แชร์

บทที่ 19

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
"เอ่อ...จะให้ข้าเรียกยัยขี้เหร่ชื่อเสียงอื้อฉาวนั่นว่าพี่ใหญ่หรือ คงจะ..."

"พั๊วะ..."

เซียวอวี่เชียนยกเท้าถีบอีกครั้ง เอ่ยเสียงเดือดดาล "ใครกล้าด่าว่านางโง่เง่า คอยดูข้าสั่งสอนเขา อีกอย่างบนโลกนี้มีเพียงข้าคนเดียวที่เรียกนางว่ายัยขี้เหร่ได้ หากพวกเจ้ากล้าดูหมิ่นนางอีก ระวังหัวเจ้าไว้"

กู้ชูหน่วนมุมปากยกยิ้มดีใจ

นางกอดคอเพื่อนรัก เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เสี่ยวเชียนเชียนเป็นเด็กดี รู้จักปกป้องพี่ใหญ่"

"ไปไกลๆ อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นคุณหนูตระกูลขุนนาง เกาะแกะข้าเช่นนี้เหมาะสมแล้วหรือ"

"เซียวอวี่เชียน ในสายตาของเจ้าเคยมีเรื่องเหมาะสมด้วยหรือ"

เซียวอวี่เชียนยอมรับ ว่าฝีปากของเขาเทียบกู้ชูหน่วนไม่ได้เลย ต่อปากต่อคำกับนาง แม้แต่คนตายยังฟื้นขึ้นมาเพราะโมโห

เซียวอวี่เชียนสู้กู้ชูหน่วนไม่ไหว จึงทำได้เพียงระบายอารมณ์กับเหล่าคุณชาย

"มัวนิ่งอะไรอยู่ รีบเรียกพี่ใหญ่สิ"

"เอ่อ..."

เหล่าท่านชายหน้ามุ่ย มองเซียวอวี่เชียนด้วยสายตาอ้อนวอน แต่เซียวอวี่เชียนยังคงดึงดัน พวกเขาจึงต้องจำใจเรียก "ลูกพี่"

"ว่าไง"

กู้ชูหน่วนขานรับอย่างไม่ถ่อมตัว

เธอรู้ว่าเซียวอวี่เชียนปากร้ายแต่ใจดี เพราะเขากลัวว่าบรรดาคุณชา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 20

    เอ่อ...ทุกคนตามความคิดนางไม่ทันคนที่เข้ามาเรียนสำนักบัณฑิตหลวงได้ ยังสนใจเงินรางวัลอีกหรือ?เซียวอวี่เชียนบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ "หากเจ้าเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ ฮ่องเต้ต้องตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม" แค่เศษเงินก้นไห แต่คุณหนูสามสายหลักกลับตาลุกวาวหลิ่วเยว่ยิ้มเอ่ย "หากเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ คงเลื่องชื่อไปทั่วแน่"นางไม่ต้องการชื่อเสียงระบือไกล อยากได้แค่เงินเท่านั้น"หากชนะรอบตัดสินอีก ก็จะเป็นยอดอัจฉริยะชายและยอดอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่ง อาจารย์ซ่างกวานแห่งแคว้นเย่ของพวกเราคือผู้ชนะอันดับหนึ่งเมื่อครั้งก่อน หลายแคว้นหมายจะชิงตัวเขาไปใช้งาน แต่อาจารย์ซ่างกวานไม่อยากเป็นขุนนาง สุดท้ายแล้วจึงมาเป็นอาจารย์หนุ่มน้อยที่สำนักบัณฑิตหลวงของเรา เหอะๆ เจ้าไม่รู้อะไร ตอนนั้นหลายคนเสียดายมาก""อาจารย์ซ่างกวานได้รับขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสี่อัจฉริยะ แต่ในเมื่อมีสามอันดับแรก ก็ต้องมีใครสักคนเป็นหนึ่งจากการแข่งขันรอบสุดท้ายใช่หรือไม่?""แน่นอนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะได้รับขนานนามว่าหนึ่งในสี่อัจฉริยะของแผ่นดินหรือ"กู้ชูหน่วนเข้าใจในทันใดดูท่าแล้วอาจารย์ซ่างกวานจะมีของดี"ว่าแต่ เทพหมากล้อมกับเซียนกวี

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 21

    กู้ชูหน่วนตกตะลึง "หล่อเกินไปแล้วหรือเปล่า"เซียวอวี่เชียนไม่พอใจนัก "แล้วข้าไม่หล่อหรือ?""หล่อ เจ้าก็หล่อ แต่อาจารย์ของข้าหล่อกว่า""นี่ แม่นาง เจ้าคือหานอ๋องเฟยที่ฮ่องเต้วางตัวไว้ หากเทพสงครามรู้ว่าเจ้ามีใจให้ชายอื่น เจ้าไม่กล้วหัวหลุดออกจากบ่าหรือ""ใครๆ ก็ชอบสิ่งสวยงาม""…"ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เซียวอวี่เชียนถึงได้ไม่ชอบให้นางชื่นชมชายอื่น ในใจเจ็บแปลบ เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่อก"คำนับอาจารย์..."ทุกคนยืนขึ้นทำความเคารพ เอ่ยเสียดังก้องกู้ชูหน่วนยืนขึ้นในทันใด คำนับตามทุกคน ทว่ากลับเห็นองค์หญิงตังตังวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน คลุมผ้าปกปิดใบหน้าเอาไว้ แฝงตัวกับเหล่านักเรียน แม้ว่ากำลังคำนับ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับแอบมองซ่างกวานฉู่ตาไม่กะพริบองค์หญิงเอาแต่ใจเพิ่งถูกเธอสั่งสอนไปเมื่อตอนเช้า ร้องห่มร้องไห้โวยวาย ตอนนี้กลับมาแล้วหรือ?นางชอบอาจารย์ซ่างกวานขนาดนั้นเชียวกู้ชูหน่วนยกยิ้ม อีกฝ่ายกลับมาตัวเปล่า แสดงว่าเธอเดาถูก ฮ่องเต้ต้องการเล่นงานเทพสงคราม แต่เธอนั้นคือพระชายาที่ถูกวางตัวไว้ จึงไม่สามารถลงมือกับเธอได้ในตอนนี้ เพราะอย่างนั้นถึงองค์หญิงตังตังจะฟ้องอะไรก็ไร้ผล"นั่งเถิด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 22

    ฮะ...ให้เธอดีดฉิน?เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?จะให้เธอดีดอะไร?เธอไม่รู้ว่าเมื่อกี้เขาสอนอะไรด้วยซ้ำ?กู้ชูหน่วนรีบหันไปหาเซียวอวี่เชียนเซียวอวี่เชียนหันหน้าหนีอย่าลากเขาไปซวยด้วยเลยเขาเองก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวานสอนอะไร ขืนอาจารย์ซ่างกวานให้เขาดีดฉินขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร?"คุณหนูสามกู้ เชิญ" อาจารย์ซ่างกวานชี้ไปที่ฉินบนโต๊ะ ทำท่าเชิญอย่างสุภาพกู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิก"อา...อาจารย์ ข้าเล่นเพลงไหนก็ได้ใช่ไหม?""ก็ย่อมได้ เล่นเพลงถนัดของเจ้าก็ได้""เช่นนั้นก็ได้ เล่นก็เล่น ใช่ว่าจะไม่เคยเล่นเสียหน่อย"กู้ชูหน่วนนั่งลง สองมือวางลงบนฉิน ราวกับกำลังชั่งใจว่านิ้วไหนควรวางตำแหน่งใดเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นริมทะเลสาบอีกครั้ง"ฮ่าๆ...คงไม่ถึงขั้นไม่รู้ว่าต้องวางมืออย่างไรหรอกกระมัง""ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน ดูท่าวางมือของนางสิ ผิดหมดเลย"สายตาเย็นชาของกู้ชูหลันมองดูเรื่องตลก สะใจยิ่งนักกู้ชูอวิ๋นนิ่งเฉย ราวกับเป็นคนนอกเจ๋ออ๋องสีหน้าไร้อารมณ์ ประหนึ่งว่าทุกอย่างที่เป็นกู้ชูหน่วนนั้นไม่ข้องเกี่ยวกับเขาส่วนคนอื่นก็พากันหัวเราะ รอดูเรื่องขบขันเซียวอวี่เชียนโวยกลับอย่างไม่เก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 23

    "อาจารย์ ซ้อมห้าสิบรอบนั่นก็ยกเลิกเสียเถิด ข้าเห็นคนในสำนักบัณฑิตเล่นเก่งกว่าข้าทั้งนั้น""ต้องซ้อม ฝีมือดีดฉินของพวกเขาสู้คุณหนูสามไม่ได้เลย หากคุณหนูสามไม่เล่น ข้าจะกราบทูลฝ่าบาท กราบทูลหานอ๋อง แจ้งท่านอัครเสนาบดี ให้พวกเขามารับฟังบทเพลงอันไพเราะของคุณหนูสาม"อาจารย์ซ่างกวานยังคงยิ้มบางเหมือนก่อนหน้า ชดช้อยสง่างามทว่าในสายตาของกู้ชูหน่วนนั้น กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นชั่วร้ายเสียไม่มีข่มขู่แบบนี้มันข่มขู่กันชัดๆเป็นถึงอาจารย์แต่ไม่ตั้งใจสอน เธออุตส่าห์ไม่เอาเรื่อง แต่จงใจกลั่นแกล้งเธอเช่นนี้ เธอไม่นับเป็นครูหรอกทุกคนทั้งตกใจทั้งตลกตกใจที่อาจารย์ซ่างกวานที่ไม่เคยลงโทษนักเรียน ทว่าวันนี้เขากลับแหกกฎสวรรค์ทำโทษคุณหนูสามกู้ตลกที่กู้ชูหน่วนอวดดีขนาดนั้น สมแล้วที่โดนลงโทษกู้ชูหน่วนกัดฟันกรอด "ได้ เล่นก็เล่น หากพวกเจ้าไม่รำคาญก็แล้วแต่ ข้าจะเล่นเดี๋ยวนี้เลย""ระหว่างเรียน ขอโปรดอย่ารบกวนนักเรียนคนอื่น เลิกเรียนแล้วค่อยว่ากัน"ให้ตายสิ...นี่มันบังคับให้อยู่ต่อชัดๆหลังเลิกเรียนนางต้องไปร้านยาอีกนะ"การแข่งขันครั้งนี้มีทั้งฉิน หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพ เมื่อครู่สอนฉินไปแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 24

    "เอ่อ...ก็พอไหว""เช่นนั้นขอเชิญคุณหนูสามวาดภาพพร้อมให้คำบรรยาย"กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูดซ่างกวานฉู่วางแผนมาแล้วสินะ ให้เธอวาดรูปแล้วแต่งกลอนประกอบอีกบทหนึ่ง เพื่อทดสอบทั้งการเขียนพู่กัน วาดภาพ แต่งกลอน"อาจารย์ ข้าวาดภาพเก่งเกินไป กลัวว่าคนอื่นเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ ข้าขอไม่วาดดีกว่า"ทุกคนแทบกระอักเลือดวาดเก่งเกินไป กลัวว่าพวกเขาเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ หมายความว่าอย่างไร?เพ้อเจ้อใครจะเชื่อพวกหลิ่วเยว่หันไปมองเซียวอวี่เชียนลูกพี่ของพวกเขาไหวไหมเนี่ย ทำไมรู้สึกเหมือนเชื่อถือไม่ได้เลยเซียวอวี่เชียนปิดหน้าตัวเองไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกพี่ของเขาทำเรื่อง 'งามหน้า' สำนักบัณฑิตหลวงอีกแล้ว"ไม่เป็นไร ทุกคนต้องการกำลังใจจากคุณหนูสาม"ซ่างกวานฉู่ยิ้มไร้พิษภัย อาจารย์ต้นแบบที่ทุกคนในสำนักบัณฑิตต่างชื่นชม เพราะมีแค่อาจารย์ซ่างกวานที่ความอดทนสูงขนาดนี้ทว่ากู้ชูหน่วนด่าเขาอยู่ในใจไม่รู้กี่หนต่อกี่หนนางหยิบพู่กันขึ้นมา จุ่มลงน้ำหมึกอย่างแรง ก่อนจะละเลงลงบนกระดาษขาว น้ำหมึกที่จรดฝ่าฝีแปรงทั้งเข้มทั้งหนาทั้งแน่นทุกคนตกตะลึงนางวาดวงกลมแล้วต่อด้วยอีกวง จนสุดท้ายยังถมหมึกดำจนเต็

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 25

    "เอาละ คาบวันนี้จบลงเท่านี้ พรุ่งเช้าเรียนตามปกติ ส่วนตอนบ่ายจะเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้เสียชื่อสำนักบัณฑิตหลวง""ขอรับอาจารย์""คุณหนูสามกู้ อย่าลืมซ้อมห้าสิบหน ท่านชายเซียว อยู่คอยเฝ้าด้วย หากซ้อมไม่ครบห้าสิบรอบ เจ้าก็ดีดแทนนาง"ให้ตายสิซ่างกวานฉู่บ้าไปแล้วหรือทำโทษนางก็ทำไปสิ แต่ยังต้องมีคนคอยเฝ้าอีกเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้งในทันใดฉินที่กู้ชูหน่วนดีด ใครจะทนฟังไหว? หากต้องฟังห้าสิบรอบจริงๆ เขาไม่เลือดไหลทะลักออกทุกทวารหรอกหรือเดิมคนในสำนักบัณฑิตหมายจะอยู่รอดูเรื่องสนุกด้วย แต่ฉินที่กู้ชูหน่วนเล่นนั้นบาดหูเหลือเกิน พวกเขาได้ยินแล้วถึงกับหูอื้อตาลาย จึงไม่กล้าอยู่ต่อจริงๆ ก่อนจะพากันแยกย้ายราวกับวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเซียวอวี่เชียนหยิบที่อุดหูออกมาแล้วยัดเข้าหูในทันที เบะปากอย่างหมดคำจะพูด"แหน่ว แหน่ว แหน่ว..."เสียงฉินบาดหูดังไปทั่วสำนักบัณฑิตหลวง เหล่าองครักษ์ที่ได้ยินแทบอยากจะลาออกมันเดี๋ยวนั้นหนวกหูหนวกหูเกินไปแล้วในห้องโอ่อ่าห้องหนึ่งของสำนักบัณฑิตหลวงเย่จิ่งหานเห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนบ่าย อดไม่ได้ที่จะสนใจในตัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 26

    "จริงหรือ?"เซียวอวี่เชียนไม่เชื่อที่นี่นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ก็ไม่มีใครอื่น นางจะขโมยมาจากไหน"จริงสิ โกหกเจ้าแล้วได้อะไรขึ้นมา""เหอะ กู้ชูหน่วน เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ หมึกยังไม่แห้งเลยด้วยซ้ำ"ซวยแล้ว เจ้าหมอนี่ตาไวชะมัด ขนาดนี้ยังเห็นอีกหรือนางเอ่ยพึมพำเฉไฉ "เมื่อครู่คนเยอะ ข้าเลยแสดงฝีมือได้ไม่เต็มที่ ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว เขาก็เลยเขียนได้ตามปกติ"คำพูดนี้หลอกเด็กยังพอไหว แต่ใช้หลอกเขาน่ะหรือ? ไปหัดมาใหม่เซียวอวี่เชียนเองก็ไม่อยากเซ้าซี้เรื่องนี้ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย"ยาสองชนิดนั้นหายากมาก ในแคว้นนี้คงมีอยู่ไม่กี่ต้น แต่ดอกเยียนหลัวข้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน"กู้ชูหน่วนตาเป็นประกาย ถามอย่างตื่นเต้น "เจ้าว่าอะไรนะ เจ้ารู้หรือว่าดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหน?""รู้ไปก็เท่านั้น แต่เจ้าเด็ดมันไม่ได้หรอก""เจ้าลองว่ามาก่อน""ยัยขี้เหร่ เจ้าจะเอาดอกเยียนหลัวไปทำอะไร นั่นมันยาพิษนะ"หากไม่ใช่พิษ นางไม่อยากจะเอาด้วยซ้ำพิษบนใบหน้าของนางก็ต้องสู้ด้วยพิษ"เห็นแก่มิตรภาพ เจ้าบอกข้ามาเถอะน่า ดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหนหรือ?"เซียวอวี่เชียนก็ยังไม่ยอมบอก กู้ชูหน่วนเซ้าซี้อยู่นานกว่าจะหลอกล่อให้เขาพู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 27

    เป็นที่รู้กันว่ากู้ชูหน่วนได้ฉายาว่าคนไม่เอาถ่าน คนส่วนใหญ่วางเดิมพันให้กับเจ๋ออ๋องหรือกู้ชูอวิ๋น เมื่อชื่อเสียงของเจ๋ออ๋องและกู้ชูอวิ๋นนั้นเป็นที่รู้จักมานานในแคว้นเย่ข่าวฉาวของกู้ชูหน่วนนั้นไม่น่าฟังเอาเสียเลย ชิวเอ๋อร์ได้ยินแล้วก็เดือดเป็นไฟ สีหน้าของเซียวอวี่เชียนก็ไม่สู้ดีนักเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้ง กลอกตาใส่นาง "ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้าคิดจะทำอะไร คนอื่นเขากลัวว่าชื่อเสียงของตัวเองจะป่นปี้ แต่เจ้ากลับกัน ใช้เงินจ้างคนมาทำลายชื่อเสียงของตัวเอง อย่างกับกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนไม่เอาถ่าน""ใช้แล้วเจ้าค่ะๆ"ชิวเอ๋อร์เองก็โมโห เดิมที่คุณหนูหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ก็ขายออกยากอยู่แล้ว ยามนี้ยังมาทำให้ตัวเองเสียชื่ออีก ใครจะกล้ามาสู่ขอนางกลัวว่าแม้แต่เทพสงครามจะโมโหจะฆ่านาง"เจ้าจะไปเข้าใจอะไร"กู้ชูหน่วนผ่อนคลายสบายอารมร์ ลิ้มรสสุราชั้นดีของร้านผิงอัน ราวกับคนที่ถูกหัวเราะเยาะนั้นไม่ใช่นาง"คุณหนู ข้าไม่เข้าใจเลย ท่านบอกหน่อยได้ไหมว่าเหตุใดถึงได้ทำเช่นนี้?""จะเพราะอะไรอีกเล่า ก็หาเงินไง"ชิวเอ๋อร์แทบจะเป็นลมแล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับหาเงินเล่า?อีกอย่างเพื่อเงินเพียงน้อยนิ

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 258

    ขณะที่เยี่ยเฟิงเดินมาถึงประตูวิหารใหญ่ ซิ่งเอ๋อร์และฮองเฮาฉู่ได้พูดคุยกัน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ม่านตาหดเล็กลง ราวกับว่าเท้าของเขามีน้ำหนักเป็นพันชั่ง เขาจึงก้าวต่อไปไม่ได้"ฮูหยิน ท่านชายน้อยหายตัวไปนานหลายปีแล้ว แม้ว่ายามนี้เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านก็อาจจะจำเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?""ยามนั้นที่ข้าคลอดบุตรยากและสลบไป ข้าเห็นดอกเหมยที่บริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา ดอกเหมยที่กำลังเบ่งบาน ข้ายังคิดว่าทำไมเด็กชายถึงมีปานรูปดอกเหมยที่ไหล่ได้"ปาน......ดอกเหมย?เยี่ยเฟิงหายใจเร็วขึ้นเขาใช้ความพยายามอย่างมากจึงสามารถยืนอยู่หลังประตูได้ร่างกายเย็นเฉียบแนบชิดประตู ราวกับว่าหากไม่แนบชิดประตู เขาก็จะยืนไม่ไหวไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา......ก็มีปานเป็นรูปดอกเหมยเช่นกัน และยังเป็นดอกที่กำลังเบ่งบาน......แม่เฒ่าบอกว่า ตั้งแต่เขาเกิดก็......มี......"แค่ปานรูปดอกท้อ จะสามารถระบุตัวท่านชายน้อยได้อย่างไร? แล้วหากมีคนปลอมตัวล่ะเจ้าคะ?""เป็นไปไม่ได้ ดอกเหมยดอกนั้นแตกต่างจากดอกเหมยอื่นๆ กลีบดอกน้อยกว่าดอกเหมยทั่วไปหนึ่งกลีบ นอกจากข้าและแม่นมแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 257

    เมื่อได้ยินคำพูดของสาวใช้ เยี่ยเฟิงหันมองเล็กน้อยฮูหยินผู้นั้นกับลูกชายแท้ๆ ถูกพรากจากกันมานานถึงสิบแปดปี และเขาก็พลัดพรากจากพ่อแม่แท้ๆ มาสิบแปดปี นางอาจเป็นแม่ของเขาใช่หรือไม่?เมื่อมองดูฮูหยินอีกครั้ง ท่าทางสง่างาม พูดจาไพเราะ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ดูแลอย่างดี ไม่เหมือนคนยากจนเลยฮูหยินสูงศักดิ์เช่นนี้ จะเป็นแม่แท้ๆ ของเขาได้อย่างไรกันเยี่ยเฟิงหัวเราะเสียงเบาเขาคงคิดถึงพ่อแม่จนเพี้ยนไปแล้วฮองเฮาฉู่ตาแดงก่ำ ความเศร้าโศกแวบผ่านไป "ยามนั้น ลูกชายคนเล็กของข้าหลินเอ๋อร์ถูกขโมยไปที่นอกเมืองชิงหง ราชครูบอกว่า หากอยากจะตามลูกชายคนเล็กกลับมา ก็ต้องมาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋น ราชครูชำชองวิชาห้าธาตุแปดทิศ สามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้ เขาไม่โกหกข้าแน่นอน""แต่ท่านมาไหว้พระที่นี่ทุกปี และเมื่อก่อนก็มาสวดมนต์ที่วัดไป๋อวิ๋นทุกวัน ไม่ใช่ว่ายังหาเด็กชายคนนั้นไม่เจอหรอกหรือ"พอนึกถึงเรื่องในอดีต ซิ่งเอ๋อร์ก็ร้องไห้เมื่อเด็กน้อยถูกขโมยไป ฮองเฮาก็คิดถึงทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ในช่วงสิบปีแรก อยู่ที่วัดไป๋อวิ๋นสวดมนต์ทุกวัน เพื่อเพิ่มบุญให้กับท่านชายน้อย หวังว่าจะได้กลับมาเป็นครอบครัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 256

    กู้ชูหน่วนพยักหน้าเบาๆ “เช่นนั้นไปพักที่วัดไป๋อวิ๋นก่อนก็แล้วกัน”กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้จะปลอบเยี่ยเฟิงอย่างไรเรื่องแบบนี้ต้องให้เขาคิดเองนางก็ไม่ได้ตั้งใจจะเห็นฉากนั้น เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆเยี่ยเฟิงแม้จะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่นางก็รู้สึกได้เขามองนางเป็นเพื่อน และเพราะว่ามองนางเป็นเพื่อน จึงไม่อยากให้นางเห็นฉากที่น่าอับอายที่สุดของเขา“ร่างกายยังไหวหรือไม่? ห่กไม่ไหว เราพักที่นี่ก่อนก็ได้”“ไหว ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวเหล่าทหารจะไล่ตามมา”เยี่ยเฟิงเดินนำไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ปรากฏสีหน้าใดๆฝูกวงอธิบาย “วันนั้นในป่าไผ่ที่พลัดหลงกับนายหญิง พวกข้าเจอกับนายท่านของเผ่าหมอหลายคน พวกข้ายืนหยัดต่อสู้ไม่ไหว เยี่ยเฟิงขาช้าก็เลยถูกจับไป ข้าน้อยหานายหญิงไม่เจอ จึงแอบแฝงตัวเข้าไปในเผ่าหมอเพื่อไปช่วยเยี่ยเฟิง แต่ไม่นึกว่าจะเจอนายหญิงในเผ่าหมอ เรื่องต่อจากนั้น นายหญิงก็รู้แล้ว”“อืม ไปกันเถอะ”วัดไป๋อวิ๋น ที่นี่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของวัดชิงหง มีผู้มาทำกราบไหว้ไม่ขาดสาย ภายในวัดมีสามเณรน้อยเดินไปมาให้เห็นกู้ชูหน่วนประนมมือด้วยท่าทางนอบน้อม "ท่านเณรน้อย ได้ยินมาว่าวัดไป๋อวิ๋นศักดิ์สิทธิ์มาก พ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 255

    เมื่อพลังของค่ายกลลดลง กู้ชูหน่วนจึงพบทางลับเข้าไปได้แต่ทางลับนี้กลับไม่ใช่ทางลับที่เพิ่งแยกจากหัวหน้าเผ่าหมอมานางรู้สึกสงสัยค่ายกลนี้แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้?เมื่อครู่ยังป้องกันได้อย่างแน่นหนา ไม่มีที่ให้โจมตี แต่ยามนี้กลับกลายเป็นค่ายกลที่พุพังไปได้?มีใครมาช่วยนางทลายค่ายกลไปครึ่งหนึ่งหรือไม่?มีใครในเผ่าหมอช่วยนางทลายค่ายกลหรือไม่?หรือว่าจะเป็นอาโม่?"นายหญิง เราพบทางลับเข้าไปแล้ว ทำไมยังไม่รีบออกไป หรือว่าจะต้องตามหาอะไรอีกหรือ" ฝูกวงถามด้วยความมึนงงไม่ไกลนัก หัวหน้าเผ่าหมอยกมุมปากด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งยโส แล้วยกมือขาวขึ้นเบาๆ ดมกลิ่นดอกไม้ในมือด้วยท่าทางกระหาย และเปล่งเสียงออกมาจากมุมปาก"โง่นัก นางกำลังตามหาข้าอยู่แน่นอน หากหาข้าไม่เจอ นางจะหนีไปได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีเงาของใครเลย แต่ไกลออกไปมีแสงไฟลุกโชน ไม่รู้ว่ามีทหารจำนวนเท่าใดกำลังตามล่าพวกนางอยู่นางเหลือบมองทางลับ แล้วมองไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลออกไป กัดฟันแน่น "ไป"อาโม่เดินเล่นในเขาดูดวิญญาณราวกับเดินเล่นในสวนของตัวเอง คงจะรอนางไม่ไหวแล้วน่าจะจากไปแล้วแล้วนางก็รู้ทางลับหลาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 254

    กู้ชูหน่วนเดินวนกลับมาอีกรอบนางเอามือลูบขมับที่ปวดตุบ แล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาว่า "พวกเราติดอยู่ในค่ายกลแล้ว และเป้นค่ายกลที่ทรงพลังมากๆ ด้วย""นายหญิง ท่านมีวิธีทลายค่ายกลนี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะนางไม่เคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อนในชีวิต หากจะให้ทลายคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี"หากทางลับออกไปไม่ได้ ข้าขออาสาคุ้มกันให้พวกเจ้าออกทางประตูใหญ่""ข้าจำได้ว่ามีทางลับหลายทาง ไปทางนี้กันก่อนดีกว่า แล้วค่อยออกทางประตูใหญ่""ได้"หัวหน้าเผ่าหมอถูกตบหน้าเข้าอย่างจังเซวี่ยซาก้มศีรษะลงต่ำ แทบอยากหายตัวไปเลยเสียประเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะโกรธ แต่กลับได้ยินเสียงของหัวหน้าเผ่าหมอที่เรียบเฉยดังขึ้น"ถูกต้องแล้ว ไปทางนี้แหละ เมื่อครู่ข้ารอนางอยู่ที่ทางลับนั่นเอง"เซวี่ยซา "เอิ่ม......""เซวี่ยซา ไปดูกันดีกว่า""ขอรับ"เซวี่ยซาเดินตามหัวหน้าเผ่าหมอ และตามพวกกู้ชูหน่วนติดๆทว่าพวกกู้ชูหน่วนเดินวนไปวนมา ราวกับอยู่ในเขาวงกตขนาดใหญ่ นางทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง แต่ก็ยังวนกลับมาอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเปิดทางให้ คงปะทะกับยามเฝ้าเวรไปแล้วเขาเตือนด้วยความระมัดร

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 253

    เยี่ยเฟิงยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ก็ได้ยินเสียงดังปัง! โย่วหู้ฝ่าถอยหลังไปชนกับศาลาไม้ด้านนอกด้วยอย่างแรงจนทำให้ศาลาพังทลาย"เฮือก......"เขากระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ แล้วก็หายใจรวยรินฝูกวงยังคงสภาพสมบูรณ์ ดวงตาจ้องไปที่ลำคอของโย่วหู้ฝ่า ยืนมองลงมาจากที่สูงชัยชนะเป็นที่ประจักษ์เส้นประสาททั้งหมดของโย่วหู้ฝ่าได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดแปดจะมีพลังมากขนาดนี้"ข้าเป็นถึงโย่วหู้ฝ่าของหัวหน้าเผ่าหมอ เจ้ากล้าที่จะฆ่าข้า ก็เท่ากับว่าเจ้ามาขัดขวางเผ่าหมอทั้งเผ่า"ฝูกวงยิ้มเยาะ "สู้กันมานานขนาดนี้ มีคนจากเผ่าหมอมาช่วยเจ้าสักคนหรือไม่?"คำพูดประโยคนี้ทำให้โย่วหู้ฝ่าตระหนักขึ้นทันทีวังที่ปกป้องอย่างแน่นหนา ทำไมถึงไม่มีทหารเฝ้าสักคน?หัวใจของเขาเต้นถี่ขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกทว่าสิ่งที่เขาไม่สามารถเชื่อได้ยิ่งกว่าก็คือกู้ชูหน่วนชักดาบอีกเล่มของฝูกวงออกมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาเย็นชาราวกับน้ำแข็งเผยให้เห็นความเย็นเยือกราวกับความตายนางเอ่ยย้ำทีละพยางค์ว่า "กล้าแตะต้องเยี่ยเฟิง เจ้าต้องพร้อมที่จะตาย"โย่วหู้ฝ่าพยายามจะขัดข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 252

    ในห้องนอน เยี่ยเฟิงถูกกางแขนขามัดติดกับเตียง มือและเท้าถูกโซ่ตรึงไว้ เสื้อผ้าที่ขาดหลุดลุ่ยกระจายอยู่เต็มพื้นโย่วหู้ฝ่ากำลังจะทำตามอำเภอใจเยี่ยเฟิงพยายามดิ้นรน แต่ก็ทำไม่ได้ กลับยิ่งทำให้แผลฉีก เลือดไหลซึมออกมา"เพียะ......"โย่วหู้ฝ่าตบเยี่ยเฟิงด้วยฝ่ามือแล้วด่าทอ“ถุย มาทำเป็นสูงส่งอะไรห้ะ คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเคยรับใช้นายท่านหลันอย่างไร ด้วยหน้าตาของเจ้า ข้ายอมลดตัวลงมา เจ้าก็ควรจะดีใจได้แล้ว”ประโยคนี้แทงใจเยี่ยเฟิงอย่างเจ็บปวดความทรงจำในอดีตพรั่งพรูเข้ามาในสมองราวกับคลื่นซัดสาดทุกฉากทุกตอนทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่มีค่าหากชีวิตเลือกได้ ใครจะอยากมีชีวิตแบบนี้ใครอยากอยู่ใต้อำนาจของคนอื่น และยอมรับชะตากรรมอย่างเต็มใจ“ไอ้ชาติชั่ว! แค่ดอกไม้ริมทาง ยังจะกล้าจ้องหน้าข้าอีก บอกให้รู้ไว้ว่าคืนนี้ผ่านไป ข้าจะให้เจ้าไปรับใช้ลูกน้องข้า เจ้าชอบทำเป็นสูงส่งนักใช่หรือไม่ ดูซิว่าเจ้าจะทำได้อีกนานแค่ไหน”โย่วหู้ฝ่าตบเยี่ยเฟิงไปอีกหลายครั้ง พร้อมกับคำด่าและเร่งความเร็วในการกระทำ"ติ๊ง......"น้ำตาหยดหนึ่งไหลอาบแก้มของเยี่ยเฟิง แผลบนร่างกายเจ็บปวดเพียงใดก็ไม่เท่ากับหัวใจท

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 251

    เซวี่ยซาตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาขบคิดอย่างหนัก แต่นึกไม่ออกว่าแม่นางกู้คล้ายกับเพื่อนเก่าคนไหนของนายท่านกันแน่เขาอยู่เคียงข้างนายท่านตั้งแต่เด็ก นายท่านดูเหมือนจะ......ไม่มีเพื่อนเลยสักคน......เซวี่ยซาก้มศีรษะลง ไม่กล้าเอ่ยคำใดและรอรับคำสั่งเงียบๆทว่าหัวหน้าเผ่าหมอกลับยังไม่ออกคำสั่ง เพียงแต่เเอ่ยกับตนเองเบาๆ ว่า "นางไม่เหมือนกับผู้หญิงคนนั้น นางกระฉับกระเฉงกว่ามาก ที่เหมือนกันก็คือ......ดวงตาคู่นั้น"ผู้หญิง?หรือว่าจะเป็นเจ้าสำนักซิวหลัว?นายท่านมิใช่สังหารนางไปแล้วรึ?เงียบอยู่นาน เซวี่ยซาจึงเอ่ยออกมาด้วยความระมัดระวังว่า “นายท่าน ท่านบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับเจ้าสำนักซิวหลัว และไปรักษาตัวที่ป่าไผ่ เรื่องนี้เป็นฝีมือของนายท่านชิ่งฮวาที่แพร่งพรายออกไป”“ผู้ที่เข้าร่วมก่อกบฏมีทั้งนายท่านชิ่งฮวา นายท่านดอกท้อ นายท่านทับทิม และนายท่านดอกบัว รวมถึงโย่วหู้ฝ่าด้วย ไม่ทราบว่านายท่านจะลงโทษพวกเขาอย่างไร”“พวกสวะ กล้าหักหลังนายท่าน ฆ่าทิ้งเสียเถอะ”“นายท่านทั้งสี่......ฆ่าหมดเลยหรือ?” เซวี่ยซาหายใจถี่ขึ้นสิบสองกองธงสังหารไปสี่ เช่นนั้นเผ่าหมอก็แทบต้องเปลี่ยนเลือดใหม่หมดเลย"ท่าน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 250

    ทหารเวรยามทั้งสองตกใจมาก กำลังจะถามว่าเป็นใคร ก็เห็นหัวหน้าเผ่าหมอผู้สูงส่งยืนอยู่ตรงหน้าคนทั้งสองขาอ่อน คุกเข่าลงไปกับพื้นด้วยเสียงดังโครม ร่างกายสั่นเทาคล้ายใบไม้สั่นในตะแกรง พูดออกมาแต่ละคำก็สั่นจนฟันกระทบกัน"ข้า......ข้าน้อย......ขอคารวะท่านหัวหน้าเผ่าหมอ"หัวหน้าเผ่าหมอยืนหันหลังให้พวกเขา ด้วยท่าทางสง่างาม มองดูมือที่เรียวยาวและขาวดั่งหยกของตน เขายืนอยู่ที่นั่นเพียงแค่คนเดียว แต่กลับมีอำนาจอันน่าเกรงขามราวกับเทพเจ้าผู้สูงส่งที่ทำลายล้างทุกสิ่งได้ด้วยการดีดนิ้วหัวหน้าเผ่าหมอเอ่ยด้วยเสียงเกียจคร้านว่า "รู้หรือไม่ว่าพวกเจ้าทำความผิดอะไร?"เมื่อได้ยินคำถามนี้ ยามทั้งสองแทบตกใจจนฉี่ราดด้วยสถานะของหัวหน้าเผ่าหมอ คงไม่แม้แต่สนใจที่จะพูดคุยกับพวกเขา แต่วันนี้หัวหน้าเผ่าหมอเลือกที่จะพูดคุยกับพวกเขาไม่ ไม่ใช่พูดคุย แต่เป็นการซักถามพวกเขาคิดว่าอาจเป็นเพราะพวกเขาคุยเรื่องของโย่วหู้ฝ่าและหัวหน้าเผ่าหมอได้ยินเข้า?ยามคนแรกสั่นกลัวจนพูดไม่ออก "เพราะ......เพราะข้าพูดถึงโย่วหู้ฝ่า.....""ไม่ใช่" หัวหน้าเผ่าหมอให้คำตอบที่ไม่ค่อยพบเห็นนักด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขคนที่สองกลืนน้ำลาย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status