิ์ชอบเข้า ยี่สิบตำลึงเงินก็ยังขายออกได้

หากเจ้าของร้านอยากได้จริงๆ ละก็ ให้ข้าจำนวนเท่านี้”

พูดจบ นางก็ทำสัญลักษณ์เลยย “แปด” เมื่อเห็นว่าเขายังลังเลอยู่ นางก็ยกเท้าขึ้น เตรียมเดินจากไปโดยไม่ลังเลใจ

“เดี๋ยวก่อน แม่นางน้อย เดี๋ยวก่อน!” เจ้าของร้านพยายามกดราคาไว้ แต่เมื่อเห็นกู
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 213

    ระบบแนะนำอย่างภาคภูมิใจว่า “นี่คือความสามารถเฉพาะของระบบสภาพอากาศในมิติ สามารถทำให้พืชผลสุกงอมเร็วขึ้น อีกทั้งรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการก็ไม่ด้อยไปกว่าด้านนอก”กู้หว่านเยว่หยิบพวงองุ่นมาแล้วโยนเข้าปาก ดวงตาเป็นประกายทันที“จริงด้วย องุ่นพวกนี้ หวานกว่าองุ่นธรรมดาเสียอีก!”นางรีบเก็บผลผิงกั่ว[footnoteRef:1]และหลี่จือ[footnoteRef:2]แล้วมอบให้คนในครอบครัว รวมถึงเหล่านักการ [1: แอปเปิล] [2: ลูกแพร์] “พี่สะใภ้ใหญ่ ผลไม้พวกนี้หวานมากเลย ข้าไม่เคยได้ลิ้มรสผลไม้ที่หวานขนาดนี้มาก่อนเลยเจ้าค่ะ!”ซู่จิ่นเอ๋อร์ได้กัดเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกราวกับตกหลุมรักซุนอู่เองก็ยังรู้สึกว่า หลังจากกินผลไม้นี้ ตนเองมีกำลังวังชาเพิ่มมากขึ้น“แม่นางน้อยกู้ ผลไม้พวกนี้ท่านซื้อมาจากที่ไหนหรือ? ข้าจะให้พี่น้องไปซื้อมาเพิ่ม”กู้หว่านเยว่อธิบายแบบสบายๆ ว่า “ซื้อมาจากพ่อค้าหน้าโรงเตี๊ยมน่ะ เห็นบอกว่าเก็บมาจากริมบ่อน้ำพุร้อน มันจึงหวานอร่อยกว่าผลไม้ทั่วไปตอนที่ข้าไปถึงก็เหลืออยู่ไม่กี่จิน[footnoteRef:3]แล้ว พ่อค้าก็คงจะกลับไปแล้ว พี่ใหญ่ซุนอย่าออกไปให้เสียเวลาเลยเจ้าค่ะ” [3: ห้าร้อยกรัม] ซุนอู่ทำได้เพ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 214

    ในใจลึกๆ รู้ดีว่าฟู่เยียนหรานไม่รู้ความ ดังนั้นจึงไม่สนใจมากนัก เดินตรงไปดังฟู่เยียนหรานกลับมา“ลุงหลี่ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ? ปล่อยข้าไป ข้าไม่ยอมให้นางแตะต้องพ่อข้า”“มานี่ พาคุณหนูออกไปก่อน”แม่ทัพหลี่ไม่สนใจนาง ก่อนจะเทน้ำให้กู้หว่านเยว่ กล่าวขอโทษนางไปอีกประโยค“แม่นางกู้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ท่านเป็นผู้มีเมตตาไม่เอาความผู้น้อย ดูอาการท่านอ๋องผู้เฒ่าก่อนเถอะขอรับ”“เจ้าค่ะ” กู้หว่านเยว่พยักหน้า นางย่อมไม่ใช่เพราะฟู่เยียนหรานและไม่ชอบใจท่านอ๋องผู้เฒ่าหยิบน้ำมาแล้วป้อนยาสงบจิตแก่ท่านอ๋องผู้เฒ่า แล้วฉีดยาให้ท่านอ๋องผู้เฒ่าอีกเข็มหลังจากนั้นไม่นาน หนานหยางอ๋องก็ตื่นขึ้นมาอย่างมึนงง“ข้า ข้าเป็นอะไรไปหรือ?”“ท่านอ๋อง ท่านมีโทสะมากเกินไป จึงอาเจียนเป็นเลือดแล้วสลบไปเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่หยิบเข็มเงินออกมาปักระบายความตึงเครียด อธิบายเสียงเรียบรื่น“ปล่อยข้านะ!”ฟู่เยียนหรานรีบผลักคนที่อยู่รอบตัวนางออกไปอย่างเร็ว เดินมาที่เตียง “ท่านพ่อ ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ?ท่านอย่ามีโทสะเลยเจ้าค่ะ ข้ากับมู่หรงรักกันจริงๆ นะเจ้าคะ ขอร้องท่านพ่อสนับสนุนพวกเราด้วย”หนานหยางอ๋องโกรธจนเส้นเลือดบนหน้าผ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 215

    กู้หว่านเยว่นิ่งไปครู่หนึ่ง คาดคิดว่าฟู่เยียนหรานอาจได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดกันด้านในทำตัวลับๆ ล่อๆ ดูไม่เหมือนบุตรีแห่งของราชวงศ์แม้แต่น้อยกระนั้น กู้หว่านเยว่พลางคิดว่าในหนังสือต้นฉบับ ฟู่เยียนหรานเกือบจะวางยาพิษหนานหยางอ๋องตาย เป็นเพราะได้ยินว่าหนานหยางอ๋องคิดจะตามหาลูกสาวแท้ๆ กลับมา?“สามี สองสามวันนี้ท่านช่วยส่งคนมาจับตาดูฟู่เยียนหรานหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ?หากนางมีอะไรผิดปกติ ให้รีบบอกข้าทันที”กู้หว่านเยว่ไม่ได้บอกเหตุผลซูจิ่งสิงไปตรงๆ เพราะนางเองก็ไม่อาจเรียกได้ว่ารู้อนาคตล่วงหน้า“ได้”โชคดีที่ซูจิ่งสิงไม่ใช่คนช่างสงสัย เขาเรียกฉู่เฟิงเข้ามา และสั่งการด้วยเสียงทุ้มต่ำด้านนอกยังคงมีหิมะโปรยปราย ถนนหนทางปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน กองพะเนินสูงเท่ากับเข่ายามเดินผ่านกู้หว่านเยว่เดินเข้าครัวไปต้มน้ำแกงมาสามชาม เดินกลับมาก็เห็นฮูหยินผู้เฒ่าซูและซูหัวหยางวิ่งวุ่นไปมาหลังจากที่เห็นนาง ก็ถ่มน้ำลาย “ถุย เสนียด!”“หาเรื่องหรือไร? กล้าดีอย่างไรไม่เคารพแม่นางน้อยกู้เช่นนั้น?!” หวังปี้กำหมัดแน่นอยู่ข้างหลังเขา “อย่าหนีสิ มีปัญญารังแกผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ไม่มีปัญญาสู้ตัวต่อตัวกับข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 216

    “แม่ทัพหวัง ร่างกายท่านไม่เป็นไรแล้วใช่หรือไม่?”กู้หว่านเยว่เลิกคิ้ว เห็นหวังปี้วิ่งปร๋อได้เช่นนี้ คงไม่ทรมานแล้วกระมัง?หวังปี้โบกมือด้วยความเขินอาย “เห็นคุณหนูซูถูกพ่อแม่บังคับเช่นนั้น ข้าถึงได้รู้ว่ายังมีคนที่ย่ำแย่กว่าข้าอีกเนอะ สิ่งที่ข้าเจอนับเป็นอะไรได้? ในเมื่อคุณหนูฟู่ไม่ชอบข้า ข้าก็เพียงปล่อยมือเท่านั้น ฝืนบังคับกันต่อไป คงกลายเป็นความแค้นฝังแน่น”อันที่จริง หวังปี้ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ให้ฟู่เยียนหรานมากนัก ทั้งสองไม่เคยเจอกันมาก่อน เพียงแต่เขาไม่อยากให้ท่านอ๋องผู้เฒ่าผิดหวังเท่านั้นหลังจากที่เขาตื่นขึ้น ก็รีบไปหาท่านอ๋องผู้เฒ่า ยกเลิกการหมั้นหมายทันทีกู้หว่านเยว่มองเขาด้วยความชื่นชมหยิบขึ้นได้ วางลงเป็น สุภาพบุรุษอกสามศอก“ข้าจะไปป้อนหญ้าแห้งให้ม้าหน่อย ขอตัวก่อนนะขอรับ”พูดจบ หวังปี้ก็ยกมือประสานให้ทั้งสองคนแล้วก้าวไปที่คอกม้าเมื่อกู้หว่านเยว่กลับมาที่หอนอนรวม ทุกคนต่างกำลังยุ่งกับการตัดเย็บเสื้อผ้าฝ้าย ทำเอานางคล้ายจะว่างงานขึ้นมากู้หว่านเยว่จึงเดินเข้าครัวไปทำอาหาร ซูจิ่งสิงจึงเดินตามมาช่วยก่อฟืน หลังจากทั้งสองทำอาหารเสร็จแล้ว ก็เห็นฉู่เฟิงเดินเข้ามาพอด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 217

    กู้หว่านเยว่คิดกับตัวเองว่าไม่ว่าซูจิ่งสิงจะฉลาดแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถเดาทิศทางของโครงเรื่องได้แต่เขาเดาถูก “ฟู่เยียนหรานคิดจะทำร้ายท่านอ๋องผู้เฒ่าหรือ?”กู้หว่านเยว่ตกใจมาก ผู้ชายคนนี้ฉลาดขนาดนี้เลยหรือ?แต่นางไม่ได้ตอบว่าใช่ และไม่ได้ตอบว่าไม่ใช่ เพียงโบกมือแล้วตักใส่อาหารใส่กล่องอาหาร เดินถือไปที่หอนอนรวม“พี่สะใภ้ใหญ่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เจ้าค่ะ ให้ท่านทำอาหารมาสองวันแล้ว”ซูจิ่นเอ๋อร์กล่าวอย่างรู้สึกผิดสองสามวันนี้นางรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก ดูเหมือนว่าจะมีประจำเดือนมาครั้งแรกนอกจากจะไปเข้าห้องน้ำและทานอาหาร กู้หว่านเยว่ก็สั่งให้นางนอนพักผ่อนบนเตียงไปดังนั้นงานเข้าครัวทำอาหาร จึงตกเป็นหน้าที่ของกู้หว่านเยว่ไปโดยปริยาย“รอเจ้าดีขึ้นแล้ว งานเข้าครัวทำอาหารก็จะกลายเป็นของเจ้าเช่นเดิม”กู้หว่านเยว่เหลือบมองนาง ซูจิ่นเอ๋อร์จึงยิ้มรับทันที การได้ไปทำงาน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับนางหลังจากที่ครอบครัวกินข้าวเสร็จแล้ว กู้หว่านเยวว่ก็ออกไปดูสภาพอากาศ ก่อนจะพบว่าพายุหิมะเริ่มเบาลงแล้ว“พรุ่งนี้มะรืนนี้ก็ออกเดินทางได้แล้ว” กู้หว่านเยว่พูดกับซุนอู่นี่เป็นข่าวดีที่สุดในไม่กี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 218

    บ่าวคนนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตประจำวัน อาหารการกิน และยารักษาโรคของหนานหยางอ๋องขอเพียงหลอกใช้บ่าวรับใช้สักหน่อย ความผิดก็สามารถตกเป็นของกู้หว่านเยว่ได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ากู้หว่านเยว่ช่วงนี้ดูอาการป่วยให้หนานหยางอ๋องบ่อยๆ ย่อมไม่อาจบ่ายเบี่ยงความผิดได้กู้หว่านเยว่จับคาง นี่ไม่ได้อยู่ในหนังสือต้นฉบับ แต่ดูเหมือนว่านางจะทำให้ฟู่เยียนหรานขุ่นเคืองมากเสียจนเริ่มคิดจะฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียวเมื่อหนานหยางอ๋องถูกวางพิษสารหนู นางจะต้องกล่าวหากู้หว่านเยว่ว่าทำผิดร้ายแรง ไม่มีทางกลับมาได้อีกแต่กู้หว่านเยว่กลัวหรือ? ย่อมไม่ นางเองก็อยากจะรู้นัก ว่าใครกันแน่ที่จะไม่มีทางกลับมาได้อีก“เจ้าตรวจสอบบ่าวคนนั้นให้ละเอียด ดูว่าในห้องเขามีสิ่งที่ฟู่เยียนใช้ซื้อตัวเขาบ้างหรือเปล่า?”ในเมื่อฟู่เยียนหรานอยากเล่นละครฉากใหญ่ เช่นนั้นข้าก็จะเล่นเป็นเพื่อนนางเองฉู่เฟิงเหลือบมองซูจิ่งสิงแล้วพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ขอรับ”นายท่านเคยบอกว่า เห็นฮูหยินเหมือนเห็นเขา คำพูดของฮูหยินต้องเชื่อฟังฉู่เฟิงรีบไปตรวจสอบ เช้าวันนี้คลื่นลมสุขสงบ แต่ในวันรุ่งขึ้น ฟู่เยียนหรานกลับรีบเดินมาที่หอนอนรวมพร้อมกลุ่ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 219

    มู่หรงอวี้ก็อยู่ในห้อง แสร้งทำเป็นห่วงใยหนานหยางอ๋อง เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่เดินเข้ามา ดวงตาของเขาก็เย็นชาทันที“กู้หว่านเยว่ เจ้าช่างกล้านัก ในฐานะนักโทษ กลับกล้าวางยาหนานหยางอ๋อง”กู้หว่านเยว่ที่สวมหมวกใบใหญ่มองมู่หรงอวี้ด้วยแววตาขบขัน นางไร้ท่าทางอับอาย แต่หันไปพูดกับแม่ทัพหลี่ว่า“ข้าจะไปดูท่านอ๋องผู้เฒ่า”“อืม” แม่ทัพหลี่พยักหน้า เขายังคงเต็มใจที่จะเชื่อกู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว เวลานี้ หนานหยางอ๋องกำลังนอนอยู่บนเตียง สองตาปิดสนิท ใบหน้าซีดเซียวดูคล้ายถูกพิษจริงๆแต่กู้หว่านเยว่รู้ดีว่าหนานหยางอ๋องหมดสติไปชั่วคราวเท่านั้นสารหนูถูกสับเปลี่ยนแล้ว ฉีดยาสักเข็ม ประเดี๋ยวหนานหยางอ๋องก็ตื่นขึ้นมาได้แล้วมู่หรงอวี้ปรี่เข้ามาขวางหน้านาง“แม่ทัพหลี่ กู้หว่านเยว่คนนี้เป็นคนวางยาพิษ ไม่อาจให้จับชีพจรของท่านอ๋องผู้เฒ่าได้แล้วขอรับ”“ใช่แล้ว” ฟู่เยียนหรานรีบมายืนข้างมู่หรงอวี้ รับคำมู่หรงอวี้มา “ท่านอ๋องพูดถูก ท่านพ่อถูกกู้หว่านเยว่ทำร้ายถึงขั้นนี้ ข้าจะไม่ยอมให้กู้หว่านเยว่ลงมือกับท่านพ่อได้อีกแล้ว”มู่หรงอวี้ยิ้มและพูดว่า “ข้ารู้จักกับปรมาจารย์แพทย์ ไม่สู้ให้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 220

    ทันทีที่เสี่ยวเหอเข้ามา เขาก็มองไปที่ฟู่เยียนหรานด้วยความกลัว ปรี่ไปกอดต้นขาของแม่ทัพหลี่ทันที“ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพช่วยข้าด้วยขอรับ มีคนจะฆ่าข้า!”“ตอนที่ข้าไปถึง ก็มีคนรัดคอเสี่ยวเหอเอาไว้บนขื่อ โชคดีที่เขามีบุญมาก เชือกเลยขาดเสียก่อน ไม่ถูกรัดคอตาย” หวังปี้พูดพร้อมกับขมวดคิ้วเรื่องนี้ชักจะเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆถ้าจะบอกว่าไม่มีเงื่อนงำ ตีให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” แม่ทัพหลี่เองก็เป็นคนช่างสังเหต ไม่ถูกต้อง คุณหนูใหญ่จะตื่นตระหนกเช่นนั้นทำไม?“คุณหนูใหญ่นาง นางต้องการจะฆ่าข้าปิดปาก!” เสี่ยวเหอชี้ไปที่ฟู่เยียนหรานอย่างรวดเร็วเมื่อครู่ที่อยู่ในห้อง เขานับเงินที่ฟู่เยียนหรานให้มาอย่างมีความสุขหนานหยางอ๋องดีต่อเขาไม่น้อย เขาเองก็รู้สึกผิด แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรตอนที่เขากำลังจะหนี ด้านนอกก็มีชายชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วรัดคอของเขาเอาไว้แน่นถ้าไม่ใช่เพราะเชือกขาด หัวกับร่างเขาคงแยกออกจากกันแล้ว“เจ้ากำลังพูดบ้าอะไรอยู่? หุบปากสุนัขของเจ้าไปเสีย ห้ามพูดแล้ว!” ฟู่เยียนหรานคิดจะเดินไปปิดปากเขา“คุณหนูใหญ่ฟู่ ท่านตื่นตระหนกขนาดนั้นทำไมกัน? หรือว่าท่านคิดจะฆ่าคนป

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1400

    “ดูเจ้าสิ พูดเรื่องนี้กับหว่านเยว่เพื่ออะไร?”หลินรู่ไห่ดึงนางเก๋อไว้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเช่นกัน แต่เขารู้ว่าการบอกเรื่องนี้กับกู้หว่านเยว่นั้นไม่มีประโยชน์เมืองเหยาอยู่ไกลจากที่นี่ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับฮ่องเต้ จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาคนที่เมืองเหยา?พวกเขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่ต้องลำบากใจ“ท่านน้า ต้องขอบคุณน้าสะใภ้ที่บอกข้า เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่พูดทันทีที่เข้ามา?”กู้หว่านเยว่ยังจำหลินเพียวเพียวได้ สาวน้อยที่สงบเสงี่ยมมาก เวลาพูดขึ้นมาก็ดูคงแก่เรียนเมื่อคนสกุลหลินไปที่โรงเตี๊ยมเตียงนอนรวมเพื่อส่งเงินให้นาง หลินเพียวเพียวก็มาด้วย แล้วยังปลอบประโลมนางอย่างนุ่มนวล“หว่านเยว่ พวกเราไม่อยากให้เจ้าเป็นกังวล”ประเด็นคือพวกเขาไม่เคยคิดว่ากู้หว่านเยว่จะสามารถช่วยหลินเพียวเพียวกลับมาได้และพวกเขาก็เป็นห่วงว่าซูจิ่งสิงจะรู้สึกว่าสกุลหลินของพวกเขาเป็นปัญหา ถึงตอนนั้นจะทำให้กู้หว่านเยว่เดือดร้อนไปด้วยกู้หว่านเยว่จำพวกเขาได้ จึงขอให้ซูจิ่งสิงส่งคนไปรับพวกเขาที่ฉูโจว พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว จะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อย่างไร?“พวกท่าน”กู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1399

    “ท่านยาย พวกท่านปลอดภัยดีตลอดเส้นทางไหม?”กู้หว่านเยว่สอบถามพวกเขา แม้ว่าซูจิ่งสิงจะส่งคนไปรับพวกเขาเองก็ตามแต่เวลานี้ทั่วแคว้น ความอดอยากแห้งแล้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โจรร่อนเร่ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกแห่งการเดินทางมาของสกุลหลินครั้งนี้ ก็คงไม่สงบสุขนัก“ระหว่างทาง ได้พบกับโจรสลัด”เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลินพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ“โจรสลัดเหล่านั้นฆ่าทุกคนที่พบเจอ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก น่ากลัวจริง ๆ”สกุลหลินเป็นพลเมืองดีที่ทำการค้า การเข่นฆ่าใด ๆ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนตกใจกลัวจนเหลือทน ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่“ท่านยาย พวกท่านลำบากแย่เลย”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโจรเร่ร่อนข้างนอกนั้นเหิมเกริมเช่นนี้“ไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”นายท่านผู้เฒ่าหลินลูบเครา พลางโบกมือ“โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มที่ท่านอ๋องส่งไปฉลาดเฉลียว รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พาพวกเราหนีไปทางเรือเล็กแต่น่าเสียดายนายท่านผู้เฒ่าหลินเผยแววตาทนไม่ได้ บนเรือใหญ่ยังมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก“พวกเราหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นเรือทั้งลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1398

    “ข้าไม่เป็นอะไร”ลั่วยางชักมือออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?เหล่าทหารทุกคนกำลังเฝ้าดู ตอนนี้ทั้งกองทัพรู้แล้วว่าเขาชอบนางนางไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เกาเจี้ยนถอนหายใจ มองไปทางซูจิ่งสิง ขณะที่กำลังจะโต้แย้งก็เห็นคนที่เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ คว้ามือของกู้หว่านเยว่ไว้โดยไม่ละอาย น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะคั้นเป็นน้ำออกมาได้“น้องหญิงเหนื่อยหรือยัง หิวหรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”เกาเจี้ยนเบิกตากว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้มีความรู้มากกว่าเขาเสียอีก!“ท่านมาที่นี่ทำไม?”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ซูจิ่งสิงแม้ว่าวันนี้จะไม่ร้อนมาก แต่ซูจิ่งสิงก็สวมชุดกราะตลอดเมื่ออยู่ในกองทัพ ถูกแดดตอนเที่ยงวันสาดส่อง จนเหงื่อแตกพลั่ก“เห็นเจ้าไม่กลับมาเสียที ก็เลยเป็นห่วงเจ้า”ซูจิ่งสิงมองเข้าไปในกระโจม กู้หว่านเยว่ก็อธิบายสถานการณ์ของกงซุนฉิงอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะพาคนกลับไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงสกุลกงซุน สั่งให้คนแพร่ข่าวออกไปหลี่กวงถิงถูกจับแล้ว กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ก็ไล่ล่าโจมต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1397

    ลั่วยางก็ไม่ได้โกรธเช่นกันทักษะทางการแพทย์ของกู้หว่านเยว่นั้นเหนือกว่านางอยู่แล้ว ลู่จิงจะทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย ไปเชิญกู้หว่านเยว่มาอีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ“พี่หว่านเยว่”ลั่วยางมีอายุมากกว่ากู้หว่านเยว่ แต่ในด้านทักษะทางการแพทย์ ถือได้ว่ากู้หว่านเยว่อาวุโสกว่านางประโยค “พี่หว่านเยว่” ของลั่วยาง ก็ไม่ได้เรียกผิด“คุณหนูกงซุนไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยจนล้มไปเท่านั้น”ร่างกายของนางเคยถูกทรมานมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่กงซุนฉิงมีทักษะการต่อสู้ จึงปกติเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ก็ไม่อาจทนต่อความยุ่งวุ่นวายในระดับสูงได้“ข้าฝังเข็มให้นางหนึ่งเล่ม แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา”ลั่วยางอธิบาย“แต่ว่า นางนอนหลับ กลับช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเสียด้วยซ้ำไป”“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางหลับต่ออีกนิดเถอะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พลางจับชีพจรของกงซุนฉิงครู่หนึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ลั่วยางพูด“ส่วนทางทหารกล้าตายแนวหน้า”กู้หว่านเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่กงซุนฉิงเหนื่อยจนล้มไป ก็เพราะว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานักรบหมาป่าได้ให้ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status