แชร์

บทที่ 173

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
แพ้แล้ว?

แล้วได้อย่างไรกัน?

ลั่วยางกระชากผ้าปิดตาออกอย่างแรง จนกระทั่งเห็นสมุนไพรที่อยู่ในมือของกู้หว่านเยว่ นางจึงรู้ว่าตัวเองโง่เขลามาก โง่จนน่าสมเพช

“บัวหิมะเทียนซาน...”

บัวหิมะและบัวหิมะเทียนซานต่างกันเพียงสองคำ แต่สรรพคุณกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว

ลั่วยางจ้องมองกู้หว่านเยว่ ไม่สนใจเรื่องแพ้ชนะแต่กลับเอ่ยถามขึ้นว่า

“อาจารย์ของเจ้าเป็นใครกันแน่?”

แม้แต่ปรมาจารย์แพทย์ก็ยังไม่มีบัวหิมะเทียนซาน หรือว่าอาจารย์ของกู้หว่านเยว่จะเก่งกว่าปรมาจารย์แพทย์เสียอีก?

กู้หว่านเยว่เก็บบัวหิมะเทียนซานกลับ จากนั้นเอ่ยขึ้นเบา ๆ

“ข้ามีหน้าที่แค่ชนะเจ้า ส่วนคำถามอื่น ๆ เจ้าค่อย ๆ คิดเอาเองก็แล้วกัน”

พูดจบก็หันไปมองเหยาฮุ่ยซิน “คุณหนูเหยา ข้าชนะแล้ว นำเมล็ดโพธิ์ให้ข้าได้หรือไม่?”

“ได้แน่นอน!”

เหยาฮุ่ยซินเผยรอยยิ้มยินดี ดูเหมือนจะดีใจยิ่งกว่าตัวเองชนะเสียอีก

“ท่านตามข้ามาเร็ว”

“เดี๋ยวก่อน” ลั่วยางจะยอมให้นางไปได้อย่างไรกัน วิ่งเข้าไปถามคำถามอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าจะไปไม่ได้ ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นใคร!”

ลั่วยางนี่ดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว ก็พูดกันแล้วว่าแพ้ก็ต้องยอมรับ แต่ตอนนี้นางกลับยอมรั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Chanin Inta
สนุปมากๆ ชอบมากค่ะ แนวการเขียนล้ำสมัยทำให้สนุก น่าติดตาม เสียดายเงินไม่พอ
goodnovel comment avatar
Navaporn Chaksri
สนุกมากๆอ่านทุกตอนเลยค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 174

    เห็นได้ชัดว่าเขาเอ็นดูน้องสาวคนนี้มาก แทบจะยกย่องกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงให้เป็นแขกผู้มีเกียรติแล้วกู้หว่านเยว่รีบปฏิเสธ “มีเมล็ดโพธิ์ก็เพียงพอแล้ว”“ฮูหยินซู พรุ่งนี้ก็เป็นวันแต่งงานของข้าแล้วถ้าท่านไม่ได้รีบร้อนนัก ก็อยู่ดื่มสุรามงคลในงานแต่งงานของข้าสักหน่อยเถอะ”เหยาฮุ่ยซินเชิญด้วยความจริงใจ หากมิใช่เพราะกู้หว่านเยว่ ชีวิตที่เหลือของนางคงต้องเน่าอยู่ในค่ายโจรทะเลทราย ไม่มีทางได้อยู่กับคนที่รักเป็นแน่กู้หว่านเยว่ลองคำนวณวันดูแล้ว ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ก่อนที่จะกลับไป จึงพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น“ได้ เช่นนั้นข้าขอตอบรับแล้ว”หลังจากได้เมล็ดโพธิ์แล้ว กู้หว่านเยว่ก็รีบร้อนที่จะนำมันไปปรุงยา จึงลุกขึ้นขอตัวลาเพื่อกลับโรงเตี๊ยมซูจิ่งสิงรู้จักกาลเทศะจึงถอยออกไป จากนั้นยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูเพื่อคุ้มกันขณะที่นางปรุงยาจริง ๆ แล้วการปรุงยาก็ไม่ได้มีอะไรที่ต้องปิดบัง เพียงแต่เมล็ดโพธิ์นั้นหายากมาก กู้หว่านเยว่ไม่อยากต้องไปขอร้องคนอื่นอีกในครั้งต่อไป ดังนั้นในขณะที่ปรุงยา นางจึงแอบเอาเมล็ดไปปลูกในพื้นที่เพาะปลูกในมิติ“เมล็ดโพธิ์นี้จะไม่เน่าใช่หรือไม่?” กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดขณะมองไปยั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 175

    “ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนได้ถอนพิษให้ท่านแล้ว หรือว่า กู้หว่านเยว่วางยาพิษใหม่ใส่ท่านอีก?”“อะไรนะ?”มู่หรงอวี้นึกถึงวิชาแพทย์ของกู้หว่านเยว่ ทันใดนั้นก็รู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว รีบจับมือของลั่วยาง“นางวางยาพิษข้า แล้วข้าจะเป็นอะไรหรือไม่ ลั่วยาง เจ้าต้องช่วยข้านะ!”รักตัวกลัวตาย ไหนเลยจะมีความอวดดีอย่างเมื่อครู่อีกลั่วยางขยับถอยหลังเล็กน้อย เอ่ยอย่างไม่ค่อยสบายใจ“ท่านอ๋องไม่ต้องกังวล นี่ไม่ใช่ยาพิษร้ายแรงที่ทำให้ถึงตาย ข้าจะไปปรุงยาแก้พิษให้ท่านเดี๋ยวนี้”มู่หรงอวี้เห็นสีหน้าของนาง จึงจงใจเอื้อมมือไปลูบท้องของนาง“ข้าถีบจนเจ็บหรือไม่?”ลั่วยางตัวสั่นเล็กน้อย แล้วก้มศีรษะลง “ไม่เจ็บเจ้าค่ะ”“โธ่ ต้องเจ็บแน่ ๆ ”มู่หรงอวี้ถอนหายใจ จากนั้นแสร้งทำเป็นรักใคร่อย่างเต็มเปี่ยม“ลั่วยาง เรื่องเมื่อครู่เจ้าอย่าโทษข้าเลยข้าก็ทำไปเพราะรักและคาดหวังในตัวเจ้ามาก จึงโมโหข้าขอโทษเจ้าดีหรือไม่? ข้าผิดไปแล้ว”เดิมทีลั่วยางรู้สึกเสียใจที่เขาถีบตัวเอง แต่พริบตาเดียวก็กลับมาซาบซึ้งจนรู้สึกมึนงง“ข้าไม่โทษท่านอ๋อง ท่านอ๋องวางใจเถอะ ข้าจะปรุงยาแก้พิษออกมาให้ได้!”“ดี เช่นนั้นเจ้ารีบไปปรุงยาแ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 176

    กู้หว่านเยว่คิดในใจว่าเรื่องที่เหยาฮุ่ยซินถูกโจรทะเลทรายลักพาตัวไปนั้น เป็นไปไม่ได้ที่ท่านเจ้ากรมจะไม่รู้เรื่องการที่คิดหาข้ออ้างที่แนบเนียนเช่นนี้ เพื่อปกป้องชื่อเสียงของเหยาฮุ่ยซิน อีกทั้งยังจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อสะสมบุญกุศลให้เหยาฮุ่ยซินอีก ถือว่าเป็นความรักและความผูกพันที่ลึกซึ้งจริง ๆ“ไปกันเถอะ เราไปลงชื่อที่หน้าประตูกัน”เมื่อได้กลิ่นอาหาร กู้หว่านเยว่ก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริง ๆเมื่อทั้งสองไปถึงหน้าประตู คนเฝ้าประตูได้ยินชื่อของพวกเขาก็รีบกล่าวขึ้นว่า“ทั้งสองท่านเชิญตามข้าไปที่โต๊ะที่นั่งด้านใน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เดาว่าเหยาฮุ่ยซินคงบอกกับคนเฝ้าประตูไว้แล้ว จึงตามเขาเข้าไปด้านในคนในจวนเยอะกว่าข้างนอกเสียอีก อักษรสีแดงสดที่สื่อถึงความมงคลถูกประดับประดาเต็มสวน เสียงหัวเราะและความสุขดังไปทั่วกู้หว่านเยว่มองไปรอบ ๆ เห็นแต่คนแปลกหน้า ก็ไม่ได้สนใจที่จะทำความรู้จักใคร จึงเลือกที่จะหาที่นั่งเพื่อดื่มกินและชมพิธีแต่งงานของคนสมัยโบราณซูจิ่งสิงเห็นนางมองอย่างใจจดใจจ่อ จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “อิจฉาหรือ?”“ก็นิดหน่อย ข้ายังไม่เคยแต่งงานเลย” กู้หว่านเยว่ตอบอย่าง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 177

    กล่าวกันว่ายอดคนลิโป้ ยอดม้าเซ็กเธาว์นี่เป็นครั้งแรกที่กู้หว่านเยว่ได้เห็นม้าที่สง่างามและน่าเกรงขามเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง“ม้าตัวนี้คงมีราคาแพงมากสินะ”ท่านเจ้ากรมยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ฮูหยินซูเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฮุ่ยซิน ก็เท่ากับเป็นผู้มีพระคุณของข้า แค่ม้าเซ็กเธาว์สองตัวนี้ ฮูหยินโปรดรับไว้เถอะ”กู้หว่านเยว่รีบร้อนที่จะเดินทาง จึงไม่เกรงใจอีกต่อไปและกล่าวอย่างตรงไปตรงมา“เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านเจ้ากรมแล้ว”พูดจบ นางก็กระโดดขึ้นม้าอย่างคล่องแคล่วเหยาฮุ่ยซินรีบวิ่งตามไปสองก้าว “ฮูหยินซู เมื่อท่านตั้งรกรากแล้ว อย่าลืมเขียนจดหมายมาหาข้านะ วันหลังข้าจะไปหาท่าน”“ได้”กู้หว่านเยว่หันกลับไปมองคู่สามีภรรยาด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง จากนั้นก็ควบม้าออกไปกับซูจิ่งสิง“ข้าไม่อยากจากฮูหยินซูเลย” เหยาฮุ่ยซินซบลงบนอกของท่านเจ้ากรม แล้วเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำ “ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือไม่”“จะมีแน่ ต้องมีแน่นอน ถ้าพวกเขาไม่กลับมา ข้าก็จะพาเจ้าไปหาพวกเขาที่เจดีย์หนิงกู่ ดีหรือไม่?”“จริงหรือ?”“ข้าเคยหลอกเจ้าเมื่อไหร่กัน”ท่านเจ้ากรมบีบจมูกของเหยาฮุ่ยซินเบา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 178

    องครักษ์เงากระอักเลือดออกมา จากนั้นแสยะยิ้ม“อยากจะง้างปากข้า ไม่มีทาง!”ดวงตาของซูจิ่งสิงฉายแววเยือกเย็น แม้แต่กู้หว่านเยว่ก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ทันใดนั้นก็ตะโกนเสียงดัง“อะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ มู่หรงอวี้สั่งให้เจ้ามาฆ่าพวกเรางั้นหรือ?”“เจ้าพูดจาเหลวไหล ข้าไม่ได้พูด!” องครักษ์เงารู้สึกมึนงง เหตุใดผู้หญิงคนนี้ถึงไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้!แต่แล้วกู้หว่านเยว่ก็พูดเสียงดังอีกว่า “สวรรค์ ที่แท้ก็เป็นมู่หรงอวี้จริงๆ พวกเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับเขา เหตุใดเขาถึงส่งพวกเจ้ามาตามฆ่าเรา?”องครักษ์เงาร้อนใจแล้ว “ข้าไม่ได้พูด!”กู้หว่านเยว่ตะโกนขึ้นอีกครั้ง จงใจหันไปพูดกับองครักษ์“อะไรนะ เจ้าบอกว่ามู่หรงอวี้ไม่อยากให้เรานำเมล็ดโพธิ์กลับไป ไม่อยากให้ช่วยชีวิตฮูหยินผู้เฒ่าโจว ถึงได้ส่งพวกเจ้ามาฆ่างั้นหรือ?”นางพูดเสียงดังเช่นนี้ แน่นอนว่าองครักษ์ล้วนได้ยินทุกคนต่างรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาทันที“ข้าก็ว่าเหตุใดถึงถูกตามไล่ฆ่า หวายหนานอ๋องผู้นี้ช่างชั่วร้ายจริงๆ!”“นั่นสิ ฮูหยินผู้เฒ่าของเราไปทำอะไรให้เขา เขาถึงได้อยากจะเอาชีวิตฮูหยินผู้เฒ่า!”“ไม่ได้ พอกลับไปต้องบอกเรื่องนี้กับโจวเหล่า..

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 179

    เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกลับมา ทุกคนก็รีบวิ่งเข้าไปหา“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว ได้ยินว่าพวกท่านไปหาซื้อยาที่จวนหลงฉวนแล้ว?”กู้หว่านเยว่เหลือบมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความเป็นห่วง นางเหนื่อยเกินไปจริง ๆ จึงหาวแล้วเดินเข้าไปในห้อง“ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร รอให้ข้านอนตื่นก่อนแล้วค่อยพูด ตอนนี้ข้าต้องการนอน”ขณะพูด กู้หว่านเยว่ก็เอื้อมไปปิดประตู ทิ้งให้คนอื่น ๆ มองหน้ากันซูจิ่นเอ๋อร์มองแผ่นหลังที่เย็นชาของกู้หว่านเยว่ก็แทบจะร้องไห้แล้ว“ทั้งหมดเป็นความผิดของปากเสีย ๆ ของข้า วันนั้นข้าต้องพูดจาเหลวไหลแน่ ๆ ทำให้พี่สะใภ้ต้องมาเดือดร้อน ข้ามันตัวปัญหาจริง ๆ !”นางได้ยินมาว่าฮูหยินผู้เฒ่าโจวคนนั้นป่วยหนักใกล้ตายแล้ว ไม่มีใครรักษาได้ ตอนนี้พี่สะใภ้กำลังถูกบีบบังคับอย่างหนักเชียวนะ!ซูจื่อชิงกลอกตามองนาง“ตอนนี้จะมานั่งเสียใจก็ไม่มีประโยชน์ ปากไม่เคยมีหูรูด ถ้าสำนึกผิดจริงก็ไปที่ห้องครัวแล้วต้มน้ำแกงบำรุงให้พี่สะใภ้สิ”พูดจบก็ก้มหน้าลง แล้วดึงซูจิ่นเอ๋อร์ไปที่ครัวเล็กด้วยกันกู้หว่านเยว่หลับไปนานถึงสามชั่วยามเต็ม ๆ เมื่อตื่นขึ้นมา เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 180

    ถึงแม้ซูจิ่งสิงจะไม่เข้าใจวิชาแพทย์ แต่เขาก็พยักหน้าอย่างจริงจัง“เช่นนั้นเริ่มกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ฆ่าเชื้อโรคที่มือทั้งสองข้าง จากนั้นตัดเสื้อคลุมของฮูหยินผู้เฒ่าโจวออก เหลือไว้เพียงเสื้อชั้นในบาง ๆ จากนั้นป้อนยาถอนพิษให้กับฮูหยินผู้เฒ่าโจว แล้วหยิบเข็มเงินออกมาช่วยนำทางพิษเมื่อนางเข้าสู่โหมดทำงาน ทั้งคนก็จะดูจริงจังและเคร่งขรึมมาก น้ำเสียงก็จะเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างและเย็นชาซูจิ่งสิงมองดูอยู่ข้าง ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจถ้าไม่ได้เห็นกับตา เขาคงไม่กล้าเชื่อว่ามือของกู้หว่านเยว่ที่กำลังฝังเข็มนั้นจะรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้ความประหลาดใจ ความชื่นชม อารมณ์ต่าง ๆ ผุดขึ้นในดวงตาของซูจิ่งสิงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว กู้หว่านเยว่ปักเข็มเงินลงบนจุดต่าง ๆ บนร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าโจวทีละเล่ม แล้วก็ดึงออกทีละเล่ม จนในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการนำพิษที่หลงเหลืออยู่ออกจากหัวใจ พร้อมกับใช้เมล็ดโพธิ์เพื่อปกป้องหัวใจของฮูหยินผู้เฒ่าโจวเหงื่อเย็นเริ่มผุดขึ้นบนหน้าผากของกู้หว่านเยว่แต่แล้ว ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นที่ด้านนอกป

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 181

    “ทหาร นำตัวซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่ไปขังเดี๋ยวนี้!”มู่หรงอวี้ตะโกนเสียงดังฉีกหน้าโดยไม่สนใจใคร“ช้าก่อน!”โจวเหล่ากลับเร่งฝีเท้าเปิดม่านเดินเข้ามา “แม่นางกู้เป็นผู้มีพระคุณของข้า หวายหนานอ๋องท่านจะทำอะไร?”“ผู้มีพระคุณ?”มู่หรงอวี้ทวีความโกรธ จ้องมองกู้หว่านเยว่อย่างไม่ลดละนางช่วยชีวิตของฮูหยินผู้เฒ่าโจวได้จริง ๆ หรือ?เดิมทีเรื่องนี้จะต้องเป็นคุณงามความดีของเขา แต่กลับถูกกู้หว่านเยว่แย่งไปต่อหน้าต่อตา!“ข้าไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นผู้มีพระคุณหรือไม่ แต่เมื่อครู่พวกเขาอวดดีกับข้า ทั้งยังตบหน้าข้า ข้าต้องลงโทษพวกเขา!”มู่หรงอวี้กล่าวพลางเผยรอยนิ้วมือที่ประทับอยู่บนแก้มด้านขวาเวลาก็ล่วงเลยมานานแล้ว รอยฝ่ามือนั้นไม่เพียงแต่จะไม่จางหาย แต่ดูเหมือนมันกลับตีตราอยู่บนหน้าของเขา และบวมเป่งคล้ายกับหมั่นโถวทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายมู่หรงอวี้ได้รับความอับอายเช่นนี้ก็ย่อมจะไม่สบอารมณ์โจวเหล่านึกถึงตอนที่มู่หรงอวี้พรวดถลันเข้าไปเมื่อครู่ เขารู้สึกว่าที่กู้หว่านเยว่ลงมือนั้นเบาเกินไป หากการรักษาถูกขัดจังหวะ ฮูหยินไม่ฟื้น ผลลัพธ์ที่ตามมาเขาแทบไม่อยากจะคิดเลย!“หวายหนานอ๋อง

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1391

    “หลี่กวงถิงต้องการควบคุมข่าวลือในกองทัพ แต่ก็ต้องดูว่านายทหารเหล่านั้นจะเชื่อเขาหรือไม่”ในกระโจมฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำมู่ตัน กู้หว่านเยว่กำลังแกว่งเอกสารราชการในมือเล่น ใบหน้าเผยแววเจ้าเล่ห์ออกมาซูจิ่งสิงถูปลายนิ้ว “เป็นอย่างที่เจ้าคาดไว้ไม่ผิด ทันทีที่หลี่กวงถิงได้ยินข่าวนี้ ก็เรียกประชุมทั้งกองทัพทันทีและบอกว่าข่าวนี้ เป็นเท็จ”“เขามีวิธี และเราก็มีวิธีเช่นกัน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเก็บไพ่ใบสำคัญนี้ไว้ตลอดโดยเปล่าประโยชน์ ย่อมไม่ยอมปล่อยให้หลี่กวงถิงปกปิดเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ“ถึงเวลาที่โจวเหล่าต้องออกหน้าแล้ว”นางเอ่ยเบา ๆหลี่กวงถิงเรียกประชุมทั้งกองทัพ พยายามปลอบขวัญทหารทว่าเขาเพิ่งพูดจบในตอนเช้า ตอนบ่ายก็มีข่าวส่งมาถึงบอกว่าโจวเหล่าออกหน้าด้วยตัวเอง เขียนเอกสารฉบับหนึ่งด้วยมือ“โจวเหล่าได้ยอมรับสถานะบุตรที่เป็นกำพร้าของอดีตรัชทายาทแล้ว”ใบหน้าของรองแม่ทัพอมทุกข์“โจวเหล่าเคยเป็นอาจารย์ของอดีตรัชทายาท เขายังเป็นนักปราชญ์แห่งยุคอีกด้วย มีลูกศิษย์ในมือนับไม่ถ้วน เขาเชี่ยวชาญในการชี้นำการพัฒนาคำวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนบัดนี้เขาพูดออกมาเช่นนี้ ยังมีใครที่ไม่เชื่ออีก?”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1390

    กู้หว่านเยว่ซื้อโล่และชุดเกราะมาอย่างละสองหมื่นชุดนอกจากธนูและหน้าไม้แล้ว กู้หว่านเยว่ยังซื้อลูกปืนใหญ่มาอีกชุดหนึ่งลูกปืนใหญ่เหล่านี้ถือเป็นของสำรอง จะไม่นำออกมาใช้อย่างเด็ดขาด เว้นแต่จะเป็นสถานการณ์พิเศษพลังทำลายล้างของลูกปืนใหญ่นั้นรุนแรงเกินไป หากไม่จำเป็น ก็อย่าเพิ่งนำออกมาใช้หลังจากเตรียมสิ่งของพร้อมแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ดูยอดเงินคงเหลือในบัตรอืม แทบจะไม่ขยับเลยการมีเงินใช้ไม่หมดนี่มันรู้สึกดีจริง ๆ !นอกจากสิ่งเหล่านี้ นางยังซื้อผงห้ามเลือดและยาจินชวงมาจำนวนมาก ล้วนมีประโยชน์สำหรับใช้พันแผลให้ทหารหลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ย้ายสิ่งของทั้งหมดนี้เข้าไปไว้ในคลังเก็บของในเมืองผิงโจวเมืองผิงโจวมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่ต้องกลัวว่าของข้างในจะสูญหายหลังจากนำของเข้าไปไว้ในคลังเก็บของแล้ว ค่อยให้ทหารขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดไปยังค่ายเวลาผ่านไปรวดเร็วสิบวันต่อมา กองทัพของฮ่องเต้เดินทางมาถึงแม่น้ำมู่ตันหลี่กวงถิงมองไปยังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำมู่ตัน ก็รู้สึกมึนงงมิน่าล่ะ ก่อนหน้านี้เจียงเต๋อจื้อนำกองทัพห้าหมื่นนายมา ผลปรากฏว่าพ่ายแพ้ย่อยยับ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1389

    นางสั่งให้คนสร้างคลังเก็บของขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำมู่ตันในเมืองผิงโจวเมื่อนานมาแล้ว แต่ก่อนเอาไว้ใช้เก็บเสบียงอาหารยังมีคลังเก็บของอีกหลายแห่งที่ยังใช้ไม่หมดกู้หว่านเยว่ตั้งใจจะใช้กักตุนอาวุธทั้งหมดสามวันต่อมา กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงนำกองทัพใหญ่มาถึงแม่น้ำมู่ตันกองทัพใหญ่ตั้งค่ายอยู่ริมแม่น้ำกางเต็นท์อย่างเป็นระเบียบ ตามแบบแปลนที่กู้หว่านเยว่มอบให้เต็นท์เล็ก ๆ ถูกกางขึ้นริมแม่น้ำควันไฟค่อย ๆ ลอยขึ้นไปเหล่าทหารไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่ละคนดูเหมือนมาพักผ่อนจะทำอย่างไรได้ ก็เบี้ยหวัดทหารเยอะมากเกินไป!คนอื่นเวลาเดินทัพก็กินแต่อาหารแห้ง ซาลาเปากับหมั่นโถว แต่พวกเขากินกับข้าวสามอย่าง พร้อมน้ำแกงหนึ่งอย่างทุกมื้อ แถมยังมีทั้งเนื้อและผักอีกต่างหาก!แบบนี้จะเรียกว่าออกรบได้อย่างไร?เหมือนกับเทศกาลตรุษจีนชัด ๆ !เมื่อเห็นเหล่าทหารมีขวัญกำลังใจ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็ดีใจ ทั้งสองคนปรึกษาแผนการในค่ายทหารซูจิ่งสิงไม่เป็นสองรองใครในเรื่องการรบอยู่แล้ว แต่เขาพบว่ากู้หว่านเยว่ก็มีพรสวรรค์ในด้านการทหารเช่นกันความคิดที่ผุดขึ้นมาเป็นครั้งคราว ทำให้เขา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1388

    “ไม่ต้อง ๆ ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้น ยาพิษของพวกนี้ ใช้ให้น้อยจะดีกว่า”แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็แค่แสร้งทำเท่านั้น เฟิ่งอู๋ชีไม่ได้กลัวพิษเลยสักนิด เพราะร่างกายเขามีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิด“ไปแล้วนะ”เขาโบกมือ แล้วหันหลังเดินจากไป“รักษาชีวิตของท่านเอาไว้”กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของเฟิ่งอู๋ชี แต่เป็นเพราะคนที่ร่างกายมีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิดนั้นหาได้ยากเผื่อในอนาคตทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน นางก็อาจจะได้ศึกษาดู“ไม่ต้องห่วง สิ่งที่แข็งที่สุดของข้าก็คือชีวิตนี่แหละ”เฟิ่งอู๋ชีนหลังเดินจากไป เดินไปได้สองก้าวก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่ใช่ ๆ จุดแข็งที่สุดของเขาไม่ใช่ชีวิตเสียหน่อย!“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ นี่เป็นถึงองค์ชายหนานเจียงเชียวนะ จะไม่ฉวยโอกาสจับเขาไว้หรือ จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้หรือ?”ซูจื่อชิงรีบเข้ามา เห็นเฟิ่งอู๋ชีกำลังเดินจากไปพอดี ใบหน้าของเขาเผยความเสียดายออกมาเล็กน้อยปล่อยศัตรูไปแบบนี้ ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรอกหรือ?จากมุมมองของเขา ก็ควรจะจับองค์ชายหนานเจียงไว้ เพื่อใช้ข่มขู่หนานเจียงสิ“ฆ่าองค์ชายหนานเจียงก็ไร้ประโยช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status