แชร์

บทที่ 1437

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
มู่หรงฉางเล่อหันหลังกลับไป แล้วเตะคนที่อยู่ด้านหลังออกมา

“โอ๊ย”

บุรุษผู้นั้นล้มลงกับพื้น ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“คุณหนูโปรดไว้ชีวิตด้วย คุณหนูปล่อยข้าไปเถิด”

กู้หว่านเยว่เห็นเขาถูกรังแกจนน่าสงสาร อีกทั้งยังเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“คนผู้นี้คือ?”

“พี่สะใภ้ เขาคือบุตรชายสุดที่รักของเฉิงทั่ว แม่ทัพผู้รักษาการเมืองซุ่ยโจว”

มู่หรงฉางเล่อแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ กู้หว่านเยว่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เด็กสาวคนนี้จะเก่งกาจขนาดนี้ ถึงกับจับบุตรชายของเฉิงทั่วมาได้

“จริงหรือ?”

“แน่นอนว่าจริง” มู่หรงฉางเล่อถูจมูก “พี่สะใภ้ ท่านอย่าได้ดูถูกข้า ข้ารู้จักเขา เขาชื่อเฉิงซิน”

“เขาเป็นบุตรชายของเฉิงทั่วหรือ เหตุใดดูแล้ว ไม่เหมือนบุตรชายของแม่ทัพเลยสักนิด”

ขี้ขลาดตาขาวเช่นนี้ กลับเหมือนพวกไร้ประโยชน์เสียมากกว่า

“นี่มีสาเหตุ ท่านฟังข้าอธิบาย”

มู่หรงฉางเล่อเอียงศีรษะอธิบาย

ที่แท้เฉิงซินผู้นี้เป็นบุตรชายสุดที่รักของเฉิงทั่ว ท่านแม่ทัพเฉิงมีบุตรชายเพียงคนเดียว

หวังจะให้เขาสืบสกุล จึงทะนุถนอมราวกับแก้วตาดวงใจ

เมื่อเขาร้องว่าลำบาก ก็ไม่ให้เขาไปฝึกฝนในค่ายทหาร

เมื่อเขาร้องว่าเหนื่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1438

    บังเอิญว่าช่วงนี้เฉิงทั่วยุ่งอยู่กับการเตรียมบุกโจมตีเมืองเหยา จึงไม่มีเวลามาสนใจเฉิงซินเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่า บุตรชายแอบหนีออกไปนานแล้วเฉิงทั่วยึดหลักการที่ว่ายิ่งเร็วก็ยิ่งดี จึงนำทหารไปโจมตีเมืองเหยาอย่างรวดเร็วเดิมทีเขาคิดว่า เมืองเหยาในตอนนี้น่าจะเหลือเพียงกลุ่มทหารชรา อ่อนแอ และทหารที่บาดเจ็บเขาไม่ต้องเปลืองแรง ก็สามารถยึดเมืองเหยาได้อย่างง่ายดายทว่าเมื่อบุกโจมตี เฉิงทั่วก็ตกตะลึงสิ่งที่ยิงลงมาจากบนกำแพงเมืองกลับไม่ใช่ธนู แต่เป็นปืนใหญ่ปืนใหญ่มีอานุภาพรุนแรง รัศมีทำลายล้างกว้างถึงสามสิบเมตรเมื่อปืนใหญ่หนึ่งลูกตกลงพื้น ทหารหลายสิบนายก็ถูกระเบิดกระเด็นขึ้นฟ้ายังไม่หมดแค่นี้เมืองเหยานี้ดูเหมือนจะรู้กระบวนทัพของพวกเขาล่วงหน้าแล้ว กดดันพวกเขาอย่างหนักหน่วง ตั้งแต่ข้างหน้าไปจนถึงข้างหลัง ไม่เหลือช่องว่างให้ตอบโต้แม้แต่น้อยแทบจะเป็นการบดขยี้ฝ่ายเดียวจริง ๆ “ถอยทัพ รีบถอยทัพ”เฉิงทั่วรู้ดีว่าการรบครั้งนี้ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงรีบสั่งให้คนวิ่งหนีทว่ากู้หว่านเยว่เตรียมการไว้พร้อมแล้ว จะปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้อย่างไร?นางสั่งให้คนขุดคูยาวตามเส้นทางหลบหนีของ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1439

    เฉิงทั่วมองไปยังลูกธนูที่อยู่บนไหล่“กำลังรบของเมืองเหยาไม่อาจดูแคลนได้”เขากัดฟัน ดึงลูกธนูที่อยู่บนไหล่ออกมา ถือไว้ในมือแล้วพิจารณา“ลูกธนูนี้ ไม่เหมือนกับของในกองทัพเรา”ระยะยิง กลับไกลกว่าของคนทูเจวี๋ยเสียอีก“รีบห้ามเลือดให้ท่านแม่ทัพเร็วเข้า”รองแม่ทัพหันกลับไปหาหมอทหาร แต่กลับพบว่าหมอทหารถูกจับเป็นเชลยแล้ว พี่น้องที่หลบหนีออกมาได้เหลืออยู่ไม่มากเขาจึงทำได้เพียงลงมือด้วยตนเอง ทำแผลให้กับเฉิงทั่ว“เราสู้พวกเขาไม่ได้ ยอมจำนนเถอะ”เฉิงทั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาเป็นแม่ทัพเก่า ย่อมรู้ดีว่า เวลานี้หากต่อต้านไป ก็เป็นเพียงการดิ้นรนก่อนตายเท่านั้นยอมจำนนไม่ได้น่าอับอายพาชาวเมืองซุ่ยโจวไปสู่ความตาย นั่นถึงจะเรียกว่าน่าอับอาย“ท่านแม่ทัพ เราจะยอมจำนนจริง ๆ หรือ?”“จริง!”เฉิงทั่วพยักหน้าอย่างแรงสามวันต่อมา หนังสือยอมจำนนถูกส่งมาถึงกู้หว่านเยว่ผู้ที่มาส่งหนังสือยอมจำนนเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง สวมชุดเกราะ ท่าทางองอาจผึ่งผายอย่างยิ่ง“เจ้าคือเฉิงเหลียน?”กู้หว่านเยว่พลิกหนังสือยอมจำนนที่อยู่ในมือเฉิงทั่วมีลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายเฉิงซินยังอยู่ในมือของนาง“

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1440

    กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟังทั้งสองคนไม่ได้พบกันนาน เมื่อพูดคุยกันจบ ก็อดใจไม่ไหวอีกต่อไป โอบกอดกันและกันซูจิ่งสิงประคองใบหน้าของกู้หว่านเยว่ขึ้นมาจุมพิตความรู้สึกที่แปลกใหม่แต่ก็คุ้นเคยนั้น ทำให้นางตัวสั่นเล็กน้อยนางไม่อาจปฏิเสธได้ โอบเอวของบุรุษตอบจุมพิตอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น“น้องหญิง คิดถึงเจ้าเหลือเกิน”เขาจุมพิตที่ริมฝีปากของนาง พัวพันอยู่ที่ข้างหูของนาง ทำให้นางรู้สึกอ่อนระทวยไปทั้งตัวทั้งสองคนโอบกอดกันและกัน และค่อย ๆ เกิดความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม“เราออกไปกันให้หมดเถอะ”ชิงเหลียนยิ้มอย่างรู้ใจ ดึงหงเจาปิดประตูเรือนแล้วเดินออกไปบังเอิญพบกับฉู่เฟิงที่เดินมาพอดี“ชิงเหลียนไม่เจอกันนานเลยนะ ช่วงนี้เจ้าดูผิวคล้ำขึ้นแล้ว”ทันทีที่เปิดปากพูด ก็ทำให้ชิงเหลียนลงมือทุบตี“ปากสุนัขพูดจาดี ๆ ไม่ได้ ไม่รู้จักทักทายก็ไม่ต้องทัก”“โอ๊ย เจ็บ ๆ อย่าตี”ฉู่เฟิงกุมศีรษะร้องขอความเมตตา“แม่นาง ข้ามีธุระจะเข้าไปหาท่านอ๋อง โปรดปล่อยข้าไปเถิด”ชิงเหลียนหยุดมือ แค่นเสียงหัวเราะ“ตอนนี้ท่านอ๋องกับพระชายากำลังยุ่งอยู่ แนะนำให้เจ้ารออีกครึ่งชั่วยามค่อยเข้าไป”“ยุ่งอยู่หรือ?”อ้อ แม้ว่าฉู่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1

    ร่างกายร้อนผ่าวอยู่บ้างกู้หว่านเยว่ลืมตาขึ้นมา พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงแกะสลักขนาดใหญ่ มีกลิ่นอายโบราณหลังหนึ่ง ข้างเตียงมีชายสวมชุดแต่งงานนั่งอยู่หนึ่งคนนี่คงฝันไปใช่ไหม แต่เหตุใดเหมือนจริงถึงเพียงนี้?นางเบือนหน้ามองฝ่ายชายฝ่ายชายผิวพรรณขาวดุจหยก ใบหน้าหล่อเหลางดงาม มองแวบเดียวก็ทำให้คนจมดิ่งสู่ภวังค์อย่างยากจะหักห้ามใจ เพียงแต่สีหน้าของเขาเย็นชาเกินไป สุ้มเสียงเองก็ไร้อารมณ์เสียนี่กระไร“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากแต่งกับข้า พระบรมราชโองการยากจะฝ่าฝืน หากเจ้าไม่ยินยอม...”“ข้ายินยอม ข้ายินยอม!”ชายหนุ่มรูปงามหาใครเทียบได้เช่นนี้ นางครองโสดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยได้พบพานมาก่อน ไฉนเลยจะไม่ยินยอมกันเล่า!กู้หว่านเยว่พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจสีหน้าตกตะลึงของฝ่ายชาย ยื่นมือออกไปเกี่ยวเข็มขัดโผเข้าหาอ้อมอกของเขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง อ้า หอมยิ่งนัก กลิ่นหอมเย็นของชายหนุ่มรูปงามเห็นได้ชัดว่านี่คือครั้งแรกของฝ่ายชาย ทีแรกยังคิดปฏิเสธ แต่กลับไม่อาจต้านทานเสียงที่ดังออดอ้อนออเซาะขึ้นมาของนางได้ สติค่อยๆ เลือนรางไป ทว่า ครู่เดียวก็ทำเอากู้หว่านเยว่วิญญาณหลุดลอยทั้งสองเกี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2

    “ฝ่าบาทมีรับสั่ง เจิ้นเป่ยอ๋องซูจิ่งสิงคิดก่อกบฏ หลักฐานชัดเจน!”“นับแต่นี้ไปปลดออกจากตำแหน่ง เป็นสามัญชน ยึดทรัพย์เนรเทศไปยังหนิงกู่ถ่า ผู้ใดกล้าฝ่าฝืน ฆ่าได้ไม่ละเว้น!”ฮูหยินผู้เฒ่าทุบอกกระทืบเท้า “สกุลซูของข้าซื่อสัตย์ภักดี ไฉนเลยจะก่อกบฏได้?”หัวหน้าหน่วยยึดทรัพย์เจียงเต๋อจื้อสบถเสียงเย็น “ฝ่าบาทมีพระกระแสรับสั่งออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง เจ้ากำลังกล่าวหาว่าฝ่าบาท ทรงวินิจฉัยผิดพลาดงั้นหรือ?”ทุกคนไม่กล้าโวยวายอีก กอดกันร่ำไห้โอดครวญทหารหลวงหลั่งไหลเข้ามา ถีบเปิดประตูเรือน ทุบทำลายข้าวของทั่วทุกสารทิศคล้ายโจรก็มิปาน ไม่ว่าที่ผ่านมาเจ้ามีตำแหน่งสูงส่งเยี่ยงไร หากถูกลงโทษยึดทรัพย์ นั่นก็คือคนต่ำต้อยมองภาพวุ่นวายภายในจวนอ๋อง ฮูหยินผู้เฒ่าคิดห้าม แต่กลับถูกเจียงเต๋อจื้อผลักล้มลงกับพื้น กระดูกของหญิงชราเกือบหักถัดมา เจียงเต๋อจื้อหรี่ตามองทางญาติฝ่ายหญิงของจวนอ๋อง“เพื่อป้องกันมิให้พวกเจ้านำทรัพย์สินส่วนตัวออกไป ญาติฝ่ายหญิงทั้งหมดต้องเปลื้องผ้าตั้งแต่ใต้สะดือลงมาเพื่อตรวจสอบหนึ่งรอบ!”“ไม่ได้!”สีหน้าเหล่าญาติฝ่ายหญิงทั้งโกรธทั้งอายฮูหยินผู้เฒ่าก่นด่าออกมา “เจียงเต๋อจื

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 3

    “กบฏ ไม่ตายดี!”“สมรู้ร่วมคิดกับทูเจวี๋ย คลอดลูกชายไม่สมประกอบ!”ซูจิ่งสิงนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนกระดานเกวียน รับก้อนหิน มูลแพะและผักเน่าที่โยนเข้ามาทุกทิศทาง...ยามรบชนะกลับมา เขาคือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ปกป้องแคว้น ราษฎรล้วนโห่ร้องแสดงความยินดีบัดนี้เขาถูกใส่ร้ายข้อหากบฏ ไม่เพียงไม่มีคนขอความเป็นธรรมแทนเขา ทุกคนยังร้องตะโกนใส่ กลายเป็นคนบาปที่ทุกคนตราหน้าหันมองไปที่คนอื่น ๆ ของสกุลซู แต่ละคนเกือบซุกหน้าลงบนบ่าแล้วฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง “เวรกรรม สกุลซูของข้าตกต่ำถึงขั้นนี้เชียวหรือ...”นายท่านบ้านรองซูหัวหลินอดตำหนิไม่ได้ “ล้วนต้องตำหนิจิ่งสิง อยู่ดีๆ ก็คิดไม่ตก ไปสมรู้ร่วมคิดกับกบฏขายบ้านเมือง ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ทั้งครอบครัวล้วนต้องเดือนร้อนเพราะเขา ข้าเป็นคนรักศักดิ์ศรีที่สุด ถูกราษฎรกลุ่มนี้สบถด่า หน้าก็ไม่กล้าเงยขึ้นมาแล้ว ภายภาคหน้าจะใช้ชีวิตเยี่ยงไร!”นับตั้งแต่ยึดทรัพย์จนถึงตอนนี้ เริ่มแรกทุกคนยังงุนงง จนถึงตอนนี้แต่ละคนก็เกิดความคิดขึ้นมาแล้ว มีทั้งคนเชื่อว่าซูจิ่งสิงมิได้ก่อกบฏ และมีคนที่ไม่เชื่อ นายท่านรองเป็นคนแรกที่มิอาจอดกลั้นบ้านอื่นสบตากันแวบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 4

    เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นภายในสมอง ทำให้กู้หว่านเยว่ตกใจแทบแย่“เจ้าเป็นใคร?”“สวัสดีเจ้านาย ข้าเป็นผู้ดูแลระบบมิติ รับผิดชอบตอบปัญหาที่ท่านสงสัยโดยเฉพาะ”มิติคือพลังวิเศษที่นางมีตั้งแต่ชาติก่อน ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ดูแลระบบอันใด“ก่อนนี้เจ้านายอยู่ในขั้นเริ่มต้น จึงไม่ได้เปิดใช้งานฟังก์ชันของระบบ แต่อิงตามการกักตุนสินค้าเต็มพื้นที่ของท่านในวันนี้ มิติได้เปิดใช้งานผู้ดูแลระบบและอาคารทางการแพทย์ให้ท่านแล้ว”กู้หว่านเยว่หลับตาลง เพียงนึกคิดก็เข้าสู่มิติได้แล้ว ดังคาด ภายในพื้นที่กักตุนสินค้า นอกจากสิ่งของที่นางเก็บมา ก็มีอาคารทางการแพทย์เครื่องมือล้ำสมัยหลังหนึ่งทว่า เหตุใดเป็นอาคารทางการแพทย์เล่า?“ซูจิ่งสิงต้องการอาคารทางการแพทย์ เจ้าก็เปิดการใช้งานอาคารทางการแพทย์ ตกลงเจ้าของร่างคือข้าหรือซูจิ่งสิงกันแน่?”กู้หว่านเยว่ไม่สบอารมณ์อย่างมากในใจ“...” ผู้ดูแลระบบแกล้งตายไปแล้วกู้หว่านเยว่ทำเพียงสำรวจการเปลี่ยนแปลงภายในมิติ นอกจากอาคารทางการแพทย์ นางยังพบหน้าจอคล้ายศูนย์ควบคุมทำนองนั้นเพิ่มขึ้นมาในระบบอย่างหนึ่ง ข้างบนเขียนการเปิดใช้งานอาคารใหม่หลากหลายแบบอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 5

    มีนางเป็นตัวอย่าง ทุกคนล้มเลิกความคิดแล้ว แต่ละคนกัดฟันเดินไปข้างหน้าเดินออกมาอีกราวห้าลี้ กู้หว่านเยว่เห็นนางหยางเหนื่อยจนคล้ายลาแก่ ต้องการขยับขึ้นไปช่วย แต่กลับถูกนางปฏิเสธ “หว่านเยว่ เจ้า เจ้าเหนื่อย ข้าเข็น...”“ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเพิ่งแต่งเข้ามาก็ต้องถูกเนรเทศไปกับพวกเรา จะยังให้ท่านลำบากอีกได้เยี่ยงไร” ซูจื่อชิงรู้ความ เรียกซูจิ่นเอ๋อร์น้องสาวมาช่วยเข็นด้วยกันใครรู้ซูจิ่นเอ๋อร์ตัวเล็กแต่อารมณ์ร้าย ใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ไม่พอใจ “ข้าเหนื่อยจะตายแล้ว เข็นไม่ไหว ก็ควรให้กู้หว่านเยว่เข็น ใครให้นางเป็นดาวหายนะทำให้พวกเราต้องถูกเนรเทศกันเล่า”“น้องหญิง เจ้าพูดส่งเดชอันใด เรื่องนี้ตำหนิพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้”ซูจื่อชิงโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เหตุใดน้องหญิงคิดเห็นเฉกเดียวกันกับบ้านเหล่านั้นได้เล่า?สีหน้าซูจิ่นเอ๋อร์กลับเปลี่ยนไปแล้ว รู้สึกเกลียดกู้หว่านเยว่เพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งส่วนอยู่ภายในใจกู้หว่านเยว่คร้านจะตามใจอารมณ์ของคุณหนูใหญ่ “เจ้าเองก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเอ็นดูเจ้าที่สุด บัดนี้เขาหมดสติยังไม่ฟื้น ปรากฏว่าแม้แต่เข็นเกวียนของเขาสักเล็กน้อยเจ้าก็ไม่ยินดี ช่างเอ็นดูอย่างเสียเปล่า

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1440

    กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟังทั้งสองคนไม่ได้พบกันนาน เมื่อพูดคุยกันจบ ก็อดใจไม่ไหวอีกต่อไป โอบกอดกันและกันซูจิ่งสิงประคองใบหน้าของกู้หว่านเยว่ขึ้นมาจุมพิตความรู้สึกที่แปลกใหม่แต่ก็คุ้นเคยนั้น ทำให้นางตัวสั่นเล็กน้อยนางไม่อาจปฏิเสธได้ โอบเอวของบุรุษตอบจุมพิตอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น“น้องหญิง คิดถึงเจ้าเหลือเกิน”เขาจุมพิตที่ริมฝีปากของนาง พัวพันอยู่ที่ข้างหูของนาง ทำให้นางรู้สึกอ่อนระทวยไปทั้งตัวทั้งสองคนโอบกอดกันและกัน และค่อย ๆ เกิดความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม“เราออกไปกันให้หมดเถอะ”ชิงเหลียนยิ้มอย่างรู้ใจ ดึงหงเจาปิดประตูเรือนแล้วเดินออกไปบังเอิญพบกับฉู่เฟิงที่เดินมาพอดี“ชิงเหลียนไม่เจอกันนานเลยนะ ช่วงนี้เจ้าดูผิวคล้ำขึ้นแล้ว”ทันทีที่เปิดปากพูด ก็ทำให้ชิงเหลียนลงมือทุบตี“ปากสุนัขพูดจาดี ๆ ไม่ได้ ไม่รู้จักทักทายก็ไม่ต้องทัก”“โอ๊ย เจ็บ ๆ อย่าตี”ฉู่เฟิงกุมศีรษะร้องขอความเมตตา“แม่นาง ข้ามีธุระจะเข้าไปหาท่านอ๋อง โปรดปล่อยข้าไปเถิด”ชิงเหลียนหยุดมือ แค่นเสียงหัวเราะ“ตอนนี้ท่านอ๋องกับพระชายากำลังยุ่งอยู่ แนะนำให้เจ้ารออีกครึ่งชั่วยามค่อยเข้าไป”“ยุ่งอยู่หรือ?”อ้อ แม้ว่าฉู่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1439

    เฉิงทั่วมองไปยังลูกธนูที่อยู่บนไหล่“กำลังรบของเมืองเหยาไม่อาจดูแคลนได้”เขากัดฟัน ดึงลูกธนูที่อยู่บนไหล่ออกมา ถือไว้ในมือแล้วพิจารณา“ลูกธนูนี้ ไม่เหมือนกับของในกองทัพเรา”ระยะยิง กลับไกลกว่าของคนทูเจวี๋ยเสียอีก“รีบห้ามเลือดให้ท่านแม่ทัพเร็วเข้า”รองแม่ทัพหันกลับไปหาหมอทหาร แต่กลับพบว่าหมอทหารถูกจับเป็นเชลยแล้ว พี่น้องที่หลบหนีออกมาได้เหลืออยู่ไม่มากเขาจึงทำได้เพียงลงมือด้วยตนเอง ทำแผลให้กับเฉิงทั่ว“เราสู้พวกเขาไม่ได้ ยอมจำนนเถอะ”เฉิงทั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาเป็นแม่ทัพเก่า ย่อมรู้ดีว่า เวลานี้หากต่อต้านไป ก็เป็นเพียงการดิ้นรนก่อนตายเท่านั้นยอมจำนนไม่ได้น่าอับอายพาชาวเมืองซุ่ยโจวไปสู่ความตาย นั่นถึงจะเรียกว่าน่าอับอาย“ท่านแม่ทัพ เราจะยอมจำนนจริง ๆ หรือ?”“จริง!”เฉิงทั่วพยักหน้าอย่างแรงสามวันต่อมา หนังสือยอมจำนนถูกส่งมาถึงกู้หว่านเยว่ผู้ที่มาส่งหนังสือยอมจำนนเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง สวมชุดเกราะ ท่าทางองอาจผึ่งผายอย่างยิ่ง“เจ้าคือเฉิงเหลียน?”กู้หว่านเยว่พลิกหนังสือยอมจำนนที่อยู่ในมือเฉิงทั่วมีลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายเฉิงซินยังอยู่ในมือของนาง“

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1438

    บังเอิญว่าช่วงนี้เฉิงทั่วยุ่งอยู่กับการเตรียมบุกโจมตีเมืองเหยา จึงไม่มีเวลามาสนใจเฉิงซินเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่า บุตรชายแอบหนีออกไปนานแล้วเฉิงทั่วยึดหลักการที่ว่ายิ่งเร็วก็ยิ่งดี จึงนำทหารไปโจมตีเมืองเหยาอย่างรวดเร็วเดิมทีเขาคิดว่า เมืองเหยาในตอนนี้น่าจะเหลือเพียงกลุ่มทหารชรา อ่อนแอ และทหารที่บาดเจ็บเขาไม่ต้องเปลืองแรง ก็สามารถยึดเมืองเหยาได้อย่างง่ายดายทว่าเมื่อบุกโจมตี เฉิงทั่วก็ตกตะลึงสิ่งที่ยิงลงมาจากบนกำแพงเมืองกลับไม่ใช่ธนู แต่เป็นปืนใหญ่ปืนใหญ่มีอานุภาพรุนแรง รัศมีทำลายล้างกว้างถึงสามสิบเมตรเมื่อปืนใหญ่หนึ่งลูกตกลงพื้น ทหารหลายสิบนายก็ถูกระเบิดกระเด็นขึ้นฟ้ายังไม่หมดแค่นี้เมืองเหยานี้ดูเหมือนจะรู้กระบวนทัพของพวกเขาล่วงหน้าแล้ว กดดันพวกเขาอย่างหนักหน่วง ตั้งแต่ข้างหน้าไปจนถึงข้างหลัง ไม่เหลือช่องว่างให้ตอบโต้แม้แต่น้อยแทบจะเป็นการบดขยี้ฝ่ายเดียวจริง ๆ “ถอยทัพ รีบถอยทัพ”เฉิงทั่วรู้ดีว่าการรบครั้งนี้ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงรีบสั่งให้คนวิ่งหนีทว่ากู้หว่านเยว่เตรียมการไว้พร้อมแล้ว จะปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้อย่างไร?นางสั่งให้คนขุดคูยาวตามเส้นทางหลบหนีของ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1437

    มู่หรงฉางเล่อหันหลังกลับไป แล้วเตะคนที่อยู่ด้านหลังออกมา“โอ๊ย”บุรุษผู้นั้นล้มลงกับพื้น ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด“คุณหนูโปรดไว้ชีวิตด้วย คุณหนูปล่อยข้าไปเถิด”กู้หว่านเยว่เห็นเขาถูกรังแกจนน่าสงสาร อีกทั้งยังเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม“คนผู้นี้คือ?”“พี่สะใภ้ เขาคือบุตรชายสุดที่รักของเฉิงทั่ว แม่ทัพผู้รักษาการเมืองซุ่ยโจว”มู่หรงฉางเล่อแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ กู้หว่านเยว่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เด็กสาวคนนี้จะเก่งกาจขนาดนี้ ถึงกับจับบุตรชายของเฉิงทั่วมาได้“จริงหรือ?”“แน่นอนว่าจริง” มู่หรงฉางเล่อถูจมูก “พี่สะใภ้ ท่านอย่าได้ดูถูกข้า ข้ารู้จักเขา เขาชื่อเฉิงซิน”“เขาเป็นบุตรชายของเฉิงทั่วหรือ เหตุใดดูแล้ว ไม่เหมือนบุตรชายของแม่ทัพเลยสักนิด”ขี้ขลาดตาขาวเช่นนี้ กลับเหมือนพวกไร้ประโยชน์เสียมากกว่า“นี่มีสาเหตุ ท่านฟังข้าอธิบาย”มู่หรงฉางเล่อเอียงศีรษะอธิบายที่แท้เฉิงซินผู้นี้เป็นบุตรชายสุดที่รักของเฉิงทั่ว ท่านแม่ทัพเฉิงมีบุตรชายเพียงคนเดียวหวังจะให้เขาสืบสกุล จึงทะนุถนอมราวกับแก้วตาดวงใจเมื่อเขาร้องว่าลำบาก ก็ไม่ให้เขาไปฝึกฝนในค่ายทหารเมื่อเขาร้องว่าเหนื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1436

    “คนแปลกหน้า เจียงม่าน เหตุใดเจ้าถึงพูดออกมาได้ง่ายดายเช่นนี้?”เมื่อเห็นว่าเจียงม่านจะไป เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ดึงนางเข้ามา แล้วจูบลงไปที่ริมฝีปากของนางอย่างแรงเจียงม่านเบิกตากว้างนางอยากจะผลักฮั่วจี๋ออก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะจมดิ่งลงไป“ฟังข้า ข้าไม่สนใจฐานะของเจ้า และไม่สนใจอดีตของเจ้า ข้าสนใจเพียงคนที่อยู่ตรงหน้าข้า”ฮั่วจี๋โอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนด้วยความทะนุถนอม“ท่านพ่อท่านแม่และพวกพี่ชายไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ คนเดียวที่เกี่ยวข้องกับข้าก็มีแค่เจ้า”เขาจะไม่มีวันลืมว่า เจียงม่านแบกเขาออกมาจากกองศพได้อย่างไรการกลายเป็นหญิงคณิกา ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางเต็มใจเขาเชื่อว่าด้วยนิสัยใจคอของนาง หากเลือกได้ นางไม่มีทางยอมตกเป็นของหอนางโลมอย่างแน่นอน“ฟังข้านะ กลับไปกับข้า ให้ข้าแต่งเจ้าเป็นภรรยา ปกป้องเจ้าไปตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่”ฮั่วจี๋ประคองใบหน้าของเจียงม่าน ในเวลานี้ เขามองเห็นหัวใจของตนเองอย่างชัดเจนเจียงม่านจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา “ทะ ท่านจะไม่เสียใจหรือ?”“มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง”เจียงม่านโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาในทันที กอดเอวที่แข็งแรงของเขาแน่น ให้นางได้เดิมพันอีกสักครั้งเถิด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1435

    เซวียฉิงถูกเขาบีบคอจนหายใจไม่ออก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก“อึก...พี่สาม ไว้ชีวิต...”ใบหน้าของนางเขียวคล้ำ ดูเหมือนว่าใกล้จะขาดใจเต็มทีสาวใช้คาดไม่ถึงว่าฮั่วจี๋จะกล้าลงมือหนักถึงเพียงนี้ ตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น“คุณชายฮั่วโปรดไว้ชีวิตด้วย คุณหนูของข้านิสัยเรียบง่ายบริสุทธิ์ ไม่ได้วางแผนก่อกวน”นางพูดตะกุกตะกัก“เป็นเจียงม่านผู้นั้นที่จากไปเอง ไม่เกี่ยวข้องกับคุณหนูของพวกเรา”ประโยคเดียวกลับทำให้เซวียฉิงเผยพิรุธฮั่วจี๋สะบัดเซวียฉิงออกไป เขาไม่ได้คิดจะบีบคอเซวียฉิงให้ตายจริง ๆ เพียงแต่อยากข่มขู่นายบ่าวทั้งสองคนเท่านั้น“แม่นางเจียงเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้า หากใครไปรบกวนนางอีก อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”เขาไม่สนใจเซวียฉิงอีก พลิกตัวขึ้นไปบนรถม้า แล้วให้มู่หรงฉางเล่อรีบออกเดินทาง“พี่สาม!”เซวียฉิงส่ายหน้าแล้วไอบ้าไปแล้วบ้าไปแล้วจริง ๆ !ฮั่วจี๋รู้ว่าเจียงม่านเป็นหญิงคณิกาแล้ว กลับไม่หลีกเลี่ยง ยังจะตามไปอีก?เจียงม่านทำอะไรกับเขากันแน่?“คุณหนู ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”สาวใช้เดินมาอยู่ข้างกายเซวียฉิง“พี่สามไม่ฟังข้า ข้าก็ทำอะไรไม่ได้ แต่กับเจียงม่าน ข้ามีวิธี”เซว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1434

    เซวียฉิงไม่ยอม“ท่านไม่บอก ข้าก็รู้ว่าท่านจะไปทำอะไร”เซวียฉิงมองเข้าไปในตาของฮั่วจี๋ แล้วรีบเอ่ยถาม“ท่านอยากจะไปหญิงสาวที่ช่วยชีวิตท่านไว้ใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักนางหรือ?”ฮั่วจี๋หรี่ตาแล้วมองไปที่เซวียฉิง สายตาที่เฉียบคมนั้น ทำให้เซวียฉิงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยเมื่อนึกถึงอนาคตของตนเอง เซวียฉิงก็รวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยขึ้น“ข้าย่อมรู้จักนาง นางช่วยชีวิตท่านกลับมา ท่านยังพานางกลับมาที่จวนด้วยตัวเอง ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?”ฮั่วจี๋พยักหน้า“ในเมื่อเจ้ารู้ว่านางเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้า ก็รีบหลบไป”“ก็เป็นเพราะรู้ ถึงได้ไม่หลบ”เซวียฉิงกัดริมฝีปาก ทันใดนั้นก็เอ่ยขึ้น“พี่สาม เพื่อชื่อเสียงของท่าน ข้าก็ไม่สามารถปล่อยให้ท่านไปหานางได้”“เพราะเหตุใด?”ฮั่วจี๋ยิ่งสงสัยมากขึ้น เขารู้สึกว่าคำพูดของอีกฝ่ายมีนัยแอบแฝง“เพราะฐานะของนาง”เซวียฉิงเหลือบมองฮั่วจี๋แวบหนึ่ง“นะ นางเป็นหญิงคณิกา”“เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหลอะไร?”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ฮั่วจี๋ก็โกรธมากจริง ๆ กระโดดลงมาจากรถม้าโดยตรง แล้วจับคอเสื้อของเซวียฉิงอย่างแรงเซวียฉิงตกใจกลัวเป็นอย่างมาก“พี่สาม เหตุใดท่านถึง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1433

    “ท่านแม่ให้ข้าไปหาเขา ข้าก็ไปแล้ว แต่กลับต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าเขาอย่างน้อยก็น่าจะให้ข้าพักสักสองสามวัน เหตุใดวันนี้ถึงให้ข้าไปอีกแล้ว?”จวนสกุลเซวีย เซวียฉิงนั่งอยู่ในห้องด้วยความโมโหนางถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่ที่สกุลฮั่วเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา แม้ว่าการลงโทษนี้จะไม่หนักหนาแต่ก็น่าอับอายเซวียฉิงก็เป็นคนมีหน้ามีตา พอกลับมาก็เก็บตัวอยู่ในห้อง ทำให้นายหญิงเซวียต้องมาปลอบนาง“เจ้าต้องไป”นายหญิงเซวียโอบกอดนาง“เด็กดี ฟังข้านะ ตอนนี้ฮั่วจี๋เป็นคนโปรดของพระชายา หากเจ้าสามารถแต่งงานกับฮั่วจี๋ได้โดยเร็ว ฐานะของสกุลเซวียพวกเราในเมืองเหยาก็จะมั่นคง”คนของสกุลเซวียรู้สึกผิด เพราะตอนที่พวกโจรบุกเมือง พวกเขาไม่ได้ออกแรงช่วยเหลืออะไรเลย“ท่านแม่รู้ได้อย่างไรว่า พวกเขาจะต้องชนะ?”เซวียฉิงเบ้ปากเอ่ยขึ้น“หากราชสำนักชนะเล่า? เช่นนั้นพวกเราจะไม่สูญเปล่า แถมยังเอาตัวเองเข้าไปพัวพันอีกหรือ?”“ราชสำนักไม่มีทางชนะ”นายท่านเซวียกลับมาจากข้างนอก กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ครั้งนี้ราชสำนักไม่มีทางชนะแล้ว”นายหญิงเซวียและเซวียฉิงได้ยินดังนั้น ต่างมองเขาด้วยความสงสัย“ท่านพี่/ท่านพ่อ เหตุใดถึงพ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1432

    “ข้าไปดูดินปืนได้หรือไม่?”ฮั่วจี๋กลืนน้ำลาย เขาอยากรู้อยากเห็นมากจริง ๆ หวังปี้มองไปยังกู้หว่านเยว่ กู้หว่านเยว่พยักหน้า“ได้ เดี๋ยวข้าจะพาท่านไปดู”“ขอบคุณมาก”อวิ๋นมู่ยิ้มเล็กน้อย กู้หว่านเยว่มองไปที่เขา “เดินทางมาเหนื่อยยากลำบาก เจ้าทานอะไรหรือยัง? ข้าจะพาเจ้าไปทานข้าวนะ”ตอนนี้เป็นเวลาอาหารเย็นพอดี“ได้”อวิ๋นมู่พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นก็มีศีรษะโผล่ออกมาจากด้านหลัง ทำให้กู้หว่านเยว่ตกใจ“พี่สะใภ้!”มู่หรงฉางเล่อแต่งกายเป็นบุรุษอีกแล้ว คราวนี้ปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้ ติดตามอยู่ด้านหลังอวิ๋นมู่“เจ้ามาได้อย่างไร?”กู้หว่านเยว่ตกใจ เด็กสาวคนนี้ไม่รออยู่ที่เจดีย์หนิงกู่อย่างสงบ วิ่งมาที่สนามรบทำไมกัน?“ข้ามาช่วย!”มู่หรงฉางเล่อทุบหน้าอกของตนเอง อย่าเห็นว่าเด็กสาวคนนี้อายุน้อย แต่ก็เป็นคนที่รักชาติบ้านเมืองเช่นกัน“แม้ว่าข้าจะเข้าไปในสนามรบไม่ได้ แต่ข้าได้ยินท่านแม่ข้าพูดว่า ฝ่ายสนับสนุนก็มีหลายอย่างที่สามารถช่วยได้”อวิ๋นมู่พยักหน้าเห็นด้วย“ครั้งนี้ต้องขอบคุณนาง ถึงได้ส่งดินปืนมาได้อย่างปลอดภัย”ที่แท้ระหว่างทางพวกเขาเจอกับพวกโจร อาศัยไหวพริบของมู่หรงฉางเล่อ ไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status