Share

บทที่ 322

Author: มู่อวิ๋นเฉิง
ชิงชิวกับหนิงตงพยุงหญิงวัยกลางคนขึ้นมาจากพื้นอย่างแข็งขัน

แม้หนิงตงจะไม่สุขุมเท่าชิงชิว แต่ช่วงเวลาสำคัญการข่มขู่คนก็ถือว่ามีฝีมือทีเดียว นางอดไม่ได้ที่จะอธิบาย “ท่านป้า เชิญ ฮูหยินของพวกข้าเป็นถึงฉางซินโหวฮูหยิน หากไม่ให้ความร่วมมือ พวกข้าก็จะเอาท่านเข้าคุกหลวงในข้อหาคิดร้ายกับนายหญิง”

หญิงวัยกลางคนเพิ่งคิดจะต่อต้านและตะโกนให้คนช่วย เมื่อได้ยินว่าต้องเข้าคุกหลวง ทันใดนั้นก็ตกใจจนไม่กล้าขัดขืน หากนางเข้าคุกหลวง ตายไปก็ไม่เป็นไร แต่ครอบครัวของนางจะทำเช่นไรดี? คุณหนูใหญ่ก็คงไม่ปล่อยครอบครัวนางไปเช่นกัน ดังนั้นจึงตามพวกนางไปอย่างยอมจำนน ไม่กล้าแม้กระทั่งจะรบกวนให้พวกนางช่วยพยุง แต่พวกนางราวกับกลัวว่านางจะเล่นลูกไม้ จึงประคองนางไว้อย่างแน่นหนา และพาไปห้องรับรองแขก

ระหว่างทาง แม้ภายนอกเมิ่งจิ่นเหยาจะเย็นชา แต่ความคิดกลับสับสนวุ่นวาย และในสมองก็ยุ่งเหยิงไปหมด

พอถึงห้องรับรองแขก หลังปิดประตู เมิ่งจิ่นเหยาก็เหลือบมองหญิงวัยกลางคนที่ป่วย และให้นางนั่งลงก่อน จากนั้นก็ถามอย่างเข้าประเด็น “การตายของท่านแม่ข้า มีความลับซ่อนอยู่ หรือว่าเสียชีวิตจากการคลอดยากจริง ๆ?”

ขณะที่นางกล่าว ใบหน้าก็เคร่ง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Warintorn
ขออ่านให้จบหน่อยค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 323

    คำพูดนี้ราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน โจมตีใส่หน้าผากของเมิ่งจิ่นเหยา ทำให้สมองของนางส่งเสียงวิ้ง ๆ ไม่หยุดใบหน้าของนางไร้สี สีหน้าขาวซีดความยากที่จะเชื่อ ความเคียดแค้น ความโกรธ ความไม่เต็มใจ...อารมณ์ต่าง ๆ ผสมปนเปกัน มือที่อยู่ในแขนเสื้อสั่นเทาเล็กน้อย นางเปิดปาก แต่กลับหาเสียงของตนเองไม่เจอมารดานางคลอดยากเพราะเกิดจากการกระทำของมนุษย์?หลายปีมานี้ คนในบ้านต่างบอกว่านางเป็นตัวกาลกิณี และเกิดมาเป็นภัยกับมารดาแม้นางไม่คิดว่าตนเองเป็นตัวกาลกิณี แต่ในใจก็รู้สึกแย่ แม้กระทั่งรู้สึกว่าหากนางไม่เกิดมาก็คงจะดี เพราะมารดาเสียชีวิตเพราะคลอดนาง ตอนนั้นมีเพียงคนเดียวที่สามารถรอดชีวิต มารดานางจึงทิ้งความหวังในการมีชีวิตอยู่ให้กับนางตอนนี้จู่ ๆ ก็พบว่า มารดานางถูกคนทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนคนที่ทำร้ายมารดานางจนเสียชีวิตก็คือนางซุนแม่เลี้ยงที่ทรมานนางมานานหลายปี แถมบิดานางยังเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด และเป็นหนึ่งในคนร้ายอีกมีสิทธิ์อะไร?เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ความผิดของนาง แต่นางกลับแบกเอาไว้ทุกอย่าง และฆาตกรที่แท้จริงกลับอยู่อย่างมีความสุขมานานหลายปีสมควรตายจริง!บิดานางรู้เรื่องทุกอย่าง แต่กลับช่วยนาง

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 324

    เมิ่งจิ่นเหยานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง และถามอีกว่า “ท่านพ่อข้าตอนแรกก็เคยมีอนุภรรยา แม้จะสนใจนางซุน แต่ท่านแม่เป็นคนตัดสินใจรับนางมาเป็นอนุภรรยาให้เขา เหตุใดถึงโกรธถึงเพียงนี้ด้วย?หญิงวัยกลางคนตอบกลับ “เพราะนายท่านหลอกฮูหยินบอกว่ามีนัดกับสหาย สุดท้ายถูกฮูหยินพบว่าพวกเขานัดกันอย่างลับ ๆ ฮูหยินรู้สึกถึงการถูกหลอกและทรยศ ก็โมโหขึ้นมาในตอนนั้น อีกอย่าง ฮูหยินเคยเจอนางซุนในงานเลี้ยง พวกนางเข้ากันได้ดี จะอย่างไรฮูหยินก็คิดไม่ถึงว่าสหายที่เพิ่งคบหากับสามีของตนเองจะมีความสัมพันธ์ลับ ข้าน้อยเดาว่า นายท่านกับนายซุนรู้จักกันมาก่อนแล้ว แต่เพียงเพราะคำสั่งของบิดามารดาและแม่สื่อ นายท่านจึงแต่งงานกับฮูหยินเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยิน เมิ่งจิ่นเหยาก็หัวใจกระตุกวูบ นางไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่รู้ว่าบิดานางจะต้องชอบนางซุนอย่างแน่นอนนางหลับตาลงและลืมตาอีกครั้ง พลางถาม “สิ่งที่เจ้าพูดมาทั้งหมดในวันนี้ มีคำโกหกบ้างหรือไม่?หญิงวัยกลางคนรีบกล่าว “คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยพูดจริงทุกคำ หากมีคำโกหกแม้แต่น้อย ขอให้ลูกหลานของข้าน้อยไม่ได้ตายดีเจ้าค่ะ!”เมิ่งจิ่นเหยามองนางอย่างแปลกใจ สามารถมาสักการะพระพุทธได้ อย่างน้อยคง

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 325

    เมิ่งจิ่นเหยาไปโถงหว่างเซิงอีกครั้ง และจุดธูปให้มารดาผู้ให้ดำเนิดนางโจวนางคุกเข่าลงบนเบาะรองนั่ง สีหน้าเหม่อลอย และเอียงศีรษะเล็กน้อย มองป้ายวิญญาณของนางโจวเงียบ ๆ โดยไม่มีการส่งเสียงใด ๆ หนิงตงกับชิงชิวคุกเข่าตามบนเบาะรองนั่งที่อยู่ด้านซ้ายและด้านขวาของนาง เห็นนางดูเงียบจนเกินไป พวกนางจึงกังวลใจอย่างมาก แต่รู้ว่าพูดปลอบใจอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ นายหญิงของพวกนางต้องการอยู่เงียบ ๆ สักพักเดิมทีพวกนางคิดว่านางซุนเป็นแค่แม่เลี้ยงใจร้าย ใครจะคาดคิดว่านางซุนกับนายท่านจะเป็นชู้กัน และเพราะนางซุนเสียชีวิตจากการคลอดเกินกำหนด มิน่าเล่าถึงจะไม่ใช่บุตรแท้ ๆ เหมือนกัน แต่นางซุนกลับปฏิบัติต่อนายหญิงของพวกนางแย่กว่าคุณชายรองเสียอีกนี่ก็เป็นเหตุผลแล้วหากวันนี้นายหญิงไม่ได้ไปจุดธูปที่วัดหลิงอวิ๋น หลังท่านป้าที่ป่วยท่านนั้นเสียชีวิตไป ความลับนี้คาดว่านายหญิงคงจะไม่มีวันได้รู้ไปตลอดชีวิตพระอาทิตย์ตกดิน แสงสว่างของโถงหว่างเซิงก็มืดลงเรื่อย ๆ แสงพระอาทิตย์ตกดินเส้นสุดท้ายที่ส่องเข้ามาในห้องโถงหายไปตอนที่ชิงชิวกับหนิงตงกำลังโน้มน้าวให้นางกลับห้องรับรองแขก จู่ ๆ เมิ่งจิ่นเหยาก็ส่งเสียงออกมา “พวกเรา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 326

    ชิงชิว “แต่ว่า…”เมิ่งจิ่นเหยาขัดจังหวะคำพูดของนาง “ข้าไม่เป็นไร”ชิงชิวมองไปที่บาดแผลตรงฝ่ามือของนาง โชคยังดีที่บาดแผลไม่ลึกนัก เหมือนว่าจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อันใด ถึงได้พยักหน้าอย่างเชื่อฟังผ่านไปไม่นาน หนิงตงก็ไปรับอาหารเจกลับมาตอนนี้มีเพียงพวกนางสามคนนายบ่าวเท่านั้น ไม่มีคนนอกอยู่ที่นี่ เมิ่งจิ่นเหยาให้พวกนางมานั่งกินข้าวด้วยกันกับตนเอง ชิงชิวกับหนิงตงก็ไม่ได้ปฏิเสธอาหารเจของวัดหลิงอวิ๋นรสชาติไม่เลวนัก แต่ว่าภายในใจของเมิ่งจิ่นเหยากลัดกลุ้มอย่างยิ่ง ไม่มีความอยากอาหารอันใด จึงกินอาหารไปคำสองแล้วก็วางชามข้าวกับตะเกียบลงเมื่อหนิงตงเห็นว่านางไม่ได้แตะต้องอาหารเท่าใดนัก จึงกล่าวโน้มน้าวว่า “ฮูหยิน ท่านกินให้มากหน่อยเถิดเจ้าค่ะ กินน้อยถึงเพียงนี้ หากว่าอดหิวจนทำลายสุขภาพจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ? บ่าวรู้ว่าในใจของท่านเป็นทุกข์ แต่หากว่าท่านอดจนเสียสุขภาพ จะมิเป็นไปตามที่นางซุนปรารถนาหรือเจ้าคะ?”เมื่อเมิ่งจินเหยาได้ฟังดังนั้น ก็กินข้าวอีกคำสองคำ จากนั้นก็วางชามวางตะเกียบลงเมื่อเห็นดังนั้น ชิงชิวกับหนิงตงก็สบตากัน พลางลอบถอนหายใจ ทันใดนั้นก็เห็นว่าในเวลานี้ หากว่าท่านโหวอยู่ที่น

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 327

    “ฮวาหลิงเซียว รีบปล่อยฮูหยินท่านนี้เดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นวันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า”เสียงร้อนรนแว่วดังมาจากด้านหลังเมื่อสาวใช้ทั้งสองหันไปมอง ก็พบว่าด้านหลังมีคนแต่งกายด้วยชุดมือปราบหลายคน กำลังจับจ้องบุรุษผู้นั้นด้วยสีหน้าตึงเครียด หากเป็นเช่นนี้ละก็ บุรุษที่จับตัวฮูหยินของพวกนางเป็นตัวประกัน ก็เป็นผู้ร้ายกระนั้นหรือ?วินาทีต่อมา ก็มีบุรุษอีกคนทะยานลงมาจากกำแพง เมื่อมองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยของบุรุษผู้นั้น ดวงตาของหนิงตงก็เป็นประกายในฉับพลัน พลางกล่าวด้วยเสียงร้อนรนว่า “ท่านโหว รีบช่วยฮูหยินเร็วเข้าเถิดเจ้าค่ะ!”เมื่อกู้จิ่งซีมองเห็นพวกนางนายบ่าวทั้งสามคน ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ เขารู้ว่าแม่นางน้อยอยู่ที่วัดหลิงอวิ๋น แต่คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญถึงขนาดพบกับฮวาหลิงเซียวและถูกจับเป็นตัวประกัน สายตากวาดมองไปที่ฮวาหลิงเซียว และมองไปยังแม่นางน้อยมองเห็นแค่เพียงดาบแหลมคมที่ส่องประกายเย็นเยียบจ่ออยู่ที่ลำคอของแม่นางน้อย ดวงหน้าของนางซีดขาว ดวงตาเผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนก กำลังมองดูเขาอย่างกังวล ท่าทางหวาดกลัวและอับจนหนทางนี้ ทำให้ใจของเขาหวาดหวั่นยิ่งนักเมื่อฮวาหลิงเซียวได้ยินคำพูดของหนิงตง ก็

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 328

    ดูเหมือนเมิ่งจิ่นเหยาจะไม่รับฟังคำแนะนำ ดึงดันที่จะทำตามใจของตนเอง “จะใส่ใจทำไมว่าเขาเป็นโจรข่มขืนหรือไม่ ตราบใดที่เขาต้องการข้า ข้าก็จะไปกับเขา หากว่าเจ้ากล้าต้องการข้า ข้าก็จะไปกับเจ้าเช่นกัน”เมื่อสิ้นเสียงของนาง กู้จิ่งซีก็สีหน้าเคร่งขรึม กล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้พวกเขาไป เอาม้าให้พวกเขาไปตัวหนึ่ง”“แต่ว่า…”บรรดามือปราบมองหน้ากันเลิกลั่ก เมื่อได้ยินเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจ พวกเขาก็รู้ว่าในใจของกู้จิ่งซีกำลังเดือดดาลอยู่เป็นแน่ ทว่าพวกเขาก็สามารถเข้าใจได้ คนปกติที่ไหนเห็นภรรยาของตัวเองโวยวายจะหนีไปกับบุรุษอื่น แล้วไม่มีโทสะบ้างเล่า?มีมือปราบผู้หนึ่งกล่าวเสนอว่า “ใต้เท้า ตอนนี้ฮูหยินเป็นพวกเดียวกับฮวาหลิงเซียวแล้ว ถ้าจะทำก็ทำให้เด็ดขาดดีหรือไม่ขอรับ?”“ข้าจะดูซิว่าผู้ใดกล้าแตะต้อง?” กู้จิ่งซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาอันแหลมคมกวาดมองไปที่บรรดามือปราบ แล้วออกคำสั่งอย่างไม่ยอมให้ผู้ใดสอดปาก “ไปเตรียมม้าให้พวกเขา!”เมื่อบรรดามือปราบได้สบเข้ากับสายตาอันแหลมคมนั้น ก็ไม่กล้าที่จะทำอันใดลับหลัง มิเช่นนั้นหากฮูหยินเป็นอันใดขึ้นมา พวกเขาก็อย่าได้คิดว่าจะมีชีวิตรอด สามีตัวจริงเป็นถึงเสนาบ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 329

    ชิงชิวกับหนิงตงตกใจเสียจนใบหน้าซีดเผือด อุทานออกมาอย่างตื่นตระหนก “ฮูหยิน!”เมิ่งจิ่นเหยาหันหน้าไปโดยไม่รู้ตัว มองเห็นแค่เพียงดาบอันแหลมคมเล่มหนึ่งแทงมายังนาง นางตกใจเสียจนรูม่านตาหดตัวอย่างฉับพลัน เลือดทั่วทั้งร่างแข็งตัว ความเย็นยะเหยียบแพร่กระจายไปทั่วแขนขาและกระดูก ในใจของนางรู้สึกเสียใจ เสียใจที่กระทำการบุ่มบ่ามไปชั่วขณะ พลางหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม คิดว่าในชาติหน้าต้องสุขุมให้มากขึ้นและในช่วงเวลาที่วิกฤตอย่างที่สุด ดาบอีกเล่มหนึ่งที่ราวกับลูกศรหลุดออกมาจากสายธนู ก็แทงไปยังใบดาบที่อยู่ในมือของฮวาหลิงเซียวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ก่อให้เกิดเสียงดัง “เช้ง” ฮวาหลิงเซียวถูกโจมตีเสียจนง่ามมือเกิดอาการชา ดาบยาวหลุดออกจากมือหล่นลงไปที่พื้น เขาตะลึงงันไปชั่วขณะ ไม่นานก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง กำลังเตรียมจะก้มตัวลงไปลากเมิ่งจิ่นเหยาขึ้นมาเป็นตัวประกัน จากนั้น กู้จิ่งซีก็เคลื่อนไหวดุจสายฟ้า ไปอยู่เบื้องหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว เขาจึงทำได้เพียงล้มเลิกความตั้งใจที่จะให้เมิ่งจิ่นเหยาเป็นตัวประกันและเป็นโล่กำบังไว้ชั่วคราว แล้วรับมือกับกู้จิ่งซีก่อน เขายกมือขึ้นเพื่อรับฝ่ามือที่ฟาดลงมาของกู้จิ่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 330

    การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับหลวงจีนในวัดด้วยเช่นกัน ฉีอวิ้นเหวินกำลังเตรียมจะนำนักโทษไป ก็มองเห็นเจ้าอาวาสพาหลวงจีนสองสามรูปเร่งรุดมาที่นี่เมื่อเจ้าอาวาสเห็นมีคนแต่งกายเป็นมือปราบ และมีคนหมดสติถูกมือปราบสองคนหิ้วซ้ายหิ้วขวา ก็รีบเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเพื่อถามไถ่ฉีอวิ้นเหวิน “อามิตาภพุทธ ขอถามประสกหน่อยเถิด เกิดเรื่องอันใดขึ้นงั้นหรือ?”ฉีอวิ้นเหวินกล่าวว่า “ศาลต้าหลี่จับกุมคนร้าย รบกวนท่านเจ้าอาวาสแล้ว ต้องขออภัยจริง ๆ ขอรับ”เมื่อเจ้าอาวาสได้ยินว่าทางการมาจัดการคดี ก็ไม่ได้ถามอันใดมาก มองเห็นเมิ่งจิ่นเหยากับสาวใช้ทั้งสองคน ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างว่าศาลต้าหลี่จัดการคดี ไยถึงได้เกี่ยวข้องกับสตรีด้วย จึงถามไถ่อีกไม่กี่ประโยค ถึงได้รู้ว่าเป็นผู้ที่มากราบไหว้และพักค้างภายในวัด ประสบเข้ากับศาลต้าหลีจัดการคดี เมื่อเห็นกู้จิ่งซีกับเมิ่งจิ่นเหยายืนอยู่ด้วยกัน ก็คิดว่าเขาก็เป็นผู้ที่มากราบไหวและพักค้างคืนอยู่ในวัดเช่นกัน เจ้าอาวาสปลอบใจกู้จิ่งซีรวมถึงเมิ่งจิ่นเหยาและสาวใช้ทั้งสองคน เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่เป็นอันใด ก็พาหลวงจีนที่รีบร้อนมาที่นี่ด้วยกันจากไปเมื่อทุกคนไปแ

Latest chapter

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 340

    กู้จิ่งซีค่อนข้างประหลาดใจ “เจ้าใช้วิธีใด ถึงทำให้เขารับสารภาพเร็วขนาดนั้น?”ฉีอวิ้นเหวินหยักไหล่ หัวเราะพลางกล่าว “นั่นไม่ใช่ความดีความชอบของข้า เมื่อวานมีแม่นางคนหนึ่งมาพบเขา ไม่รู้พูดอะไร เขาก็รับสารภาพแล้ว”เมื่อได้ยิน กู้จิ่งซีก็ขมวดคิ้วแน่น และสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง “แม่นางผู้นั้นรู้ได้อย่างไรว่าเขาถูกจับตัว?”ฉีอวิ้นเหวินเหลือบมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ และถามกลับว่า “โจรขโมยหญิงงามที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ และชั่วร้ายถูกจับตัวได้แล้ว เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เมื่อคืนข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว หรือว่าเจ้าไม่รู้หรือ? ก็จริง น้องสะใภ้ป่วยแล้ว เจ้าไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจเรื่องอื่นก็ปกติ”กู้จิ่งซีปรากฏสายตาที่รู้ทันออกมาฉีอวิ้นเหวินกล่าวอีกว่า “ข้าเห็นแม่นางผู้นั้นแต่งกายเป็นสาวชาวยุทธจักร ซึ่งน่าจะเป็นชาวยุทธจักร และคาดว่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขา แต่ว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญมากนัก เพราะตอนนี้ไขคดีได้ก็พอแล้ว”......จวนฉางซินโหวกู้ซิวหมิงมาคารวะยามเช้าให้เมิ่งจิ่นเหยา เขามาสายก้าวหนึ่ง กู้จิ่งซีเพิ่งออกไป เขาก็เพิ่งจะมาถึงนับตั้งแต่การกักบริเวณสิ้นสุดลง ตราบใดที

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 339

    เมิ่งจิ่นเหยาก็ไม่ปิดบัง และเล่าเรื่องที่พบหญิงวัยกลางคนในวัดหลินอวิ๋นเมื่อวานตอนบ่ายให้ฟังรอบหนึ่งพูดถึงช่วงสุดท้าย นางก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “สวรรค์มีตาจริง ๆ จู่ ๆ ข้าก็ฉุกคิดอยากจะไปจุดธูปให้ท่านแม่ที่โถงหว่างเซิงของวัดหลิงอวิ๋น จึงได้พบอดีตบ่าวรับใช้ของท่านแม่ ท่านป้าท่านนั้นป่วยหนักมาก และเหลือเวลาไม่มากแล้ว หากเมื่อวานข้าไม่ได้ไปเจอนางที่วัดหลิงอวิ๋น ความลับนั้นคาดว่าข้าจะไม่มีทางรู้ไปตลอดกาลเจ้าค่ะ”กู้จิ้งซีสีหน้ามืดมนลง พลางละอายใจต่อวิธีที่พ่อตานั้นทำอย่างมาก แม้จะแต่งงานตามคำสั่งของบิดามารดาและการจับคู่ของแม่สื่อ พลางไม่มีความรักระหว่างชายหญิงต่อแม่ยายเขา จะปิดบังความจริงเพราะรู้สึกผิดก็ช่าง ยังปล่อยให้มารดาและแม่เลี้ยงปฏิบัติต่อบุตรสาวที่บริสุทธิ์อย่างรุนแรงอีกเขาเห็นแม่นางน้อยที่โกรธแค้นผสมปนเปกัน ก็ตบหลังมือของแม่นางน้อยเหมือนจะปลอบใจ และกล่าวอย่างเป็นนัยว่า “ฮูหยิน วิญญาณของแม่ยายที่อยู่บนสวรรค์จะไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่”เมื่อได้ยิน สีหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาก็ชะงักไป พลางสบตาเข้ากับสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งของเขา ก็เข้าใจความหมายของเขา และยกรอยยิ้มที่อันตรายขึ้น “จริงด้วย

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 338

    เมิ่งจิ่นเหยาถามเสียงเบาว่า “ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้าง?”หมอประจำจวนเก็บนิ้วมือทั้งสามข้อที่อยู่บนแขนของเมิ่งจิ่นเหยากลับลงไป พลางตอบกลับ “ฮูหยิน ท่านมีปมในใจจนเกิดอาการซึมเศร้า แถมยังได้รับความเย็นเกินไปอีก จึงทำให้จู่ ๆ ก็ไข้ขึ้นสูง และจำเป็นต้องใช้ยาคลายเครียดเสียหน่อยก็จะดีขึ้นขอรับ”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้า “รบกวนท่านหมอแล้ว”“ไม่รบกวนขอรับ” หมอประจำจวนรีบส่ายหน้า และกล่าวอีกว่า “แต่ว่า ฮูหยินร่างกายอ่อนแอ ควรจะบำรุงร่างกายให้ดีตั้งแต่ยังสาวถึงจะได้นะขอรับ”มิ่งจิ่นเหยาฟังจบ ก็ไม่แปลกใจแม้แต่น้อย เพราะนางรู้มาโดยตลอดว่าตนเองร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะช่วงที่อากาศเย็น หากไม่ระวังนิดหน่อยก็จะเป็นหวัด เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านมารดา นางไม่มีความพร้อมที่จะดูแลตนเอง ตอนนี้อยู่บ้านสามี นางใส่ใจเรื่องการกินมากขึ้น และได้ดื่มน้ำแกงบำรุงร่างกายอยู่เป็นประจำ ช่วงนี้นางจึงรู้สึกดีมาก สีหน้าก็ดูดีขึ้นแล้วนางกล่าวเสียงอ่อนโยน “ปกติข้าก็ดูแลตนเองอยู่แล้ว รบกวนท่านหมอจัดยาคลายเครียดให้ข้าก็พอ”หมอประจำจวนฟังจบ ก็จ่ายยาคลายเครียดให้นาง และให้สาวใช้ตามเขาไปเอายากลับมาต้มหลังหมอประจำจวนจากไป

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 337

    บนรถม้าชิงชิวกับหนิงตงที่แทบไม่ได้นอนทั้งคืนนั่งพิงกัน และเผลอหลับไปเมิ่งจิ่นเหยาหายป่วยได้ไม่นาน ยังรู้สึกมึนศีรษะ คนทั้งคนก็หมดเรี่ยวแรง จึงเอนหลังพิงผนังรถม้าและหลับตาพักสมองทันใดนั้น รถม้าก็สั่นสะเทือน ท้ายทอยของนางกระแทกเล็กน้อย จึงรีบนั่งตัวตรง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ศีรษะกระแทกอีกกู้จิ่งซีเห็นแม่นางน้อยขมวดคิ้ว พยายามฝืนให้มีชีวิตชีวาขึ้น นั่งตัวหลังตรง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงยื่นมือโอบนางเข้ามาในอ้อมแขน และให้นางพิงหน้าอกของตนเอง เมื่อสบตาเข้ากับสายตาที่ตกใจของนาง ก็กล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “หากฮูหยิน อ่อนเพลีย ก็พิงข้าแล้วนอนเสียเถอะ”ตอนนี้เมิ่งจิ่นเหยารู้สึกทั้งตัวไม่มีแรง ศีรษะยังมึน ๆ อยู่ จึงไม่เกรงใจเขา และพิงอยู่บนตัวเขาด้วยความสบายใจอย่าดูถูกแม้กู้จิ่งซีดูจะตัวไม่ใหญ่มาก แต่หน้าอกกว้างใหญ่ พิงอยู่บนตัวเขาอบอุ่นสบายตัว แถมได้กลิ่นดอกกล้วยไม้ที่หอมละมุนจากตัวของเขา ก็รู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก แต่กลับไม่มีอาการง่วงเลยบางทีเพราะถูกผู้ชายกอดไว้ในอ้อมแขนเช่นนี้ เลยรู้สึกไม่คุ้นชินหรืออาจเป็นเพราะได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นตึกตักอยู่ข้างหู มันดังก้องอยู่ที่หู

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 336

    ท่าทางที่ดูป่วยเช่นนี้ ดูน่าเป็นห่วงยิ่งนักคนที่มีไข้ขึ้นสูง ไม่ควรห่มผ้าจนอบอ้าว ไม่เช่นนั้นอาการป่วยจะแย่ลง เขาจึงเปิดผ้าห่มบางออกให้แม่นางน้อยผ่านไปไม่นาน หนิงตงก็ยกอ่างน้ำอุ่นมาด้วยความรีบร้อน โชคดีที่วัดหลิงอวิ๋นมีคนเข้ามาสักการะอย่างเนืองแน่น ปกติจะมีผู้แสวงบุญมาค้างคืน และมีผู้แสวงบุญจำนวนไม่น้อยที่มาจากครอบครัวร่ำรวย ดังนั้นเพื่อความสะดวกสบายของแขก ตอนกลางคืนภายในวัดก็มีกักเก็บน้ำร้อนไว้หนิงตงวางอ่างทองแดง พลางถาม “ท่านโหว น้ำอุ่นยกเข้ามาแล้ว ต้องทำอย่างไรหรือเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีตอบกลับ “เช็ดหน้าผาก คอ รักแร้ และแขนขาให้ฮูหยินเพื่อระบายความร้อน”หนิงตงตอบรับ ยกอ่างทองแดงมาข้างหน้าทันที พลางวางอ่างน้ำไว้บนเก้าอี้ที่อยู่หน้าเตียง และเตรียมจะถอดเสื้อผ้าให้นายหญิง ก็มองไปทางกู้จิ่งซีโดยไม่รู้ตัว พบว่าเขาหันหลังให้พวกนาง นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างโต๊ะน้ำชาเมื่อเห็นดังนั้น หนิงตงก็ตกตะลึงเล็กน้อย และแอบพูดในใจว่า ท่านโหวเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ แม้จะเป็นสามีภรรยากับฮูหยิน ก็ไม่ได้ฉวยโอกาสเอาเปรียบหนิงตงไม่คิดอะไรมาก ก็ถอดเสื้อผ้าให้เมิ่งจิ่นเหยาด้วยความเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และเช็ดตั

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 335

    ในวินาทีนั้น เมิ่งจิ่นเหยาทำจิตใจให้สงบ ก้มหน้าลงมอง เห็นว่าบาดแผลที่มือซ้ายใช้ผ้าพันแผลพันไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อมองเพียงแวบแรกดูท่าทางเหมือนว่าบาดเจ็บสาหัส จึงกล่าวออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า “ตอนนี้เลือดไม่ซึมออกมาแล้ว อันที่จริงไม่พันแผลก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”กู้จิ่งซีเหลือบมองนาง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ถึงแม้ไม่ใช่บาดแผลสาหัส แต่หากไม่พันแผล เมื่อชนหรือกระแทกเข้าโดยไม่ระวังแล้วเลือดไหลออกมาอีก ไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัว โดยเฉพาะบาดแผลที่ข้อศอก เนื้อผ้าเสียดสีก็อาจเจ็บได้เช่นกัน”เมิ่งจิ่นเหยาตะลึงเล็กน้อย แล้วพยักหน้าในทันทีหลังจากนั้นไม่นาน นางก็ถูกมือของกู้จิ่งซีดึงดูดความสนใจไป มือคู่นั้นเรียวยาวและขาวสะอาด ข้อต่อชัดเจน ราวกับหยกขาวที่แกะสลักอย่างประณีต ดูแล้วสบายตาสบายใจนักเมื่อหลุดออกจากความคิด นางก็ใจลอยอีกครั้งผ่านไปเป็นเวลานาน กู้จิ่งซีช่วยนางพันแผลจนเสร็จ และปล่อยมือของนาง เมื่อเห็นว่ามือขวาของนางยังยกอยู่ ก็กล่าวว่า “ฮูหยิน เสร็จแล้ว”แต่เมิ่งจิ่นเหยาดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของเขา เขาจึงเรียกอีกครั้ง “ฮูหยิน?”เวลานี้ เมิ่งจิ่นเหยาถึงค่อย ๆ ได้สติกลับมา และพบกับส

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 334

    เขากำลังเตรียมจะปลอบโยนนางสักหลายประโยค ทำให้อารมณ์ของแม่นางน้อยสงบลง แล้วค่อยถามให้ชัดเจนอีกครั้งว่าเกิดอันใดขึ้นกันแน่ ทว่าเวลานี้ หนิงตงได้ยกอ่างน้ำสะอาดเข้ามา เขาจึงกลืนคำพูดที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากกลับเข้าไปหนิงตงนำอ่างน้ำมาวางไว้บนโต๊ะ ถามด้วยน้ำเสียงนอบน้อมว่า “นายท่าน ให้ใช้น้ำในอ่างเช่นไรเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีกล่าวกำชับ “ไปหาผ้าสะอาด ๆ มา”หนิงตงรับคำ ไม่นานก็หาผ้าเช็ดหน้าสะอาดที่อยู่ในสัมภาระมาหนึ่งผืน ผ้านี้เตรียมไว้สำหรับให้นายหญิงของนางใช้ล้างหน้ากู้จิ่งซีเหลือบมองไปที่แม่นางน้อย ลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็รับผ้าเช็ดหน้ามา กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้าคนเดียวก็พอแล้ว เจ้าออกไปก่อนเถิด”หนิงตงเหลือบมองนายหญิง เมื่อเห็นว่านายหญิงไม่ได้เอ่ยปากบอกให้นางอยู่ต่อ ก็รับคำแล้วถอยออกไปกู้จิ่งซีกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “มาล้างบาดแผลสักหน่อย ตอนที่เจ้าล้มลงไปเนื้อหนังถลอก แล้วบาดแผลก็เปื้อนฝุ่นด้วย”เมื่อได้ฟังดังนั้น เมิ่งจิ่นเหยาไม่ได้ลังเล ลุกขึ้นแล้วเดินมากู้จิ่งซีดึงมือของนาง ช่วยนางทำความสะอาดบาดแผลที่ฝ่ามือด้วยท่าทีที่อ่อนโยนเมื่อบาดแผลสัมผัสกับน้ำ เมิ่งจิ่นเหยาเจ็บปวดเส

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 333

    กู้จิ่งซีจับจ้องนางอย่างไม่วางตา พลางถามด้วยเสียงอ่อนโยน “ฮูหยิน วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นงั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังดังนั้น ใบหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาก็เต็มไปด้วยความงุนงง พลางถามกลับไปว่า“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ท่านพี่ก็เห็นหมดแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ?”นางกล้าพูดได้เลยว่า นางโตถึงเพียงนี้แล้ว ยังไม่เคยเจอเรื่องที่ตื่นเต้นระทึกขวัญเช่นนี้มาก่อน เพียงชั่วพริบตาเดียวที่รอดพ้นจากความตาย ชีวิตนี้ไม่คิดจะพบเจออีกเป็นครั้งที่สองกู้จิ่งซีเห็นสีหน้าของนางงุนงง ไม่ได้จงใจแสร้งทำเป็นฟังไม่เข้าใจ จึงสัมผัสที่ฝ่ามือของนางอย่างแผ่วเบา พลางถามต่อว่า “เกิดอันใดขึ้นกับมือนี้ของเจ้า? ล้มลงไม่สามารถเกิดบาดแผลเช่นนี้ได้”เมิ่งจิ่นเหยาตกตะลึงไปชั่วขณะ ก้มหน้ามองฝ่ามือของตนเอง บนฝ่ามือยังมีผลงานชิ้นเอกของตนเองเมื่อบ่ายอยู่ เมื่อคิดถึงเรื่องที่พบกับสตรีวัยกลางคนผู้นั้นขึ้นมาได้ ดวงตาของนางก็หม่นลงในฉับพลัน และอยากจะกำมือของตนเองแน่นอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวกู้จิ่งซีที่สายตาเฉียบคมและมือไว รีบกุมมือทั้งสองข้างของนางไว้แน่น ขัดขวางการกระทำของนาง เล็บของนางจะได้ไม่บาดบาดแผลและมีเลือดไหลซึมออกมาอีกเล็บของแม่นางน้อยไ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 332

    เมื่อกู้จิ่งซีได้ฟังก็รู้สึกใจอ่อน พลางกล่าวอย่างอ่อนโยน “ให้ข้าดูหน่อย” เมื่อกล่าวจบ เขาก็ยอบกายลง ยกชายกระโปรงของนางขึ้น เตรียมจะดูอาการบาดเจ็บของนาง เมิ่งจิ่นเหยาสีหน้าชะงักค้าง กำลังจะเอ่ยปากขัดขวาง ทว่าเมื่อกลับมาคิดดูอีกทีแล้ว ต่างก็เป็นสามีภรรยาที่นอนหลับอยู่บนเตียงเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องรักษาขอบเขตระหว่างชายหญิงอันใดหลังจากกู้จิ่งซียกชายกระโปรงของนางขึ้นแล้ว มือหนึ่งก็จับไปที่ข้อเท้าขวาของนาง ส่วนอีกข้างม้วนขากางเกงของนางขึ้น เมื่อม้วนขากางเกงไปจนถึงเหนือหัวเข่า ก็จะเห็นได้ว่าตรงหัวเข่าที่ถูกกระแทกตอนล้ม เป็นรอยฟกช้ำไปเรียบร้อยแล้ว ทว่าไม่ได้ร้ายแรงนักกู้จิ่งซีเห็นว่าบาดแผลไม่หนักมาก จึงวางขานางลง แล้วไปดูบาดแผลที่ข้อศอกของนางนางล้มลงไปข้างหน้า บาดแผลตรงข้อศอกจึงชัดเจนมากนัก เสื้อผ้าในฤดูร้อนจะค่อนข้างบางเบา เสื้อผ้าบริเวณข้อศอกล้วนมีร่องรอยขีดข่วนอย่างชัดเจนพอพับแขนเสื้อของนาง ก็เผยให้เห็นแขนที่ขาวราวกับหิมะ เมื่อพลิกข้อศอกก็สามารถมองเห็นได้ว่าผิวหนังถลอกและมีเลือดออกที่แขนทั้งสองข้างของนาง ผิวหนังโดยรอบบวมแดงเล็กน้อย บาดแผลนี้เมื่ออยู่บนมือที่เดิมทีขาวสะอาดไร้ที่ติรา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status