แชร์

บทที่ 1203

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“ไม่ได้”

กู้หว่านเยว่ห้ามนางไว้ “เจ้าอยากพาตนเองไปตกหลุมพรางหรือ?”

หากวังหลวงถูกเหยลวี่เจิงควบคุมไว้แล้วจริง เช่นนั้นหากเสี่ยวถ่านเข้าไป ก็คือแกะเข้าปากเสือ

“พี่หญิงกู้ เช่นนั้นข้าจะทำเช่นไร?”

ขอบตาเสี่ยวถ่านแดงเรื่อ พูดไปแล้วนางเองก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงอายุเก้าขวบ จิตใจแข็งแกร่งอย่างมาก

“รอก่อน”

กู้หว่านเยว่ลูบเส้นผมเสี่ยวถ่าน ย่อตัวลงในระนาบเดียวกันกับนาง

“รอพวกเราเข้าใจสถานการณ์เมืองอูถ่านก่อน ค่อยวางแผน

ระยะนี้เจ้าอยู่ที่โรงเตี๊ยม ห้ามมิให้ไปที่ใด ทั้งยังห้ามเปิดเผยฐานะเป็นอันขาด”

เสี่ยวถ่านจับชายเสื้อไว้อย่างเจ็บปวด นางอยากเหินบินไปที่วังหลวงมากเหลือเกิน

แต่มองเห็นสายตากู้หว่านเยว่แล้ว นางรู้พี่หญิงกู้พูดได้ไม่ผิด

“ข้ารู้แล้ว”

“เด็กดี”

กู้หว่านเยว่ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เสี่ยวถ่านได้ฟังคำพูดนางแล้ว นี่ทำให้นางลดปัญหาไปได้ไม่น้อย

“เดิมทีคิดว่ามาถึงเมืองอูถ่าน ข้าก็สามารถเข้าวังไปพบเสด็จพ่อได้ บัดนี้ต้องรบกวนพี่หญิงกู้ให้ดูแลข้าอีกด้วย”

เสี่ยวถ่านรู้สึกผิด พี่หญิงกู้และนางพบกันโดยบังเอิญ ไม่เพียงช่วยชีวิตนางไว้ ยังพานางมาถึงเมืองอูถ่านอย่างปลอดภัย

แต่นางไม่เพียงไม่สามารถ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1204

    ชิงเหลียนพูดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพียงกู้หว่านเยว่ได้ยิน ก็แน่ใจยิ่งขึ้นว่าซูจิ่งสิงอยู่ที่วัดเทียนหวัง เกินครึ่งคือถูกเหยลวี่เจิงพบเบาะแส นี่จึงถูกเขาล้อมไว้ที่วัดเทียนหวังเวลารอช้าไม่ได้ กลุ่มคนขึ้นรถม้าโดยตรงพวกชิงเหลียนอยู่ที่เมืองอูถ่านหลายวัน รู้จักสิ่งปลูกสร้างละแวกนี้อย่างชัดเจน เพียงครู่เดียวก็ขับรถม้าพาพวกเขามาหยุดบริเวณห่างจากวัดเทียนหวังไม่ไกล“มีทหารมากเหลือเกิน”กู้หว่านเยว่แหวกผ้าม่านออกกลัวเผยพิรุธ รถม้ามิได้เข้าไป แต่จอดที่ข้างทางอยู่ไกลๆกู้หว่านเยว่หยิบกล้องส่องทางไกลออกจากมิติ มองสถานการณ์ภายนอกของวัดเทียนหวังอยู่ไกลๆ ภายนอกวัดถูกทหารล้อมไว้อย่างแน่นหนา“วัดเทียนหวังเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของเชื้อพระวงศ์ทูเจวี๋ยพวกเรา อีกทั้งยังเป็นสถานที่แห่งความศรัทธาของคนทูเจวี๋ย วัดเทียนหวังบูรณะ มีนานนับพันปี ภายในวัดมีเส้นทางลับมากมาย เพียงเจดีย์ที่สูงที่สุดของวัดก็มีถึงเก้าชั้น”เสี่ยวถ่านนั่งข้างกายกู้หว่านเยว่ อธิบายกับนาง“ข้าเดา พี่ใหญ่ของพวกเราน่าจะซ่อนอยู่ภายในวัดเทียนหวัง เหยลวี่เจิงกำลังส่งคนมาค้นหาพวกเขา”เพราะวัดเทียนหวังได้รับความศรัทธามาก ดังนั้นเหย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1205

    กู้หว่านเยว่เองก็ได้ยินเสียงแล้ว รีบพาเยียนอวิ๋นชูหลบเข้ามิตินางอยู่ภายในมิติมองเห็นทหารหนึ่งหน่วยเดินเข้ามา พูดคุยกันอย่างผ่อนคลาย“หาไม่พบก็ต้องหาอยู่ดี ท่านแม่ทัพออกคำสั่งตายมาแล้ว หากพรุ่งนี้ก่อนอาทิตย์ตกยังหาคนไม่พบ หัวพวกเราทั้งหมดล้วนต้องตกลงพื้น”“ที่นี่หาทั้งภายในภายนอกหนึ่งรอบแล้ว ไม่รู้จะไปหาที่ใดจริงๆ”“ก็มีเพียงเจดีย์เก้าชั้นที่ยังไม่ได้หา ค้นหารอบข้างนี้แล้วพวกเราก็ไปหาที่เจดีย์เก้าชั้น”ภายในวัดเทียนหวังมีเส้นทางลับกลไกมากมาย ยามตามหาต้องเสียแรงมากเห็นว่าทหารหน่วยนั้นพูดพลางเดินออกไปไกลแล้ว กู้หว่านเยว่พาเยียนอวิ๋นชูออกจากมิติ“เจดีย์เก้าชั้น?”เมื่อครู่ยามอยู่ในมิติ กู้หว่านเยว่ให้ระบบส่งมอบแผนที่เจดีย์เก้าชั้นให้นางแล้วขยับมือเพียงเล็กน้อย แผนที่ก็ปรากฏอยู่ในมือนางแล้วสามารถมองเห็นว่าเจดีย์เก้าชั้นอยู่ด้านหลังสุดของวัดเทียนหวัง เจดีย์นี้มีเก้าชั้น ดังนั้นจึงเรียกว่าเจดีย์เก้าชั้นเยียนอวิ๋นชูอธิบายข้างใบหูนาง “เจดีย์เก้าชั้นมีเก้าชั้นตามชื่อ แต่พิเศษคือ ทุกชั้นล้วนไม่มีบันได”“เช่นนั้นจะขึ้นไปเช่นไร?”“ผ่านด่านท้าทาย ทุกชั้นล้วนติดตั้งด่านท้าทายไว้ จาก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1206

    ครั้งนี้ข้ากลับอยากเห็น เขายังจะหนีไปจากเงื้อมมือข้าได้เยี่ยงไร”เหยลวี่เจิงออกคำสั่ง ทหารที่ได้รับคำสั่งภายนอกต่างพากันเข้ามา เข้าไปค้นหาภายในเจดีย์เก้าชั้นกลไกของเจดีย์เก้าชั้นมิอาจฝืนทำลายได้ กลับรั้งฝีเท้าของพวกเขาเอาไว้แล้วขณะเดียวกัน บนเจดีย์เก้าชั้นซูจิ่งสิงได้ยินการเคลื่อนไหวข้างล่าง เยียนสือซานที่อยู่ทางด้านข้างเผยสีหน้ารู้สึกผิด“ขออภัยจริงๆ สหาย หากไม่ใช่เพราะข้า เจ้าก็คงไม่ติดอยู่ที่นี่”ที่แท้ สาเหตุที่เยียนสือซานมายังเมืองอูถ่าน ก็เพราะเหยลวี่เจิงบอกเขา เขาพบยาเทวดาที่สามารถรักษาน้องชายเขาได้แล้วสรุปคือหลังมาถึงเมืองอูถ่าน เหยลวี่เจิงกลับแลกเปลี่ยนข้อเสนอกับเขา ให้เขาฆ่าซูจิ่งสิงถึงจะมอบยาเทวดาให้แก่เขาแม้ว่าเยียนสือซานเป็นคนของหอมือสังหาร แต่เขากลับเคยได้ยินเรื่องเจิ้นเป่ยอ๋องซูจิ่งสิงมาก่อน รู้สึกเคารพซูจิ่งสิงอย่างมากดังนั้นจึงปฏิเสธข้อเสนอของเหยลวี่เจิง หวังว่าจะสามารถใช้อย่างอื่นแลกเปลี่ยนได้ใครรู้เล่าว่าเหยลวี่เจิงเผยท่าทีตกลง แต่ภายในใจถึงขั้นกักบริเวณเขาไว้ที่จวนแม่ทัพเยียนสือซานเป็นคนเช่นไร องครักษ์ลับเหล่านั้นจะสามารถขวางเขาไว้ได้หรือ?ชั่วขณ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1207

    “เจ้าไม่ทิ้งข้า เจ้าโง่ไปแล้วกระมัง หรือเจ้าคิดจะตายไปด้วยกันกับข้าที่นี่?”เยียนสือซานเป็นคนตรงไปตรงมาคนหนึ่ง โบกมือ“สหายเจ้าอย่าใช้อุบายขั้นสูงนี้กับข้าเลย เจ้าและข้าเพียงบังเอิญพบกันเท่านั้น เจ้าสามารถช่วยส่งจดหมายให้น้องรองข้าได้ ยังสามารถช่วยชีวิตข้าจากผู้อยู่ใต้อาณัติเหยลวี่เจิงได้ ข้าเยียนสือซานซาบซึ้งใจต่อเจ้ามากแล้ว”เขาพูดออกมาใบหน้าภาคภูมิใจ“ข้าเยียนสือซานชาตินี้นอกจากน้องรอง ก็ไม่เคยผูกสัมพันธ์เป็นพี่น้องกับคนอื่นอีกช่างน่าเสียดายโดยแท้ หากข้าสามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ จะต้องสาบานเป็นพี่น้องกับเจ้าแน่ร่ำสุรา กินเนื้อเพลิดเพลินอย่างเต็มที่!”เขาและซูจิ่งสิงมีความรู้สึกเสียดายที่ได้พบกันช้าไป แม้ว่าซูจิ่งสิงคนนี้ประหยัดถ้อยคำอย่างมาก แต่มองปราดเดียว เยียนสือซานก็รู้ อีกฝ่ายเป็นคนพวกเดียวกับตน“พวกเราจะต้องได้มีวันสาบานเป็นพี่น้องแน่”ซูจิ่งสิงเลิกคิ้วขึ้น เขาเองก็ชอบอุปนิสัยของเยียนสือซานมาก“ช้าก่อน ไปไกลแล้ว ข้าให้เจ้ารีบหนีเอาชีวิตรอด”“ข้า แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยทิ้งพวกพ้อง”ซูจิ่งสิงเอ่ยหนึ่งประโยค ทำเสียจนดวงตาเยียนสือซานสั่นไหว พูดว่าพวกพ้องได้ดีขณะเดียวกัน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1208

    “วางใจเถอะ ข้าไม่มีวันเป็นอะไร”กู้หว่านเยว่เอ่ยปลอบหนึ่งประโยค ขณะเดียวกันการต่อสู้ระหว่างซูจิ่งสิงและทหารทูเจวี๋ยกำลังเข้าสู้ช่วงเวลาดุเดือดแม้ว่าสองคนวิชายุทธ์สูงมาก แต่ทหารทูเจวี๋ยเข้ามามากเกินไป ทั้งคู่เองก็สู้ไม่ไหวเยียนสือซานร้องตะโกนใส่ซูจิ่งสิงอีกครั้ง“สหาย ไม่ว่าเจ้าเป็นใคร บัดนี้ข้าจะเปิดทางให้เจ้า เจ้ารีบหนีออกไป”ถ่วงเวลาทหารทูเจวี๋ยเหล่านี้ได้ ก็นับว่าได้ตอบแทนบุญคุณซูจิ่งสิงที่ช่วยเขาออกมาจากใต้อาณัติของเหยลวี่เจิงได้แล้ว“ฮ่าๆ พวกเจ้าสองคนไม่ต้องรีบ ไม่ว่าเจ้าหรือซูจิ่งสิง ใครก็หนีเงื้อมมือของข้าไม่พ้น พวกเจ้าสองคนยอมรับความตายที่เจดีย์แห่งนี้ดีๆ เถอะ”เหยลวี่เจิงหัวเราะฮ่าๆ ดังลั่น เยียนสือซานเป็นมือสังหารอันดับหนึ่งของทำเนียบฟ้า เขาไม่อยากเป็นศัตรูกับเยียนสือซานครั้งนี้เชิญเขามา ก็เพื่อให้เขาช่วยตนฆ่าซูจิ่งสิงใครรู้เขากลับไม่รู้ดีชั่ว ไม่ยอมทำงานให้เขา ย่อมต้องฆ่าให้ตายถึงจะดี“เยียนสือซาน ไม่ต้องกังวล น้องสายเจ้าเองก็อยู่ใต้แม่น้ำเหลือง เจ้าใกล้จะได้ไปพบเขาแล้ว”เหยลวี่เจิงมีความสุขในคราวเคราะห์ของผู้อื่น ขณะเดียวกันเสียงหัวเราะเสนาะใสสายหนึ่งพลันดังข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1209

    เห็นว่าทุกคนล้วนขึ้นหลังนกแล้ว กู้หว่านเยว่ถึงตบหลังศีรษะจูเชวี่ย “รีบไป!”“แควก!”จูเชวี่ยแหงนหน้าขึ้นร้องเสียงดังกังวาน ปีกใหญ่สองข้างกระพือ พากู้หว่านเยว่ออกจากเจดีย์เก้าชั้นอย่างโอหังยอดเจดีย์เก้าชั้นเกือบพังลงครึ่งหนึ่ง เพราะแรงกระแทกของมัน“ช่วยด้วย หนี รีบหนีเร็วเข้า เจดีย์จะถล่มแล้ว!”ทหารทูเจวี๋ยร้องตะโกนอย่างชุลมุนวุ่นวาย ต่างพากันวิ่งลงเจดีย์ กลัวช้าไปอีกเพียงหนึ่งก้าว จะถูกหินบนยอดเจดีย์ตกลงมาทับจนเละ“ห้ามหนี!”เหยลวี่เจิงโมโหหน้าแดงก่ำ ดวงตาอำมหิตสองข้างถลึงมองพวกซูจิ่งสิงเล่นบ้าอะไรกัน นกมาจากที่ใด นี่เรื่องบ้าอะไรกัน! นกช่วยพวกเขา?“หยิบธนูขึ้นมา ยิงพวกเขาให้ตก!”เขาจับซูจิ่งสิงไว้ได้อย่างยากลำบาก ไฉนเลยจะปล่อยให้เขาหนีไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ เรื่องนี้เล่าลือออกไป หน้าตาของเขาจะเอาไปวางไว้ที่ใด?เขาในฐานะแม่ทัพมีพรสวรรค์แห่งยุค ก่อนได้พบซูจิ่งสิงไม่เคยรบแพ้มาก่อนหลังได้พบซูจิ่งสิง ทั้งหน้าตาศักดิ์ศรีล้วนหมดไปในสนามรบแล้วเขาใส่ใจวางแผนมากมายถึงเพียงนี้ ก็เพื่อฆ่าซูจิ่งสิงล้างอาย“ท่านแม่ทัพ เจดีย์ถูกทำลายอย่างหนัก เป็นไปได้มากว่าจะถล่ม พวกเรารีบออกไปจากที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1210

    สายตาเยียนอวิ๋นชูตกตะลึงพรึงเพริด เยียนสือซานเองก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน“นี่ นี่นกอะไร?”“นี่คือสัตว์เลี้ยงของข้า จูเชวี่ย”สายตากู้หว่านเยว่ตกลงบนตัวเยียนสือซาน เผยสีหน้าแปลกใจอย่างสุดระงับ “ท่านก็คือมือสังหารอันดับหนึ่งบนทำเนียบฟ้าของหอมือสังหาร เยียนสือซานหรือ?”“ข้าน้อยคือเยียนสือซานจริง แต่ มิใช่อันดับหนึ่งบนทำเนียบฟ้าอะไร”เสียงเยียนสือซานดังก้อง ประกบมืออย่างเกรงใจกู้หว่านเยว่เห็นแขนขาใหญ่โตของเขา ท่าทางเรียบง่าย รู้สึกยิ้มไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเมื่อแรกยามได้ยินซูจิ่งสิงอธิบาย นางยังคิดว่ามือสังหารอันดับหนึ่งบนทำเนียบฟ้าเยียนสือซานเป็นชายลึกลับคนหนึ่ง คิดไม่ถึง ถึงขั้นเป็นชายร่างใหญ่เคราครึ้มเช่นนี้ทำให้นางตกตะลึงไม่น้อย ช่างเป็นการกลับตาลปัตรที่น่ารักยิ่งนัก!“พี่ใหญ่” เยียนอวิ๋นชูตะโกนอย่างห่วงใย “อาการบาดเจ็บของท่านไม่เป็นไรกระมัง?”“ข้าไม่เป็นไร”เยียนสือซานโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “บาดแผลเล็กน้อยแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ”นึกถึงยามเขาออกไปทำภารกิจ บนแขนเคยถูกฟันจนเกือบเห็นกระดูก แม้แผลถูกยิงนี้ลึก เยียนสือซานกลับไม่ใส่ใจ“แผลลึกถึงเพียงนี้ เลือดไหลอีกด้วย ท่านยังพูดว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1211  

    คำสัญญาของชายหนุ่มผู้มีจิตวิญญาณที่เข้มแข็งและอุตสาหะ เรียบง่ายจริงใจไม่ปรุงแต่ง ทรงพลังยิ่งนัก กู้หว่านเยว่หลุดหัวเราะออกมา พลางลูบจมูก จะอะไรก็ดี เพียงแต่คำเรียกน้องกู้คำนี้ ทำให้นางไม่กล้ารู้สึกหมดคำพูดจริง ๆ “พี่ใหญ่เยียนอย่าได้เกรงใจเลย ข้ากับอวิ๋นชูพบกันโดยบังเอิญ นับว่ามีวาสนาต่อกันยิ่งนัก ข้าช่วยชีวิตเขาไว้ ก็มิได้หวังจะได้สิ่งใดตอบแทน” และที่กู้หว่านเยว่ช่วยชีวิตเยียนอวิ๋นชูจากเงื้อมมือของมือสังหารของเหยลวี่เจิง ก็เป็นเพราะว่าพวกเขามีศัตรูคนเดียวกัน นางไม่อยากให้แผนชั่วของเหยลวี่เจิงลุล่วงสำเร็จ มอบโอสถถอนพิษให้เยียนอวิ๋นชูไปในตอนแรก ก็เป็นเจตนาเดิมของนางมาตั้งแต่ต้นแล้ว ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องตอบแทนอะไรทั้งสิ้น “ดี น้องกู้ช่างเป็นคนจริงใจเปิดเผยยิ่งนัก” เยียนสือซานมิได้พยายามรบเร้าจะตอบแทนบุญคุณ ในเมื่อจดจำบุญคุณส่วนนี้ไว้ในใจแล้ว วันข้างหน้าหากกู้หว่านเยว่มีคำสั่งให้พวกเขาทำอะไร เขาเยียนสือซานจะไม่ปฏิเสธทั้งสิ้น “พี่ใหญ่เยียน บาดแผลที่หัวไหล่ของท่านข้าว่าสาหัสยิ่งนัก ที่แห่งนี้แม้ไร้ที่ทางให้ทำแผล ทว่าข้ากลับพกยาลูกกลอนห้ามเลือดติดตัวไว้ ท่านกินยาลูกกลอนนี้

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1452

    แม้ว่าภายในมิติของนางจะมีแปลงสมุนไพร แต่ภายในแปลงสมุนไพรล้วนปลูกสมุนไพรหายาก ไม่มีสมุนไพรรักษาโรคไข้รากสาดน้อยธรรมดาดังนั้น สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นกู้หว่านเยว่ซื้อจากแพลตฟอร์มซื้อขายการแจกจ่ายยาเริ่มขึ้นอย่างว่องไวเหล่าราษฎรขยับขึ้นมาทีละคน ขบวนคนเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า“พี่หญิงหว่านเยว่ ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ”ลั่วยางเข้ามาเตือนนางหนึ่งประโยค เอ่ยปากอย่างห่วงใย“ข้าบอกกับหมอเหล่านั้นแล้ว หากพวกเขาไม่แน่ใจโรค ค่อยมาถามข้าเจ้าค่ะ”นางอธิบาย“หากข้าเองก็หมดหนทาง ค่อยให้คนเข้าไปหาท่าน”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน”เกาเจี้ยนสบมองลั่วยางอย่างสงสาร “ยางเอ๋อร์ เจ้าต้องเหนื่อยแล้ว”แม้พูดว่าด้านหน้ายังมีหมอตรวจอาการก่อนแต่คนมากถึงเพียงนี้ ย่อมมีหมอที่รักษาไม่ได้รวมเข้าด้วยกัน ก็เพียงพอให้ลั่วยางยุ่ง“ข้าไม่เป็นไร สามารถรักษาราษฎรได้ ช่วยได้หนึ่งชีวิตก็คือหนึ่งชีวิต”ลั่วยางหยิบธงหนึ่งผืนออกมา สองสามคนมองดู ได้เห็นตัวอักษรคำว่าหุบเขาราชาโอสถสามคำบนนั้น“ข้ารับปากท่านอาจารย์ไว้แล้ว จะต้องหาโอกาสประกาศเรื่องหุบเขาราชาโอสถดีๆบังเอิญจะได้ฉวยโอกาสนี้ประกาศให้ราษฎ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1451

    ทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่งวิ่งเข้าอย่างรีบร้อนจากด้านนอกประตู พูดออกมาอย่างลนลาน ทำให้เฉิงทั่วตื่นตระหนก“มีอันใด เกิดอันใดขึ้นหรือ?”หรือว่ากลัวสิ่งใดสิ่งนั้นก็มากระนั้น?“ด้านนอกประตู ด้านนอกประตูมีราษฎรป่วยหนักมากมายมาขอรับ ต่อแถวยาวเหยียดอยู่ด้านนอกประตู แถวยาวไปจนถึงประตูเมืองแล้ว”ทหารชั้นผู้น้อยกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ไม่เคยเห็นแถวยาวเช่นนี้มาก่อน“ที่แท้ก็มีคนต่อแถวมากนี่เอง”เฉิงทั่วตบศีรษะทหารชั้นผู้น้อยทีหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์ “ครั้งหน้าพูดให้เข้าใจหน่อย อย่าหายใจแรง ทำข้าตกใจแทบตาย”ทหารชั้นผู้น้อยลูบศีรษะ บ่นพึมพำเสียงแผ่ว “คำนี้ของท่านแม่ทัพ หรือว่านี่ไม่ทำให้คนตกใจกันเล่า?”ราษฎรมากถึงเพียงนี้ล้อมจวนแม่ทัพไว้ หากเกิดความวุ่นวาย ทำให้คนตายจะทำเยี่ยงไร?“เจ้า นำทหารม้าสองหน่วยไปดูแลรักษาความเรียบร้อยบนถนนให้ดี”เฉิงทั่วชี้ไปยังคนสนิทที่หน้าประตู เห็นว่าถึงเวลาแจกจ่ายยาแล้ว เขาเตรียมไปดูสถานการณ์ที่หน้าประตูจวนแม่ทัพในเวลานี้ หน้าประตูจวนแม่ทัพคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเหล่าราษฎรรอคอยอย่างมีความหวัง หวังว่าจะสามารถได้รับยาเพียงพอเพื่อช่วยตนเองหรือคนในครอบครัว“จะเริ่มแจกจ่าย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1450

    เขาครุ่นคิดอยู่สักครู่ พลางแอบมองสีหน้าของซูจิ่งสิง ไม่กล้าอยู่ในเรือนนานเกินไป จึงรีบออกไปพร้อมกับรองแม่ทัพ“ท่านแม่ทัพ สิ่งที่พระชายาพูดเป็นความจริงหรือไม่? คงไม่ได้คุยโวหรอกนะ?”หลังจากที่ทั้งสองออกมาข้างนอกแล้ว รองแม่ทัพก็พูดขึ้น“ประชาชนที่ป่วยในเมืองไม่ใช่แค่คนหรือสองคน ยามากมายขนาดนั้น พระชายาจะหามาได้หรือ?”เขาคิดอยู่เสมอว่าคำพูดของกู้หว่านเยว่นั้นไม่น่าเชื่อถือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ถูกแม่ทัพชี้หน้าตำหนิ รู้สึกทั้งอายทั้งโกรธ ต้องการทวงศักดิ์ศรีคืนมา จึงได้พลั้งปากคุยโวโอ้อวดออกไป“ไม่รู้สิ”เฉิงทั่วส่ายหัวสติปัญญาบอกเขาว่า กู้หว่านเยว่นั้นไม่สามารถหาสมุนไพรได้มากมายขนาดนั้นภายในระยะเวลาอันสั้นแน่นอนแต่เขาก็นึกถึงตอนที่โจมตีเมืองเหยาขึ้นมาอีก ดินปืนและกระสุนปืนใหญ่เหล่านั้นที่ส่งลงมาจากเมือง รวมถึงธนูที่มีรัศมีการยิงไกลมากสิ่งของเหล่านี้เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนถ้าหากในตอนนี้สิ่งของที่เขาไม่คาดคิด กู้หว่านเยว่บังเอิญมีพอดีล่ะ?“ถ้าอย่างนั้นคำสั่งของพระชายาเมื่อครู่นี้ พวกเรายังต้องปฏิบัติตามหรือไม่?”รองแม่ทัพค่อนข้างเป็นกังวล“เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป อีกสาม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1449

    เขามีสีหน้าร้อนใจ ชิงเหลียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ท่านรอสักครู่ ข้าจะเข้าไปรายงานก่อน”ภายในห้อง กู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงดังเอะอะจากด้านนอกแล้ว จึงรีบพาซูจิ่งสิงออกมาจากมิติในขณะที่ชิงเหลียนเข้ามา นางกำลังเปิดประตูพอดี“พระชายา แม่ทัพเฉิงอยู่ข้างนอก...”“ข้าได้ยินทุกอย่างแล้ว เจ้าให้เขาเข้ามาเถอะ”กู้หว่านเยว่หาวนอน“อ้อ ถือโอกาสรับประทานอาหารเช้าไปด้วย”เมื่อคืนนี้ นางและซูจิ่งสิงยุ่งอยู่ในมิติตลอดทั้งคืน“เพคะ”ชิงเหลียนรีบออกไป เฉิงทั่วก็เข้ามาจากทางด้านนอกอย่างไม่พอใจ“คารวะท่านอ๋องและพระชายา”เขาทำความเคารพแบบขอไปที แล้วเริ่มบ่นว่า“พระชายา เมื่อคืนข้าน้อยเตือนท่านแล้วว่า จะช่วยเหลือผู้คนในเมืองนี้ส่งเดชไม่ได้ อาจก่อให้เกิดความโกลาหลได้”น้ำเสียงของเขาไม่สู้ดีนัก“ดูสิ เมื่อวานท่านนำหญิงผู้นั้นมารักษาในจวนละแวกนี้ ผลปรากฏว่าเรื่องนี้ถูกผู้มีเจตนาเผยแพร่ออกไปเมื่อเช้านี้ เวลานี้ด้านนอกจวนแม่ทัพมีผู้ป่วยเต็มไปหมดท่านก็รู้ เมื่อเกิดความโกลาหลขึ้นมา จะกลายเป็นเรื่องใหญ่”เมื่อเฉิงทั่วพูดถึงความร้อนใจ ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองกู้หว่านเยว่ สายตานั้นเต็มไปด้วยคำถาม“แม่ทั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1448

    ยิ่งไปกว่านั้นยังสวมถุงมือและผ้าคลุมหน้าอีกด้วยเห็นได้ชัดว่าหญิงผู้นั้นอับจนหนทางแล้ว พอเข้ามาก็คุกเข่าลงตรงหน้าพวกเขาทันที“ท่านผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย พวกท่านได้โปรดช่วยลูกของข้าด้วย เขาเพิ่งห้าขวบเท่านั้น”หญิงผู้นั้นกอดลูกไว้แน่นในอ้อมแขน“เขาฉลาดมาก และเชื่อฟังมากด้วย มักจะช่วยข้าทำงานอยู่บ่อยครั้ง สามารถอ่านหนังสือและจดจำตัวอักษรได้ตั้งแต่ยังเด็กเช่นนี้ พวกท่านได้โปรดช่วยชีวิตเขาด้วย ต่อให้ต้องเอาชีวิตของข้าก็ตาม”หญิงผู้นั้นร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลกู้หว่านเยว่ให้นางวางลูกลงบนเบาะนุ่ม เพื่อสะดวกในการตรวจวินิจฉัย“แล้วพ่อของเด็กล่ะ เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่คนเดียว?”หญิงผู้นั้นมีอาการป่วยอย่างเห็นได้ชัด แก้มตอบลึก“ตาย ตายแล้ว”หญิงผู้นั้นสะอึกสะอื้นตอบ“เป็นไข้หวัด ไม่มียารักษา ทนได้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็ตายแล้ว”กู้หว่านเยว่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ขอโทษนะ”หญิงผู้นั้นส่ายหัว “มันคือโชคชะตา แต่ขอให้หมอช่วยชีวิตลูกของข้าด้วย แม้ว่าต้องการให้ข้าไปตาย ข้าก็เต็มใจ”กู้หว่านเยว่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเจ็บปวด ซูจิ่งสิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็กำหมัดทั้งสองแน่น“ไม่ต้องให้เจ้าไปตายหรอก ให้ข้าดู

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1447

    “ไป ๆ ๆ”เฉิงทั่วกลอกตาใส่หนานหยางอ๋อง“ท่านไม่จำเป็นต้องออกหน้าพูดแทนข้าที่นี่”“เฮ้ ข้าหวังดีกับเจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่รักษาน้ำใจคนอื่นเลย?” หนานหยางอ๋องฮึดฮัดด้วยความโมโห“กาลเวลาพิสูจน์คน ข้าเป็นคนอย่างไร ต่อไปท่านอ๋องและพระชายาก็รู้เอง ไม่จำเป็นต้องให้ท่านพูดอะไรมาก”เฉิงทั่วกังวลว่าหากหนานหยางอ๋องออกหน้าพูดแทนเขา มันจะส่งผลกระทบต่อตัวเขาเองชายชราหัวรั้นสองคนต่างห่วงใยซึ่งกันและกัน แต่ไม่พูดออกมากองทัพเข้ามาในเมืองทันใดนั้นหญิงคนหนึ่งที่กำลังอุ้มลูกอยู่ ได้โผเข้ามาแทบเท้าของกู้หว่านเยว่“ท่านหญิง ช่วยลูกของข้าด้วย ได้โปรดช่วยลูกของข้าด้วย!”หญิงผู้นั้นล้มลงกับพื้น เด็กในอ้อมแขนเกือบจะกลิ้งออกมา นางกอดเด็กไว้แน่น ไม่ปล่อยมือกู้หว่านเยว่เหลือบมองเข้าไปในอ้อมแขนของนาง เห็นว่าเด็กมีสีหน้าเขียวคล้ำ“เกิดอะไรขึ้น?”“พระชายา กลับจวนแล้วค่อยคุยกับท่านแล้วกัน”สีหน้าของเฉิงทั่วดูแย่มาก โบกมือให้รองแม่ทัพพาหญิงผู้นั้นออกไปปลอบโยนก่อนเมื่อมาถึงจวน เขาก็ถอนหายใจพลางเอ่ยว่า“ปีนี้สภาพอากาศแปลก ๆ การเก็บเกี่ยวของประชาชนก็ไม่ดี ในสิบคนก็มีคนป่วยแปดหรือเก้าคนแล้ว”คิ้วของกู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1446

    สมองของเจียงม่านวิงเวียน ก่อนจะสูญเสียความรู้สึกตัวอย่างสมบูรณ์ คิดเพียงว่าที่แท้ฮั่วจี๋ก็มีมุมแบบนี้เช่นกัน...คู่บ่าวสาวสนุกสนานกันทั้งคืน ไม่รู้ว่าหมดไปกี่น้ำ สรุปได้ว่าแนบชิดดูดดื่มก่อนหน้านี้เรื่องที่เจียงม่านกังวลว่าในคืนแต่งงาน ฮั่วจี๋จะรังเกียจที่นางไม่ได้บริสุทธิ์ไร้ราคีหรือเปล่านั้น ไม่หลงเหลืออยู่แล้วหลังจากเพิ่งแต่งงานไป กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงได้มอบหมายเมืองเหยาให้ฮั่วจี๋ดูแลจัดการชั่วคราว โดยทิ้งหวังปี้เอาไว้คอยช่วยเหลือพวกเขาพร้อมด้วยกองทัพใหญ่ เดินหน้าไปยังเมืองซุ่ยโจวอย่างองอาจเฉิงทั่วได้ยื่นหนังสือขอยอมจำนนไปนานแล้วพอได้ยินว่ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกำลังจะมา จึงเปิดประตูเมืองออก แล้วพาทุกคนในเมืองไปต้อนรับที่ประตูเมืองด้วยตัวเอง“คารวะท่านอ๋อง คารวะพระชายา”“ลุกขึ้นเถอะ”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงขี่ม้าเข้ามา เมื่อเห็นเฉิงทั่วพาผู้คนมายืนรออยู่ที่ประตูเมือง พวกเขาสองคนก็ลงจากหลังม้า“แม่ทัพเฉิง ไม่นึกว่าเราจะได้พบกันอีกเร็วขนาดนี้”กู้หว่านเยว่เลิกคิ้วขึ้นด้วยรอยยิ้ม สายตาจับจ้องไปที่หัวไหล่ของเฉิงทั่วเฉิงทั่วรู้สึกกระดากอายในทันใด “พระชายามีทักษะด้า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1445

    กู้หว่านเยว่พยักหน้า “นำพวกเขาทั้งหมดขังไว้ในเรือนจำใหญ่ รอการลงโทษ อย่าปล่อยออกมาง่าย ๆทหารพวกที่หลบหนีเมื่อใกล้แนวรบ กู้หว่านเยว่เหยียดหยามมาโดยตลอดไม่ได้ลงโทษเนรเทศพวกเขา ก็นับว่าเมตตาแล้วตอนนี้พวกเขายังกล้าหลบหนีก่อนจริงหรือ?เช่นนั้นก็อย่าโทษนางที่ไม่เกรงใจฮั่วจี๋พยักหน้าตาม“เรือนจำของเมืองเหยานั้นกว้างขวางมาก จับพวกเขาทั้งครอบครัวเข้าไปคุมขังก็ยังมีที่เหลือเฟือ”ดูสีท้องฟ้าก็ดึกมากแล้ว ดนตรีประโคมข้างนอกก็จบลงแล้วเช่นกันซูจิ่งสิงเข้ามาหา แล้วมองไปยังฮั่วจี๋“แม่ทัพฮั่วขยันหมั่นเพียรเช่นนี้ อย่าทำให้คืนแต่งงานน่าผิดหวังล่ะ”“ขอรับ”ฮั่วจี๋ลูบศีรษะ ยังคงครุ่นคิดว่า เหตุใดท่านอ๋องถึงอารมณ์ร้อนกับเขามากทันทีที่เข้ามาเมื่อเห็นซูจิ่งสิงดึงกู้หว่านเยว่ออกไป จึงเข้าใจในภายหลังว่า ตัวเองไปเป็นกว้างขวางคอของพวกเขา“แล้วฮูหยินน้อยล่ะ?”ฮั่วจี๋หันกลับไปถามพ่อบ้านเมื่อเห็นซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เป็นคู่กิ่งทองใบหยก เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเจียงม่านที่อยู่ในห้อง“อยู่ในห้องขอรับ นายท่าน บ่าวจะประคองท่านไป”พ่อบ้านยิ้มตาหยี เห็นฮั่วจี๋เป็นฝั่งเป็นฝา เขาเองก็มีความสุขเช

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1444

    จางเอ้อร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“แต่ว่า ข้าทำได้เพียงพูดต่อหน้าพระชายาเท่านั้น”“ทำอย่างสุดความสามารถก็พอ” หวังหรานเอ๋อร์ก็ไม่บีบบังคับเช่นกันหลังจากที่ทั้งสองพูดจบ จางเอ้อร์ก็ไปหากู้หว่านเยว่เพื่อพูดคุยเรื่องนี้กู้หว่านเยว่กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องใช้คนพอดี ย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้วและเมื่อก่อนบนเส้นทางที่ถูกเนรเทศ จางเอ้อร์ก็ดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี กู้หว่านเยว่หาโอกาสตอบแทนมาโดยตลอดบัดนี้ได้เวลาตอบแทนน้ำใจพอดี“ชิงเหลียน เจ้าพาจางเอ้อร์และหวังหรานเอ๋อร์ไปหาคุณชายอวิ๋น แล้วบอกว่าข้าให้พวกเขาไป”งานพลาธิการแนวหลังของการสู้รบ ทั้งหมดอวิ๋นมู่เป็นผู้รับผิดชอบอยู่ขอเพียงพาคนไปและบอกกับอวิ๋นมู่เช่นนี้ อวิ๋นมู่ก็เข้าใจแล้วชิงเหลียนยิ้มกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าคุณชายอวิ๋นกำลังดื่มสุราอยู่กับคุณชายไป๋หลี่ ทำไมไม่รอให้งานเลี้ยงเลิก แล้วค่อยพาพวกเขาไปหา”จางเอ้อร์กล่าวอย่างมีไหวพริบ “ไม่รีบ ไม่รีบ จะได้ไม่ทำลายอารมณ์อันสุนทรีย์ของคุณชายอวิ๋น”ฉู่เฟิงเอ่ยด้วยความอิจฉา “ท่านนี่ช่างรักคุณชายอวิ๋นนัก ข้ายืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว ไม่เห็นท่านเรียกข้าไปดื่มสุราสักอึกสองอึกบ้างเลย”ทำให้ชิงเหลีย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status