เอ่อ...ทุกคนตามความคิดนางไม่ทันคนที่เข้ามาเรียนสำนักบัณฑิตหลวงได้ ยังสนใจเงินรางวัลอีกหรือ?เซียวอวี่เชียนบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ "หากเจ้าเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ ฮ่องเต้ต้องตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม" แค่เศษเงินก้นไห แต่คุณหนูสามสายหลักกลับตาลุกวาวหลิ่วเยว่ยิ้มเอ่ย "หากเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ คงเลื่องชื่อไปทั่วแน่"นางไม่ต้องการชื่อเสียงระบือไกล อยากได้แค่เงินเท่านั้น"หากชนะรอบตัดสินอีก ก็จะเป็นยอดอัจฉริยะชายและยอดอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่ง อาจารย์ซ่างกวานแห่งแคว้นเย่ของพวกเราคือผู้ชนะอันดับหนึ่งเมื่อครั้งก่อน หลายแคว้นหมายจะชิงตัวเขาไปใช้งาน แต่อาจารย์ซ่างกวานไม่อยากเป็นขุนนาง สุดท้ายแล้วจึงมาเป็นอาจารย์หนุ่มน้อยที่สำนักบัณฑิตหลวงของเรา เหอะๆ เจ้าไม่รู้อะไร ตอนนั้นหลายคนเสียดายมาก""อาจารย์ซ่างกวานได้รับขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสี่อัจฉริยะ แต่ในเมื่อมีสามอันดับแรก ก็ต้องมีใครสักคนเป็นหนึ่งจากการแข่งขันรอบสุดท้ายใช่หรือไม่?""แน่นอนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะได้รับขนานนามว่าหนึ่งในสี่อัจฉริยะของแผ่นดินหรือ"กู้ชูหน่วนเข้าใจในทันใดดูท่าแล้วอาจารย์ซ่างกวานจะมีของดี"ว่าแต่ เทพหมากล้อมกับเซียนกวี
กู้ชูหน่วนตกตะลึง "หล่อเกินไปแล้วหรือเปล่า"เซียวอวี่เชียนไม่พอใจนัก "แล้วข้าไม่หล่อหรือ?""หล่อ เจ้าก็หล่อ แต่อาจารย์ของข้าหล่อกว่า""นี่ แม่นาง เจ้าคือหานอ๋องเฟยที่ฮ่องเต้วางตัวไว้ หากเทพสงครามรู้ว่าเจ้ามีใจให้ชายอื่น เจ้าไม่กล้วหัวหลุดออกจากบ่าหรือ""ใครๆ ก็ชอบสิ่งสวยงาม""…"ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เซียวอวี่เชียนถึงได้ไม่ชอบให้นางชื่นชมชายอื่น ในใจเจ็บแปลบ เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่อก"คำนับอาจารย์..."ทุกคนยืนขึ้นทำความเคารพ เอ่ยเสียดังก้องกู้ชูหน่วนยืนขึ้นในทันใด คำนับตามทุกคน ทว่ากลับเห็นองค์หญิงตังตังวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน คลุมผ้าปกปิดใบหน้าเอาไว้ แฝงตัวกับเหล่านักเรียน แม้ว่ากำลังคำนับ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับแอบมองซ่างกวานฉู่ตาไม่กะพริบองค์หญิงเอาแต่ใจเพิ่งถูกเธอสั่งสอนไปเมื่อตอนเช้า ร้องห่มร้องไห้โวยวาย ตอนนี้กลับมาแล้วหรือ?นางชอบอาจารย์ซ่างกวานขนาดนั้นเชียวกู้ชูหน่วนยกยิ้ม อีกฝ่ายกลับมาตัวเปล่า แสดงว่าเธอเดาถูก ฮ่องเต้ต้องการเล่นงานเทพสงคราม แต่เธอนั้นคือพระชายาที่ถูกวางตัวไว้ จึงไม่สามารถลงมือกับเธอได้ในตอนนี้ เพราะอย่างนั้นถึงองค์หญิงตังตังจะฟ้องอะไรก็ไร้ผล"นั่งเถิด
ฮะ...ให้เธอดีดฉิน?เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?จะให้เธอดีดอะไร?เธอไม่รู้ว่าเมื่อกี้เขาสอนอะไรด้วยซ้ำ?กู้ชูหน่วนรีบหันไปหาเซียวอวี่เชียนเซียวอวี่เชียนหันหน้าหนีอย่าลากเขาไปซวยด้วยเลยเขาเองก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวานสอนอะไร ขืนอาจารย์ซ่างกวานให้เขาดีดฉินขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร?"คุณหนูสามกู้ เชิญ" อาจารย์ซ่างกวานชี้ไปที่ฉินบนโต๊ะ ทำท่าเชิญอย่างสุภาพกู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิก"อา...อาจารย์ ข้าเล่นเพลงไหนก็ได้ใช่ไหม?""ก็ย่อมได้ เล่นเพลงถนัดของเจ้าก็ได้""เช่นนั้นก็ได้ เล่นก็เล่น ใช่ว่าจะไม่เคยเล่นเสียหน่อย"กู้ชูหน่วนนั่งลง สองมือวางลงบนฉิน ราวกับกำลังชั่งใจว่านิ้วไหนควรวางตำแหน่งใดเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นริมทะเลสาบอีกครั้ง"ฮ่าๆ...คงไม่ถึงขั้นไม่รู้ว่าต้องวางมืออย่างไรหรอกกระมัง""ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน ดูท่าวางมือของนางสิ ผิดหมดเลย"สายตาเย็นชาของกู้ชูหลันมองดูเรื่องตลก สะใจยิ่งนักกู้ชูอวิ๋นนิ่งเฉย ราวกับเป็นคนนอกเจ๋ออ๋องสีหน้าไร้อารมณ์ ประหนึ่งว่าทุกอย่างที่เป็นกู้ชูหน่วนนั้นไม่ข้องเกี่ยวกับเขาส่วนคนอื่นก็พากันหัวเราะ รอดูเรื่องขบขันเซียวอวี่เชียนโวยกลับอย่างไม่เก
"อาจารย์ ซ้อมห้าสิบรอบนั่นก็ยกเลิกเสียเถิด ข้าเห็นคนในสำนักบัณฑิตเล่นเก่งกว่าข้าทั้งนั้น""ต้องซ้อม ฝีมือดีดฉินของพวกเขาสู้คุณหนูสามไม่ได้เลย หากคุณหนูสามไม่เล่น ข้าจะกราบทูลฝ่าบาท กราบทูลหานอ๋อง แจ้งท่านอัครเสนาบดี ให้พวกเขามารับฟังบทเพลงอันไพเราะของคุณหนูสาม"อาจารย์ซ่างกวานยังคงยิ้มบางเหมือนก่อนหน้า ชดช้อยสง่างามทว่าในสายตาของกู้ชูหน่วนนั้น กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นชั่วร้ายเสียไม่มีข่มขู่แบบนี้มันข่มขู่กันชัดๆเป็นถึงอาจารย์แต่ไม่ตั้งใจสอน เธออุตส่าห์ไม่เอาเรื่อง แต่จงใจกลั่นแกล้งเธอเช่นนี้ เธอไม่นับเป็นครูหรอกทุกคนทั้งตกใจทั้งตลกตกใจที่อาจารย์ซ่างกวานที่ไม่เคยลงโทษนักเรียน ทว่าวันนี้เขากลับแหกกฎสวรรค์ทำโทษคุณหนูสามกู้ตลกที่กู้ชูหน่วนอวดดีขนาดนั้น สมแล้วที่โดนลงโทษกู้ชูหน่วนกัดฟันกรอด "ได้ เล่นก็เล่น หากพวกเจ้าไม่รำคาญก็แล้วแต่ ข้าจะเล่นเดี๋ยวนี้เลย""ระหว่างเรียน ขอโปรดอย่ารบกวนนักเรียนคนอื่น เลิกเรียนแล้วค่อยว่ากัน"ให้ตายสิ...นี่มันบังคับให้อยู่ต่อชัดๆหลังเลิกเรียนนางต้องไปร้านยาอีกนะ"การแข่งขันครั้งนี้มีทั้งฉิน หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพ เมื่อครู่สอนฉินไปแ
"เอ่อ...ก็พอไหว""เช่นนั้นขอเชิญคุณหนูสามวาดภาพพร้อมให้คำบรรยาย"กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูดซ่างกวานฉู่วางแผนมาแล้วสินะ ให้เธอวาดรูปแล้วแต่งกลอนประกอบอีกบทหนึ่ง เพื่อทดสอบทั้งการเขียนพู่กัน วาดภาพ แต่งกลอน"อาจารย์ ข้าวาดภาพเก่งเกินไป กลัวว่าคนอื่นเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ ข้าขอไม่วาดดีกว่า"ทุกคนแทบกระอักเลือดวาดเก่งเกินไป กลัวว่าพวกเขาเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ หมายความว่าอย่างไร?เพ้อเจ้อใครจะเชื่อพวกหลิ่วเยว่หันไปมองเซียวอวี่เชียนลูกพี่ของพวกเขาไหวไหมเนี่ย ทำไมรู้สึกเหมือนเชื่อถือไม่ได้เลยเซียวอวี่เชียนปิดหน้าตัวเองไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกพี่ของเขาทำเรื่อง 'งามหน้า' สำนักบัณฑิตหลวงอีกแล้ว"ไม่เป็นไร ทุกคนต้องการกำลังใจจากคุณหนูสาม"ซ่างกวานฉู่ยิ้มไร้พิษภัย อาจารย์ต้นแบบที่ทุกคนในสำนักบัณฑิตต่างชื่นชม เพราะมีแค่อาจารย์ซ่างกวานที่ความอดทนสูงขนาดนี้ทว่ากู้ชูหน่วนด่าเขาอยู่ในใจไม่รู้กี่หนต่อกี่หนนางหยิบพู่กันขึ้นมา จุ่มลงน้ำหมึกอย่างแรง ก่อนจะละเลงลงบนกระดาษขาว น้ำหมึกที่จรดฝ่าฝีแปรงทั้งเข้มทั้งหนาทั้งแน่นทุกคนตกตะลึงนางวาดวงกลมแล้วต่อด้วยอีกวง จนสุดท้ายยังถมหมึกดำจนเต็
"เอาละ คาบวันนี้จบลงเท่านี้ พรุ่งเช้าเรียนตามปกติ ส่วนตอนบ่ายจะเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้เสียชื่อสำนักบัณฑิตหลวง""ขอรับอาจารย์""คุณหนูสามกู้ อย่าลืมซ้อมห้าสิบหน ท่านชายเซียว อยู่คอยเฝ้าด้วย หากซ้อมไม่ครบห้าสิบรอบ เจ้าก็ดีดแทนนาง"ให้ตายสิซ่างกวานฉู่บ้าไปแล้วหรือทำโทษนางก็ทำไปสิ แต่ยังต้องมีคนคอยเฝ้าอีกเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้งในทันใดฉินที่กู้ชูหน่วนดีด ใครจะทนฟังไหว? หากต้องฟังห้าสิบรอบจริงๆ เขาไม่เลือดไหลทะลักออกทุกทวารหรอกหรือเดิมคนในสำนักบัณฑิตหมายจะอยู่รอดูเรื่องสนุกด้วย แต่ฉินที่กู้ชูหน่วนเล่นนั้นบาดหูเหลือเกิน พวกเขาได้ยินแล้วถึงกับหูอื้อตาลาย จึงไม่กล้าอยู่ต่อจริงๆ ก่อนจะพากันแยกย้ายราวกับวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเซียวอวี่เชียนหยิบที่อุดหูออกมาแล้วยัดเข้าหูในทันที เบะปากอย่างหมดคำจะพูด"แหน่ว แหน่ว แหน่ว..."เสียงฉินบาดหูดังไปทั่วสำนักบัณฑิตหลวง เหล่าองครักษ์ที่ได้ยินแทบอยากจะลาออกมันเดี๋ยวนั้นหนวกหูหนวกหูเกินไปแล้วในห้องโอ่อ่าห้องหนึ่งของสำนักบัณฑิตหลวงเย่จิ่งหานเห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนบ่าย อดไม่ได้ที่จะสนใจในตัวก
"จริงหรือ?"เซียวอวี่เชียนไม่เชื่อที่นี่นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ก็ไม่มีใครอื่น นางจะขโมยมาจากไหน"จริงสิ โกหกเจ้าแล้วได้อะไรขึ้นมา""เหอะ กู้ชูหน่วน เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ หมึกยังไม่แห้งเลยด้วยซ้ำ"ซวยแล้ว เจ้าหมอนี่ตาไวชะมัด ขนาดนี้ยังเห็นอีกหรือนางเอ่ยพึมพำเฉไฉ "เมื่อครู่คนเยอะ ข้าเลยแสดงฝีมือได้ไม่เต็มที่ ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว เขาก็เลยเขียนได้ตามปกติ"คำพูดนี้หลอกเด็กยังพอไหว แต่ใช้หลอกเขาน่ะหรือ? ไปหัดมาใหม่เซียวอวี่เชียนเองก็ไม่อยากเซ้าซี้เรื่องนี้ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย"ยาสองชนิดนั้นหายากมาก ในแคว้นนี้คงมีอยู่ไม่กี่ต้น แต่ดอกเยียนหลัวข้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน"กู้ชูหน่วนตาเป็นประกาย ถามอย่างตื่นเต้น "เจ้าว่าอะไรนะ เจ้ารู้หรือว่าดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหน?""รู้ไปก็เท่านั้น แต่เจ้าเด็ดมันไม่ได้หรอก""เจ้าลองว่ามาก่อน""ยัยขี้เหร่ เจ้าจะเอาดอกเยียนหลัวไปทำอะไร นั่นมันยาพิษนะ"หากไม่ใช่พิษ นางไม่อยากจะเอาด้วยซ้ำพิษบนใบหน้าของนางก็ต้องสู้ด้วยพิษ"เห็นแก่มิตรภาพ เจ้าบอกข้ามาเถอะน่า ดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหนหรือ?"เซียวอวี่เชียนก็ยังไม่ยอมบอก กู้ชูหน่วนเซ้าซี้อยู่นานกว่าจะหลอกล่อให้เขาพู
เป็นที่รู้กันว่ากู้ชูหน่วนได้ฉายาว่าคนไม่เอาถ่าน คนส่วนใหญ่วางเดิมพันให้กับเจ๋ออ๋องหรือกู้ชูอวิ๋น เมื่อชื่อเสียงของเจ๋ออ๋องและกู้ชูอวิ๋นนั้นเป็นที่รู้จักมานานในแคว้นเย่ข่าวฉาวของกู้ชูหน่วนนั้นไม่น่าฟังเอาเสียเลย ชิวเอ๋อร์ได้ยินแล้วก็เดือดเป็นไฟ สีหน้าของเซียวอวี่เชียนก็ไม่สู้ดีนักเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้ง กลอกตาใส่นาง "ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้าคิดจะทำอะไร คนอื่นเขากลัวว่าชื่อเสียงของตัวเองจะป่นปี้ แต่เจ้ากลับกัน ใช้เงินจ้างคนมาทำลายชื่อเสียงของตัวเอง อย่างกับกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนไม่เอาถ่าน""ใช้แล้วเจ้าค่ะๆ"ชิวเอ๋อร์เองก็โมโห เดิมที่คุณหนูหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ก็ขายออกยากอยู่แล้ว ยามนี้ยังมาทำให้ตัวเองเสียชื่ออีก ใครจะกล้ามาสู่ขอนางกลัวว่าแม้แต่เทพสงครามจะโมโหจะฆ่านาง"เจ้าจะไปเข้าใจอะไร"กู้ชูหน่วนผ่อนคลายสบายอารมร์ ลิ้มรสสุราชั้นดีของร้านผิงอัน ราวกับคนที่ถูกหัวเราะเยาะนั้นไม่ใช่นาง"คุณหนู ข้าไม่เข้าใจเลย ท่านบอกหน่อยได้ไหมว่าเหตุใดถึงได้ทำเช่นนี้?""จะเพราะอะไรอีกเล่า ก็หาเงินไง"ชิวเอ๋อร์แทบจะเป็นลมแล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับหาเงินเล่า?อีกอย่างเพื่อเงินเพียงน้อยนิ
ครั้งนี้ นางใช้โชคเข้าปะทะชีพจรยุทธ ทุกครั้งที่ใกล้จะทะลวงชีพจรยุทธได้สำเร็จ นางจะคว้ายาชำระไขกระดูกจำนวนมากมากินเพื่อเพิ่มพลังงานเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ ทุกครั้งที่นางเพิ่งจะเปิดรอยแยกได้ ก็จะปิดลงทันที กู้ชูหน่วนไม่ยอมแพ้ นางทะลวงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ในที่สุดนางก็เปิดชีพจรยุทธได้สำเร็จ"เฮือก......"เลือดสดอีกคำไหลหยดออกมา คนอื่นทะลวงชีพจรยุทธแล้วจะรู้สึกสบายไปทั้งตัว มีพลังงานเต็มเปี่ยม แต่นางกลับเหมือนหนีความตายมาได้ และเกือบเอาชีวิตนางไปกู้ชูหน่วนคราบเลือดติดมุมปาก แต่นางก็แย้มรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมานางพยายามใช้โชคหมุนเวียนพลังงานภายในร่างกาย เปลวไฟกลุ่มหนึ่งในตันเถียนของนางกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และร่างกายของนางก็เบาขึ้นกว่าเดิมมากนางมีพลังภายในแล้ว...... แม้ว่าพลังภายในจะอ่อนแอมากก็ตาม......การเปิดชีพจรยุทธบ่งชี้ว่านางสามารถฝึกวิชายุทธได้แล้วกู้ชูหน่วนหายใจออกมายาวและเปิดตำรารวมสูตรปรุงยาอีกครั้งยายกระดับเป็นยาที่ช่วยเพิ่มพลังภายในอย่างรวดเร็วและทะลวงผ่านหนึ่งขั้นได้กู้ชูหน่วนรู้สึกสนใจขึ้นมา"ชิงเฟิง"ชิงเฟิงทำหน้าบูดบึ้ง "พระชาย
บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องกำลังช่วยกันดับไฟ ผมของกู้ชูหน่วนถูกระเบิดจนยุ่งเหยิง ราวกับรังไก่ ชิงเฟิงจัดให้นางไปอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงามอีกห้องหนึ่งภายในห้อง กู้ชูหน่วนมองกล่องยาชำระไขกระดูกขนาดใหญ่ตรงหน้า ทั้งกังวลและโล่งใจกังวลคือยาชำระไขกระดูกยังห่างไกลจากผลลัพธ์ที่นางต้องการโล่งใจคือในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้ว"ชิวเอ๋อร์ ไปเฝ้าหน้าประตู ห้ามให้ใครเข้ามา รวมถึงท่านอ๋องด้วย""คุณหนู ท่านจะทำอะไรอีกแล้วหรือเจ้าคะ?"ชิวเอ๋อร์กลัวจนตัวสั่น ชีวิตของคุณหนูเกือบจะจบสิ้นแล้ว นางคงไม่คิดที่จะปรุงยาอีกแล้วใช่หรือไม่"เจ้ารู้อะไร รีบออกไปเถิด""แต่ว่า......"ก่อนที่ชิวเอ๋อร์จะพูดจบ กู้ชูหน่วนก็ผลักนางออกไป แล้วนั่งขัดสมาธิบนเตียง หยิบยาชำระไขกระดูกในกล่องตรงหน้ามากินหนึ่งเม็ดความร้อนไหลขึ้นมาจากตันเถียน แต่ชีพจรยุทธไม่เปิดออกเสียทีกู้ชูหน่วนกินอีกหลายเม็ด ความร้อนในตันเถียนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เส้นลมปราณทั้งเจ็ดและแปดเส้นรู้สึกสบาย แต่ชีพจรยุทธยังคงไม่เปิดออกนางขมวดคิ้ว "ใช้สมุนไพรที่คล้ายกันมาทดแทน ผลลัพธ์ก็ยังแตกต่างกันมาก ยาชำระไขกระดูกนี้แย่เกินไป"กู้ชูหน่วนกัดฟัน กลืนยาชำระไขกระ
"พระชายา โปรดอย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจเลย ข้าน้อยก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น"เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนตั้งใจจะออกไป ชิงเฟิงก็ตกใจและเอ่ยว่า "พระชายา ท่านต้องการไปหายาใช่หรือไม่? หรือว่าท่านจะให้ใบสั่งยาแก่ข้าน้อย แล้วให้ข้าน้อยปหายามาให้""ก็ได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี""ขอรับ"ความเร็วของชิงเฟิงและคนอื่นๆ นั้นรวดเร็วมาก แต่หลังจากกลับมา คำตอบของพวกเขาก็เหมือนกับที่ชิวเอ๋อร์พูดไม่มีผิดเพี้ยน"พระชายา ข้าน้อยได้ไปหาหมอหลวงทุกคนในสำนักหมอหลวงแล้ว พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อสมุนไพรในใบสั่งยาของท่านเลย และไม่สามารถหายาเหล่านั้นมาให้ท่านได้"ด้วยความกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะโกรธ ชิงเฟิงจึงหยุดชะงักแล้วเอ่ยต่อทันทีว่า "ข้าน้อยได้พาหมอหลวงจากสำนักหมอหลวง รวมถึงหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาด้วย พระชายาสามารถสอบถามพวกเขาได้โดยตรงเลย"เมื่อโบกมือ หมอจำนวนมากก็เดินเข้ามาทีละคน และทำความเคารพนาง "คารวะพระชายา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พันปี พันๆ ปี""พอเถอะ ข้าขอถามพวกท่าน พวกท่านไม่เคยได้ยินชื่อซานหลิง ซูเหอเซียง การบูร จริงๆ หรือ?""ทูลพระชายา พวกข้าประกอบอาชีพหมอมาหลายสิบปี บรรพบุรุษของพวกข้าก็เป็นหมอเช่นกัน พวกข้าไ
นิ้วเรียวสวยของกู้ชูหน่วนพลิกดูตำรารวมสูตรปรุงยาที่ขาดวิ่นอย่างต่อเนื่อง นางมองอย่างตั้งใจจนลืมตัว และไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาที่จวนหานอ๋องตั้งแต่เมื่อใด"เย่จิ่งหานล่ะ?" กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นถามทันทีชิงเฟิงเม้มปาก การต่อสู้ดุเดือดขนาดนั้น พระชายาของเขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่?"นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินมาชิงแผนที่ไข่มุกสีเขียว นายท่านต่อสู้กับเขา และยามนี้ยังอยู่ในป่าไผ่ นายท่านให้ข้าพาพระชายากลับจวนก่อน""อย่างนั้นหรือ สามหมื่นล้านตำลึง ล่อตาล่อใจโจรจริง ๆ แผนที่ไข่มุกสีเขียวต้องได้รับการปกป้องอย่างดี อาจจะเป็นทรัพย์สมบัติทั้งหมดของจวนหานอ๋องก็ได้นะ" นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินบาดเจ็บไม่ใช่หรือ? เย่จิ่งหานน่าจะรับมือได้เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนพูดเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง คิ้วเข้มของชิงเฟิงก็ขมวดแน่นสิ่งที่นางควรเป็นห่วงไม่ใช่นายท่านหรอกหรือ?"ข้าจะกลับไปศึกษาตำรารวมสูตรปรุงยา บอกบ่าวรับใช้ว่าห้ามใครรบกวนหากไม่มีคำสั่งจากข้า""ขอรับ"ภายในห้อง กู้ชูหน่วนจรดพู่กันเขียนตำรับยาหลายแผ่นอย่างคล่องแคล่ว แล้วส่งให้ชิวเอ๋อร์ "ไปร้านขายยา ซื้อยาตามตำรับที่ข้าให้มา กลับมามากหน่อย"
กู้ชูหน่วนรับจดหมายเชิญ แล้วเกี่ยวคางของนางอย่างเย้าแหย่ "เมื่อมีสาวงามมาเชิญ เราจะกล้าไม่มาได้อย่างไร วางใจได้ งานประมูลเฟิงเซียงสิ้นเดือนนี้ พวกเราจะไปให้ตรงเวลาแน่นอน""เช่นนั้น เสี่ยวลู่จะรอแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่านอยู่ที่งานประมูลเฟิงเซียง"หลังออกจากงานประมูลเฟิงเซียง เย่จิ่งหานก็ยังคงทำหน้าเย็นชาตลอดเวลาระหว่างทางกลับ พวกเขานั่งรถม้าประจำตัวของเย่จิ่งหาน กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่ารถม้าทำจากวัสดุอะไร ภายนอกดูธรรมดา แต่ภายในกลับมีพื้นที่กว้างขวางมาก สามารถดื่มชา เล่นหมากรุก หรือนอนพักผ่อนได้ อีกทั้งยังป้องกันลูกธนูพิษและอาวุธทุกชนิดได้ เมื่อสัมผัสกับรถม้า จะมีเพียงเสียงโลหะกระทบกันเท่านั้นตลอดทาง เสียงการต่อสู้ดังขึ้นเป็นระยะๆ ไม่ขาดสาย พร้อมกับเสียงร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดพื้นดินสั่นสะเทือนเป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่าข้างนอกต่อสู้กันดุเดือดเพียงใดกู้ชูหน่วนรู้ว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาเพื่อแย่งชิงแผนที่ไข่มุกสีเขียวของเย่จิ่งหานแต่เมื่อมองไปที่เย่จิ่งหาน เขานั่งจิบชาอ่านหนังสืออย่างสง่างามริมหน้าต่างรถม้า ราวกับไม่รับรู้ถึงการต่อสู้ภายนอกกู้ชูหน่วนเปิดม่านรถม้าดู ข้างนอกมีแต่แ
อี้เฉินเฟยพิจารณาความหมายในคำพูดของกู้ชูหน่วนอย่างถี่ถ้วนครู่หนึ่งเขาก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง ยิ้มอย่างอ่อนโยน "สุภาพบุรุษไม่แย่งชิงสิ่งที่ผู้อื่นชื่นชอบ ในเมื่อแขกชั้นล่างชื่นชอบแผนที่ไข่มุกสีเขียวขนาดนี้ ข้าก็จะไม่แย่งแล้ว"กู้ชูหน่วนลูบปลายคาง คำพูดนี้ฟังดูคุ้นหูเหลือเกิน?แต่อี้เฉินเฟยก็มีสมองขึ้นมาบ้างแล้วสามพันล้าน......จุ จุ จุทรัพย์สมบัติของเย่จิ่งหานถูกสูบไปหมดแล้วใช่หรือไม่"สามพันล้านครั้งที่หนึ่ง สามพันล้านครั้งที่สอง สามพันล้านครั้งที่สาม ขอแสดงความยินดีกับแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบเก้า ได้รับแผนที่ไข่มุกสีเขียวไปครอง"ทุกคนต่างมองเย่จิ่งหานด้วยความอิจฉาในหมู่พวกเขาบางคนเคยคิดที่จะแย่งชิง แต่ฝ่ายตรงข้ามคือเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ พวกเขาจะแย่งชิงได้อย่างไร?เด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยเสียดายแล้วเสียดายอีกสามพันล้านสูงเกินไป......น่าเสียดายที่อาจารย์อี้เตรียมการมานาน สุดท้ายก็ยังพลาดการประมูลเจ๋ออ๋องขมขื่นในใจ เดินออกงานประมูลอย่างอ้างว้างหางตาของซ่างกวานฉู่ฉายแววเย็นเยือก มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ายวนคนของเผ่าเทียนเฝินเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ "ดำเนินการตามแผนเดิม ต้อง
"อะไรนะ เขาคือเทพสงคราม"ทุกคนต่างถอยหลังด้วยความหวาดกลัว พยายามรักษาระยะห่าง เพราะกลัวว่าเย่จิ่งหานจะลงมือกับพวกเขาหากเป็นคนอื่นที่เสนอราคานี้ พวกเขาคงจะประหลาดใจมาก แต่หากเป็นเทพสงครามที่เสนอราคา ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจเพราะเทพสงครามคือบุคคลสำคัญของแคว้นเย่ ทั้งศักยภาพ ความมั่งคั่ง และอิทธิพลของเขายิ่งใหญ่กว่าฮ่องเต้เสียอีกเด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยเอ่ยว่า "อาจารย์อี้ เราจะเพิ่มราคาอีกหรือไม่?"อี้เฉินเฟยเงียบไป ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักมูลค่าอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงยกป้ายขึ้น "หนึ่งพันเจ็ดร้อยล้าน"อะไรนะ......คนในห้องหมายเลขเจ็ดเป็นใครกัน?เพิ่มราคาครั้งละสองร้อยล้านเงินในสายตาพวกเขาเป็นเพียงตัวเลขหรืออย่างไร?เจ๋ออ๋องโยนป้ายทิ้งอย่างหมดแรงจะประมูลไปทำไม ประมูลไปก็เปล่าประโยชน์เขาไม่สามารถประมูลได้แม้แต่เศษเสี้ยวของพวกเขาในชั่วพริบตา เจ๋ออ๋องรู้สึกว่าตนแตกต่างจากพวกเขาอย่างมาก"สองพันล้าน" เย่จิ่งหานเอ่ยชิงเฟิงเหงื่อออกที่ฝ่ามือแม้นายท่านจะมีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก แต่การสูญเสียสองพันล้านในคราวเดียวก็ต้องทำให้บาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอนซ่างกวานฉู่หน้าตายไร้อารมณ์ มองไม่ออ
"ห้าร้อยห้าสิบล้านตำลึง" ซ่างกวานฉู่รีบตามมาติดๆการเพิ่มราคาเมื่อครู่เป็นเพียงแค่การอุ่นเครื่องเท่านั้น ยามนี้ผู้ที่เสนอราคาคือตัวเอกที่แท้จริงกู้ชูหน่วนรู้ว่าอี้เฉินเฟย ซ่างกวานฉู่ และเย่จิ่งหานจะต้องแข่งขันกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าสามยักษ์ใหญ่เหล่านี้ใครจะเหนือกว่ากัน"หกร้อยล้าน""หกร้อยห้าสิบล้าน""เจ็ดร้อยล้าน"ซี้ดดด......ทั้งงาน นอกจากอี้เฉินเฟยและซ่างกวานฉู่แล้ว ไม่มีใครกล้าเสนอราคาอีกเลยแม้ว่าพวกเขาจะอยากได้ไข่มุกสีเขียวมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถหาเงินมาได้มากขนาดนั้นกู้ชูหน่วนมองไปทางเย่จิ่งหานเจ้าคนนี้มองดูเฉยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้เสนอราคาเลย หรือว่าเขาตั้งใจจะรอให้อี้เฉินเฟยกับซ่างกวานฉู่สู้กันเสร็จก่อนแล้วค่อยเสนอราคา?เจ็ดร้อยล้านตำลึง นี่ไม่ใช่จำนวนเงินเล็กๆ เลยนะคงจะเทียบเท่ากับเงินทั้งหมดในคลังหลวงกระมังอี้เฉินเฟยเป็นบุคคลสำคัญของแคว้นหวา ทั้งยังเป็นอาจารย์สามของสำนักหยู และยังมีอีกหลายตัวตนที่ไม่เปิดเผย เขามีเงินก็สมเหตุสมผลแต่ซ่างกวานฉู่มีอะไร เขาเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน?หรือจะพูดว่าเขามีตัวตนลับหลังอีกมากแค่ไหนกันแน่"เจ็ดร้อยห้าสิบล้านตำลึง" อี
เสียงของพิธีกรเสี่ยวลู่ดังขึ้นอีกครั้ง"สินค้าชิ้นต่อไปที่จะประมูลคือของปิดการประมูลของเราในครั้งนี้ ยังคงเป็นแผนที่ แผนที่สมบูรณ์ ชื่อว่าแผนที่มังกรเขียว"ตู้ม......การประมูลก็ระเบิดขึ้นทันที"เจ้าพูดอะไรนะ แผนที่มังกรเขียว? เป็นแผนที่พบลูกแก้วมังกรสีเขียวใช่หรือไม่?""ใช่ ทุกคนคงรู้ดีว่าลูกแก้วมังกรหมายถึงอะไร มีลูกแก้วมังกรทั้งหมดเจ็ดลูกในโลก ได้แก่ แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ำเงิน และม่วง หากต้องการค้นหาลูกแก้วมังกร ก็ต้องมีแผนที่""โอ้สวรรค์ ลูกแก้วมังกรในตำนาน รีบกลับไปรวบรวมเงิน แม้ว่าเจ้าจะขายทรัพย์สินทั้งหมดของเจ้า เจ้าก็ต้องรวบรวมเงินทั้งหมด""ท่านพ่อ การขายบ้านทันทีทำได้ยากมาก""เช่นนั้นก็เอาบ้านไปจำนองก่อน แล้วเอาเงินมา""อาฝู รีบกลับไปหาฮูหยินเร็ว และให้ฮูหยินรวบรวมเงินทั้งหมดในบ้านและให้ลูกชายข้าไปยืมเงินทุกที่ที่ทำได้ ยืมให้ได้มากที่สุด คราวนี้เราจะเสี่ยงชีวิตเพื่อประมูลแผนที่ไข่มุกสีเขียว""……"แขกทุกคนในงานประมูลแทบจะให้คนรับใช้กลับไปรวบรวมเงินแม้แต่อัครเสนาบดีกู้ที่ไม่อยากเข้าร่วมการประมูลต่อแล้ว ก็ยังหวั่นไหวอีกครั้งและให้กู้ชูอวิ๋นรีบกลับไป แม้ว่าจะต้อ