Share

บทที่ 67

last update Last Updated: 2025-01-27 20:30:06

       หลานซือเยว่ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนเบลอ ไม่รู้ว่าเมื่อคืนตนเองไปทำอะไรมาร่างกายถึงได้ปวดร้าวไปทั้งร่าง โดยเฉพาะสะโพกแทบครากอยู่รอมร่อ ทำเอาขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้แม้แต่ครึ่งชุ่น[1] ดีที่มีแรงจากมือหนาคอยบีบนวดให้ อาการปวดเมื่อยค่อยทุเลาเบาบางลง ขณะที่หลานซือเยว่หลับตาพริ้มสัมผัสกับความรู้สึกผ่อนคลายสบายเนื้อสบายตัว จู่ๆ ก็เริ่มตงิดใจกับแรงบีบนวดอันไร้ที่มาที่ไปนี้

       เดี๋ยวนะ! ใครบีบนวดให้ข้ากัน?

       ดวงตาเรียวหงส์เปิดพรึ่บสะดุ้งตื่นเต็มตา หลานซือเยว่นอนคว่ำหน้าอยู่เอี้ยวตัวมองด้วยความสงสัย ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ ใบหน้าเหี่ยวย่นของชายชราผู้หนึ่งในชุดจื๋อตัวหรือชุดนักพรตสีฟ้าเทานั่งอยู่ข้างเตียง กำลังบีบนวดหลังไหล่ให้ตนอยู่

       ร่างสูงโปร่งตกใจถลันตัวลุกขึ้นนั่ง รีบถอยห่างจากคนแปลกหน้า

       “ตื่นแล้วหรือ”

  &nb

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 68

    “ร้องไห้ทำไม มีอะไรน่าเสียใจมากอย่างนั้นหรือ” สวีเฟยหลงปรากฏขึ้นข้างกายหลานซือเยว่ ร่างสูงรวบคนร่างบางเข้ามากอดแนบอก เช็ดน้ำตาให้คนร่างบางอย่างอ่อนโยน กลับถูกหลานซือเยว่ผลักออกอย่างแรงด้วยความเดียดฉันท์ จนร่างสูงกระแทกกับผนังห้องเต็มแรง “ไปให้พ้น ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่าน” หลานซือเยว่ผลักไสเขาออกไปแต่กลับเป็นฝ่ายปวดใจเสียเอง เมื่อเห็นเขาแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา จิตใต้สำนึกของหลานซือเยว่ร่ำร้องหาชายผู้นั้น ได้แต่ฝืนตัวเองเอาไว้สุดกำลังไม่ให้เข้าไปพยุงอีกฝ่ายด้วยความห่วงใย “ทำไม เห็นหน้าผัวตัวเองแล้วรับไม่ได้อย่างนั้นหรือ” สวีเฟยหลงกระชากร่างบางเข้ามากอดแนบอกแกร่ง มือหนาบีบคางเรียวแน่นด้วยแรงอารมณ์ “ข้าไม่ได้เป็นอะไรกับเจ้าทั้งนั้น เป็นเจ้าฉวยโอกาสตอนข้าหลับ สารเลว!” หลานซือเยว่ปัดมือหนาออก ดวงตาสีน้ำเงินวาววับด้วยโทสะไม่ยอมรับความสัมพันธ์ใดๆ กับคนตรงหน้าทั้งสิ้น  

    Last Updated : 2025-01-28
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 69

    ตลาดเช้าในเมืองผิงอานยังคงคึกคัก ผู้คนเดินเบียดเสียดกันเนืองแน่นดูสินค้าบนแผงลอยข้างทางที่มีมากมายดูละลานตาไปหมด ทั้งผลท้ออวบอิ่มฉ่ำน้ำ ปลาสดๆ หลากหลายชนิด ผักสดใหม่ที่เพิ่งเก็บมาจากสวนล้วนมีให้เลือก เสี่ยวเอ้อร้านน้ำชา ร้านขายผ้า และโรงเตี๊ยมต่างออกมายืนเรียกลูกค้ากันเสียงดังเซ็งแซ่ด้วยความขยันขันแข็งเป็นภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตา ท่ามกลางความครึกครื้นอาชาฝีเท้าจัดสีชาดดุจโลหิตตัวหนึ่งวิ่งฝ่าฝูงชนในตลาดดุจลมพายุ ทำเอาผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์หลบหนีกันจ้าละหวั่น “หลีกทาง!” จ้าวลี่หมิงตะโกนก้องควบม้าเหงื่อโลหิตสีแดงเพลิงมุ่งหน้าสู่ตำหนักอี้ชิ่ง ชายหนุ่มกำหมัดแน่นมาตลอดทางด้วยความโมโห ป้ายหยกประจำตัวองค์รัชทายาทสีเขียวอร่ามตรงชายพกส่องแสงแยงตาทหารเฝ้าประตูตำหนักจนดวงตาแทบมืดบอด ประกอบกับใบหน้าบึ้งตึงของว่าที่พระชายา ทำเอาพวกเขากระโดดหลบแทบไม่ทัน อารมณ์ขุ่นมัวขนาดนี้ใครล่ะจะกล้าขวางทาง

    Last Updated : 2025-01-29
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 70

    “กลับมาแล้วหรือหยางหยาง” จ้าวลี่หมิงที่ยึดครองตำแหน่งประธานในตำหนักหลักเอนกายอยู่บนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เพราะต้องนั่งรออีกฝ่ายเป็นเวลานานจนแทบหลับคาเก้าอี้ ดวงตาปรือมองคนร่างสูงทอประกายฉ่ำน้ำคลอหางตาแดงระเรื่อเย้ายวนใจคน “เมียจ๋า” เฉินซือหยางครางเสียงละเมอ ปรี่เข้าไปหาคนตัวเล็กแต่กลับถูกจ้าวลี่หมิงชี้นิ้วสั่ง ทำเอาร่างสูงชะงักกึก “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ เห็นนั่นหรือไม่” เฉินซือหยางไล้สายตาไปตามข้อมือขาวผ่อง ดวงตาเคลิ้มลอยมองตามปลายนิ้วเรียวน่าบีบจับที่เด็กน้อยของเขาชี้บอกอย่างหลงใหลเล็บสีชมพูอ่อนยามข่วนเกาแผ่นหลังเขายังรู้สึกซาบซ่านจนถึงบัดนี้ก่อนจะสะดุดเข้ากับสิ่งหนึ่งซึ่งวางหราอยู่หน้าห้อง กระดานซักผ้า? “เอามาทำไม” “ยังมีหน้ามาถาม ท่านไปทำอะไรลับหลังข้ามาล่ะ ยังไม่คุกเข่าสำนึก

    Last Updated : 2025-01-30
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 71

    แต่แล้วความกังวลของหลานซือเยว่กลับต้องเสียเปล่า เมื่อกลับมาถึงพระราชวังแล้วกลับไม่เห็นสวีเฟยหลงแม้แต่เงา หลานซือเยว่ถอนหายใจอย่างโล่งอกตามเสด็จเฉินเทียนอี้ไปทานอาหารมื้อกลางวันด้วยความสบายใจ ทั้งสองนั่งทานข้าวด้วยกันที่ตำหนักหยางซิน ภายในตำหนักหลักอบอวลไปด้วยบรรยากาศหวานชื่นอย่างที่ไม่ได้มีมานาน “ออกไปเดินย่อยอาหารที่ลานด้านนอกกันดีกว่า” หลานซือเยว่เอ่ยชวน เห็นเฉินเทียนอี้ล้มตัวลงบนเตียงแล้วไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหนอีกราวกับงูเหลือมที่เขมือบเหยื่อจนอิ่มแปล้แล้วเอาแต่นอนนิ่ง และมีทีท่าว่าจะหลับไปทั้งอย่างนั้น “ไม่เอา เราง่วงแล้ว” เฉินเทียนอี้พลิกตัวอย่างเกียจคร้าน ดึงรั้งหลานซือเยว่ลงมานั่งบนเตียงก่อนจะขยับศีรษะไปนอนหนุนตักคนร่างบางหน้าตาเฉย “อ้วน! ไม่ยอมขยับตัวทำอะไร อีกหน่อยก็จะกลายเป็นหมู” หลานซือเยว่ต่อว่าสามีขำๆ เฉินเทียนอี้ครางรับในลำคออย

    Last Updated : 2025-01-31
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 72

    บนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ณ ตำหนักจินหลวน เงาร่างสูงสง่านั่งเอกเขนกอยู่บนบัลลังก์ทองรับรู้ได้ถึงดวงจิตของคนผู้นั้นหลังจากที่เลือนหายไปนานปี เสียงคำรามก้องของมังกรบรรพกาลยิ่งเป็นการตอกย้ำการคาดเดาของเขา “ในที่สุดก็ยอมโผล่หัวออกมาสักทีนะ” ชายหนุ่มเหยียดยิ้มชั่วร้าย “ส่งคนไปที่หุบเขาเร้นเมฆา เด็ดหัวของสวีเฟยหลงมาให้ข้า” แม่ทัพสวรรค์ค้อมกายรับคำสั่งรวบรวมนักฆ่ายอดฝีมือนับพันใต้บังคับบัญชา มุ่งหน้าสู่แดนเร้นลับทางทะเลเหนือ พลังปราณโดยรอบเกิดการกระเพื่อมไหว ไอบริสุทธิ์มากมายหลั่งไหลเข้ามาในกายสวีเฟยหลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชายหนุ่มจมดิ่งอยู่ในห้วงสมาธิอยู่นั้น เงาร่างในชุดท่องราตรีสีดำสนิทพลันปรากฏขึ้นรอบกายชายหนุ่ม ลงมือจู่โจมโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง นักฆ

    Last Updated : 2025-02-01
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 73

    สวีเฟยหลงหลับตาทำสมาธิ พลังปราณแผ่ซ่านไปตามเส้นเทพจร ลวดลายมังกรทองที่สลักอยู่บนร่างเปล่งรัศมีสีทองเจิดจรัส ดวงตาสีนิลสว่างวาบซัดฝ่ามือไปยังเวิ้งน้ำเบื้องหน้า อัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าผ่าฟาดลงมาจนผืนน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้าง คลื่นยักษ์สูงเสียดฟ้าซัดเข้าหาฝั่งพังป่าแถบนั้นหักไปทั้งแถบ หยาดน้ำจำนวนมากสาดกระเซ็น สวีเฟยหลงเก็บพลังกลับ ปรับลมปราณจนสงบราบเรียบ ลวดลายสีทองอร่ามของรอยสักจึงหม่นแสงลง แต่ก็ไม่ได้ซีดจางดังเก่าก่อน สามารถมองเห็นได้ชัดขึ้นเพียงแต่ไม่เปล่งประกายเหมือนกับตอนที่ชายหนุ่มโคจรพลัง สวีเฟยหลงรู้สึกปลอดโปร่งโล่งไปทั้งกายอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว การซ่อมแซมดวงจิตเป็นไปได้ด้วยดี พลังวิญญาณเองก็เพิ่มพูนเกือบถึงขีดสุด ถึงแม้จะมีพวกหนอนแมลงเข้ามาก่อกวนกลางคัน แต่ก็ไม่อาจสกัดกั้นการหลวมรวมดวงจิตของเขาได้ แค่เพียงบำเพ็ญเพียรพลังแห่งทัณฑ์อัสนีสวรรค์พิโรธสำเร็จ แล้วผ่านด่านเคราะห์ในครั้งนี้ไปได้ เลื่อนขั้นเป็นซ่างเสิน[1] พลังทั้งหมดของเขาก็จะฟื้นกลับคืนมาทั้งหมด คราวนี้ก็ไม

    Last Updated : 2025-02-02
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 74

    สวีเฟยหลงหลับตาลงอย่างรวดร้าว เสียงอบอุ่นนุ่มนวลของภรรยาในห้วงคำนึงยังคงดังกึกก้อง ‘ท่านวางใจเถอะ ถึงท่านจะไม่เต็มใจแต่งกับข้า แต่ข้าจะเป็นภรรยาที่ดีของท่าน ทำทุกอย่างเพื่อท่าน รักท่านเพียงผู้เดียว’ คำมั่นสัญญาที่บอกว่าจะรักเขาเพียงผู้เดียว เงาร่างที่ยอมรับความตายแทนเขาโดยไม่หวั่นเกรง ‘อาหลง ระวัง!’ เสียงร้องเตือนด้วยความห่วงใย แผ่นหลังแบบบางที่ขวางอยู่เบื้องหน้าเขา ปกป้องเขาอย่างสุดกำลังยังติดตรึงอยู่ในจิตใจไม่ลืมเลือน แม้จะรู้ว่าหนทางข้างหน้ามีแต่ความตายก็ยังบุกหน้าฝ่าฟันร่วมกันกับเขาผู้นั้นอยู่แห่งหนใด ดวงตาคมเข้มดุจรัตติกาลสั่นไหว เงาร่างในห้วงคำนึงค่อยๆ เลือนหายไป เปลี่ยนเป็นหลินเสวี่ยเฟิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาผู้นี้ “รักมันมากใช่ไหม คงรักมันมากสินะ” สวีเฟยหลงหัวเร

    Last Updated : 2025-02-03
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 75

    “พูดจาเย็นชาจังเลยน้าาา ไม่น่ารักเลยสักนิด แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อเจ้ายอมรับปาก ข้าจะยอมปล่อยไปก่อนก็ได้ แต่จงจำไว้ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าข้า อย่าได้พูดชื่อมันให้ข้าได้ยินอีกเด็ดขาด ไม่งั้นหากข้าเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา คนที่จะต้องเสียใจย่อมเป็นเจ้า” สวีเฟยหลงแกล้งจุ๊บริมฝีปากบาง หลานซือเยว่กำมือแน่นข่มกลั้นความคลื่นเหียนที่ได้รับจากชายผู้นี้ ซึ่งสวีเฟยหลงก็เห็นอยู่ตำตา แต่ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจ 'เกลียดได้เกลียดไป อย่ามาตกหลุมรักเขาก็แล้วกัน' “เอาล่ะไม่แกล้งเจ้าแล้ว สายมากแล้วเจ้าก็กินอะไรหน่อยเถอะ" สวี‍‍เฟย‍‍หลงหยิบน้ำแกงปลาที่เย็นชืดไปนานออกมาใช้ฝ่ามืออุ่นให้ร้อนค่อยตักป้อนภรรยา "รู้ไหมข้าตั้งใจเคี่ยวตั้งนานเลยนะ น้ำแกงปลาชามนี้มีแต่ของที่มีประโยชน์ต่อเจ้า มา! เจ้าลองชิมดู” สวีเฟยหลงเป่าน้ำแกงให้หายร้อนยื่นช้อนหยกจ่อริมฝีปากบาง

    Last Updated : 2025-02-04

Latest chapter

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 123

    หนึ่งร้อยปีผ่านพ้น น่านฟ้าเมืองผิงอานปกคลุมไปด้วยเมฆเคราะห์หนาแน่นมานานปี บัดนี้กลับมาสว่างสดใส เมฆมงคลไหลเอื่อย สายรุ้งพาดผ่านเปล่งประกายหลากหลายสีสันงามระยับน่าจับตาดุจฟ้าหลังฝน ทิวากรสาดแสงเจิดจ้า พระพายโชยชื่นเย็นสบาย หมู่มวลวิหคโบยบินออกจากรัง สรรพสัตว์น้อยใหญ่หวนคืนถิ่นฐาน พายุอัสนีในที่สุดก็หยุดลง มังกรทองขดตัวอยู่เนิ่นนานนับร้อยปีเริ่มมีการขยับไหว เสียงร้องคำรามดังกึกก้อง คราบโลหิตสีชาดทองจับตัวแข็งหนาเป็นคืบปริแตก แสงสีทองมลังเมลืองเล็ดลอดออกมาตามรอยแยกสาดส่องไปทั่วพื้นพิภพ เผยให้เห็นเกล็ดสีทองเรียบลื่นเปล่งประกายภายใต้แสงตะวัน ราวกับตอบรับเสียงร้องอันทรงพลัง ต้นอู๋ถงหมื่นลี้แทงยอดตระหง่านสูงเสียดฟ้า กิ่งก้านเขียวชอุ่มแผ่ร่มเงาไปทั่วทุกแห่งหน กลิ่นหอมระรื่นกรุ่นกำจาย

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 122

    เหนือฟากฟ้าเมืองผิงอาน แคว้นต้าเฉินถูกเมฆหมอกหนาทึบปกคลุมดุจเมฆฝนยามพายุตั้งเค้า เสียงฟ้าร้องครั่นครืนดังกึกก้อง สายฟ้าแลบแปลบปลาบกระจายไปทั่วท้องฟ้าน่าครั่นคร้าม วายุโหมกระหน่ำพัดทลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ต้นไม้ใบหญ้าหลุดร่วง ฝุ่นทรายคละคลุ้งม้วนตัวกวาดผ่านร่างของพวกเขาไป สวีเฟยหลงหรี่ตามองท้องฟ้าเบื้องบนด้วยสีหน้าหนักอึ้ง ใบหน้าเครียดขึง คิ้วเข้มขมวดมุ่น “ทุกคนระวังตัวด้วย” สวีเฟยหลงกางม่านพลังซ้อนทับเขตอาคมของหลินเสวี่ยเฟิ่งอีกชั้น สังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ! โดยไม่ทันได้เตรียมตัวตั้งรับ วัชระม่วงครามสายแรกก็ผ่าลงมากลางวง ทัณฑ์สวรรค์พิฆาตเซียน!! 

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 121

    เฉินซือหยางหลงวนอยู่ในเงามืด ความทรงจำต่างๆ โถมทะลักเข้าหาดุจโคมม้าหมุน ทำเอาเขาปวดศีรษะจนแทบระเบิด ร่างกายจมดิ่งลงสู่ห้วงลึกแห่งอนธการ เงาร่างโปร่งใสปรากฏขึ้นหน้าเรือนไม้หลังเล็กหลังหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเฟิง บนยอดเขาซีเทียนเฟิง เฉินซือหยางเดินดูโดยรอบอย่างแสนคิดถึง ศาลาหอเก๋ง สระบัวสีมรกต และโต๊ะหินอ่อนกลางลานเรือนถูกปกคลุมไปด้วยใบเฟิงสีอิฐยังคงเหมือนในความทรงจำ “จิ้ง... จิ้งเฟิ่ง... สวีจิ้งเฟิ่ง! ตื่นได้แล้วเจ้าตัวขี้เกียจ” เฉินซือหยางหันไปตามเสียงเรียก เห็นเงาร่างสูงโปร่งของจ้าวลี่หมิงหรือแท้จริงแล้วคือ ‘ไป่ชิงถงเกอเกอ’ คนสำคัญเพียงหนึ่งเดียวในใจเขาใช้เท้าแตะประตูห้องนอนอย่างกักขฬะ ตรงเข้าไปเขย่าตัวปลุกเขาในวัยเด็กที่นอนหลับอุตุอยู่ในกองผ้าห่มผืนหนา “อย่ามัวแต่เมาขี้ตา รีบๆ ลุกขึ้นมา

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 120

    สายฝนโปรยปรายลงมาบางเบาสัมผัสโดนใบหน้าคมเข้มที่กำลังสลบไสลเรียกสติเขาให้กลับฟื้นคืน สวีเฟยหลงตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองติดอยู่ในช่องเขาคับแคบแห่งหนึ่ง แขนขาหักผิดรูปผิดร่าง เจ็บปวดรวดร้าวทั่วสรรพางค์กาย เขากัดฟันบิดแขนขาให้เข้ารูป ยังไม่ทันได้ลงมือทำแผลให้กับตนเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังอึกทึกก้องสะท้อนไปทั่วหินผา “ค้นให้ทั่ว จับโจรชั่วที่รวมหัวกับเผ่ามารสังหารพี่น้องเราชาวสวรรค์มาลงทัณฑ์ให้ได้” เสียงผู้คนพูดคุยกันดังแว่วใกล้เข้ามาทุกทีๆ สวีเฟยหลงรู้ดีว่าไม่อาจหลบซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป จึงจำใจต้องหอบสังขารที่เต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์หลบหนีออกจากที่แห่งนี้ สวีเฟยหลงหนีเข้าป่าลึก ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำร่างสูงโซซัดโซเซล้มลงในแอ่งโคลน “มันอยู่นั่น!” ทหารสวรรค์กรูกันเข้ามารุมล้อมสวีเฟยหลง ชายหนุ่มแค่นเสียงเย้ยหย

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 119

    ตั้งแต่ต้นหลินเสวี่ยเฟิ่งกอดประคองร่างสูงของเฉินเทียนอี้ไว้ไม่ยอมห่าง ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเพราะใจห่วงกังวลคนในอ้อมแขนเพียงเท่านั้น "ท่านอย่าเป็นอะไรไปนะ" “ขะ... ขอโทษ คราวนี้ข้าก็ไม่อาจทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับเจ้าได้” หลินเสวี่ยเฟิ่งส่ายหน้า “สิ่งที่ข้าต้องการคือได้อยู่เคียงคู่ท่านจนผมขาวต่างหากเล่าคนโง่ เพราะฉะนั้นท่านห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด แข็งใจไว้ เสี่ยวชีกำลังจะมา เขาต้องรักษาท่านได้แน่” ฝ่ามือเรียวพยายามกดปากแผลให้เลือดหยุดไหล แต่ดูท่าว่าจะไม่เป็นผล ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหยุดยั้งโลหิตที่ทะลักทลายออกมาจากร่างแกร่งได้เลย เฉินเทียนอี้ส่ายหน้าเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ร่วงหล่นเป็นสายจากดวงหน้างาม

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 118

    หญิงชราเดินลากขาตามการโอบประคองของสามี สายตาฝ้าฟางเลื่อนลอยไม่รับรู้สิ่งใด แต่พอได้เห็นดวงหน้าของหลินเสวี่ยเฟิ่งเพียงเท่านั้น ดวงตาพลันเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต หญิงชรากรีดร้องเสียงดังโหยหวนราวกับสุกรถูกเชือด “ปีศาจ! มันคือปีศาจ ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยข้าที ปีศาจจะมาฆ่าข้า ปีศาจจะมาฆ่าข้าแล้ว” หญิงชราตีอกชกหัว หนีห่างจากเงาร่างของหลินเสวี่ยเฟิ่งอย่างหวาดผวา ใบหน้าถูไถไปกับลานพิธีอยากจะแทรกแผ่นดินหนี จนชายชราต้องรีบฉุดรั้งร่างของภรรยาไว้ “ทุกท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าบุรุษที่อยู่ข้างกายฝ่าบาทผู้นั้น คนที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นถึงมารดาของแผ่นดิน ถูกยกย่องว่ามีคุณธรรมสูงส่ง อวดอ้างตนเองว่ามาจากตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วเขาคือ ‘เกาต๋า’ บุตรบุญธรรมของสามีภรรยาแซ่เกา ซึ่งเป็นเพียงพ่อค้าวาณิชเล็กๆ ในเมืองเจียงโจว” คำบอกเล่าของหานจางหมิ่นทำเอาทุกคนในที่นี้ตะลึงงัน อย่างที่ทราบโดยทั่วกันว่าพ่อค้านั้นเป็นชนชั้นต่ำศ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 117

    เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน “ยามซื่อ[1] แล้ว งานเลี้ยงมื้อกลางวันกำลังจะเริ่ม ทุกคนเร่งมือเข้า” ขันทีน้อยนายหนึ่งก้มหน้าก้มตายกจานขนมหวานบรรจุลงในกล่องไม้สำหรับใส่อาหารอย่างขะมักเขม้น รอจนหัวหน้าขันทีผู้คุมห้องเครื่องเดินผ่านไปตรวจงานยังส่วนอื่น มือหยาบหนาก็รวบผ้าผูกเป็นปมเพื่อกักเก็บความร้อน แล้วยกกล่องอาหารในห่อผ้าผืนงามเดินตามกลุ่มขันทีออกไป ขันทีผู้นั้นเดินตามหลังขันทีด้วยกันเงียบๆ ทุกคนต่างเร่งฝีเท้าไปยังลานพิธีหน้าตำหนักไท่เหอ ระหว่างเดินผ่านระเบียงทางเดินขบวนของเขาสวนกับเหล่านางกำนัล และขันทีกลุ่มอื่นเป็นระยะ แต่ขันทีหนุ่มก็ยังใจเย็น รอจนขบวนเดินผ่านเส้นทางร้างไร้ผู้คน เขาก็ชะลอฝีเท้าลง อาศัยจังหวะที่ผู้อื่นไม่ทันสังเกตเห็นปลีกตัวออกจากกลุ่มอย่างเงียบเชียบ เดินหลบหลีกผู้คน แล้วหายลับไปโดยไร้ผู้พบเห็น ขันทีคนดังก

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 116

    แดนบูรพา แคว้นต้าเฉิน เสียงคลื่นสาดซาซัดเข้าหาชายฝั่ง ฟองคลื่นม้วนตัวกระทบหาดทรายกลืนหายไปกับพื้นทรายเนื้อละเอียดไร้สีสันในยามค่ำคืน ลมทะเลพัดโหมริ้วผ้าโบกไสวใบเรือผืนใหญ่ส่ายสะบัดตามคลื่นลม นาวาลำใหญ่จอดนิ่งเรียบชายฝั่งเรียงกันหลายร้อยลำไกลสุดลูกหูลูกตา “เร่งมือเข้า” ชายผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มคุมลูกน้องใต้สังกัดขนหีบไม้ใบใหญ่ด้านในเต็มไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งหอก ดาบ โล่ ธนู และที่ขาดไม่ได้คือเสบียงกรังจำนวนมากถูกยกขึ้นเรือหีบแล้วหีบเล่าอย่างเงียบเชียบท่ามกลางความมืด ถึงแม้จะเบามือเบาเท้ามากเพียงไร แต่การเคลื่อนกำลังพลนับหมื่นย่อมไม่อาจรอดพ้นหูตาของหน่วยสืบราชการลับไปได้ หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับส่งสัญญาณมือให้ลูกน้องใต้สังกัดถอนกำลังออกจากบริเวณนี้เงียบๆ หลังจากล่วง

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 115

    ดินแดนทางเหนือมีหิมะปกคลุมอยู่ชั่วนาตาปี ป้อมปราการสูงตระหง่านท้าลมพายุ ปุยหิมะโปรยปรายพัดพาความเย็นยะเยือกเข้าปกคลุมไปทุกอณูพื้นที่ ถึงภูมิอากาศจะเลวร้าย พืชพรรณธัญญาหารยากเพาะปลูก แต่ชาวบ้านก็ดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งไม่คิดจะย้ายถิ่นฐาน เพราะชื่อเสียงของกองทัพตระกูลจ้าวเลื่องลือระบือไกลเป็นที่น่าครั่นคร้ามแก่อริราชศัตรู แม้แม่ทัพใหญ่อย่างจ้าวลี่จิ่นบุตรสาวของจ้าวมู่จะไม่อยู่ประจำการที่กองทัพด่านหน้า แต่แคว้นรอบข้างก็ยังไม่กล้ายกทัพเข้ามารุกราน ชาวบ้านจึงอาศัยอยู่ที่นี่อย่างเป็นสุขและปลอดภัย แต่แล้วความสงบสุขก็อันตรธานหายไป “ช่วยด้วย... กรี๊ดดด” เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง หมู่บ้านเป่ยปิงตกอยู่ในฝันร้ายอันน่าหวาดผวา ศพของผู้คนนอนกลาดเกลื่อนอยู่บนพื้นหิมะขาวโพลนทั้งเด็ก คนแก่ และสตรีที่ไร้เรี่ยวแรงหลบหนี แม้แต่บุรุษร่างสูงใหญ่ก็ยากจะต้านทานเมื่อต้องสู้กับสิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status