“เจ้ารู้หรือไม่ ไม่ว่าเจ้าจะหน้าตาดีเพียงใด หรือจะเก่งกาจแค่ไหน ในที่สุดวันหนึ่งนายท่านก็จะเบื่อ และยามนี้นายท่านใกล้จะเบื่อเจ้าแล้ว”“คืนนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่นายท่านจะโปรดปรานเจ้า หลังจากนั้น เขาจะส่งเจ้าให้กับนายท่านเสาเย่า เจ้าก็รู้ดีหนิว่านายท่านเสาเย่ามีความชอบคล้ายๆ กับนายท่าน อาจพูดได้ว่าความชอบของนายท่านเสาเย่ารุนแรงกว่าด้วยซ้ำ ใครก็ตามที่เขาโปรดปราน เขาจะถลกหนังหน้าของคนผู้นั้นติดไว้ที่ผนังเชยชม”เยี่ยเฟิงหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง หมดหนทาง เจ็บปวด และความสิ้นหวังก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขาเขาเป็นคนที่หน้าตาดีมาก แต่ยามนี้สายตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ทำให้ใครเห็นก็ต้องสงสาร แต่เจียงซวี่กลับหัวเราะอย่างชอบใจ ราวกับเยี่ยเฟิงยิ่งสิ้นหวังยิ่งดีกู้ชูหน่วนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟังแล้วก็โกรธมากนางไม่แน่ใจว่าสาเหตุการตายของพ่อแม่เขาเป็นอย่างไร แต่ด้วยนิสัยของเยี่ยเฟิงแล้ว เขาคงไม่ไปทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผล นอกจากว่าพ่อแม่ของเขาจะเป็นคนชั่วร้ายอย่างแท้จริงเจียงซวี่โน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของเยี่ยเฟิง"พอเจ้าถูกส่งไปให้นายท่านเสาเย่า ลองเดาดูสิว่า ชีวิตของยัยแก่บ้านั่นจะเป็นอย่
เจียงซวี่ดวงตาหดอย่างรวดเร็ว เนื้อตัวสั่นเทาไม่หยุดจนเห็นได้ชัดว่าเขากลัวมาก"พวกเจ้าอย่า......อย่า......แค่กๆ......"กู้ชูหน่วนหัวเราะชอบใจ "พี่ใหญ่เฉินเฟยเจ้าเล่ห์ไม่เบาเลย วิธีนี้ดีมาก แต่ก่อนส่งตัวให้นายท่านหลัน เราน่าจะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกเลยนะ"พอได้ยินกู้ชูหน่วนพูดเช่นนั้น อี้เฉินเฟยก็เข้าใจในทันที เขาบิดแขนขาของเจียงซวี่จนกระดูกหักไปหลายท่อน ทำเอาเจียงซวี่เจ็บปางตายเจียงซวี่เจ็บมากจนอยากร้องออกมา เพียงแต่เสียงติดอยู่ในลำคอ จะเค้นเสียงเช่นไรก็เปล่งออกมาไม่ได้กู้ชูหน่วนที่มองดูอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกเจ็บไปด้วยกระดูกถูกบีบจนหักทีละชิ้น แม้เจียงซวี่จะไม่พิการ แต่อย่างน้อยก็ต้องนอนติดเตียงหลายวันเมื่อมองไปที่อี้เฉินเฟยอีกครั้ง ใบหน้าของเขายังคงปรากฏรอยยิ้มจางๆ หากไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ก็ไม่อาจเชื่อได้เลยว่าคนที่อ่อนโยนและอบอุ่นจะลงมือทำร้ายคนได้รุนแรงเพียงนี้กู้ชูหน่วนควักยาเม็ดหนึ่งออกมาจากอกแล้วบังคับให้เขากิน พร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "นี่คือยาทะลุไส้ หากไม่มียาแก้พิษของข้า ร่างกายของเจ้าจะเน่าเปื่อย เริ่มจากอวัยวะภายใน กระทั่งทั้งร่างกายเน่าเปื่อยจนตาย แน่นอนเจ้าอาจไม่เชื
"เช่นนั้น บอกข้ามาซิว่าที่นี่มีบ่าวรับใช้ทั้งหมดกี่คน และจะพาบ่าวรับใช้เหล่านั้นออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยได้อย่างไร"เจียงซวี่ตกใจมากเมื่อได้ยินคำถามของนาง "เจ้าจะพาบ่าวรับใช้พวกนั้นออกจากเผ่าหมอ? เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!"กู้ชูหน่วนยิ้มพลางเอามือเท้าคาง แล้วมองไปที่เขาด้วยดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และไร้เดียงสาสายตาของนางพูดชัดเจนว่า หากนางพาบ่าวรับใช้ไปไม่ได้ ก็ตายไปพร้อมกันเจียงซวี่โกรธจัด "เจ้าบ้าไปแล้วรึ? เห็นเผ่าหมอเป็นตลาดสดหรืออย่างไร อยากมาเมื่อไหร่ก็มา อยากไปเมื่อไหร่ก็ไป!""เลยอยากให้เจ้าร่วมมือไง หากเจ้าไม่ให้ความร่วมมือ ข้าจะเก็บเจ้าไว้ทำไม?"เจียงซวี่โกรธจนพูดไม่ออกแต่พอนึกถึงความเป็นไปได้ที่อาจถูกส่งไปอยู่บนเตียงของนายท่านหลัน แล้วอาจต้องตายจากร่างกายเน่าเปื่อย เจียงซวี่ก็รู้สึกตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว"จำนวนบ่าวรับใช้ที่นี่ ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด แต่ข้ารู้ว่า นอกจากเจดีย์แห่งนี้ ยังมีอีกสองแห่งที่มีบ่าวรับใช้จำนวนมาก พวกเขาถูกขังอยู่ในนั้น ทุกประตูเจดีย์ทำจากเหล็กกล้า ไม่มีลูกกุญแจเปิดไม่ได้เลย""แล้วอย่างไรต่อ""แต่ละชั้นของเจดีย์มียามเพียงสี่คน ยกเว้
"พวก......พวกเจ้ากล้า......" เจียงซวี่เอ่ยอย่างไม่มั่นใจกู้ชูหน่วนยิ้มกว้างและตอบว่า "ลองดูก็ได้ว่าข้ากล้าหรือไม่ ข้างนอกเหมือนจะมีคนเดินเข้ามา พี่ใหญ่เฉินเฟิง หากเขาอยากเป็นบ่าวรับใช้ขนาดนี้ เราก็น่าจะทำตามใจเขาสักหน่อยเถิด""ตึก ตึก ตึก......"ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังขึ้นจากระยะไกล ก่อนจะเข้ามาใกล้และชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เจียงซวี่รู้ดีว่าคนพวกนั้นมายกเยี่ยเฟิงหัวใจของเจียงซวี่ที่รู้สึกลนลานอยู่แล้ว กลับยิ่งรู้สึกไม่สงบมากขึ้น เมื่อเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเจียงซวี่รีบพูดออกไปว่า "หากจะหนีจากเผ่าหมอให้เร็วที่สุด ก็ต้องผ่านทางกระเช้า หากไม่ใช่ทางนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นที่เร็วกว่าแล้ว แต่หอสัญญาณไฟจะเปลี่ยนเวรกันทุกสี่ชั่วยาม อีกครึ่งยามก็จะเป็นเวลาผลัดเปลี่ยนเวรแล้ว เจ้าลองดูว่าจะสามารถหนีได้หรือไม่ในช่วงที่พวกเขาผ่อนคลายขณะเปลี่ยนเวร""แล้วหอสัญญาณไฟมียอดฝีมืออยู่กี่คน?"กู้ชูหน่วนถามด้วยความสนใจ "ที่แต่ละหอสัญญาณไฟจะมียอดฝีมือขั้นสองอยู่หนึ่งคน บางจุดก็มียอดฝีมือขั้นสามอยู่ด้วย ส่วนยอดฝีมือขั้นหนึ่งจะมีอย่างน้อยสามคน นอกจากนั้นยังมียอดฝีมือแห่งยุคและนักธนูที่มีวิทยายุทธเก่งกล
เจียงซวี่โกรธจัดกู้ชูหน่วนไม่ได้มีเจตนาจะปล่อยเขาไปเลยสักนิด นางแค่เย้าแหย่เขาราวกับแมวเล่นหนูอย่างสนุกสนาน"กึก กึก......"สุราลงท้องเจียงซวี่อีกสองไห เขาอิ่มจนท้องป่อง และสมองก็เริ่มมึนงงขึ้นมา"เจ้าไม่รักษาทำพูด......อืม......""ปัง......"กู้ชูหน่วนโยนไหสุราทิ้งพลางเอ่ยเสียงเย็นชาว่า "มีกฎบังคับว่าข้าต้องรักษาคำพูดด้วยหรือ?""เจ้า......เจ้าหลอกข้า""ใช่ ข้าหลอกเจ้า สิ่งที่เจ้าทำกับเยี่ยเฟิง แม้จะใช้บทลงโทษที่โหดร้ายที่สุดในโลก ก็ไม่สามารถชดเชยได้ แล้วอีกอย่าง......ข้ากู้ชูหน่วนไม่เคยเป็นคนดี"เจียงซวี่อยากจะพูด แต่กู้ชูหน่วนส่งสายตาให้กับอี้เฉินเฟย และทันทีที่เห็นเขาทำท่าทางตอบรับ เขาก็เดินไปกดจุดปิดเสียงของเจียงซวี่ และเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขากับเยี่ยเฟิงกู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "ไม่ต้องห่วง หากเจ้าทำตัวดี อาจได้รับการโปรดปรานจากนายท่านหลัน เจ้าจะได้ไม่ต้องอิจฉาเยี่ยเฟิงอีกต่อไป และรู้สึกเป็นเกียรติแทน"เจียงซวี่ร่ายยาว แต่กลับไม่มีเสียง จึงทำได้เพียงมองไปที่กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยด้วยสายตาขอความช่วยเหลือเขารู้ดีว่านายท่านหลันเป็นคนแบบไหน เขาไม่อยาก......เขาไม่อยากเป็นบ่าวรั
อี้เฉินเฟยใช้วิชาแปลงโฉมเป็นเจียงซวี่ จากเจดีย์ชั้นที่เจ็ดลงไปยังชั้นที่หก คนเฝ้าประตูเจดีย์ก็ก้มศีรษะเคารพ โดยไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย"วันนี้นายท่านอารมณ์ดีมาก ให้ข้าพาบ่าวรับใช้ทั้งหมดในเจดีย์ไปด้วย พวกเจ้าทั้งสองไปพาบ่าวรับใช้ในเจดีย์ออกมาที"อี้เฉินเฟยเอ่ยพลางโยนกุญแจไป น้ำเสียงดูหยิ่งผยองนัก"ทั้ง......ทั้งหมด......""ทำไม? เจ้าจะขัดนายท่านหรือ?""ไม่ๆ ๆ ข้าน้อยมิบังอาจ ข้าจะไปประเดี๋ยวนี้"สมุนสองคนที่เฝ้าเวรยังคงสงสัยอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของอี้เฉินเฟยที่ดูดุร้าย พวกเขาก็ไม่กล้าสงสัยอะไรอีก เพราะเจียงซวี่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมมากในเผ่าหมอตั้งแต่ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สอง พวกเขาผ่านไปได้อย่างปลอดภัยกู้ชูหน่วนทาหน้าเยี่ยเฟิงให้ดำ และประคองเขาไปหลบในฝูงชนที่พูดว่าประคอง ควรพูดว่าแบกเยี่ยเฟิงยังเหมาะกว่า เพราะเขานอนพิงอยู่บนตัวของนาง แทบจะทำให้นางล้มทั้งยืนเหล่าสมุนเฝ้าเวรที่อยู่ในเหตุการณ์เริ่มกระซิบกัน"ในเจดีย์มีคนเกือบห้าสิบ ไม่รู้ว่านายท่านจะมีความใคร่อะไรขนาดนั้น""ชู่ว นายท่านมิใช่คนที่เราจะพูดถึงได้ หากคนอื่นได้ยินเข้า ต้องโดนลงโทษหนักแน่""ไม่ใช่
"ขอรับๆ ๆ......"เจดีย์แรกค่อนข้างราบรื่น สมุนทำตามคำสั่งของพวกเขาและได้พาผู้คนไปยังหอสัญญาณไฟกู้ชูหน่วนไม่วางใจอี้เฉินเฟยที่ไปพาบ่าวรับใช้ของเจดีย์อีกสองแห่งมาคนเดียว จึงให้บ่าวรับใช้คนอื่นๆ ช่วยกันพาเยี่ยเฟิงที่เมาสุราไปยังหอสัญญาณไฟ ส่วนตัวนางเองก็ตามอี้เฉินเฟยไปเจดีย์ที่สองก็ราบรื่นเช่นกันเมื่อลงมาถึงชั้นแรกของเจดีย์ที่สาม ก็ไม่ได้พบกับปัญหาอะไรมากนัก พวกเขาคิดว่าจะสามารถนำทุกคนไปยังหอสัญญาณไฟได้แล้วแต่ทันใดนั้น ก็มีคนตะโกนเรียกพวกเขา"หยุด พวกเจ้าพาบ่าวรับใช้จำนวนมากออกไปทำไม""กลับไปรายงานเจ้าตำหนักหลิน นายท่านได้สั่งให้พาบ่าวรับใช้ในเจดีย์ไปยังยอดเขาหลักทั้งหมด""บ่าวรับใช้ทั้งหมด? ทำไมข้าไม่เคยได้รับคำสั่งนี้?""เอ่อ......"สมุนมองไปยังอี้เฉินเฟยด้วยความลำบากใจพวกเขาก็ไม่ได้รับคำสั่ง พวกเขาไม่อยากปล่อยคนไป แต่เจ้าตำหนักเจียงมีท่าทีแข็งกร้าว หากพวกเขาไม่ทำตาม ทุกคนจะต้องเดือดร้อน และเมื่อมองดูเจ้าตำหนักเจียงแล้ว ก็ไม่เหมือนจะปลอมแปลงคำสั่ง พวกเขาจึงต้องทำตาม"ที่แท้ก็เจ้าตำหนักเจียงนี่เอง นึกว่าใครเสียอีก เจ้าตำหนักเจียงจะมือยาวเกินไปหน่อยแล้วกระมัง แม้แต่บ่าวรั
สีหน้าของเจ้าตำหนักหลินมืดมนลงไปอีกเขาพยายามพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงแรงจูงใจของอี้เฉินเฟยเขาสงสัยว่าอีกฝ่ายอาจมีเป้าหมายอื่นแต่หากเป็นคำสั่งของนายท่านที่ให้เขาพาเหล่าบ่าวรับใช้ไปจริงๆ เขาคงต้องโดนลงโทษแน่เจ้าตำหนักหลินลำบากใจหลังจากลังเลอยู่นาน เขาก็เอ่ยปากขึ้นว่า "ข้ายังยืนยันคำเดิม หากปราศจากคำสั่งของนายท่าน ใครหน้าไหนก็พาบ่าวรับใช้พวกนี้ไปไม่ได้ แต่ข้าสามารถตามท่านไปยอดเขาหลักเพื่อเข้าพบกับนายท่านได้ หากเป็นคำสั่งของนายท่านจริง ข้าจะขอรับผิดเอง"กู้ชูหน่วนยกมือซ้ายขึ้น โปรยผงยาสีหน้าของเจ้าตำหนักหลินปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบปิดตาและกลั้นหายใจ หลบเลี่ยงการโจมตีของผงยาในขณะที่เขากำลังหลับตา กู้ชูหน่วนก็ยกมือขวาขึ้นอีกครั้ง ปล่อยเข็มเงินจำนวนมากโจมตีเจ้าตำหนักหลินและสมุนของเขาการเคลื่อนไหวของนางเร็วมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา เจ้าตำหนักหลินไม่ทันตั้งตัว และถูกกู้ชูหน่วนดีดเข็มใส่จนสลบไปพร้อมกับสมุนคนอื่นๆกู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "ง่ายและเร็วสุด พูดพร่ามกับเขาให้มากความทำไม"อี้เฉินเฟยหัวเราะไม่ออก ไม่ต้องพูดพร่าม ลอบโจมตีเลยเนี่ยนะ?"ไปกันเถอะ รีบออกจากที่นี่โดยเร็ว"กู้ชู
"แควก......"นายท่านหลันจับคอเขาไว้และยิ้มอย่างน่าขนลุก "เงื่อนไขของเจ้า ข้าไม่มีทางรับปาก แต่ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า"มือใหญ่หยาบของเขา ลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาของเยี่ยเฟิงอย่างพึงพอใจ มองดูเขาใบหน้าแดงก่ำเพราะหายใจไม่ออก"เจ้าจงส่งมอบยาถอนพิษมาแต่โดยดี มิฉะนั้นข้าจะหักกระดูกของเขาออกทีละชิ้น จากนั้นจะมอบเขาให้กับบรรดาสมุนนับพันนับหมื่นของเผ่าหมอ แน่นอน ข้าจะให้เจ้าชมอยู่ข้างๆ เขา""อ่อ...... เจ้าอย่าหวังว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะมาช่วยเจ้าเลย เพราะหัวหน้าเผ่าหมอยุ่งมาก ไม่มีเวลาสนใจเรื่องของเผ่าหมอ สมุนจำนวนมาก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาดำรงอยู่"กู้ชูหน่วนไม่ใช่คนโง่เขาได้ยินออกว่า ความหมายของนายท่านหลันคือ พวกเขายังเลี้ยงดูสมุนกลุ่มหนึ่งไว้เป็นการส่วนตัว เป็นสมุนที่แม้แต่หัวหน้าเผ่าหมอก็ไม่รู้แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเนายท่านหลันถึงกลัวว่าเรื่องที่เขาจะจัดการกับนางจะถูกหัวหน้าเผ่าหมอรู้เข้าแต่ต้องยอมรับว่าความคิดนี้ต่ำช้าจริงๆคำพูดของนายท่านหลันเพิ่งจบ นิ้วก้อยซ้ายของเยี่ยเฟิงก็ถูกหัก เสียงดังกรอบเยี่ยเฟิงกัดฟันแน่น ไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย ราวกับว่าสิ่งที่ถูกหักไม่
"ตู้ม......"ฝ่ามืออีกครั้งที่พลาดเป้าไป ทำให้ สวีซานเหนียงโกรธจัด "เจ้ามัวแต่หลบเลี่ยง คิดว่าทำแบบนี้จะหนีพ้นงอย่างนั้นหรือ?""อย่างน้อยก็ช่วยรักษาชีวิตข้าไว้ได้"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะสวีซานเหนียงก็โจมตีด้วยกระบวนท่ารอยประทับหัตถ์โลหิตอีกครั้ง คราวนี้ กู้ชูหน่วน ไม่ได้ถอยหนี แต่กลับพุ่งเข้าใส่"ตู้ม......"ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงร่างกายของกู้ชูหน่วนราวกับว่าวที่ขาดสาย ลอยกระเด็นไปข้างหลัง เลือดคำโตพุ่งออกมา อวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรงสวีซานเหนียงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นางมองกู้ชูหน่วนอย่างผู้ชนะ"ยัยขี้เหร่ ใครที่โดนรอยประทับหัตถ์โลหิตของข้า ไม่มีใครรอดชีวิตไปได้สักคน"กู้ชูหน่วนบ้วนเลือดในปากทิ้ง กัดฟันพยุงร่างลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลบนร่างของนางยังคงแผ่รังสีแห่งความดื้อรั้น ไม่ยอมแพ้ และความหยิ่งผยอง"อย่างนั้นรึ แต่ข้ากู้ชูหน่วนชอบทำลายกฎอยู่แล้ว อีกอย่าง ต่อให้เจ้าตาย ข้าก็อาจจะไม่ตายก็ได้"นางคลึงนิ้วของนาง ร้อนจนเจ็บปวดจริงๆในโลกใบนี้ หากไม่มีวิทยายุทธ ก็คงจะลำบากจริงๆทุกคนต่างมองนางด้วยความประหลาดใจรรอยหัตถ์โลหิตของสวีซานเหนียง เป็นพิษและมีอุณหภูมิสู
"ตู้ม ตู้ม ตู้ม......"ผ่านไปอีกหลายฝ่ามือ กู้ชูหน่วนได้แต่หลบเลี่ยงไม่ตอบโต้แม้ว่านางจะหลบได้ทุกครั้ง แต่องครักษ์ลับก็ยังคงร้อนใจอย่างมาก และเพราะเสียสมาธินี่เอง ทำให้องครักษ์ลับสองคนถูกทวนฟางเทียนฮว่าจี่ของสวีเจิ้นฟาดเข้าที่ศีรษะ สมองของพวกเขาแตกกระจายออกมา เสียชีวิตอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุเยี่ยเฟิงดิ้นรนลุกขึ้นยืน "นางเป็นพระชายาของเทพสงคราม หากพวกเจ้าฆ่านาง เทพสงครามจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่""เพียะ......"นายท่านหลันตบหน้าเขาอีกครั้ง เขาลงมือหนักมาก การตบครั้งนี้ทำให้เลือดจากหูของเยี่ยเฟิงไหลออกมาจำนวนมาก ไม่รู้ว่าแก้วหูของเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่นายท่านหลันจับคอเสื้อของเขา ใบหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสอันดุดันและกระหายเลือดของเขาเข้ามาใกล้เขา ราวกับปีศาจจากขุมนรก และเค้นคำพูดออกมาทีละคำ"เจ้าใส่ใจนางมากขนาดนั้นเลยหรือ? เพื่อนาง ถึงกับกล้าขัดคำสั่งของข้า เพื่อนาง ถึงกับยอมสละชีวิตของตัวเอง? เฟิงเอ๋อร์ ข้าว่าเจ้าคงลืมตัวตนของตัวเองไปแล้วจริงๆ""เฮือก......"เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดของเยี่ยเฟิงถูกฉีกออกต่อหน้าเขา ดวงตาของนายท่านหลันที่เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจและกระหายเลือดขยายใหญ่ข
เยี่ยเฟิงกระอักเลือดสดออกมาหนึ่งคำโดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว หน้าอกของเขาก็ถูกใครบางคนเหยียบอย่างแรง แรงกดนั้นทำให้กระดูกซี่โครงของเขาหักไปหลายซี่ เสียงกระดูกแตกดังกร็อบแกร็บ เขารู้สึกเจ็บปวดจนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ"ขอเพียงเจ้าอ้อนวอนข้า บางทีข้าอาจพิจารณาไว้ชีวิตเจ้า"เยี่ยเฟิงเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่ว่าหน้าอกของเขาจะเจ็บปวดเพียงใด เขาก็ยังคงดื้อรั้นที่จะไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมาสิบสามปีที่ราวกับตกอยู่ในขุมนรก เขาได้พิสูจน์เรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไร ก็ไร้ประโยชน์ จะยิ่งกระตุ้นความโหดเหี้ยมในใจของอีกฝ่าย ทำให้เขาได้รับความอัปยศมากขึ้นเท่านั้นกู้ชูหน่วนวางแม่เฒ่าเยี่ยลง กำหมัดแน่นจนข้อต่อกระดูกดังกร็อบแกร็บ และตวาดว่า "ปล่อยเขา""ปล่อยเขา? เจ้ามีสิทธิอะไรมาสั่งให้ข้าปล่อยเขา?" นายท่านหลันเหลือบมองกู้ชูหน่วน ใบหน้าเหลี่ยมของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจนอกจากฐานะของพระชายาแห่งเทพสงครามและเพื่อนของหัวหน้าเผ่าหมอแล้ว นางยังมีอะไรอีกหรือไม่?ทำไมถึงได้หยิ่งผยองเพียงนี้?สวีซานเหนียงบิดคอองครักษ์ลับที่อยู่ใกล้นางจนตายคาที่ นางเดินไปหากู้ชูหน่วนด้วยท่าทางยั่วยว
อินต้ากุ่ยกับนายท่านหลันสบตากันกัน พวกเขาล้วนเห็นเจตนาฆ่าในดวงตาของอีกฝ่ายกู้ชูหน่วนอาจจะเกี่ยวพันกับสำนักซิวหลัว และยังฆ่าคนแคระเจี่ยน ยุยงเทพสงครามให้โจมตีเขาหมายวิญญาณ ทำให้พวกเขาล้มตายไปจำนวนมาก แม้แต่เขาหมายวิญญาณก็ถูกทำลายไปเกินครึ่งหากไม่ฆ่านาง ก็คงไม่สามารถคลายความแค้นในใจได้ขอเพียงคนเหล่านี้ถูกฆ่าทั้งหมด ถึงเวลานั้นก็ไม่มีหลักฐาน และหัวหน้าเผ่าหมออาจจะไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนฆ่าด้วยซ้ำสิ่งที่นายท่านหลันเกลียดที่สุดคือความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของนางกับเยี่ยเฟิงเยี่ยเฟิงเป็นคนของเขา ชีวิตนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถแตะต้องได้ แม้แต่ความตายก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่ฆ่าได้กู้ชูหน่วนถอยหลังไปหลายก้าวและเอ่ยเสียงดังว่า "พวกเจ้ารีบไปเร็ว ไปหาเย่จิ่งหาน""ไป? นอกจากนรกแล้ว พวกเจ้าไปที่ไหนไม่ได้ทั้งสิ้น"เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานและพวกนายท่านหลันยืนอยู่ในทิศทางเดียว แล้วก่อตัวเป็นวงล้อมปิดกั้นเส้นทางของพวกเขาพวกเขาทั้งหก ไม่ว่าใคร ล้งนเป็นยอดฝีมือผู้เลื่องชื่อแห่งยุค โดยเฉพาะนายท่านหลันกับอินต้ากุ่ย ซึ่งหาคู่ต่อสู้บนโลกได้ยากยิ่งแต่ที่นี่ พวกเขาทั้งหมดเป็นคนแก่และคนพิการ ไม่ม
กู้ชูหน่วนค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ และเมื่อหันศีรษะไปเห็นนายท่านหลันผู้มีสีหน้ามืดมนจนน่ากลัว นางก็ตกใจจนตัวสั่น"คนทำให้คนตกใจจนตายได้เลยนะ"ผู้พิทักษ์ซานเงื้อค้อนฟาดไปข้างหน้าด้วยความโกรธ "นังผู้หญิงสมควรตาย ไม่เพียงยุยงเทพสงครามโจมตีเขาหมายวิญญาณ ยังกล้ายุแหย่ให้แตกแยกกันอีก สมควรตายนัก"สีหน้าขององครักษ์ลับเปลี่ยนไป พลิกดาบยาวในมือ ปัดป้องค้อนเหล็กขนาดใหญ่"ปัง ปัง ปัง......"เพียงชั่วครู่ ก็ปะทะกันไปหลายสิบกระบวนท่าแล้ว"ตู้ม......"เสียงดังสนั่น องครักษ์ลับกระอักเลือด ผู้พิทักษ์ซานกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ชัยชนะและความพ่ายแพ้จึงปรากฏขึ้นทันทีกู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "ทำไม พูดความจริงแล้วโกรธจนทนไม่ได้รึ? นายท่านหลัน ไม่ใช่ว่าข้าว่าเจ้านะ เจ้านี่หน้าไม่อายเสียจริงๆ พวกเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานเห็นเจ้าเป็นพี่ เป็นสหาย แต่เจ้ากลับหลอกแม้กระทั่งพวกเขา"พลังภายในมือของนายท่านหลันรวมตัวเป็นลูกไฟ และเห็นได้ชัดว่าขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาที่ไร้ซึ่งอุณหภูมินั้นก็จ้องมองไปที่กู้ชูหน่วน ราวกับว่ากู้ชูหน่วนกลายเป็นคนตายไปแล้วเยี่ยเฟิงคลานขึ้นอย่างยากลำบาก และเตือนด้วยเสียงสั่นเครือ
สวีซานเหนียงหัวเราะเยือกเย็น "นังหนู ข้าจะบอกพวกเจ้าตามตรงแล้วกัน นายท่านหลันกับพวกเราสนิทกันนัก เจ้าจะว่าร้ายผู้ใดก็ได้ แต่กลับชี้ไปที่เขา เจ้าคิดว่าพวกเราจะเชื่อเจ้าหรือ อีกอย่าง พวกเราก็เพิ่งกลับมาจากเขาหมายวิญญาณ"กู้ชูหน่วนเหยียดหยันในใจช่างสมเป็นปลาข้องเดียวกันเสียจริง มีเพื่อนที่วิปริตอย่างนายท่านหลัน ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาน่าขยะแขยงขนาดนี้กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นตกใจ "เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อพวกเจ้าเป็นเพื่อนของนายท่านหลัน นายท่านหลันยังหลอกพวกเจ้าได้ลงอีกหรือ"สวีซานเหนียงและคนอื่นๆ ขมวดคิ้วมุ่นกู้ชูหน่วนถอนหายใจอย่างจนปัญญา "เจ้าคิดว่าเหตุใดหานอ๋องถึงส่งทหารไปที่เขาหมายวิญญาณเล่า เป็นเพราะข้าอย่างนั้นหรือ พวกเจ้าช่างใสซื่อเหลือเกิน เทพสงครามบุกเขาหมายวิญญาณ เพียงเพราะกระดิ่งภินวิญญาณอยู่ที่นายท่านหลันก็เท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะยอมทำเพื่อสตรีเพียงผู้เดียว ทั้งยังเป็นหญิงอัปลักษณ์ เพื่อผิดใจกับหัวหน้าเผ่าหมอได้อย่างไร"เดิมทีตีเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานให้ตาย พวกเขาก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดของกู้ชูหน่วนแต่เหตุการณ์ตรงหน้า คำพูดนี้ของนาง ฟังดูมีเหตุผลยิ่งนักเทพสงครามคือผู้ใด เขาต้อง
เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน ไม่ว่าคนไหนก็ล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญที่เลื่องชื่อในยุทธภพ โดยเฉพาะอินต้ากุ่ย ลูกพี่ใหญ่ของเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน วิทยายุทธสูงล้ำถึงขั้นที่แม้แต่เทพและปีศาจก็ไม่อาจคาดเดา แทบจะสูสีคู่คี่กับนายท่านหลันได้เลยยามนี้พวกเขาทั้งสามปรากฏตัวขึ้นที่นี่พร้อมกัน คิดว่าต้องไม่ประสงค์ดีเป็นแน่องครักษ์ลับคุ้มกันกู้ชูหน่วน พูดเสียงกร้าว "พวกเราคือคนของเทพสงครามหานอ๋อง ใต้เท้าไม่ใช่คนของเผ่าเทียนเฝิน แล้วก็ไม่ใช่คนของเผ่าหมอ จะช่วยไว้หน้ากันได้หรือไม่"จู่ๆ สวีซานเหนียงก็หัวเราะออกมาด้วยความคุ้มคลั่ง ดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งไปยังเยี่ยเฟิงที่บาดแผลเต็มตัว มีทั้งความชื่นชอบ ความโกรธ ซับซ้อนยากจะเข้าใจ"ไว้หน้าพวกเจ้างั้นรึ ตอนนั้นที่นังเด็กนั่นกับเจ้าเด็กคนนั้นฆ่าพี่น้องของข้า เคยไว้หน้าพวกข้าหรือไม่"ดวงตาทั้งสองข้างของสวีเจิ้นบอดสนิท มองไม่เห็นรูม่านตา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด "ยังมีดวงตาของข้า ลูกตาทั้งสองข้างของข้าถูกควักออกไป ล้วนแต่เป็นเพราะพวกเจ้า แค้นนี้ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องสะสางให้รู้เรื่อง"แม้ตาทั้งสองข้างของสวีเจิ้นจะมืดบอด แต่ความสามารถในการฟังกลับเป็นเล
ด้านบนมีค้างคาวกินคน ด้านล่างมีฝูงงูพิษวิธีการเช่นนี้ช่างโหดร้ายเกินไปองครักษ์ลับพากันเลียนแบบฝูกวง ใช้กำลังภายในของตนโจมตีฝูงค้างคาว พยายามปกป้องกู้ชูหน่วนสุดกำลังที่ตนมีกู้ชูหน่วนเอ่ย "เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ฝูกวง เจ้าคิดหาวิธีตามหาผู้อาวุโสที่แซ่ตงผู้นั้น แล้วคุมตัวนางไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเราไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้แน่""แต่หากข้าน้อยไปแล้ว นายหญิงจะทำเช่นไร""ข้ามีวิธีของข้า ข้าจะคุ้มกันเจ้า เจ้ารีบไป ไม่เช่นนั้นรอจนเจ้าใช้กำลังภายในหมด อยากจะจัดการนางก็คงไม่ไหวแล้ว"ฝูกวงกวาดสายตามองดูสถานการณ์การต่อสู้รอบๆสภาพการณ์ตรงหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นักผู้ใต้บัญชาของเย่จิ่งหานแต่ละรายต่างได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อยเยี่ยเฟิงบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังต้องปกป้องแม่เฒ่าเยี่ย ไม่มีความสามารถในการต่อสู้แล้วที่ยังสู้ได้ก็มีเพียงแค่เขากับองครักษ์ลับของเย่จิ่งหานจำนวนไม่กี่คนหากประวิงเวลาต่อไป เกรงว่าพวกเขาจะต้องตายเพราะใช้กำลังภายในจนหมดจริงๆคิดได้เช่นนี้ ฝูกวงจึงทำได้เพียงแค่กัดฟันพูด "ข้าพอจะรู้ตำแหน่งที่นางอยู่ นายหญิง อดทนไว้ ข้าน้อยจะใช้เวลาให้น้อยที่สุดหานางให้เจอ แล้วจะจัดการนางเสีย""ด